ความคิดเห็นทั้งหมด : 17

ทำไมตามเวรหมอ x ray ยากจังเยยยยยยย


   ผมอยู่เวรทีไร ถ้ามีเรื่องที่ต้องขอ ultrasound หรือ ct จะโทรตามยากจัง พี่ๆ ตามยากมาก อยากให้มีมาตราการที่ตามง่ายกว่านี้ครับ

Posted by : X men , Date : 2003-08-13 , Time : 23:06:49 , From IP : 172.29.1.160

ความคิดเห็นที่ : 1


   ปัญหานี้เกิดขึ้นเรื้อรังมานานแล้ว และก็ไม่เคยแก้ปัญหาได้ซักที ไม่ว่าใครขอก็ต้องรำคาญฝ่าเท้ากันเสมอๆ ทั้งๆที่เวรภาคฯอื่นวุ่นและเหนื่อยกว่ากันเห็นๆ ใช้หัวแม่เท้าคิดยังได้ แต่ก็จะตามคุณๆท่านๆที่อยู่เวรเอกซเรย์แสนลำบากเหลือเกิน บางครั้งมีการมาช่วยเราวินิจฉัยโรคอีกว่าไม่น่าจะใช่ ช่วยเราซักประวัติ บางครั้งมาช่วยเราตรวจร่างกายเลย ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไอ้ที่ chief เวรเราตรวจไป มันจะไปแม่นยำเท่าที่คุณพี่เอกซเรย์ตรวจไม่ได้เชียวหรือ หรือว่าบางอย่าง staff เราสั่งเองแท้ๆ ยังมีหน้ามาซักไซ้ไล่เรียงทำวิมารชูโต ให้เราจิตหงุดเงี้ยว ถ้าเป็นเมื่อก่อนที่มีพวกกระดูกสันหลังยาวๆก็ว่าไปอย่าง เดี๋ยวนี้เห็นเค้าว่ามีแต่คนดีๆ ก็ขอให้รีบปรับปรุงพฤติกรรมกันหน่อยแล้วกาน เดี๋ยวจะหาว่าหล่อไม่บอกกัน


Posted by : Prolene , Date : 2003-08-14 , Time : 09:15:17 , From IP : 172.29.2.238

ความคิดเห็นที่ : 2


   โอ้โห ไม่นึกว่าจะเอาเรื่องนี้มาพูดถึงกันอีก เพราะโดยส่วนตัวของผม ทำใจไว้กับเหตุการณ์ดังกล่าวแล้วครับ คือผมก็ทำไปตามหน้าที่ ขอไปเค้าถามอะไรเราก็ตอบไป เค้าจะให้ไม่ให้ก็เรื่องของเค้า ถ้าไม่ทำให้แต่มันจำเป็นต้องทำ ก็คงต้องให้รุ่นพี่ช่วยมาพูดให้ครับ ไม่รู้ว่าเวรเอกซเรย์จะอิดออดทำไม เวรก็สบายกว่าคนอื่น จริงๆนะ เฮ้อ


Posted by : Surgeon , Date : 2003-08-14 , Time : 10:19:47 , From IP : 172.29.2.238

ความคิดเห็นที่ : 3


   เฮงซวยจะตาย ตามยากตามเย็น เบื่อ

Posted by : ่ีื่jung kochika , Date : 2003-08-14 , Time : 19:34:32 , From IP : 172.29.3.118

ความคิดเห็นที่ : 4


   ให้มาอยู่เวรในร.พ.เลยสิ้นเรื่อง โทรตามที่เอกซเรย์

Posted by : troll , Date : 2003-08-14 , Time : 19:37:07 , From IP : 172.29.3.118

ความคิดเห็นที่ : 5


   i think so, he has long vertebral

Posted by : american , Date : 2003-08-14 , Time : 22:03:56 , From IP : 203.156.47.65

