ความคิดเห็นทั้งหมด : 5

ร้านค้าโชว์ห่วยรวมตัว ประท้วงห้างต่างชาติ


   ได้ยินข่าวบ่อยๆ เรื่องการประท้วงห้างโลตัส คาร์ฟู บิ๊กซี แมคโคร ไม่ให้ขยายหรือเปิดกิจการแห่งใหม่


สำหรับผม ผมว่าคนส่วนใหญ่(ชาวบ้าน)ได้ประโยชน์ คนส่วนน้อยเสียประโยชน์(พวกร้านค้าโชว์ห่วย) จึงไม่ค่อยเห็นด้วยกับการประท้วง แต่ก็นั่นแหละ มันเรื่องของผลประโยชน์ เรื่องปากท้อง คงไปว่าเขาไม่ได้

พวกเราคิดกันยังไงครับ


Posted by : คิดกันยังไง , Date : 2006-12-05 , Time : 11:05:50 , From IP : 172.29.5.221

ความคิดเห็นที่ : 1


   ผมว่าคำว่าคนส่วนใหญ่ กับ คนส่วนน้อย ไม่สามารถแยกคนเหล่านี้ออกจากกันได้นะครับ เพราะร้านค้าโชว์ห่วยก็คือชาวบ้าน และ ธุรกิจแบบร้านโชว์ห่วยมักเป็นธุรกิจประจำบ้าน มีอิทธิผลต่อการขับเคลื่อนชุมชนเยอะครับ แต่ธุรกิจขนาดใหญ่ อาจจะสร้างงานมาก แต่ก็ทำลายระบบร้านค้าปลีก
อยากเสนอแนะให้เจ้าของกระทู้ลองไปอ่านหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ "อาเจนติน่า...ที่รัก" ดูนะครับ
จะได้รู้เพิ่มว่าทำไมถึงมีการประท้วง ดีกว่ามา spoil กับแบบไม่มีข้อมูลนะครับ
ไม่มีอะไรได้มาฟรี อะไรยิ่งดีมากๆ ก็ยิ่งเสียมากเช่นกัน ขึ้นอยู่กับว่าคุ้มค่าหรือป่าว


Posted by : DreamCatcher , Date : 2006-12-05 , Time : 21:54:06 , From IP : 172.29.4.158

ความคิดเห็นที่ : 2


   ผมคิดว่าประเด็นที่อาจจะน่าสนใจแฝงอยู่ก็คือ "ถ้า" เจ้าของธุรกิจ Big chain supermarket เป็นคนไทย ยังจะมีการประท้วงอีกหรือไม่ บางทีผมคิดว่าเราอภิปรายเรื่องนี้เอาสองคำมาปนกันเหมือนกับเป็น synonym คือ ระบบ supermarket กับ multinational business

คนไทยที่รวยพอจะทำ chain supermarket น่าจะมีนะครับ และถ้าเกิดมีขึ้นมาจริงๆ ร้านเล็กๆก็จะเดือดร้อนไม่แพ้กัน เพราะ "ความต่าง" ที่ทำให้มันเกิดระหว่างสองอย่างนี้ ผมว่าอาจจะไม่เชิงที่ว่าฝรั่งหรือชนชาติไหนเป็นคนถือหุ้นใหญ่ แต่น่าจะเป้นลักษณะการบริหารจัดการมากกว่าหรือไม่?

ถ้าตัดประเด็น nationality ออกไปได้ ผมวาเราสามารถสร้างประเด็นที่ตรงกับศาสตร์แห่งการค้าขายได้ชัดเจนมากขึ้นนิดหน่อย ได้แก่ อุปนิสัยการซื้อของลูกค้า การเลือก ความชอบ ฯลฯ เพราะในที่สุดแล้วการกำจัดคู่แข่งที่มีศักยภาพสูงกว่าไป (ไม่ว่าโดย ก.ม. หรือโดยการประท้วงก็ตาม) ผลลัพธ์มันลงมาที่คนส่วนใหญ่คือผู้ซื้อสินค้าอยู่ดี และไม่ได้การันตีว่าเมื่อมีแต่ร้านเล็กๆขายแล้วคุณภาพชีวิตของชุมชนนั้นๆจะดีที่สุด คงจะขึ้นกับความกรุณา และการบริหารจัดการของเจ้าของร้านเล็กๆนั้นเหมือนกัน

ลักษณะของสหกรณ์ผู้ขาย หรือสหกรณ์ผู้บริโภคจึงอาจจะเป็นอีก option หนึ่ง ที่แน่ๆก็คือคนเดียวนั้นสู้กำลังคนหลายคนร่วมมือกันทำงานไม่ได้อยู่แล้วโดยธรรมชาติ เรื่องนี้น่าจะเป้นการอภิปรายที่นำไปสู่ win-win-win situation มากกว่า somebody I like wins



Posted by : Phoenix , Date : 2006-12-05 , Time : 22:47:58 , From IP : 124.157.177.4

ความคิดเห็นที่ : 3


   ถามความเห็น 1 ว่า เป็นหนังสือเกี่ยวกับอะไรครับ ผมคงไม่มีเวลาไปอ่าน

ยังไงช่วยสรุปให้ด้วยก็จะดี ว่าเขาเขียนว่ายังไง

ก็สุดแล้วแต่ความคิดของแต่ละคนนะครับ ผมเพียงแต่บอกว่าตัวเองคิดยังไง

แล้วอยากรู้ว่าคนอื่นคิดยังไง คิดไม่เหมือนกันก็เป็นเรื่องธรรมดา ไม่ได้แปลกอะไร

แต่คนคิดแบบผมก็มีบ้างส่วนหนึ่ง ไม่แน่ใจว่าเป็นส่วนมากหรือส่วนน้อยนะครับ

<ลองอ่านดูครับ>


Posted by : จขกท. , Date : 2006-12-06 , Time : 11:57:35 , From IP : 172.29.1.114

ความคิดเห็นที่ : 4


   อยากได้ของ 1 ชิ้น ไปร้านค้าโชว์ห่วย ได้ของกลับมา 1 ชิ้น
อยากได้ของ 1 ชิ้น ไปโลตัส ได้ของกลับมาส่วนใหญ่มากกว่า 1 ชิ้น
ไม่แปลก


Posted by : เด็กแนว , Date : 2006-12-06 , Time : 12:11:55 , From IP : 172.29.1.193

ความคิดเห็นที่ : 5


   เป็นการชกของมวยคนละรุ่นและไม่ไช่แค่เรื่องการชกเพราะกรณีโชวห่วยเป็นเพียงกรณีตัวอย่างที่เห็นชัดๆในปัจจุบันเนื่องจากเกี่ยวข้องกับคนระดับชาวบ้านกับคนทุนหนา ในอนาคตคงมีหลายๆกรณีที่แสดงสภาพการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมเนื่องจากเป็นการชกคนละรุ่นและคนละระดับสติปัญญา ที่น่าเป็นห่วงมากๆคือความสามารถของภาคราชการที่จะรู้เท่าทันและหาทางดักหรือแก้ไขให้คนไทยมีการงานที่ดีกันโดยถ้วนหน้ากัน

Posted by : วัยทอง , Date : 2006-12-06 , Time : 15:44:59 , From IP : 172.29.3.168

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.004 seconds. <<<<<