ความคิดเห็นทั้งหมด : 14

ความสุขที่ผู้ชายใฝ่ฝัน


   1. มีผู้หญิงสักคนที่คอยดูแลความเรียบร้อย และ ทำความสะอาดบ้าน

2. มีผู้หญิงสักคนที่ทำให้เราหัวเราะ และอารมณ์ดี

3. มีผู้หญิงสักคนที่สามารถปรึกษาได้ทุกเรื่อง และพร้อมเป็นผู้รับฟังยามที่เรามีปัญหา

4. มีผู้หญิงสักคนที่เก่งเรื่องบนเตียง และอยากอยู่กับเราตลอดไป

5. และ ผู้หญิงทั้ง 4 คนนี้ ต้องไม่รู้จักกัน
อิอิ


Posted by : จุก , Date : 2006-08-17 , Time : 15:36:55 , From IP : 172.29.7.210

ความคิดเห็นที่ : 1


   ดีนะ เข้าท่า

Posted by : เสียด , Date : 2006-08-17 , Time : 15:39:52 , From IP : 172.29.3.51

ความคิดเห็นที่ : 2


   เห็นด้วยอย่างยิ่งแต่ต้องมีข้อ 5 นะ

Posted by : Narakkung , Date : 2006-08-17 , Time : 16:02:01 , From IP : 210-4-147-41.inter.n

ความคิดเห็นที่ : 3


   ผมได้ยินคำที่ผู้ใหญ่ บอกลูกผู้หญิงว่าต้องเพียบพร้อมไปด้วย “เรือนสามน้ำสี่” ผมเองไม่ทราบว่ากระไร เคยแต่ได้ยินคำๆนี้อยู่บ่อยครั้ง วันนี้โอกาสมาถึงผมไปเจอเรื่องนี้ ก็อดที่จะถ่ายทอดต่อไม่ได้ขอรับ
อันคำว่า “เรือนสามน้ำสี่” นั่นท่านอธิบายไว้ดังนี้ขอรับ
เรือนแรก คือ บ้านเรือน ผู้หญิงจะต้องทำความสะอาดเช็ดกวาดถูบ้านเรือนให้สะอาดตลอดเวลา รวมไปถึงการจัดเก็บข้าวของเครื่องใช้ไม่ให้เกะกะรกหูรกตา ต้องเป็นระเบียบเรียบร้อย
เรือนที่สอง คือ เรือนผม ผู้หญิงจะต้องมีเรือนผมที่สะอาด ดูดีเรียบร้อย ทั้งก่อนเข้านอนและหลังจากตื่นนอนแล้ว
เรือนที่สาม คือ เรือนกาย เรื่องนี้สำคัญ เพราะผู้หญิงที่เนื้อตัวดูสกปรกมอมแมม ย่อมไม่น่ามองนัก
ส่วนน้ำสี่นั้น น้ำแรก คือ น้ำใจ ฝ่ายหญิงจะต้องรู้จักการมีน้ำใจต่อสามี บุตรธิดา รวมไปถึงพ่อแม่ของฝ่ายสามีและญาติพี่น้อง เช่น ให้การต้อนรับที่ดี สำรับคาวหวานต้องไม่ขาดตกบกพร่อง เมื่อไปเยี่ยมญาติพี่น้องก็ต้องแสดงน้ำใจอาจมีของฝากเป็นเสื้อผ้าหรือผลไม้
น้ำที่สอง คือ น้ำคำ ผู้หญิงต้องมีมุธรสวาจาไพเราะเสนาะหู อ่อนหวาน ไม่ว่าจะโอภาปราศรัยกับสามี ญาติพี่น้องหรือบุคคลอื่น งดการนำเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจต่างๆมาพูดให้สามีฟัง ถ้าจะพูดต้องดูกาลเทศะให้ดี
น้ำที่สาม คือ น้ำมือ ลูกผู้หญิงต้องมีฝีมือในการทำอาหารการกิน รสชาติต้องอร่อย สะอาดสะอ้าน รู้ใจคนในบ้านว่าชอบหรือไม่ชอบอะไร รู้จักการทำแบบประหยัดแต่มีคุณค่า
น้ำที่สี่ คือ น้ำเต้าในปูน สมัยก่อนทุกบ้านเรือนจะมีเต้าปูนแดงที่ใช้กินกับหมาก เจ้าปูนแดงนี้จะต้องมีน้ำหล่ออยู่เสมอ ปูนแดงจะได้ไม่แห้งแข็ง เวลาใช้ไม้พายป้ายปูนใส่ใบพลูจะได้ปาดได้เรียบ ถ้าเต้าปูนบ้านใครเมื่อยกมารับแขกแล้วน้ำในเต้าปูนแห้ง ถือว่าลูกสาวบ้านนี้ขี้เกียจ หรือแม่บ้านบกพร่อง
ผมว่าชายไทยโชคดีอย่างมากที่คนรุ่นเก่าได้สั่งสอนให้หญิงมีความเป็น “เรือนสามน้ำสี่” ซึ่งทุกวันนี้หญิงไทยส่วนใหญ่ก็ยังมีความเป็น “เรือนสามน้ำสี่” อยู่แม้ว่าน้ำที่สาม จะเหือดแห้งไปบ้าง แต่ก็ยังอาศัยได้อยู่ สำหรับน้ำที่สี่ แม้ว่าจะไม่ใช้น้ำปูนต่อไปแล้ว ความบกพร่องส่วนนี้ก็ไม่เห็นเกิดแก่แม่บ้านหญิงไทยขอรับ หากเปรียบเทียบกับหญิงชาติอื่นแล้ว เรื่องการเป็นแม่บ้านผมว่า แม่บ้านของเรานั้นสุดยอดแล้ว แม้ว่าจะมีบางอย่างที่ดูจะขัดแย้งบ้างเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย แต่เชื่อผมเถอะแม่บ้านไทยดีที่สุดหากท่านผู้ชายไม่เชื่อผมลองกลับไปถามความเห็นคนที่บ้านดูก็ได้


