ความคิดเห็นทั้งหมด : 1

.


   เส้นทางชีวิต"จูหลิง ปงกันมูล"ตอกย้ำ"ครู"คือเหยื่อความรุนแรง

เหตุการณ์ที่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ที่ผ่านมา สร้างบทเรียนตอกย้ำถึงความรุนแรงที่ยังคงปกคลุมอยู่กับจังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อครูโรงเรียนบ้านกูจิงลือปะถูกทุบตีจนได้รับบาดเจ็บสาหัส สิ่งที่เกิดขึ้นนอกจากจะชี้ให้เห็นว่า ครูอยู่ในฐานะที่ต้องตกเป็นเหยื่อแล้ว ยังเป็นการลบภาพความรู้สึกที่ดีที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้

บาดแผลจากเหตุการณ์ที่ชาวบ้านกว่า 300 คน ในพื้นที่หมู่ 4 ต.เฉลิม อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ร่วมกันปิดล้อมและจับครูโรงเรียนบ้านกูจิงลือปะ 2 คน คือ น.ส.ศิรินาถ ถาวรสุข อายุ 30 ปี และ น.ส.จูหลิง ปงกันมูล อายุ 27 ปี เป็นตัวประกัน เพื่อแลกกับการปล่อยตัวผู้ต้องสงสัย 2 ราย ที่ถูกเจ้าหน้าที่จับตัวไป หลังจากมีหลักฐานที่บ่งชี้ว่าบุคคลทั้งสองมีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความไม่สงบ

สิ่งที่หลงเหลือจากเหตุการณ์วันที่ 19 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ก็คือ ความบอบช้ำทางด้านร่างกายที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรง โดยเฉพาะในรายของ น.ส.จูหลิง ที่ยังคงอยู่ในการดูแลของแพทย์ ที่โรงพยาบาลใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ตลอดเวลา และเป็นการชี้ให้เห็นว่า "ครู" ยังคงเป็นบุคลากรที่อยู่บนฐานของความเสี่ยงต่ออันตรายที่จะเกิดขึ้นกับชีวิตอย่างเลี่ยงไม่ได้

น.ส.จูหลิง เกิดในเดือนมีนาคม 2522 ภูมิลำเนาเดิมคือ หมู่ 10 บ้านปงน้อยใต้ กิ่ง อ.ดอยหลวง จ.เชียงราย ด้วยความที่บิดาชอบดูหนังจีนกำลังภายในและชอบนางเอกในเรื่องที่ชื่อว่า "จุ้ยหลิน" จึงนำมาตั้งเป็นชื่อบุตรสาว แต่เมื่อไปจดทะเบียนกลายมาเป็น "จูหลิง" และมีชื่อเล่นว่า "จุ้ย" ครูจูหลิงจบการศึกษาสูงสุดที่คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง ภายหลังคว้าปริญญาบัตร ด้วยความรักในศิลปะจึงตัดสินใจเดินทางออกไปรับจ้างวาดภาพผนังโบสถ์ตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยอาศัยอยู่กับแม่ชี กินข้าวก้นบาตร ซึ่งวัดสุดท้ายคือที่ จ.สงขลา

"สาเหตุที่ตัดสินใจไปรับจ้างวาดภาพ เนื่องจากตัวหลานสาวเองต้องการหาเงินมาก เพื่อส่งให้พ่อแม่นำไปใช้หนี้ที่กู้ยืมมาและส่งเสียให้ได้เรียนหนังสือ" นางแสงหล้า พรหมเมือง ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้า บอกเล่าถึงความเป็นมา

จุดหักเหตุของชีวิต เกิดขึ้นเมื่อ จูหลิง สอบครูได้ในอันดับ 1 และจะต้องไปประจำอยู่ที่ จ.นราธิวาส ข่าวดีครั้งนั้นอยู่บนพื้นฐานของการต่อต้านจากญาติพี่น้อง ด้วยความห่วงใยเรื่องอันตราย แต่ จูหลิง ก็ทัดท้านด้วยเหตุผลว่า ต้องการไปสอนหนังสือ และจะทำให้ได้สอนเด็กๆ วาดรูปด้วย

"จุ้ยเชื่อว่าเมื่อไปอยู่ที่นั่นจะปลอดภัย เพราะคนใต้เป็นคนดี เด็กๆ ก็น่ารัก ผู้ใหญ่ใจดี มีสิ่งของข้าวปลาก็มาแบ่งให้ และอีกอย่างเราเป็นคนดี ไม่ทำร้ายใคร มั่นใจว่าคงไม่มีใครมาทำร้าย และเมื่อจุ้ยยืนยันอย่างนั้น ญาติพี่น้องจึงไม่อาจทัดทานความมุ่งตั้งใจได้ จึงปล่อยให้ไป" นางแสงหล้า กล่าวและว่า ด้วยความเป็นห่วง นางคำมี ปงกันมูล ผู้เป็นแม่ มักจะโทรศัพท์ไปคุยกับบุตรสาวตลอดทุกเช้าและเย็น ซึ่งคำตอบที่ได้ก็คือ "แม่ไม่ต้องเป็นห่วง สบายดี"