ความคิดเห็นที่ : 6


   .........เออออ.......ผมพอมีวิธีแก้ปัญหาตรงนี้ครับ.....ลองวิธีที่ผมเคยทำก็ได้ครับ.......ผมเคยตามแพทย์ใช้ทุนบางท่าน...แผนกอื่นไม่ใช่ X-ray นะครับ....ตามไม่ได้ครับ....ประกาศตามก็ไม่โทรกลับมา.....ตามมือถือก็ไม่เปิด....ตามที่ห้องก็ไม่มีคนรับ...โทรไล่ตามแผนกต่างๆที่น่าจะอยู่...ตาม OPD อะไรเหล่านั้นก็ไม่มี.....ให้ภาควิชาตามให้...ก็ไม่ตามให้บอกไม่ใช่หน้าที่.........เฮ้อออออ.....รู้ไหมครับว่าผมทำไง......ก็ตามอาจารย์เค้าซะเลยสิ......มีเบอร์ให้ตามได้เหมือนกัน.....รู้ไหมครับว่าประโยคแรกที่อาจารย์ท่านนั้นถามผมคือ....."แล้วแพทย์ใช้ทุนผมหละ".....ผมก็ตอบสิครับว่า...."ตามไม่ได้ครับดังขั้นตอนที่กล่าวมาแล้ว"................รู้สึกว่าและได้ยินมาว่า.....หลังจากนั้นแพทย์ใช้ทุนท่านนั้นตามตัวได้ง่ายขึ้นเยอะเลยครับ.....:D....:D.....:D

ข้อคิดสำหรับผู้ที่จะทำตามอย่าง....ขอแนะนำว่าให้ทำต่อเมื่อมีความจำเป็นโดยยึดถือผู้ป่วยเป็นปัจจัยหลัก....."อย่า"ใส่อารมณ์หรือปัญหาส่วนตัวในการทำเช่นนี้เนื่องจากจะก่อให้เกิดการพิพาทกัน....ซึ่งไม่ดี....ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง.....(ทำเป็นพูดเป็นคนดี....จริงๆไม่เคยเห็นนาย Death คิดก่อนทำอะไรแบบนี้เลย...:D..:D..)



Posted by : Death , Date : 2003-08-14 , Time : 22:05:45 , From IP : 172.29.3.209

ความคิดเห็นที่ : 7


   อย่าหาว่าผมยุ่งไม่เข้าเรื่องเลย ผมถามนิดนะครับ

1.พวกคุณมี bad impression กับภาคนี้อยู่ก่อนที่คุณจะตามหรือเปล่า
2.Indication ที่ต้องส่ง imaging confirm เพียงพอไหม คุณใจกว้างและไม่กลัวที่จะตอบคำถามที่จะถูกซัก หรือเปล่า (แน่นอน ที่นี่เป็น training center และ ผมก็เชื่อว่า training center ที่ดี หมอ x-ray ก็ต้องซักให้ได้ว่าการตรวจนั้นเหมาะสมจริง เป็นประโยชน์แก่ผู้ป่วย คุ้มในกรณีที่จะให้ผู้ป่วยได้รับรังสีปริมาณมาก)
3.คุณเคย "โกหก" พวกเขาหรือเปล่า เพื่อให้ได้ investigation นั้นๆ
4.คุณมีความคิดใช่ไหมว่า พวกนี้ "ขี้เกียจ" "สันหลังยาว" เลยมาเรียน x-ray แล้วคุณก็ปฎิเสธ ที่จะเรียนรู้ไปด้วยกันกับพวกเขา เป็นไปได้ไหมที่เขาเรียน x-ray ด้วยเหตุผลที่คุณอยากเรียน ศัลย์หรือ Med
5. บาง center หมอ x-ray ที่ได้รับ consult อาจจะลงไป discuss case กับพวกคุณ คุณว่าดีไหมที่ได้เรียนด้วยกัน
6.คุณพอใจหรือ เมื่อพวกเขาจะให้ทุกอย่างที่คุณขอ โดยไม่เซ้าซี้ซักถาม ขออะไรก็ให้
7.มั่นใจแล้วใช่ไหมว่าได้ตามตัวเต็มที่แล้ว ตามความสามารถที่จะพึงทำ แล้วคุณจึงมาติในที่นี้ ใช้วิธีนี้ให้พวกเขาปรับปรุงตัว แม้เขาผิดจริงก็น่าไปบอกให้เขาปรับปรุงกันเป็นการส่วนตัว ไม่น่ามา ต่อปากต่อคำในที่แจ้งเช่นนี้ ความดีของพวกเขาก็คงมี ไม่มีคนพูดถึง (ไม่ควรใช้มือถือในการตามตัว x-ray ที่ทำงานของพวกเขาเป็นจุดอับสัญญาณอย่างยิ่ง)

