ความคิดเห็นทั้งหมด : 17

สนธิ ลิ้มทองกุล


   มีข้อมูลเกี่ยวกับคุณสนธิ มานำเสนอครับ อ่านแล้วต้องใช้วิจารณญานกันเองนะครับ เพราะลอกมาจากพันทิป จะจริง-เท็จยังไงก็ต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์
สนธิ ลิ้มทองกุล (7 ตุลาคม พ.ศ. 2490—)เป็นนักหนังสือพิมพ์ นักเขียน ผู้ก่อตั้งและเจ้าของหนังสือพิมพ์ในเครือผู้จัดการ ผู้ดำเนินรายการกลางแจ้ง เมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร และเคยเป็นผู้ดำเนินรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ทางช่อง 9 อ.ส.ม.ท. ก่อนที่ถูกระงับการถ่ายทอดเนื่องจากการกล่าวถึงพระราชอำนาจ
ชีวประวัติ
สนธิ ลิ้มทองกุล (ชื่อเดิม โกตั๊บ แซ่ลิ้ม) เกิดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2490 เป็นลูกของนายวิเชียร แซ่ลิ้ม อดีตสมาชิกพรรคก๊กมินตั๋ง และเป็นผู้บังคับการโรงเรียนนายร้อยหว่างผู่ ที่เมืองจีนไคเช็ค มีมารดาชื่อ ไชยย้ง แซ่ลิ้ม ตั้งรกรากอยู่ในกรุงเทพมหานคร เริ่มต้นทำกิจการโรงพิมพ์ และพิมพ์หนังสือจีน จำหน่ายให้กับชาวจีนที่มาอาศัยอยู่ในในกรุงเทพฯ

สนธิ จบการศึกษาในระดับชั้นมัธยม จากโรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา รุ่น18 ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับทนง พิทยะ หลังจากจบจากโรงเรียนประจำที่อัสสัมชัญศรีราชา สนธิ ถูกส่งตัวไปเรียนภาษาจีนที่ไต้หวัน พร้อมกับเรียนวิชาวิศวกรรมเครื่องกลที่เมืองไถ่ต้า เป็นเวลาปีเศษ ก่อนที่จะไปเรียนต่อสหรัฐอเมริกา ศึกษาปริญญาตรีที่ยูซีแอลเอ เมืองลอสแองเจลีส และศึกษาปริญญาโท สาขาประวัติศาสตร์ ที่ มหาวิทยาลัยยูทาห์สเตต เมืองโลแกน รัฐยูทาห์ นอกจากนี้ยังได้ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์สาขาอักษรศาสตร์ ที่วิทยาลัยฮาร์ตวิคก์ เมืองโอนีโอนตา รัฐนิวยอร์ก และได้รับปริญญาสาขาประวัติศาสตร์ ที่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ภายหลังจบการศึกษาได้ศึกษาต่อ MBA ที่ประเทศออสเตรเลีย

สนธิ เข้าทำงานเป็นบรรณาธิการบริหาร หนังสือพิมพ์ ประชาธิปไตย เมื่ออายุได้เพียง 27 ปี จากนั้นได้ร่วมกับพอล สิทธิอำนวย ตั้งบริษัท Advance Media ในเครือพีเอสกรุ๊ป ออกหนังสือดิฉัน แต่ประสบปัญหาขาดทุน จึงได้ขายกิจการให้กับนายปีย์ มาลากุล ณ อยุธยา สนธิกลับมาโดดเด่นอีกครั้ง ด้วยการตั้งบริษัท ตะวันออกแมกกาซีน ทำหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายเดือน เมื่อปี 2526 และหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายสัปดาห์ จากความสำเร็จในการเป็นหนังสือแนวธุรกิจชั้นนำของผู้จัดการรายสัปดาห์และรายเดือน ทำให้สนธิ นำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อปี 2533

ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษากลุ่มหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ และ อาจารย์พิเศษ คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

สนธิได้บริจาคเงินสร้าง The Sondhi Limthongkul Center for Interdependence (The S.L. Center for Interdependence) ให้แก่วิทยาลัยฮาร์ตวิคก์

ชีวิตส่วนตัว
ภายหลังจากจบการศึกษาา สนธิเดินทางกลับเมืองไทย เมื่อปี 2516 และแต่งงานอยู่กินกับนางจันทร์ทิพย์ ซึ่งเป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ ระดับ 9 ที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ แต่ปัจจุบันแยกกันอยู่

ระหว่างที่สนธิ ศึกษาในมหาวิทยาลัยยูท่าห์ สนธิใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า ”Sondy” แต่โดยส่วนใหญ่คนไทยและเพื่อนในมหาวิทยาลัยจะไม่ค่อยคบค้าสมาคมด้วย เพราะในเวลานั้นนายสนธิยังเป็นคนที่ค่อนข้างเห็นแก่ตัว จะทำอะไรให้ใครต้องมีผลประโยชน์ตอบแทน สนธิชอบทำตัวลึกลับ ทำให้ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่า เรียนคณะอะไร เพราะสนธิ จะไม่พูดถึงภูมิหลังของตัวเอง ทำให้ไม่ค่อยมีใครทราบถึงเรื่องครอบครัวและเรื่องประวัติการศึกษาที่แท้จริงของสนธิมากนัก

จากคุณ : Unlimitedheart - [ 3 เม.ย. 49 02:32:41 ]

ผมเป็นคนนึงที่ชอบสนธิมากๆ ดูเมืองไทยรายสัปดาห์ทุกครั้งที่มีโอกาส อ่านหนังสือพิมพ์ผู้จัดการมาตลอด หลายปี เวปผจกก็เข้าไปออกความเห็นก็เยอะ ดูไปดูมาและอ่านไปอ่านมาชักเบื่อการเมือง เพราะมีแต่ข่าวสารหน้าเดียวที่บอกออกมาคนเขียนข่าวอยากให้การเมืองไปทางไหนก็เขียนเอา ชี้ไปโน่นชี้ไปนี่ตลอด ดูทีวีก็แสนจะเก่งโครตๆไม่มีใครเกิน รู้จริง(โกหกก็มาก)รู้ไปซะทุกเรื่อง ประวัติคนนู้นคนนี้รู้ไปหมด มีแต่เรื่องเลวๆของคนอื่นทั้งนั้น ของตัวเองไม่มีเรื่องเลวเลย เข้าไปอ่านเวปก็มีแต่เรื่องด่านายกฯ พอโพสเป็นกลางเข้าไปก็โดนลบเหมือนไม่จริงใจ หารู้ไม่ว่าเวปที่ผมเล่นเป็นเวปแรกที่ผมเล่นนี่เองที่เป็นกลาง พอได้รับข่าวสารอีกแง่หนึ่งจากเพื่อน(แรกๆอ่านอย่างเดียว) เริ่มไม่ชอบสนธิแล้วนะ พอมีเรื่องหมิ่นเล่นออกตัวซะเลย ชมรมคนเกลียดสนธิเริ่มแล้ว อ่านประวัติสนธิอีกรอบ

ประวัติของสนธี ก่อนทีจะมาเกลียดทักษิณ
นายสนธิ เป็นคนฉลาดเกมโกง พูดเก่ง ความรู้สูง เป็นลูกน้องเก่าของนาย พอล สิทธิอำนวย ซึ่งโกงเงินธนาคาร ๒๐๐๐ พันล้านบาท ก่อนที่จะหลบหนีมาอยู่อเมริกาเมื่อ ๓๐ ปีที่แล้วนายสนธิเลยได้ผลประโยชน์โดยรับกิจการมีเดียต่อจากนายพอลโดยไม่ต้องเสียสตางค์แม้แต่บาทเดียวเพราะนายพอลโอนชื่อกิจการทั้งหมดมาให้แก่นายสนธิก่อนจะหลบหนีมาเสบสุขในอเมริกาพร้อมกับเงินที่ปล้นมาได้หลังจากนั้นนายสนธิก้ได้สถาปนาตัวเองเป็นเจ้าแห่งมีเดียของเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ก็ว่าได้

(King of Media of Southeast Asia)กิจการมีเดียของนายสนธิก็เจริญขึ้นเรี่อยๆ มีทั้งหนังสือพิมพ์ แมกกาซีนรายการวิทยุและโทรทัศน์ท้งในและนอกประเทศจนเป็นที่ประทับใจของนักธุรกิจที่อยู่ในวงการมีเดียเป็นอย่างมากเมื่อขอเงินจากธนาคารก็มักจะไม่มีปัญหานายสนธิเลยซื้อกิจการทุกอย่างที่ขวางหน้า ไม่ว่ามีเดีย

มีกำไรหรือขาดทุนขอให้มีชี่อเป็นเจ้าของหรือที่ฝรั่งเรียกว่า Publisher นายสนธิหมดตัวอย่างที่ดังที่สุด ครั้งสุดท้าย คือการซื้อแมกกาซีนอเมริกันที่มีฐานในนิวยอรค์และลอส แอนเจลสีส ชื่อ Buzz Magazineซี่งเป็นแมกกาซีนที่จะเจ้งอยู่แล้วแต่ความกะสันของนายสนธิที่อยากจะเห็นชื่อของตัวเองว่า Publisher: Sondhi Limthongkul

