ความคิดเห็นทั้งหมด : 15

คิดอย่างไร ถ้ามีคนอยากมีลูกกับเรา


   มีผู้หญิงอยากมีลูกมากๆ ฐานะดีมากๆ แต่ไม่อยากแต่งงาน อยากอยู่คนเดียว
จึงอยากจะขอติดต่อซื้อ sperm และเนื่องจากคิดว่าคณะแพทย์เป็นที่อยู่ของคนชั้นคุณภาพ จึงอยากได้
ต้องการหน้าตาที่ดี แต่ไม่ต้องมาก และไม่มีพันธะต่อกัน ไม่มีสิทธิในตัวบุตรที่จะเกิดมา
สามารถตกลงเรื่องค่าตอบแทนได้ หลักแสน
เนื่องจากกระทู้นี้อาจเป็นเรื่องมิ่นเหม่แต่ตั้งมาเผื่อใครสนใจ
และถ้าสนใจกรุณาให้ e-mail เพื่อติดต่อกลับไปครับ
มิได้ต้องการแสวงหากำไร แต่เมื่อคนไข้เขามีความต้องการแบบนี้จึงอยากตั้งกระทู้เพื่อช่วยเหลือครับ


Posted by : mabus , Date : 2006-06-23 , Time : 16:16:47 , From IP : 172.29.3.182

ความคิดเห็นที่ : 1


    เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก ต้องคำถึงถึงจิตใจ ภาวะแทรกซ้อน และผลที่จะเกิดขึ้นตามมาทั้งทางกายภาพและสังคมในอนาคตของเด็ก, มารดา สามี(ปัจจุบัน/อนาคต) ญาติทั้งหลาย ผู้มีส่วนได้เสียในมรดก คนขายsperm เจ้าของกระทู้ ..... ใครจะรับผิดชอบได้ ถ้าได้ แค่ไหน แต่เด็กต้องมาก่อน

ในเรื่องกฎหมาย คงต้องมีการแก้กฎหมายก่อน ปัจจุบันอาจจะปรับได้ ???คล้ายการซื้อขายเลือด แต่ในมนุษย์ ไม่เหมือนกันเลย

การระบุค่าตอบแทนมา ก็เป็นการแสวงหากำไรนั่นเอง ไม่ได้เป็นเรื่องของการบริจาค sperm ที่มีข้อบ่งชี้ชัดเจนทั้งผู้ให้และตัวผู้รับ ผู้ให้กับผู้รับไม่มีทางรู้จักกัน หรือรู้รายละเอียดของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโดยเด็ดขาด ลับมาก

ผู้โพสต์มีเจตตนาบริสุทธิ์แค่ไหน ถ้าผู้ขายและคนโพสต์เป็นแพทย์
ลองไปเปิดดูเรื่องจริยธรรมทางการแพทย์ จากพ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม แล้วจะรู้ว่า
ที่เผยแพร่มาถูกต้องหรือไม่

ถ้ากระทำกันในลักษณะเช่นว่านี้ได้ สังคมมนุษย์จะวิปริต ระวังธรรมชาติ
จะลงโทษเอา ขอให้เป็นไปตามกรอบทางหลักวิชาการจะดีกว่า

คนโพสต์รับผิดชอบด้วย นศพ.อย่าเอาเยื่องอย่าง ไม่ดี อย่าทำ




Posted by : สุวิทย์ , Date : 2006-06-23 , Time : 17:27:12 , From IP : 172.29.1.119

ความคิดเห็นที่ : 2


    เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก ต้องคำถึงถึงจิตใจ ภาวะแทรกซ้อน และผลที่จะเกิดขึ้นตามมาทั้งทางกายภาพและสังคมในอนาคตของเด็ก, มารดา สามี(ปัจจุบัน/อนาคต) ญาติทั้งหลาย ผู้มีส่วนได้เสียในมรดก คนขายsperm เจ้าของกระทู้ ..... ใครจะรับผิดชอบได้ ถ้าได้ แค่ไหน แต่เด็กต้องมาก่อน