Posted by : mum , Date : 2006-08-17 , Time : 16:21:38 , From IP : 202.90.6.36

ความคิดเห็นที่ : 4


   ผู้หญิงไทยน่ารัก ญี่ปุ่น ก็น่ารัก

Posted by : เด็กแนว , Date : 2006-08-18 , Time : 08:28:23 , From IP : 172.29.1.189

ความคิดเห็นที่ : 5


   ขอไม่มาก
หุ่นดี ขาว หมวย สวย ผิวดี มีการศึกษา หัวไวไม่ชักช้า
ตลก ตัวหอม พับทิชชู่สวย และอดทน พอแล้ว


Posted by : cabin_crew , Date : 2006-08-18 , Time : 12:48:00 , From IP : 172.29.4.191

ความคิดเห็นที่ : 6


   โชคดีของชายไทย แต่โชคร้ายของหญิงไทย

Posted by : ญ , Date : 2006-08-18 , Time : 15:12:21 , From IP : 172.29.3.111

ความคิดเห็นที่ : 7


   การที่ชุมชนใดชุมชนหนึ่งมีวัฒนธรรมประเพณีที่ศิวิไลซ์ (หรือไม่ศิวิไลซ์) ไม่น่าจะเป็นเรื่องของโชค ในความเห็นของผมนะครับ



Posted by : Phoenix , Date : 2006-08-18 , Time : 15:58:42 , From IP : 172.29.3.231

ความคิดเห็นที่ : 8


    ความสุขที่ผู้หญิงใฝ่ฝัน


1. มีผู้ชายสักคนที่ช่วยดูแลความเรียบร้อย และ ไม่ทำให้บ้านรกจนเกินไปนัก

2. มีผู้ชายสักคนที่ทำให้เราหัวเราะ และอารมณ์ดี

3. มีผู้ชายสักคนที่สามารถปรึกษาได้ทุกเรื่อง และพร้อมเป็นผู้รับฟังยามที่เรามีปัญหา

4. มีผู้ชายสักคนที่เก่งเรื่องบนเตียง และอยากอยู่กับเราตลอดไป

5. และหวังเหลือเกินว่า ... ทั้งหมดข้างต้น ... จะเป็นคุณสมบัติที่รวมอยู่ใน "ผู้ชายคนเดียวกัน"



ถ้ามีเหตุผลที่อธิบายความแตกต่างระหว่างปรากฏการณ์ "ขุนแผนแสนสะท้าน" กับ "วันทอง...แค่สองใจ" เราก็คงอธิบายความแตกต่างระหว่าง "5 vs 5" ได้เช่นเดียวกัน


Posted by : Lucifer , Date : 2006-08-18 , Time : 23:40:22 , From IP : 172.29.4.210