เป็นเจ้าของแมกกาซีนฝร้งซึ่งลอบล้อมไปด้วยนักเขียนที่มีชื่อฝรั่งทั้งนั้นและการที่อยากโก้อวดฉลาดเลยซื้อด้วยราคาที่สูงลิ่ว ในราคา ๑๖๐๐ ล้านบาทหรือ ๔๐ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งคนขายก็ไม่เชื่อกับตาเพราะโฆษณาขายแมกกาซีนนี้แต่ไม่มีหน้าไหนกล้ามาซื้อแม้แต่คนเดียวยังจำได้ว่าตอนเปิดตัวเจ้าของใหม่มีการกินเลี้ยงกันที่โรงแรมหรูใน Beverly Hills นายสนธิเดินชนแก้วนบันรีไวน์กับนักหนังสือพิมพ์ไทยในแอลแอด้วยความโก้หรูนายสนธิโก้อยู่ได้แค่ หนี่งปีสองเดือน Buzz ก้ต้องปิดกิจการเพราะไม่มีเงินจ่ายให้กับพนักงานฝร้งทั้งหลายนายสนธิพยายามจะขายต่อให้คนอื่นแต่ไม่มีใครอยากซื้อ เงิน ๑๖๐๐ล้านบาท ก็คือเงินจากแบ๊งไทยนั่นเอง

นายสนธิมักจะกล่าวว่าเป็นคนสนับสนุนและช่วยให้คุณทักษินเป็นนายกเพราะฉะนั้นเขาก็คิดว่านายกทักษิณคงจะตอบแทนบุญคุณด้วยการแต่งตั้งบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวของซึ่งบุคคลนี้เป็นคนสนิทของนายสนธิและคงจะมีสิทธิ์ปรุงแต่งให้เป็นหนี้ลดลงจาก๖๐๐๐ล้านบาทให้เหลือแค่๓๐๐ล้านบาท นายกตอบปฎิเสธทันทีและบอกว่านั่นเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายถ้าเป็นนายกบางคนในอดีตที่อยากได้เงินก็ไม่แน่อาจจะมีการต่อลองกับนายสนธิก็ได้หลังจากนั้นมานายสนธิก็สัญญากับตัวเองว่าจะทำทุกอย่างเพื่อให้นายกทักษิณออกจากตำแหน่งให้ได้โดยหวังว่าผู้นำคนใหม่อาจจะมีส่วนช่วยให้หนี้ก้อนโตนี้ออกจากอกของนายสนธิปัญหาของนายสนธิเป็นปัญหาที่เขาสร้างขั้นมาทั้งสิ้นไม่เกี่ยวกับการขาย้ชาติที่เขาเอามาอ้างกับประชาชน แลเขารู้อยู่แก่ใจว่าถ้านายกทักษิณได้กลับมาอีกครั้งหนึ่งนายสนธิจะไม่มีแผ่นดินอยู่ในประเทศไทยอย่างแน่นอน และอาจจะต้องเผ่นหนีมาอยู่อเมริกา เฉกเช่นเจ้านายเก่าของเขา เมี่อ ๓๐ ปีที่แล้ว

ปล. ความจิงเมื่อก่อนผมเป็นคนชอบดูรายการของสนธิมากคนนึง แต่ว่าตั้งแต่ผมพยายามรับข่าวสารหลายๆด้านเนื่องจากเห็นว่าข่าวสารที่สื่อมาจากบุคคลผู้นี้และคณะเป็นข่าวสารด้านเดียว และพยายามยกตัวเองขึ้นเป็นผู้รู้หรือทางชาวบ้านเรียกว่าพหูสูตร ซึ่งคิดว่าตัวเองรู้ทุกเรื่องรู้ทุกอย่าไม่มีอะไรที่ตนไม่รู้ อะไรที่ไม่รู้ก็ต้องหามาให้ได้ไม่ว่าจะจริงจะเทจ หนักเข้าก็ถึงขนาดที่ว่า ไม่ว่าจะมีใครถามเรื่องอะไรก็จะตอบได้ทันใด แล้วไปสืบหาข่าวจริงเอาทีหลัง หากไม่ตรงกับสิ่งที่ตัวเองพูดออกไป ท่านทั้งหลายคิดสิว่าพหุสูตรปลอมๆผู้นี้จะทำอย่างไร
มีให้เลือกสองข้อคือ 1.ออกมาขอโทษในสิ่งที่ตัวเองพูดออกไป และ 2.ทำให้สิ่งที่ตัวเองพูดออกไปเป็นเรื่องจริงเสีย ในเมื่อมีสื่ออยู่ในกำมือจะกลัวอะไรเรื่องจริงก็ทำให้เป็นเรื่องเทจได้ เรื่องเทจก็ทำเป็นเรื่องจริงได้
สังเกตคนรอบข้างบุคคลนี้ดูสิครับว่าตอนนี้มีของจริงกี่คน
ใช่ว่าผมจะชอบทักษิณนะครับ แต่ผมอยากให้เพื่อนๆคิดสักนิดว่า ท่านทั้งหลายได้รับข่าวสารทางเดียวเหรอป่าว สื่อของข่าวสารนั้นเป็นกลางไหม ผมได้รับฟังสื่อของคุณสนธิมาจนเบื่อแล้วยังไม่เห็นความเป็นกลางจากสื่อพวกนี้เลย
ปล. อีกครั้ง คนดีไล่คนเลวมีด้วยหรือ คนเลวไล่คนดีมีถมไป คนเลวไล่คนเลวช่างปะลัย คนดีไล่คนดีไม่มีเลย
(ชมรมคนเกลียดสนธิ)

จากคุณ : kaikoun - [ 5 เม.ย. 49 12:18:06 ]

จากคุณ : Eggy - [ วันจักรี 19:13:23 ]






ความคิดเห็นที่ 12

จั่วหัวกระทู้สั้น แต่ข้อมูลสุดยอด

จากคุณ : ขอปรบมือให้ (Solidarity) - [ วันจักรี 19:42:09 ]






ความคิดเห็นที่ 13

งั้น คูลสตรีท ก็ลูกครึ่งฝรั่ง







จากคุณ : น้องเพ็ญ (penchompoo) - [ วันจักรี 19:59:20 ]






ความคิดเห็นที่ 14

copyมาฝาก
.....................
คำถาม 4 ประเด็นใหญ่ ซึ่งมีคำถามย่อยนับสิบข้อ ที่อยากให้คุณสนธิตอบเหล่านี้ จะค่อยๆปูพื้นให้ทุกคนที่มีใจเป็นกลาง เข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้ดีขึ้น

(1) คุณสนธิและผู้บริหารของกลุ่มผู้จัดการ บริหารบริษัทเมเนเจอร์ มีเดีย ซึ่งเป็นของมหาชน ด้วยความโปร่งใสหรือไม่ มีการยักยอกเงินเข้ากระเป๋าส่วนตัวของใครหรือเปล่า

กรณีที่ 1 หมู่เกาะ The British Virgin Island ที่คุณสนธิออกมาด่านายกทักษิณปาวๆ คุณสนธิยังจำได้ไหมว่า ใครไปจดทะเบียนบริษัท Manager International Holding Company Limited ที่หมู่เกาะนี้ ด้วยเงินเพียงแค่ 1,000 เหรียญสหรัฐ แต่กลับนำมาขายให้ บริษัท เมเนเจอร์ มีเดีย (มหาชน) ซึ่งเป็นของผู้ถือหุ้นทุกคน ด้วยเงินถึง 7,228,000 เหรียญสหรัฐ เงินกำไรร่วม 200 ล้านบาทนี้ หายไปอยู่กระเป๋าใคร นอกจากนั้นเงินที่ บริษัทเมเนเจอร์ให้บริษัทนี้ยืมไปอีก 700 ล้านบาท หายไปไหน (ข้อมูลนี้เป็นข้อมูลที่กลุ่มผู้จัดการ ทำรายงานเองและส่งให้ตลาดหลักทรัพย์เอง ในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2547 สามารถหาอ่านเพิ่มเติมได้ที่ตลาดหลักทรัพย์)

กรณีที่ 2 เงินโฆษณากว่า 100 ล้านบาท ซึ่งควรเป็นของผู้ถือหุ้นทุกคน หายไปไหน เมื่อไหร่จะได้คืน ทำไมมีการเปิดบริษํทส่วนตัว ที่ชื่อ เวิลด์ไวด์ มีเดีย ซึ่งก็ตั้งอยู่บนถนนพระอาทิตย์ เพื่อรับเงินค่าโฆษณาแทนบริษัทมหาชน และทำไมบริษํทนี้ถึงอมเงินเอาไว้ และไม่ยอมจ่ายเงินคืนให้บริษัทซึ่งเป็นของมหาชนสักที ทั้งที่รับเงินมา 2-3 ปีแล้ว

ที่น่าสงสัยยิ่งกว่านั้น ทำไมบริษํท เมเนเจอร์ มีเดีย (มหาชน) ถึงยังให้บริษัทนี้ หาโฆษณาและรับเงินแทนอยู่ ทั้งๆที่ก็รู้ว่าบริษัทนี้เบี้ยวเงินมาเป็นปีแล้ว นอกจากนั้น ทำไมบริษัทเมเนเจอร์ มีเดียถึงนับยอดรายได้โฆษณาที่น่าจะได้จากบริษํทเวิลด์ไวด์ มีเดียนี้เป็นหนี้สงสัยจะสูญในทันที จนมีผลทำให้ผลประกอบรวมของบริษัทเมเนเจอร์ มีเดียเองซึ่งควรจะเป็นกำไร กลายเป็นขาดทุน นี่เป็นสาเหตุหรือเปล่า ที่ทำให้ผู้ตรวจสอบบัญชีที่บริษํท เมเนเจอร์ มีเดียจ้างเอง ไม่ยอมเซ็นไว้วางใจบริษัทเมเนเจอร์ มีเดียหลายไตรมาสติดต่อกันแล้ว
(จากข้อมูลที่กลุ่มผู้จัดการ ทำส่งให้ตลาดหลักทรัพย์เอง ระหว่างปี 2547 - 2549)

