ความคิดเห็นทั้งหมด : 12

ข่าวช่องเก้า...แพทย์สภา เตือนผู้ปกครองก่อนส่งลูกเรียนแพทย์ ม.นราธิวาสปีนี้


   แพทย์สภา เตือนผู้ปกครองก่อนส่งลูกเรียนแพทย์ ม.นราธิวาส เพราะหลักสูตรยังไม่มีการส่งมาให้แพทยสภาพิจารณาเลย แต่ประกาศรับ ตรวจร่างกายไปแล้ว เทอมก็ยังไม่เปิด แล้วจะเรียนกันยังไง ที่อื่เขาสอบกลางภาคกันแล้วนะเนี่ย

Posted by : กก , Date : 2006-07-18 , Time : 22:28:42 , From IP : ppp-124.120.6.243.re

ความคิดเห็นที่ : 1


   แปลกที่คณะวิทยาศาสตร์ มอ. สอนชั้นปรีคลินิก ทั้งที่หลักสูตรไม่ผ่านแพทยสภา

Posted by : กระ , Date : 2006-07-18 , Time : 23:47:40 , From IP : 172.29.7.72

ความคิดเห็นที่ : 2


   เพราะฝ่ายการเมืองต้องการ

Posted by : ดันทุรังจะเปิดทั้งที่ไม่พร้อม , Date : 2006-07-20 , Time : 00:53:08 , From IP : 172.29.4.67

ความคิดเห็นที่ : 3


    ไม่ควรจะเปิดโรงเรียนแพทย์ใหม่
ควรจัดให้แพทย์หมุนเวียนไปอยู่ 3 จังหวัดหรือพื้นที่เสี่ยงภัย โดยกำหนดไว้ในการต่อใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ไปอยู่ให้ได้คนละอย่างน้อย 3-6 เดือนทุกคน ก็สามารถแ้ก้ปัญหาขาดแคลนได้แล้ว เริ่มจากอาจารย์โรงเรียนแพทย์และโรงพยาบาลใหญ่ก่อน จะ work สุดและเกิดบริการที่ได้มาตรฐาน พร้อมคุณภาพ โดยอาจช่วย Train แพทย์ที่อยู่ในพื้นที่ด้วย


Posted by : newidea , Date : 2006-07-20 , Time : 15:38:43 , From IP : 203.147.36.35

ความคิดเห็นที่ : 4


   ความเห็นที่ 2 ครับ
คือผมไม่แน่ใจว่า
1. คณะวิทยาศาสตร์ ม.อ. ที่สอนชั้นพรีคลินิก ไม่ผ่านการรับรองจริงหรือ
2. แล้วเวลาที่เขารับรองหลักสูตร เขาต้องรับรองทั้งส่วนของวิชาพื้นฐาน วิชาพรีคลินิก และวิชาคลินิก ด้วยหรือครับ

ผมไม่ทราบจริงๆ แต่ที่ทราบคือ หลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต ของ ม.อ. ผ่านการรับรองแล้ว แล้วอย่างนี้ ต้องไปรับรอง คณะศิลปศาสตร์ ที่สอนวิชาภาษา คณะวิทยาศาสตร์ ที่สอนพรีคลินิก ด้วยหรือไม่ ขอความรู้หน่อยครับ

เรื่องคณะแพทย์ศาสตร์ ของ ม.นราธิวาส นี้ หากเป็นอย่างที่เจ้าของกระทู้ว่าจริงๆ ผมว่าผลเสียจะตกอยู่กับเด็กมากกว่า คนอื่นนะ สงสารเด็ก


Posted by : โอ , E-mail : (microcystic@hotmail.com) ,
Date : 2006-07-20 , Time : 16:14:12 , From IP : 203.188.43.105


ความคิดเห็นที่ : 5


   พอดีเคยเห็นเกณฑ์และเอกสารพิจารณาการขอก่อตั้งคณะแพทยศาสตร์ ขอ share นิดหน่อย

1 ต้องประเมินทั้งหลักสูตรให้เสร็จเรียบร้อยก่อนครับ การันตีว่านักศึกษาเข้ามาแล้ว จบเป็นแพทย์ตามที่ตั้งใจ ไม่ใช่เข้ามาเพื่อเป็นแพทย์ แต่สอนได้แค่วิทยาศาสตร์พื้นฐาน ที่เหลือหวังดาบหน้า

2 ไม่เพียงแต่หลักสูตรที่ต้องผ่านการประเมินตามเกณฑ์ 14 ข้อหลัก โครงสร้างพื้นฐานก็มีการประเมินด้วย ได้แก่ ห้องสมุด หอพัก ห้องเรียน IT ฯลฯ

