เมื่อไหร่ที่จะได้เป็น นศพ.ม.อ. ?หวัดดีค่ะ พี่ๆ นศพ. ม.อ. ตอนนี้หนูกำลังขึ้น ม.4 อ่ะค่ะ หนูมีเรื่องที่จะมาปรึกษากับพี่ๆนิดหน่อยค่ะ หวังว่าพี่ๆคงให้คำปรึกษาหนูไม่มากก็น้อยน่ะค่ะ เรื่องมันมีอยู่ว่า ตอนที่หนูกำลังเรียนอยู่ชั้น ม.3 หนูกำลังกังวลใจกับเรื่องการสอบเข้า ม.4 ซึ่งจริงๆแล้วหนูอยากเรียนสายวิทย์ แต่หนูตั้งใจว่าจะสอบ สายศิลป์ ( อันนี้เป็นแค่ความตั้งใจน่ะค่ะ ) ที่ ญ.ว ถามว่าทำไมหนูไม่ไปสอบสายวิทย์ล่ะ ? โอกาสที่หนูจะติดที่มันมีน้อยมากอ่ะค่ะสำหรับคนที่มีสติปัญญาระดับหนู แต่ความิคดของหนูก็ต้องเปลี่ยนไป ซึ่งมีอยู่ครั้งนึง หนูกับเพื่อนคนนึงไปงานสัปดาห์วิทย์ ของ มอ. ไปห้องอาจารย์ใหญ่ ยืนดูอยู่พักนึง มีพี่ นศพ.คนนึงซึ่งกำลังเรียนอยู่ ปี.2 ถามหนูว่า " อยากจะจับมั๊ย ? " ( จับอาจารย์ใหญ่น่ะ ) หนูพยักหน้า แล้วพี่เค้าก็ถามต่อว่า " แล้วกล้าจับรึปล่าว ? " หนูก็พยักหน้าอีก ความรู้สึกตอนนั้นหนูไม่ได้รังเกียจ หรือกลัว ปรากฏว่าวันนั้นหนูก็เกิดความคิดที่อยาจจะเป็น " หมอ " หนูก็เลยตัดสินใจที่ะไปสอบ ม.ว ( มหา ) แต่พอใกล้สอบ พ่อกับแม่หนูเค้าอยากจะให้หนูไปลองข้อสอบที่ จุฬาภรณ์ สตูล ซึ่งสอบก่อน ม.ว หนูก็ต้องทำเพื่อความพึงพอใจของพ่อและแม่ ซึ่งตอนนั้นก็ไม่ได้ตั้งความหวังว่าจะติดที่นี่ หรืออยากเรียนที่นี่เลย ปรากฏว่าผลออกมาหนูสอบติด ลำดับที่ 31 ในจำนวนรับ 45 ก็ดีใจอ่ะค่ะ แล้วความตั้งใจที่หนูจะเป็นหมอก็เพิ่มมากขึ้น แล้วตอนนี้ก็กำลังปิดเทอมอยู่ หนูเริ่มอ่านหนังสือของ ม.4 รู้สึกว่ามันยากจังเลยอ่ะค่ะ แต่หนูจะพยายามอ่านไปเรื่อยๆ ตอนนี้หนูอ่านวันละ 6 ชั่วโมงอ่ะค่ะ หนูยอมรับน่ะค่ะว่าตอนนี้เครียดมาก หนูกลัวว่าหนูจะอ่านไม่ทันในตอนเอ็นท์ หนูก็เลยต้องฟิตหน่อย หนูถามตัวเองว่าทำไมถึงอยากเป็นหมอ หนูตอบไม่ได้ แต่หนูก็ได้บทความในเว็บหนึ่ง ซึ่งเขียนโดย พญ.ชัญวลี ศรีสุโข ซึ่งเอามาจากหนังสือที่คุณหมอคนนั้นเค้าเขียนชื่อหนังสือว่า 108 คนไข้ I.C.U. ซึ่งมีสารพัดแบบของคนใข้ หนูจึงรุ้แล้วล่ะ ว่าทำไมหนูถึงอยากเป็นหมอ.... แล้วหนูยังไม่กล้าที่จะบอกคนในครอบครัวของหนูว่าหนูจะเป็นหมอ เพราะว่าอะไรนั้นเหรอค่ะ? เพราะว่าหนูไม่ใช่คนที่เรียนเก่ง ไม่มีแววที่จะเป็นหมอเลย และที่สำคัญ หนูตัวไม่ค่อยขาวเลย ผิดสีแทนค่ะ ( ข้อนี้หนูยอมว่ามันไร้สาระมาก ) ซึ่งหมอส่วนใหญ่ที่หนูเห็นจะขาวหมดเลย ส่วนเรื่องที่หนูจะปรึกษาพี่ๆมีดังนี้ค่ะ 1. พี่อ่านหนังสือเยอะอ่ะปล่าวอ่ะค่ะ 2. จะมากไปมั๊ยค่ะ ถ้าหากหนูอยากจะถาม ม.ปลาย พี่ๆว่าอ่านหนังสือวันล่ะกี่ ชม. หวังว่าหนูคงไม่ถามมากไปน่ะค่ะ สุดท้ายก็ขอขอบคุณพี่ๆมากน่ะค่ะที่อ่านมาจนจบ คงรบกวนเวลาพี่ๆมามากแระ ขอบคุณค่ะ Posted by : IlvTCsnsR , E-mail : (taro_of_fishsho@hotmail.com) , Date : 2006-04-10 , Time : 14:47:22 , From IP : 203.113.76.75 |
