ทักษิณ กับจริยธรรมทางธุรกิจ น่ากัวมั่กๆสวัสดีครับเพื่อนๆชาวอัสสัมชัญฯ และเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ >> >>>ท่านอื่นๆที่รักทุกท่าน >> >>> >> >>>ผมใช้เวลาพอสมควรในการตัดสินใจว่าจะเขียนจดหมายนี้ถึงทุกๆคนดีหรือไม่ >> >>>ในใจคิดอยู่ 2 เรื่อง คือ >> >>> >> >>>จดหมายที่ผมเขียนนี้จะมีประโยชน์อะไรหรือไม่ >> >>>จะมีใครเชื่อที่ผมเล่าให้ฟังนี้หรือเปล่า และถึงจะเชื่อ >> >>>แค่จดหมายฉบับเดียวนี้ >> >>>จะมีผลกับการตัดสินใจของทุกท่านหรือไม่ในวันเลือกตั้ง 2 เม.ย 49 >> >>>จะมีการเลือกตั้งหรือเปล่า เพราะ ณ >> >>>เวลานี้ยังบอกไม่ได้ว่าความเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรที่ไม่ชอบทักษิณนั้นจะสัมฤทธิ์ผลตามเจตนาที่ตั้งใจไว้หรือไม่ที่จะให้นายกฯ >> >>>ลาออก ซึ่งถ้าสำเร็จผลดังตั้งใจ จดหมายของผมก็คงจะไม่จำเป็น >> >>>(แต่ผมก็ขอภาวนาให้ขบวนการขับไล่นายกฯ >>ในครั้งนี้ประสบความสำเร็จ) >> >>> >> >>>แต่ในที่สุดผมก็ตัดสินใจเขียนมา >> >>>เพราะว่าอย่างน้อยก็ยังดีกว่านั่งอยู่เฉยๆไม่ได้ทำอะไรเลย >> >>>อย่าน้อยผมก็ได้ทำอะไรเพื่อชาติบ้าง แม้จะเป็นเพียงเสียงเล็กๆ >> >>>จากคนเพียงคนเดียว >> >>>ผมรับรองได้ว่าไม่ได้มีผลประโยชน์หรือส่วนเสียใดๆกับฝ่ายใดทั้งสิ้น >> >>>ความรู้สึกรังเกียจคนที่ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร มีมานานกว่า 16 >>ปีแล้ว >> >>>เพราะผมเองได้เคยร่วมงานกับคนๆนี้ และโดนเขาหลอกมาแล้ว >> >>> >> >>>มีหลายคนเคยถามผมว่าทำไมผมถึงเกลียดนายทักษิณ ชินวัตร >> >>>คนนี้มากเหลือเกิน >> >>>วันนี้ผมจะเล่าให้ฟัง รับรองได้ว่าผมไม่ได้เกลียดนายทักษิณคนนี้ >> >>>เพราะหลงไปตามกระแส ผมไม่ได้ถูกมอมเมาโดยการปลุกระดม >> >>>หรืองมงายเชื่อถือข้อกล่าวหาของฝ่ายต่อต้าน ปีศาจหน้าเหลี่ยม >> >> >>>แต่อย่างใด >> >>>แต่เป็นเพราะผมมีประสบการณ์ตรงกับตัวเองที่โดนคนๆนี้หลอกและหักหลังมา >> >>> >> >>>จดหมายนี้อาจจะยาวและเสียเวลาในการอ่านบ้าง >> >>>แต่รับรองได้ว่าทุกท่านจะใช้เวลาในการอ่าน เร็วกว่าผมเขียนแน่นอน >> >>>โดยเฉพาะเพื่อนๆอัสสัมฯ คงรู้ดีว่า >> >>>สมัยเราเรียนพิมพ์ดีดนั้นเราไม่ได้เรียนด้วยแป้นนี้ >> >>>ซึ่งทำให้ผมพิมพ์ได้ช้ามาก >> >>>ขอรบกวนเวลาเพื่อนๆ ช่วยกันอ่านสักนิด >> >>>เป็นเรื่องประสบการณ์ตรงของผมกับคนที่ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร เมื่อ >>16 >> >>>ปีที่แล้ว >> >>>ก่อนที่เขาจะเล่นการเมือง ก่อนที่เขาจะรวยเป็นแสนๆล้าน >> >>>ก่อนที่เขาจะมีอำนาจเบ็ดเสร็จในบ้านนี้เมืองนี้ >> >>>แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยนั่นก็คือ ความเจ้าเล่ห์ >> >> >>>ปลิ้นปล้อน >> >>>หลอกลวง >> >>>ความไร้จริยธรรมในการทำธุรกิจ >> >>>ไม่สนใจวิธีการและความเดือนร้อนของผู้ร่วมงานและคนอื่นๆ >> >>>สนใจแต่การได้มาซึ่งผลประโยชน์ของตัวเองฝ่ายเดียว >> >>>ลองอ่านแล้วพิจารณาดูกันเองนะครับ >> >>> >> >>>เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2533 คุณรัมยง (โต้ง) >> >>>ได้ชวนผมซึ่งขณะนั้นเป็น >> >>>ผู้จัดการทั่วไปของ บริษัทเพรสซิเด้นท์ทัวร์ฯ >> >>>ให้ออกมาทำธุรกิจของตัวเอง >> >>>ตั้งบริษัทของเราเองขึ้นมาใช้ชื่อว่า บริษัท >> >>>อินเตอร์เน็ทคอมมิวนิเคชั่นฯ >> >>>งานแรกที่เรารับคือ การเป็น Sub-Contract ติดตั้งเสาอากาศระบบ >> >>>Microwave >> >>>รับเคเบิลทีวีให้กับ บริษัท IBC Cable TV ของนายทักษิณคนนี้ >> >>>(ตอนนั้นมี >> >>>คุณประคอง พ. >>(ขอสงวนนามสกุล) >> >>>ซึ่งนายทักษิณไปดึงตัวมาจากกลุ่มบริษัทสหยูเนี่ยน >> >>>เป็น MD.แต่ต่อมาภายหลังคุณประคอง รู้เช่นเห็นชาตินายทักษิณคนนี้ >> >>>เลยกลับไปอยู่กับ สหยูเนี่ยนอย่างเดิม) คงเหลือแต่ คุณนิวัฒน์ บ. >> >>>(ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อและนามสกุลแล้ว) >>ซึ่งนายทักษิณดึงตัวมาจากบริษัท >> >>>IBM >> >>>(ประเทศไทย) >> >>> >> >>>ขอประทานโทษที่ต้องเอ่ยนามสองท่านนี้ >> >>>แต่เพื่อพิสูจน์ว่าที่ผมพูดเป็นเรื่องจริง >> >>>ไม่ได้แอบอ้าง (แต่ผมขอสงวนนามสกุลของท่านทั้งสอง) ปัจจุบัน >> >>>คุณนิวัฒน์ >> >>>ยังเป็นใหญ่เป็นโต (มาก) อยู่ที่ ITV >> >>> >> >>>เมื่อเริ่มธุรกิจกับ IBC ตอนนั้นมี Sub-Contract >> >>>ที่รับติดตั้งเสาอากาศแบบบริษัทของผมอยู่เพียง 4 บริษัทฯ >> >>>เพราะตอนเริ่มนั้น >> >>>ทาง >> >>>IBC ตั้งคุณสมบัติของ Sub-Contract ไว้สูงมาก >>ตัวอย่างเช่น >> >>> >> >>>- ต้องมีวิศวกรประจำบริษัทฯ >> >>> >> >>>- ต้องมีเครื่องมือและอุปกรณ์ตามมาตรฐานซึ่งสูงมาก >> >>> >> >>>- ต้องมี Field Strength Meter สำหรับวัดความแรงของสัญญาณ >> >>>(ราคาเครื่องละเกือบแสนเมื่อ 16 ปีก่อน) >> >>> >> >>>- รถที่ใช้ต้องเป็นรถกระบะมีหลังคาด้านหลัง ติดสติกเกอร์ของ IBC >> >>> >> >>>- บันไดที่ใช้ต้องเป็นบันไดอลูมิเนียมแบบชักยืดได้ >> >>> >> >>>- พนักงานต้องใส่เสื้อฟอร์มของ IBC ฯลฯ >> >>> >> >>>มาตรฐานที่สูงนี้ทำให้การลงทุนต้องสูงตามไปด้วย >> >>>แต่เราก็ตั้งใจทำอย่างเต็มความสามารถ กู้หนี้ยืมสินมาลงทุน >> >>>เพราะเป็นธุรกิจแรกที่เป็นของเรา คือเปลี่ยนฐานะจากลูกจ้าง >> >>>มาเป็นเจ้าของกิจการ >> >>>และเราไม่อยากเจ๊งตั้งแต่เริ่ม >> >>> >> >>>ธุรกิจก็ดูทำท่าจะไปได้ด้วยดี แต่ละวันมีลูกค้าของ >>IBC >> >>>ที่สมัครเป็นสมาชิกเคเบิลทีวีพอสมควร และทาง IBC ก็คัดออกมาวันละ >> >>>ประมาณ 100 >> >>>กว่าราย เพื่อให้เราไปติดตั้ง จำนวนลูกค้า 100 กว่า >> >>>รายนี้ก็ถูกแบ่งกันไปใน 4 >> >>>Sub-Contract ซึ่งถ้าติดตั้งได้ IBC จะจ่ายให้รายละ 1,150.