ความคิดเห็นที่ : 9


   เห็นด้วยกับ Lucifer ค่ะ
ผู้ชายแค่ 1 คนที่ผู้หญิงต้องการ


Posted by : only Jae-Jung , Date : 2006-08-19 , Time : 19:01:45 , From IP : 172.29.7.104

ความคิดเห็นที่ : 10


   โทดนะครับผมเสนอเล่นๆนะ อย่าซีเรียส
เวลาผู้หญิงแต่งหนังสือ "ผู้ชายเลวกว่าหมาและไม่ได้มาจากดาวอังคาร" (ไม่ได้ซื้อเห็นที่ร้านนะ)มะเห็นมีผู้ชายคนไหนออกมาเรียกร้องสิทธิบุรุษเลยเพราะเค้าเข้าใจว่ามันคือเรื่องของการเรียงคำเรียงเนื้อหา เรื่องของลูกค้าและการประชาสัมพันธ์
ขุนแผนแสนสะท้านเนี่ย...ผู้รู้บอกหน่อยสิว่าใครคือคนแรกที่เรียก....ตั้งแต่แต่งเรื่องนี้หรือเปล่าหรือว่าตอนขายยาดองเหล้าตราตะขบ


Posted by : cabin_crew , Date : 2006-08-20 , Time : 21:03:16 , From IP : 172.29.4.191

ความคิดเห็นที่ : 11


   ดีจังคับ บทความนี้

แต่ก็จิงอีกแล่ะคับที่น่าสงสาร ญ ไทย

ไม่เป็นไรคับ ญ ไทย

รอผมเปิด รร. ก่อนนะคับ

รร.สอนให้ ช เข้าใจ ญ น่ะคับ

^ ^

อิอิ

ปล. ใครอยากเรียนมินิคอร์สก่อนก็มาคุยกันได้นะคับ 5555


Posted by : i love mum , Date : 2006-08-20 , Time : 21:23:52 , From IP : 172.29.4.121

ความคิดเห็นที่ : 12


   งั้นพี่ตอบเล่นๆ นะจ๊ะ น้อง cabin_crew อย่าซีเรียส

"ผู้ชายเลวกว่าหมาและไม่ได้มาจากดาวอังคาร" เป็นโปรยน่าปกที่เรียกร้องความสนใจได้สมเจตนาคนเขียน แต่เนื้อในไม่เร้าใจเท่าที่หวัง กลายเป็นเนื้อหาที่ออกจะ จืด&อ่อน ไปเลย หนังสือประเภทอ่านแล้วได้ใจ ไม่ไร้สาระ แนะนำ “ตอแหลแฟน” เท่าที่เคยลองนับว่า มันส์และ effective กว่าเยอะในการประยุกต์ใช้จริงและค่อนข้าง classic ทีเดียว เมื่อเทียบเคียงกับ “เรือนสามน้ำสี่” ข้างต้น ส่วน “ขุนแผนแสนสะท้าน” คงต้องรอผู้รู้มาตอบ เพราะเท่าที่ลองค้นดูได้ความว่า .... เรื่องขุนช้าง ขุนแผน มีเนื้อความปรากฏในหนังสือคำให้การชาวกรุงเก่า ซึ่งนับเป็นเรื่อง ในพระราชพงศาวดาร ....ก็จนใจจะไปค้นว่าในคำให้การชาวกรุงเก่ามีสร้อยยศเป็น “แสนสะท้าน” ด้วยหรือไม่ เดี๋ยวว่าจะลองวิเคราะห์เล่นๆ เอามันส์ รอว่างก่อน ... ตอนนี้ไม่ค่อยว่าง ...


Posted by : Lucifer , Date : 2006-08-20 , Time : 22:44:57 , From IP : 172.29.4.122

ความคิดเห็นที่ : 13




   ผมว่าแสนสะท้านอาจจะหมายถึง chill ก็ได้นะครับ น่าสงสารขุนแผนออก ผมว่าพวกเราจะตีความผิดไปกันใหญ่เพราะสมัยนั้นคงมีการเดินทางแบบข้ามวันข้ามคืนแล้ว ติดหวัดเลยเป็น สะท้าน(chill)

Posted by : cabin_crew , Date : 2006-08-20 , Time : 23:35:06 , From IP : 172.29.4.191

ความคิดเห็นที่ : 14


   ขอให้หาได้ทั้ง 4 แบบ แล้วกัน

Posted by : ผู้หวังดี , Date : 2006-09-03 , Time : 22:51:53 , From IP : 172.29.1.150

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.007 seconds. <<<<<