ความต่าง 11 ประการ ระหว่างนายกรัฐมนตรีคนที่ 24 กับ 23
ความต่าง 11 ประการ ระหว่างนายกรัฐมนตรีคนที่ 24 กับ 23 พลเอกสุรยุทธ์ กับ พ.ต.ท.ทักษิณ
พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ - นายกรัฐมนตรีคนที่ 24 ของประเทศไทย มีคุณลักษณะแตกต่างจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร - นายกรัฐมนตรีคนที่ 23 อย่างไร ?
1) "สุรยุทธ์" เป็นนายทหาร "พลเอก" แต่ "ทักษิณ" เคยเป็นนายตำรวจ "พันตำรวจโท"
2) พลเอกสุรยุทธ์รับราชการทหาร เติบโตมาจากสาย "กองรบพิเศษ" - "ศูนย์สงคราม พิเศษ" แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ เคยรับราชการตำรวจ โดยมี "การค้าพิเศษ" และต่อมาก็ทำธุรกิจการค้าเต็มตัว โดยมุ่งแสวงหา "กำไรพิเศษ" จากธุรกิจผูกขาด
3) ตำแหน่งสุดท้ายก่อนจะเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นที่รู้จักในฐานะ "นักธุรกิจสัมปทานผูกขาด" แต่พลเอกสุรยุทธ์เป็น "องคมนตรี"
4) พลเอกสุรยุทธ์ ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่ได้ซื้อ กกต. ไม่ได้ซื้อเสียง ไม่ได้โกงเลือกตั้ง ไม่ได้ไล่ซื้อตัวนักการเมืองและพรรคการเมือง ไม่ได้เจรจาต่อรองแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ เพื่อให้มาอยู่ใต้อาณัติของตนเอง
5) พ.ต.ท.ทักษิณ ชอบเดินห้างสรรพสินค้า ช็อปปิ้งกับภรรยา แต่พลเอกสุรยุทธ์ ชอบเดินป่า เสาะหาธรรมชาติและธรรมะ
6) พ.ต.ท.ทักษิณ สร้างภาพ "ซีอีโอ" (CEO) ของประเทศ จนทำให้สังคมไทยบางกลุ่มเกิด ความรู้สึกต่อนักการเมืองว่า "โกงบ้างก็ได้ แต่ขอให้ทำงาน" แต่พลเอกสุรยุทธ์ก้าวเข้ามาพร้อมกับ จุดยืนและภาพลักษณ์ของ "บุรุษแห่งคุณธรรม" และประกาศว่าจะบริหารราชการแผ่นดินโดยเน้นระบบ คุณธรรม
7) พ.ต.ท.ทักษิณเน้นการสร้างตัวเลขจีดีพี (GDP) ของประเทศ เน้นการบริโภค การเพิ่มตัวเงิน และหนี้สินของประชาชน รวมทั้งการผลักดันประเทศไปสู่ทุนนิยมสามานย์ แต่พลเอกสุรยุทธ์ประกาศ เน้น "ความผาสุกของประชาชน" และแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง
8) พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ทำลายเนื้อหาสาระของรัฐธรรมนูญหลายมาตราจนเหลือแต่แบบฟอร์ม เสมือนหนึ่งรัฐธรรมนูญถูกลบล้างจนไม่สามารถใช้งานได้จริง แต่พลเอกสุรยุทธ์มีหน้าที่จะต้องฟื้นคืน เนื้อหาสาระของประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญ ทำให้รัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้ได้จริงๆ
9) พ.ต.ท.ทักษิณ ฉวยจังหวะเข้ามาสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในยามที่ประเทศกำลังมีกระแส ชาตินิยม อันเป็นผลจากภัยวิกฤติเศรษฐกิจ คนในชาติกำลังสมานฉันท์ร่วมกันต่อสู้กับภัยโลกาภิวัตน์ แต่ พลเอกสุรยุทธ์ต้องเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีในยามที่ประเทศชาติกำลังมีความแตกแยก ถูกยุยงปลุกปั่น แบ่งแยกทางความคิด ขาดความสมานฉันท์รุนแรง และยังต้องต่อสู้กับท่าทีของ พ.ต.ท.ทักษิณที่ไปพูด ชี้นำต่อต่างชาติว่า หากการเลือกตั้งของไทยถูกจัดการโดยสหประชาชาติ ตนเองน่าจะชนะเลือกตั้งได้ กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง
10) พ.ต.ท.ทักษิณ มีเวลาให้ทำงานในฐานะนายกรัฐมนตรี มีอำนาจเต็มที่ และได้กระทำต่อ บ้านเมืองมาตลอด 5 ปี แต่พลเอกสุรยุทธ์ มีเวลาในการปฏิบัติหน้าที่เพียง 1 ปี
11) ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า มีพฤติกรรมที่สะท้อนความเชื่อถือเรื่องหมอดู ไม่ว่าจะเป็นหมอเขมร หรือหมอดูอีทีของพม่า ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเรื่องในทางไสย์ ไม่ใช่พุทธ แต่พลเอกสุรยุทธ์ เชื่อถือในพระพุทธศาสนา เคยบวชปฏิบัติธรรม ยึดมั่นในทางสายพุทธ ไม่ยึดติดเรื่องทางไสย์ และภารกิจ แรกที่กระทำในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คือ การเข้าไปกราบสมเด็จพระสังฆราช
Posted by : somepeople , Date : 2006-10-08 , Time : 08:11:02 , From IP : 61.19.25.2
|