ความคิดเห็นทั้งหมด : 10

อยากชี้แจงบ้าง


   อยากชี้แจงบ้าง

ได้อ่านกระทู้ใหม่ๆช่วงนี้..อยากทราบว่าเราใช้กระดานอภิปรายเพื่อจุดประสงค์อะไรกัน ..เพื่อช่วยกันแสดงความคิดเห็นหรือมาประจานความดีความเลวของใครในโรงพยาบาลกันแน่! มีหลายต่อหลายเรื่องที่เราควรหันหน้าเข้ามาปรึกษาหารือกันไม่ใช่มาอาละวาดหรือมาโวยวายเยี่ยงบุคคลที่ไม่ใช่high education เรื่องบางเรื่องเคยกลับมาย้อนคิดกันบ้างมั๊ย ว่าในสิ่งที่ใครมันอยากให้ได้ใหเป็น มันมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนกัน แค่พูดใครๆก็พูดกันได้แต่ในทางปฎิบัติมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย..
1.ที่บ่นกันเรื่อง หอผู้ป่วยพิเศษบางที่มีเครื่องมือไม่พร้อมบ้างหล่ะ เจ้าหน้าที่ขาดประสบการณ์ในการทำหัตถการบ้างหล่ะ อยากทราบว่า ถ้าเกิดเป็นตัวเองบ้างจะเป็นอย่างไร เครื่องมือบางอย่างที่นานๆใช้สักครั้ง อย่างEKG หรือเครื่องมืออื่นๆใช่ว่าใครไม่อยากจะมีไว้หละ แต่ไม่ผ่านการอนุมัติให้มีแล้วจะให้ทำยังงัยกัน ไม่ใช่ไม่เดือดร้อนแต่ในเมื่อผู้หลักผู้ใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการมีไว้ เรามันก็แค่คนตัวเล็กๆ จะไปทำอะไรได้ อีกอย่างเรื่องขาดประสบการณ์อยากถามว่า ห้องพิเศษหนะ เดือนๆนีงมี case arrest สักกี่รายกัน ลองมานึกถึงตัวเองบ้างนะถ้าคุณเป็นหมอภาคอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับคนไข้หนักนานๆจะมาใส่tube สักทีคุณจะไม่exitationบ้างเลยเหรอ?
2.เรื่องที่ห้ามน้อง นศพ.ทำหัตถการที่ ER..จริงๆแล้วหนึ่งในบทบาทที่สำคัญของหมอเละพยาบาลคือ ผู้นิเทศน์ เราเองก็อยากให้มีการเรียนการสอนที่ ER นะ อยากให้น้องได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์บางอย่างที่น้องสามารถทำได้ แต่ในเมื่อเขามีข้อตกลงกันมาแล้วของทางผู้บริหารBIG BIG แล้วจะให้พี่ทำยังงัยกัน น้องต้องมีอาจารย์คอยควบคุมอยู่ เพราะน้องยังใช้คำว่านักศึกษา ทีนี้มันขึ้นอยู่กับว่า อาจารย์จะสามารถ ให้น้องทำได้มากน้อยแค่ไหนกัน แต่อาจารย์ของน้องเองนั่นแหละที่ออกข้อตกลง แล้วจะให้ทำยังไง ?
3.เรื่องที่ERไม่มีCOLLAR / PHELADELHIA ประจำไว้ ใช่ว่าเราไม่อยากจะมีนะ เราเองก็อยากจะมีประจำไว้ การทำงาน เราเองก็ยึดหลัก BASIC LIFE SUPPORT เช่นกัน และได้ทำเรื่องขออนุมัติไปตั้งหลายครั้งแต่ผลที่ได้รับกลับมาคือ SAY NO แล้วจะให้ทำยังไง เหตุผลที่ไม่ผ่านการอนุมัติเพราะ ทางภาควิชามีความเห็นว่าการใส่ collar หรือ pheladelphia จำเป็นต้องใส่โดยแพทย์ที่มีความชำนาญเฉพาะเท่านั้น หมอERไม่สามารถที่จะใส่ได้ ต้องเป็นหมอ ORTHO หรือ NEURO Sx เท่านั้น ขระที่รอหมอเราก็ stabilite ด้วยขวดนำเกลือไปก่อน ป่าก็ป่าเถอะเราก็พยายาม safe นะ ถ้าหมอต้องการเราก็สามารถยืมให้ได้ ขอบคุณพยาบาล TRAUMAที่ให้ER เป็นที่พึ่งให้ได้หยิบยืมเกือบทุกครั้งไป(บางทีเราก็ไม่คืนเพราะอยากมีเผื่อไว้ จะได้ไม่โดนใครบางคนวีนเอา) เราเองก็พยายามทำในสิ่งที่ดีที่สุดไม่ใช่เพื่อหมอ เพื่อเราหรือเพื่อคำว่าHA แต่เราทำงานเพื่อผู้ป่วยไม่ใช่หรือ?

Posted by .....(....) 2003-01-01 , 17:33:33 , 172.29.1.160






.............ขอบคุณครับ...คุณ(....)...........ผมต้องขอโทษด้วยถ้างานเขียนของผมอาจจะทำให้คุณหรือใครๆหลายท่านลำบากใจ.........ผมชอบครับที่ว่าเราทำเพื่อผู้ป่วย......ตอนนี้ผู้ที่เกี่ยวข้องที่ได้เข้ามาอ่านหัวข้อที่มีก่อนหน้าที่และที่คุณเขียนนี้....คงน่าจะเข้าใจง่ายขึ้นว่า"ปัญหา"มันเกิดจากอะไร.......เรียนถามคุณ Phoenix นิดนึงนะครับ...เพราะผมเชื่อว่าคุณจะได้เข้ามาอ่านแน่ๆ......คุณมีทางออกที่ดีกว่านี้หรือไม่?......เห็นไหมหละครับว่า.....การทำเรื่องเพื่อขออะไรสักอย่างๆที่ว่าเนี่ย....มันไม่ได้ง่ายๆ....และ"ปัญหา"มันอยู่ตรงไหน.....จะ"ต้อง"มาลงกระดานข่าวทุกครั้งให้คนอับอายก่อนหรือ?.....ถึงจะแก้ปัญหาอะไรสักอย่างกัน???.....ขอบคุณครับ.........................



Posted by Death() 2003-08-24 , 18:47:28 , 172.29.3.103






แต่ผมไม่ชอบเลยนะ กับคำว่า "แล้วจะให้ทำยังงัย"

เหมือนว่าคุณยอมแพ้ ยอมทุกอย่างแล้ว ปล่อยให้มันเป็นไปของมันเรื่อยๆ

ฟังแล้ว ฮึ่ย..! ไม่เป็น "ลูกผู้ชาย กระทิงแดง" เลย ให้ตายสิ


Posted by ArLim() 2003-08-24 , 20:25:43 , maliwan.psu.ac.th






จะ"ต้อง"มาลงกระดานข่าวทุกครั้งให้คนอับอายก่อนหรือ?.....

ผมตอบได้คำถามนึงครับ เรา "ไม่ต้อง" ลงกระดานข่าวทุกครั้งในการแก้ปัญหาหรอก ไม่มีใครบังคับให้ใครส่งกระทู้ลงที่นี่ ไม่มีใคร "ต้อง" ถูกด่าประจานโดยไม่มีการถูกสอบสวนก่อน ไม่มีใคร "สมควร" ที่จะถูกตัดสินว่าผิดโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการที่ยุติธรรมที่เหมาะสม

คำตอบสั้นๆคือ "ไม่ต้องครับ"



Posted by Phoenix() 2003-08-24 , 21:11:29 , 172.29.3.251






ฉบ.8 คือ พิเศษศัลยกรรม
อย่ามาบอกว่าดูคนไข้ arrest ไม่เป็น
มันต้องดูได้ดีกว่า ward สามัญ ตะหาก
แก้ตัวน้ำขาวขุ่น หี่โธ่

Posted by 77() 2003-08-24 , 21:27:31 , 172.29.3.137






จริงๆแล้วผมถามกลับคุณ Death ได้ไหมครับ? คุณ Death ว่าการแก้ปัญหานั้น "จะต้อง" มาลงกระดานข่าวประจานกันทุกครั้งรึเปล่า?