จากที่อ่านมา ผมว่า "เรา" น่าจะให้เกียรติ กันมากกว่านี้ การรักษาผู้ป่วยในปัจจุบันต้องทำงานเป็น team เวลาที่คุณได้ประโยชน์จากพวกเขาในการดูแลผู้ป่วย คุณเคยคิดถึงเขาไหม แม้แต่ผู้ป่วยเองก็ไม่ค่อยรับรู้ถึงความดีของพวกเขาหรอก พวกคุณข้างบนซะอีกที่ "ปิดทอง หน้าองค์พระ จะๆ"

ใจเย็นๆ และใจกว้างๆ ครับ ทุกคนมีบทบาทของตน

อนูปวาโท


Posted by : OmniSci , Date : 2003-08-16 , Time : 00:26:01 , From IP : 172.29.3.250

ความคิดเห็นที่ : 8


   รู้สึกว่าไอ้ชั่วโมง ethics ที่จัดมานั่นน่ะมันไม่ใคร่ถูกนำมาใช้ในทางปฏิบัติสักเท่าไหร่เลยแฮะ (multidiscilinary issues)

อืม...ตอนนั้นก็ดูจะอภิปรายตรงกันดี มีอะไรพูดกันเองก่อน ก่อนที่จะเริ่มแทงกัน เปิดโอกาสให้มีการชี้แจง เปิดโอกาสให้คนมี "ทางถอยและปรับปรุงตัว" ดีกว่าการเปิดศึกและกลายเป็นศัตรู วัตถุประสงค์จริงๆคือต้องการบริการผู้ป่วยให้ดีขึ้นใช่ไหมครับ? เราลองมาใคร่ครวญ strategy ที่ทำไปว่ามันมีโอกาสจะ work มากน้อยสักแค่ไหน มี option อื่นที่อาจจะมันปากน้อยกว่านี้ แต่มีอำนาจโดยตรงที่ทำมห้เดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ถูกต้องรึเปล่า เดี๋ยวนี้ระบบประกันคุณภาพนั้น มีผลโดยตรงต่อการบังคับการทำงานอยู่แล้ว น่าจะลองนำมาใช้ได้ แล้วจะได้รู้กันซะทีว่าไอ้ระบบที่เกลียดนักเกลียดหนาเนี่ยมันจะมีน้ำยาอย่างที่ business ทั่วโลกมันงมงายใช้กันจริงรึเปล่า จะสู้กับระบบไร้ระบบ หรือระบบกองโจรสุดที่รักของเราได้มั้ย



Posted by : Phoenix , Date : 2003-08-16 , Time : 01:29:16 , From IP : 172.29.3.219

ความคิดเห็นที่ : 9


   เรียนคุณ OmniSci.......ผมขออนุญาตตอบคำถามที่ละข้อนะครับ...:D...:D
1......ผมเองไม่มีครับ.....:D
2.....ผม"ไม่เคย"ขอ Investigationใดๆแล้ว"ไม่ได้"ครับ......ผมตรวจคนไข้เองทุกครั้ง....และผมยินดีให้ซักถามโดยไม่เคยเกรงกลัวใครครับ....:D
3......ผมเกลียดคนโกหกครับ.....ผม"ไม่เคย"โกหกใครเพื่อให้ได้ Investigate ใดๆมา.....บางอย่างที่ได้รับคำสั่งมาแบบตุกติก.....เช่น คนใข้เป็น VIP ต้องขอให้ได้.....ผมจะบอกเลยครับว่า....เป็นคำสั่งมา....คิดว่าไม่ด่วนมาก.....แต่ขอโดย Indication ว่า VIP......(อ่านตรงนี้แล้วถ้าคุณ OmniSciเคยได้รับการขอ Investigation จากผมอาจจะพอทราบแล้วหละครับว่าผมเป็นใคร)....:D
4.....ผมไม่เคยคิดว่าพวกเขาขี้เกียจครับ....เพราะพวกเขาอยู่เวรจำนวนวันมากกว่าผมอีกครับ.....:D
5....ผมคิดว่าดีครับ...เพราะเพื่อนๆผมที่เรียน X-ray บางคนก็โทรมาถามว่าคนที่เคย Ultrasound หรือ CT แล้วไปผ่าตัดแล้วเป็นไงบ้าง....ใช่ที่อ่านผลไปหรือไม่....ผมว่าแบบนี้ดีแล้วครับ.....และผมก็"ไม่เคย"ที่จะปฎิเสธด้วยครับ....:D
6......ผมคิดว่าถ้าจะขอแล้วได้ทุกอย่างโดยไม่ถามก็เอาเจ้าหน้าที่มาอยู่เวรอย่างเดียวแล้วกันครับ.....ไม่รู้จะคุยไปทำไม......:D
7......แพทย์ใช้ทุน X-ray "ไม่มี"ท่านใดที่ผมตามแล้ว"ตามไม่ได้"......เคยมีอยู่ท่านนึงครับ....เคยถึงกับต้องตามอาจารย์.....แต่ตอนนี้ท่านนั้นลาออกไปทำมาหากินอย่างอื่นแล้วครับ...:D...:D

