ความคิดเห็นทั้งหมด : 12

Debate XXXIX: กระดานข่าวสาธารณะ, วัฒนธรรมหรือเครื่องทดสอบ?


   เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงมากๆในขณะนี้หลายประการ ผมจะลองให้เราอภิปรายดู บางทีอาจจะต้องมีการนัดเจอกันเป็นกิจจะลักษณะอีกครั้ง

เรื่องทุกเรื่องมีหลายด้าน หลายมุมมอง ขึ้นอยู่กับคนมอง ซึ่งก็ยังประกอบกับอีกหลายๆอย่าง เช่น maturity ความรับผิดชอบ ความเคารพในความเป็นมนุษย์ของผู้อื่น มีบ่อยครั้งเกินไปที่เรา "ตัดสิน" ว่าผู้อื่นผิด โดยข้อมูลที่จำกัด หรือเป็นเพราะไม่ได้มีความพยาบามมองในมุมของฝ่ายอื่นบ้าง และที่สำคัญคือ ไม่ได้มองถึง "ผลลัพธ์ หรือผลกระทบ" ในมุมกว้างเลย

ลองนึกดูถึงหนังสือพิมพ์ก็แล้วกันนะครับ
พวกเราคิดว่าคนทำหนังสือพิมพ์ควรจะทำการตรวจสอบข้อมูลทุกด้านก่อนที่จะนำเสนอหรือไม่? หรือว่าควรจะนำข้อมูลด้านเดียวมานำเสนอ
พวกเราคิดว่าหนังสือพิมพ์มีหน้าที่เป็นคน "ตัดสิน" ว่าใครผิดรึเปล่า หรือว่าควรเสนอแต่ "ข้อเท็จจริง"?

และเพราะอะไร?

เกิดอะไรขึ้นถ้ามีคนใช้ชื่อว่า "คนไทย" แล้วลงข่าวโจมตีเขมร มาเลเซีย ลาว สิงค์โปร์? ปฏิกิริยาของเราจะเป็น...อือ...มันไม่น่าจะใช้ชื่อยังงั้นเลยนะ ตูก็เปนคนไทย ไม่ได้ให้มันเป็น representative ซักกะหน่อย หรือข่าวนี้มันจริงหรือเท็จ หรือควรมีการสอบสวนเรื่องราวความเป็นไปว่าอะไรมันเกิดขึ้นกันแน่?

ในกระทู้ที่ผ่านมา มีการ "ตัดสิน" ไปบ้างไหมว่าใครเลว ใครถูก ใครผิด? โดยที่ "ข้อมูล" เหล่านั้นมาจากมุมมองของกี่ฝ่าย มีการคิดถึง "ความเป็นไปได้" บ้างหรือไม่ว่าที่เราได้ "ตัดสินและประณาม" ไปนั้น เป็นเพราะเราไม่ได้รู้เบื้องหน้าเบื้องหลังทั้งหมด? หรือเกิดจากความ "เข้าใจผิด" และข้อสำคัญ ถ้าเป็นไปได้ว่าเราเข้าใจผิด เรารู้สึกอย่างไรกับการที่ได้ประณามคนอื่นในที่สาธารณะไปแล้ว คนที่เดือดร้อนกว่าจะเป็นคนบริสุทธิ์ที่ถูกเข้าใจผิดหรือไม่?

ที่น่าแปลกใจก็คือ จากกระทู้ที่เป็นปัญหานั้น ถ้าอ่านอย่าง evidence-base เราก็จะเห็นว่าเปนข้อมูลที่ยังไม่ครบ เป็นความคิดที่ได้มีการ "ตัดสิน" ไปเรียบร้อยแล้วว่าอีกฝ่ายหนึ่งผิด ซึ่งก็คือมันไม่สมควรมาลงที่นี้ หรือมาพูดกันในที่สาธารณะเลย หลักการที่ว่าใครก็ตามไม่สมควรจะถูกตัดสินว่าถูกหรือผิดจนกว่าผ่านกระบวนการยุติธรรมนั้น มันหายไปไหนหมด? แล้วที่สุดถ้าจะอ่านแล้วมีคนถูกประจานนั้น ฝ่ายไหนกันแน่ที่ได้แสดงความด้อยในวุฒิภาวะและความคิด ความ maturity?

"วัฒนธรรม" นั้น วัฒนา จะหมายถึงไปข้างหน้า สมาชิกที่จะใช้จะมีจริยธรรม มีคุณธรรม กระดานข่าวนั้นจริงๆแล้วอาจจะเป็น "เครื่องมือทดสอบระดับวัฒนธรรม" หรือ รูปแบบความคิด มากกว่ากระมัง?

ลองแสดงความเห็นกันดูนะครับ ผมว่าเราอาจจะได้เห็นอะไรดีๆอีกเยอะ




Posted by : Phoenix , Date : 2003-08-29 , Time : 18:50:16 , From IP : 172.29.3.201