- บาท >> >>>(ตอนนั้น IBC >> >>>ยังไม่ได้รวมกับUTV เป็น UBC ยังใช้ระบบส่งคลื่น Microwave >>ทางอากาศ >> >>>แบบ Line >> >>>of Sight อยู่ ถ้าบ้านไหนโดนตึกสูงบังก็ไม่สามารถติดตั้งได้ >> >>>โดยเฉพาะย่านสุขุมวิท และย่านที่มีตึกสูงๆ) >>ซึ่งแม้ค่าใช่จ่ายจะสูง >> >>>แต่งานที่มีมากทุกวันและค่าตอบแทนที่สูงพอสมควรก็ ทำให้เราทั้ง 4 >> >>>บริษัทฯ >> >>>อยู่ได้ >> >>> >> >>>แต่วันร้ายคืนร้ายก็เกิดขึ้น นายทักษิณกับภรรยา ได้เรียกทั้ง 4 >> >>>บริษัทฯ >> >>>เข้าไปพบเป็นรายบริษัท ผมได้เข้าไปพบคนทั้งสองนี้ >>โดยลำพัง >> >>>นายทักษิณแจ้งกับผมว่า จะมี Promotion พิเศษ เป็น Hard Sales >>โดยทาง >> >>>IBC >> >>>จะรับปากลูกค้าว่าสมัครวันนี้จะติดตั้งให้เสร็จภายใน 7 วัน >> >>>(ก่อนหน้านั้นต้องรอคิวนานพอสมควร) >> >>>นายทักษิณคาดว่าจะทำให้มีสมาชิกสมัครเข้ามามากมาย >>คนทั้งสองอยากให้ผม >> >>>(และ >> >>>Sub-Contract รายอื่นๆ) รีบขยายงาน เพิ่มทีมติดตั้ง >> >>>เพื่อรองรับลูกค้าที่จะเพิ่มขึ้นแบบทะลักทะล้น เขาบอกกับผมว่า >> >>>คุณภาวิทย์... >> >>>เราจะโตไปด้วยกัน... >> >>> >> >>>เมื่อเป็นคำพูดจากปากนายทักษิณและภรรยา (ผู้มีอำนาจเต็ม) >> >>>ของเขาก็เออออสอดคล้อง >> >>>ผมจึงมีความเชื่อมั่น 100 เปอร์เซ็นต์ กลับจากพบคนทั้งสอง >> >>>ก็เริ่มระดมทุน >> >>>ขยายบริษัท เพิ่มทีมติดตั้ง จาก 8 ทีม เป็น 20 ทีม >> >>>เพิ่มรถกระบะและซื้ออุปกรณ์และเครื่องมือมากมาย หวังว่าจะ >>โต >> >>>ไปพร้อมกับตระกูล ชินวัตร (แต่ภายหลังปรากฏว่า ตระกูลชินวัตร >> >>>นั้นโตจริงๆ...แต่ผม...โตแต่ หัวคือเป็นหนี้ หัวโต!!!!) >> >>> >> >>>แต่ไม่ถึงสองอาทิตย์ ก็เหมือนฟ้าฝ่าลงมา ปรากฏว่า IBC เพิ่ม >> >>>Sub-Contract >> >>>โดยไม่บอกพวก Sub-Contract เก่า ให้รู้ตัวล่วงหน้าเลย จาก 4 >> >>>Sub-contract >> >>>ที่มีกลายเป็น 25 Sub-Contract ในทันที >> >>>ลูกค้าที่กะว่าจะทะลักเข้ามาอย่างมากมายก็ไม่ได้เป็นไปตามที่ IBC >> >>>คาดการณ์ >> >>>ลูกค้าก็ยังมีเท่าๆเดิม คือ 100 กว่ารายต่อวัน >> >>>งานที่เคยแบ่งกันไปติดตั้ง 20 >> >>>กว่ารายต่อ Sub-Contract ต่อวัน ก็เหลือแค่ 3-4 รายต่อวัน ซ้ำร้าย >> >>>ยังโดนนายทักษิณหักคอ โดยการลดค่าติดตั้งลงจาก 1,150 บาท ต่อราย >> >>>เหลือเพียง >> >>>750 >> >>>บาทต่อรายเท่านั้น >> >>> >> >>>และมาตรฐานของทีมติดตั้งของ >>Sub-Contract ใหม่ก็ต่ำลงอย่างน่าใจหาย >> >>>จากที่เคยบังคับให้มีรถกระบะ มีบันไดอลูมิเนียม และ Field >>Strength >> >>>Meter >> >>>ก็เหลือแค่มอเตอร์ไซค์กับบันไดไม้ไผ่และทีวีเล็กๆ (Family TV 7 >>นิ้ว) >> >>>ไว้เช็คภาพเท่านั้น >> >>> >> >>>สรุปก็คือ ทั้ง 4 Sub-Contract เดิม >> >>>ต้องปิดตัวลงอย่างรวดเร็วเพราะปริมาณงาน >> >>>แต่ค่าติดตั้งที่ได้รับ น้อยเกินไปเมื่อเทียบกับการลงทุนที่สูง >> >>>และต่อมาก็ได้ทราบว่า Sub-Contract ใหม่อีก 20 กว่าบริษัท >> >>>ก็ต้องปิดตัวลงด้วย >> >>>เพราะแม้ว่าต้นทุนจะต่ำกว่า >> >>>แต่ปริมาณงานและค่าติดตั้งเพียงแค่นั้นไม่สามารถจะทำธุรกิจต่อไปได้ >> >>> >> >>>เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ผมจึงขอเข้าพบนายทักษิณ >> >>>เพื่อขอความกระจ่างในเรื่องที่เพิ่ม Sub-Contract ทีเดียวจาก 4 >> >>>Sub-Contract >> >>>เป็น 25 เพิ่มขึ้น 6 >>เท่า ปริมาณงานก็ลดลงกว่า 600 เปอร์เซ็นต์ >> >>>และค่าติดตั้งยังลดลงอีก 30 กว่าเปอร์เซ็นต์ >> >>>อีกทั้งจะขอความเห็นใจจากเขา >> >>>ที่บอกให้เราไปเพิ่มทีมติดตั้งที่มีมาตรฐานสูง แต่กลับไปรับ >> >>>Sub-Contract >> >>>ใหม่ที่ไม่ระบุคุณสมบัติใดๆมีเพิ่ม ทำให้ผมขาดทุนไปกว่า 2 ล้านบาท >> >>>(เมื่อ 16 >> >>>ปีก่อน นับเป็นเงินไม่น้อย) แต่ผลปรากฏว่า นายทักษิณและภรรยา >> >>>ไม่ยอมให้ผมเข้าพบ >> >>>ไม่ว่าจะขอเข้าพบกี่ครั้ง โดยไม่แจ้งเหตุผลใดๆ >>เรียกว่าหลบหน้าไปเฉยๆ >> >>> >> >>>จากเหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้ผมทราบดีถึงความหลอกลวง >> >>>ปัดความรับผิดชอบและขาดความเห็นใจต่อ Business Partner >> >>>ไม่คำนึงถึงเพื่อนร่วมงานว่าจะประสบชะตากรรมอย่างไร >> >>>สนใจแต่การบรรลุถึงจุดประสงค์ของตัวเอง ถ้าจะถามผมว่า >>เขาผิดหรือไม่ >> >>>ก็ตอบได้เลยว่าเขาไม่ผิด >>เขาไม่ได้โกงผม >> >>>เขาแค่หลอกผมให้ลงทุนเพิ่มเพื่อขยายบริษัท แล้วก็หักหลังผมและ >> >>>Sub-Contract >> >>>เก่าอีก 3 รายโดยการเพิ่ม Sub-Contract ใหม่ทีเดียว 6 เท่าตัว >> >>>และหักคอพวกเราโดยการลดค่าติดตั้งโดยไม่แจ้งล่วงหน้าและไม่ให้เหตุผลใดๆ >> >>> >> >>>แน่นอนการกระทำเช่นนี้ไม่ใช่การโกง แต่ที่สำคัญในความคิดของผม เขา >> >>>ความขาดจริยธรรมในการทำธุรกิจ >>คนๆนี้ไม่สนใจถึงวิธีการและความสูญเสีย >> >>>(ของคนรอบข้าง) >>ขอเพียงให้ได้มาซึ่งความบรรลุถึงวัตถุประสงค์ของเขา >> >>>เขาทำได้ทุกอย่าง ดังที่คนจีนเปรียบเปรยไว้ว่า >> >>>เหมือนกับการปีนป่ายขึ้นสู่ที่สูงโดยการเหยียบย่ำไปบนกองซากศพผู้อื่น >> >>>(จะเรียกว่าเป็น ผู้กล้าได้อย่างไร) เรื่องนี้ถ้าไปถาม คุณจำลอง >> >>>คุณชวลิต >> >>>และคุณเสนาะ จะทราบดี เพราะ >>3 >> >>>คนนี้ได้รู้ซึ้งถึงแก่นแท้ของนายทักษิณเป็นอย่างดี >> >>> >> >>>เกือบ 10 ปีก่อน เมื่อเขาหันมาเล่นการเมือง >>เขาเที่ยวป่าวประกาศว่า >> >>>เขาไม่ใช่นักการเมือง เขาไม่ได้เล่นการเมือง เขาเป็นนักธุรกิจ >> >>>เขาเพียงอาสานำความรู้ความสามารถเข้ามารับใช้ประชาชน ณ วันนั้น >> >>>ผมบอกกับเพื่อนๆว่า เขาบอกว่าเขาเป็นนักธุรกิจ >> >>>เขายังไม่มีจริยธรรมในการทำธุรกิจเลย >> >>>เขาจะมีจริยธรรมทางการเมืองได้อย่างไร >> >>>เกือบ 10 ปีให้หลัง เวลาได้พิสูจน์คำพูดของผมแล้วว่า >> >>>เป็นความจริงทุกประการ >> >>> >> >>>ในตอนนั้น(10 กว่าปีก่อน) มีข่าวว่านายทักษิณคนนี้ >> >>>มีทรัพย์สินเกือบหนึ่งหมื่นล้านบาท >> >>>ผมก็ได้คุยกับเพื่อนๆในบริษัทสหยูเนี่ยนและเราเห็นพ้องต้องกันว่า >> >>>คนๆนี้สามารถซื้อประเทศไทยได้ ตอนนั้นจำได้ว่าประเทศไทยมี สส. ได้ >> >>>360 >>คน >> >>>ถ้าคนๆนี้อยากเป็นนายกฯ ก็เพียงแต่ใช้เงินซื้อ สส. ประเภทผูกขาด >>หรือ >> >>>นอนมา >> >>>(คือลงสมัครเมื่อไหร่ได้เมื่อนั้น) สัก 200 คน จ่ายคนละ 20-25 >>ล้าน >> >>>(ในสมัยนั้น) จ่ายเพียงแค่ 4000 5000 ล้าน >> >>>(ครึ่งเดียวของที่มีอยู่) >> >>>ก็สามารถซื้อสภา (เสียงข้างมาก) ซื้อประเทศนี้ และเป็นนายกฯ >>ได้แล้ว >> >>>และเขาก็ทำอย่างนั้นจริงๆ มาวันนี้เขาคิดเหิมเกริมถึงจะมี สส. >> >>>ของตัวเองในสภาทั้งหมด (500 คน) ไม่ได้คิดเผื่อฝ่ายค้านด้วยซ้ำ!!! >> >>> >> >>>เรามีฝ่ายค้าน ยังเอาเขาไม่อยู่ ถ้าไม่มีเลย จะเป็นอย่างไร >> >>>ลองคิดดู!!! >> >>> >> >>>เพื่อนที่รักทุกท่านครับ ลองพิจารณาดูถึงคุณสมบัติของคนๆนี้ >> >>>จากที่ผมเล่า >> >>>และจากที่ท่านได้ยินมาจากที่อื่น >>ได้โปรดตรองดูว่า >> >>>คนๆนี้มีคุณสมบัติคู่ควรในการเป็นนายกรัฐมนตรี >> >>>ทำหน้าที่บริหารประเทศของเราหรือไม่ >> >>>ลองพิจารณาดูข้อกล่าวหาที่ฝ่ายต่อต้านกล่าวถึง อาทิ : >> >>> >> >>>-เรื่องการกระทำที่ไม่สมควร จาบจ้วงเบื้องสูง >>หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ >> >>> >> >>>-เรื่องการซื้อเครื่องบิน ไทยคู่ฟ้า ไว้ใช้สำหรับตัวนายกฯ >> >>>ในขณะที่ในหลวงและพระบรมวงศานุวงศ์ยังต้องทรงใช้เครื่องของการบินไทยหรือเครื่องบินพระที่นั่ง >> >>>(ลำเก่า) ที่กองทัพอากาศจัดถวาย >> >>> >> >>>-เรื่องการคอรัปชั่น ในโครงการใหญ่ อาทิ เรื่อง CTX >> >>>ที่สนามบินหนองงู่เห่า >> >>> >> >>>-เรื่องการซุกและซิกแซกหุ้น >> >>>(ทำให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีอย่างถูกกฎหมาย) >> >>> >> >>>-เรื่องการแทรกแซงสื่อ (ล่าสุด คุณบุญยอด สุขถิ่นไทย >> >>>(ขอประธานโทษที่ต้องเอ่ยนาม) พิธีกรและผู้ประกาศข่าว >>ของช่อง 3 >> >>>ซึ่งเผลอพูดถึงนายทักษิณแรงไปหน่อย ก็ถูกเด้งไปเรียบร้อยแล้ว >> >>>ในรายการข่าววันใหม่ เมื่อก่อนมีให้ผู้ชมร่วมแสดงความคิดเห็นผ่าน >>SMS >> >>>เข้ารายการ ก็ยกเลิก SMS ไปแล้ว >> >>>เพราะมีแต่คนถามว่าคุณบุญยอดหายไปไหน!?!?) >> >>> >> >>>-เรื่องการแทรกแซงองค์กรอิสระอื่นๆ (หรือแม้กระทั่ง >>การซื้อด้วยเงิน) >> >>> >> >>>-เรื่องการผลักดันให้แปรรูปรัฐวิสาหกิจเป็นบริษัท >> >>>(เพื่อตัวเองจะได้เขาไป >> >>>Take >> >>>over) >> >>> >> >>>-เรื่องการขายสมบัติของชาติ (วงโคจรดาวเทียม) ขายสื่อ (ITV) ฯลฯ >> >>>ให้ต่างชาติ >> >>> >> >>>-เรื่องถือโอกาสยุบสภาหนีการอิภปรายของสภาร่วม สส. และ สว. >> >>> >> >>>-เรื่องคำพูดที่เชื่อถือไม่ได้ กลับกลอก วันนี้พูดอย่าง >> >> >>>วันหน้าพูดอีกอย่าง >> >>>ทำอีกอย่าง >> >>> >> >>>-เรื่องเจรจาการค้า FTA กับหลายชาติที่ประเทศเราเสียเปรียบหมด >> >>>ทั้งชาตินี้และชาติหน้า (แต่บริษัทของนายทักษิณ >> >>>รวมทั้งบริษัทญาติมิตรและคนใกล้ชิดได้ผลประโยชน์ >> >>> >> >>>-เรื่องการฮั้วกับพรรคเล็กๆ ให้มาลงสมัครผู้แทน >> >>>สร้างหลักฐานปลอมว่าสังกัดพรรคการเมืองมาแล้วไม่น้อยกว่า 90วัน >> >>> >> >>>และข้อหาอื่นๆอีกมากมาย >> >>>ซึ่งนายทักษิณไม่เคยออกมาตอบคำถามของฝ่ายต่อต้าน >> >>>หรือแก้ตัวเลย (เพราะหาเหตุผลที่เข้าท่ามาตอแหลไม่ได้) >> >>>ดีแต่พูดบ่ายเบี่ยงประเด็น และตอบไม่ตรงคำถาม >> >>> >> >>>เพื่อนๆลองพิจารณาดูฝ่ายต่อต้านนายทักษิณ >> >>>ซึ่งประกอบด้วยบุคคลจากหลายหลายอาชีพ >> >>>ทั้ง ครูบาอาจารย์ นิสิตนักศึกษา นักวิชาการ นักธุรกิจ ข้าราชการ >> >>>อดีตทหารและอดีตตำรวจชั้นผู้ใหญ่ >>ดารา นักร้อง พิธีกร ผู้หลักผู้ใหญ่ >> >>>ผู้ทรงคุณวุฒิในบ้านในเมือง ต่างมีความเห็นตรงกันว่า นายทักษิณ >> >>>ไม่สมควรจะเป็นนายกฯต่อไป ในขณะที่ฝ่ายสนับสนุนประกอบด้วย >> >>>กลุ่มเกษตรกรภาคอีสาน >> >>>สหกรณ์แท็กซี่ กลุ่มมอเตอร์ไซค์รับจ้าง และชาวบ้าน >>ชาวนาที่โดนหลอกมา >> >>>ฝ่ายไหนจะน่าเชื่อถือกว่ากัน >> >>> >> >>>ฝ่ายที่สนับสนุนนั้น จะมีสักกี่คนที่เข้าใจเรื่องหุ้น >> >>>มีกี่คนที่รู้ว่า >> >>>ไอ้เกาะ >> >>>British Virgin เขามีไว้ทำอะไร >> >>>มีกี่คนที่รู้ว่ากลุ่มธุรกิจเทอมาเซ็กนั้นเป็นใครมาจากไหน >> >>>กี่คนที่เข้าใจว่าการเสียวงโคจรดาวเทียมไปให้ต่างชาตินั้นมันมีผลร้ายอย่างไร >> >>>การที่ให้ต่างชาติมาเป็นเจ้าของ Free TV >> >>>เข้ามามีอิทธิพลกับสื่อของเรานั้นจะเสียหายอย่างไร >> >>> >> >>>ฝ่ายที่สนับสนุนเข้าใจแต่เรื่องใกล้ตัว >> >> >>>สนใจเรื่องรักษาพยาบาลฟรีหรือเสียแค่ >> >>>30 >> >>>บาทแม้จะไม่มีคุณภาพ >> >>>เรื่องจะได้วัวฟรีทุกครอบครัวซึ่งถ้าไม่เอาวัวก็เอาไปขายให้ผู้ใหญ่บ้านหรือกำนันได้ตัวละ >> >>>2-3หมื่น ในขณะที่ผู้ใหญ่หรือกำนันเอาไปขายได้ในราคาตัวละ 4-5 >>หมื่น >> >>>สนใจว่าถ้ามีเลือกตั้งจะได้เงินใช้อีกแล้ว >> >>>สนใจเรื่องที่จะได้กู้เงินจากกองทุนหมู่บ้าน >> >>>แม้เวลาจะใช้คืนต้องไปกู้จากแคปปิตอลโอเคของนายทักษิณมาคืนหนี้เก่า >> >>>แล้วเป็นหนี้ใหม่ต่อโดยเสียดอกเบี้ยแพงกว่า สนใจเรื่อง OTOP >> >>>ทำให้มีงานทำ >> >>>แต่ปรากฏว่า ต่างทำสินค้าชนิดเดียวกันออกมาขายแข่งกันเอง ฯลฯ >> >>> >> >>>หลายคนพูดถึงผลงานของรัฐบาล เช่นการใช้หนี้ IMF การเพิ่มสวัสดิการ >> >>>เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ ปราบปรามยาเสพติด ฯลฯ >> >>>ซึ่งผมไม่เถียงว่าหลายๆผลงานก็เป็นประโยชน์ต่อประชาชน >> >> >>>แต่เชื่อผมเถอะครับ >> >>>โครงการดีๆเหล่านี้ไม่ว่าใครมาเป็นนายกฯ >>ไม่ว่าพรรคไหนมาเป็นรัฐบาล >> >>>เขาก็สานต่อ >> >>>ก็ทำกันทุกรัฐบาลนั่นแหละครับ >> >>>แต่เราช่วยกันเลือกหัวหน้ารัฐบาลที่ดีหน่อยไม่ได้หรือครับ >> >>> >> >>>ถ้าหาก(ซวยจริงๆ)มีการเลือกตั้งในวันที่ 2 เมษายน นี้ >> >>>ผมขอวิงวอนให้ทุกท่านได้โปรดใช้วิจารณญาณของท่านว่า จะ เลือก >>หรือ >> >>>ไม่เลือก >> >>>ดี เพราะตอนนี้เราไม่มีใครให้เลือกแล้ว >> >>>เลือกได้แต่ว่าจะเอาหรือไม่เอาคนๆนี้กลับมาเป็นนายกฯ เท่านั้นครับ >> >>> >> >>>มีญาติบอกญาติ มีเพื่อนบอกเพื่อน มีคนรู้จักก็บอกคนรู้จัก >> >>>บอกต่อๆกันไปให้ทุกคนเข้าใจถึงปัญหาของประเทศ และความเจ้าเล่ห์ >> >>>เหลี่ยมจัด >> >>>ของนายทักษิณ บอกให้เขาคิดกันให้ดีๆก่อนจะใช้สิทธิในการเลือก >> >>>ถ้าไม่แน่ใจ >> >>>ขอให้กาที่ช่อง >>ไม่ใช้สิทธิ เผื่อเราจะมีโอกาสได้เลือกจริงๆ >> >>>ในการเลือกตั้งใหม่ >> >>> >> >>>สำหรับคนที่ไม่เห็นด้วยกับผม >> >>>ผมก็ยินดีที่จะรับฟังความคิดเห็นของทุกๆท่าน >> >>>ขอให้ท่านมีเหตุผลที่ดี รู้จริง หรือได้เคยพบ ได้รู้จัก ตัวเป็นๆ >> >>>ของนายทักษิณ >> >>>อย่างที่ผมเคยเจอและได้ทำงานร่วมกับเขามาแล้ว ก็จะมีน้ำหนักมาก >> >>>แต่ถ้าหากท่านแค่ฟังเขามา อีกต่อหนึ่ง >>ผมคงทำใจให้เชื่อลำบากนะครับ >> >>> >> >>>และหากบังเอิญท่านใดที่ได้รับจดหมายฉบับนี้เกิดรู้จักใกล้ชิดกับนายทักษิณ >> >>>ชินวัตรผู้นี้เป็นการส่วนตัว ก็ได้โปรดช่วยบอกเขาด้วยว่า >> >>>ทรัพย์สินเงินทองที่เขามีอยู่น่ะ ใช้อีก 10 ชาติก็ไม่หมด >> >>>จะโลภไปถึงไหน >> >>>ตายไปก็เอาไปไม่ได้แม้แต่สตางค์เดียว >>อย่าว่าแต่บาทนึงเลย >> >>>ลาออกไปใช้ชีวิตให้สุขสำราญดีกว่ามาเป็นนายกฯให้คนเขาก่นด่าแช่งชักกันครึ่งค่อนประเทศ >> >>>มีเงินมาก อยากช่วยประเทศชาติ >> >>>หรือช่วยคนยากคนจนจริงๆก็ทำได้โดยไม่ต้องเป็นนายกฯ >> >>>ธุรกิจของเขาก็สามารถสร้างงานและจ้างงานได้มาก >> >>>สามารถทำประโยชน์ให้ประเทศได้มหาศาล >>แต่ทำไมเอาไปขายต่างชาติเสียล่ะ >> >>>ซื้อกลับมาดีกว่า ไทยทำเพื่อไทย ดีกว่า ไทยทำให้ต่างชาตินะ >> >>>คุณว่าจริงมั้ย >> >>>ทำไมไม่ถือโอกาสฝากชื่อ(ดีๆ)ไว้ในแผ่นดิน >>ตายไปคนข้างหลังยังสรรเสริญ >> >>>ดีกว่ามีแต่ชื่อเน่าๆ อับอายขายหน้ากันทั้งวงศ์ตระกูล >> >>>คิดถึงลูกๆบ้างมั้ย >> >>>(ไม่ใช่คิดแต่ช่วยลูกโกงข้อสอบทั้งพี่ทั้งน้อง) >> >>>ว่าต่อไปจะอยู่มองหน้าคนในแผ่นดินได้ยังไง จะมีใครกล้าใช้นามสกุล >> >>>ชินวัตร >> >>>ให้เขาตราหน้าเป็นญาติโกโหติกาของ นายทักษิณ >>ผู้โกงชาติโกงแผ่นดิน >> >>> >> >>>ที่ผมอยากเล่า อยากพูด อยากบอกก็มีเพียงเท่านี้ ท่านอ่านแล้วจะคิด >> >>>พิจารณา >> >>>หรืออ่านแล้วลบทิ้ง หรือแม้แต่จะไม่อ่านสักคำ >> >>>เพราะยาวเกินไปเสียเวลาทำงาน >> >>>ทำมาหากินของท่าน ก็สุดแล้วแต่ สำหรับผมนั้น >> >>>ได้ถือว่าได้ทำหน้าที่ของตัวเองแล้ว >> >>>และขอถือโอกาสนี้กราบขอบพระคุณทุกท่านที่ได้สละเวลาอ่านจนจบ >> >>>หวังว่าจดหมายฉบับนี้ของผมคงเกิดผลที่ดีบ้าง >> >>>แม้แต่เพียงคะแนนเสียงเดียวที่เปลี่ยนใจไม่เลือกนายทักษิณ >> >>>และพรรคไทยรักไทย >> >>>ผมก็จะมีความสุขมากแล้วครับ >> >>> >> >>>ด้วยจิตคารวะ >> >>> >> >>>ภาวิทย์ วนัปติกุล (อ.ส.ช 23324) >> >>> >> >>>ปล. ล่าสุดผมเห็นคุณตั้ว ศรัยยู วงศ์กระจ่าง >> >>>ขึ้นเวทีปราศรัยของฝ่ายต่อต้านทักษิณ เมื่อคืนวันที่ 13 มี.ค >>นี้ >> >>>ก็รู้สึกดีใจมากๆ เพราะ เมื่อ 5 ปีก่อนมีข่าวว่าคุณตั้ว >> >>>สนใจจะสมัครผู้แทนในนามพรรคไทยรักไทย >> >>>ผมก็ได้เขียนจดหมายเล่าประสบการณ์อันนี้ของผมให้คุณตั้วฟังเช่นกัน >> >>>โดย >> >>>ผ่านรายการ ตู้ ปณ. 5 ของพี่ตู้ จรัสพงษ์ ไม่ว่าคุณตั้ว >> >>>จะได้อ่านจดหมายของผมในวันนั้นหรือไม่ก็ตาม >> >>>แต่ในวันนี้ผมก็ได้เห็นแล้วว่า >> >>>คุณตั้วเลือกมาถูกทางแล้ว และขอเป็นกำลังใจให้คุณตั้วตลอดไป >> >>>อยากให้อ่านดูและคิดตาม Posted by : 55 , E-mail : (55) , Date : 2006-05-07 , Time : 11:44:34 , From IP : 203.113.16.241 |
ยาวไม่อ่านได้ม่ะ Posted by : DreamCatcher , Date : 2006-05-08 , Time : 15:27:24 , From IP : 203.113.70.76 |
ถึงยาวก็จะอ่าน Posted by : ... , Date : 2006-05-11 , Time : 03:45:47 , From IP : 172.29.1.249 |
ความเห็นจาก Social Network : Facebook |
|
>>>>> Page loaded: 0.003 seconds. <<<<< |