จากคุณ : แวววัฒน์ - [ วันจักรี 20:19:28 ]






ความคิดเห็นที่ 15

ต่อจากคห 14
........................
(2) คุณสนธิและกลุ่มผู้จัดการ ใช้ความเป็นสื่อ บังคับและเบียดบังผลประโยชน์ของรัฐ เข้าตัวหรือเปล่า

หลังจากที่คุณเจิมศักดิ์ และกลุ่มเนชั่นออกมาปูดข่าวว่า รัฐบาลทักษิณช่วยลดหนี้ของกลุ่มผู้จัดการ จาก 20,000 ล้านบาท เหลือแค่ 6,000 ล้านบาท ในปี 2545แล้ว คุณสนธิและกลุ่มผู้จัดการได้รับการลดหนี้จากสถาบันการเงินของรัฐ อีกกี่ครั้ง (เพื่อความเป็นธรรมในการรับรู้ข้อมูล คุณสนธิ ออกมาปฏิเสธว่ากลุ่มผู้จัดการ มีหนี้อยู่ ในขณะนั้น 8,000 กว่าล้านบาท ไม่ใช่ 20,000 ล้านบาทตามที่คุณเจิมศักดิ์กล่าวหา)

ทำไมขณะที่คุณวิโรจน์ นวลแขทำงานที่แบงก์กรุงไทย คุณสนธิถึงได้รับการลดหนี้ที่เคยลดมาแล้วอีก จาก 1,421.73 ล้านบาท เหลือเพียงแค่ 259 ล้านบาท แล้วยิ่งกว่านั้น ทำไมธนาคารกรุงไทย ถึงขนาดยอมให้คุณสนธิไม่ต้องจ่ายคืนเป็นเงินสด โดยยอมกระทั่งให้ใช้คืนเป็นค่าโฆษณาราคาแพง จนเราได้เห็นโฆษณาชุดผู้ใหญ่ลี ที่มีค่าแอร์ไทม์ครั้งละหลายแสนบาท อย่างถี่ยิบ คุณสนธิคิดว่า ธนาคารของรัฐอย่างกรุงไทยมีความจำเป็นต้องโฆษณาตัวเองกับสื่อของคุณสนธิแค่ที่เดียว เป็นร้อยๆล้านบาทเลยหรือ
(จากข้อมูลที่กลุ่มผู้จัดการ ทำส่งให้ตลาดหลักทรัพย์เอง ในปี 2547 ดูข้อมูลได้ที่ตลาดหลักทรัพย์)

นอกจากนั้นแล้ว คุณสนธิใช้วิธีไหน ถึงทำให้รัฐวิสาหกิจอื่นของรัฐอย่างเช่น การบินไทย ปตท และบริษัทเอกชนในเครือชินวัตรลงโฆษณาจำนวนมากกับสื่อของผู้จัดการ จนยอดรายได้โฆษณาของกลุ่มพุ่งขึ้นถึงกว่า 40% หลังจากที่นายกทักษิณ เข้ามาบริหารประเทศ
(อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ จากกรณีศึกษาของกลุ่มผู้จัดการ ในรายงานสถานการณ์ด้านสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชนในรอบปี 2546 ของสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย โดย ผศ. ดร.วิลาสินี พิพิธกุล คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย)
(มีต่อ)

จากคุณ : แวววัฒน์ - [ วันจักรี 20:22:44 ]






ความคิดเห็นที่ 16

ต่อจากคห15
.......................
(3) การที่คุณสนธิออกมาปลุกระดมมวลชนตอนนี้ แบบถอยหลังไม่ได้ เป็นเพราะกลุ่มผู้จัดการกำลังเกิดวิกฤติทางการเงิน ซึ่งถ้าไม่ได้อำนาจรัฐหรือกลุ่มทุนเข้าช่วยเหลือ อาจถึงขั้นปิดตัวเองเลยใช่หรือเปล่า อะไรที่ทำให้คุณสนธิ อุทานว่า ตายเป็นตาย เจ๊งเป็นเจ๊ง

ประเด็นนี้ต้องศึกษาเงื่อนเวลาอยู่ 2 จุด
ก) ก.ล.ต. ได้ออกกฏมานานแล้วว่า จะถอดถอนบริษัทซึ่งอยู่ในหมวดฟื้นฟูของตลาดหลักทรัพย์ และมีสัดส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบ ออกจากตลาดหลักทรัพย์ ภายในเดือนมีนาคม 2549
ข) ศาลล้มละลายกลาง ได้ยินยอมขยายเวลาแผนฟื้นฟูของบริษัทเมเนเจอร์มีเดียออกไปจากเดิมสิ้นสุดวันที่ 26 กรกฏาคม 2548 กลายเป็นสิ้นสุดวันที่ 3 สิงหาคม 2549 เพื่อให้บริษํทเมเนเจอร์มีเดีย หาผู้ร่วมทุนใหม่มูลค่า 350 ล้านบาทให้ได้ทันตามกำหนด

ซึ่งถ้านำมาเรียงดู จะอ่านได้ง่ายๆดังนี้
ถ้ากลุ่มผู้จัดการหาเงินเพิ่มทุน 350 ล้านบาทไม่ได้ภายในเดือนมีนาคม หรือไม่มีอำนาจจากไหนมาบีบ กลต ให้เปลี่ยนแปลงหรือผ่อนผันกฏ บริษํทเมเนเจอร์มีเดีย มีสิทธิจะโดนถอดออกจากตลาดหลักทรัพย์เดือนหน้า!
และถ้ายังไม่ได้เงินก่อนเดือนสิงหาคม และศาลไม่ยินยอมให้ขยายเวลาแผนฟื้นฟูบริษัทอีก บริษัทเมเนเจอร์ก็อาจจะต้องปิดตัวเองลง ภายในปีนี้!

คำถามก็คือ ถ้าสมมติว่า เมื่อต้นปีที่แล้ว มีกัลยาณมิตรยอมช่วยคุณสนธิ ตอนนี้คุณสนธิจะวาดภาพให้ประชาชนมองนายกทักษิณเป็นคนชั่วร้ายที่สุด หรือเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดีที่สุดของประเทศไทย

คุณสนธิจะหานักลงทุนปกติที่ไหน มาช่วยลงทุนเงิน 350 ล้านบาท กับบริษัทที่มีหนี้มากกว่าสินทรัพย์ 200 กว่าล้านบาท แถมยังขาดทุนสะสมเพิ่มตลอด และผู้ตรวจสอบบัญชียังไม่รับรองความโปร่งใสอีก

ทำไมเงินกว่าร้อยล้านบาท ที่อยู่ในบริษัทเวิลด์ไวด์มีเดีย ไม่ถูกนำมาใช้ประโยชน์ หรือจ่ายคืนให้บริษํทเมเนเจอร์มีเดีย ซึ่งจะทำให้ฐานะการเงินของบริษัทเมเนเจอร์ดีขึ้นเยอะ และต้องการเงินเพิ่มทุนอีกเพียงแค่ร้อยกว่าล้าน ก็จะมีสัดส่วนผู้ถือหุ้นเป็นบวกแล้ว

ตลอดปีที่ผ่านมา คุณสนธิได้ขอร้องให้ใครมาช่วยบ้าง มีใครยอมช่วย และไม่ยอมช่วยบ้าง และคุณสนธิคิดยังไงกับคนที่ไม่ยอมช่วย

ถ้านายกทักษิณไม่ช่วย คุณสนธิก็ต้องหาใครคนอื่น ที่ช่วยคุณสนธิได้ใช่หรือเปล่า

จากคุณ : แวววัฒน์ - [ วันจักรี 20:24:41 ]






ความคิดเห็นที่ 17

(4) ถ้ากลุ่มผู้จัดการถูกถอดออกจากตลาดหลักทรัพย์ และไม่ผ่านเกณท์การฟื้นฟูบริษัทในกลางปีนี้ จนอาจถูกเจ้าหนี้บังคับให้ปิดตัวเองลง คุณสนธิ จะปลุกระดมคนว่า รัฐบาลคุกคามสื่อหรือเปล่า

เมื่อไหร่คุณสนธิถึงจะหยุด หรือประเทศจะแตกแยกกันอีกเท่าไหร่คุณสนธิก็ไม่สนใจ ขอเพียงธุรกิจของคุณสนธิยังอยู่ได้ แค่นั้นเองหรือ

ถ้าคุณสนธิตอบได้ทุกประเด็น และทุกคำถามย่อย คุณสนธิถึงจะเคลียร์ตัวเองได้ว่า การปลุกระดมคนครั้งนี้ ไม่ได้ทำเพื่อตัวคุณสนธิเอง โดยหลอกใช้ประชาชนนับแสนเป็นเครื่องมือ
qa

จากคุณ : แวววัฒน์ - [ วันจักรี 20:25:56 ]




Posted by : ปชป , Date : 2006-04-06 , Time : 22:47:53 , From IP : 172.29.5.217

ความคิดเห็นที่ : 1


   แล้วทักษิณไม่ผิดเหรอ
และที่สนธิลุกขึ้นเป็นแกนนำปลุกระดมคน
ข้อมูลที่เค้านำมาเสนอไม่มีมูลเหรอ
และประชาชนหลงเชื่อและทำไม่ถูกเหรอ
ที่ต้องการมาชุมนุมขับไล่นายกที่พวกเค้าคิดว่าไม่โปร่งใส ?????????(จากหลายๆสื่อนะ และจากสิ่งที่เป็นอยู่ในสังคมไทย ภาพมันฟ้องอยู่แล้ว...)
......................


Posted by : ขอคิดด้วยคน... , Date : 2006-04-07 , Time : 00:23:40 , From IP : 172.29.4.99

ความคิดเห็นที่ : 2


   ก็พอกันนั้นแหละ แต่บังเอิญว่ายังเป็นบุญของประเทศชาติที่สนธิดันแตกคอกับทักษิณเสียก่อน ก็เลยไปขุดคุ้ยด้านมืดของทักษิณมาบอกกล่าวให้คนในประเทศได้รับข้อมูลมากกว่า 1 ด้านที่รัฐบาลพยายามนำเสนอเหลือเกินว่าจะนำพาประเทศสู่ความศิวิไลด์ และแก้จนให้คนลำบาก ข้าพเจ้าว่าพวกเราควรจะหัดดูรายการเช่น วงเวียนชีวิต คนค้นคน เป็นต้น แล้วจะได้รู้ซึ้งว่า คนลำบากมากจริง ๆ คนที่ขาดโอกาส และคนที่ไม่ได้มีเงินเป็นหมื่น แสน หรือ ล้านล้าน ที่พร้อมจะหยิบยื่นโอกาส และแบ่งปันน้ำใจกันเองตามประสา โดยไม่เห็นจะมีหน่วยงานของรัฐ หรือบางคนที่ปากบอกว่ารักชาติเสียเหลือเกิน หยิบยื่นเข้ามาช่วยเหลือ พี่น้องคับพวกเราต้องช่วยเหลือตัวเองอย่าอาศัยจมูกใครมาหายใจ และอยากให้อยู่กันอย่างพอเพียงจริงๆ เหมือนอย่างพระราชดำริของในหลวงท่าน คืออยู่อย่างพอเพียงไม่ใช่อยู่อย่างคนจน แต่ถ้ารวยก็ต้องมีความสุขใจด้วย

Posted by : ไม่รู้จะบอกทำไม , Date : 2006-04-07 , Time : 04:49:55 , From IP : 172.29.1.124

ความคิดเห็นที่ : 3


   สนธิ จะเลวก็เรื่องสนธิ สนธิจะเจ๊ง ก็เรื่องของสนธิ ไม่เกี่ยวกับประชาชนชาวไทย
แต่ถ้าทักษิณจะรวยโดยการขายชาติ เป็นเรื่องของเราประชาชนคนไทย เพราะเห็น ๆ อยู่ว่าระบอบทักษิณ มันเลวร้ายอย่างไร ทำให้ประเทศไทยล่มสลายได้
หากไม่ช่วยกันหยุดมัน


Posted by : เป็นกลาง , Date : 2006-04-07 , Time : 08:03:13 , From IP : 172.29.4.93

ความคิดเห็นที่ : 4


    เห็นด้วยกับความคิดเห็นที่ 3 นะ เพราะว่าเราต้องนึกถึงประโยชน์ของส่วนกลางอ่ะ เนี๊ยขนาดทักษิณมีความผิดมากมายหลายเรื่องยังไม่มีกล้าตรวจสอบเลย...

Posted by : Dolphin , Date : 2006-04-07 , Time : 08:57:43 , From IP : 172.29.1.182

ความคิดเห็นที่ : 5


   สรุปแล้ว ระยำพอกันทั้งคู่ เพียงแต่ว่าใครจะถือโอกาศทำใครก่อน โดยอ้างเอาประเทศชาติและประชาชนมาเป็นข้ออ้าง แต่เบื้องหลังเหลี่ยมพราวธุรกิจมืดอื้อ ใครไม่เอื้อผลประโยชน์ใคร คนนั้นก็อยู่ไม่ได้ เรียกว่าใคร มีวินาทีก่อนใคร และตอนนี้ สนธิก็มีวินาทองอย่างงดงาม ธรรมดาธุรกิจขนาดนี้ ผู้ใครเก่งและ " แกร่ง " กว่า คือผู้ชนะ..

Posted by : พานเพชร , Date : 2006-04-07 , Time : 09:11:56 , From IP : 172.29.3.171

ความคิดเห็นที่ : 6


   คุณไม่ควรใช้ชื่อ ปชป. น่าจะใช้ ทรท.จะตรงกว่า ...พวกที่พยายามเบี่ยงประเด็นให้กลาย้เป็นเรื่องความขัดแย้งของ สนธิกับทักษิณ ...

Posted by : รู้ทัน , Date : 2006-04-07 , Time : 09:27:04 , From IP : 172.29.3.166

ความคิดเห็นที่ : 7


   ผมคิดว่าเหตุการณ์ที่ผ่านมามีอะไรๆที่แต่ละปัจเจกบุคคลจะ "ได้ หรือ เสีย" เยอะมากครับ

ส่วนหนึ่ง (อาจจะเป็นส่วนใหญ่ หรือส่วนสำคัญ) เป็นเหตุการณ์ที่พวกเราแต่ละคน "สามารถเลือก" ว่าเราจะได้หรือเสียเอง ตามแต่เราจะมอง เราสามารถจะมองว่า "ใคร" ได้หรือเสียอะไรจากสิ่งที่ผ่านมา หรือเราสามารถจะมองว่า "เรา" ได้เรียนรู้หรือสูญเสียอะไรไปจากสิ่งที่ผ่านมาก็ได้

แต่การที่จะบอกว่าใครได้หรือเสียอะไรคงจะเป็นการ "เดา" เท่านั้น เพราะเราไม่ได้ทราบว่าแต่ละคนจะใช้มุมอะไรมอง ใช้อะไรนำมาคิด ฉะนั้นค่อนข้างจะเป็นการ exercise การเดาที่จะมองไม่เห็นผลลัพธ์ว่าเดาถูกหรือผิด ได้แค่ "หวัง" ว่าคนจะได้ มากกว่าคนจะเสีย (หรือบางคนอาจจะสะใจมากกว่าเวลาคิดว่าใครจะ "เสีย" อะไรบ้าง นั่นก็คงจะแล้วแต่ที่มาของความสุขของแต่ละคน)

ถ้าจะคิดให้มัน positive หน่อย ก็คงจะดูจากว่าเราคิดอย่างนี้แล้ว "เรา" จะเป็นคนอย่างไรต่อไป เราดีขึ้น เหมือนเดิม แย่ลง จากการคิด จากการทำ จากการพูด อย่างนี้ๆแค่ไหน อย่างไร น่าจะดีในแง่เราเรียนรู้จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ไม่ได้ปล่อยให้มันผ่านไปเฉยๆ เหมือนข่าวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ถ้าคิดแล้วตัวเราทำท่าจะทุกข์มากขึ้น คิดอะไร negative มากขึ้น ก็น่าจะลองไตร่ตรองว่ามันจำเป็นหรือไม่ที่เราจะคิดแล้วทุกข์ มีทางที่คิดแล้วเราเรียน คิดแล้วเราแข็งแกร่งขึ้น วิเคราะห์ได้ดีขึ้น หัดใช้ข้อมูลเหตุผลมากขึ้น แทนที่จะใช้อารมณ์เป็นหลักอย่างตอนเด็กๆ

มันก็เป็น "ทางเลือก" ของวิถีความคิดครับ ซึ่งแต่ะละทางเราเองเป็นคนเลือก และรับผลแห่งการเลือกนั้นๆ



Posted by : Phoenix , Date : 2006-04-07 , Time : 09:36:16 , From IP : 172.29.3.231

ความคิดเห็นที่ : 8


   การต่อสู้ครั้งนี้ ไม่ได้อยู่ที่ตัวบุคคลอีกแล้วครับ เราสนใจที่ระบอบทักษิณ ที่เลวร้าย
เราไม่ต้องการให้ระบอบนี้ดำรงอยู่ อย่าเสียเวลามาเบี่ยงเบนประเด็นเป็นเรื่องของคน
ต่อคนเลยครับ ใครจะดีเลวมันเป็นเรื่องของเค้า แต่ที่เราสนใจมันเป็นเรื่องของชาติ
หากคุณปล่อยให้ ระบอบอันเลวร้ายดำเนินต่อไป ไม่ช้าเหตุการณ์่เช่น อาร์เจนติน่า
คงเกิดขึ้นกับประเทศของเราเป็นแน่แท้ แล้ววันนั้น ผลประโยชน์ สิ่งที่คุณได้รับสิ่งที่
คนที่คุณรักหนักหนาหยิบยื่นให้ จะกลายเป็นคราบน้ำตาบนความล้มสลายที่รอวันให้
ลูกหลานของพวกเราต้องเผชิญ ถามใจตัวเองอีกครั้งว่า คุณยังยินดีให้ระบอบนี้ดำรงอยู่
อีกต่อไปหรืออย่างไร


Posted by : ร่วมด้วยช่วยกัน , Date : 2006-04-07 , Time : 09:37:46 , From IP : 172.29.1.126

ความคิดเห็นที่ : 9


   จัดการทักษิณ - ระบอบทักษิณให้สิ้นซาก แล้วจัดการสนธิ - ข้าราชการประจำ - ข้าราชการการเมือง ที่โกงกินบ้านเมือง ให้สิ้นซาก ด้วย น่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด
ประเทศชาติจะได้เจริญเสียที โอกาสมาแล้วน่าจะใช้ให้เป็นประโยชน์


Posted by : ร่วมวงด้วยคน , Date : 2006-04-07 , Time : 11:27:08 , From IP : 125.25.17.244

ความคิดเห็นที่ : 10


   ทักษิณเป็นนายกเป็นคนบริหารประเทศ แต่สนธิเป็นประชาชนคนหนึ่งดังนั้นถึงสนธิโกง ก็ไม่ได้อันตรายเท่ากับนายกโกง

Posted by : คนละประเด็น , Date : 2006-04-07 , Time : 14:03:13 , From IP : 172.29.2.182

