ความคิดเห็นทั้งหมด : 10

คิดยังไงบ้างกับ พรบ ยาใหม่ ใครได้ใครเสีย หรือเห็นว่าอย่างไร


   เมื่อวานได้มีโอกาสดู ถึงลูกถึงคน ครับ เกี่ยวกับ พรบ ยาใหม่ ไม่ทราบเห็นกันว่ายังไงบ้างครับ โดยส่วนตัวผมว่า ถ้าคิดในแง่ผู้บริโภคแล้วคงแย่นะครับตรวจเสร็จต้องรอไปซื้อยาอีก แต่ผมก็เห็นด้วยกับคุณหมอที่มาถกในรายการนะครับ ว่าควรจะ ให้โอกาสประชาชน ได้เลือกว่า อยากจะซื้อยาที่clinic หรือ จะเอาใบสั่งยา ไปซื้อเอง แล้วอีกอย่างที่คุณหมอเค้าเอา แบบสอบถาม อย ที่ถามเกี่ยวกับ ความเห็นต่อ พรบยาใหม่ แถมถ้าไม่ตอบ ก็จะถือว่าเห็นด้วยทุกข้ออีก แบบสอบถามแบบนี้เนี่ยดูไม่ยุติธรรมเลยนะครับ อยากได้ความคิดเห็นครับ




Posted by : Anubis , Date : 2003-09-05 , Time : 12:51:45 , From IP : 172.29.1.173

ความคิดเห็นที่ : 1


   คิดว่าการจ่ายยาโดยเภสัชน่าจะมีความน่าเชื่อถือมากกว่าการจ่ายยาในบางคลีนิกนะ เห็นบางคลีนิกคนจ่ายยาเป็นแค่พนักงานดูไม่น่าเชื่อถือสักเท่าไหร่ แต่ก็เห็นด้วยกับคนข้างบน ขึ้นกับความสะดวกของคนไข้มากกว่า อย่าทะเลาะกันเลย...

Posted by : Gee Gee , Date : 2003-09-05 , Time : 20:17:19 , From IP : 203.155.183.245

ความคิดเห็นที่ : 2


   หมอบางคนขายยาเป็นว่าเล่น โดยเฉพาะหมอที่รักษาโรคอ้วน โดยเฉพาะในหาดใหญ่ ทั้งๆที่ๆไม่มีความรู้โรคอ้วน ไม่รู้ไปจบหลักสูตรโรคอ้วนมาจากไหนกัน
แบบนี้คนไข้ก็แย่สิครับ


Posted by : เอก , Date : 2003-09-06 , Time : 01:28:47 , From IP : 203.113.76.74

ความคิดเห็นที่ : 3


   แล้วใครรู้บ้างมั๊ยว่าอีนังสุดารัตน์ตัวดี มันให้เภสัชจ่ายยาได้ก็เพราะมันให้พ่อให้แม่มันไปกว้านซื้อร้านยามาก่อนเพื่อผลประโยชน์ตัวเองชัดๆ ก็เพราะตั้งแต่มันเสนอหน้าเหี่ยวๆ ของมันขึ้นมาเป็น รมต. วงการแพทย์ถึงได้ตกต่ำเรื่อยๆ เพราะไม่มี พรบ.อะไรสักอย่างที่จะปกป้องวิชาชีพแพทย์เลย แต่ละอย่างออกมาหาเรื่องทั้งนั้น ใครที่ไหนจะเหมือนมันที่วันๆ เอาแต่ออกพรบ.เพื่อเอาหน้าว่าทำงาน แต่จริงๆ ก็หาผลประโยชน์ใส่ตัว จะคอรัปชั่นก็ให้มันแนบเนียนหน่อย ทำแบบนี้มันน่าเกลียดยิ่งนัก แล้วคนไข้บ้านเราใครจะรวยเหมือนมันที่ต้องเสียค่ารถ 2/3 เที่ยวเพื่อไปซื้อยา และรวมถึงบทลงโทษเภสัชกับแพทย์ก็ไม่มีความยุติธรรมเลย แบบนี้ก็เพราะเวลาพ่อแม่หรือธุรกิจมันทำไม่ถูกก็แค่ใช้เงินฟาดหัวกฏหมายก็พอ คิดได้ไง ให้เภสัชจ่ายยาได้โดยไม่มีการวินิจฉัยเบื้องต้น เป็นตั้ง รมต.แต่ไร้สติ ไม่รู้รึไงว่าอาการแสดง 1 อย่างเป็นได้ต้องหลายโรค ต้องให้คนไข้ได้รับพิษจากการจ่ายยาไม่ถูกแล้วถึงจะสะใจรึไง ไม่รู้อีนังนี่มาเป็น รมต.ได้ไง เรียนหนังสือมารึเปล่า เลวที่สุด