การพบกันซึ่งๆหน้าทั้งสองฝ่าย และ feedbacl กันโดยใช้เหตุผล หลักฐาน และการควบคุมอารมณ์ออกไป ตัดไอ้พวกกระแนะกระแหนฟุ่มเฟือยออก ดูจะเป็นสิ่งที่ที่เจริญเขาทำกันมากกว่ารึเปล่า? ทำไมต้องด่ากัน แล้วอีกฝ่านก็ต้องออกมาแจงกันบนกระดานสาธารณะ? ความร่วมมือต่อๆไปจะเป็นอย่างไร มีวิธีที่ดีกว่านี้หรือไม่ในการ "ทำงานร่วมกับคนอื่น"

"ติเพื่อก่อ" หรือ constructive criticism นั้นสำคัญ ต้องทำให้เป็น ยกยอปอปั้นนั้นนั้นหมูๆ ใครที่พร้อมจะลดตัวลงไปทำ ก็ทำได้ทันที แต่การตำหนิเพื่อให้คนอื่นเต็มใจที่จะแก้ไขนั้น เราต้องทำผ่าน "ความรู้สึกถูกผิด" ของคนที่เราตำหนิเอง จะ work กว่า ทำให้เขาหรือเธอมองเห็นเองว่ายังสามารถที่จะแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นอีกได้ แต่การด่าประชดกระแนะกระแหนแดกดันนั้น ไม่ได้อยู่ในกระบวนการนี้ครับ รังแต่จะยั่วยุให้คน "เกิดอารมณ์" พอเกิดอารมณ์ "เหตุผล" ก็ปลิวออกนอกหน้าต่างไป ถ้าใครคิดว่าจะด่าจนคนนับถือมาได้ ก็ขอให้ลองไปเรื่อยๆก็แล้วกัน ไม่มี RCT ครับ แต่สงสัย interim จะต้อง terminated because of casualties ซะก่อน



Posted by Phoenix() 2003-08-24 , 21:41:34 , 172.29.3.220






ท่านผู้มีเกียรติ
ตอบเป็นข้อๆ

ที่บ่นกันเรื่อง หอผู้ป่วยพิเศษบางที่มีเครื่องมือไม่พร้อมบ้างหล่ะ เจ้าหน้าที่ขาดประสบการณ์ในการทำหัตถการบ้างหล่ะ อยากทราบว่า ถ้าเกิดเป็นตัวเองบ้างจะเป็นอย่างไร
-ก็เตรียมเครื่องมือให้พร้อมไว้สิ มันเป็นหน้าที่ไม่ใช่หรืองัย
-ขาดประสบการณืก็ไปหาประสบการณ์ที่ร.พ.ชุมชนซัก 10 ปีก่อนไป
-ถ้าเป็นตัวเอง จะยอมรับผิดและปรับปรุงตัว ไม่ใช่มาแก้ตัวน้ำขุ่นๆ

เครื่องมือบางอย่างที่นานๆใช้สักครั้ง อย่างEKG หรือเครื่องมืออื่นๆใช่ว่าใครไม่อยากจะมีไว้หละ แต่ไม่ผ่านการอนุมัติให้มีแล้วจะให้ทำยังงัยกัน ไม่ใช่ไม่เดือดร้อนแต่ในเมื่อผู้หลักผู้ใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการมีไว้ เรามันก็แค่คนตัวเล็กๆ จะไปทำอะไรได้
-เขียนรายงานไปสิ ชอบกันไม่ใช่หรือไง ทำไมบาง ward มีบาง ward ไม่มี พิเศษศัลยกรรมไม่ต้องมีหรือไง

อีกอย่างเรื่องขาดประสบการณ์อยากถามว่า ห้องพิเศษหนะ เดือนๆนีงมี case arrest สักกี่รายกัน ลองมานึกถึงตัวเองบ้างนะถ้าคุณเป็นหมอภาคอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับคนไข้หนักนานๆจะมาใส่tube สักทีคุณจะไม่exitationบ้างเลยเหรอ?
-ทำงานกันมากี่ปีแล้ว? จะมัวอ้างอะไรอีก ทำไม่ได้ excite นักก็ย้ายไปซะ

เรื่องที่ERไม่มีCOLLAR / PHELADELHIA ประจำไว้ ใช่ว่าเราไม่อยากจะมีนะ เราเองก็อยากจะมีประจำไว้ การทำงาน เราเองก็ยึดหลัก BASIC LIFE SUPPORT เช่นกัน และได้ทำเรื่องขออนุมัติไปตั้งหลายครั้งแต่ผลที่ได้รับกลับมาคือ SAY NO แล้วจะให้ทำยังไง เหตุผลที่ไม่ผ่านการอนุมัติเพราะ ทางภาควิชามีความเห็นว่าการใส่ collar หรือ pheladelphia จำเป็นต้องใส่โดยแพทย์ที่มีความชำนาญเฉพาะเท่านั้น หมอERไม่สามารถที่จะใส่ได้ ต้องเป็นหมอ ORTHO หรือ NEURO Sx เท่านั้น
-คุณ phoenix ชี้แจงด้วย

ขระที่รอหมอเราก็ stabilite ด้วยขวดนำเกลือไปก่อน ป่าก็ป่าเถอะเราก็พยายาม safe นะ ถ้าหมอต้องการเราก็สามารถยืมให้ได้ ขอบคุณพยาบาล TRAUMAที่ให้ER เป็นที่พึ่งให้ได้หยิบยืมเกือบทุกครั้งไป(บางทีเราก็ไม่คืนเพราะอยากมีเผื่อไว้ จะได้ไม่โดนใครบางคนวีนเอา)
-ทำไมที่ trauma มี ER ไม่มี งงมั๊ย เด็กมันยังรู้เลยว่าที่ไหนจำเป็นต้องมีมากกว่า

Posted by Domperidone() 2003-08-24 , 21:47:17 , 172.29.3.137






ขอโทษนะครับคุณ Domperidone ผมไม่ชำนาญในการแยกอันไหนประชดอันไหนเป็นคำถาม อันไหนเป็นการแดกดัน หรืออันไหนเป็นสิ่งที่คุณได้กลั่นกรองช่วยขบคิดดีที่สุดแล้วออกมาเป็นข้อแนะนำ สงสัยเป็นเพราะยังไม่คุ้นกับสำนวน ช่วยเรียบเรียงใหม่ได้ไหมครับ เดี๋ยวจะตอบจริงๆตรงถามเล่นๆ หรือตีความบางอย่างไม่ตรงจะสับสนซะเปล่าๆ



Posted by Phoenix() 2003-08-24 , 21:54:50 , 172.29.3.220






.............ผมตอบนะครับว่าไม่ต้องมาลงเพื่อแก้ปัญหาทุกครั้งหรอกครับ....เพราะส่วนใหญ่นี่ผมก็ลุยของผมเองตามยถากรรมอยู่แล้ว...โดนเกลียดบ้าง....โดนเขียนรายงานบ้าง.....ไม่จำเป็นต้องมาลงกระดานข่าวทุกครั้งหรอกครับ.....อีกอย่างที่ผมจะบอกนะครับ.....ไอ้ปัญหาทั้งหลายที่มานั่งเถียงๆกันเนี่ย....มันแค่"เศษเสี้ยว"ของปัญหาเท่านั้นครับ.....ถ้าคุณคิดว่านี่เยอะแล้ว.....บอกได้เลยครับว่าไม่ใช่......ถามว่าผมพอใจที่คุณ(...)ออกมาชี้แจงไหม....ผมพอใจครับ.....อย่างน้อยเค้าก็กล้าเขียนว่าได้พยายามทำแล้ว.....แต่"ไม่อนุมัติ"........คุณลองดูปัญหาง่ายๆแค่ Collar ก่อนแล้วกันครับ......ผมโวยวายมาตั้งแต่ผมเป็น Intern แล้ว.....ไม่เห็นได้อะไร....ผู้เกี่ยวข้องออกมาบอกเองแล้วว่า"ไม่อนุมัติ"......แล้วทำไมพอลงกระดานข่าว.....อะไรๆมันดูง่ายขึ้นเหรอ?........คุณคิดว่าไงหละครับ?........การมานั่งคุยกันนี่ไม่ดีเหรอ?........ไม่หรอกครับ....ผมว่าถ้าได้คุยกันนี่ดี....แต่!!....คุณก็เห็นแล้วว่าตอนที่มานั่งคุยกันเรื่อง ER ที่คุณอยู่ด้วยนะ.....ได้อะไร???.....ผมจะต้องยอมโดนหลอกอีกกี่ครั้งกัน?......ผมถามคุณสักนิดดีกว่า.....คุณรู้สึกอย่างไรกับคำว่า"ไม่อนุมัติ"กับ Collar ที่"จำเป็น"ต้องมีที่ ER เนี่ยครับ?................