ในเรื่องกฎหมาย คงต้องมีการแก้กฎหมายก่อน ปัจจุบันอาจจะปรับได้ ???คล้ายการซื้อขายเลือด แต่ในมนุษย์ ไม่เหมือนกันเลย

การระบุค่าตอบแทนมา ก็เป็นการแสวงหากำไรนั่นเอง ไม่ได้เป็นเรื่องของการบริจาค sperm ที่มีข้อบ่งชี้ชัดเจนทั้งผู้ให้และตัวผู้รับ ผู้ให้กับผู้รับไม่มีทางรู้จักกัน หรือรู้รายละเอียดของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโดยเด็ดขาด ลับมาก

ผู้โพสต์มีเจตตนาบริสุทธิ์แค่ไหน ถ้าผู้จะขาย(หรือนศพ.ที่สนใจ) และคนโพสต์เป็นแพทย์ ขอให้ไปเปิดดูเรื่องจริยธรรมทางการแพทย์ จากพ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม แล้วจะรู้ว่าที่เผยแพร่มาถูกต้องหรือไม่

ถ้ากระทำกันในลักษณะเช่นว่านี้ได้ สังคมมนุษย์จะวิปริต ระวังธรรมชาติ
จะลงโทษเอา ขอให้เป็นไปตามกรอบทางหลักวิชาการจะดีกว่า

คนโพสต์รับผิดชอบด้วย นศพ.อย่าเอาเยื่องอย่าง ไม่ดี อย่าทำ




Posted by : สุวิทย์ , Date : 2006-06-23 , Time : 17:30:51 , From IP : 172.29.1.119

ความคิดเห็นที่ : 3


    เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก ต้องคำถึงถึงจิตใจ ภาวะแทรกซ้อน และผลที่จะเกิดขึ้นตามมาทั้งทางกายภาพและสังคมในอนาคตของเด็ก, มารดา สามี(ปัจจุบัน/อนาคต) ญาติทั้งหลาย ผู้มีส่วนได้เสียในมรดก คนขายsperm เจ้าของกระทู้ ..... ใครจะรับผิดชอบได้ ถ้าได้ แค่ไหน รับผิดชอบไหวเหรอ แต่ต้องให้ความสำคัญต่อเด็กมาก่อนอื่นใด

ในเรื่องกฎหมาย คงต้องมีการปรับแก้กฎหมายก่อน ปัจจุบันอาจจะปรับได้ ??? คล้ายการซื้อขายเลือด แต่ในมนุษย์ ไม่เหมือนกันเลย

การระบุค่าตอบแทนมา ก็เป็นการแสวงหากำไรนั่นเอง ไม่ได้เป็นเรื่องของการบริจาค sperm ที่มีข้อบ่งชี้ชัดเจนทั้งผู้ให้และตัวผู้รับ ผู้ให้กับผู้รับไม่มีทางรู้จักกัน หรือรู้รายละเอียดของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโดยเด็ดขาด ลับมาก

ผู้โพสต์มีเจตตนาบริสุทธิ์แค่ไหน ถ้าผู้จะขาย(หรือนศพ.ที่สนใจ) และคนโพสต์เป็นแพทย์ ขอให้ไปเปิดดูเรื่องจริยธรรมทางการแพทย์ จากพ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม แล้วจะรู้ว่าที่เผยแพร่มาถูกต้องหรือไม่

ถ้ากระทำกันในลักษณะเช่นว่านี้ได้ สังคมมนุษย์จะวิปริต ระวังธรรมชาติ
จะลงโทษเอา ขอให้เป็นไปตามกรอบทางหลักวิชาการจะดีกว่า