ส่วนเรื่องการเอามาลงในนี้นี่.....พูดยากครับ....ผมว่าไม่ได้ระบุว่าแพทย์ A แพทย์ B แพทย์ C ตามไม่เคยได้เลยนี้......อาจจะดูแย่กว่านี้นะครับ.....ผมเชื่อว่าแต่ละคนมีข้อดีข้อเลียครับ.....ผมเองก็ไม่ได่ดีเด่กว่าใคร...การไปตักเตือนคนอื่นผมละอายครับ.....เพราะตัวเองก็ยังแย่อยู่เลย.....แต่อย่างน้อยๆถ้าผู้ที่เกี่ยวข้องและถูกพาดพิงถึง......มีผู้กล่าวถึงค่อนข้างมาก.....ควรจะปรับปรุงเองอยู่แล้วครับ....เหมือนกับว่าถ้ามีใครมาลงกระดานข่าวว่า.....Death เป็นคนดุร้าย.....แล้วมีคนเห็นด้วยเป็นโหลๆ.....ผมคงต้องปรัปปรุงหละครับ.....:D...:D



Posted by : Death , Date : 2003-08-16 , Time : 14:15:46 , From IP : 172.29.3.103

ความคิดเห็นที่ : 10


   ในที่สุดการงานประลองชาวยุทธก็จัดขึ้นอีก หลังจากที่ห่างหายไประยะหนึ่ง ครั้งนี้เจ้าภาพเป็นจอมยุทธพรรครังสีตะวัน ซึ่งเป็นประธานกิตติมศักดิ์สมาคมชาวยุทธ งานนี้จัดขึ้นเป็นประจำทุก3เดือน เหตุเพราะลูกพรรคหลายต่อหลายท่านได้ฝากชื่ออันเลื่องลือระบือไกลในยุทธจักร ด้วยวิชา "สันหลังยาวยิ่งฟ้า" งานนี้นับเป็นงานใหญ่ไฉนเลยข้าน้อยจะพลาดได้
ข้าน้อยได้มีโอกาสเห็นวิทยายุทธ"สันหลังยาวยิ่งฟ้า"นี้มาแล้วครา นับว่าเป็นพลังยุทธที่สุดพิศดารยิ่งนัก ไม่คิดว่ามนุษย์สามัญจะสามารถคิดค้นวิชานี้ได้ ข้าน้อยรู้ประวัติวิชานี้จากพระจินรูปหนึ่งแห่งธิเบต
วิชานี้เดิมทีเป็นเคล็ดวิชามาจากแถบเปอร์เซียชื่อเคล็ดวิชา"เหงาหลับ" ซึ่งคิดค้นได้จากการสังเกตแมลงชนิดหนึ่งในแถบนี้ ดัดแปลงผสมผสานจนเป็นวิชานี้ขึ้น ต่อมามีนักบวชรูปหนึ่งจากแถบเปอร์เซียได้มาจาริกแสวงบุญในจงหยวน เดินทางมาพำนัก ณ พรรครังสีตะวัน ด้วยการต้อนรับที่อบอุ่นของเจ้าภาพ นักบวชรูปนี้จึงได้ถ่ายทอดวิชาพลัง"เหงาหลับ" ให้แก่ประมุขพรรครังสีตะวันและมีการปรับปรุงให้เข้ากับวรยุทธของจงหยวน จึงเปลี่ยนชื่อมาเป็น วิชา"สันหลังยาวยิ่งฟ้า"นั่น
แต่เนื่องจากมิเข้าวรยุทธของจงหยวน แม้ว่าจะได้รับการพัฒนาแล้ว แต่ผู้ที่ฝึกวิชานี้ก็ยังได้รับผลข้างเคียง
ผู้ที่ฝึกสำเร็จขั้นที่1 จะมีอารมณ์ฉุนเฉียว ควบคุบสติมิได้ โดยเฉพาะเวลากลางคืนหลังยาม 2 เป็นต้นไป
