รพ.ศิริราช ได้รับเลือกโชว์ผ่าตัดหัวใจให้ที่ประชุมโลกรพ.ศิริราช ได้รับเลือกโชว์ผ่าตัดหัวใจให้ที่ประชุมโลก นับเป็นครั้งแรกของวงการแพทย์ไทย ที่คณะแพทย์ศิริราชพยาบาลได้รับเลือกให้เป็นผู้แทนสมาคมแพทย์สวน หัวใจแห่งเอเชียแปซิฟิก ทำการถ่ายทอดสดการรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ผ่านดาวเทียมสู่กรุงปารีส ประเทศ ฝรั่งเศส นายแพทย์ดำรัส ตรีสุโกศล หัวหน้าหน่วยหัตถการรักษาโรคหัวใจ และหลอดเลือด ของโรงพยาบาลศิริราช ระบุว่า ในฐานะ แพทย์ผู้ทำการสาธิตทักษะ และเทคนิคการรักษาผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ซึ่งมีอยู่สองราย รายแรกนั้นจะผ่าตัดผ่านดาว เทียม ซึ่งป่วยเป็นโรคหัวใจตีบ ที่มีความซับซ้อน เนื่องจากมีแคลเซียมเกาะติดผนังเส้นเลือด เป็นอาการที่รุนแรง แต่พบไม่ บ่อยนัก แม้แต่ในต่างประเทศ โดยจะใช้วิธีรักษาด้วยการกรอแคลเซียมออก ด้วยหัวกรอกากเพชรที่มีความถี่สูง เป็นการรักษา แบบไม่ผ่าตัด แต่ใช้วิธีแบบสายสวน ส่วนอีกรายเป็นการรักษาหลอดเลือดตีบ ที่ขั้วหัวใจซ้าย ซึ่งเป็นศาสตร์ชั้นสูง ซึ่งสถาบันที่ชำนาญส่วนใหญ่อยู่ที่ฝรั่งเศส อิตาลี ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ โดยจะใช้เวลาในการผ่าตัดผู้ป่วยไม่เกิน 1 ชั่วโมงต่อคน ก็จะเสร็จสิ้น โดยการผ่าตัดครั้งนี้จะมีการถ่าย ทอดผ่านดาวเทียมสู่กรุงปารีส ซึ่งเป็นเวทีแห่งการจัดประชุมผู้แทนนานาชาติ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมจากประเทศทั่วโลกถึง 1 หมื่น 5 พันคน การประชุมครั้งนี้นอกจากจะได้รับรู้ถึงความก้าวหน้าในการรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบของแพทย์ไทยแล้ว ยังเป็นการผลัก ดันให้แพทย์ไทยมีส่วนร่วมในการประชุมวิชาการ และวิจัยเชิงลึกต่อไปในอนาคตด้วย อย่างไรก็ตาม นายแพทย์ดำรัส ยังระบุว่า ไทยถือเป็น 1 ใน 3 ของโลก ที่มีเครื่องมือนี้ ที่เป็นสายสวนในการขยายหลอดเลือด หัวใจตีบ โดยอีก 2 ประเทศที่มีเครื่องมือนี้ ได้แก่ ฝรั่งเศส และบราซิล และโรงพยาบาลศิริราช ถือเป็นโรงพยาบาลที่มีเกณฑ์ ผ่าตัดผู้ป่วยโรคนี้ได้ดีที่สุด และมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญชำนาญการใส่สายสวนถึง 6 คน ขณะที่ประเทศอื่นไม่มี แต่ประเทศแถบ ยุโรปมีมากที่สุดถึง 4 คน ซึ่งถือเป็นวิวัฒนการก้าวใหม่ของวงการแพทย์ไทยที่ตีแผ่ต่อสายตานานาชาติ และในอนาคตอันใกล้ เชื่อว่าไทยจะเป็นประเทศเดียวในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกที่มีความชำนาญในการรักษาด้วยสายสวนนี้ สำหรับวิธีการใส่สายสวน แพทย์จะเจาะเส้นเลือดแดงที่ต้นขา จากนั้นสอดสายสวนเข้าไปตามเส้นเลือดแดงจนไปถึงจุดเส้น เลือดหัวใจตีบ ซึ่งผู้ป่วยจะไม่รู้สึกเจ็บและทุกข์ทรมาน คณะแพทย์จะทำเพียงแค่ฉีดยาชาเท่านั้น ผู้ป่วยจะฟื้นตัวได้เร็ว และ สามารถกลับบ้านได้ในวันรุ่งขึ้น ที่สำคัญจะกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยไม่มีอาการเหนื่อยหอบ หรือแน่นหน้าอกอีกต่อไป (19/05/49) Posted by : สดๆ , E-mail : (เด็กสด) , Date : 2006-05-21 , Time : 14:17:31 , From IP : 203.188.13.128 |
|
ยินดีด้วยค่ะ (แอบภูมิใจด้วย) Posted by : ae , Date : 2006-05-21 , Time : 22:58:07 , From IP : 172.29.3.110 |
| ความเห็นจาก Social Network : Facebook |
|
|
>>>>> Page loaded: 0.003 seconds. <<<<< |