พี่ก้อเป็นคนหนึ่งนะที่อยากเรียนแพทย์ ตอนนี้พี่ก้ออยู่ม.6แล้วปีหน้าก้อจะเอนท์แล้วแหละ พี่ว่านะเรื่องเก่งไม่เก่งมันไม่สำคัญอะไรมากหรอกแต่ที่สำคัญมันอยู่ที่ว่าเรามีความตั้งใจ มีความพยายาม มีความพร้อม และมีใจรักที่จะเรียนที่จะเป็นหมอมากแค่ไหน เมื่อก่อรตอนอนุบาลพี่ใผ่ฝันว่าพี่อยากเป็นหมอเพราะว่ามันเทห์ มันโก้ เป็นอาชีพที่มีหน้ามีตา แต่พอพี่โตขึ้นความคิดพี่ก้อเปลี่ยนไป พี่อยากเรียนต่อหมอเพราะพี่มีใจรัก พี่อยากเรียนหมอเพื่อรักษาคน คนเราแม้เลือกเกิดไม่ได้แต่เร้ลือกเรียนในสิ่งที่ตัวเองชอบได้ น้องคิดว่าสิ่งไหนที่ใช่ตัวตนของน้องๆก้อเลือกเรียนเลือกทำในสิ่งนั้นให้ดีที่สุดก้อแล้วกันนะจ๊ะ พี่ก้อแนะนำอะไรมากไม่ได้....พี่ก้อเป็นคนหนึ่งที่กำลังจะทำความฝันของพี่ให้เป็นจริง ตอนนี้พี่ก้ออ่านหนังสือเกือบทั้งวันแต่ส่วนใหญ่พี่จะเอาพวกข้อสอบเอนท์เก่าๆมานั่งทำมากกว่า....ทำแล้วมันเข้าใจมากกว่าอ่านหนังสืออีกนะพี่ว่า ยังไงน้องก้อตั้งใจเรียนก้อแล้วกันนะคะ เอิ๊กๆๆๆๆสู้ๆ....พี่ก้อต้องเตรียมตัวเหมือนกัน Posted by : HunGเด็กอยากเรียนแพทย์ , E-mail : (hungsandp_16@hotmail.com) , Date : 2006-04-10 , Time : 16:57:21 , From IP : 203.113.76.10 |
การที่เราจะเป็นหมอได้นั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีความรู้ แต่สิงที่สำคัญที่จะทำให้เราเป็นหมอที่ดีได้นั้น ก็คือจิตใจ การที่จะได้มาซึ่งความรู้นั้น แน่นอนว่าเราคงต้องเหน็ดเหนื่อยทุ่มเทแรงกายแรงใจ(และแรงทรัพย์) มิใช่น้อย บางครั้งพี่ก็รู้สึกเหนื่อยกับการเรียนเหมือนกัน แต่เมื่อได้เห็นแววตาซาบซึ้งใจของคนไข้ที่มีต่อหมอ มันก็เป็นกำลังใจให้พี่ อดทนต่อไป แต่จริงๆ แล้ว ในโลกคงไม่มีอะไรได้มาอย่างง่ายดาย ไม่ว่าอาชีพ(ที่สุจริต)ใดๆ ก็ล้วนแล้วแต่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมด้วยกันทั้งสิ้น ถ้าน้องตอบตัวเองได้ว่าอยากเรียนแพทย์เพราะอะไร และพร้อมที่จะเผชิญกับเส้นทางที่ได้เลือกแล้ว พี่ก็ขอเป็นกำลังใจให้ ตอนที่พี่เรียน ม.ปลาย พี่ก็ไม่ได้เรียนเก่งอะไร พอมาเรียนที่นี่ พี่ก็พบว่าความเก่งกับความขยันมีภาษีพอๆ กัน ตอบคำถามล่ะนะ 1. ก็อ่านเยอะอยู่เหมือนกัน แต่สิ่งที่สำคัญคืออ่านให้ตรงจุด บางวิชาต้องอาศัย concept เช่น ภาษาไทย สังคม บางวิชาต้องหมั่นทำโจทย์มากๆ เช่น เลข ฟิสิกส์ ส่วนพี่จะอ่านเรื่อยๆ ส่วนใหญ่จะเลือกอ่านเรื่องที่สนใจและอยากรู้ก่อน(มีฉันทะจึงเกิดวิริยะ) ยังมีเวลาพอจะทำอะไรที่อยากทำได้บ้าง พอใกล้ๆ สอบก็จำเป็นต้องอ่านให้หมด(เยอะมาก บางครั้งไม่ได้นอน) 2. ตอนม.