Posted by : เภสัชค่ะ , Date : 2003-09-06 , Time : 21:54:24 , From IP : 172.29.3.204

ความคิดเห็นที่ : 4


   ลองหาอ่านใน websites (ของเภสัชส่วนใหญ่) รู้สึกแนวการอภิปรายกว้างขวางมาก และหยั่งกะพูดกันถึงคนละเรื่อง ใครลอง Post เนื้อหาของ พรบ.ยา ที่เป็น official หรือ แค่ Link ก็ได้ ให้หน่อยซิครับ เราจะได้สามารถอภิปรายจากเนื้อความที่ยังไม่ได้ถูกประเมินค่า ผมพยายามหาจาก google และ home page ของกระทรวงสาธารณสุขแล้วหาไม่เจอ (ยอมรับว่ายากกว่าหา references ทาง medicine เยอะมาก)



Posted by : Phoenix , Date : 2003-09-06 , Time : 23:14:23 , From IP : 172.29.3.245

ความคิดเห็นที่ : 5


   พรบ.นี้ผ่านรึยังค่ะ อยากทราบข้อมูลจัง อยากให้เรารวมตัวกันทำอะไรบ้างจัง ตั้งแต่รัฐบาลทักษิณเข้ามา มีสุดารัตน์สาวบัญชีจุฬาเข้ามากุมเก้าอี้รู้สึกว่าวงการแพทย์จะสั่นคลอนจัง แต่เรายังไม่เห็นบทบาทของพวกเราที่จะลงมือทำอะไรกัน ไม่ทราบว่าเพราะอะไร หรืออาจจะเป็นเพราะมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว ไม่ส่งผลกระทบกับตัว เลยไม่อยากรนหาเรื่อง เราว่าต่อไปในอนาคตคงมีพรบ.ใหม่ๆที่ไม่ค่อยสร้างสรรค์กับวงการแพทย์ออกมาอีก คิดว่ามีแน่เพราะเลือกตั้งหนหน้าก็คงได้ทักษิณอีกชัวร์ เราจะทำอะไรได้บ้างเนี่ย ไม่อยากเป็นแค่คนรับคำสั่งหรือนโยบายบ้าๆไปปฏิบัติเลย

Posted by : tt , Date : 2003-09-08 , Time : 12:36:05 , From IP : 172.29.2.239

ความคิดเห็นที่ : 6


   สนใจอยู่ตลอด ได้รับข้อมูลจากชรมรมวิชาชีพฯ แต่ไม่มีโอกาสได้เห็นร่าง พรบ.
ฉบับเต็มสักที ก็คงต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลถึงให้ดูไม่ได้ นอกจากจะเรียกร้อง
ให้แพทย์ทั้งหลายช่วยกันแสดงความคิดเห็นแล้ว ทางฝ่ายเภสัชเองก็อย่ามัวแต่ยิ้มฝันหวานว่าตัวเองจะได้มีลูกค้า เพราะในอนาคตอีกไม่นานร้านขายยาเล็กๆก็จะเหมือนโชวห่วยที่ขายไม่ออก เพราะจะถูกร้านขายยาระดับใหญ่ที่เป็น chain ขายยาได้ถูกกว่า มียาครบทุกชนิด เปิดขาย 24 ชั่วโมง มาแย่งลูกค้า และแลัวเภสัชกรทั้งหลายก็เป็นได้แค่ลูกจ้างในร้าน หรือมีทุนมากหน่อยก็ต้องซื้อ franchise เขา
แล้วก็ต้องให้เขากินส่วนแบ่งกำไร


Posted by : ศิษย์เก่า , Date : 2003-09-08 , Time : 15:37:53 , From IP : 172.29.3.183

ความคิดเห็นที่ : 7


   จากเท่าที่อ่านดูจากทั้ง pro และ con (ในกระทู้ข้างนอก หลังจากเคาะ พรบ.ยา ใน google) เนื้อหาใจความคือยาจะแบ่งเป็นสามประเภท ประเภทหนึ่งมีขายตาม shelf ประเภทสองเภสัชจ่ายข้าม counter และประเภทสามจากเมื่อมี prescription เท่านั้น รายละเอียดไม่รู้ว่ายาอะไรอยู่กลุ่มไหน

ระบบนี้คล้ายๆที่อังกฤษ ยาประเภทแก้ปวด แก้หวัด (ที่ไม่มีฤทธิ์ sedative) สามารถซื้อได้จาก TESCO, Sainsbury หรือ supermarket ทั่วไป รวมทั้งร้าน Boots ผู้บริโภคสามารถอธิบายอาการตนเองให้แก่เภสัชที่ counter ในกรณีที่ไม่แน่ใจว่าต้องใช้ยาอะไร ส่วนที่เหลือจะต้องมี prescription มาจาก


