ความคิดเห็นทั้งหมด : 10

อะไร คือ ชีวิต ชีวิต คือ อะไร


   เคยคิดกันบ้างไหมครับ ว่าชีวิตเรา คือ อะไร
เราเกิดมาทำไมกันนะ
แล้วจุดหมายปลายทางชีวิตเราล่ะ
พอเราตายแล้วจะเป็นไงต่อนะ
อืม คิดแล้วก้องง
สำหรับผมนะ ผมว่าเรามีชีวิตเพื่ออยู่กับคนที่เรารัก คนที่มีความหมายกับเรา และทำให้พวกเขามีความสุขที่สุด
เมื่อไหร่ที่ไม่มีคนที่ผมรักหรือรักผมแล้ว การมีชีวิตอยู่ก็ไร้ค่า
ความตาย ไม่ใช่สิ่งที่ผมกลัว เพราะ มันเหมือนเป็นการเดินทาง
อาจจะเพื่อไปพบคนที่เรารัก ที่ไปรอเราอยู่
หรือไปรอคนที่เรารัก รอวันที่จะได้พบกันอีกครั้ง(ถ้ามีจริง)

แล้วมุมมองเรื่องชีวิตของคุณเป็นไงกันบ้างครับ


Posted by : Life is a journey. , Date : 2006-04-16 , Time : 01:11:44 , From IP : 172.29.4.222

ความคิดเห็นที่ : 1


   ชีวิตคือ โรงอาหารพยาบาล.........เรียน........ อ่านหนังสือ...นอน....ผมไม่เคยคิดเรื่องแฟนครับ...เพราะปลงซะแล้ว....ถ้าหาโดนๆไม่ได้ผมว่าอยู่คนเดียวดีกว่า

Posted by : cabin_crew , Date : 2006-04-16 , Time : 08:27:31 , From IP : 172.29.4.75

ความคิดเห็นที่ : 2


   ความรักมีอยู่รอบตัวเรา รักมีหลายแบบ เพื่อน พี่ น้อง พ่อแม่ คนรู้จัก ที่สำคัญ รักตัวเอง

Posted by : เด็กแนว , Date : 2006-04-16 , Time : 09:57:19 , From IP : 172.29.1.165

ความคิดเห็นที่ : 3


   เป้าหมายของชีวิตคือ ทำทุกอย่างเพื่อพระเจ้า เพราะสิ่งที่พระเจ้าใช้ให้ทำ และห้ามไม่ให้ทำ ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ดีต่อชีวิต ดีต่อสังคมส่วนรวม ทั้งนั้น คำว่า "เพื่อพระเจ้า" เป็นกุศโลบายชั้นสูง แท้ที่จริง ความสุขสงบ ที่เกิดจากการกระทำ "เพื่อพระเจ้า" ล้วนแล้วแต่ได้กับตัวเราเองทั้งนั้น



Posted by : ยูริ , Date : 2006-04-16 , Time : 15:37:56 , From IP : 172.29.7.152

ความคิดเห็นที่ : 4


   ขอโทษนะครับ ไม่ได้จะลบหลู่นะครับ
ผมอยากรู้ว่ามุมมองเรื่องพระเจ้าของคุณยูรินี่เป็นยังไงนะครับ
อย่างเช่น รับรู้ข่าวสารจากพระเจ้าได้อย่างไร เชื่อและทำตามทุกอย่างจริงหรือครับ
ถึงแม้ว่าสิ่งนั้นมันขัดกับความรู้สึกในแง่ศีลธรรม จรรยาในใจของเรา คุณยูริก็จะทำหรือครับ
และถ้าเป็นอย่างนั้นก็คงแสดงว่าคุณยูริเคารพและศรัทธาในพระเจ้าอย่างมาก และเชื่อถึงการมีอยู่จริงของโลกหลังความตาย และภพหน้าใช่หรือไม่ครับ
ปล.ขอโทษนะครับ ถ้าถ้อยคำของผมจะทำให้เกิดการขุ่นเคืองใจ