ความคิดเห็นที่ : 1


   ........กระดานข่าว.....มีหลากหลายรูปแบบ.....ส่วนใหญ่ขึ้นกับลักษณะและกลุ่มของผู้ใช้งาน....สมัยแรกๆที่การสร้างกระดานข่าวยังไม่พัฒนา....กระดานข่าวสมัยแรกๆมักใช้เพื่อแจ้งประกาศ.....หรือโปรโมตสินค้า.....อะไรก็แล้วแต่....แต่"ผู้เขียน"ไม่เชิงเป็นผู้เขียนทั้งหมด....แต่จะต้องส่งข้อความไปให้เจ้าของ Web เพื่อลงข้อมูลให้......ต่อมาเมื่อเริ่มพัฒนา....สามารถที่จะเขียนข้อมูลได้เอง...และมีผู้สามารถแสดงความคิดเห็นในสิ่งที่เขียนได้....เป็นประเภท 2 way communication........แรกๆจะมีแต่เรื่องที่น่าสนใจ...เรื่องที่ดี....มา Discuss กันในกลุ่มที่ใช้เฉพาะ.....ต่อมาเมื่อ Internet เป็นเรื่องใกล้ตัวมากขึ้น...กลุ่มผู้ใช้เดิมที่มีแต่ผู้มีความรู้ด้าน Computer ก็ได้เปลี่ยนไปเป็นบุคคลทั่วไป....แต่อย่างน้อยคงต้องมีการศึกษาพอสมควรและสามารถใช้ Computer ได้........การพัฒนาในช่วงนี้มีความสำคัญค่อนข้างมาก.....เนื่องจากกลุ่มบุคคลจำนวนมากได้พากันเข้ามาในโลกแห่ง Internet.....ซึ่งแน่นอนที่ทุกสังคมย่อมมีทั้งคนดีและคนไม่ดีปะปนกัน....ในช่วงนี้กระดานข่าวจึงเริ่มมีหัวข้อแปลกๆ...กลุ่มบุคคลที่ใช้ความสามารถหรือความรู้ของตนที่มีไปในทางที่ผิด....มีการใช้กระดานข่าวไปในทางผิดศีลธรรมมากขึ้นเรื่อยๆ.....จนถึงบางช่วงที่คนดีและคนไม่ดีไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้....การแตกแยกประเภทของกระดานข่าวจึงชัดเจนยิ่งขึ้น......บางกระดานข่าวเป็นกระดานข่าวสำหรับคนดี....และบางกระดานตกต่ำลงถึงขีดสุด....เป็นแหล่งรวมอบายมุขทุกอย่าง...ความเสื่อมทรามทางสังคมที่คนดีๆแทบจะไม่เคยนึกถึงสามารถหาได้ในที่เหล่านั้น....เรื่องนึงที่น่าสนใจคือว่า.....ในปัจจุบัน....ไม่มีกระดานข่าวไหนที่ปราศจากคนเลว 100% และไม่มีกระดานข่าวไหนเช่นกันที่ปราศจากคนดี 100%.....รูปแบบการพัฒนาในปัจจุบันคล้ายๆกับ"สังคม".....บางกระดานข่าวจะมีกลุ่มคนบางกลุ่มที่เข้ามาสนใจข้อความหรือมา Discuss ในหลายๆเรื่อง...เปรียบเสมือนเป็นชีวิตประจำวันเฉกเช่นการกินข้าว อาบนำ และนอน....กระดานข่าว"ไม่ใช่"สิ่งที่แสดงออกทางวัฒนธรรมหรือแบบทดสอบแต่อย่างไร..........เป็นเพียงแค่ Area เล็กๆบน Internet Server เท่านั้น....เป็นเพียงที่ๆมีการเข้ามาด้วยกลุ่มบุคคลหลากหลายวัตถุประสงค์...เพื่อที่จะมาอ่าน....คิด..และเขียน.....อาจจะเป็นสิ่งที่แสดงออกถึงภูมิปัญญาของผู้เขียนหรือเพื่อระบายความอัดอั้นตันใจออกมาในรูปแบบที่เลวทรามโดยที่ชีวิตจริงของคนๆนั้นอาจจะไม่เคยกระทำหรือคิดหรือพูดสิ่งเหล่านั้นจริงๆก็ได้.......ถ้าจะมองว่าเป็นสังคมที่ Complete ไหม....ไม่ใช่...เนื่องจากไม่ได้เป็นที่รวมของบุคคลทุกระดับชั้น.....เป็นเพียงกลุ่มคนที่"ค่อนข้าง"มีการศึกษาเท่านั้น.....แต่นั่นหละ....กลุ่มบุคคล"ที่คอ่นข้าง"มีการศึกษานี่หละ...ที่แสดงให้เห็นว่า.....บางที"การศึกษา"ที่สูง....ไม่ได้ช่วยในด้าน"จริยธรรม"เลย...

....ถ้าคุณ Phoenix จะมองว่ามันเป็นเครื่องมือเพื่อทดสอบวัฒนธรรม...น่าจะไม่ใช้....อย่างที่บอกเพราะกลุ่มบุคคลไม่ represent population ทั้งหมด.....ถ้าจะหมายอย่างงั้นน่าจะมี กรรมกร ขอทาน ๆลๆ....เข้ามาร่วมในกลุ่มด้วย......ในความหมายของสังคม......อาจเป็นเพียงแค่สังคม"จำลอง"ที่หลายๆคนใช้นามแฝง....ในการดำเนินชีวิตอีกรูปแบบ......ที่ไม่เคยมีในชีวิตจริง.....เช่นในชีวิตจริงบางคนไม่เคยประสบความสำเร็จอะไรเลย...มีชีวิตที่เลวร้าย....แต่ในกระดานข่าวหรือโลก Internet.....บางคนกลับกลายเป็นคนสำคัญเป็นที่ยอมรับในกลุ่มคนที่ในชีวิตจริงไม่เคยมีมาก่อน....แต่ก็อีกนั้นหละ....มันเป็นแค่ของ"จำลอง"เท่านั้น.....อาจจะเป็นเพียง"ของเล่น"แก้เซ็งสำหรับบางคนก็ได้.......

........ผมมองว่ากระดานข่าวคล้ายๆ"หนังสือพิมพ์"ที่ผมเคยเขียนไว้ก่อนหน้านี้.....เพียงแต่เป็นหนังสือพิมพ์ที่แต่ละคนเป็นคนเขียนเอง...เป็นคนกำหนดข่าวเอง...บางเรื่องอาจจะมั่วขึ้นมาเอง.....หรือเป็นเรื่องจริง....ก็แล้วแต่.....มีความสามารถสูงในแง่ก่อเรื่องทั้งดีและไม่ดี......และเป็นเพียงหนังสือพิมพ์สำหรับคนเฉพาะกลุ่มเท่านั้น.....มีทุกเรื่องหลากหลาย....ทั้ง การเมือง....กีฬา....บันเทิง.....ขึ้นกับกลุ่มบุคคลที่อ่านและใช้......ข้อที่ต่างคือสามารถแสดงความคิดเห็นได้ทันทีและจะมีผู้เห็นสิ่งที่เราแสดงความคิดเห็น....ซึ่งตรงจุดนี้ไม่ต่างอะไรกับสังคม....ยกตัวอย่างเช่นกรณีของนักร้องดังที่กำลังไม่สบาย......กระดานข่าวของผู้ที่รักในนักร้องท่านนี้ก็จะมีแต่ผู้แสดงความสงสารและอยากให้นักร้องหายดี.....แต่พออ่านๆไปจะพบว่าเป็นช่วงๆที่มีผู้แสดงความสงสารก็จะมามีผู้แสดงความสะใจและสาบแช่งเป็นระยะๆ.....ซึ่งตรงข้ามกับกระดานข่าวที่ต่อต้านนักร้องท่านนี้....ก็จะมีแต่ผู้ที่สาปแช่งเกือบทั้งหมด.......อาจจะบ่งบอกถึงสภาพ"สังคม"ได้คร่าวๆถึงแต่ละเรื่องว่ามีผู้สนใจ....และแสดงความเห็นในด้านไหน.....ข้อดีที่ได้ส่วนนึงคือตรงนี้ครับ....ตรงที่ไม่สามารถระบุผู้เขียนได้(ไม่เสอมไป)....ทำให้บางอย่างเราสามารถได้ยินและเห็นความคิดของคนโดยรวมที่เราไม่มีโอกาสได้เห็นในชีวิตจริง.......เช่นลูกน้องบางคนไม่กล้าด่าเจ้านายในชีวิตจริง.....แต่ในกระดานข่าวกลายเป็นผู้นำในการล้มล้างเจ้านาย.......ซึ่งตรงนี้สามารถแสดงถึงความ"เสือมถอย"ของ"จริยธรรม"ได้หรือไม่....อาจจะได้.....และอาจจะไม่....เพราะบางอย่าง...บางคนกล้าเขียนเฉพาะเวลาที่ไม่มีคนรู้ว่าใครเขียนแค่นั้น.......นั้นอาจจะหมายถึงว่า....ถ้าเราจะมองว่าสังคมกระดานข่าวเลว......คนที่เขียนต้องเลวทั้งหมด...อาจจะไม่จริง....เพราะนั้นอาจจะเป็นแค่การแสดงออกทาง"ความคิด"เท่านั้นก็ได้.......คงไม่ปฏิเสธกันหรอกครับ....ว่าคนเราแต่ละคนย่อมต้องเคยคิดเรื่อง"ไม่ดี"อยู่ในหัวทั้งนั้นหละ....เราอาจจะกล้าที่จะตะโกนบอกชาวบ้านถึงสิ่งที่เราคิดทางกระดานข่าว......แต่จะมีสักกี่คนกันที่"กล้า"ออกมาบอกกล่าวสิ่งที่ตนเองคิดในชีวิต"จริง".............:D...:D

.......โอ๊ย.....เหนื่อย.....:D...:D



Posted by : Death , Date : 2003-08-30 , Time : 00:18:58 , From IP : 172.29.3.230

ความคิดเห็นที่ : 2


   ผมคิดว่ากระดานข่าว "สามารถ" ทดสอบวุฒิภาวะของคนได้ระดับหนึ่ง

เมื่อไหร่ก็ตามที่มีการส่งกระทู้ที่ถ้าปกติไม่กล้าพูด กล้ากระทำ จะทำต่อเมื่อไม่มีคนทราบ identity นั่นแสดงถึงความมีปัญหา การขาดความศรัทธา ขาดความมั่นใจในสิ่งที่ "พิสูจน์ได้" บางทีก็อาจจะเป็นการทดสอบความขลาด ความกล้าของคนก็ยังได้

ข้อความที่ลงบนกระดานข่าวยังสามารถมองถึงว่า คนส่งกระทู้ลงนั้น มองไปไกลถึงแค่ไหน อาทิเช่น ผลกระทบต่อตัวบุคคลอื่น ผลกระทบต่อสถาบัน ผลกระทบต่อระบบ หรือเพื่อตอบสนองตนเอง ลักษณะคำพูด และลักษณะการแสดงออกพอจะบ่งชี้ได้

ในสังคมทั่วๆไปที่ต้องการกฏระเบียบ จะมีข้อกำหนดไว้ชัดเจนถึงการกระทำอะไรก็ตามที่มีผลในการทำลายความสามัคคีของผู้ร่วมงาน หรือบ่อนทำลายความมั่นคง เพราะบางครั้งหากไม่มีมาตรการดังกล่าว ระบบทั้งระบบ สถาบันทั้งสถาบัน สามารถถูกโค่นลงมาได้โดยคนไม่กี่คน ผมเข้าใจว่าระเบียบข้าราชการก็มีของทำนองนี้อยู่

เราเคยด่าหรือตำหนิฐานันฎรที่สี่หรือหนังสือพิมพ์เมื่อ sensationalize หรือ dramatize ทุกโอกาสเมื่อมีข่าวเกี่ยวอาชีพใดอาชีพหนึ่งโดยไม่ยุติธรรม แต่ก็คงจะตำหนิใครเขาไม่ได้ เมื่อแม้แต่คนในวงการเดียวกันจะล่อกันเองเละเทะเสียก่อน แร้งก็ลงตามมา

สถาบันนั้นสำคัญ และมีคนดีจำนวนมากทำงานอยู่ ถ้าการกระทำของเราจะเป็นเครื่องบั่นทอนเสถียรภาพของสถาบัน เป็นเครื่อง discredit ศักดิ์ศรีและหลักปฏิบัติของสมาชิก สิ่งนั้นก็เป็นสิ่งที่ไม่พึงกระทำ และคาดว่าจะมีการป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นด้วย

สถาบันโรงเรียนแพทย์ สถาบันแพทย์และสาธารณสุข เป็นหนึ่งในบรรดาสิ่งที่เราต้องช่วยกันปกป้อง อย่าให้ "ตัวบุคคล" เป็นสาเหตุของความเสื่อมถอย ใครที่รักสถาบัน อาจจะไม่ใช่สถาบันแห่งนี้ก็ตาม แต่อยู่ในร่มของสมเด็จพระราชบิดาฯอยู่ พึงรู้ว่าตนเองก็มีหน้าที่ในการแสดงความเห็น เพื่อที่จะปกป้องสถาบันมิให้ต้องมัวหมองด้วยเรื่องส่วนตัวของคนแค่บางคน บางกลุ่ม

เรื่องนี้ serious และผมคิดว่าเราทุกคนควรจะคิดว่ามัน serious ด้วย



Posted by : Phoenix , Date : 2003-08-30 , Time : 18:43:21 , From IP : 172.29.3.222