ผู้ที่ฝึกสำเร็จขั้นที่2 จะรู้สึกอยากแสดงออกซึ่งภูมิรู้ของตัวเองในวิทยาการต่างๆ หรือแม้แต่วรยุทธพรรคอื่น ซึ่งได้เคยเรียนรู้มาแต่สมัยเริ่มฝึกวิชา
ผู้ที่ฝึกสำเร็จขั้นที่3 จะรู้สึกว่าตนเองมีพลังยุทธแก่กล้าใช้วิชาแขนงต่างๆ(กว่าเจ้าของวรยุทธเสียอีก) และดูถูกสำนักอื่นในยุทธภพ
ผู้ที่ฝึกสำเร็จขั้นที่4 จะมี"ขนยาว"ขึ้นตามลำตัวและแขนขาจนเห็นเป็นที่ประจักษ์
ผู้ที่ฝึกสำเร็จขั้นที่5 จะปล่อยสารพิเศษออกมา ผู้ที่อยู่ใกล้จะรู้สึกคันฝ่าเท้ายิ่งนัก
ผู้ที่ฝึกสำเร็จขั้นที่6 จะไม่สนใจสิ่งแวดล้อมภายนอก แม้แต่เสียงร้องไห้คร่ำครวญของผู้ที่ตกทุกข์ได้ยากถึงดังไปร้อยลี้ก็มิอาจได้ยิน
ผู้ที่ฝึกสำเร็จขั้นที่7ซึ่งเป็นขั้นสุดท้ายจะมีการยื่นงอกของสันหลังยิ่งนัก หากนอนแล้วมิสามารถลุกตื่นขึ้นได้ เพราะสันหลังที่ยาวยืดมีความหนักถึง 2000 ชั่ง และยังเปราะบาง หากขยับเพียงนิดเดียวก็ทำให้กระดูกหักได้
เจ้าสำนักและปรมาจารย์ทั้งหลายแห่งพรรครังสีตะวันต่างรู้ถึงผลข้างเคียงอันเลวร้ายดังกล่าว จึงปิดผนึกไว้วิชานี้ไว้มิให้ผู้ใดได้ร่วงรู้ แต่วิชานี้พิศดารยิ่งนักและผลข้างเคียงมิแพร่งพรายให้สานุศิษย์ได้รับทราบจึงมี บางคนฝึกแอบฝึกวิชานี้และออกมาผาดโผนในยุทธภพจนมีชื่อเสียงขจรขจายในเวลานี้


Posted by : ฮวยบ่อข่วย , Date : 2003-08-16 , Time : 14:24:00 , From IP : 172.29.3.207

ความคิดเห็นที่ : 11


   มีสองประเด็น

หนึ่ง ไม่ทราบว่าเมื่อไหร่ personal attack ต่อบุคคลที่สามที่ไม่อ่านหรือไม่ได้มา respond ในที่นี้ จะลดความ popular ลง? เรื่องนี้มีประโยชน์อะไรที่ผู้อ่านโดยส่วนรวมได้บ้าง?

สอง การ generalization หรือ stereotyping นั้นเป็นสันดานของนักข่าวชั้นเลวเท่านั้น ที่ต้อง sexing up บทความตนเองให้ดู drama หรือ sensational มากขึ้น ถ้าคนมีปัญหาเป็นส่วนบุคคล ก็ไม่ต้องว่าตำหนิโดยติดหลังแหคนที่ทำงานดีอยู่แล้วไปด้วย ทำอย่างนั้นรังแต่จะเชิญคนที่เป้นคนดีแต่โดนพวกคุณ ด่าฟรีๆในที่สาธารณะมาตอบโต้ การเล่น smear โคลนแบบรวมก๊กนั้นลงเอยน่าเกลียดทั้งนั้น เมือ่ไหร่เราจะโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความรับผิดชอบกันเสียที?



Posted by : Phoenix , Date : 2003-08-16 , Time : 22:29:30 , From IP : 172.29.3.218

ความคิดเห็นที่ : 12


   คุณนกสองหัว อุ๊บ นกไฟ คงจะมีประสบการณ์ไม่ดีกับpersonal attack น่าสงสาร

Posted by : troll , Date : 2003-08-17 , Time : 00:13:17 , From IP : 172.29.3.235

ความคิดเห็นที่ : 13


   มีใครมีประสบการณ์ที่ดีกับ personal attack หรือครับ?

รายละเอียดอยู่ในสองกระทู้ เรื่อง personal attack และ pathopsychology of Troll แนะนำให้ลองทบทวนดูครับ



Posted by : Phoenix , Date : 2003-08-17 , Time : 00:29:18 , From IP : 172.29.3.218

ความคิดเห็นที่ : 14


   ขอบคุณนาย Death สำหรับ respond ครับ และอยากให้ทำงานเป็น team ที่ดี และให้เกียรติกันแค่นั้นเอง จึงอยากให้ลองตอบคำถามข้างต้นอย่างมีเหตุมีผล ผมว่าไม่มีใครเก่งไปทุกอย่างหรอกครับ การได้เถียงกันในรายละเอียดของ CASE จนฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดพ่ายแพ้ ผมว่าเป็นการ Challenge ตัวเองอย่างยิ่ง อันเป็นสิ่งที่ Training center สมควรมี ถ้าเหตุผลของผู้ขอ Investigation สมบูรณ์ในตัว คงไม่มีใครกล้าปฎิเสธ หรือหากมีการปฎิเสธ หรือล่าช้า ท่านก็สามารถใช้ระบบของโรงพยาบาล เล่นงานได้เสมอ เพราะต่างๆเหล่านี้เอื้อประโยชน์ให้คนมีเหตุผลสมบูรณ์อยู่แล้ว record form, progress note ล้วนแต่ทำได้ขอให้ได้ใช้เถอะ

ท่านนกไฟ ผมว่าเรื่อง Troll ที่ท่านเคยเปิดประเด็นและหาข้อยุติ มันก็เป็นของคู่กับ Board นี้อยู่แล้ว

อยากกระทำตามข้อสรุปในตอนนั้น เน้นที่การวางเฉย อย่าได้ตอบสนอง มันจะยิ่งได้ใจ แต่ยอมรับว่า ใจไม่นิ่งครับ ความสกปรกมันยังมีให้พบอยู่

ต้องยอมรับว่ามันเป็น ธรรมดา สำหรับ Board แห่งนี้แล้ว ผมว่า Troll ก็คู่กับ Troll


ทั้งทีอยากจะคุยอย่างมีเหตุผลแท้ๆ

ยิ่งพูดมากก็ยิ่งเปลืองตัว



Posted by : OmniSci , Date : 2003-08-17 , Time : 01:13:35 , From IP : 172.29.3.244