คนโพสต์รับผิดชอบด้วย นศพ.อย่าเอาเยื่องอย่าง ไม่ดี อย่าทำ




Posted by : สุวิทย์ , Date : 2006-06-23 , Time : 17:35:12 , From IP : 172.29.1.119

ความคิดเห็นที่ : 4


    เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน และต้องมีความรับผิดชอบสูงมากมาก ต้องคำถึงถึงจิตใจ ภาวะแทรกซ้อน และผลที่จะเกิดขึ้นตามมาทั้งทางกายภาพและสังคมในอนาคตของเด็ก, มารดา สามี(ปัจจุบัน/อนาคต) ญาติทั้งหลาย ผู้มีส่วนได้เสียในมรดก คนขายsperm เจ้าของกระทู้ ..... ใครจะรับผิดชอบได้ ถ้าได้ แค่ไหน รับผิดชอบไหวเหรอ แต่ต้องให้ความสำคัญต่อเด็กมาก่อนอื่นใด

ในเรื่องกฎหมาย คงต้องมีการปรับแก้กฎหมายก่อน ปัจจุบันอาจจะปรับได้ ??? คล้ายการซื้อขายเลือด แต่ในมนุษย์ ไม่เหมือนกันเลย

การระบุค่าตอบแทนมา ก็เป็นการแสวงหากำไรนั่นเอง ไม่ได้เป็นเรื่องของการบริจาค sperm ที่มีข้อบ่งชี้ชัดเจนทั้งผู้ให้และตัวผู้รับ ผู้ให้กับผู้รับไม่มีทางรู้จักกัน หรือรู้รายละเอียดของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโดยเด็ดขาด ลับมาก

ผู้โพสต์มีเจตตนาบริสุทธิ์แค่ไหน ถ้าผู้จะขาย(หรือนศพ.ที่สนใจ) และคนโพสต์เป็นแพทย์ ขอให้ไปเปิดดูเรื่องจริยธรรมทางการแพทย์ จากพ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม แล้วจะรู้ว่าที่เผยแพร่มาถูกต้องหรือไม่

ถ้ากระทำกันในลักษณะเช่นว่านี้ได้ สังคมมนุษย์จะวิปริต ระวังธรรมชาติ
จะลงโทษเอา ขอให้เป็นไปตามกรอบทางหลักวิชาการจะดีกว่า

คนโพสต์รับผิดชอบด้วย นศพ.อย่าเอาเยื่องอย่าง ไม่ดี อย่าทำ




Posted by : สุวิทย์ , E-mail : (rsuwit @ medicine.psu.ac.th) ,
Date : 2006-06-23 , Time : 17:38:04 , From IP : 172.29.1.119


ความคิดเห็นที่ : 5


    เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน และต้องมีความรับผิดชอบสูงมากมาก ต้องคำถึงถึงจิตใจ ภาวะแทรกซ้อน และผลที่จะเกิดขึ้นตามมาทั้งทางกายภาพและสังคมในอนาคตของเด็ก, มารดา สามี(ปัจจุบัน/อนาคต) ญาติทั้งหลาย ผู้มีส่วนได้เสียในมรดก คนขายsperm เจ้าของกระทู้ ..... ใครจะรับผิดชอบได้ ถ้าได้ แค่ไหน รับผิดชอบไหวเหรอ แต่ต้องให้ความสำคัญต่อเด็กมาก่อนอื่นใด

ในเรื่องกฎหมาย คงต้องมีการปรับแก้กฎหมายก่อน ปัจจุบันอาจจะปรับได้ ??? คล้ายการซื้อขายเลือด แต่ในมนุษย์ ไม่เหมือนกันเลย

การระบุค่าตอบแทนมา ก็เป็นการแสวงหากำไรนั่นเอง ไม่ได้เป็นเรื่องของการบริจาค sperm ที่มีข้อบ่งชี้ชัดเจนทั้งผู้ให้และตัวผู้รับ ผู้ให้กับผู้รับไม่มีทางรู้จักกัน หรือรู้รายละเอียดของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโดยเด็ดขาด ลับมาก