ความคิดเห็นที่ : 11


   ระบอบทักษิณเป็นอย่างไร
ใช่ 30 บาทรักษาทุกโรค เงินกองทุนหมู่บ้าน บ้านเอื้ออาทร การจัดการภัยพิบัติที่รวดเร็ว (คนไม่ประสบภัยก็พลอยรับเงินช่วยเหลือด้วย) การตัดพ่อค้าคนกลางในการขายยาง การให้กู้เรียน ปราบยาบ้า ปราบหวย การลงทุนกับต่างชาติ และเราว่าไปกับทฤษฎีประชานิยมที่เราไม่รู้หลอกว่าเป็นเช่นไร แต่ที่แน่ๆรัฐบาลไหนที่จะมาก็จะต้องทำแบบนี้ทำประโยชน์แก่ประชาชน เพราะมันอยู่ในบทบัญญัติรัฐธรรมนูญที่ประชาชนทุกคนต้องได้รับการศึกษาและการรักษาพยาบาลโดยรัฐ ประเทศเราไม่เห็นจะแย่ตรงไหน รัฐบาลต่าประเทศก็อยากเรียนแบบที่จะทำประโยชน์สุขให้คนของเขาให้ได้รับเหมือนประชาชนไทย เราไม่อยากได้จริงๆหรือ ญาติพี่น้องเราไม่เคยได้ประโยชน์จริงหรือ เราแย่ลงจริงหรือ เงินคลังหมดจริงหรือ เสถียรภาพทางการเงินเราเหลือไม่เกิน 1 เดือน จริงหรือ เวลา และข้อเท็จควรได้รับการพิสูจน์แล้ว อัตตราว่างงานน้อยที่สุด คนย้ายถิ่จากกทม.กลับท้องถิ่นมากที่สุด เราคงจะได้เห็นรัฐบาลใหม่ถ้าเดินตามระบอบทักษิณเรากล้าจะกลับมายกย่องและขอโทษเขาหรือไม่


Posted by : ยุพิณ , E-mail : (wayuphin@medicine.psu.ac.th) ,
Date : 2006-04-07 , Time : 18:24:19 , From IP : 172.29.3.157


ความคิดเห็นที่ : 12


   คำถามของ จขกท เล่นเอาผมต้องค้นให้ชั่วโมงกว่า เพราะผมเขียนสดในแต่ละครั้ง และก็ไม่เคยเก็บข้อมูลที่เขียนด้วย ตอบในเอ็มไทย และในเวปนี้สองครั้งแล้ว หาไม่เจอเหมือนกัน แต่ช่างเถอะ สมองผมยังอยู่ ใช้เมื่อไรก็ได้ แต่จะไม่ค้นเรื่องอาร์เยนติน่าเป็นครั้งที่สามและสี่แล้ว แต่คุณถามโดยเอาความรู้ ความสุจริตใจ ไม่ใช่ตั้งคำถามกวนๆ มาแบบนี้ ผมจะถ่ายทอดของจริงให้ฟัง แต่บอกก่อนนะสไตล์ผมหลายคนไม่ชอบ ถากถาง มีหยาบผสม ด่าแขวะชาวบ้าน ถ้าไม่ชอบสไตล์นี้ก็ไม่ต้องถามครับ ผมเขียนแบบนี้ แบบฉบับของผมเอง อ่านได้ความรู้และเอามันส์ยิ่งกว่ากินถั่ว
คุณนิติภูมิเขาไม่ใช่นักเศรษฐศาสตร์แกเรียนแบบจับฉ่ายในยุคที่รัสเซียให้ทุนนักเรียนไทยที่สมองไม่ดีไปเรียน เพราะคุณนิติภูมิเอง ประวัติเขาก็ไม่ใช่คนเรียนเก่งอะไร เข้าเตรียมทหารอายุ 19 ก็เลิกพูดแล้ว เอนทรานซ์ก็ไม่ผ่าน เรื่องชั่วๆ ของแก ผมเคยนำมาเปิดเผยสองครั้ง แรกๆ ก็ไม่กล้าพูดเพราะจะกลายเป็นความอิจฉา แต่เมื่อเขาประกาศตัวจะล้มรัฐบาลแน่ชัด อยากเป็นนักการเมืองสกปรกหักหลังชาวลบ้าน ตอนหลังผมเลยแฉแกเยอะ คนด่าผมมาตลอด แต่เวลาจะอ่านนิติภูมิ ตอนนี้ มีคนตั้งคำถามภูมิรู้แกแล้ว หลายคนก็ตื่นจากความฝันแล้วว่า ไม่เท่าไรเลย ดอกเตอร์นิติภูมิ
นิติภูมิพยายามโกหกว่า แปรรูปแล้วอาร์เยนติน่าสิ้นชาติ จริงหรือ ผมก็ลงทุนไปค้น นี่เป็นนิสัยผมที่ชอบจับผิดคนเพราะมีนิสัยนักกฎหมายทนายความเก่าแล้วก็มีเพื่อนต่างชาติเยอะ โดยเฉพาะตามสถานทูตเพราะเข้ากับคนง่าย ตรงไปตรงมา ผมก็เลยทราบว่า นิติภูมิโกหกหลอกคนทั้งบ้านเมือง เอาใจม็อบเพื่อหวังว่า สมัยหน้าข้าจะได้เป็นรัฐมนตรีบ้าง
อาร์เยนติน่ามีประชากร 40 ล้านคน ไทย 65 ล้านหกแสน เราดูเบื้องต้นเวลานี้ของอาร์เยนกับไทยก่อนนะครับ ข้อมูลนี้ ค้นที่ไหนก็มีหะ เขาเรียก demographic หรือ country profile เอา ศก ตอนนี้ก่อน จะๆ เลยนะ รายได้ต่อหัวของอาร์เยนคำนวณตาม ppp หรือ purchasing power parity ไปค้นเองคืออะไร เดี๋ยวนี้ใช้มากกว่า GNP per capita ด้วย ผมไม่มีเวลามาอธิบาย อาร์เยน 13000 ดอลลาร์ ขณะที่อำนาจซื้อของไทย 8300 ดอลลาร์เท่านั้น แสดงว่าเอาคนมาหารรายได้และดูอำนาจการซื้อของคน อาร์เยนสูงกว่าไทยค่อนข้างมากนะ
แค่หลักเบื้องต้น นิติภูมิก็เป๋แล้วครับ พูดสั้นๆ ง่ายๆ คือ คนอาร์เยนรวยกว่าคนไทย พอได้ตรงนี้ เราไปดูต่อว่า จริงไหม ดูข้าวของความเจริญเขากับไทยต่อไป คนอาร์เยนอายุเฉลี่ย 75 ปี คนไทย 71.9 ปี นี่ก็มีนัยว่าสาธารณสุขเขาก้ดีกว่าเรานะ แต่เอาเหอะ บ้านเราอากาศร้อน บางคนอาจเถียงว่า คนไทยจึงอาจจะอายุสั้นกว่า เหมือนเนื้อใส่ตัวเย็นกับอยู่ที่ร้อนๆ เนื้อในตู้เย็นก็เน่าช้ากว่า เอาผ่านไป โทรศัพท์บ้าน อาร์เยนมี 8 ล้านเลขหมาย ไทยมี 7 ล้านครับ เขาก็มากกว่าเรา ทั้งที่คนเขาน้อยกว่าเรานะ มือถือ อาร์เยนมีใช้กันเกร่อ 65 ล้านเครื่อง ไทย 27 ล้านเครื่อง คงไม่ต้องอธิบายแล้วนะ การศึกษา คนเมืองเราอ่านออกเขียนได้ร้อยละ 92.6 อาร์เยน 97
ทั้งหมดในภาคแรกจะเห็นว่า อาร์เยนไม่ได้ด้อยกว่าเราตามที่นิติภูมิโกหกนะครับ นี่บทแรกสั้นๆ ก่อน ท่านตุลาการที่เคารพของเวปไทยจัสติ๊ด

จากคุณ : นายคนไทยในต่างประเทศ - [21 มี.ค.49 01:52]
ความคิดเห็นที่ 2 :
บทที่สอง คุณโชคดีชะมัดที่ผมมาใส่ใจปัญหาคุณ เอาวิชาการแท้ๆ มาถกเลย แต่ผมไม่มีหน้าหนังสือพิมพ์เขียนเท่านั้นแหละครับ เพราะเกือบค่อนชีวิตอยู่ในต่างประเทศ ดวงผมมันต้องไปดี ได้เงินจากต่างแดน

อาร์เยน ล้มละลายมาหลายครั้ง ครั้งสุดท้ายเข้าไอเอ็มเอฟ มค 2002 เพราะหนี้ท่วมตัว หนี้ที่รัฐบาลก่อทั้งน้าน แล้วหนี้มาจากไหนล่ะ จากการลงทุนในรัฐวิสาหกิจ ไง ค้ำหนี้ต่างประเทศ กู้มาลงทุนโดยตรง พอเป็นหนี้มากๆ ออกพันธบัตร ถึงเวลาจ่ายรัฐไม่มีเงินจ่าย ติดเงินเดือนข้าราชการ คนก็แห่ถอนเงินซีครับ ซื้อดอลล่าร์แทนเงินเปโซที่มีค่าเปลี่ยนแปลงรายวัน ลดลงๆ ที่สุด รัฐหมดเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ใครเขาก็ไม่อยากค้าขายกับคุณ เพราะอาร์เยนไม่มีเงินสกุลแข็ง พวกดอลลาร์ เยน มาร์ก จ่าย ก็แบบเดียวกับไทยในปี 1997 เขาเข้า IMF เพื่อขอเงินกู้เพื่อมาสำรองเงินตราระหว่างประเทศ จะเข้า IMF อาร์เยนก็ถูกกำหนดว่า ต้องทำนั่นนี่ อย่างนึง คือ แปรรูปวิสาหกิจ เพราะรัฐไม่อาจเข้ามาลงทุนในไฟฟ้า ประปา ไปรษณีย์ต่อไปแล้ว ให้เอกชนดำเนินการแทนรัฐบาลอาร์เยนก็ถูกเสือนอนกินในวิสาหกิจด่าว่า ขายชาติแบบเดียวกับทักษิณโดนเลย

