ควักกระเป๋าจ่าย 5.5 พันล้านโบนัสปี 48 ขรก.ยิ้มร่าไม่เกิน พ.ค.ถึงมือ
กพร.รับผิดพิจารณาอืดปี 49 ตั้งเป้าเสร็จ ม.ค.50
กพร.ไฟเขียวทุ่มงบประมาณก้อนโต 5,500 ล้านแจกรางวัลโบนัสปี 48 ส่งผลข้าราชการไทย 1.2 ล้านคนยิ้มแป้นกันถ้วนหน้า ดีเดย์รับทรัพย์เข้ากระเป๋าไม่เกิน พ.ค.นี้ เผยกรมธนารักษ์กับกรมสรรพากร สังกัดกระทรวงการคลัง ผลงานเข้าตากรรมการ รับเงินรางวัลสูงสุด ระบุเน้นอัดฉีดคนตั้งใจทำงาน ผลงานดี ย่อมได้ดี รับไปเลยเต็ม ๆ
เมื่อวันที่ 1 พ.ค. นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (กพร.) เปิดเผยว่า กพร. ได้ส่งหนังสือเวียน เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการจัดสรรเงินรางวัล ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 จำนวน 5,500 ล้านบาท ให้แก่ข้าราชการและลูกจ้างประจำของส่วนราชการและตามจังหวัดต่าง ๆ ทั้งระบบ ตั้งแต่ระดับ 1-8 จำนวน 1.2 ล้านคน พร้อมด้วยวิธีจัดสรรเงินรางวัลไปยังทุกส่วนราชการแล้ว โดยจะสามารถจัดสรรเงินรางวัลให้กับข้าราชการได้ภายในเดือน พ.ค. นี้ ทั้งนี้ที่ผ่านมา กพร. ได้พิจารณามาตั้งแต่ต้นปี 2548 แต่ไม่สามารถจัดทำข้อสรุปให้กับทุกส่วนราชการและตามจังหวัดได้ โดย กพร. ขอยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดของ กพร. เอง เนื่องจากตัวชี้วัดบางตัวและฐานเงินเดือนของแต่ละหน่วยงานยังไม่มีความชัดเจน แต่ไม่เกี่ยวกับการเบิกจ่ายงบประมาณหรือภาวะทางการเงินการคลังของรัฐบาลแต่อย่างใด
เลขาธิการ กพร. กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม หากหน่วยราชการใดมีข้อสงสัยทาง กพร. ก็จะเชิญหน่วยงานนั้นเข้ามาให้คำชี้แจง โดยเฉพาะสูตรวิธีการจัดสรรเงินรางวัล ทั้งนี้เงินรางวัลที่ส่วนราชการจะได้รับนั้นจะขึ้นอยู่กับตัวแปร 2 ตัว ได้แก่ ขนาดของหน่วยงาน ที่มีสูตรว่าจะนำฐานเงินเดือนเป็นตัวตั้ง และการประเมินผลงานที่หน่วยงานนั้น ๆ ได้รับ โดยจะมีคะแนนการประเมินตั้งแต่ระดับ 1-5 ซึ่งหากต่ำกว่าระดับ 3 จะไม่ได้รับเงินรางวัลเลย และในปีงบประมาณ 2548 นี้ พบว่ามีเพียงหน่วยงานเดียวเท่านั้นที่ไม่ผ่านการประเมิน โดยเป็นมหาวิทยาลัย แห่งหนึ่ง เนื่องจากจัดส่งผลการประเมินล่าช้า ส่วนหน่วยงานที่ได้รับการจัดสรรเงินรางวัลสูงสุดยังคงเป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง โดย 2 อันดับแรก ได้แก่ กรมธนารักษ์ และกรมสรรพากร ซึ่งในปีงบประมาณ 2547 หน่วยงานทั้ง 2 แห่งนี้ เคยได้รับเงินรางวัลสูงสุดมาแล้ว ทั้งนี้ยังพบว่าหน่วยงานที่ได้รับเงินรางวัลสูงสุด มีผลงานดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาอีกด้วย
นายทศพร กล่าวด้วยว่า หัวหน้าหน่วยราชการของแต่ละส่วนราชการและจังหวัด จะต้องไปจัดทำระบบในการพิจารณาโดยจะเป็นการจัดสรรเงินรางวัลที่ได้เป็นก้อนไปให้กับข้าราชการทุกคนได้เท่า ๆ กันก่อน ส่วนจะเป็น 20% หรือ50% ขึ้นอยู่กับแต่ละหน่วยงาน เพราะถือว่าข้าราชการทุกคน มีส่วนผลักดันให้การทำงานประสบผลสำเร็จ แต่อย่างไรก็ตาม รัฐบาลและ กพร. ได้ตั้งข้อสังเกตว่า ไม่ควรมีการแบ่งเงินรางวัลให้เท่ากันทุกคน เพราะจะเป็นการผิดเจตนารมณ์ของการให้เงินรางวัล เพราะหากมีการให้รางวัลเท่า ๆ กัน จะทำให้คนที่ตั้งใจทำงานจริง ๆ ไม่ได้รับความเป็นธรรม สำหรับการป้องกันปัญหา หากมีข้อครหาว่าการจัดสรรเงินรางวัลไม่เป็นธรรมนั้น ถือเป็นเรื่องภายในของหน่วยงานราชการนั้น ๆ แต่ในส่วนของ กพร. ได้มีข้อแนะนำวิธีการจัดสรรเงินรางวัลอย่างเป็นธรรมอยู่แล้ว ซึ่งทุกส่วนราชการจะต้องไปคิดสูตรในการจัดสรรเงินรางวัลก้อนที่ได้รับกันเอง
เลขาธิการ กพร. กล่าวอีกว่า สำหรับปีงบประมาณ 2549 นั้น กพร. ได้ส่งเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติงานลงตรวจเยี่ยมการทำงานของแต่ละส่วนราชการ พร้อมกับว่าจ้างให้มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต เป็นผู้ประเมินและลงพื้นที่เดินสายในจังหวัดต่าง ๆ เพื่อประเมินการทำงานใน 6 เดือนแรกแล้ว โดย กพร. ตั้งเป้าว่าจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จในเดือน ม.ค. 2550.
ที่มา
http://www.dailynews.co.th/dailynews/pages/front_th/popup_news/Default.aspx?Newsid=86514&NewsType=1&Template=1
Posted by : พอดีไปเจอมา , Date : 2006-05-02 , Time : 11:04:01 , From IP : 192.168.49.19
|