ผู้โพสต์มีเจตตนาบริสุทธิ์แค่ไหน ถ้าผู้จะขาย(หรือนศพ.ที่สนใจ) และคนโพสต์เป็นแพทย์ ขอให้ไปเปิดดูเรื่องจริยธรรมทางการแพทย์ จากพ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม แล้วจะรู้ว่าที่เผยแพร่มาถูกต้องหรือไม่

ถ้ากระทำกันในลักษณะเช่นว่านี้ได้ สังคมมนุษย์จะวิปริต ระวังธรรมชาติ
จะลงโทษเอา ขอให้เป็นไปตามกรอบทางหลักวิชาการจะดีกว่า

คนโพสต์รับผิดชอบด้วย นศพ.อย่าเอาเยื่องอย่าง ไม่ดี อย่าทำ




Posted by : สุวิทย์ , E-mail : (rsuwit @ medicine.psu.ac.th) ,
Date : 2006-06-23 , Time : 17:38:37 , From IP : 172.29.1.119


ความคิดเห็นที่ : 6


    เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน และต้องมีความรับผิดชอบสูงมากมาก ต้องคำถึงถึงจิตใจ ภาวะแทรกซ้อน และผลที่จะเกิดขึ้นตามมาทั้งทางกายภาพและสังคมในอนาคตของเด็ก, มารดา สามี(ปัจจุบัน/อนาคต) ญาติทั้งหลาย ผู้มีส่วนได้เสียในมรดก คนขายsperm เจ้าของกระทู้ ..... ใครจะรับผิดชอบได้ ถ้าได้ แค่ไหน รับผิดชอบไหวเหรอ แต่ต้องให้ความสำคัญต่อเด็กมาก่อนอื่นใด

ในเรื่องกฎหมาย คงต้องมีการปรับแก้กฎหมายก่อน ปัจจุบันอาจจะปรับได้ ??? คล้ายการซื้อขายเลือด แต่ในมนุษย์ ไม่เหมือนกันเลย

การระบุค่าตอบแทนมา ก็เป็นการแสวงหากำไรนั่นเอง ไม่ได้เป็นเรื่องของการบริจาค sperm ที่มีข้อบ่งชี้ชัดเจนทั้งผู้ให้และตัวผู้รับ ผู้ให้กับผู้รับไม่มีทางรู้จักกัน หรือรู้รายละเอียดของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโดยเด็ดขาด ลับมาก

ผู้โพสต์มีเจตตนาบริสุทธิ์แค่ไหน ถ้าผู้จะขาย(หรือนศพ.ที่สนใจ) และคนโพสต์เป็นแพทย์ ขอให้ไปเปิดดูเรื่องจริยธรรมทางการแพทย์ จากพ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม แล้วจะรู้ว่าที่เผยแพร่มาถูกต้องหรือไม่

ถ้ากระทำกันในลักษณะเช่นว่านี้ได้ สังคมมนุษย์จะวิปริต ระวังธรรมชาติ
จะลงโทษเอา ขอให้เป็นไปตามกรอบทางหลักวิชาการจะดีกว่า

คนโพสต์รับผิดชอบด้วย นศพ.อย่าเอาเยื่องอย่าง ไม่ดี อย่าทำ




Posted by : สุวิทย์ , Date : 2006-06-23 , Time : 17:39:35 , From IP : 172.29.1.119

ความคิดเห็นที่ : 7


    Webmaster ช่วยกรุณณาลบข้อความซ้ำให้ด้วยครับ คงเหลือความเห็น 6 เท่านั้นต้องขออภัยความผิดพลาดด้วยที่โพสต์ซ้ำ ๆ
ขอบคุณครับ/สุวิทย์


Posted by : สุวิทย์ , Date : 2006-06-23 , Time : 17:45:17 , From IP : 172.29.1.119