Posted by : Life is a journey. , Date : 2006-04-17 , Time : 12:15:30 , From IP : 172.29.4.222

ความคิดเห็นที่ : 5


   ถ้าตามหลักพระพุทธศาสนา คนเราเกิดมาใช้กรรม ทุกอย่างในชีวิตไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน เหมือนความฝัน ฉะนั้นเค้าจึงบอกว่าไม่ควรจริงจังกับชีวิตมากเกินไป ให้เดินทางสายกลาง ใครทำบุญมาดีก็สบายหน่อย เค้าบอกว่าการจะเกิดมาเป็นคนไม่ใช่ง่าย ได้พบพระพุทธศาสนายิ่งยากใหญ่ ดังนั้น เมื่อมีโอกาสดีก็ต้องใช้โอกาสให้คุ้มค่า เร่งสร้างคุณงามความดีปฏิบัติธรรม เจริญสติ ถึงชาตินี้จะไม่ได้บรรลุธรรม ก็สะสมไว้ก่อน เหมือนพระพุทธเจ้าไง พอถึงเวลาเราก็คงหลุดพ้นในที่สุด



Posted by : น้ำฟ้า , Date : 2006-04-18 , Time : 11:29:49 , From IP : 172.29.2.197

ความคิดเห็นที่ : 6


   ตามความเข้าใจส่วนตัวของผม แตกต่างจากของคุณน้ำฟ้านิดหน่อย ขออนุญาต share

ผมเข้าใจว่าตามหลักพุทธศาสนานั้น สอนให้เราใช้ชีวิตด้วยความ "ไม่ประมาท" และพยายามทุกอย่างโดยมีสติ ผมคิดว่าจะทำอย่างนั้นได้คงจะต้อง "จริงจัง" พอสมควร สาเหตุเพราะการกระทำทุกอย่างที่เราทำไป (กรรมะ) จะส่งผมให้เกิดวิบากตามมา เราจึงควรพิจารณาว่าสิ่งทีทำไปนั้นควรหรือไม่ควร

ในมรรค 8 นั้น มัชฌิมาปทา ผมว่าแปลยากเหมือนกัน แปลง่ายๆว่าไม่ตึง ไม่หย่อนก็อาจจะได้ แต่ไปๆมาๆบางอย่างมันไม่เชิงอย่างนั้น เช่น สัมมาวาจา สัมมาทิฎฐิ สัมมากัมมันตะ หรือสัมมาอาชีวะนั้น ค่อนข้างจะ "โน้มน้าว" ไปทางหนึ่ง และให้หลีกเลี่ยงอีกทางหนึ่ง ยิ่งห่างยิ่งดี

"ชีวิตคืออะไร" นั้น เราแต่ละคนมีประสบการณ์ส่วนตัวที่แตกต่างกัน ก็จะมีวิธีเข้าหาคำถามนี้ตามบริบท ซึ่งอาจจะ "ต่างกันไป" คนละโลกก็มี แต่ที่น่าสนใจคือทางอภิปรัชญานั้น ของบางอย่างมันเป็น "สัจธรรม" ต่อให้ต่างกันมาก่อนแค่ไหน ถ้าจะมารวมกันที่บั้นปลายทางได้ แต่กว่าจะถึงจุดนั้น ผมเห็นด้วยกับคุณน้ำฟ้าว่าคงจะต้องค่อยๆสั่งสมไปเรื่อยๆ

ส่วนคำตอบทางอื่น ก็มีเยอะ ทาง bio ก็อาจจะนับ brain wave, EKG ทางกฏหมายก็อาจจะนับอย่างหนึ่ง เยอะแยะไปหมด



Posted by : Phoenix , Date : 2006-04-18 , Time : 12:01:01 , From IP : 172.29.3.231