Posted by Death() 2003-08-24 , 21:58:02 , 172.29.3.103






คำตอบง่ายที่สุดก็คือผมต้องการรายละเอียดมากกว่านี้ก่อนที่จะตีโพยตีพายว่าระบบล้มเหลว ความยุติธรรมไม่มีบนแผ่นดิน แล้วประกาศตนเป็น anarchist ทำอะไรทุกอย่างนอกระบบตั้งแต่นั้นเป็นต้นไป

นั่นคือเราต้องการ "คำอธิบาย" อย่างที่คุณ Death ได้บางส่วนจากคุณ ...แล้วก็พอใจ ถึงบางอ้อนั่นแหละครับ ไม่ว่าเหตุผลจะเป็นเพราะ trauma ซื้อมาแล้วและพร้อมที่จะให้ยืม ตรงกับนโยบายความยืดหยุ่น resource หรือเป็นเพราะ spec ที่ต้องการยังไม่มีและทราบว่ากำลังจะมีในอนาคตอันใกล้ หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ผมยัง "ไม่รู้สึกอะไร" กับคำ "ไม่อนุมัติ" เฉยๆหรอกครับ ผมเชื่อว่าผู้บริหารไม่ว่าที่ไหนก็ตามคงจะ "ไม่อนุมัติ" โดยไม่มีเหตุผล แต่นโยบายที่ผู้บริหารลงมาชี้แจงทุกครั้งที่ "ไม่อนุมัติ" นั้น ผมไม่แน่ใจว่าแพร่หลายขนาดไหน

ส่วนการที่ collar ดูจะได้มาง่ายๆตอนนี้ จะสรุปว่าเพราะกระดานข่าว ก็จะเป็นการสรุปแบบเดียวกับที่ถามผมว่ารู้สึกอย่างไรกับคำไม่อนุมัติแหละครับ คือเหตุผลที่จะสรุปคงมีได้หลายอย่าง เช่น ถามถูกคน คนที่ถามมีเวลาวินิจฉัยตอนที่ถาม ของที่ต้องการมีขาย ฯลฯ

การด่วนสรุปนั้น เป็นอันตรายต่อการ "สรุปผิด" แถมการเข้าใจผิดและเกิดปรัชญาการดำเนินชีวิตใหม่จากการเข้าใจผิดอันนั้น สามารถเรียกได้ว่าเป็นอะไรที่ไม่คุ้มเอาซะเลย คุณ Death ลอง "สมมติ" ดูนะครับว่า ถ้า โลกชีวิตรัดทดที่คุณ Death ประสบมานั้นแล้วทำให้เป็นคนต่อต้านระบบ ไม่เชื่อในความยุติธรรมจนบัดนี้ จริงๆแล้วเป็น "ความเข้าใจผิด" ตั้งแต่ต้น จะเป้นเรื่องที่น่าเสียดายขนาดไหน? ไม่ต้องคิดมากนะครับ แค่สมมติเฉยๆ



Posted by Phoenix() 2003-08-24 , 22:17:50 , 172.29.3.220






.................ผมทราบอยู่แล้วเรื่องการดำเนินการเรื่อง Collar.....ผมไม่ได้เพิ่งมาถึงบางอ้อ.........แต่ผมพอใจและดีใจ...ที่ผู้เกี่ยวข้องได้กล้าที่จะเข้ามาเขียน....ไม่ได้มีแต่พวกผมมาตะโกนโหวกเหวกเป็นไอ้บ้าอยู่ฝ่ายเดียว......:D....:D

..............ส่วนเรื่อง Collar นั่นนะ......ไม่รู้สินะครับ....ทำไมผมชอบคิดว่าใครๆก็น่าจะคิดได้ว่าของที่"จำเป็น".......สำหรับ"ผู้ป่วย"เนี่ย......"ไม่อนุมัติ"............อือออออออออออ............ได้ยินแล้วพูดไ่ม่ออกเลยครับ.................ถ้าผมขอซื้อเพื่อ"ใส่เอง"หรือเอาไปแจกจ่ายเพื่อหาผลประโยชน์ใส่ตนแล้วเนี่ย.....มันคงไม่น่าอนุมัติหรอก......แต่นี่มันของ"จำเป็น"สำหรับผู้ป่วยนะ......ใช้"อะไร"คิดเนี่ย????.............................เอาเถอะ......ไม่ต้องตอบคำถามนี่ผมหรอกครับ.....อย่างที่คุณว่านั้นหละ.....เราต้องการ"คำอธิบาย".........ซึ่งผู้ที่จะตอบได้ก็คือผู้ที่"ไม่อนุมัติ"นั่นหละ.........จะมาตอบหรือเปล่านี่ผมก็รออยู่นะ..............เฮ้ออออออออออออออออ..................ผม"อาจจะ"ไม่มีค่าพอที่จะได้รับฟังคำตอบก็ได้ครับ............................

.........ส่วนโลกรันทดของผม......ไม่ใช่ความเข้าใจผิดอย่างแน่นอน......ผมเสียใจไหม........ผมเสียใจครับ.....ถ้าเรื่อง"บางเรื่อง".......ไม่เกิดกับผม......ผมอาจจะมองอะไรๆในโลกนี้ดีกว่านี้ก็ได้ครับ................................



Posted by Death() 2003-08-24 , 22:40:01 , 172.29.3.103






พระพุทธเจ้าท่านเคย "เข้าใจผิด" อยู่หกปีคิดว่าทรมานกายนั้นเป็นหนทางบรรลุได้ แต่ท่านก็มีมานะที่จะเปิดทฤษฎีใหม่มาอธิบายแล้วพบว่าดีกว่าของเก่า เสร็จแล้วก็สั่งสอนเรามาสองพันหาร้อยกว่าปี

ฉลาดคงฉลาดแน่ แต่กล้ากลับลำเมื่อพิจารณาแล้วว่าเดินทางผิด นั่นคือมหาบุรุษ และแยกท่านออกจากบรรดาฤาษี อาจารย์เก่าของท่านที่บำเพ็ญภาวนามาก่อนหลายสิบปี

"ความเข้าใจผิด" ของคนเรานี่ ไม่ง่ายหรอกครับที่จะค้นเจอ หรือค้นเจอแล้วจะยอมรับ อวิชชามันหนาและรวมเป็นหนึ่งกับ self defense mechanism อย่างไรก็ดี ผมอยากจะเสนอว่าขณะที่โลกของคุณ Death ไม่มีความยุติธรรมหรือความดีของระบบอยู่เลยนั้น แต่ดันมีคนอีกหลายๆคนนะครับที่ยังเชื่อเรื่องไร้สาระพันธุ์นี้อยู่ ไม่ทราบว่าบรรดาคนเหล่านั้นจะรวมคนที่คุณ Death เคารพนับถือ หรือพอจะเชื่อฟังอยู่บ้างรึเปล่า ลองๆไปซักถามพูดคุยดูบ้างก็ดีนะครับ บางทีเราอาจจะพบว่าประสบการณ์ที่ต่างกันออกไปสักสิบปีนี่มัน rechape ความคิด และเกิด paradigm shift ได้อย่างมีนัยสำคัญ คำว่า "แน่นอน" นั้น ยิ่งอายุมาก ยิ่งเรียนเยอะ ยิ่งพูดน้อยลงไปเรื่อยๆครับ ถ้าตราบใดเรายังพูดว่าอะไร "แน่นอน" บรรทัดเว้นบรรทัดได้ ก็ดีใจได้ว่าเรายังเป็นวัยรุ่น ยังเด็กอยู่



Posted by Phoenix() 2003-08-24 , 23:08:19 , 172.29.3.220






พระพุทธเจ้าเปรียบดอกบัว 4 เหล่า
อุคติตัญญู วิปติตัญญู เนยยะ ปทปรมะ
พวกเราจะเป็นพวกกลุ่มไหน
ทุกปัญหามีทางออกเสมอ ไม่ใช่ทุกทางออกมีแต่ปัญหา
ดังนั้นการแก้ไขปัญหาโดยใช้ปัญญาพึงกระทำ
ในหมู่ทีได้ชื่อว่าปัญญาชนพึงใช้ปัญญาไตรตรองอย่างรอบคอบ

Posted by ระงับภัย() 2003-08-24 , 23:36:40 , ppp20315428-214.haty






...............HAHAHAHA............เออ.......จริงเลยครับ....ผมยังใช้คำว่าแน่นอนอยู่เลย..........HAHAHAHA...........:D....:D...:D.......เฮ้ออออออออออ........เอาไว้ว่างๆผมจะไปขอคำปรึกษาจากคุณ Phoenix ในโลกแห่งความจริงแล้วกันนะครับ.......แต่คงไม่ใช่ไอ้ชีวิตรันทดของผมนี่หรอกครับ.....ปรึกษาเรื่องทำวิจัยครับ.....อีกไม่นานนี่หละครับ......HAHAHAHA........:D...:D
................ผม"ไม่ชอบ"สิ่งที่ผมเป็นเท่าไหรนัก.....แต่ความอยุติธรรมในสังคมคือสิ่งที่กระตุ้นให้ผมอยู่มาจนถึงขั้นนี้.........ผมเคยมองย้อนกลับไปว่าถ้าชีวิตผมดี....ไม่เคยเกิดอะไรเลวร้ายขึ้น......ผมคงไม่ได้มานั่งพิมพ์ข้อความเหล่านี้อยู่หรอกครับ.....ความ"เจ็บปวด"และ"เสียใจ"เป็นส่วนหนึงของชีวิตผมไปแล้ว......ผม"ไม่ชอบ"มันหรอกครับ....แต่ผมก็"ไม่เกลียด"มัน......เพราะถ้าไม่มีมันก็ไม่มีผมในวันนี้......แต่จริงครับ....ที่ผม"ไม่จำเป็น"ต้องแบกมันไว้ตลอดไป.................:D