ความคิดเห็นที่ : 3


   ................สมัยนึงเรื่องแบบนี้เคยเกิดขึ้น...และถือว่าเป็นเรื่อง Serious จริง.....อย่างที่ผมเคยบอกไว้.....เราไม่สามารถควบคุมหรือออกคำสั่งใดๆกับคนไม่ดีที่มีให้เห็นเกลือนกลาดได้....คนดีและคนเลวที่มีฝีมือทัดเทียมกัน....ยืนอยู่คนละฝั่งของความคิด....ไม่มีใครยอมใคร....ต่างฝ่ายต่างมีเหตุผลของตนเอง..คนดีไม่ใช่คนที่ดีจริง.....คนเลวก็ไม่ใช่คนที่เลวจริง...สุดท้ายคือความแตกแยก....กระดานของใครของมัน...กระดานของคนเลวจะไม่ยึดติดใดๆในระเบียบกฎเกณฑ์ของสังคม....ทำได้ทุกอย่างที่อยากจะทำ....ส่วนกระดานขอคนดี..เป็นเพียงแค่สถานที่รวมกันของคนที่"คิดว่า"ตนเองดีทั้งนั้น....บางคนเป็นคนเลวที่อยู่ในกระดานชั้นเลว...แต่กลับกลายเป็นคนดีแสนดีในบางเวลา.......แต่สุดท้าย....ไม่ว่าจะแบบไหนก็ตาม.....ส่วนหนึ่งมีแต่พวก"ของปลอม"ทั้งนั้น....ไม่มีทางที่จะกำจัดคนเลว...หรือคนดีออกไปให้หมด....ทางเดียวที่เป็นทางออก...และบางกระดานยอมใช้ก็คือ.....การทำลายกระดานทิ้งซะ...เพื่อไม่ให้เกิดความเสื่อมเสียไปยิ่งกว่านี้..............:D...:D
..................วุฒิภาวะของคนเป็นเพียงสิ่งซึ่งสมมติขึ้นมา...เราสามารถคาดเดาหลายๆอย่างจากที่คนเขียนจริง.............แต่คุณ Phoenix อย่าลืมนะครับ.........คุณเคยบอกผมเองถึงเรื่องการเข้าใจผิด..........การเขียนอะไรเหล่านี้โดนที่คนที่ตัดสินไม่เข้าใจ....หรือ"ทำเป็นว่า"เข้าใจ...สามารถเข้าใจไปคนละเรื่องและคนละทางได้.......แม้แต่ผมเองก็เคยเข้าใจที่คุณ Phoenix เขียนอยู่บ่อยๆอย่างที่ทราบ....และเป็นประจำ...:D..:D....เราจะรู้ได้ไง...ว่าสิ่งที่เราเข้าใจเป็นสิ่งที่คนเขียนคิดจริงๆ.....เราคิดไปเอง...เรา Bias.....เราเกลียดคนเขียนคนนี้..มันเขียนอะไรมาต้องแย่หมด.........อย่าปฎิเสธว่าสิ่งเหล่านี้ไม่เคยมีในความคิดคุณหรือผม....เพราะ"เรา"ต่างเป็นคน....เรามี"สิทธิ"เต็มที่ในการที่จะ"คิด"ทุกอย่าง....เพราะมันอยู่ในหัวเรา...ไม่ได้หนักหัวใคร..เพียงแต่"บางอย่าง"เท่านั้นในชีวิตจริงที่เรามีสิทธิกระทำ.......เรามีสิทธิที่จะโกรธ...ที่จะเสียใจ...ที่จะไม่พอใจ....ที่จะดีใจ....ที่จะมีความสุข....เพราะเราไม่ใช้พระพุทธรูปที่นั่งอยู่เฉยๆ....และเราก็ไม่ได้บรรลุถึงหลักธรรมขั้นสูงถึงหลุดพ้นจากวัฎสงสารเหล่านี้.............การคาดหวัง....การประมาณเอาว่าคนที่เขียน...คิดอย่างโง้นอย่างงี้.....คนโน้นบ้า...ไอ้นี่ไม่รู้จักคิด....เป็นเพียงแค่การประมาณและคิดไปเองของเราเท่านั้น.........แค่ตัวหนังสือไม่สามารถทดแทนได้เท่าคำพูดที่ออกจากปากหรอกครับ........เราไม่มีวันรู้ว่าคนเขียนคิดอย่างไรจากการอ่าน......มันบ้าครับถ้าเราคิดว่าเข้าใจคนจากสิ่งที่อ่านเอา....ไม่งั้นเราจะมีเพื่อนในชีวิตจริงทำไม...มานั่งหาเพื่อนในนี้ก็ได้.....ใครพิมพ์เก่งๆก็เป็นคนดีงั้นเหรอ......เปล่าเลย.................:D....:D
................แล้วคุณ Phoenix จะทำอย่างไรกับกระดานแห่งนี้หละครับ.....ปิดมันสักพักก็ได้...เผื่อว่าอะไรๆมันจะดีขึ้น....หรือไม่ก็ต้องหัดยอมรับอย่างที่เคยบอกผมไงครับ.....ชีวิตมันก็เท่านี้หละ....เราไปออกคำสั่งหรือสอนสั่งกับใครที่มันจะไม่สนใจ..ก็เท่านั้น....เหนื่อยเปล่าครับ.................:D..:D
.............ว่าแต่ อ่าน Rambo: Reloaded หรือยังครับ...:D...:D



Posted by : Death , Date : 2003-08-30 , Time : 19:57:15 , From IP : 172.29.1.160

ความคิดเห็นที่ : 4


   เราดูจาก "ผลแห่งการกระทำ" ครับ ผมเชื่อในกลไกที่เราสามารถหาวิธีป้องกันคนถูกรังแกโดยวิธี underground หรือแค่มีความรู้ความชำนาญด้านคอมพิวเตอร์เหนือคนอื่น

เราไม่รู้ว่าใครกำลังคิดอะไรอยู่ก็จริง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเรา "ไม่ต้องรับผิดชอบ" กับการกระทำของเราและผลแห่งการกระทำ มิฉะนั้นแล้วเราคงไม่มีโจรถูกจับขังคุกอยู่จำนวนมากในขณะนี้ทั่วโลกหรอกครับ การกระทำบางอย่างเมื่อมีการสอบสวนแล้วเห็นว่ามีผลกระทบต่อความมั่นคงของสถาบัน มีผลกระทบที่ไม่ยุติธรรมต่อผู้อื่น บวกกับมีการ "ส่อเจตนา" ในการทำร้ายผู้อื่น สมควรที่จะต้องมีการชี้แจง ระงับ หรือกันออกไปจากระบบ

เราจะพูดเหมือนอยู่ในโลกุตระยังไงก้ได้ครับ สมมติโน่น สมมตินี่ แต่ถ้าคนเดือดร้อนมีจริง คนได้รับความอยุติธรรมจาก Mob มีจริง เรื่องราวก็อาจจะจบที่การสอบสวนเป็นอย่างเป็นทางการ สอบสวนว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เกิดขึ้นเพราะอะไร และเหมาะสมกับกรอบวิชาชีพ กับความเป็นข้าราชการ หรือพนักงานของรัฐหรือไม่ ผมคิดว่าเราไม่ได้อยู่ในโลกสมมติอีกต่อไป ไม่ได้อยู่ในสนามเด็กเล่น แต่อยู่ในลานที่ประกอบด้วยชีวิตจริง คนมีครอบครัว และคนทำงานประกอบอาชีพ อยู่ในที่ที่มีกฏระเบียบ กฏหมาย และจรรยาบรรณวิชาชีพ ผมคิดว่าเราพอจะหาคนที่เป็นกลางมาตัดสินเรื่องเหล่านี้ได้

ความคิดของเราตราบใดที่อยู่ในหัว ไม่ได้ทำความเดือดร้อนให้ใครนั้นเป็นสิทธิโดยชอบธรรมแน่นอนครับ แต่เมื่อมีคนเดือดร้อนรัฐประศาสนศาสตร์ก็ต้องถูกนำมาใช้



Posted by : Phoenix , Date : 2003-08-30 , Time : 21:45:41 , From IP : 172.29.3.239

