ความคิดเห็นทั้งหมด : 16

ไม่ให้เอาลูกมาเลี้ยงที่ทำงาน


   ทำไมผู้ใหญ่ไม่ อนุญาติให้เอาลูกมาเลี้ยงที่ทำงาน ใจดำมากมาก ดูผู้ป่วยได้แต่ลูกทิ้งถูกต้องไหมคะ ไม่เห็นใจกันบ้าง

Posted by : ผู้น้อย , Date : 2006-04-19 , Time : 18:15:27 , From IP : 172.29.1.110

ความคิดเห็นที่ : 1


   คนห้ามลูกโตแล้ว ลืมความทุกข์ของคนอื่น ใจดำมากมาก ทำให้ไม่มีกำลังใจในการทำงานเลย ท้อใจ น่าจะจัดสถานที่เลี้ยงให้ด้วย จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง
ขอร้องเถอะเห็นใจลูกน้องบ้าง พี่พี่ก็เคยเป็นแม่คน


Posted by : เห็นด้วย , Date : 2006-04-19 , Time : 18:19:29 , From IP : 172.29.1.110

ความคิดเห็นที่ : 2


   1. อย่าเอาเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวมาปนกัน
2. ลองนึกภาพดู ถ้าห้องทำงานกลายเป็น รร.อนุบาลหรือ รร.ประถม สภาพจะเป็นอย่างไร
3. คุณคิดแค่ว่าปัญหาของคุณใหญ่มาก แล้วปัญหาของคนอื่นเล็กแบบนั้นหรือ
4. ถ้าคุณเป็นหัวหน้า แล้วลูกน้องคุณมาฟ้องว่า เขาทำงานไม่ได้เพราะลูกของเพื่อนร่วมงานเป็นต้นเหตุ คุณแก้ปัญหาอย่างไร
5. ประโยชน์ของส่วนรวมมาก่อนประโยชน์ของส่วนตัวค่ะ

ไม่เห็นด้วยเหมือนกันค่ะที่จะเอาลูกมาเลี้ยงที่ทำงาน


Posted by : ฟฟ , Date : 2006-04-19 , Time : 18:26:35 , From IP : 172.29.7.152

ความคิดเห็นที่ : 3


   เข้ามาอ่านกระดานข่าวแล้วอ่านพบเรื่องนี้ จึงกลับไปอ่านทบทวนหนังสือเวียนใหม่ไม่พบคำว่าห้ามเลย พบแต่คำว่าขอความร่วมมือค่ะ

Posted by : aa , E-mail : (bb) ,
Date : 2006-04-19 , Time : 21:53:23 , From IP : 172.29.5.145


ความคิดเห็นที่ : 4


   เห็นด้วยอย่างมาก บางคนชอบเอาลูกมาเล่นที่ทำงานพอเวลาลูกกวน แม่ก็ทำงานไม่ได้ และเมื่อพยาบาลว่าก็โกระว่าไม่มีน้ำใจ ซึ่งจริงๆแล้วควารแยกแยะให้ได้ว่าวันนี้กำลังปฏิบัติงานให้หลวงอยู่นะคะ ดังนั้นคนที่มีลูกก็ควรคิดถึงส่วนรวมบ้างนะคะ

Posted by : นก , Date : 2006-04-19 , Time : 21:54:21 , From IP : 172.29.7.241

ความคิดเห็นที่ : 5


   น่าเห็นใจนะ

Posted by : สงสาร , Date : 2006-04-19 , Time : 23:34:26 , From IP : 172.29.1.110

ความคิดเห็นที่ : 6


   คนที่ไม่มีลูกคงคิดอีกแบบหนึ่งนะ เห็นใจคนมีลูกอาชีพที่ต้องเสียสละ

Posted by : พี่ , Date : 2006-04-19 , Time : 23:36:13 , From IP : 172.29.1.110

ความคิดเห็นที่ : 7


   อาชีพพยาบาลน่าสงสารจังต้องทุ่มเทดูแลผู้อื่นแต่ไม่มีเวลาดูแลลูก

Posted by : หมอ , Date : 2006-04-19 , Time : 23:37:31 , From IP : 172.29.1.110

ความคิดเห็นที่ : 8


   เมื่อออกหนังสือ"ขอความร่วมมือแล้ว..." ผู้บริหารก็น่าจะช่วยหาทางออกให้กับคนที่มีลูกแล้วไม่มีคนช่วยดูแลในระหว่างที่ตนเองมาทำงานด้วยว่า จะช่วยแก้ไขปัญหานี้อย่างไร ? เพราะก็น่าเห็นใจจริงๆกับสภาพแบบนี้

ส่วนที่คุณ ฟฟ post มาก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องในอุดมคติ แต่ดูจะแล้งน้ำใจและยังไม่ได้หาข้อมูลจากความเป็นจริงว่า ปัญหาที่ว่านั้นเกิดขึ้นสัก กี่ %

ดังนั้นจะเป็นไปได้ไหมว่า

- อนุญาติให้นำลูกมาได้ แต่... ต้องไม่รบกวนการทำงาน
- หากนำลูกมาแล้วเกิดปัญหา ให้พิจารณาไม่อนุญาติเป็นราย ๆ ไป ไม่ใช่เหมารวมแบบนี้

เรื่องแบบนี้ต้องใช้หลักรัฐศาสตร์ ไม่ใช่นิติศาสตร์ เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน


Posted by : คนนอก , Date : 2006-04-20 , Time : 07:53:19 , From IP : 172.29.1.209

ความคิดเห็นที่ : 9


   เคยชอบพยาบาล ชอบเครื่องแบบ มองแล้วสวย น่าสนใจดี
แต่พออ่านกระทู้นี้ ก้อให้รู้สึกว่าโชคดีมากที่ไม่มีภรรยาเป็น
พยาบาล.....อาชีพที่ต้องเสียสละมากๆ ขนาดลูกยังไม่มี
เวลาดูแล แล้วสามีจะไปเหลืออะไร