ความคิดเห็นที่ : 15


   ไม่ได้เข้ามาตอบเสียนาน วันนี้ว่างๆก็เลยแวะเข้ามา มาเห็นเหล้าเก่าในขวดใหม่อีกครั้ง เลยมาเข้าดูสักหน่อยว่าเขาพูดอะไรกัน
วันนี้ไม่รู้เข้าข้างไหนดี ความคิดผมอาจจะไม่เป็นกลางก็ได้ เพราะผมมีประสบการณ์ทั้งกับตัวเองและฟังผู้อื่นเล่ามามาก
ผมเคยมีประสบการณ์หลายครั้ง ตัวอย่างเช่น ครั้งหนึ่งมีผู้ป่วยเด็กอายุประมาณ7ขวบ คนหนึ่ง case CP on gastrostomy feeding อยู่ แม่ให้ประวัติว่าก่อนหน้านี้สายหลุดออกมาแต่ไม่หมด ดันกลับเข้าไป หลังจาก feed อาหารหมด มีเลือดไหลตามสายออกมาประมาณ1/4แก้ว เด็กบ่นปวดท้องมาก ตรวจร่างกาย เด็กมีไข้ต่ำๆ แต่ว่าเดิมเป็นหวัดอยู่2-3วันแล้ว ตรวจท้องค่อนข้างยาก เพราะเด็กร้องไห้ตลอด แต่+/- guarding +tender at epigastrium ไม่ทราบว่าท่านคิดแบบเดียวกับผมหรือไม่ คงต้องR/O gastrostomy disrupt or perforation + peritonitis ให้ได้เพราะมีความรีบด่วนต้องทำการผ่าตัด ขณะนั้นเวลาประมาณตี1 ผมเป็น chief เวรวันนั้น ตัวผมเองได้ปรึกษาโดยตรงกับพชท.x-ray ท่านหนึ่งมิขอเอ่ยนาม ซึ่งเป็นรุ่นน้องผมหลายปี ขอฉีด contrast ทางgastrostomy เพื่อดูว่ามีleakageหรือไม่ แพทย์ใช้ผมอธิบายถึงสาเหตุที่ขอโดยละเอียดแก่พชท.ท่าน คำถามแรกด้วยน้ำเสียงห้วนๆที่ผมต้องตอบคือ ...ปรึกษาstaffแล้วหรือยัง... ผมไม่คิดว่ารุ่นน้องจะกล้าถามคำถามนี้กับผมซึ่งเป็นchief เวรวันนั้น อันที่จริงแล้ววันนั้นผมพยายามปรึกษาอาจารย์เวรวันนั้นแต่มีปัญหาเรื่องการติดต่อ จึงได้ขอ investigation ไปก่อน หากมีปัญหาเกิดขึ้นจะติดต่ออาจารย์อีกครั้งหนึ่ง ด้วย indicationที่ fullfil ขนาดนี้ ถึงอย่างไรก็คงต้องทำอยู่ดี ผมตอบน้องผู้นั้นตามความเป็นจริงและเหตุผลที่มีความจำเป็น เขาถามผมอีกว่า ...ถ้าเกิด leak จะผ่ามั้ย และถ้าเกิดไม่leakล่ะจะทำอย่างไร... (ด้วยน้ำเสียงเช่นเดิม +ผมพยายามพูดเฉพาะเนื้อหาไม่ใส่อารมณ์ลงไปในกระทู้ด้วย) ซึ่งเป็นคำตอบที่เขาน่าจะรู้ด้วยตัวเองตั้งแต่แรกแล้วว่าผมจะอย่างไร ผมตอบเขาตามปกติพยายามจะไม่เอาอารมณ์มาเกี่ยวข้อง หลังซักถามผมจนสะอาด แบบพชท.x-rayรุ่นพี่ ถาม พชท.ศัลยกรรมรุ่นน้อง (ซึ่งจริงๆผมเป็นพี่อยู่หลายปี) ในที่สุดเขาก็มาทำให้ด้วยอารมณ์และคำพูดที่ใครก็รู้ว่าเขาคิดอย่างไร ผมสงสารเด็กจึงไม่อยากมีเรื่องมากมาย ขณะทำ เขาแสดงกริยาหลายอย่างแล้วไม่ขออธิบาย โชคดีผลออกมาไม่มีleakage หลังจากทำเสร็จเขาก็เดินกลับไปด้วยความรวดเร็ว ผมadmitเด็กคนนี้เข้ามา close observe ในโรงพยาบาล record v/sอย่างใกล้ชิด วันรุ่งขึ้นได้เด็กได้รับการทำgastroscopy ผลเป็นbleeding จากแผลที่balloon กดอยู่ นึกว่าเรื่องคงจบเพียงเท่านี้ หลังจากนั้นอีกไม่นาน ผมได้ข่าวมาว่า พชท.ท่านนั้นทำเรื่องนี้บอกแก่อาจารย์ท่านหนึ่ง กล่าวหาผมว่าผมconsult ไม่ปรึกษาstaff ก่อนแล้วผลก็ออกมาปกติ น่าจะออกกฏถ้าไม่มีstaff รับรู้จะไม่รับconsult ไปๆมาๆ ที่ผมทำนี่มันผิดหรือ ยังไม่เข้าใจว่ากลไกความคิดของผมมันผิดหรือ
ในทัศนะของผม...อาจจะผิดก็ได้ ... ผมนั้นคงจะดูfilm x-rayไม่เก่งไปกว่าพชท. x-ray แน่นอน แต่นั่นแหละ ผมก็มั่นใจว่าไม่มีพชท.x-ray คนใดดูclinicalของผู้ป่วยฉุกเฉินทางศัลยกรรมได้ดีกว่าผมเช่นกัน
ยังมีตัวอย่างอีกมากมายที่ผมได้เห็นได้ฟังมามาก แต่ก็นั่นแหละ ไม่ใช่แพทย์x-rayทุกคนหรอก คนที่ทำดีก็มีหลายคน อย่างเช่น น้องวชิระ เป็นต้น ผมขอชม ขอให้รักษาความดีดุจเกลือรักษาความเค็ม
มีเหตุผลอย่างไรให้บอกกันตามความเป็นจริง อย่าอ้างเห็นเหตุผลอื่นๆ108 เพื่อบดบังเหตุผลที่แท้จริง ทุกคนทำงานหนักเหมือนกัน อย่าคิดว่าคุณทำงานยุ่งอยู่คนเดียว อีกอย่าง seniority ก็ยังมีความสำคัญสำหรับแพทย์แม้ว่าคนที่จะลืมมันไปแล้วก็ตาม