ความคิดเห็นที่ : 5


   ........มันแทบจะเป็นไปได้ยากเลยครับที่จะบ่งบอกถึง"เจตนา"ของผู้เขียน....คุณจะใช้อะไรมาตัดสินเหรอครับ.....คุณเคยอ่านใจคนได้หรือครับ?.....ถ้าคุณเคยคุณจะรู้ว่าจิตใจของคนเรามันลึกซึ้งสุดๆเกินกว่าจะเข้าใจ...."เจตนา"หรือ"ไม่เจตนา"แทบจะบ่งบอกไม่ได้เลยครับ....ส่วนเรื่องโจรที่โดนขังอยู่นั่น.....เท่าที่ผมทราบคือกฎหมายในปัจจุบันแทบจะไม่ตัดสินว่าผิดจากเรื่อง"เจตนา"ที่เราไม่สามารถเข้าใจได้นี่หละครับ...ไม่งั้นที่ขับรถชนคนตายโดนประมาทคงติดคุกกันหมด....กฎหมายแทบจะยอมปล่อยคนที่ไม่แน่ชัดว่าผิดจริงหรือมี"เจตนา"กระทำจริง 10 คน ดีกว่าปล่อยคนที่ไม่ผิดติดคุก.....ส่วนคนกลางนั่น...ไม่มีคนเป็นกลางพอหรอกครับ.....ใครจะมาตัดสินอะไรในกระดานข่าวเหรอ..โน่นครับ.....เจ้าของกระดานนั่นหละ..คนกลาง..ลบทิ้งถ้าแย่...แย่หนักก็ปิด.....เท่าที่รู้ตอนนี้กฎหมาย Internet ยังไม่ผ่านครับ(กำลังเสนออยู่ถ้าจำไม่ผิด).....แต่ป่านนี้พวกมิจฉาชีพมันไปไกลแล้วครับ....ยิ่งเมืองไทยด้วยแล้ว.....ตามไม่ทันหรอกครับ....คงจัดการได้แต่พวกระดับธรรมดาแค่นั้นหละครับ....เห็นไอ้ Virus ที่ถล่ม Internet เป็นช่วงๆไหมครับ........จับได้น้อยมากๆ....เอาหละถ้าไม่พูดเรื่อง Internet.....ไม่สนใจกระดานข่าว.......มีอะไรอีกเยอะมากมายในสังคมที่มันไม่ Fair.....ที่ทั้งคุณและผมจัดการไม่ได้......ส่วนเรื่องผลการกระทำนั้นนะ....คุณจะตัดสินใครว่าผิดจากสิ่งที่เขียน....โดยที่คนเขียนอาจจะไม่ได้คิดไกลอย่างที่คุณหรือคนอื่นๆคิดก็ได้......คุณจะเหมาว่าคนเหล่านี้ผิดหรือ?....บางคนเขียนเพราะอาจจะอยากเขียน....แต่พอผลออกมาเลวร้าย....กลายเป็นว่าเค้าผิดโดยไม่รู้งั้นหรือ?.....ถ้าคุณคิดว่าสังคมนี้ยังมีความ Fair อยู่.....ผมขออนุญาติบอกให้ทราบว่าสิ่งที่คุณกำลังคิดอยู่นี่หละครับ....ที่เรียกว่า"ไม่ Fair"......คุณไม่ใช่ตัวคนเขียน....คุณจะรู้ได้ไงว่าตอนที่เขียนเขาคิดอะไร....คิดอย่างที่คุณเข้าใจหรือเปล่า?.....ผมขอบอกนะครับว่า....."ถ้าจะมีสักคนที่ Fair พอจะตัดสินสิ่งที่เขียน....คนๆนั้นจะชื่อว่า ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีในใจของคนที่เขียนนั้นๆ ครับ"........คนอื่นไม่มีสิทธิครับ...........อีกอย่างนะครับ.....ถ้าคุณจะมองถึงสถานะทางสังคมที่คนเขียนแต่ละคนเป็นอยู่แล้วมานั่งเขียนอะไรแบบนี้.....คุณคิดมากไปหรือเปล่าครับ....คุณเคยบอกผมเองว่าที่นี่ใช้ Anonymous.....เพื่อที่คุณจะได้เข้าใจในหลายๆเรื่อง....ผมเองก็เชื่อเช่นนั้น.....แต่คุณกำลังจะเอาหลายๆอย่างในนี้....บวกกับตัวตนที่เป็นในชีวิตจริงมารวมเข้าด้วยกัน.....ซึ่งมันไม่ได้.....ชีวิตจริงก็คือชีวิตจริง.....โลกสมมติก็คือโลกสมมติ........มันคนละอย่างกันครับ.......อ่านช้าๆนะครับ....ผมอยากให้คุณเข้าใจและอย่าโกรธผม........

.......ผมยกตัวอย่างง่ายๆที่คุณอาจจะไม่เคยนึกมาก่อน....ผมไม่เคยเรียกคุณว่า"อาจารย์"ในนี้สักคำ....ทั้งๆที่ผมทราบว่าคุณเป็นใคร....ผม...."ผิด" หรือเปล่าครับในโลกสมมติแห่งนี้............ค่อยๆคิดนะครับ.........ขอบคุณครับ....:D...:D



Posted by : Death , Date : 2003-08-31 , Time : 03:18:59 , From IP : 172.29.3.215

ความคิดเห็นที่ : 6


   ผมนั้นได้ประโยชน์จากการ "ค่อยๆคิด" มานานแล้วครับ หวังว่าเราทั้งคู่สามารถจะได้ประโยชน์จากการค่อยๆคิดนี่พอๆกันจริงๆ

เราไม่มีการอ่านใจใครหรอกครับ เราจึงไม่ทราบก่อนยังไงล่ะครับว่าใครขี้เกียจ ใครจงใจดูแลผู้ป่วยไม่ดี จนกว่าจะมีการสอบสวนก่อน เราจึงไม่มีการประจานใครโดยยึดความเห็นฝ่ายเดียวเป็นที่ตั้ง เราจึงมีระบบศาลตัดสิน ไม่ใช่ระบบที่ใครคนใดคนหนึ่งเป็นตำรวจ-ศาล-เพชฌฆาต ในคนๆเดียว และนี่แหละที่ผมได้พยายามสื่อมาโดยตลอดว่าทำไมเราจึงต้องการการสอบสวนก่อนที่จะตัดสิน และทำไมมันเป็นความผิดที่จะตัดสินใครโดยไม่ได้สอบสวน

จะเป็นความ "ไม่fair" ของผมหรือเปล่าที่ผมขอร้องให้เรื่องนี้มีการสอบสวนตั้งแต่แรก (กลับไปอ่านดูนะครับ ว่าสิ่งแรกสุดที่ผมขอร้องในกระทู้นั้นคืออะไร) หรือจะเป็นความ "ไม่ fair" ของฝ่ายไหนที่ได้ตัดสินไปแล้วว่าใครขี้เกียจ ใครไม่เคยหวังจะพัฒนา จะเป็นการ "ตัดสิน" ไปแล้วหรือเปล่าว่าถ้าส่งเรื่องสอบสวนก็จะไม่มีการสอบสวนที่ยุติธรรม ผมสงสัยจริงๆว่าฝ่ายใดกันแน่ที่ "อ่านใจคนอื่น" มาโดยตลอด

คุณพูดซ้ำแล้วซ้ำอีกว่า internet มันไม่ fair ผมเชื่อสนิทครับว่าคุณรู้โดยละเอียดว่าความไม่ fair นั้นอยู่ที่ตรงไหนบ้าง แต่ที่ทำความประหลาดใจแก่ผมก็คือการแสดงออกของคุณนั่นแหละครับ ว่าทั้งๆที่มันไม่ fair แต่ก็ยังทำมันหมายถึงอะไร?