ปลาย หลังจากกลับจากโรงเรียนพี่จะดูทีวีก่อน(ดูข่าว ดูละคร สัก 2 ชั่วโมง) แล้วจึงอ่านหนังสือ วันหนึ่งก็สัก 2-3 ชั่วโมง ที่น้องอ่านแล้วไม่ค่อยเข้าใจ บางทีอาจเป็นเพราะเนื้อหาม.ปลายบางอย่างต้องอาศัยพื้นฐาน ที่อาจจะได้เรียนในห้องเรียน พอน้องได้เรียนในห้องมาแล้วอาจจะเข้าใจได้มากขึ้น อย่าเพิ่งท้อใจไปเลย แล้วก็การอ่านมากเกินไปอาจทำให้เครียด จนสมองรับไม่ไหวแล้วหลังๆ อาจไม่ได้ประสิทธิภาพเท่าที่ควร ดังนั้นตอนนี้ น้องอาจเลือกอ่านแต่เฉพาะที่เข้าใจได้ไม่ยากไปนัก ใจเย็นๆ ส่วนเรื่องสีผิวนั้นคงไม่สำคัญหรอก เพราะคนเราเลือกเกิดไม่ได้ สำคัญอยู่ที่ข้างในนะ ปล. เพื่อนๆ พี่หลายคนก็มีผิวสีแทนนะ(สีดำมาแทนสีขาวอ่ะ) Posted by : nigdejavu , E-mail : (nigdejavu@yahoo.com) , Date : 2006-04-10 , Time : 17:01:56 , From IP : 172.29.4.177 |
ตอนนี้พี่เป็นเอ็กซ์เทินที่มหาราช งานหนักมากนะน้อง คิดดูดีๆละกัน Posted by : X-tern , Date : 2006-04-10 , Time : 19:09:14 , From IP : 202.129.48.122 |
อย่างที่พี่ X-tern บอกนั่นแหละ ตอนนี้พี่ก็เป็นเอ็กซ์เทิร์นอยู่ที่ รพ.หาดใหญ่ งานก็หนัก ตอนกลางวันทำงานทั้งวัน ถ้าวันไหนอยู่เวรก็จะเป็นคนแรกที่ถูกเรียก แล้วต้องไปหาคนไข้ แทบไม่ได้นอนทั้งคืน (ตอนนี้พี่อยู่สูติฯ) คนไข้จะคลอดตี 3 เราก็ต้องมา แล้วตอนกลางวันก็ต้องมาทำงานทั้งวันอีก กว่าจะได้นอนก็อาจจะเป็นค่ำอีกวัน ว่ากันว่าอยู่กันเกิน 24 ชั่วโมงน่ะ บางคนเพื่อนพี่อยู่ 48 ชั่วโมงก็มีมาแล้ว น้องเอาไปคิดดูให้ดีแล้วกัน แต่ถ้าน้องรักในอาชีพนี้ พี่ก็ขอให้น้องเข้ามาได้แล้วกัน ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบแล้วกัน ขอให้โชคดีครับ Posted by : Eset , E-mail : (smc_yw@hotmail.com) , Date : 2006-04-11 , Time : 00:50:59 , From IP : 210-86-142-220.stati |
ขอบคุณทุกๆคำตอบที่ตอบมาน่ะค่ะ แหม!! ปลื้มจังอ่ะ คือว่าตอนนี้หนูรู้แล้วล่ะค่ะว่าหนูจะเป็นหมอทำไม เพราะว่าเท่ย์ ? คงไม่หรอกค่ะ เพราะว่าหนูคงไม่เอาชีวิตทั้งชีวิตของหนูมาวางไว้กับความเท่ย์ในอาชีพนี้หรอกค่ะ มีเกียรติงั้นเหรอ ? ก็คงจะไม่อีกนั้นแหละ เพราะว่าอาชีพทุกอาชีพย่อมมีเกียรติและศักศรีเท่าเทียมกันเสมอ ( นี่ในความคิดหนูน่ะ ( อาชีพที่สุจริต ) ) เงินดีมั๋ง ตั้งตัวได้เร็วจะตาย ? ไม่ๆ! อาชีพแต่ละอาชีพ ไม่ว่าจะมีเงินดี หรือว่าเงินไม่ดีก็แล้วแต่ และไม่ว่าจะตั้งตัวได้ช้าหรือเร็ว ยังไงซะ เงินที่เราได้มาก็ต้องเลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่ได้เท่านี้ก็เป็นที่น่าภูมิใจแล้ว ( นี่ก็เป็นความคิดหนูอีกนั้นแหละ ) พ่อแม่อยากให้เป็นเหรอ ? ไม่อ่ะ เพราะว่าพ่อกับแม่หนูไม่เคยพูดเรื่องอาชีพนี้กับหนูด้วยซ่ำ แต่จะพูดแค่ว่า " ชีวิตคนเรียนจบ มีงานทำ มีเงินเลี้ยงพ่อแม่ก็ประสบความสำเร็จแล้ว " และก็อย่างที่หนูได้บอกหนูไม่เคยบอกใครว่าหนูอยากเป็นอะไร แม่เคยถามหนูน่ะ ว่าอยากจะเป็นอะไร หนูก็เลยตอบกลับไปว่า " เอาไว้ ม.6 แล้วหนูจะบอกน่ะแม่ " แล้วอยากเป็นหมอเพราะอะไรล่ะ ? หนูอยากจะเป็นหมอ เพราะว่าหนูอยากจะเห็นแผ่นหลังของคนไข้ที่หนูรักษาเดินออกจากโรงพยาบาลอย่างมีความสุข! พร้อมด้วยแววตาที่มองหนูด้วยความขอบคุณ ซึ่งหนูก็ไม่ได้ต้องการอะไรตอบแทนเลยค่ะ จบแระค่ะ Posted by : IlvTCsnsR , E-mail : (taro_of_fishsho@hotmail.com) , Date : 2006-04-11 , Time : 09:30:50 , From IP : 203.113.76.75 |
ขอบคุณพี่ Phoenix มากน่ะค่ะ หนูคิดว่าอาชีพแพทย์มันยังไกลเกินไปที่หนูจะมองมันอย่างลึกซึ้ง เหมือนอย่างที่พี่พูดอ่ะค่ะ แต่หนูเชื่อว่าบางทีถ้าหากว่าหนูโตขึ้น ความคิดหนูก็อาจจะโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ และความคิดที่โตขึ้น มันก็จะทำให้หนูสามารถตัดสินใจที่จะเลือกอนาคตของหนูได้อย่างรอบคอบด้วยค่ะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ ^_^ Posted by : IlvTCsnsR , E-mail : (taro_of_fishsho@hotmail.com) , Date : 2006-04-11 , Time : 17:54:36 , From IP : 203.113.76.12 |
เมื่อตั้งใจแล้วพยายามค่ะ..... แต่ พี่....Phoeni..x? ^ ^" Posted by : Lucifer , Date : 2006-04-12 , Time : 01:17:54 , From IP : 172.29.4.152 |
น้องรู้ตัวเองเร็วดีนะคะ มั่นคงและตั้งใจแบบนี้ไปตลอดนะคะ ถึงน้องคิดว่าตัวเองเรียนไม่เก่งมาก แต่น้องก็มีภาษีเหนือคนอื่นแล้วนะ รู้มั้ยคืออะไร คือการที่น้องรู้ว่าจุดหมายของตัวเองคืออะไร น้องจะมีเวลาเตรียมตัวมากกว่าคนอื่นอีกเยอะเลยค่ะ และน้องก็จะมีความมั่นใจในการก้าวในเส้นทางของตัวเองด้วย สู้สุดใจเลยนะ อย่าลืมแบ่งเวลาทำกิจกรรมด้วยหล่ะ หมอที่เก่งแสนเก่ง แต่ไม่มีมนุษยสัมพันธ์ ไม่รู้จักการบริหารงาน ย่อมเติบโตได้แค่ในกะลาเท่านั้นนะ Posted by : wangtienfong , E-mail : (wangtienfong@hotmail.com) , Date : 2006-04-13 , Time : 13:43:22 , From IP : 203.156.20.217 |
ความเห็นจาก Social Network : Facebook |
|
>>>>> Page loaded: 0.005 seconds. <<<<< |