ช่วงหลังเคยเห็นพยาบาล รพ.มอ. นี่ละทำงาน แค่เห็นก้อเหนื่อยแล้วครับ
ไม่ใช่เขาทำงานไม่ดี แต่เหนื่อยในภาระงานที่เขาทำแทน เห็นใจครับ


Posted by : ชายคนหนึ่ง , Date : 2006-04-20 , Time : 10:40:23 , From IP : 172.28.90.120

ความคิดเห็นที่ : 10


   อาชีพพยาบาลในเมืองไทยมีมาตั้งนานแล้วและพยาบาลรุ่นก่อนๆในอดีตก็มีลูก เคยถามเขาหรือไม่ว่าเวลามาทำงานใครเลี้ยงลูกให้ สำหรับรพ.มอ.อาจจะเป็นเรื่องที่เพิ่งประสบปัญหาเพราะเมื่อก่อนมีพยาบาลโสดและไม่มีลูกเป็นส่วนใหญ่ แต่ปัจจุบันพยาบาลที่มีลูกมีจำนวนมากขึ้นและการดำเนินชีวิตในปัจจุบันส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นครอบครัวเดี่ยว แต่ปัจจุบันก็มีสถานที่รับเลี้ยงเด็กมากขึ้นเช่นกัน ถ้าคิดจะแก้ปัญหาในเรื่องที่ไม่ต้องพาลูกมาเลี้ยงที่ทำงานก็น่าจะทำได้ เพียงแต่คิดจะแก้ปํญหากันอย่างจริงจังหรือเปล่า ไม่ใช่ว่าเห็นคนอื่นหรือพยาบาลward อื่นพามาได้ก็ทำตามกัน ถ้าไม่มีหนังสือเวียนออกมาต่อไปคิดว่าอาจจะมีพยาบาลพาลูกมามากกว่านี้ ที่ผ่านมาไม่ใช่ว่าพยาบาลจะไม่พาลูกมาแต่เท่าที่เห็นคนที่พามาจะเป็นคนมี่มีปัญหาครอบครัว เช่นไม่มีสามีต้องเลี้ยงลูกคนเดียว แต่ในปัจจุบันไม่ใช่แบบนั้นมีสามีและมีปัญญาที่จะจ้างคนเลี้ยงแต่เห็นว่าพามาที่ทำงานได้ก็พามาจนเป็นนิสัย

Posted by : คนมีลูกเหมือนกัน , Date : 2006-04-20 , Time : 12:56:03 , From IP : 172.29.7.101

ความคิดเห็นที่ : 11


   น่าเห็นใจทั้งคนที่มีลูกและไม่มีลูกให้รับผิดชอบ
หากลูกที่พามาที่ทำงาน ไม่ซุกซน หรือรบกวนการทำงานทั้งของแม่และผู้อื่น ก็น่าจะอนุโลมได้(เล็กน้อย)
แต่ที่พบถ้าลูกยังเล็ก ก็แทบจะไม่เป็นอันทำงานทำการ น่าเห็นใจคนอื่นบ้างนะ


Posted by : คนมีลูกด้วยเหมือนกัน , Date : 2006-04-20 , Time : 13:17:50 , From IP : 172.29.3.120

ความคิดเห็นที่ : 12


   ก็เห็นใจทุกฝ่ายแต่ก็ให้คิดอย่าเห็นแก่ตัวทั้งสองฝ่าย
เพราะถ้าอนุญาตให้นำมาทุกคนอะไรจะเกิดขึ้น


Posted by : เห็นใจ , E-mail : (เข้าใจ๑) ,
Date : 2006-04-21 , Time : 15:45:43 , From IP : 172.29.2.82


ความคิดเห็นที่ : 13


   น่าเห็นใจเจ้าหน้าที่ระดับล่างต้องอดทนต่อทุกอย่างเลย

Posted by : เห็นด้วย , Date : 2006-04-21 , Time : 18:13:22 , From IP : 172.29.1.110

ความคิดเห็นที่ : 14


   สงสารพยาบาลผู้เสียสละทั้งกายและใจ ฝากผู้ใหญ่ช่วยดูแลให้กำลังช่วยเหลือ

Posted by : สงสารจัง , Date : 2006-04-21 , Time : 18:42:58 , From IP : 172.29.1.110

ความคิดเห็นที่ : 15


   น่าเห็นใจทั้ง2ฝ่าย หาทางแก้ไขกันดีกว่าให้ผู้ใหญ่ฃ่วยแก้ปัญหานี้หน่อย

Posted by : คนผ่านมา , Date : 2006-04-22 , Time : 09:26:02 , From IP : 203.121.168.245

ความคิดเห็นที่ : 16


   เห็นใจทั้งสองฝ่ายค่ะ นาน ๆ เอาลูกมาเพราะบังอิญพี่เลี้ยงลาหยุดก็คงไม่เป็นอะไรมังคะ แต่ถ้าเอามาเลี้ยงบ่อย ๆ ก็คงไม่ไหวเช่นกันค่ะ พบกันครึ่งทางดีกว่าไหม อยากให้ผู้ใหญ่ในคณะฯ ช่วยดูแลด้วย เพราะท่านก็เคยมีลูกเล็ก ๆ เหมือนกัน

Posted by : น.หนู , Date : 2006-04-22 , Time : 16:36:17 , From IP : p1-rasbkksp8.C.cslox

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.007 seconds. <<<<<