"กฏหมายยินดีที่จะปล่อบคนผิดดีกว่าตัดสินผิดและลงโทษคนบริสุทธิ์" อา....ที่แท้คุณ Death ก็ทราบเรื่องนี้เหมือนกัน ไม่ทราบว่าที่เขียนลงไปในกระทู้ ฉบ.8 นั่น เป็นการแสดงออกของ "ปล่อยคนผิดไปดีกว่าลงโทษคนที่อาจจะบริสุทธิ์" รึเปล่า? จะเห็นได้ว่ากฏหมายนั้นยินดีจะ "ยกประโยชน์" ให้จำเลย มากกว่าการประพฤติตนเป็นศาลเตี้ย ตัดสินประหารใครๆโดยไม่ได้ผ่านกระบวนการยุติธรรม ที่แล้วๆมาเรามีการ "ยกประโยชน์ให้จำเลย" บ้างหรือเปล่า หรือว่าทำการตัดหัวแขวนประจานก่อนที่กระบวนการยุติธรรมจะเริ่มต้น?

โลกสมมุติที่คุณ Death ว่านี้ มันมีผลกระทบต่อชีวิตจริงแน่นอนครับ อ่านรายละเอียดของตัวอย่างในอีกกระทู้หนึ่ง การประจานหยามประณามคนจริงๆบนกระดานข่าวนั้น ไม่ใช่เรื่องสมมติอีกต่อไป มีเจ้าทุกข์ มีคนเดือดร้อน มีคนควรจะละอายแก่ใจ เป็นคนมีครอบครัว เพื่อน คนรู้จัก ประกอบอาชีพจริงๆ คุณ Death อาจจะเข้าใจนี่เป็น videogame ที่ไม่มี casualties แต่ผมเกรงว่า casualties จากเหตุการณ์ในครั้งนี้นั้น จริงยิ่งกว่าจริง ไม่ใช่โลกสมมติอย่างที่คุณคิดแต่อย่างใดเลย




Posted by : Phoenix , Date : 2003-08-31 , Time : 14:35:34 , From IP : 172.29.3.214

ความคิดเห็นที่ : 7


   

คำถามประการหนึ่งก็คือ มาทำอะไรกันบนกระดานข่าว?



คำตอบอาจมีมากมายตามแต่เป้าหมายของแต่ละคน



แต่เป้าหมายดังกล่าวคงจะไม่พ้น



1.เพื่อหน้าที่ที่เห็นว่าควรกระทำ



2.เพื่อผลประโยชน์ของ..................



 


หากการกระทำเป็นไปเพื่อผลประโยชน์แล้ว ก็แทบจะไม่ต้องพูดถึงความดีอีกเลย เพราะผลประโยชน์จะมีความหมายก็ต่อเมื่อมี"การเรียกร้อง" เพื่อตอบสนองต่อ"ความต้องการ"ของ"ตัวตน" ไม่ว่าตัวตนดังกล่าวจะเป็นของใคร ของตนเอง ของผู้อื่น ของกลุ่มไหน จะกลุ่มเล็กกลุ่มใหญ่ก็ตาม



เมื่อคนไม่ได้เรียกร้องด้วยความอยากอันใดแล้ว สิ่งที่เคยเรียกว่าผลประโยชน์ก็จะหมดความหมายทันที



นั่นเท่ากับว่า ผู้ที่กระทำสิ่งใดก็ตามเพื่อผลประโยชน์แล้ว เขากำลังเห็นว่า"สิ่งที่เป็นความดีจะต้องตอบสนองต่อตัณหาหรือความอยากได้"



แต่สิ่งที่เรียกว่า"ความดี หรือ ความถูกต้อง"จะถูกกำหนดด้วยความสามารถในการตอบสนองต่อตัณหาหรือความอยากเช่นนั้นหรือ?



ที่กล่าวไปนี้ถือเป็นเนื้อหาของจริยธรรม



........................................................................................................



การเข้ามาใช้กระดานข่าวก็เช่นกัน อนุมานได้ว่าในบางกรณีก็มีผู้ใช้เพื่อตอบสนองต่อผลประโยชน์นั่นเอง



และบางครั้งก็เป็นผลประโยชน์ของตนเอง



บางคนอาจถูกเอารัดเอาเปรียบและต้องการเรียกร้องในสิ่งที่ตนเองคิดว่าควรจะได้ หรือบางคนอาจรู้สึกพอใจเมื่อได้พูดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับผู้อื่น หรืออะไรก็ตามแต่ จึงเป็นเหตุให้ต้องวิพากษ์การกระทำของผู้อื่น



จะด้วยคำหยาบ คำสุภาพ หรือคำหวานอะไรก็ตามสิ่งที่เป็นเป้าหมายก็คือผลประโยชน์



.............................................................................



คำถามต่อไปคือ เราจะตัดสินค่าการกระทำได้หรือไม่อย่างไร?



การกระทำนั้นควรจะตัดสินค่าที่อะไร



1.เจตนาของการกระทำ



2.ผลของการกระทำ



หากตัดสินที่ผลนั้นก็เท่ากับเห็นค่าความดีอยู่ที่ผลประโยชน์หรือความสามารถในการตอบสนองต่อความอยาก



และหากยอมรับว่าค่าของความดีอยู่ที่เจตนาแล้ว คำถามที่จะถามต่อไปก็คือเราจะตัดสินได้หรือไม่



เจตนานั้นเป็นเรื่องส่วนบุคคลไม่อาจแสดงอย่างชัดแจ้งได้ไม่ว่าวิธีการใดก็ตาม



คำตอบก็คือเราจะสามารถตัดสินได้เฉพาะการกระทำของตนเองเท่านั้น ส่วนผู้อื่นนั้นเราไม่สามารถไปตัดสินอะไรได้ และการตัดสินการกระทำผู้อื่นนั้นก็ไม่เคยยุติธรรม



.................................................................................