ความคิดเห็นที่ : 8


   ระวัง!! อีก 1 ปีข้างหน้าจะมีคนอุ้มลูกมาเรียกร้องหาพ่อและขอตรวจ DNA ซึ่งอาจเสียค่าโง่ได้

Posted by : โปรดระวัง , Date : 2006-06-23 , Time : 20:21:29 , From IP : 172.29.7.160

ความคิดเห็นที่ : 9


   ผมรู้ว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและ ผิดจรรยาบรรณ
ผิดพ.ร.บ. .......
แต่มันคือชีวิตจริง
เขาอยากอยากมีลูก สามีเป็นหมัน ไปปรึกษาแพทย์แล้ว แต่แพทย์ช่วยเหลือไม่ได้(ร.พ.กรุงเทพภูเก็ต) ตอนนี้เลิกกับสามีแล้ว แต่ไม่มีจุดมุ่งหมายในชีวิต ไม่รู้จะหาเงินไปทำไม อยู่คนเดียว อายุ 30 ปี (เขาบอกกับผมแบบนี้)
ผมแนะนำไปที่ธนาคาร sperm รับบริจาคโดยไม่รู้จักเจ้าของ เขาก็บอกว่าอยากได้พ่อพันธุ์ที่ OK หน่อยเรื่องสติปัญญาหน้าตา
ถ้าเป็นคุณหละจะทำอย่างไร ผมก็รู้ว่ามันผิดจรรยาบรรณ แต่ไม่ผิดกฎหมาย แล้วมีทางที่ดีกว่านี้ก็ช่วยแสดงความเห็นหน่อยครับ
อ่อ แล้วอย่าพูดอยู่บนฟ้า เอาเรื่องจริงที่เป็นจริงมาพูด พูดดีใครก็พูดได้ เขียนดีใครก็เขียนได้ แต่อ่านดูก็รู้ว่ามัน fake!!!!!
แล้วถ้าผมได้เหรอ ถ้าเป็น 10-20% ก็หมื่นสองหมื่น ผมเป็นหมอหาได้เยอะกว่านี้มาก ถ้าพูดเรื่องเงินก็เลิกคิดเลย
ส่วนเด็กจะมีปัญหาผมก็คิดอยู่และคิดมากด้วย แต่เค้าบอกว่าจะให้ความรักมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ บอกว่าเคยรักกับพ่อเด็กมากแต่ต้องเลิกกัน มันก็คงไม่ต่างจากการไปรับบริจาคที่ธนาคาร sperm มั้ง


Posted by : mabus , Date : 2006-06-23 , Time : 21:36:43 , From IP : 210-86-142-193.stati

ความคิดเห็นที่ : 10


    มันต่างกันกับธนาคาร sperm ตรงที่ผู้หญิงคนนั้นรู้ว่าพ่อเด็กคือใคร
จิตมนุษย์นั้นไซร้ ยากแท้หยั่งถึง ถ้าวันหนึ่งเอาอุ้มเด้กหน้าตาน่ารักๆ
มาให้เรา แล้วบอกว่านี่ไงลุกของคุณ พามาหาบ่อยๆ ใจคนเป็นพ่อ
จะไม่อ่อนเชียวหรือ ถ้าเราเป้นหนุ่มโสดมันจะเป็นไรไป แต่ถ้าเกิดตอนนั้น
เราเองก็มีครอบครัว มีคนรักอยู่แล้วล่ะ เราจะทำอย่างไร เราไม่ยอมรับ
มันก็โอ นี่เราเป็นได้เพียงแค่ธนาคาร sperm เท่านั้นเองหรือ เราอาจจะต้องทุกข์ใจเองก้ได้ สุดท้ายคนดีบางคนก็อาจต้องรับ รับลูกคนเดียวได้อย่างไร ก็เขาไม่ให้นี่ ก็ต้องรับแม่มาด้วย อย่างน้อยก้ต้องส่งเสีย
ไปมาหาสู่ แล้วคนรักตัวจริงแบบรักจริงหวังตัวหวังใจและหวังมีลุกด้วยกัน
หวังอยู่ด้วยกันกับเราล่ะ เขาจะว่าอย่างไร รู้สึกอย่างไร มันอาจจะมีเรื่องตามมามากมาย มันคงต่างกับธนาคาร sperm ตรงนี้ คือ เรื่องที่ คาดว่าจะเกิด มันอาจมากไปหน่อย เพราะคนมีความคิดจิตใจ ( ที่ไม่ค่อยแน่นักน่ะจ้า )


