พบตัวดูดเลือดใหม่ใน รพ.จากe-mail มหาลัย-- เอามา postให้อ่านครับ เชื่อว่า มีนายแพทย์ๆ นส.แพทย์ และนศแพทย์ ซึ่งควรให้รู้ หรือความสำคัญๆ กัยเรื่องเหล่านี้ บ้าง แต่กลับไม่ทราบอะไรเลย คราวนี้ ล่ะ มัวแต่ทำงานให้กัยนอกคณะ จนลีมมอง ดูเลือ ที่มี ค่าใน คณะใกล้ๆ ตัว ไปกินด่างอยู่ได้ ตั้งนาน ห่างหายไปนาน นี้ ก็ เป็นข่าว ครั้ง ที่ 5 แล้วนะครับ > > นศพ. ปิยาวัฒน์ ศรีสวัสดิ์นุภาพคนนี้มี ข่าวมาฝาก > > > > ตัวดูดเลือดแบบใหม่ที่ว่า ก็คือ > > เครื่องแยกเกร็ดเลือด (เครื่อวบริจาคเกร็ดเลือด) นั่นเอง > > > > เป็นเครื่องที่ ช่วย ให้ผู้ บริจาคไม่ต้อง บริจาคส่วนประกอบของเลือด > > ในน้ำเลือดแดงๆของเรา > > ทั้งหมด เพียงแต่เอา ส่วนที่ช่วยในการแข็งตัวของเลือดออกไป > > เพื่อช่วยผู้ป่วยที่มีปัญหาในการแข็งตัว ของเลือด > > ผลกระทบต่อผู้บริจาคจึงน้อยกว่า แต่ ทุกอย่างก็มีทั้ง ข้อดี และ ข้อเสีย > หรือ > > ข้อจำกัด > > > > ลองอ่านข้างล่างนี้ ไปพร้อมกันกับผมนะครับ > > > > .........บริจาคเกร็ดเลือด > > > > คุณสมบัติผู้ที่สามารถบริจาคเกร็ดเลือด > > ไม่จำกัดเพศ มีร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง เกณฑ์การบริจาค > คล้ายกับการบริจาคโลหิต > > (มีเพิ่ม > > เติมใน ขั้นตอนการบริจาค ข้างล่างนี้) > > ......................... > > ประโยชน์ของเกร็ดเลือด > > > > มีประโยชน์ใช้ในการรักษาผู้ป่วยโรคต่างๆ ดังนี้ > > # ผู้ป่วย โรค Leukemia โดยจะต้องรับเกร็ดเลือดสัปดาห์ละ 2ครั้ง ถึง > วันเว้นวัน > > ขึ้นกับ > > อาการโรค > > # ผู้ป่วย Dengue fever (ไข้เลือดออก) จะใช้เกร็ดเลือดเวลาที่มีเลือดออกมาก > > # ผู้ป่วยมะเร็ง > > # DIC > > # ภาวะเกร็ดเลือดต่ำ (Thrombocytopenia )ในโรคอื่นๆ > > # โรคเลือดอื่นๆ > > # Aplastic anamia > > ............................... > > เรื่องควรทราบ > > > > # ผู้ที่บริจาคโลหิต ควรเว้นระยะห่าง 2 เดือนหลังจากบริจาคครั้งสุดท้าย > > ถึงจะสามารถบริจาค > > เกร็ดเลือดได้ > > # สามารถบริจาคเกร็ดเลือด 2 สัปดาห์ต่อครั้ง หรือสัปดาห์ละครั้งก็ได้ โดย 1 > ปี > > ไม่ควรบริจาค > > เกิน 24 ครั้ง > > # หากบริจาคเกร็ดเลือดแล้ว ควรเว้นระยะห่าง 1 เดือน ถึงจะบริจาคเลือดได้ > > > > .......................................... > > ขั้นตอนการบริจาคเกร็ดเลือด > > > > # การรับบริจาคเกร็ดเลือดในกรณีที่ผู้ป่วยต้องการใช้ > > จะรับบริจาคจากญาติของผู้ป่วยก่อน จึง > > จะรับบริจาคจากอาสาสมัครเป็นลำดับต่อไป โดยใช้ระบบการติดต่อทางโทรศัพท์มือถือ > > ซึ่ง > > สะดวกและรวดเร็วที่สุด > > # เนื่องจากการบริจาคเกร็ดเลือด 1 ครั้งมีค่าใช้จ่ายสูง > > ดังนั้นผู้ที่บริจาคต้องได้รับการตรวจเชื้อ > > และตรวจจำนวนเกร็ดเลือดก่อนล่วงหน้า 1 เดือน โดยต้องมีจำนวนเกร็ดเลือด > > สองแสนขึ้น > > ไป แต่ในความเป็นจริงที่ผ่านมา เพื่อเป็นการประหยัดเวลาแล้ว > > หน่วยจะนัดมาทำการตรวจ > > และบริจาคในวัน หรือในสัปดาห์ เดียวกัน > > # ใช้เวลาบริจาคแต่ละครั้งนาน 1 ชั่วโมง ถึง 1 ชั่วโมงครึ่ง > > โดยเครื่องที่สามารถรับบริจาคได้ > > อยู่ที่หน่วยคลังเลือด รพ.สงขลานครินทร์ มีจำนวน 2 เครื่อง > > # เลือดทั้งหมดจะเข้าเครื่องแยกและเอาเ©พาะเกร็ดเลือดออก > > เม็ดเลือดและส่วนประกอบอื่น > > ของเลือดจะถูกนำกลับคืนเข้าร่างกายของผู้บริจาค > > ดังนั้นผู้บริจาคจะไม่สูญเสียเม็ดเลือด หลัง > > จากนั้นจึงนำเกร็ดเลือดไปใช้ได้ > > > > ..................................... > > *หมายเหตุ เนื่องจากเกร็ดเลือดไม่สามารถเก็บไว้ได้เป็นระยะเวลานาน > > ดังนั้นผู้ที่ประสงค์จะ > > บริจาค จะต้องลงชื่อและกรอกข้อมูลไว้ในแฟ้มข้อมูล > > และต้องได้รับการตรวจเชื้อและจำนวน > > เกร็ดเลือดว่าสามารถบริจาคได้ เมื่อมีผู้ป่วยที่จำเป็นต้องการใช้เกร็ดเลือด > > ผู้ที่จะบริจาคจะได้ > > รับการติดต่อให้มาบริจาคทันที > > > > ...................... > > ในขณะนี้มีอาสาสมัครที่ลงชื่อบริจาคเกร็ดเลือด ที่หน่วยคลังเลือด > > รพ.สงขลานครินทร์ เป็น > > จำนวนดังนี้ > > หมู่เลือด จำนวน(คน) > > A 28 > > B 20 > > O 44 > > AB 8 > > จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นว่ามีจำนวนผู้ประสงค์บริจาคน้อย > > เนื่องจากยังเป็นเรื่องใหม่ > > (ทั้งที่มีมานานแล้ว) มีผู้ที่รู้จักน้อย > > และน้อยคนนักที่จะทราบถึงความจำเป็นและประโยชน์ > > ของเกร็ดเลือด > > > > ............................. > > > > จึงเรียนมาในการกระจายข่าวครั้งนี้ > > และฝากทุกท่านช่วยเป็นกระบอกเสียงกระจายข่าวให้กว้าง > > ยิ่งขึ้น > > > > ท่านสามารถบริจาคโลหิตได้ที่ หน่วยคลังเลือด รพ.สงขลานครินทร์ ชั้น 2 > > อาคารเก่า > > (4 ชั้น) หรือ โทรศัพท์ (074) 451575 > > > > ขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง > > > > นศพ.ปิยาวัฒน์ > (ฐนะพงษ์ภัทร์) > > ศรีสวัสดิ์นุภาพ > > > > ประธานโครงการอาสาสมัครบริจาคโลหิตสงขลานครินทร์ > > > > > > ============================================================ > > ขอให้ถือประโยชน์ส่วนตัวเป็นที่สอง...ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง > > @พระราชดำรัสของพระบรมราชชนก > > Posted by : uud , E-mail : (uudplanet@hotmail.com) , Date : 2003-08-02 , Time : 03:49:20 , From IP : 203.113.76.8 |
ความเห็นจาก Social Network : Facebook |
|
>>>>> Page loaded: 0.006 seconds. <<<<< |