ความคิดเห็นที่ : 7


   ขอตอบคำถามความคิดเห็นที่ 4 สั้นๆนะคะ
- รับรู้ข่าวสารจากพระเจ้าได้อย่างไร
ทราบจากคัมภีร์อัลกุรอ่านที่พระเจ้าประทานมาให้ค่ะ

- เชื่อและทำตามทุกอย่างจริงหรือครับ
เชื่อทุกอย่างค่ะ เพราะการที่เราไม่เชื่อนั่นคือการปฏิเสธพระเจ้าค่ะ และนั่นหมายถึงเราไม่ใช่คนที่นับถือศาสนาอิสลาม แต่การทำตาม ทำทุกอย่างที่ทำได้ ดูความหนักเบาของแต่ละกรณีย์ เพราะหลักศาสนาบัญญัติไว้แล้วว่า.... แบ่งเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆค่ะ คือ 1. ต้องทำ (เป็นภาคบังคับ) 2. ห้ามทำ (เด็ดขาด) 3. ถ้าทำจะเป็นการดี ไม่ทำก็ไม่เป็นไร แล้วจะมีรายเอียดอีกว่า อันไหนจัดอยู่ประเภทไหน อันนี้ต้องศึกษาค่ะ

ถ้าสนใจจริงๆ เข้าไปศึกษาได้ค่ะ ที่ WWW.MUSLIMTHAI.COM

เน้นนะคะ อิสลามเน้นความสงบสุขของสังคมส่วนรวม มากกว่าความสุขส่วนบุคคล
จะสังเกตุได้ว่า หลายๆกรณีย์ คนต่างศาสนิกมักคิดว่าละเมิดสิทธิส่วนบุคคล แต่อิสลามไม่คิดเช่นนั้น สังคมส่วนรวมต้องมาก่อนค่ะ เช่นการแต่งกายของสตรี การรับดอกเบี้ย การบริจาคทาน และ ฯลฯ





Posted by : ยูริ , Date : 2006-04-18 , Time : 15:30:50 , From IP : 172.29.7.88

ความคิดเห็นที่ : 8


   
ต่อค่ะ

- ถ้าเป็นอย่างนั้นก็คงแสดงว่าคุณยูริเคารพและศรัทธาในพระเจ้าอย่างมาก และเชื่อถึงการมีอยู่จริงของโลกหลังความตาย และภพหน้าใช่หรือไม่ครับ
ตอบ ใช่ค่ะ

- เชื่อและทำตามทุกอย่างจริงหรือครับ ถึงแม้ว่าสิ่งนั้นมันขัดกับความรู้สึกในแง่ศีลธรรม จรรยาในใจของเรา คุณยูริก็จะทำหรือครับ
ตอบ ถ้าให้ตอบตอนนี้ก็จะบอกว่า ไม่มีค่ะที่ขัดกับความรู้สึกในแง่ศีลธรรม จรรยาในใจ เท่าที่ใช้ชีวิตมาค่อนชีวิตแล้ว ก็มีแต่สิ่งดีๆทั้งนั้น และถ้าเป็นเช่นนั้นอิสลามคงไม่อยู่ยงคงกระพันมาถึงทุกวันนี้ กรุณายกตัวอย่างได้ไหมคะ เพราะบางอย่างอย่างที่บอกมันเป็นกุศโลบายชั้นสูง มองพื้นๆ คิดตื้นๆจะไม่เห็นประโยชน์ แต่ต้องคิดให้ลึกรู้ให้จริงจึงจะเห็นคุณค่าของมันค่ะ

- ปล.ขอโทษนะครับ ถ้าถ้อยคำของผมจะทำให้เกิดการขุ่นเคืองใจ
ตอบ ไม่เลยค่ะ แต่ตรงกันข้าม จะรู้สึกยินดีมากถ้าผู้ถามถามเพื่อใคร่รู้จริงๆ ไม่ใช่คำถามที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการดูถูกเหยียดหยาม เหมือนที่เคยได้รับจากสังคมทั่วไป