Posted by : คิดมากไปหรือเปล่าไม่รู้นะ , Date : 2006-06-24 , Time : 12:39:45 , From IP : 172.29.7.240

ความคิดเห็นที่ : 11


   ทำไมเวลามีคนออกมาพูดเรื่องหลักการ เรื่องจริยธรรม เรื่องความถูกต้อง มักมีคนวิจารณ์ว่าเขาเหล่านั้นอยู่บนหอคอยงาช้างหล่ะครับ สิ่งเหล่านี้จะมีอยู่ทำไมถ้าคิดแต่ว่าทำไม่ได้ ผมเข้าใจว่าอยู่ในสถานการณ์ต่างกันอาจคิดต่างกันมองต่างกัน แต่เราก็ไม่ควรเริ่มที่คิดว่าเรื่องจริยธรรมความถูกต้องเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้ ยิ่งถ้ามีคนคิดคนเตือนต่างจากที่เราคิด น่าจะเป็นสัญญาณให้เราก้าวให้ช้าลง คิดให้มากขึ้นมากกว่านะครับ

Posted by : งักปุกคุง , E-mail : (Rapin@msn.com) ,
Date : 2006-06-24 , Time : 12:43:41 , From IP : 172.29.3.74


ความคิดเห็นที่ : 12


   ถึงคุณ...mabusค่ะ
ถ้ามองตามนี้ไม่น่าเป็นห่วงเลย เพระผู้หญิงคนนั้นน่าจะสมบูรณ์แบบมาก
-อายุแค่ 30 ปีเองถึงจะเป็นแม่ม้าย
-ไม่มีเรือพ่วงด้วย
-ฐานนะดีมีเงิน
-คิคว่าน่าจะสวยน่ะค่ะ
อีกหน่อยคงจะเจอคู่แท้ก็ได้ แต่ตอนนี้น่าจะผิดหวังมาเลยต้องการทำอะไรสักอย่าง ต้องใช้เวลาหน่อยแล้วจะดีขึ้น ถ้าเค้าแต่งงานใหม่ถ็สามารถมีลูกได้สบายเพราะอายุ 30 ปีเอง

ตอบมาในฐานนะผู้หญิงด้วยกัน ขอบคุณค่ะ


Posted by : e-mal , E-mail : (one-two-3) ,
Date : 2006-06-26 , Time : 03:30:34 , From IP : 172.29.1.232


ความคิดเห็นที่ : 13


   เขียนดีใครเขียนก็ได้ก็จริง แต่อาจจะไม่จำเป็นต้อง fake ครับ ยกเว้นเรื่องดีๆทุกเรื่อง fake หมด นั่นก็จะเป็นอีกทฤษฎีหนึ่ง

สาเหตุที่กิจกรรมทางการแพทย์ห้ามโฆษณาเพราะว่ามันเป็นเรื่อง sensitive ไม่ใช่แต่เฉพาะอนาคตและ well-being ของคนปรึกษา แต่ต่อภาพรวมของวิชาชีพทั้งหมด และการที่สังคมมีการย่อหย่อนต่อจริยธรรม จรรยาบรรณ นั่นเป็น fact ที่ว่าที่ใดก็มีดีและไม่ดี แต่ไม่ได้หมายความว่าพอมีสิ่งไม่ดีเกิดขึ้นในสังคม ก็กลายเป็นเรื่องธรรมดา กลายเป็นไฟเขียวให้กระทำ กลายเป็นเรื่องห้ามคนมาติงให้คิด ห้ามคนมาบอกว่าให้นึกถึงจริยธรรม จรรยาบรรณเสียก่อน