Posted by Death() 2003-08-24 , 23:38:28 , 172.29.3.103






ผมเห็นด้วยกับคุณ Phoenix ครับ พระพุทธเจ้าท่านเข้าใจผิดอยู่หลายปี ระหว่างนั้นท่านก็คงคิดว่าความคิดท่านถูกแท้แน่นอน แล้วตกลงที่คุยกันสองคนนี่ใครเป็นคนเข้าใจผิดครับ ผมเป็นเพียงมนุษย์ตัวเล็ก ๆในจักรวาล สติปัญญาน้อยนิด ก็เลยไม่รู้ว่าใครเข้าใจผิดกันแน่ แต่พอจะเดาได้ว่า ถ้าไปยืนอยู่ที่เดียวกับคุณ Phoenix ผมก็ว่าผมถูกแน่นอน แต่ถ้าไปยืนที่คุณ Death ผมก็ไม่ผิดเช่นกัน

-ถ้าผมมี วว.ศัลยศาสตร์ มี PhD ต่อท้าย มีโต๊ะทำงานอยู่ชั้นหนึ่ง แล้วผมยกหูโทรศัพท์ หรือเขียนรายงานถึงใคร ผมว่าก็ต้องมีคนฟังเป็นเรื่องธรรมดา ถึงตอนนั้นผมคงไม่เข้าใจว่าวิธีการอย่างนี้จะไม่ได้ผลได้อย่างไร

-เอาใหม่ ถ้าผมเป็นเพียง Resident ผู้น้อย เข้าประชุมครั้งแล้ว ครั้งเล่า ชี้แจงกันด้วยเหตุผลจนคนบางคน ยอมรับและรับปากว่าจะแก้ไข แต่ไม่ได้ทำตามที่รับปากไว้ ผมจะเชื่ออีกใหมว่า ไอ้การพูดคุยกันดี ๆ มันจะได้ผล

คนเรามองโลกและตีความตามประสบการณ์ที่ผ่านมา
คุณ Phoenix ครับ เชื่อเถอะครับว่าโลกไม่ได้สวยงามอย่างที่จินตนาการไว้ ( แต่ผมไม่เถียงนะครับว่าเรากำลังหาทางให้มันดีขึ้น )
คุณ Death ครับ โลกไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด ถ้าเหนื่อก็พักบ้างก็ได้ หลับสักตื่น แล้วเราจะผ่านเรื่องร้าย ๆ ไปได้เอง อย่างที่เขาว่า "วันเวลาจะรักษาใจเราเอง"

ถ้าไม่เข้าใจ ก็ Shut down Computer แล้วเดินไปที่ระเบียง แหงนหน้ามองฟ้า ดูดวงดาวและจักรวาลที่กว้างใหญ่ ไพศาล บางทีอาจทำให้ ตัวตนของเราเล็กลงก็ได้

สุดท้าย....

Take It Easy



Posted by Dhan() 2003-08-25 , 00:40:29 , 172.29.3.208






ถ้าออกไปมองเลยตอนนี้จะเห็นกลุ่มดาวแมงป่อง ( scorpion ) ครับ สวยงามมาก


Posted by megumi() 2003-08-25 , 01:12:41 , 172.29.3.137






บางที แคต่วิธีการปกติ อาจไม่ช่วยแก้ปัญหา
พระพุทธเจ้ายังค้นพบทางสายกลาง
ไฉนเลยที่ผู้น้อยจะค้นพบทางสายใหม่บ้างไม่ได้
....ด้วยประสบการณ์ชีวิตอันน้อยนิดครับ

Posted by ArLim() 2003-08-25 , 01:43:10 , netturbo2.cscoms.com






ถ้าคุณ Dhan มองกลับไปดูอีกทีถึงสิ่งที่ผมเขียน จะทราบว่าต่อให้เป็นชาวบ้าน หรือ เด็กที่ไหนก็ได้มาอ่านสิ่งที่ผมตอบ เขาพอจะ "เข้าใจ" ว่า "ทำไม" ผมถึง "คิด" แบบนั้นๆ ไม่ต้องทราบว่าผมเป็นใคร หรือทำอะไรมาบ้างหรอกครับ

ผมเคยพูดอยู่เสมอว่าอภิปรายบนนี้น่ะ (กระดานข่าว) ให้โยน identity, personality ทิ้งไปได้เลย เป็นลานความคิด และเหตุผลครับ ผมไม่คิดจะแบะเอาปริญญาบัตร เกียรติคุณ หรือความแก่มาเบ่งให้คนอื่นเชื่อผมหรอก ดังนั้นผมไม่ใคร่จะสรุปหรือ "ตีค่า" ความเห็นผมให้ฟัง ผมยกยอดให้เป็นประโยชน์ของผู้อ่าน แล้วคุณ Dhanก็สรุปเอาเองจากความรู้เดิม (PBL-liked) และสิ่งที่ได้อ่านใหม่ จึงตัดสินใจว่าจะเอายังไงดี ผมเองจะเศร้าใจมากหากมีใครจะเชื่อเพียงเพราะผมบอกให้เชื่อ เป็นเพระผมโทรมาจากชั้นหนึ่ง เป็นเพราะข้างฝาผมแขวนอะไรไว้บ้าง เพราะนั่นแปลว่าผมล้มเหลวในการนำเสนอหรือความพยายามในการจูงใจให้ "คิด" อย่างสิ้นเชิง

ผมคงจะมีความมั่นใจหรือความเชื่อในสิ่งที่ผมพูดอยู่ระดัลบหนึ่งครับคุณ Dhan แต่ผมรำลึกอยู่เสมอว่าคนอื่นไม่ได้มี Background มาก่อนเหมือนๆกันพอที่จะเชื่อในสิ่งที่ผมเชื่อ ดังนั้นเวลาผมเสนอความคิด มันจะมากับหลักการและเหตุผลเสมอ ผมทำยังนี้มาตั้งแต่ผมเป็นแพทย์ใช้ทุนแล้วครับ คนฟังก็ดูจะคล้อยตามดีไม่ว่าจะเด็กแก่ ฉลาดโง่อย่างไร

ผมไม่เคยบอกหรอกนะครับว่าโลกที่ผมจินตนาการไว้สวยงามแค่ไหน แตผมย้ำอยู่เสมอว่าโลกที่ผม "อยากและหวัง" ให้ลูกผมโตมานั้นเป็นแบบไหน และผมเชื่อว่าโลกใบนั้นเราต้อง "สร้าง" มาครับ ไม่ใช่อยู่เรื่อยเปื่อยแล้วมันจะเกิดขึ้น หรือไม่เคยคิดจะหวัง จะดัดแปลงให้มันดีขึ้น สิ่งเหล่านี้ถ้าเราเคยตั้งความหวังไว้ ใครๆก็คิดได้ หวังได้ ความหวังเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เรารุดหน้า อายุยังไม่ทันสามสิบดีแต่หมดหวัง หมดสมรรถภาพ หมดศรัทธาในหลักการและเหตุผลจะเป็นเรื่องน่าเศร้ามาก IMHO



Posted by Phoenix() 2003-08-25 , 03:34:53 , 172.29.3.220






I M H O นี่มันหมายความว่าอย่างไรครับ

...โอย รายงานยังไม่เสร็จเลย คุณ Phoenix อยู่ดึกอย่างนี้ ตื่นเช้าไหวหรือครับ

Posted by ArLim() 2003-08-25 , 04:44:53 , netturbo2.cscoms.com






............ความหวังเป็นสิ่งที่ดี.......ที่อยากทำให้เรายังคิดที่จะมีชีวิตอยู่......เพื่อที่จะมีชีวิตที่ดีกว่านี้.....เพื่อที่จะไม่ต้องมานั่งเสียใจแบบนี้ไปเรื่อยๆ....เพื่อคาดหวังว่าสักวันสิ่งเลวร้ายเหล่สนี้จะจบสิ้นลง........เพื่อที่จะได้มีชีวิตโดยที่ไม่มีใครมาคอยดูถูกเหยียดหยามอีก..............แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงคือเราแทบจะไม่มีทางกำจัดคนเลวๆและสร้างโลกที่ดีขึ้นมาได้............นั้นคือคงน้อยสำหรับโอกาสที่โลกจะสวยงามและดีงามแบบในอุดมคติที่เราวาดหวัง.........แม้ว่าตายไปแล้วบางทียังอาจจะไม่ได้เจอโลกแบบนั้นด้วยซ้ำ..........สิ่งที่ผมได้เรียนคือว่าถ้าเรากำจัดคนเลวไม่ได้.........เราต้องเรียนที่จะอยู่ด้วยกันและควบคุมไม่ให้บุคคลเหล่านี้มายุ่งวุ่นวายกับชีวิตเรามากนัก.........มันดีครับที่เราจะหวังและเราจะพยายามสร้างมันขึ้นมาให้ได้....แต่บางทีต้องยอมรับว่ามันไม่ง่ายหรอกครับ.....ถ้าคิดว่าผมหรือใครๆในนี้สิ้นหวังกับชีวิต.........ตอบได้เลยครับว่าไม่.....แต่ละคนมีความหวังที่จะนำพาชีวิตให้ดำเนินไป........ผมยอมรับว่าสิ้นหวังกับการแก้ไขอะไรตรงนี้.......แต่ผมไม่สิ้นหวังกับชีวิตที่เหลือของผม...........มีอะไรทีผมต้องทำอีกเยอะครับ.........ผมจะรอดูครับ......ว่าสิ่งที่คุณ Phoenix วาดหวังจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ที่สถานที่แห่งนี้..........ผมอาจจะไม่มีหวังที่จะร่วมสร้างมันขึ้นมากับคุณ........แต่ผมจะไม่ขัดขวางความเจริญใดๆของที่นี่หรอกครับ........อย่างที่คุณ Phoenix ว่าถ้าเราแก่ลงแล้วมานั่งย้อนดู......อาจจะตลกกับสิ่งที่เราทำอยู่.......เช่นเดียวกันเราอาจจะนั่งเสียใจกับสิ่งที่เราเคยทำมาแล้วเช่นกัน.........ผมอาจจะไปสำนึกเสียใจตอนแก่ว่า.....เราน่าจะพยายามมากกว่านี้.......แต่ก็เช่นเดียวกัน....ผมอาจจะนึกก็"ด้ว่า....นี่เราเสียเวลาทำอะไรมาทั้งชีวิตเนี่ย?..........ถ้าเราใช้เวลาที่ผ่านมาไปทำประโยชน์อย่างอื่นจะดีกว่าไหม?............เฮ้อออออออออออออออออออ



