> >>"ลูกต้องพบปะกับผู้คนบ้างนะลูก" แม่กล่าว..ด้วยความสงสารลูก >> >>พ่อของเด็กชาย.. ปรึกษากับหมอประจำครอบครัว >>และได้รับข่าวดีจากหมอว่า... >>"ผมสามารถปลูกถ่ายใบหูได้ครับ ถ้ามีผู้บริจาค..แต่ใครล่ะ.. >>จะเสียสละใบหู..เพื่อเด็กน้อยคนนี้" คุณหมอกล่าว >> >>จนกระทั่ง ...2 ปีผ่านไป พ่อบอกกับลูกชาย.. >>"ลูกเตรียมตัวไปโรงพยาบาลนะ พ่อกับแม่..หาคนบริจาคใบหู >>ที่ลูกต้องการได้แล้ว... >>แต่นี่เป็นความลับ" >> >> >>การผ่าตัด..สำเร็จด้วยดี และแล้ว...คนคนใหม่ก็เกิดขึ้น.. >> >>....เค้ากลายเป็น..ผู้มีพรสวรรค์... >>เป็นอัจฉริยะในโรงเรียน...ในวิทยาลัย >>จนเป็นที่กล่าวขานกัน..รุ่นต่อรุ่น >> >>ต่อมาได้แต่งงาน... และทำงาน.. เป็นข้าราชการในสถานทูต >> >>วันหนึ่ง.. ชายหนุ่มถามผู้เป็นพ่อว่า.. >> >>"พ่อครับ.. ใครเป็นคนมอบใบหูให้ผมมา ใครช่างให้ผมได้มากมาย.. >>แต่ผมไม่เคยทำอะไร.. เพื่อเค้าได้เลยสักนิด" >> >>"พ่อไม่เชื่อว่า.. ลูกจะตอบแทนเค้าได้หมดหรอก.. >>เรื่องนี้..เป็นความลับ เราตกลงกันแล้ว" >>พ่อตอบ.. >> >>หลายปีผ่านไป.... >>มันยังคงเป็นความลับ >> >>และแล้ว..วันนึง..วันที่มืดมิดที่สุด.. ผ่านเข้ามา..ในชีวิตของลูกชาย >> >> >>แม่เค้าได้เสียชีวิตลง.. >> >>เค้ายืนข้าง ๆ พ่อ... ใกล้หีบศพของแม่ >> >>พ่อเรียกเค้า.. >>"มานี่สิลูก..มานั่งใกล้ ๆ นี่" >>พ่อลูบผมแม่อย่างช้า ๆ..และนุ่มนวล >> >>ผมสีน้ำตาลแดง..ถูกเสยขึ้น จนมองเห็นใบหน้า.. >>ที่มองดูเหมือนคนนอนหลับ >> >>...และแล้ว.. สิ่งที่ทำให้ลูกชาย..ถึงกับต้องตะลึง.. >>...ใบหูของแม่...หายไป!.. >> >>แม่ไม่มีใบหู... >>"นี่เป็นคำตอบ.. ที่ลูกอยากรู้มาตลอดชีวิต"... >>พ่อกระซิบผ่านลูกชาย >> >>"แม่บอกพ่อว่า..เธอดีใจ.. ที่ได้ทำอย่างนี้..ตั้งแต่วันผ่าตัด.. >> >>แม่ไม่เคยตัดผมอีกเลย.. >>ไม่มีใคร..มองเห็นว่า.. เธอไม่สวยจริงมั๊ย? >>- - - - - - - - - - - - - - >>- - - - - - - - >> >>จงจำไว้.. >> >>~สิ่งมีค่า..ที่แท้จริง~ >>ไม่ได้อยู่ที่..การมองเห็น.. หากแต่อยู่ที่.. >>~สิ่งที่เรา..มองไม่เห็น~ >>- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - >> >>~ความรัก..ที่แท้จริง~ >> >>ไม่ได้อยู่ที่.. เราได้ทำอะไร.. แล้วมีคน..รับรู้.. >> >>หากแต่อยู่ที่.. สิ่งที่เรา..กระทำ..แล้วไม่มีใคร..รับรู้ .. >>- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - >> >>~ความรัก~ >> >>บางครั้ง.. ไม่จำเป็น.. ต้องพูดพร่ำเพรื่อ.. >> >>หากแต่อยู่ที่....การกระทำ.. ซึ่งเรา..อาจรับรู้.. >> >>เพียงแค่..ฝ่ายเดียว.. >> >>- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - >> >> >>อ่านจบแล้ว..ลองตรึกตรองดูสักนิด.. >> >>ถ้าพรุ่งนี้..เราตายไป.. >> >>บริษัท.. >>สามารถหาคนมาแทนเราได้ >>ภายในไม่กี่วัน.. >> >>แต่ครอบครัวเรา.. >>ต้องสูญเสีย.. >>และคิดถึงเรา..ไปตลอด >> >>เราได้ใช้ชีวิต..กับการทำงาน >>มากกว่าครอบครัว..หรือเปล่า? >>ถ้ามากกว่า... >>ก็เป็นการลงทุน.. >>ที่ไม่ฉลาดเลยจริง ๆ.. " />
รักที่ทำงาน มากกว่าที่บ้านไง Posted by : ล้อเล่น , Date : 2006-08-09 , Time : 12:39:28 , From IP : 202.90.6.36 |
ชอบข้อสรุปตอนท้ายครับ เนื้อเรื่องเศร้าจัง Posted by : check mated , Date : 2006-08-10 , Time : 23:24:26 , From IP : 172.29.4.186 |
ความเห็นจาก Social Network : Facebook |
|
>>>>> Page loaded: 0.003 seconds. <<<<< |