การติงนั้นสามารถมองให้ postive ก็ได้ครับ อย่าลืมว่าการกระทำของเรา นอกเหนือจากตัวตนเรา บางบริบทหมายถึงบริบทของส่วนรวม ของวงการ ของคนที่มีอาชีพเดียวกับเรา มันไม่ใช่ autonomy ของปัจเจกบุคคลเท่านั้น แต่เป็น collective autonomy หากมีคนติดหลังแหในภาพรวมที่กำลังถูกนำเสนอ เขาก็มีสิทธิท้วงติง คนๆนั้นอาจจะเป็นอาจารย์แพทย์ที่เผอิญรู้กฏหมาย หรือสนใจเรื่องนี้ (คนละด้าน คือในด้านศีลธรรม จรรยา... และไม่ fake) ก็เป็นไปได้

การจะแนะนำให้ adopt เด็ก หรือทำอะไรทีเป็น artificial นั้น ควรให้นักจิตวิทยา นักสังคมมาช่วยประเมินครับ และประเมินอย่างละเอียดตามหลักวิชา เพราะตอนคนมาขอร้อง เอาข้อมูล เขาก็ต้องสัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะกันทั้งนั้น บางทีถ้ามีจิตแพทย์ช่วยประเมิน นักวางแผนครอบครัวช่วยคุยกันให้รอบด้าน อาจจะยังสามารถหาวิธีที่ยั่งยืน แก้ปัญหาระยะยาวได้ดีขึ้น ดีกว่า style บะหมี่สำเร็จรูปจานด่วน แก้ปัญหาทุกอย่างแบบฟันธง ศีลธรรมจรรยากลายเป็นอะไรที่ fake ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งเหมือนกัน



Posted by : Phoenix , Date : 2006-06-26 , Time : 08:56:13 , From IP : 172.29.3.231

ความคิดเห็นที่ : 14


   ไม่รู้หว่า อ่านแล้วไม่เห็นช่วยตอบสนองหรือแก้ปัญหาให้ผู้หญิงคนนี้เลย แม้ปัญหาของเธอจะเป็นเรื่องมีเหตุผลหรือเป็นไปตามอารมณ์ก็ตาม เท่าที่เราพอทราบนะ ขอแนะนำให้เธอผู้นี้ไปติดต่อกับหมอสูติอาวุโสในโรงเรียนแพทย์ใหนก็ได้ ที่กรุงเทพก็ยิ่งดีหรือหลายๆแห่งก็ได้เพื่อนำข้อมูลมาประมวลและตัดสินใจได้ดี เอาหมอที่รับรักษาผู้มีบุตรยากน่ะ ปรึกษากันแบบเปิดอกเลย(อย่าคิดเลยเถิด) อาจารย์เขาจะแนะนำให้และพิจารณาช่วยเหลือตามที่ควร เท่าที่เคยได้ยินมาเขาก็มักจะหาspermที่ดีๆให้ซึ่งที่หาได้ง่ายที่สุดก็นี่แหล่ะนศพ.นี่แหล่ะ แต่เราก็สงสารอาจารย์เหมือนกันนะที่ต้องรู้ความจริงแต่แพร่งพรายไม่ได้ .... น้ำเน่าไหมนี่

Posted by : เห้อ เหนื่อยแทน , Date : 2006-06-26 , Time : 14:20:21 , From IP : 172.29.3.222

ความคิดเห็นที่ : 15


   ไอ้ลูกไม่มีพ่อ

Posted by : หาว , Date : 2006-06-29 , Time : 10:53:20 , From IP : 172.29.3.128

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.008 seconds. <<<<<