ที่เราเห็นทารกตัวเหลือง เกิดจากสารตัวหนึ่งซึ่งเกิดจากการสลายเม็ดเลือดแดง พบได้ในภาวะปกติอยู่แล้ว(จากการที่ทารกมีการดูดซึมไม่เหมือนผู้ใหญ่ ก็ทำให้เหลืองได้) ซึ่งร่างกายจะทำลายที่ตับ ส่งผ่านทางเดินน้ำดีและขับออกทางอุจจาระ(ที่ทำให้อุจจาระเป็นสีเหลืองนั่นแหละ) แต่ถ้ามีภาวะเลือดออก เช่น โรคเลือด (การใช้หัตถการช่วยคลอด คือ ใช้เครื่องมือช่วยในการคลอดทารก ซึ่งอาจทำให้เกิดเลือดออกได้เหมือนกัน) หรือมีการติดเชื้อ หรือมีการอุดตันของทางเดินน้ำดี หรือภาวะทางระบบต่อมไร้ท่อ(ฮอร์โมน) ก็จะทำมีระดับสารสีเหลืองตัวนี้ในเลือดมากเกินไป ทำให้เราเห็นผิวเหลือง จริงๆ แล้วอาจพบได้ในเด็กปกติด้วย ไม่ได้มีอันตรายใดๆ ถ้าระดับสารตัวนี้ไม่ได้สูงมากนัก แต่ถ้าสูงมากๆ จะไปสะสมที่สมองได้ ทำให้มีปัญหาทางสมองได้ การรักษา ดังที่คุณหมอบอก คือ การส่องไฟ(ให้นอนภายใต้แสงไฟจากหลอดไฟ) จะช่วยทำให้สารสีเหลืองตัวนี้ถูกขับออกจากร่างกายได้ดีขึ้น ใช้รักษาได้ดี ปกติคุณหมอก็จะเจาะตรวจเลือดทารก เป็นระยะ(ประมาณวันละครั้ง) เพื่อดูว่าระดับสารสีเหลืองตัวนี้ยังสูงอยู่ไหม ถ้ายังสูงในระดับที่คิดว่าอาจเกิดอันตรายก็จะให้ส่องไฟต่อ ถ้าไม่สูงเกินไปก็ให้กลับบ้านได้ ถ้าเหลืองมากๆ อาจส่องไฟอย่างเข้มข้น(ส่องไฟทีเดียวสองชุด) หรือสูงมากๆๆๆ ก็อาจต้องเปลี่ยนถ่ายเหลือง(ซึ่งพบน้อยมากๆๆๆๆ ที่ต้องถ่ายเลือด) นอกจากนี้จะเจาะเลือดหาสาเหตุของอาการเหลือง (อาจต้องเจาะดูเลือดของแม่ด้วย ซึ่งพบได้ในกรณีที่แม่เลือดกรุ๊ป โอ ลูกมีเลือดกรุ๊ปเอ หรือบี หรือเกิดจากหมู่เลือดย่อย ๆ กลุ่มอื่น) เท่าที่ฟัง ลูกของคุณ กังวลใจ น่าจะมีระดับของสารสีเหลืองในเลือดไสงในระดับหนึ่ง แพทย์ให้การรักษาด้วยการส่องไฟ คงต้องดูเป็นวันๆ ไป นะครับว่า เมื่อไรจะกลับบ้านได้(ตามเหตุผลข้างต้น) สาเหตุชัดๆ ไม่ทราบเหมือนกัน(แตคงไม่เกิดจากการอุดตันทางเดินน้ำดี เพราะหมอเค้าคงตรจร่างกายแล้วพบว่าปกติ มิฉะนั้นคงต้องรักษาด้วยการผ่าตัดไปแล้ว) ลองสอบถามดูจากแพทย์เจ้าของไข้(หมอเด็ก)นะครับ ไม่ทราบว่าคุณผู้กังวลใจ มีเลือดกรุ๊ปอะไร ลูกมีเลือดกรุ๊ปอะไร ระหว่างมีปัญหาไหม(โดยเฉพาะเลือดออก ในทารก มีไข้ด้วยไหม ลูกเกิดครบกำหนดหรือเปล่า เป็นลูกคนที่เท่าไร ลูกคนแรกเหลืองไหม ประวัติพวกนี้ช่วยในการวินิจฉัยภาวะเหลืองจากโรคเลือดได้ ไม่ทราบว่าความรู้ที่มีอยู่น้อยนิดพอจะตอบคำถามได้หรือไม่ ถ้ามีอะไรสงสัยก็ถามได้นะครับ ถ้ารู้จะช่วยตอบ(ถ้าไม่รู้จะไปถามพี่หมอ หรืออาจารย์ให้) หรือลองถามแพทย์เจ้าของไข้ดูนะครับ Posted by : nigdejavu , E-mail : (nigdejavu@yahoo.com) , Date : 2006-07-29 , Time : 02:07:18 , From IP : 172.29.4.122 |
ขอบคุณคำตอบมากครับ ตอนนี้น้องก็กลับบ้านปลอดภัยแล้วครับ Posted by : ผู้กังวลใจ , Date : 2006-07-30 , Time : 01:27:01 , From IP : 172.29.4.212 |
ความเห็นจาก Social Network : Facebook |
|
>>>>> Page loaded: 0.003 seconds. <<<<< |