3 การออกแบบหลักสูตรแพทยศาสตร์นั้น กระทบถึงการเรียนวิชาพื้นฐาน และบางอย่างถ้าปรับแต่งได้ ก็จะยิ่ง "ตรง" กับ competency ที่ต้องการมากขึ้น เช่น เรียนฟิสิกส์เพื่อได้เข้าใจเรื่องการทำงานของข้อต่อ ข้อเทียม กล้ามเนื้อ เข้าใจกลไกการเกิด injury ใน mechanism แบบต่างๆ ฉะนั้นแม้แต่วิชาพื้นฐาน ก็ไม่ได้แปลว่าเรียนรวมๆกันกับ Physics for Engineer หรือ Physics for sport ก็คือ physics เหมือนกัน แทนกันไม่ได้



Posted by : Phoenix , Date : 2006-07-20 , Time : 16:36:23 , From IP : 172.29.3.231

ความคิดเห็นที่ : 6


   อย่างงั้นคงต้องมี Thai Study for Medical Students ด้วยมั๊งครับ อะไรก็เรียนร่วมกับชาวบ้านไม่ได้ทั้งนั้น(ฮา)

Posted by : ฮา , Date : 2006-07-21 , Time : 12:27:43 , From IP : 61.19.24.78

ความคิดเห็นที่ : 7


   ไม่ทราบยังอยู่ในมโนสำนึกของหมอและนักเรียนแพทย์หรือเปล่า

“ขอให้ถือประโยชน์ส่วนตน เป็นที่สอง ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์ เป็นกิจที่หนึ่งลาภ ทรัพย์ และเกียรติยศ จะตกแก่ท่านเอง ถ้าท่านทรงธรรมมะแห่งอาชีพ ไว้ให้บริสุทธิ์” พระบรมราโชวาท ของสมเด็จพระบรมราชชนก

หลักสูตรปัจจุบันอาจลืมสอนให้เป็นมนุษย์ คงต้องเพิ่มวิชาว่าด้วยความเป็นมนุษย์





Posted by : อมนุษย์ , Date : 2006-07-21 , Time : 14:27:13 , From IP : 203.147.36.35

ความคิดเห็นที่ : 8


   ขอบคุณ ที่ให้ความกระจ่าง

ความเห็นที่ 6 ครับ ปกติการจัดการเรียนการสอนใน มหาวิทยาลัย จะมีการจัดให้เรียนในวิชาที่ใกล้เคียงและนำไปใช้ประโยชน์ต่อ สาขามากที่สุด เช่น วิชาเคมี มีหลายรายวิชา เช่น Basic Chemistry, General Chemistry เป็นต้น ไม่จำเป็นต้องว่ากันว่า คณะไหนเรียนร่วมกับเพื่อนไม่ได้หรอกครับ


Posted by : โอ , E-mail : (microcystic@hotmail.com) ,
Date : 2006-07-21 , Time : 16:07:39 , From IP : 203.188.43.105


ความคิดเห็นที่ : 9


   ในการเปิดหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต จะต้องมีหลักสูตรครบทั้ง 6 ปี ต้องมีปรัชญา หลักการ เหตุผล วัตถุประสงค์หลักสูตร ต้องกำหนดบัณฑิตแพทย์ที่พึงประสงค์ในหลักสูตร และหลักสูตรนี้ต้องผ่านการรับรองเสียก่อน เหมือนกับคนทีเรียนแพทย์ที่ต่างประเทศ ไม่ใช่ว่าจะมีสิทธิ์สอบใบประกอบโรคศิลปะทุกคน หลักสูตรของรร.แพทย์ที่ไปเรียนที่ต่างประเทศต้องผ่านการรับรองเสียก่อน หากไม่ผ่านก็จะไม่มีสิทธิ์สอบเช่นเดียวกัน นอกเหนือจากนี้ ต้องผ่านการประเมินขั้นต่ำ 14 ข้อซึ่งเป็นเกณฑ์บังคับเช่น ห้องเรียน หน่วยกิจการนักศึกษา การดูแลนักศึกษา จำนวนเตียง จำนวนอาจารย์ etc. หากไม่ครบก็จะไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำ สำหรับที่ว่าปรีคลินิกเรียนที่คณะวิทยาศาสตร์ ต้องใช้คำว่าหลักสู่ตรต้องผ่านการรับรองเสียก่อนตามเกณฑ์มาตรฐาน หากไม่ผ่านการรับรองถามว่าสอนได้หรือไม่สอนได้ แต่ไม่มีสิทธิ์สอบใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม หลักสูตรของม.นราธิวาส ยังไม่ชัดเจนเรื่องหลักสูตรว่าชั้นคลินิกจะเรียนอย่างไร เรียนที่ไหน เรียนอะไร ครูมีกี่คน ใครบ้างยังไม่ชัดเจน ดังนั้นจึงยังไม่พร้อมเรื่องหลักสูตร

Posted by : คนผ่านมา , Date : 2006-07-21 , Time : 20:01:48 , From IP : ppp-124.120.152.169.