Posted by Death() 2003-08-25 , 05:03:19 , 172.29.3.137






IMHO = In My Humble Opinion



Posted by Phoenix() 2003-08-25 , 18:09:59 , 172.29.3.231






ยอมรับได้ไหมถ้ามาเถียงกันซึ่งๆหน้า (โดยใช้เหตุผล)
แล้วเรายังจะมองหน้ากันติด แล้วไม่รู้สึกกินแหนงแคลงใจ
ผมไม่เคยไปเมืองนอก แต่จากสื่อที่ผ่านหูผ่านตา
(ถามคนเคยไปบ้างดิ)
ผมว่า ชาวตะวันตก แฟร์นะ ด่าๆ เถียงกันเรื่องงาน แล้วก้อไปกินข้างต่อกันได้
แล้วคนไทยทำได้อย่างนี้ไหม ผู้ใหญ่ทำได้อย่างนี้ไหม
โดยไม่หลอกตัวเองว่าทำได้ โว้....
โธ่เอ้ย ถ้าได้จริงผมก้อว่า ไม่มีใครอยากลงกระด่านข่างหรอก
แต่ก้อรู้กันอยู่ ไม่มีทาง และตายแน่ ER อยู่แค่นี้ก้อไปไม่ทันหรอก อิอิ


Posted by โอ้โห() 2003-08-25 , 21:22:22 , 172.29.3.138






คนไทยทำได้แน่นอนครับ คนไทยก็เป็นคนธรรมดาที่สามารถควบคุมสติสัมปชัญญะและมีการศึกษาที่ดีพอจะทำอย่างที่คุณโอ้โหว่า ฝรั่งมันไม่ได้เป็นคนดีเด่อะไรนักหรอกครับ psychopath ก็เยอะ

ผมเชื่อว่าเนื้อหา (ส่วนที่เป็นเนื้อหา) นั้นน่าสนใจ และสมควรทำให้เป็นเรื่องเป็นราวนำเสนอไป แต่ส่วนประชดประชัน และใช้ภาษาบางรูปแบบนั้น ฝรั่งที่คุณโอ้โหชื่นชมว่าเหนือกว่าคนไทยนั้นมันก็ไม่เอาด้วยเหมือนกันครับ

อีกประการที่คนตะวันออกเหนือกว่าฝรั่งคือเรื่องสัมมาคารวะครับ ฝรั่งมันเดินถากหัวครู เอาเท้าพาดเก้าอี้เลคเชอร์กระดิกตีนใส่หน้พ่อแม่ตัวเองก็ทำได้ แต่ "คนตะวันออก" เราไม่ทำอย่างนั้นกับผู้ใหญ่



Posted by Phoenix() 2003-08-25 , 22:19:24 , 172.29.3.231






ด้วยความเคารพครับคุณ Phoenix
1 สิ่งที่ผมต้องการชี้ก็คือ ทั้งคุณ Phoenix และ Death ถูกทั้งสองฝ่าย ผมไม่รู้ว่าถูกต้องสัมบูรณ์คืออะไร รู้จักแต่ถูกต้องสัมพัทธ์ ซึ่งต้องหามาตรฐานมาวัด คุณ Phoenix ก็ถูกในมุมของคุณ ในขณะเดียวกัน Death ก็ถูกในมุมและมาตรฐานของเขา ไม่เคยจะคิดว่าใครผิดเลย แต่ในยามที่อุณหภูมิเริ่มร้อนก็อยากให้ถอยกันคนละก้าว แล้วค่อยคุยกันใหม่
2 การยกตัวอย่างสถานะของคนสองคนมา เพื่อชี้ให้เห็นว่า บ่อยครั้งที่ " ทำอะไร ไม่สำคัญเท่าใครเป็นคนทำ" การกระทำเดียวกัน คำพูดเดียวกัน แต่ออกมาจากคนที่ต่างกันก็อาจให้ผลต่างกัน ด้วยความสัตย์จริงครับ ไม่เคยคิดว่าคุณ Phoenix เอาปริญญาบัตร ไปเบ่งกับใครให้เชื่อ แต่ความน่าเชื่อถือนั้นมันติดอยู่กับภาพของคนพูดอย่างแยกแยะไม่ออก ไม่งั้นจะมีกฎหมายให้ Chief เป็นคนรายงาน Case หรือครับ
3 ถ้าถามว่าวิธีการใหนถูกและควรทำ แน่นอนว่าการเขียนรายงาน หรือการพูดคุยกัน ย่อมเป็ที่ยอมรับของสังคมมากกว่า แต่ก็ไม่ควรปฎิเสธวิธีอื่นด้วย เลือดไหลจากปลายนิ้วเข้าสู่หัวใจยังมีตั้งหลายเส้นทาง แล้วทำไมการทำให้บรรลุวัตถุประสงค์ของเราจะต้องติดกับเส้นทางใดทางเดียวด้วย

ด้วยความเคารพครับ หากข้อความข้อความของผมทำให้เกิดความเข้าใจผิดจนต้องขุ่นข้องหมองใจ ผมเสียใจ และ "ขอโทษครับ"

สุดท้าย
"ทำไมต้องเอากิ่งถั่วมาทำฟืนต้มถั่วครับ"



Posted by Dhan() 2003-08-25 , 23:40:28 , 172.29.3.239






ผมนี้ติดตามพี่ Dhan มาตั้งแต่ใช้ชื่ออื่นในกระดานแห่งอื่น
รู้สึกชื่นชมคารมและการตอบกระทู้ต่างๆมาโดยตลอด
รู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่ผมเองนั้นคิดอยู่เช่นกัน แต่ไม่ใคร่จะถนัดที่จะเขียนให้ออกมาได้ดั่งใจ
ครานี้เป็นอีกครา ที่พี่ Dhan ได้แสดงความเห็นแบบยัดเข้าในใจผมเลยทีเดียว

ด้วยความเคารพครับพี่ Dhan
มันสุดซึ้งจริงๆเล้ยพี่


Posted by กะหลั่วเป็ด() 2003-08-26 , 00:02:55 , 172.29.3.229






.........ชอบข้อ 3 ครับพี่ Dhan........"สิ่งที่เราเชื่อว่าดีที่สุด....อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องและนำมาปฏิบัติเสมอถ้าเรามีทางลัดอื่นที่สามารถให้ผลที่เหมือนกันได้".......ซึ้งมากเลยครับพี่ Dhan.......คืนนี้ผมนอนหลับแล้วครับ...(จะนอนไปทำไมอีก....เมื่อคืนก็นอนตั้งเยอะปล่อยให้พี่ Dhan ลำบาก.....แฮะแฮะ..).....:D..:D



Posted by Death() 2003-08-26 , 00:54:43 , 172.29.3.240






ผมเกรงว่าตรรกศาสตร์ของคุณ Dhan อาจจะมีส่วนของ generalizing อยู่พอสมควรรึเปล่า? ขออนุญาตนะครับ

ไม่เคยจะคิดว่าใครผิดเลย
ประเด็นนี้อาจจะเป็น controversy นะครับ แน่ใจนะครับว่าที่ผ่านมาเป็นกระทู้ที่บ่งชี้ว่า "ไม่มีใครผิดเลย"?