นิติภูมิออกมาประกาศว่า อาร์เยนเจ๊งหนัก ชาติล้มละลายหลังแปรรูปวิสาหกิจ ผมออกมาสวนว่า อาร์เยนชนะต่างหาก ศก ดีขึ้นมากมาย
ผมพูดจากตัวเลขของธนาคารโลกนะครับ คุณจะเชื่อนิติภูมิ ก็ช่าง แต่ผมเชื่อธนาคารโลกครับ อาร์เยนใช้หนี้ IMF ได้ก่อนกำหนดสองปี เท่ากับทักษิณของไทยทำให้กับประเทศเช่นกัน ปี 2000 ศก อาร์เยน ติดลบ 0.8 เปอร์เซ็นต์ และเพิ่มหนักหนาในปี 2001 ติดลบ 10.9 เปอร์เซ็นต์ ปีล้มละลาย มากกว่าไทยในยุคนายชวนนิดนึง แต่เขาฟื้นครับในปี 2003 2004 2005 อาร์เยนติน่า มีศก โตเฉลี่ยร้อยละ 8 ต่อปี มันวิเศษไหมครับ หลังการแปรรุป รัฐพ้นจากความหายนะ มาโตอีกครั้ง โตถึงร้อยละ 8 นี่ไม่ธรรมดานะครับ ขณะที่ไทยโตราวปีละ 4-5 เปอร์เซ้นต์เท่านั้นนะหะ ธนาคารโลกประกาศความสำเร็จในการพัฒนา ศก ของอาร์เยนว่า เกิดจากการดำเนินนโยบาย ศก ที่ถูกทิศทาง ขณะที่นายนิติภูมิ ดอกเตอร์ที่ กพ ไม่รับรอง อวดเก่งกว่าธนาคารโลก พูดโง่ๆ ว่า อาร์เยนเดินผิดทาง ถามว่า ดร กำมะลอคนนี้เก่งกว่าคนทำงานธนาคารโลกเหรอ มันง่ายหรือครับที่จะทำงานในสถาบันทรงเกียรติแห่งนี้ ถามว่า คุณเชื่อใคร
แต่อาร์เยนก็มีภาพที่ต้องแก้ไขอีกมาก ผมมองในมุมกว้างนะ คนจนในอาร์เยนต่ำกว่า poverty line ที่ธนาคารโลกกำหนดมีถึงร้อยละ 38.5 ของไทยมีแค่ร้อยละ 10 จะเห็นว่าการกระจายรายได้ของอาร์เยน แย่กว่าไทย คือ คนรวยก็รวยเสียให้เข็ด จนก็จนกว่าหนังธรณีกันแสง ขณะที่ไทยคนจนก็ไม่จนมากเกินไปนักและรวยก็ไม่ทิ้งจนห่างมากๆ จะมีรวยแบบคุณทักษิณ คุณอะไรเจ้าของเบียร์ช้าง หรือนายห้างธานินทร์ ไม่กี่คนหรอกครับ หนี้สาธารณะ คือ พูดง่ายๆ ฟังง่าย หนี้ที่รัฐบาลต้องใช้ อาร์เยนมีถึง 69.7 เปอร์เซ็นต์ นี่วิบากกรรมจากการกู้หนี้มาให้ รสก พนักงานเสือนอนกินโบนัสไม่ทำงาน ขณะที่ไทย รัฐบาลไทยมีวินัยการคลังดีกว่า หนี้สาธารณะมีแค่ 35.9 เปอร์เซ็นต์
สนุกไหมครับ อ่านตามทันไหมครับ วิชาการแท้ๆ นะครับ ตัวเลขมาจากไหน จากสหรัฐ คือ CIA Factsheet ครับ มีภาคสามต่อ


จากคุณ : นายคนไทยในต่างประเทศ - [21 มี.ค.49 02:01]
ความคิดเห็นที่ 3 :
ตอนนี้ อย่าไปด่า อาร์เยนติน่าเลยครับ เขาสบายขึ้นเยอะ ฟุตบอลเขาก็เก่ง มีกองหน้าริเควลเม้ ไวมากๆ ถ้าไม่โดนอาเดรียโน กองหน้าร่างยักษ์ของเอซีมิลานจากบราซิลเบียดล่ะก้อ สุดยอดเลยครับคนนี้ เขาจะไปบอลโลกแล้ว ก็มีความสุขดี รัฐบาลเขาเก็บรายได้มากกว่ารายจ่าย ทางบัญชีเรียกงบประมาณเกินดุล มีรายได้ 42.63 ล้านเหรียญ รายจ่าย 39.98 ล้านเหรียญ จริงๆ เขาทำเป็นเปโซ แต่ผมทำเป็นเงินสกุลสหรัฐ ให้ท่านเข้าใจง่ายๆ เรียกว่า รัฐมีเงินเข้ามากกว่าเงินออก ขณะที่รัฐบาลไทยยังขาดดุลทุกที รายรับ 30.64พันล้านเหรียญ รายจ่าย 31.76 พันล้านเหรียญ ถามว่า เงินเข้ามากกว่าเงินออก หรือเงินออกจากระเป๋ามากว่าเงินเข้าดีล่ะครับ ถ้าแปรรูปมันเฮงซวย รัฐบาลอาร์เยนจะเก็บภาษีมาจากไหน จะเอาเงินเข้ามากกว่าเงินออกได้ไงตั้ง 3.2 เปอร์เซ็นต์ แต่เราก็มีดีกว่าอาร์เยนในเรื่องคนตกงาน ของไทยเราตอนนี้ตกงานร้อยละ 1.4 แต่ไม่แน่ประท้วงบ้าบอแบบสนธิ จำลอง คงได้เห็นคนตกงาน โรงงานปิดโรงงานไปอีกเยอะ แต่แน่ๆ อาร์เยน ตอนนี้ คนว่างงานร้อยละ 11.1 สูงกว่าไทยมากนะครับ

ธนาคารโลกเขามีรายงาน ศก ของอาร์เยนติน่ายาวเหยียดเลย แต่ผมสรุปสั้นๆ เพราะเหนื่อยแล้วว่า ความสำเร็จทางศก หลังไอเอ็มเอฟของอาร์เยนมาจาก solid domestic demand การบริโภคภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น สภาพภายนอกประเทศมองอาร์เยนไว้ใจขึ้น หลังปลดแอก รสก รัฐวิสาหกิจ ลดการสร้างหนี้ลง และการส่งออกที่เพิ่มมากขึ้น
ถามว่า คุณนิติภูมิเอาอะไรมาพูดว่า รัฐบาลแปรรูป รสก แล้ว อาร์เยนพินาศ ในเยอรมัน ในอเมริกาที่ผมเคยไปอยู่มาสองประเทศเกือบแปดปี ผมก็เห็นบริษัทไฟฟ้า โทรศัพท์ ดำเนินการโดยเอกชน ไม่เคยได้ยินฝรั่งบอกว่า รัฐบาลเขาขายชาติ
แต่ประเทศไทยเราจะเอาที่ดินขายฝรั่ง แปรรูป รสก ทำความตกลงเขตการค้าเสรีที่ WTO สนับสนุน ทุกอย่างที่จะทำดีๆ แต่ผลคือ คุณจะเป็นคนแรกที่ถูกกล่าวหาว่า คุณกำลังขายชาติ
การโกหกเพื่อทำลายทุนนิยมยุคใหม่ จากกลุ่มผู้เสียประโยชน์และเสือนอนกินทั้งหลาย วันหลัง ผมจะเอากรณีอิหร่านที่ผมเคยอยู่หลายปีมาเล่าให้ฟังว่า เขาพูดแบบสนธิกำลังพูด เป้ะเลย ขายชาติ ขายประเทศ ผลเกิดอะไรกับ ศก อิหร่านที่มีทรัพยากรมากมาย แต่ประเทศกลับถูกไทยประเทศเล็กๆ ไม่มีทรัพยากรอะไรหนักหนาแซงหน้าไปได้ จนหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งของอิหร่าน ขึ้นปกเมื่อปีกลายว่า แม้แต่ไทยก็ overtake อิหร่าน ฟังดูเหมือนชมแต่คำขึ้นต้นว่า แม้แต่ไทย Even Thailand ฟังแล้วทะแม่งๆ ยังไงพิกล

วันนี้ พอเท่านี้แล้ว ผมชักเหนื่อย แต่ห้ามถามเรื่องนี้อีก ถามหลายที ไม่เก็บก็หายไป บางคน เอาเรื่อง พรก สถานการณ์ฉุกเฉิน patriot Act ของอเมริกา หรือเรื่องระบบ กต ระบบศาลในนานานประเทศมาโต้กันอีก ผมเขียนไปหมดไส้พุงแล้ว ไม่เก็บ ผมก็จำไม่ได้แล้ว ผมเลิกเถียงครับ เพราะผมค้นให้ไปหมดแล้ว โดยได้รางวัลจากคนที่ไม่ชอบขี้หน้าผมว่า โม้บ้าง มั่วบ้าง บ้าฝรั่งบ้าง ตามอัธยาศัยเถอะครับ กรรมที่ด่าคนไว้มาก พอโดนด่าบ้างก็สะอึก ถือว่า ใช้กรรมกันไป

จากคุณ : นายคนไทยในต่างประเทศ - [21 มี.ค.49 02:12]
ความคิดเห็นที่ 4 :
รายได้ของรัฐบาลอาร์เยนเป็นพันล้านเหรียญสหรัฐพิมพ์ตกครับ ขออภัย



Posted by : คนผ่านฟ้า , E-mail : (thaiwoman) ,
Date : 2006-04-07 , Time : 22:44:36 , From IP : ppp-124.120.147.212.