Posted by : ร่วมด้วยช่วยกันล่ม , Date : 2003-08-17 , Time : 03:51:31 , From IP : 172.29.3.202

ความคิดเห็นที่ : 16


   ถ้าคุณร่วมด้วยช่วยกันล่มไม่แน่ใจว่าทำผิดหรือเปล่า ผมขอให้ความเห็นเสริมหน่อยก็แล้วกัน

คนที่ควบคุมตนเองได้ตั้งแต่ต้นจนจบนั่นแหละครับที่จะผ่านออกมา Unscathed ถ้าทั้งสองคนคือคุณกับหมอเวรคนนั้นมามองย้อนหลัง พิจารณาดู manner และเจตคติในการทำงาน ผมว่าเราสามารถตัดสินตัวเราเองได้อย่างfair ว่าเป็นอย่างไร ผลลัพท์สุดท้ายก็มองเห็นอยู่แล้วว่าใครได้ประโยชน์ ผู้ป่วยได้รับ investigate ที่ผลจะชี้ไปสองทางและอันนี้ช่วยบอกว่าเป็นทางไหน คุณเองได้ทำบุญโดยชี้ทางสว่างและความรู้แก่น้องคนนั้นว่า service แก่ผู้ป่วยควรจะเป็นอย่างไร และก็ได้ดำเนินการ treatment ที่ถูกต้องแก่ผู้ป่วย ส่วนน้องคนนั้นก็อาจจะได้ความรู้และบุญอย่างเต็มที่ ถ้าเขาไม่เอาความขุ่นมัวมาบดบังสิ่งที่ควรจะได้ไปมากนัก ถ้าเรื่องนี้เข้า session ethics เราก็แทบจะ predict ได้เลยว่าผล verdict จะเป็นอย่างไร และผมก็มองไม่ใคร่เห็น action ที่เราจะแนะนำที่แตกต่างจากที่คุณได้ทำไปแล้วซักเท่าไร หรืออาจจะมี version ที่ aggressive กว่านั้นด้วยซ้ำอยู่ใน option เช่น skip ตามอาจารย์เวรของเขาแทนทันทีที่เขายึกยัก

ประเด็นสำคัญที่ควรจะจำคือ คนเราทุกคนไม่สามารถจะควบคุมตนเองได้ทุกวัน และตลอด 24 ชั่วโมง ทุกคนมีวันผีเข้าได้เหมือนๆกัน เราจึงต้องมีอุปกรณ์ไล่ผีและเตรียมการให้พร้อม และคำนึงว่าเราอาจจะกำลัง deal กับผีอีกตัวที่กำลังเข้าสิงแพทย์หรือบุคลากรท่านอื่นอยู่ ถ้าเรามีการให้อภัยและทำงานที่สำคัญกว่าคือผู้ป่วยให้เสร็จๆไป ปล่อยให้คนอื่นเขามีโอกาสปล่อยผีออกไปบ้างก็ดี ยกเว้นกรณีผีดื้อด้านอาจจะต้องจับถ่วงน้ำนั้นก็เป็นอีกเรื่องนึง



Posted by : Phoenix , Date : 2003-08-17 , Time : 09:24:26 , From IP : 172.29.3.211

ความคิดเห็นที่ : 17


    ลองคิดกลับกัน ในกรณีนี้ผมว่าถ้าเป็น รพ เอกชน หมอรังสีต้องรีบมาแน่แน่ครับ และจะไม่บ่นสักคำเลยด้วย ยิ่งขอเยอะยิ่งชอบ นี่คือความจริง

Posted by : กลับกัน , Date : 2003-08-17 , Time : 12:05:07 , From IP : dial-14.ras-2.ska.s.

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.028 seconds. <<<<<