ไม่งั้นจะมีกฎหมายให้ Chief เป็นคนรายงาน Case หรือครับ
เหตุผลของ chief รายงาน เป็นเพราะ "ความรับผิดชอบ" ครับ ศัลยแพทย์ก่อนจะจบจะต้องผ่านขั้นตอนที่สั่งสม "ความรับผิดชอบ" ซึ่งรวมไปถึง "ความเป็นผู้นำทีม" ความเป็นผู้นำทีมซึ่งรวมไปถึงศิลปการทำงาน "ร่วมกับผู้อื่น" ลองพิจารณาอีกครั้งถึงองค์ประกอบที่สำคัญของการทำงานร่วมกับผู้อื่นนะครับว่าหัวหน้าทีมนั้นควรจะมี "จุดยืน" ที่ตั้งอยู่บนหลักการและเหตุผล หรือตั้งอยู่บนเจตคติที่ว่าระบบนั้นล้มเหลว ไม่สามารถจะพึ่งได้
ผมเองนั้นคิดว่า ผู้ร่วมงานอยากจะสามารถเดาใจผู้นำทีมได้ว่า เขาจะตัดสินใจอะไรๆโดยมีพื้นฐานจากอะไร และอะไรคือวิธีการแก้ไขปัญหา และวิธีนั้นให้ความยุติธรรมแก่ผู้ร่วมทีมขนาดไหน ผมเกรงว่าเราอาจจะต้องพิจารณากันไหมว่ามันมีนัยสำคัญต่อบุคลิกการเป็นศัลยแพทย์มากน้อยเพียงไรในเรื่อง "ความเป็นผู้นำทีม"
การยึดมั่นในหลักการว่าใครก็ตามยังไม่ผิดจนกว่าจะมีโอกาสได้ถูกสอบสวนตามขั้นตอนนั้นเป็น concept ของกฏหมายทั่วโลกในประเทศที่อิงอยู่บนระบอบประชาธิปไตย ยกเว้นก็ประเทศ dictatorship communist แหละครับที่ police-judge-executor รวมอยู่ในคนๆเดียว
แม้แต่คนที่ "ผิดจริง" ก็ไม่สมควรที่จะถูกด่าประจานในที่สาธารณะ ถ้าเราคิดว่าเราต้องการให้เขากับเราทำงานด้วยกันต่อไป อยู่ในทีมเดียวกันต่อไป ในฐานะของ "ผู้นำ" เราต้องเปิดโอกาสให้คนมีโอกาสแก้ตัว มีทางถอย และตั้งหลัก และปรับทิศทางใหม่ ซึ่งอันนี้มันไม่ไปด้วยกันกับการประจานครับ มันเหมือนการเปิดศึกเอากันให้ตายไปข้างหนึ่ง เอากันให้อับอายขายหน้าไปข้างหนึ่ง

แล้วทำไมการทำให้บรรลุวัตถุประสงค์ของเราจะต้องติดกับเส้นทางใดทางเดียวด้วย
ถ้าทางเลือกนั้นลดลงมาเหลือที่มีมีประโยชน์และโทษพอๆกัน เราก็มีสิทธิ์ และสามารถเลือกอะไรก็ได้ครับ "แต่" ไม่ก่อนที่พิจารณาถึงผลบวกและลบ ผลกระทบต่อบุคคลที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ถ้าทางหนึ่งบรรลุวัตถุประสงค์ แหมายถึงคนทั้ง ward ถูก "ตราหน้า" และประจาน" ผมว่าเราอาจจะด่วนสรุปไปนิดนึงไหมว่ามันเป็นเพียงแค่ "อีกทางหนึ่ง" แค่นั้น?

เถาถั่วเป็นเชื้อเพลิงเผาผลาญถั่ว ไยจึงต้องเผาผลาญรุนแรงถึงปานนั้น ถ้าจะให้ครอบคลุมอย่างที่ในสามก๊กว่าไว้ก็น่าจะรวมพยาบาลอยู่ใน "ตระกูลถั่ว" ของเราด้วยหรือไม่? หรือว่าการสาธารณสุขเป็น priviledge ของตระกูลแพทย์เท่านั้นครับ?



Posted by Phoenix() 2003-08-26 , 01:04:56 , 172.29.3.231






จากที่ได้อ่านมาทั้งหมดนั้น คนที่ผมรู้สึกได้ถึงความไร้วุฒิภาวะแฉกเช่นผู้ที่ได้รับการศึกษา นั่นก็คือคุณ Domperidone ใช้คำพูดอย่างคนพาลที่สุด ฟังดูแล้วรู้สึกสลดเหลือเกินที่สถานบันอันมีชื่อเสียงของเรามีบุคลากรประเภทนี้อยู่ด้วย น่าอับอายเหลือเกิน รบกวนพิจารณาพฤติกรรมของคุณด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

Posted by ศิษย์เก่า มอ.() 2003-08-26 , 10:35:00 , 203.130.128.92






รู้สึกว่า คุณศิษย์เก่า มอ.จะเข้าใจคุณ domperidoneผิดไปนะครับ ข้อความที่คุณ domperidone นำมา post นั้น copy มาจากกระทู้อื่นที่มีคนมาตอบไว้
ส่วนความเห็นของคุณ domperidone นั้นมีแค่ว่า ทำไม ward trauma มีแล้วER ไม่มี ใช่ไหมครับคุณ domperidone


Posted by megumi() 2003-08-26 , 15:33:08 , 172.29.3.137






เอ๊ะ! หรือว่าผมเข้าใจคุณศิษย์เก่า มอ.ผิด เพราะจากข้อความที่อ่านนั้นรู้สึกว่าคนที่post น่าจะเป็นบุคลากรที่ทำงานในสถานที่ที่มักมีปัญหากับคุณ Deathนะ


Posted by megumi() 2003-08-26 , 15:42:58 , 172.29.3.137






สุดซึ้งจริงๆครับ พี่Dhan นี่ถ้าผมมีจิตใจเบี่ยงเบนหรือเป็น Gay คารมของพี่ Dhan คงมัดใจผมและดิ้นไม่หลุดเป็นแน่แท้ หากแต่เผิอญผมเป็นเสือนี่สิครับ


Posted by Tiger() 2003-08-26 , 21:53:50 , 172.29.3.181






ooooo

Posted by chaiyo(00000) 2003-08-27 , 14:11:45 , 172.29.1.146






หากสิ่งที่ผมรับรู้จากข้อความในกระทู้นี้เป็นเรื่องเข้าใจก็ขออภัยด้วยครับ แต่สิ่งหนึ่งที่คิดว่ามิใช่การเข้าใจผิดอย่างแน่นอนนั่นก็คือความขัดแย้งกันของบุคลากร ซึ่งฟังดูแล้วค่อนข้างรุนแรงทีเดียว ตอนแรกที่ได้ยินจากเพื่อนมาก็ไม่คิดว่าจะรุนแรงกันขนาดนี้ ไม่ว่าหมอหรือพยาบาลต่างก็มีบทบาทและหน้าที่ของตัวเองด้วยกันทั้งนั้นไม่มีใครเป็นหัวหน้าหรือลูกน้อง หากแต่ทุกคนคือผู้ร่วมงาน คือผู้ที่ต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อผู้ป่วย แล้วมาขัดแย้งกันแบบนี้จะทำงานด้วยกันอย่างสนิทใจได้อย่างไร สุดท้ายผลลัพธ์ก็ตกอยู่ที่คนไข้ มันถูกต้องแล้วหรือ แล้วชื่อเสียงของสถาบันล่ะครับคิดถึงกันบ้างไหม ไม่มีใครดีที่สุดหรอกครับ ทำไมถึงไม่หันมายอมรับและพยายามเข้าใจข้อจำกัดของกันและกัน จะได้ไม่ต้องมาระคายใจกันแบบนี้ จริงไหมครับ

