พึงรับรู้ไว้ เรื่องใกล้ตัว
โชว์อึ๋ม หยาบโลน มั่วเซ็กซ์" จุดเสื่อม นักศึกษาไทย
นักศึกษายุคใหม่ มองการจับมือถือแขน โอบกอด ในที่สาธารณะเป็นเรื่องปกติ เป็นภาพชินตาที่พบเห็นได้ทั่วไป การแต่งกายเน้นโชว์ทรวดทรงองเอว ใส่กระโปรงสั้นรัดรูป ล่อแหลมหวาดเสียว การพูดการจาหยาบโลน นิยมบัญญัติศัพท์แสลงใหม่ๆ ขึ้นมาใช้เสมอ ที่น่ากลัวที่สุดคือการเข้าสู่โลกยุคโลกาภิวัตน์ ทิ้งระบอบประเพณี ขนบธรรมเนียม และเอกลักษณ์ความเป็นไทย
การกะเทาะเปลือกวิถีชีวิตนักศึกษาปัญญาชน คนรุ่นใหม่ นี้ เป็นผลงานการวิจัยของ ดร.ภัทริยา งามมุข อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ในงานวิจัยเรื่อง การวิเคราะห์คุณลักษณะทางวัฒนธรรมไทย ของนิสิตนักศึกษา ในสถาบันอุดมศึกษาสังกัดทบวงมหาวิทยาลัย
ดร.ภัทริยา งามมุข ผู้ทำวิจัย เปิดเผยว่า พฤติกรรมของนิสิตนักศึกษาไทยเปลี่ยนแปลงไปในหลายๆ ด้าน เริ่มตั้งแต่ การแต่งกายในชุดนักศึกษาตามแบบนิยมของวัยรุ่นทั่วไป ที่นิยมใส่กระโปรงสั้นจู๋ เสื้อรัดเปรี๊ยะ หรือบางครั้งอาจจะรัดซะจนกระดุมหลุดก็มี ซึ่งเสียงต่อการเกิดอาชญากรรมที่ไม่คาดคิดได้ พฤติกรรมดังกล่าว ดร.ภัทริยา วิเคราะห์ว่า มีสาเหตุสำคัญมาจากข้อบังคับ ของมหาวิทยาลัยบังคับให้แต่งกายในชุดนักศึกษา ซึ่งก็ขัดต่อความรู้สึกของนักศึกษาบางคน ที่อยากแต่งกายชุดธรรมดา ตามแฟชั่น หรือบางคนต้องการโชว์สรีระของร่างกาย เมื่อมีความต้องการเป็นทุนเดิม ก็พยายามดัดแปลงประยุกต์ใช้กับชุดนักศึกษา ที่ใส่อยู่ประจำ นอกจากนี้การวิจัยยังระบุด้วยว่า สถาบันของรัฐบาล แต่งกายล่อแหลมกว่าเอกชน และสถาบันในกรุงเทพฯ ล่อแหลมกว่า สถาบันที่อยู่ในต่างจังหวัด
ขณะที่ พฤติกรรมที่น่าเป็นห่วงอีกอย่าง คือ การจับมือถือแขน การโอบกอดกันกลางที่สาธารณะ กำลังจะเป็นเรื่องปกติ เป็นพฤติกรรมที่ชินตาสำหรับคนทั่วไป แม้กระทั่งในรั้วมหาวิทยาลัยก็ยังมีให้เห็นกันอยู่ นอกจากนี้ยังพบว่านักศึกษา มีทัศนคติ มองเรื่องการรักษาพรหมจรรย์ ไม่ใช่เรื่องสำคัญ และปิดท้ายด้วยการอยู่กินกันฉันสามีภรรยา ทั้งที่อยู่ในวัยเรียนเท่านั้น ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวอาจนำไปสู่สิ่ง ที่ไม่พึงประสงค์ตามมามากมาย ทั้งเรื่องการเรียน การดำเนินชีวิตที่จะต้องรับผิดชอบต่อตัวเอง และคนอื่น หรือที่มากกว่านั้นคือการมีความสัมพันธ์แบบฉาบฉวย ไม่จริงจัง
ด้าน การพูดจาของวัยรุ่นก็เป็นอีกประเด็นที่น่าสนใจ เนื่องจากปัจจุบันใช้คำหยาบกันมากขึ้น ทั้งในหมู่หญิงชาย มีการบัญญัติคำศัพท์ใหม่ ๆ ขึ้นมาใช้ตลอดเวลา เช่น คำว่า กิ๊กซึ่งหมายถึง บุคคลที่รักกันอยู่แล้วมีมือที่สามมาเอาไป หรือ คำว่า ซิ่ว มาจากคำว่าฟอสซิล หมายถึง คนที่เคยเรียนจากมหาวิทยาลัยอื่น อยู่ก่อนแล้ว แล้วเอนท์เข้ามาเรียนในอีกมหาวิทยาลัยหนึ่งอีกครั้ง ขณะที่ ความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์กับลูกศิษย์ ห่างเหินกันมากขึ้น พฤติกรรมการแสดงความเคารพ เริ่มไม่มีให้เห็น บางครั้งอยู่บนลิฟท์และเคยเรียนเคยสอนกันมา ก็ทำเป็นไม่รู้จักกัน