คำถามที่แฝงอยู่อีกอย่างก็คือ มีความจำเป็นอะไรที่ต้องตัดสินการกระทำของผู้อื่น?



ก็เพื่อผลประโยชน์ที่..............พึงจะได้



และหากผู้อื่นกระทำผิด แล้วเจตนาดีจะไปช่วยแก้ไข ก็จำเป็นต้องตัดสินว่าการกระทำนั้นผิดก่อนไม่ใช่หรือ



คำตอบคือไม่ใช่ เพราะสิ่งที่เจตนาดีของเราจะให้ได้ก็เป็นเพียง"ความเห็นในสิ่งที่เราคิดว่าถูกต้อง"เท่านั้นซึ่งก็ไม่จำเป็นต้องไปตัดสินการกระทำเดิมของใคร (การกระทำเดิมของเขานั้นเราก็ไม่รู้ว่าเจตนาแท้จริงคืออะไร)



หากผู้อื่นจะตัดสินใจรับเชื่อและแก้ไข หรือ แท้จริงการกระทำของเขาก็ตรงตามความเห็นที่เราให้อยู่แล้ว หรือ เขาจะปฏิเสธความเห็นและกระทำตามความเห็นเดิม นั่นก็เป็นเรื่องของเขา



...............................................................................................



ดังนั้นปัญหาสำคัญก็คือ เราตัดสินผู้อื่นก็เพราะหวังในผลประโยชน์



................................................................................................



หากความดีไม่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์แล้ว คนจะยังยอม"ทำความดี"กันอยู่หรือไม่






Posted by : Immanuel Kant , Date : 2003-08-31 , Time : 19:10:31 , From IP : 172.29.2.95

ความคิดเห็นที่ : 8


   

ประเด็นต่อไปที่มักจะสับสนกันก็คือ คนแต่ละคนเป็นคนดีหรือคนชั่วตลอดเวลาหรือไม่?



คำตอบที่คงจะยอมรับกันง่ายๆก็คือ คนแต่ละคนไม่ได้ดีชั่วตลอดเวลาหรือดีชั่วแต่กำเนิด



ความดีความชั่วจะตัดสินได้ก็แต่การกระทำแต่ละอย่างเท่านั้น



ส่วนตัวบุคคลนั้นไม่ได้มีค่าทางจริยธรรมอะไรมาแต่เริ่ม ความชั่วจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อมีการกระทำที่กระทำลงไปโดย"ไม่รู้"ว่าไม่ดี


.......................................................................................



ถ้าเช่นนั้นความดีความชั่วจะถือเป็นคุณค่าของแต่ละสังคมหรือไม่



คำตอบก็คือ ไม่อาจตีค่าทางจริยธรรมกับสังคมได้ เพราะสังคมไม่เคยมีเอกภาพของเจตจำนงเสรี แต่เป็นการประกอบขึ้นของเจตจำนงส่วนบุคคล เราจึงเหมารวมว่าสังคมใดดีหรือไม่ดี ไม่ได้



........................................................................................



ส่วนคำถามว่ากระดานอภิปรายจะนำไปชี้วัดคุณค่าทางวัฒนธรรมอะไรของใครได้หรือไม่



คำตอบก็คือ ไม่ได้ เพราะเราไม่มีความจำเป็นต้องตัดสินการกระทำของใคร และเราจะไม่มีวันตัดสินการกระทำของใครได้อย่างยุติธรรม เราจะให้ได้เฉพาะความเห็นในการกระทำที่ถูกต้องเท่านั้น



ดูบางอย่างจะแย้งกันเอง เพราะหากยอมรับว่าเราไม่ควรนำการตัดสินหรือประจานผู้อื่นมาไว้บนกระดานข่าวแล้ว ก็หมายความว่าผู้อ่านกระดานก็ไม่มีสิทธิไปตัดสินการกระทำของผู้เขียนกระดานด้วย



เนื้อหาของสิ่งที่ปรากฎบนกระดาน จะด้วยเจตนาอะไรไม่มีใครจะรู้ได้(ยกเว้นผู้เขียนเอง)



เราสามารถรับรู้ แก้ไข หรือวางเฉย ต่อเนื้อหาใดๆก็ตามที่ปรากฎ ด้วยเจตนาดี







Posted by : Immanuel Kant , Date : 2003-08-31 , Time : 19:12:10 , From IP : 172.29.2.95

ความคิดเห็นที่ : 9


   สวัสดีครับ คุณ Kant หายไปนานนะครับเรายังมีคำถามที่ยังไม่ได้คำตอบกระจ่างจากครั้งที่แล้วอยู่หลายประการเหมือนกัน ไม่ทราบว่าจะมีเวลาให้เรามากน้อยแค่ไหนคราวนี้

ยังคิดว่าแพทย์ที่ทำหน้าที่แนะนำเรื่อง family planning และการใช้ถุงยางอนามัย การคุมกำเนิดนั้นเลวอยู่รึเปล่าครับ? และเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างพ่อและแม่นั้นไม่ต่างอะไรกับสัตว์เดียรัจฉานหรือเปล่า? รู้สึกคุณ Kant ยังไม่ได้อธิบายละเอียดเรื่องนี้

ที่แล้วๆมาจาก absolute moralist ของคุณ Kant ดูจะไม่ค่อยลังเลในการบอกว่าอะไรถูก อะไรผิดเท่าไหร่นะครับ ค่อนข้างไปทางตรงกันข้ามซะด้วยซ้ำว่า ไม่มีอะไรเป็นสีเทา มีแต่ขาวกับดำ ตกลง moral นั้นเป็น absolute หรือไม่

ผมคิดว่าปัญหาที่คุณ Kant ว่าต้องแก้ตรงปัจเจกบุคคลนั่นแหละครับที่เราพยายามจะ addressคุณ Kant พอจะยกตัวอย่างระเบียบสังคมที่ไหนสักแห่งได้ไหมครับที่ไม่ต้องมี กฏระเบียบหรือกฏหมายเพื่อปกป้อง ป้องกันสังคม

ยินดีที่กลับมา entertain เราอีกครั้งครับ หวังว่าปัญหาทั้งหมดที่เคยค้างกันไว้จะได้เคลียร์กันหมดไปถ้ามีอกาสนะครับ



Posted by : Phoenix , Date : 2003-08-31 , Time : 21:30:46 , From IP : 172.29.3.202

ความคิดเห็นที่ : 10


   จริยธรรมนั้นชี้ถูกผิดได้โดยเจตนาครับ เจตนาเมื่อแยกส่วนแล้ว จะพบเป้าหมายได้เพียงสองอย่าง คือเห็นแก่ตัว กับเห็นแก่ธรรมคือหน้าที่