Posted by ศิษย์เก่า มอ.() 2003-08-27 , 18:27:37 , 203.130.150.102






"จะต้องเอามาลงกระดานข่าวกันทุกครั้งให้อับอายกันก่อนหรือ"
.
ฉันขอยกมันขึ้นมาอีกครั้ง เนื่องจากเข้าใจว่าอาจมีความเข้าใจผิดบางอย่างอยู่ในประโยคนี้
.
ฝ่ายที่ต้องอับอายบนกระดานสาธารณะ มิใช่ฝ่ายที่ถูกวิพากษ์เสมอไปหรอก บางครั้งการออกมาวิพากษ์ด้วยถ้อยคำเสียดสี การประชดประชัน การใช้คำพูดราวกับผู้ถูกวิพากษ์เป็นศัตรูในเกมส์รักน่ารอคที่ต้องฆ่าให้ตายขายให้ขาด กลับเป็นการประจาน "ความด้อยวุฒิภาวะและสติปัญญา" ของผู้วิพากษ์เอง
.
ถ้าเคยอ่านโศลกของท่านพุทธทาสที่ขึ้นต้นด้วย "เขามีส่วนเลวบ้าง ช่างหัวเขา ..." ขอให้นึกตามไปว่า เขาเหล่านั้นที่คุณพยายามจะฆ่าให้ตายขายให้ขาดนั้น มิได้ต่างอะไรจากคุณเลย เขาต่างเป็น "ผู้กำลังอยู่บนหนทางที่จะพัฒนาให้ดีขึ้น" ไม่ต่างจากที่คุณกำลังทำ คุณเองก็มีเรื่องต้องทำให้ดีขึ้นอีกมากมิใช่หรือ (หรือไม่เคยสำรวจ)
.
เขามีหนทางของเขา เขามีความช้าเร็วในการเดินของเขา เขามีวิธีการคิดและทำงานของเขา ตามภูมิทางความรู้และภูมิทางสังคมของเขา
.
ซึ่งถ้าคุณเห็นว่าสิ่งใดควรจะเปลี่ยนแปลง (เช่นที่ฉันเห็นว่า mind set ของคุณควรจะเปลี่ยน) มีวิธีการมากมายที่เป็นวิธีการที่กัลยาณมิตรควรจะทำ มีวิธีการมากมายที่จะนำไปสู่ Win/Win situation ซึ่งเสถียรกว่า Win/Lose
.
เรื่องความขัดแย้งในการทำงานมันยากกว่าเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ตรงที่ว่า ในเกมส์ เราเห็นใครเป็นฝ่ายศัตรูก็ฆ่าให้ตาย ระเบิดให้กระจุย แต่ในชีวิตการทำงาน คนที่ดาหน้าเข้ามาในชีวิตคุณ ล้วนแต่เป็นปัจเจกซึ่งมีหน้าที่ความรับผิดชอบและมีส่วนต่อความสำเร็จของงานไม่ต่างจากคุณ ทุกคนพร้อมที่จะพลาดหรือพร่อง และก็พร้อมที่จะทำให้ดีขึ้น
.
หากได้รับความช่วยเหลือจากกัลยาณมิตร


Posted by Shonikeka() 2003-08-28 , 07:53:43 , 133.1.67.161


Posted by : แน่จริงลบอีก , Date : 2003-08-28 , Time : 21:04:08 , From IP : 172.29.3.137

ความคิดเห็นที่ : 1


   ไม่รู้มัวแต่ทำอะไรกันอยู่ ward ห่วยจริงก็ยอมรับแล้วแก้ไขสิ มัวแต่เถียงแก้ตัวน้ำขุ่นๆ ไม่เห็นพิเศษอื่นๆ จะมีปัญหาเหมือน ฉบ. 8 เลยมีที่ไหนอนุมัติให้ ward อื่นได้แต่ไม่ให้ ฉบ. 8 แล้ว check บ้างหรือเปล่าว่าขาดอะไร วันๆ มัวแต่นั่งบื้อ คุย ส่งเวร เม้าท์โทรศัพท์ ทำได้แค่นี้รึไง ไม่รุ้จบได้ไง

Posted by : พยบ...รับสายค่ะ , Date : 2003-09-06 , Time : 22:14:49 , From IP : 172.29.3.204

ความคิดเห็นที่ : 2


   ขอโทษนะครับ ผมคิดว่าเจ้าของกระทู้ และผู้ถูกกล่าวหา ได้มีการถูกพูดคุยไปหลายวันแล้วว่าต้องการอะไร และอะไรควรปรับปรุง ถ้าคุณมีเรื่องใหม่กรุณาให้ข้อมูลเพิ่มเติมพร้อมทั้งแจ้ง identity ด้วย เพื่อเวลามีการสอบสวนจะได้ทราบว่ากำลังพูดถึง Incident ไหน มีใครเกี่ยวข้อง ขอบคุณครับ



Posted by : Phoenix , Date : 2003-09-06 , Time : 22:19:53 , From IP : 172.29.3.245

ความคิดเห็นที่ : 3


    - ถามหน่อยเถอะ....เวลาไปที่ ward ..... ยังมองหน้ากันได้หรือเปล่า....ก้อเขารู้กันหมดแล้วว่าใครเป็นเขียน ( คนแรก )















Posted by : **** , E-mail : (****) ,
Date : 2003-09-08 , Time : 05:16:09 , From IP : 172.29.1.220


ความคิดเห็นที่ : 4


   ..........หมายถึงผมหรือเปล่าครับ? คุณ ****.........ผมไม่ได้กังวลสักนิดว่าจะมีคนทราบ....เพราะที่ผมเขียนคนที่อยู่ในเหตุการณ์เค้าทราบกับอยู่แล้วว่าผมเป็นใคร.......แต่สิ่งที่คุณ **** ควรจะสนใจนะครับ....สิ่งที่ผมเขียนนะเป็นเรื่อง"จริง"หรือผม"มั่ว"ขึ้นมาหละ......ผมเกลียดคนโกหกครับ.....ผมไม่ได้เขียนเรื่องโกหก......ไปถามคนที่เกี่ยวข้องดูได้เลยครับ...ว่าผมเขียนอะไรที่"ไม่จริง"บ้างหรือเปล่า?......ส่วนเรื่องมองหน้าอะไรนั่น.....ผมเขียนเรื่องจริง....ผมไม่ได้โกหกใคร....แล้วทำไมผมจะต้องมองหน้าใครไม่ได้ด้วยเหรอครับ.....คุณ****นั่นหละ...กล้ามองหน้าผมหรือเปล่า?......กล้ามาบอกผมไหมว่าคุณคือ****.....ถ้าคิดว่า Anonymous แล้วแสดงออกถึงความจริงใจในสิ่งที่พูดและเขียนได้....ก็ตามใจเถอะครับ.....คิดดูแล้วกันว่าคุณหรือผม...ใครจริงใจและรับผิดชอบในสิ่งที่เขียนมากกว่ากัน???..........ขอบคุณครับ...........



Posted by : Death , Date : 2003-09-09 , Time : 00:06:21 , From IP : r39-skaHS1.S.loxinfo

ความคิดเห็นที่ : 5


   :D

มาลงชื่ออ่าน

อ่านไปคิดถึงซีรี่ย์หนัง ER
.
.


Posted by : ซึ้งแมน , Date : 2003-09-13 , Time : 09:59:17 , From IP : ip1684-62.cc.psu.ac.

ความคิดเห็นที่ : 6


   "เรื่องจริง" นั้นเป็นคำที่ค่อนข้างใช้กันเยอะ จนผมเกรงว่าอ่านจะเยอะเกินไปหรือเปล่า เอาเป็นว่าเป็นเรื่องจริงในความรู้สึกของตัวเราเองดีไหมครับ เรื่องเหล่านี้บ่อยครั้ง เมื่อมีการสอบสวนสืบสาวราวเรื่องกันอย่างละเอียด บางครั้ง (หรือส่วนใหญ่?) เราจะได้ "เรื่องจริง" อีก version หนึ่งซึ่งไม่ใคร่เหมือนกับ version ที่ "แต่ละท่าน" คิดไว้

แต่จริงอย่างที่คุณ Death ว่า ถ้าเราทำไปเพราะมี conviction ว่ามีแต่เจตนาดีแต่เพียงอย่างเดียวก็สามารถมองตรงไปในดวงตาใครก็ได้ครับ แต่ว่าหากการกระทำของเรานั้นมีผลกระทบอย่าง "ไม่แฟร์" แก่คนที่อาจจะบริสุทธิ์ (หรือคนบริสุทธิ์) นั้นก็จะเป็นคนละเรื่อง ความสามารถในการมองหน้าคนก็จะไม่เกี่ยวกับ conscience อีกต่อไป อาจจะเกี่ยวกับ "ม่าน" อะไรสักอย่างที่กั้นความรู้สึกผิดชอบชั่วดีกับการกระทำก้ได้



Posted by : Phoenix , Date : 2003-09-13 , Time : 12:26:45 , From IP : 172.29.3.243