Posted by : ยูริ , Date : 2006-04-18 , Time : 17:09:32 , From IP : 172.29.7.204

ความคิดเห็นที่ : 9


   *******ชีวิต คือ เกม ที่ save ได้แต่ load ใหม่ ไม่ได้ (ทุกครั้งเราจะเซพมันก่อนจะทำภาระกิจเสี่ยงๆ หรือตอนมีแนวโน้มว่าจะรุ่งใช่ป่ะ ถ้าทำภารกิจพลาดหรือยิ่งเล่นยิ่งห่วยเราก็loadตอนที่กำลังดีมาเล่นใหม่ได้ แถมรู้ด้วยว่าจุดอ่อนอยู่ตรงไหน ต้องทำไงถึงไม่พลาด) แต่ชีวิตจริงหลังการตัดสินใจทุกๆครั้ง (เหมือนอยู่บนทางแยก) ชีวิตคุณจะเปลี่ยนไป บางคนอาจไม่ต่างแต่สำหรับผมการไม่ตัดสินใจ(คืออยู่ดีๆก็ผล่ามอะไรโง่ๆโวยวายเรื่องขี้หมูขี้หมาไปชีวิตผมก็เปลี่ยนในบัดดล) คือสำหรับบางคนการตัดสินใจบางครั้งอาจเท่ากับยืนอยู่บนทางแยกระหว่างนรกกับสวรรค์
*******ชีวิตคืองานศิลป์ เวลาคือผ้าขาว การกระทำของเราเป็นศิลปิน เนื่องด้วยงานนี้ใช้สีน้ำหรือน้ำมันไม่ทราบ....รู้แต่ว่าไม่มียางลบ
*******ชีวิต คือ การเรียนรู้ ในที่สุดเราก็รู้ว่าเราไม่ควรทำอะไรบ้าง ทำอะไรได้บ้าง ไม่ซิ ....งง
///////ชีวิตคือการเดินทาง เราเดินไปตามทางที่ทุกคนเลือกเอง ตัดสินใจเอง แต่โชคชะตาและอุปสรรคไม่เหมือนกัน บางคนอาจโรยด้วยกลีบกุหลาบ บางคนอาจเหมือนฝ่าด่านอรหันต์ บางคนอาจหมดแรงแต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ขอให้ทุกคนเดินทางโดยสวัสดิภาพ


Posted by : Bon voyage , Date : 2006-04-19 , Time : 19:29:37 , From IP : 172.29.1.226

ความคิดเห็นที่ : 10


    ชีวิต คือพลังงานตาบอดที่ดิ้นรน ไร้ความเข้มข้น ไร้ทิศทาง ถ้าคุณรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร แล้วใช้อำนาจ (ความรู้ หรือเงิน หรืออื่นๆ) พลังงานตาบอดในระดับต่ำสุดเป็นจิตภาคตัญหา ดิ้นรนเพื่อความอยาก แต่ในระดับที่สูงขึ้นมันเป็นจิตสำนึกที่สูง ช่วยเหลือคนอื่น และเป็นส่วนกับสังคม มีโครงสร้าง อย่างไรก็ตามต้องเข้าใจว่าพลังงานตาบอดนี้สำพันธ์กับอำนาจเป็นทุกส่วนของชีวิต อีกทั้งยังเป็นความหมายอีกด้วย และที่สำคัญแค่คุณเปลี่ยนคุณภาพของพลังงานตาบอดที่ว่านี้ ทุกสิ่งทุกอย่างจะกลับตาลปัดโกลาหล เปลี่ยนรูปไปอีกแบบโดยที่คุณเองก็ไม่คาดคิดเลยล่ะ

Posted by : 123456789 , Date : 2007-01-17 , Time : 02:16:43 , From IP : 222.123.1.252

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.006 seconds. <<<<<