Posted by : Phoenix , Date : 2003-09-08 , Time : 22:43:15 , From IP : 172.29.3.221

ความคิดเห็นที่ : 8


   จากเท่าที่อ่านดูจากทั้ง pro และ con (ในกระทู้ข้างนอก หลังจากเคาะ พรบ.ยา ใน google) เนื้อหาใจความคือยาจะแบ่งเป็นสามประเภท ประเภทหนึ่งมีขายตาม shelf ประเภทสองเภสัชจ่ายข้าม counter และประเภทสามจากเมื่อมี prescription เท่านั้น รายละเอียดไม่รู้ว่ายาอะไรอยู่กลุ่มไหน

ระบบนี้คล้ายๆที่อังกฤษ ยาประเภทแก้ปวด แก้หวัด (ที่ไม่มีฤทธิ์ sedative) สามารถซื้อได้จาก TESCO, Sainsbury หรือ supermarket ทั่วไป รวมทั้งร้าน Boots ผู้บริโภคสามารถอธิบายอาการตนเองให้แก่เภสัชที่ counter ในกรณีที่ไม่แน่ใจว่าต้องใช้ยาอะไร ส่วนที่เหลือจะต้องมี prescription มาจาก GP หรือ consultant จึงจะซื้อยาได้ (antibiotics รวมอยู่ในกลุ่มนี้ด้วยทุกชนิด) แต่ระบบที่เป็นรากฐานอีกอย่างหนึ่งที่เราไม่มีคือทุกคนรักษาฟรีด้วยการอยู่ใน NHS (national health service) ที่ได้จ่ายผ่าน national health insurance ไปเรียนบร้อยแล้ว หมอ GP จะได้ค่า prescription ประมาณ £5 ต่อใบสั่ง ส่วนค่ายาไม่ได้เลย

ระบบนี้หากไม่มีรากฐานที่ละเอียดรอบคอบมั่นคงวางไว้ก่อน มีโอกาส messy ค่อนข้างมากทีเดียว แม้แต่อังกฤษเองที่ใช้มากว่า 50 ปีแล้วก็ยังไม่สามารถกัน fraudulent claim ได้ เงินรั่วไหลเป็น £ billions ต่อปี ของประเทศไทยจะมีปัญหาตรงรอยต่อสำหรับ "ทุก" คลีนิกและร้านขายยาชุมชนที่เปิดอยู่อย่างมากทีเดียว เมื่อร่วมกับปัญหารอยรั่วที่ประเทศไทยไม่เคยมีชื่อเสียงมาก่อนว่าคุมรอยรั่วอยู่ จะเป็น prospect ที่น่ากลัวมาก

ในอุดมคติผู้บริโภคจะได้ประโยชน์เต็มที่ ผู้เสียประโยชน์จะได้แก่ private health service ในรูปแบบต่างๆ อย่าลืมว่าเงินที่จะมา subsidize ค่ายา ค่า prescription นั้นมาจากภาษี (เงินได้ 25% อย่างต่ำ และอื่นๆอีกมากมาย รวมทั้ง extra national health insurance อีกทุกอาทิตย์) ของเราการกู้เอามาโปะ ก็อาจจะไม่ใช่ความคิดที่รอบคอบนัก สุดท้ายถ้าต้องอาศัยบรรษัทต่างชาติมา invest เดี๋ยวก็จะลงเอยมีข่าวเหมือน TESCO ในปัจจุบันนี้



Posted by : Phoenix , Date : 2003-09-08 , Time : 22:53:33 , From IP : 172.29.3.221

ความคิดเห็นที่ : 9


   อ่านข้อความของคุณเภสัชค่ะแล้วไม่ค่อยเข้าใจ ช่วยสรุปประเด็นที่ต้องการนำเสนออย่างสุภาพอีกทีได้ไหมคะ และไม่ค่อยแน่ใจด้วยค่ะว่าคุณเป็นเภสัชกรจริงๆ หรือเปล่า

Posted by : ๋๋JJ , Date : 2003-09-10 , Time : 18:32:33 , From IP : 203.170.191.1

ความคิดเห็นที่ : 10


   พวกหมอ ไม่ชอบ เพราะเสียรายได้ล่ะ ซิ
ขายเองไม่ได้


Posted by : aaa , Date : 2003-11-18 , Time : 10:13:40 , From IP : 172.31.0.234

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.016 seconds. <<<<<