จูหลิง มักจะหาโอกาสมาเยี่ยมบ้านบ่อยครั้ง ล่าสุดกลับมาเยี่ยมบ้านเมื่อช่วงปลายเดือนเมษายน ที่ผ่านมา และพาชาวบ้านจาก จ.นราธิวาส มาเยี่ยมบ้านด้วย เพื่อให้พ่อแม่และญาติพี่น้องสบายใจว่าคนใต้เป็นคนนิสัยดี น่ารัก และก่อนกลับยังชวนนางคำมี ผู้เป็นแม่ ไปเที่ยว จ.นราธิวาส ด้วย เพื่อยืนยันว่าเธออยู่ที่นั่นสบายดี และไม่มีอะไรน่ากลัวอย่างที่เห็นเป็นข่าว

ทั้งนี้ นางคำมีกลับมาจากนราธิวาสเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ที่ผ่านมาและเช้าวันที่ 19 พฤษภาคม ก็ยังโทรศัพท์หาบุตรสาว เรื่องที่กันก็คือ "วันนี้ (19) จะขับรถจักรยานยนต์ไปโรงเรียนวันสุดท้าย และวันจันทร์ที่ 22 พฤษภาคม จะได้นั่งรถกระบะที่ทางการจัดไว้รับส่งครูโดยเฉพาะ แม่ไม่ต้องห่วง วันนี้เหตุการณ์ปกติดี เลิกงานแล้วจะโทรศัพท์หา"...

ด้านนางก๋อง พรหมเมือง อายุ 65 ปี ซึ่งมีศักดิ์เป็นป้า ที่ยังอยู่ในอาการซึมเศร้าและน้ำตาคลอเบ้าอยู่ตลอดเวลา เล่าว่า จูหลิง เป็นคนดี ไม่เคยทำร้ายใคร ยืนยันหนักแน่นกับญาติพี่น้องว่า อยู่ที่ จ.นราธิวาสได้ แต่ไม่นึกว่าคนที่นั่นจะทำร้ายจูหลิงได้ถึงเพียงนี้

"ขณะนี้ญาติพี่น้องไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครแล้ว ได้แต่พึ่งไสยศาสตร์ เพื่อเป็นที่พึ่งทางใจ หวังให้เกิดปาฏิหาริย์ให้หลานสาวรอดชีวิตกลับมาอยู่ที่บ้าน จากนี้ไป ไม่ว่าจูหลิงจะเป็นอย่างไร ญาติพี่น้องทุกคนยังคงรักเหมือนเดิม และจะไม่ยอมให้กลับไปอยู่ที่นั่นอีก ทุกวันทุกคนกินไม่ได้นอนไม่หลับ อยากให้ฟื้นและหายเร็วๆ ยิ่งตอนกลางคืนขณะทุกคนหลับมักจะมีเสียงดังคล้ายเสียงคนเดินไปมา คิดว่าคงจะเป็นจิตของจูหลิง (ตามความเชื่อของคนทางภาคเหนือ) ที่ล่องลอยออกจากร่างมาเยี่ยมบ้าน ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงแปลกๆ จะบอกว่า “จุ้ยใช่ไหม กลับไปเข้าร่างดีกว่าแล้วค่อยกลับบ้าน”

ขณะที่ ด.ญ.สุธาทิพย์ พรหมเมือง หลานสาวที่ร่วมเดินทางไป จ.นราธิวาส พร้อมกับนางคำมี เพื่อดูความเป็นอยู่ของญาติผู้พี่ เล่าว่า ตอนที่ไป จ.นราธิวาส ครั้งแรกรู้สึกกลัว แต่พอไปถึงแล้วพบว่าทุกคนนิสัยดี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่นั่นดูจะรักครูจูหลิง ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น

"หากปาฏิหาริย์มีจริง ขอให้พี่จุ้ยหายเร็วๆ แล้วกลับมาอยู่บ้านด้วยกัน และอยากให้ทุกคนอยู่กันอย่างสันติ เราเป็นคนไทยเหมือนกัน ไม่อยากให้แบ่งแยกว่าเป็นคนพุทธ หรือคนมุสลิม ไม่อยากให้เกิดการแตกแยก ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้กับญาติพี่น้องของใครอีก” ด.ญ.สุธาทิพย์ กล่าว

อนึ่ง "จูหลิง ปงกันมูล" ครูโรงเรียนบ้านกูจิงลือปะ ต.เฉลิม อ.ระแงะ จ.นราธิวาส คงไม่ใช่เหยื่อไฟใต้รายสุดท้าย ตราบใดที่สันติสุขยังแผ่ไม่ทั่วถึง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เวลานี้...ปาฏิหาริย์เท่านั้นที่จะสามารถต่อลมหายใจและช่วยชีวิตเอื้องเหนือจากเชียงราย ให้พ้นคราวเคราะห์ที่กำลังเกิดขึ้นกับชีวิตเธอในขณะนี้

จาก คมชัดลึก ฉบับวันเสาร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2549


Posted by : ManiaX , E-mail : (.) ,
Date : 2006-05-27 , Time : 14:50:54 , From IP : 172.29.4.170


ความคิดเห็นที่ : 1


   ผมช่วยไปแล้ว พูดไปแล้ว ทำไมถึงไม่ผ่าน

ต้องให้ตายก่อนใช่ไหม


Posted by : ทำไมเราต้องด่าตัวกินไก่ , Date : 2006-05-27 , Time : 20:18:37 , From IP : 172.29.3.205

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.004 seconds. <<<<<