ความคิดเห็นที่ : 13


   ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนว่า ผมไม่ได้เชียร์คุณทักษิณ เพราะหากเขาโกงบ้านเมืองจริง สักวันหนึ่งเขาจะต้องชดใช้กรรม ผมเชื่อในกฏแห่งกรรมครับ ใครมีหลักฐานก็ให้ไปจัดการตามกระบวนการยุติธรรมได้เลย เหมือนอย่างที่ผู้กว้างขวางแห่งภาคตะวันออก กำลังเผชิญอยู่ในเวลานี้ ขนาดเป็นผู้มีอิทธิพล แถมมีลูกชายเป็นนักการเมืองด้วย ยังต้องหนี แสดงว่าศาลยังเป็นที่พึ่งได้อยู่

ตั้งแต่คุณสนธิ พูดเรื่องการทำบุญชาติที่วัดพระแก้ว กล่าวหานายกฯว่ากระทำไม่ถูกต้อง ไม่รู้ที่ต่ำที่สูง ในที่สุดสำนักพระราชวังก็ออกมาอธิบายว่าเป็นผู้ดำเนินการจัดการ แล้วเรื่องก็เงียบไป

หมายความว่าไงครับ คุณสนธิไม่มีข้อมูลที่เพียงพอ เพียงแต่เห็นในรูปจากสื่อสิ่งพิมพ์ ก็ออกมาให้ร้ายผู้อื่น ทำให้คนอื่นเสียหาย แบบนี้แปลว่าอะไรครับ คำพูดและความน่าเชื่อถือของคุณสนธิจึงน่าสนใจ

อยากให้ผู้คนไทยเปิดใจให้กว้าง อย่าไปเชื่อสื่อทั้งหมด และอย่าหลงเชื่อสิ่งที่ได้อ่าน-ฟัง มาง่ายเกินไปครับ


Posted by : เจ้าของกระทู้ , Date : 2006-04-07 , Time : 23:27:18 , From IP : 172.29.5.217

ความคิดเห็นที่ : 14


   อย่าหลงประเด็น คุณๆที่เชียร์ทักสินคิดหรือว่าการที่คนหลายแสนออกมาบนถนน หลากหลายวิชาชีพ คนอีก 10 กว่าล้านไม่เลือกไทนรักไทย ทั้งหมดนี้เกิดขึ้น เพราะเชื่อสนธิ ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะเป็นคนที่หลง ปชป.ไม่ลืมหุลืมตา คุณดูผิดแล้วมั๊ง...ใช้สมองตรองดูนานๆ....คำถามที่สนธิและนักวิการจำนวนมากถามทักสินแล้วเขาไม่กล้าตอบต่างหาก...ที่ผลักดันให้คนส่วนใหญ่เริ่มรู้ทัน...คนส่วนใหญ่ต้องการความโปร่งใส...ถ้าทักสินและลิ่วล้อไทยรักไทยแน่จริงก้ต้องกล้าออกมา debate โดยหลักการและเหตุผล+หลักฐาน...เท่านี้แหละ...ทรท.กล้ามั้ย ทักสินกล้ามั้ย...ถ้าเขาตอบไม่ได้แสดงว่าเขาทำจริง...และถ้าเขาทำจริง ก็ลองคิดดุว่าจะเกดอะไรขึ้นกับบ้านนี้เมืองนี้...เราไม่เลือกท้งทรท.และปชป. แต่เราก็ไม่คิดว่าถ้าไม่มี 2 พวกนี้แล้ว สังคมไทยจะล่มสลาย...กลับมั่นใจว่าเพราะมีคนแบบทรท.หรือนักการเมืองปชป.ที่ไม่ค่อยพัฒนานี่แหละท่ทำให้สังคมไทยล่มได้

Posted by : คน มอ. , Date : 2006-04-08 , Time : 10:18:26 , From IP : 172.29.7.53

ความคิดเห็นที่ : 15


   พวกเราชนชั้นกลางเปิดใจให้กว้างอ่านแล้วคิดตาม
หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
16 มีนาคม พ.ศ. 2549


คอลัมน์ มองมุมใหม่
ดร. พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์
Pichit@econ.tu.ac.th

การต่อสู้ทางชนชั้นในสังคมไทย
ความขัดแย้งครั้งใหญ่ในสังคมไทยขณะนี้ นอกจากจะเป็นการต่อสู้กันระหว่างรัฐบาลที่ต้องการปฏิรูปสังคมไทยตามแนวทางทุนนิยมโลกาภิวัตน์ กับกลุ่มแนวร่วมต่อต้านโลกาภิวัตน์แล้ว ยังมีมิติทางชนชั้นอันแหลมคมคือ เป็นการต่อสู้ครั้งสำคัญระหว่างชนชั้นล่างในเมืองและชนบทที่สนับสนุนผู้นำรัฐบาลและระบอบประชาธิปไตยกับชนชั้นนำและชนชั้นกลางในเมือง ที่ต้องการขับไล่ผู้นำรัฐบาลและฉีกรัฐธรรมนูญ

ชนชั้นล่างในเมืองและชนบทประกอบด้วย ประชาชนระดับรากหญ้าที่ตั้งแต่เกิดจนตายมีชีวิตยากจน ลำบากยากแค้น ไม่แน่นอน ไม่มีการศึกษา ขาดเงินทุน มีแต่หนี้สินและโรคภัยไข้เจ็บ ยาเสพติดในละแวกบ้าน อิทธิพลเถื่อนในพื้นที่ การข่มเหงรังแกของเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่เคยได้รับการเหลียวแลจากผู้ใด ไม่มีปากมีเสียง ถูกละเลยผ่านพ้นรัฐบาลมาทุกยุคทุกสมัย

พวกเขามีข้อได้เปรียบเพียงประการเดียวคือ มีจำนวนคนมากนับสิบล้านคนทั่วประเทศและระบบการเมืองที่พอจะเปิดโอกาสให้พวกเขาได้มีปากมีเสียงบ้างก็คือ ระบอบประชาธิปไตย เพราะเป็นระบอบที่ทุกคนมี "หนึ่งเสียงเท่ากัน" ไม่ว่ายากดีมีจน การศึกษาสูงหรือต่ำ และยังเป็นระบบเดียวที่ทำให้พวกเขาพอจะส่งอิทธิพลไปยังนักการเมืองได้บ้าง

พวกเขาสนับสนุนผู้นำรัฐบาลอย่างเข้มแข็ง ก็เพราะนี่เป็นรัฐบาลแรกที่หยิบยื่นผลประโยชน์รูปธรรมเฉพาะหน้าให้กับพวกเขาได้จริงผ่านโครงการประชานิยมต่างๆ เช่น หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ พักชำระหนี้ กองทุนหมู่บ้าน 30 บาทรักษาทุกโรค บ้านเอื้ออาทร หมู่บ้านเอสเอ็มแอล ขจัดปัญหายาเสพติด ลดอิทธิพลเถื่อนในพื้นที่ แปลงหนี้นอกระบบเป็นหนี้ในระบบ ฯลฯ

ชนชั้นนำและชนชั้นกลางในเมืองไม่เคยเข้าใจสิ่งเหล่านี้ เพราะพวกเขาไม่ต้องเผชิญกับปัญหาสารพัดที่ชนชั้นล่างต้องประสบตลอดชีวิต ชนชั้นกลางมีเงิน การศึกษา ตำแหน่งงาน บ้าน รถยนต์ มีช่องทางเข้าถึงเงินทุนและเงินกู้ในระบบ เจ็บป่วยก็มีเงินรักษา ไม่มีปัญหายาเสพติดในละแวกบ้าน ไม่เคยถูกเจ้าหน้าที่รัฐและอำนาจเถื่อนรังแก ไม่ต้องพึ่งรัฐบาลและนักการเมืองท้องถิ่น พวกเขาจึงมองชนชั้นล่างอย่างดูถูกดูแคลน ว่า "ถูกซื้อ" โดยรัฐบาล

พวกเขาต้องการโค่นล้มผู้นำรัฐบาลและเรียกร้อง "รัฐบาลพระราชทาน" ฉีกรัฐธรรมนูญทิ้งก็เพราะในระยะเวลา 5 ปีมานี้ พวกเขาได้สูญเสีย "สวรรค์ของอภิสิทธิ์ชน" ของตนไปเรื่อยๆ

กลุ่มทุนเก่าที่ผูกขาดระบบเศรษฐกิจไทยมาหลายสิบปี กำลังสูญเสียอำนาจทางเศรษฐกิจไปอย่างรวดเร็ว เพราะการเปิดเสรีการค้าและการลงทุนของรัฐบาล พวกเขาจึงต้องโค่นล้มรัฐบาลเพื่อยุตินโยบายดังกล่าว และฉุดรั้งให้เศรษฐกิจไทยถอยหลังไปสู่ระบบทุนนิยมอุปถัมภ์ดังเดิม