ความคิดเห็นที่ : 7


    นั่งอ่านมานานมาก เลยพอจะ "เดา" ได้เล็กน้อยว่าคุณ death กับคุณ phoenixเนี่ย ก็อยู่ภาคเดียวกันไม่ใช่เหรอ ทำไมไม่ออกไปพูดกันนอกกระดานนี้ให้มันเคลียร์ ทำความเข้าใจกันให้จบๆเรื่องไป เพราะเหมือนไปๆมาๆ วันๆหนึ่งพวกคุณก็แทบไม่ต้องทำงานการอะไรเลยนอกจากมานั่งเถียงกันให้คนอื่นอ่านอย่างนี้
เพราะว่าเป็นคนนอก ไม่รู้ว่าท่านที่รับบทพระเอกทั้งสองรายนี่เป็นใคร แต่เห็นด้วยกับคุณDhan เป็นอย่างมาก ในเมื่อคนสองคน มีประสบการณ์ในชีวิตต่างกัน และอยู่ในสถานะที่ต่างกัน คนนึงมีโอกาสมากกว่า หน้าที่การงานสูงกว่า มีเครดิตมากกว่า (ซึ่งเราก็รู้ว่าคุณไม่คิดจะเอามันมาอวดอ้างหรอก แต่ว่าคุณพูดกับใคร เขาก็จะมองเห็นสิ่งนี้ติดมากับหน้าคุณอยู่แล้ว)ในขณะที่อีกคนนึง มีสิ่งเหล่านี้ด้อยกว่าในทุกๆด้าน ความเดือดร้อนของฝ่ายหลัง ย่อม "เสียงเบา" หรือ มีค่าน้อยกว่า "ความระคายใจ"ของคนแรกมากนัก
การทำให้คนสองคนที่มีพื้นฐานต่างกัน มาเข้าใจในสิ่งเดียวกัน ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เราเชื่อในสิ่งที่คุณ deathทำ อย่างน้อยนี่คือทางหนึ่งซึ่งคนที่อยู่ในระดับที่ "ไม่มีทางออก" คิดจะทำกัน ซึ่งมันอาจไม่ถูกต้องนักหรอก แต่ก็ไม่ผิดไปจาก norm ที่คนในสังคมคนอื่นๆ(ไม่ใช่ทั้งหมด ...คุณphoenix ไม่ต้องเอาคำว่า "คนอื่นๆ" นี้ไปเถียงนะ) ก็ทำกัน
ยกตัวอย่างง่ายๆ ตอนพวกคุณเป็นเด็กๆ ไปโรงเรียนเคยถูกล้อชื่อพ่อแม่มั่งมั้ย คุณว่าการล้อชื่อพ่อแม่เพื่อนเป็นสิ่งดีหรือเปล่า แต่ก็ไม่มีเด็กที่ไหนมานั่งตีอกชกหัวหรือร้องเร่าๆจะเป็นบ้าตายเวลาถูกเพื่อนล้อชื่อพ่อแม่ และเมื่อคุณเป็นพ่อแม่เอง เวลาลูกมาบอกว่าถูกเพื่อนล้อชื่อพ่อแม่ คุณจะรู้สึกอาฆาตหรือโกรธเด็กเล็กๆคนนั้นรึเปล่า นี่คือตัวอย่างนึงของคำว่า norm ในความหมายของเรา ไม่ถูกต้อง แต่ก็ไม่ใช่สิ่งแปลกหรือสิ่งที่คนในสังคมไม่ทำกัน และเราก็เห็นว่า สิ่งที่คุณdeathทำ ก็คือnorm อันนึง ไม่น่ารักเลยที่จะโดนคนที่เป็นผู้ใหญ่กว่า ตำหนิกันอย่างเอาเป็นเอาตายขนาดนั้น (ขอใช้คำว่าเอาเป็นเอาตาย เพราะเล่นโพสต์โต้ตอบกันทุกวัน เราว่าเนี่ยแหละ ผิดไปจากnorm ละล่ะ)
เราไม่ได้บอกว่าการมาด่ากันในกระดานข่าวกับการทำเรื่องร้องเรียน อันไหนคือ norm อันไหนคือความถูกต้องตามจารีตกฎหมาย แต่ก็เชื่อว่าพวกคุณจะคิดกันได้ และไม่เอาความถูกต้องที่อยู่ในมือ มาเฆี่ยนตีคนที่defenceด้วย norms
ท้ายที่สุด เพื่อที่จะไม่ต้องมาโดนคุณphoenixด่าเอาเจ็บๆด้วยศัพท์ภาษาอังกฤษหรูหรา เราก็มีประสบการณ์ส่วนตัวเกี่ยวกับเรื่องพรรค์อย่างนี้เหมือนกัน แต่การแก้ปัญหาของเราก็แค่การคุยกับเค้าดีๆ หลายๆครั้ง (ก็คงเป็นวิธีที่คนดีๆอย่างคุณphoenix ใช้บ่อยๆ แต่ต่างกันตรงที่ว่า เราก็ไม่ปฏิเสธวิธีอื่นที่คนอื่นทำ ถ้ามันยังอยู่ในnorm)ย้ำกันไปมากๆ แต่บัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่นนะ มันไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงทันทีทันใดหรอก แต่สองปีผ่านมา หลายอย่างในที่ทำงานของเราเปลี่ยนแปลงดีขึ้นมาก และเราก็ยังได้เพื่อนร่วมงานเพิ่มขึ้น จากคนที่เราเคยคิดว่าจะต้องเป็นศัตรูกันด้วยซ้ำ


Posted by : natalie , Date : 2003-09-15 , Time : 17:43:01 , From IP : 172.29.3.112

ความคิดเห็นที่ : 8


   เห็นด้วยกับการที่ไม่รู้เหตุการณ์ทั้งหมดนี่ ยากแก่ความเข้าใจว่าการกระทำอะไรที่ได้ทำไปแล้ว กความพยายามอะไรที่ได้มีการขอร้องให้ทำ และอะไรสำเร็จหรือไม่สำเร็จ

ผมเชื่อว่า "งาน" นั้นก็ยังมีการถูกทำไปเรื่อยๆ ชม.การทำงานของคนๆหนึ่งอาจจะมีเม็ดงานออกมาไม่เท่ากัน เป็นเรื่องธรรมดาที่ใครอาจจะพบว่าทั้งหมดที่อยู่บนกระดานนี่อาจจะต้องอุทิศเวลาทั้งหมดที่มีอยู่ทำ ขณะที่คนอื่นก็อาจจะทราบว่าถ้าพิมพ์เร็วๆมันจะใช้เวลาแค่เศษเสี้ยวของวัน หรือ ชั่วโมงก็ได้

เผอิญกระดานนี้อยู่ใน webboard ของคณะแพทย์ครับ และเรากำลังพยายามอภิปรายโดยใช้เกณฑ์มาตรฐานของแพทย์ที่จบการศึกษาแล้วมาว่ากัน คงไม่ใช่เรื่องว่าด้วยพฤติกรรมของเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมมาล้อชื่อพ่อแม่กัน แต่เป็นการอภิปรายถึงวิธีที่ดีที่สุดที่แพทย์จะให้ความคิดเห็นเรื่องคุณภาพของการช่วยชีวิตผู้ป่วยของพยาบาลผู้ร่วมงานควรจะทำออกมาในลักษณะแบบใด คุณ natalie คิดว่าสองเรื่องนี้เป็นการอุปมาอุปไมยที่อยู่ในบริบทเดียวกันหรือไม่? แค่ไหนครับ?

ผมไม่ทราบว่าเราควรจะใช้ norm ที่คุณ natalie ว่านั้นในสถานการณ์แบบไหนบ้าง แต่ในเรื่องที่เป็นปีเด็นที่ถกกันนั้น ตกลงคุณ natalie คิดว่ายังไงล่ะครับ?ข้อสำคัญคือ "การกระทำ" นั้นเกิดบนกระดานข่าวครับ ถ้าเราคิดว่ามีอะไรที่ควรปรับปรุงแก้ไขต่อตัวบุคคลที่รับข้อมูลไปนั้น ก็คงจะต้องสอดใส่ข้อมูลลงไปแก่กลุ่มคนเดียวกันหรือไม่?

ประเด็นที่ว่า "ไม่มีทางออก" นั้น น่าสนใจที่จะขยายความต่อคุณ natalie คิดว่าในเรื่องที่ผ่านมา "มีหรือไม่มีทางออกอื่น" ที่จะกล่าวหาบุคลากรร่วมอาชีพเพื่อปรับปรุงคุณภาพงานครับ? แล้วการกล่าวหาดังกล่าวนั้นตกลง "ใคร" เป็นคนที่เดือดร้อน หรือ เจ้าทุกข์กันแน่? ฟังๆไปคนที่กล่าวหากลับเป็นผู้เดือดร้อนไม่มีทางออก คนที่ถูกกล่าวหากลับไม่ใช่ไป ช่วยกรุณาขยายความตรงนี้อีกสักนิดได้ไหมครับ?

เรื่องของเรื่องคงไม่ใช่ "ผมระคายใจ" กระมัง คุณ natalie คงจะไม่ทราบว่ากระทู้ดังกล่าวมีการอภิปรายพูดถึงในกลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพของเราอย่างไร แต่เผอิญผมอยู่ในที่ที่ได้รับฟังความรู้สึกของคนอีกฝ่ายหนึ่งที่ถูกโจมตี

Norm ของคนที่ post บนกระดานข่าวว่าแค่ไหนคือ norm แค่ไหนคือ "มากเกินไป" นั้นคุณ natalie ใช่อะไรวัดครับ? คนที่อาจจะเหห็นว่าการอ่านไทยรฐ ดูละครนั้น ไม่น่าสนใจเท่าอ่านความคิดของคนที่เป็นแพทย์พยาบาลอาจจะเบี่ยงเบนกิจกรรมที่ทำและจัดเวลาใหม่ได้ ปกติแล้วคุณ natalie ตัดสินว่า "ผิดจาก norm แล้วล่ะ" นี่โดยใช้ความรู้สึกของตนเองหรือใช้อะไร?



Posted by : Phoenix , Date : 2003-09-15 , Time : 18:20:47 , From IP : 172.29.3.215

ความคิดเห็นที่ : 9


   No

Posted by : 2 , E-mail : (2) ,
Date : 2003-09-20 , Time : 22:30:36 , From IP : 192.168.13.19


ความคิดเห็นที่ : 10


   Yes

Posted by : m , Date : 2003-09-20 , Time : 22:31:14 , From IP : 192.168.13.19

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.016 seconds. <<<<<