ในควันบุหรี่หรือจากผลิตภัณฑ์ยาสูบมีสารเคมีกว่า 4000 ชนิดในรูปแบบของ particles และแก๊ส ส่วนที่เป็น particulate ประกอบด้วยส่วนที่เป็น tar, nicotine, benzene และ benzo(a) pyrine ส่วนที่เป็นแก๊สได้แก่ carbon monoxide, ammonia, dimethylnitrosamine, formaldehyde, hydrogen cyanide andacrolein โดยมีสารก่อให้เกิดมะเร็ง (carcinogens) มากกว่า 60 ชนิด สารเคมีส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่ม polycyclic aromatic hydrocarbons, arenes, N-nitrosamines, aromatic และ heterocyclic aromatic amines, aldehydes, organic compounds และ inorganic compounds ทั้งนี้มีสารก่อมะเร็ง 20 ชนิดทำให้เกิดมะเร็งระบบทางเดินหายใจ
สารก่อมะเร็งกลุ่ม tobacco-specific nitrosamines(TSNAs) ซี่งจะพบ ได้ในกระบวนการเก็บการผลิต การหมัก และกระบวนการเผาไหม้ของใบยาสูบ ควันบุหรี่จาก การสูบเองและสภาพแวดล้อม บุหรี่ไร้ควันและผลิตภัณฑ์ยาสูบอื่นๆ เช่นซิการ์และ bidi cigarettes โดยมีสารประกอบที่รู้จักกันดี 7ชนิดโดย Nnitrosonornicotine( NNN), ( 4-methynitrosamino)-1-(3-pyridyl)-1-bytanone(NKK), and N-nitrosoanatabine (NAT) ซึ่งส่วนใหญ่พบในผลผลิตใบยาสูบ และมี NNN, NNK และ N-oxide, 4-(methynitrosamino)-1-(3-pyridyl N-oxide)-1-butanol (NNAL) ซึ่งเป็นผลผลิตจากการเผาผลาญของ NNK เป็นสารก่อให้เกิดมะเร็งมากที่สุด ทั้งนี้ National Toxicology Program ของสหรัฐอเมริกาได้จัด TSNAs, NNN, NNK อยู่ในกลุ่ม reasonably anticipated to be human carcinogens และ International agency for Research on Cancer จัด NNN และ NNK อยู่ใน possibly carcinogenic to humans
บุหรี่ต่างประเทศ 14 ยี่ห้อที่ได้รับการวิเคราะห์ระดับ NNK และ NNN มีผลรวมสูงสุดใกล้เคียงกัน จัดเป็นกลุ่มที่มีสารก่อมะเร็งสูงได้แก่ในยี่ห้อ Virginia Slims, Newport (menthol), Kool (menthol), Camel และ Marlboro สำหรับสารประกอบนิโคติน( Nicotine) ที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ยาสูบทุกชนิดเป็นสาเหตุให้เกิดการ เสพติด โดยมีปฏิกิริยาที่สมองและร่างกายแบบคาดคะเนยากนั้น ได้รับการค้นพบในยุคต้นปีคริสตกาล 1800 เป็นของเหลวไร้สีที่เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเมื่อมีการเผาไหม้โดยมีกลิ่นปนกับกลิ่นยาสูบ เมื่อควันลอยในอากาศ tabacum เป็นยาสูบหลักของผลิตภัณฑ์ยาสูบปัจจุบัน บุหรี่ที่ผลิตในตลาดสหรัฐอเมริกามีนิโคตินเป็น ส่วนประกอบ 10มิลลิกรัมหรือมากกว่า ผู้สูบบุหรี่จะหายใจเอานิโคตินในระดับ 1-2 มิลลิกรัมต่อมวน นิโคตินสามารถดูดซึมผ่านผิวหนังและเยื่อบุในปากและจมูกผ่านการสูดหายใจเข้าปอด เมื่อสัมผัสควันบุหรี่ และสามารถมีระดับสูงสุดในเลือดและสมองอย่างรวดเร็ว สำหรับการสูบบุหรี่มวน สามารถเข้าถึงสมองได้ ภายใน 10 วินาทีของการสูบ สำหรับผู้สูบบุหรี่ซิการ์หรือไปป์มักไม่สูบแบบอัดเหมือนบุหรี่มวน นิโคตินจึง ดูดซึมผ่านเยื่อบุในปากอย่างช้าๆ สำหรับกลุ่มที่ใช้ผลผลิตยาสูบชนิดไร้ควันจะดูดซึมผ่านทางเยื่อบุเช่นเดียวกัน
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.ftc.gov/reports/tobacco/1998tar&nicotinereport.pdf
เรียบเรียงโดย พญ.วิไลวรรณ วิริยะไชโย คัดจากบทความการควบคุมยาสูบ (Tobacco Control) ของ พญ.วิไลวรรณ วิริยะไชโย จากตำราโรคระบบการหายใจ โดยสมาคมอุรเวชช์ แห่งประเทศไทย -- กรุงเทพฯ : สมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทย 2550 |