ผู้สูบบุหรี่มือสอง(passive, involuntary, second hand smoker)
ได้แก่ผู้ไม่สูบบุหรี่ที่สูดควันบุหรี่จากปลายมวนบุหรี่ที่เผาไหม้ (sidestream) และ จากการระบายควันจากปากและจมูก( mainstream) จากผู้สูบบุหรี่ ทำให้ควันบุหรี่นี้รวมเรียก environmental tobacco smoke (ETS) เป็นมลภาวะหลักของภายในอาคาร ทั้งนี้แก๊สที่มีภยันตรายนี้ จะมีระดับสูงใน sidestream มากกว่า mainstream โดยเป็น 4 เท่า ทั้งนี้องค์กรพิทักษ์สิ่งแวดล้อม The Environmental Protection Agency (EPA) ของสหรัฐอเมริกาได้กำหนดให้ ETS จัดอยู่ในclass A( known human) carcinogen เทียบเท่า asbestos, arsenic, benzene และแก๊ส radon
ข้อมูลกล่าวถึงผลของควันบุหรี่ต่อสุขภาพของผู้สูบบุหรี่มือสองมีมากว่า 2 ทศวรรษ จาก US National Research Council, Report of US Surgeon General, National Health and Research Council of Australia และ UK Independent Scientific Committee of Smoking and Health รวบรวมโดย US Environmental Protection Agency และ ในระยะหลังได้มีการทบทวนข้อมูลจากที่ได้มีการตีพิมพ์ จากการศึกษาของ UK Government-appointed Scientific Committee on Tobacco and Health( SCOTH), WHO consultation report on Environmental Smoke and Child Health, รายงานจาก California Environmental Protection Agency (EPA) และรวบรวมโดย International Agency for Research on Cancer ( IARC) ทั้งนี้ California EPA ได้แถลงถึงการเป็นปัจจัยเสี่ยงดังต่อไปนี้
· ผลต่อเด็กแรกคลอดและเด็กเล็ก ได้ แก่มีน้ำหนักแรกคลอดต่ำกว่าปกติ และเด็กเล็กเสียชีวิตฉับพลัน (SIDS)
· ผลต่อเด็กทั่วไป ได้แก่เพิ่มอัตราเสี่ยงในการเกิดหูชั้นกลางอักเสบ (Middle ear infection) เพิ่มการเกิดโรคหืดและการกำเริบมากขึ้น ( development of asthma and exacerbation) หลอดลมอักเสบ (Bronchitis) และปอดอักเสบ (pneumonia) · ผลต่อผู้ใหญ่ ได้แก่เพิ่มอัตราเสี่ยงในการเกิด โรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน อัมพาต มะเร็งปอดและมะเร็งในโพรงจมูก พร้อมกันนั้นได้แถลงการณ์การพบความเชื่อมโยงระหว่างบุหรี่มือสองกับ การแท้งบุตร การมีผลเสียต่อการพัฒนาการเรียนรู้และพฤติกรรมของเด็ก การติดเชื้อ meningococcus ในเด็ก มะเร็งและมะเร็งเม็ดเลือดขาวในเด็ก การจับหืดเพิ่มขึ้นในผู้ใหญ่ การแสดงอาการที่เลวลงของ cystic fibrosis การลดลงของสมรรถภาพปอด และมะเร็งปากมดลูก *** มีการสำรวจใน 132 ประเทศทั่วเขตขององค์การอนามัยโลกเกี่ยวกับการอยู่ในสภาวะบุหรี่มือสองของนักเรียนเป็นจำนวนมากจากการสำรวจการสูบบุหรี่ทั่วโลกในกลุ่มวัยรุ่น (Global Youth Tobacco Surveys) พบว่าได้รับควันบุหรี่ที่บ้านร้อยละ 43.9 และในสถานที่สาธารณะต่าง ๆ ร้อยละ 55.8 ทั้งนี้เกิดจากบุพการีที่บ้านถึงร้อยละ 46.5 หรือจากเพื่อนสนิทร้อยละถึง 17.9 ข้อมูลที่หนักแน่นเช่นนี้เป็นเหตุผลสนับสนุนที่เกิดการการรณรงค์ให้งดสูบบุหรี่ในที่สาธารณะทั่วไปทั่วโลกถึงร้อยละ 76.1 ประเทศต่างๆจึงมีนโยบายให้สถานที่สาธารณะต่าง ๆ รวมทั้งสถานที่ทำงาน ร้านอาหาร บาร์หรือผับเป็นสถานปลอดบุหรี่ ***จาก The GTSS Collaborative Group. A cross country comparison of exposure to second hand smoke among youth.Tob control 2006; 15 Supp 2 :114-19 Øคนไทยมากกว่าร้อยละ 85 สูบบุหรี่ในบ้านขณะที่มีสมาชิกอยู่ด้วย ทำให้สมาชิกได้รับควันบุหรี่มือสอง Ø จากการสำรวจพฤติกรรมสูบบุหรี่ประชากรไทย2547 http://www.ashthailand.or.th/th/content_image/informationcenter/205.doc เรียบเรียงโดย พญ.วิไลวรรณ วิริยะไชโย
|