ประเด็นสุดท้าย คือการเข้าสู่ยุคโลกาภิวัฒน์ ที่น่าเป็นห่วงคือการปรับตัวของนักศึกษาไทย ต่อกระแสโลกาภิวัฒน์ ที่อาจจะกลืนขนบธรรมเนียมประเพณี ที่ดีๆ ของไทยให้หายไป ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ ที่ไม่สมดุลย์ กัน จริงๆ แล้วแม้ว่าทิศทางของโลกจะเปลี่ยนแปลงไป แต่เอกลักษณ์หรือสิ่งที่บ่งบอกความเป็นคนไทย ควรที่จะดำรงอยู่ด้วย
อย่างไรก็ตามสิ่งดีๆ ก็มีเช่นกัน อาทิ การมีจิตสำนึกในการตอบแทนบุญคุณแด่ ผู้มีอุปการคุณ การรู้สึกละอายต่อบาป หรือละอายต่อการกระทำผิดศีลธรรม ความต้องการมีส่วนร่วมในทางการเมือง และคำพูดคำจาที่ดีๆ บางคำก็ยังมีอยู่ เช่น คำว่า ขอโทษ ขอบคุณ หรือ ไม่เป็นไร ทั้งนี้ผู้วิจัยได้ตั้งข้อสังเกตว่า พฤติกรรมเหล่านี้อาจไม่สอดคล้องต่อความเป็นจริง เนื่องจากนักศึกษาอาจตอบตามจิตสำนึก ซึ่งการแสดงออกจริงๆ อาจไม่เป็นเช่นนั้น ที่น่าสนใจคือบทบาทในทางการเมืองของนักศึกษาในปัจจุบันที่แทบจะไม่มีให้เห็นเลย แต่ตามที่ระบุในแบบสอบถามกับมีผลออกมาว่านักศึกษาต้องการมีส่วนร่วมทางการเมือง ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า ไม่มีเวที หรือ สถานการณ์ ให้นักศึกษาได้แสดงออกในทางการเมือง ก็เป็นได้
แนะทางออก 3 วิธี เน้นสถาบันแก้ปัญหา
ทั้งนี้ ดร.ภัทริยา ได้เสนอแนะทางออกไว้ 3 แนวทางด้วยกัน
แนวทางแรก คือด้านนโยบาย สถาบันอุดมศึกษาต้องวางแนวนโยบายเพื่อพัฒนานิสิตนักศึกษา ในด้านคุณลักษณะทางวัฒนธรรมไทย ให้เป็นไปในทิศทางที่พึงประสงค์ ผู้บริหารสถาบันอุดมศึกษาต้องสนใจอย่างจริงจัง และต้องตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาวัฒนธรรมของนิสิตนักศึกษา
แนวทางที่สอง คือ ด้านหลักสูตรการสอน สถาบันอุดมศึกษาต้องปรับปรุงกระบวนการเรียนการสอน ที่ตอบสนอง ต่อการพัฒนานิสิตนักศึกษา ด้านคุณลักษณะทางวัฒนธรรมไทยโดยเน้นการเรียนรู้ด้วยตนเอง และกระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม สร้างเสริมประสบการมุ่งการพัฒนาคุณลักษณะทางวัฒนธรรมไทย เน้นให้มีรูปแบบที่ต้องใฝ่รู้ แสวงหาและสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง
แนวทางที่ 3 คือ ด้านกิจกรรมนิสิตนักศึกษา สถาบันการศึกษาควรส่งเสริมกิจกรรมนิสิตนักศึกษา ในด้านศิลปวัฒนธรรม เพื่อช่วยกันทำนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรมของชาติ ซึ่งจะช่วยให้เกิดการพัฒนาคุณลักษณะ ทางวัฒนธรรมไทยของนักศึกษา
Posted by : OTF , Date : 2003-08-20 , Time : 09:43:02 , From IP : 203.113.71.105
|