ความคิดเห็นที่ : 10


   ฝาก link เกณฑ์การเปิดหลักสูตรแพทยศาตรบัณฑิต
http://www.cotmes.org/upload/File/2006/med.pdf
อ่านแล้วจะได้เข้าใจว่ามีหลักอย่างไร และหลักนี้ต้องผ่านการรับรองเสียก่อนจึงจะเปิดหลักสูตรได้ ไม่ใช่ว่าเปิดแล้วค่อยรับรองหลักสูตร (มีหนังสือจากทบวงมหาวิทยาลัยแจ้งยังอธิการบดี ทั่วประเทศมาแล้ว คุณ ภาวิช น่าจะต้องไปอ่านดูเสียก่อนก่อนที่จะออกมาวิจารณ์ว่าแพทยสภาล้ำเส้น ที่ลงข่าวในหนังสือพิมพ์เดลินิวส์)


Posted by : กกกก , Date : 2006-07-22 , Time : 11:00:46 , From IP : ppp-124.120.151.198.

ความคิดเห็นที่ : 11


   ไม่ทราบยังอยู่ในมโนสำนึกของหมอและนักเรียนแพทย์หรือเปล่า

“ขอให้ถือประโยชน์ส่วนตน เป็นที่สอง ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์ เป็นกิจที่หนึ่งลาภ ทรัพย์ และเกียรติยศ จะตกแก่ท่านเอง ถ้าท่านทรงธรรมมะแห่งอาชีพ ไว้ให้บริสุทธิ์” พระบรมราโชวาท ของสมเด็จพระบรมราชชนก

หลักสูตรปัจจุบันอาจลืมสอนให้เป็นมนุษย์ คงต้องเพิ่มวิชาว่าด้วยความเป็นมนุษย์





Posted by : อมนุษย์ , Date : 2006-07-21 , Time : 14:27:13 , From IP : 203.147.36.35


ประโยคคำถามหรือครับ .....ถ้าใช่ก็ขอตอบว่ามี....ว่าแต่...เคยเห็นอมนุษย์หรอ....ไม่เคยเห็น..อ่ะ


Posted by : cabin_crew , Date : 2006-07-22 , Time : 20:03:34 , From IP : 172.29.4.191

ความคิดเห็นที่ : 12


   ลูกตัดสินใจเรียนแพทย์เอง แต่ทำไมมาถึงปี 3 เกิดท้อแท้ บอกเลือกเข้ามาผิดที่

ไม่ทราบสาเหตุ ผู้หญิงลดนำหนัก เช้าโอวัลติน บ่ายไม่เห็น เย็นข้าว 5 ช้อน

บอกอ่านจำไม่ได้ ขณะนี้เคี่ยวเข็ญให้ทานข้าว เสริมวิตามิน แต่ไม่ยอมสอบของ

แพทย์สภา ปิดรับเมื่อใดไม่ทราบ แต่สอบ 10 มี.ค.ไม่ทราบจะกล่อมอย่างไร

แล้ว บอกปี 4 ได้ใบ ว ท บ ก็จะออก มหาวิทยาลัยชั้นนำ แต่ต้องออกกลาง

ทาง น่าเสียดาย สอบเข้าเห็นมุมานะเต็มที่ แต่มหาวิทยาลัยเกลี้ยกล่อมเขาไม่

ได้ อย่างไรก็ต้องสอบไปก่อน ปี 4 ยังมีเวลากลับใจ พ่อแม่เสียใจบ้าง แต่ก็

ต้องปลง เลี้ยงได้แต่ตัว ใจเลี้ยงไม่ได้ พูดไม่ฟัง แล้วแต่เวรและกรรมที่สร้างมา



Posted by : วีระชัย , E-mail : (innocam2@yahoo.com) ,
Date : 2006-11-30 , Time : 10:19:50 , From IP : 202.90.118.210


ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.007 seconds. <<<<<