การกระทำหนึ่งอาจประกอบด้วยเจตนาได้มากมาย ทั้งเห็นแก่ตัวและไม่เห็นแก่ตัว

การกระทำใดก็ตามที่เพื่อกามารมณ์ เพื่อความเห็นแก่ตัวนั้นกคือผิดศีลธรรมทั้งสิ้น

คุณน่าจะพิจารณาแล้วเห็นบ้างว่าการกระทำใดเป็นไปเพื่อกามารมณ์หรือไม่อย่างไร

ผมไม่มีสิทธืและความยุติธรรมอันใดเลยที่จะวินิจฉัยเพื่อชีวิตผู้อื่น หากผมจะวิจารณ์ได้เพียง"การกระทำ"ที่จะเนื่องด้วยเจตนาอันใดเท่านั้น ส่วนผู้ใดจะเป็นอย่างไรนั้น ด้วยกรอบทางความรู้ เราจึงไม่อาจทราบได้

การกระทำหนึ่งจึงมีหลายสีขึ้นกับเจตนา ข้อนี้มีพุทธภาษิตแสดงไว้ชัดเจน

แต่สิ่งที่เราควรจะกล่าวหรือสอนแก่ผู้อื่นนั้น จะต้องมีสีขาวเท่านั้น

ไม่ใช่ไปหาว่าสีขาวสอนไม่ได้ แล้วพยายามจะเอาสีเทาไปสอนให้เด็ก


หรือหาว่าความดีอันเป็นอุดมคตินั้นกระทำได้ยาก แล้วหันไปกระทำสีเทาที่กระทำได้ง่ายกว่า

แม้แต่การชี้นำให้บุคคลอื่นเห็นภาพเปลือยเป็นความงาม สื่อลามกตามเสรีนิยมแบบตะวันตกจะไดเฟื่องฟูขึ้นในหมู่นักเรียนที่ยังขาดปรัชญาชีวิต

ขอให้ดูสังคมสงฆ์เป็นตังอย่างเถิด ไม่ต้องมีสภาพบังคับ แต่มุ่งแก้ปัญหาที่ปัจเจก

จนถึงบัดนี้สิ่งที่เคยยึดถือกันมา จะมีกี่คนที่เข้าใจรากฐานของมันอย่างแท้จริง


Posted by : The Kantist ฆานฑิต , Date : 2003-09-01 , Time : 08:33:26 , From IP : 172.29.2.244

ความคิดเห็นที่ : 11


   การที่คนเราเห็นภาพเด็กแรกเกิดเปลือยแล้วปกติน่ารัก เป็นเรื่องปกติ
การที่คนเราเห็นเด็กคนที่ว่าค่อยโตขึ้น แล้วเมื่อเป้นผู้ใหญ่ เกิดอารมณ์ทางเพศ แสดงถึงมีภาวะรูปรสกลิ่นเสียงมาปรุงแต่งเป็นรากของเกิดทุกข์
แตการที่คนเราเห็นร่างมนุษย์ถึงแม้ว่าโตแล้วเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาตินั้น ไม่ใช่วัฒนธรรมตะวันตกหรอกครับ เป็นภาวะความ mature ทางอารมณ์ที่คนชาติไหนก็ทำได้ ปฏิบัติได้

ลามกนั้นอยู่ที่ perception ถ้าใครก็ตามเห็นร่างเปลือยแล้วไม่สามารถสละความคิดลามกได้ ก็น่าเห็นใจ และควรอย่างยิ่งที่จะระวังตัวเองไม่ให้ไปเห็น เพราะถูกเร้าง่าย แต่ไม่ได้หมายความว่าเปลือยคือลามก คนที่ขาดปรัชญาชีวิตที่แท้จริง น่าจะเป็นที่คนเห็นภาพเปลือยแล้วเกิดกระสันตัณหา แต่บางคนก็เห็นภาพเปลือยแค่การเปลี่ยนแปลงของร่างกาย และสามารถมองได้ตั้งแต่แรกเกิด เติบโตเป็นวัยสาว แก่ชราลง จนถึงเป็นอศุภ

เจตนาอย่างเดียวยังไม่การันตีหรอกครับ พ่อแม่ที่เลี้ยงลูกผิดๆนั้น มีเจตนาดีซะส่วนใหญ่ แต่สามารถสอนลูกเป็นโจรได้ง่ายๆ เจตนาที่ดีแท้จะออกมาได้จากคนที่ฝึกตนเองให้มี moral excellence ก่อนเท่านั้น คือบำเพ็ญมรรคแปดอย่างเคร่งครัด ถ่องแท้ และเพียรพยายาม

คนเลวก็อ้างธรรม อ้างหน้าที่ได้ หรือแม้แต่พวก extremist หรือ religious fanatic
ลองไปดูข้ออ้าง เหตุผล หรือหน้าที่พวกนี้ดูนะครับ ไม่มีใครอ้างประโยชน์ส่วนตัวส่วนตนหรอก อ้างคัมภีร์ หน้าที่ scripture ทั้งนั้น

ที่คุณบอกว่าทำอะไรเพื่อกามารมณ์ก้ผิดศีลธรรมทั้งน้น ผมสงสัยว่าเป็นของศาสนาพุทธหรือไม่? ศีลข้อสามนั้นเขาอนุญาตให้สามีภรรยาแสดงความรักกันได้ ไม่ผิดศีลแน่นอนและที่เราๆเกิดมาเป็นตัวเป็นตนตรงนี้พ่อแม่เราก็มีกามารมณ์ ร่วมเพศกัน แล้วเกิดปฏิสนธิเป็นตัวเรา คุณกำลังบอกหรือเปล่าว่าที่พ่อแม่เราให้กำเนิดเรานั้นผิดศีลธรรม? คุณนับถือศาสนาอะไรครับ?

ปล. คุณคือ Immanuel Kant รึเปล่า ทำไมต้องเปลี่ยนชื่อล่ะครับ ถ้าใช่เราจะได้รู้ background ความคิดบางอย่าง อาจจะไม่จำเป้นต้องพูดซ้ำตรงนี้




Posted by : Phoenix , Date : 2003-09-01 , Time : 17:58:47 , From IP : 172.29.3.234

ความคิดเห็นที่ : 12


   สำหรับคนที่คิดว่าที่นี่มีความหมายอะไรมากว่ากระดาน
ขอบอกว่า มึง เสร่อมากวะ

ว่างมากนัก ก็ ไปหัดแดกข้าวซะบ้าง อยากมัวแต่เคี้ยวฟางอยู่


Posted by : จิ๊กโก๋ , Date : 2003-09-25 , Time : 11:13:02 , From IP : dial-2.ras-1.bkk.c.c

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.009 seconds. <<<<<