ผู้นำแรงงานรัฐวิสาหกิจต้องการขับไล่รัฐบาล เพราะสูญเสียประโยชน์และสถานภาพจากการแปลงสภาพรัฐวิสาหกิจให้เป็นบริษัทมหาชน องค์กรพัฒนาเอกชนที่ต่อต้านทุนนิยมต้องการโค่นล้มรัฐบาล เพราะปฏิเสธการพัฒนาเศรษฐกิจให้ทันสมัย ปฏิเสธการค้าการลงทุนจากต่างประเทศ ต้องการฉุดรั้งให้เศรษฐกิจไทยถอยหลังไปเป็นสังคมเกษตรกรรมหมู่บ้านบุพกาลตามลัทธิชุมชนอนาธิปไตยของพวกตน

ข้าราชการเทคโนแครตไม่ต้องการรัฐบาลและรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพราะทำให้พวกเขาสูญเสียอำนาจ เกียรติภูมิและสถานภาพ จากเดิมที่เป็นผู้บริหารประเทศตัวจริงและมีอิทธิพลเหนือรัฐมนตรี นักการเมือง แต่วันนี้ พวกเขาเป็นเพียงคนรับคำสั่งของนักการเมือง

กลุ่มก๊วนการเมืองต้องการฉีกรัฐธรรมนูญ เพราะทำให้พวกตนไม่มีอำนาจต่อรอง ต้องผูกติดกับระบบพรรค ไม่สามารถข่มขู่รัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีให้แบ่งปันผลประโยชน์แก่พวกตนได้เหมือนในอดีต

นักวิชาการ อาจารย์มหาวิทยาลัย ราษฎรอาวุโสแม้จะเกลียดชังความไม่โปร่งใสในทรัพย์สินของผู้นำรัฐบาล แต่ภูมิหลังคือ พวกเขาเป็นอนุรักษ์นิยม ไม่ต้องการโลกาภิวัฒน์ แล้วยังสูญเสียสถานภาพและความน่าเชื่อถือตลอด 5 ปีมานี้ เพราะรัฐบาลไทยรักไทยเป็นรัฐบาลที่ไม่สนใจนักวิชาการและอาจารย์มหาวิทยาลัย ไม่ให้คุณค่าความสำคัญแก่ราษฎรอาวุโส อีกทั้งยังคอยกล่าวตอบโต้รุนแรงอยู่เสมอ

นักวิชาการและราษฎรอาวุโสเหล่านี้ปากพูดว่า "ต้องการประชาธิปไตย" แต่วันนี้ กำลังเรียกร้อง "รัฐบาลพระราชทาน" ให้ฉีกรัฐธรรมนูญ เอาระบบจารีตนิยมเข้ามากุมอำนาจรัฐ บางคนเรียกร้องอย่างเปิดเผยให้ฝ่ายทหารก่อรัฐประหารยึดอำนาจ เอาเผด็จการทหารกลับคืนมา ทั้งหมดนี้เพื่อโค่นล้มผู้นำรัฐาลเพียงคนเดียว ที่น่าสังเวชคือ นักวิชาการเหล่านี้บางคนปากอ้างมาตลอดชีวิตว่า เป็นทายาททางคุณธรรมของนายป๋วย อึ้งภากรณ์

แม้แต่อดีตฝ่ายซ้ายและนักต่อสู้กับเผด็จการทหารในอดีต มาวันนี้กลับขึ้นเวทีร้องเพลงเพื่อชีวิต วิงวอนร้องขอ "รัฐบาลพระราชทาน" ให้ฉีกรัฐธรรมนูญ ฟื้นระบอบจารีตนิยม

แม้เฉพาะหน้าจะเป็นประเด็นความไม่โปร่งใสของผู้นำรัฐบาล แต่พื้นฐานความขัดแย้งคือ รัฐธรรมนูญฉบับนี้และผู้นำรัฐบาลทำให้ชนชั้นนำและชนชั้นกลางในเมืองสูญเสียประโยชน์และสถานภาพอภิสิทธิ์ ทำให้ชนชั้นล่างทั้งในมืองและชนบทได้มีสิทธิมีเสียงทัดเทียมกัน

แม้คำขวัญเบื้องหน้าคือ "กู้ชาติ" "ปฏิรูปการเมือง" และชื่อกลุ่มลงท้ายด้วยคำว่า "เพื่อประชาธิปไตย" แต่เนื้อแท้คือ ต้องการฉีกรัฐธรรมนูญและทำลายระบอบประชาธิปไตยที่แบ่งอำนาจให้กับชนชั้นล่างมากเกินไป และเปิดช่องให้มีการปฏิรูปทุนนิยมโลกาภิวัฒน์ ฉะนั้นวาระของพวกเขาจึงเป็นปฏิกิริยาและถอยหลังเข้าคลอง

สิ่งที่ชนชั้นนำและชนชั้นกลางในเมืองต้องการไม่ใช่ประชาธิปไตย ที่"หนึ่งคนหนึ่งเสียงเท่ากัน" แต่เป็นระบอบคณาธิปไตยที่ชนชั้นนำและชนชั้นกลางในเมืองมีอำนาจอภิสิทธิ์ และมีเสียงเหนือชนชั้นล่าง เป็นระบอบที่คนส่วนน้อยในเมืองจำนวนหนึ่งมีเสียงเหนือกว่า สามารถ "สั่ง" และขับไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญด้วยคะแนนเสียงข้างมากของประชาชนชั้นล่างนับสิบล้านคนได้

ประชาธิปไตยไทย จึงไม่มีวันเป็น "ประชาธิปไตย" ไปได้ เป็นได้แค่คณาธิปไตยจารีตนิยม



Posted by : ห่วงลูก , E-mail : (5555) ,
Date : 2006-04-08 , Time : 10:47:31 , From IP : ppp-124.120.149.155.


ความคิดเห็นที่ : 16


   อภิสิทธิ กล่าวหาว่า ทักษิณ เว้นวรรคเพื่อชักใย....รู้ได้ไงวะ....ตรงกับ คำขวัญที่ว่า "จ้องจับผิด คิดคำกล่าวหา ด่าเขาไปทั่ว มั่วข้อมูล ทูนเทิดหลักการ บริหารไม่เป็น" แล้วก็ตรงกับผลงานเลวๆๆของพรรคข้อที่ 3
..................
ผลงานเลวๆๆ ปชป.
1.ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยแสดงวิสัยทัศน์ชี้ทิศทางที่ชัดเจนนโยบายพัฒนาประเทศอะไรเลยสักเรื่องไม่กล้าปฎิรูปอะไรสักอย่าง
2. เจ้าหลักการแต่มี 2 มาตรฐาน คนในพรรคมาตรฐานอย่างหนึ่ง คนต่างพรรคใช้มาตรฐานอีกอย่างหนึ่ง
3. เป็นช่างทาสี ทาขาวเป็นดำ ทาดำเป็นขาว ดีเข้าตัวชั่วเข้าเพื่อนได้อย่างไม่อายเด็กๆ
4. หน้าที่หลักการคืออธิบายความปกป้องคนทุจริตได้ทุกคนที่อุ้มชูตนให้ได้แค่ตำรงตำแหน่งนายกฯ
5. ผัวนอนแต่บ้านเพื่อนทุกคืนเมียนอนอีกบ้านลูกนอนอีกบ้าน คนสองคนให้ความอบอุ่นไม่ได้แต่อาสามาดูแลคน60ล้านคน
6. เล่นแต่การเมืองเป็นอาชีพ รวยผิดปกติกันทั้งพรรคแต่ยังทำแกล้งทำจน
7. รวยมาจากการทุจริตกินเมืองคือเป็นนักธุรกิจการเมืองแล้วมาทำธุรกิจการค้าเพื่อฟอกเงินแต่ค้าขายไม่เป็นเจ๊งไม่เป็นท่า
8. คนจนไม่เคยช่วยช่วยแต่โจรเสื้อนอกโกงกันจนสถาบันการเงินเจ๊งก็จะรีบเอาเงินของส่วนรวมและกู้ต่างชาติมาอุ้มให้ล้มบนฟูกทุกคน
9. ออกกฎหมายให้ต่างชาติเป็นกรรมการบอร์ดรัฐวิสาหกิจ ,ให้ต่างชาติครอบงำกิจการธุรกิจ,รัฐวิสาหกิจไทย
10. คนขับรถนายกฯพัวพันซีดีเถื่อน
11. ทหารใกล้ชิดนายกฯพัวพันซีดีเถื่อน
12. ยกย่องเชิดชูเกียรติทรราชถนอม
13. “ปลัดประเทศ” ไม่ต้องคิดอ่าน ไม่ต้องมีวิสัยทัศน์ เซ็นตามลูกน้องลูกพี่ส่งมา
14. ว่าการกระทรวงกลาโหมแต่ปฎิเสธการค้นหาศพที่สูญหายให้แก่ญาติพี่น้องวีรชนพฤษภาทมิฬ
15. สร้างเครดิตให้คนไทยเป็นหนี้คนละ 1 แสนบาทได้ภายใน 2 ปี
16. สมัยเป็นนายกฯ”ตี”ชาวนาตายหลายคนแล้ว
17. สมัยเป็นนายกฯ คลายเชือกให้หมากัดคนจนหน้าทำเนียบ
18. น้องนายกฯพัวพันทุจริตแบ็งก์กสิกร สาขาสงขลากว่า 300 ล้านบาทแล้วหนีไป พี่ชายปกป้องว่าไม่ได้เจตนา
19. น้อง รมว.คลัง บริหารแบ็งก์กรุงไทย ก่อหนี้เสียถึง 9 แสนล้านบาท (เงินมหาศาลนี้เอาไปขุดคอขอดกระได้ทั้งสาย,จ่ายหนี้แทนเกษตรกรได้ทั้งประเทศไทย ลาว เขมร และญวนรวมกัน)
20. เปิดเสรีทางการเงิน BIBF ช่องโหว่ให้กองทุนค้าเงินโจมตีประเทศไทย
21. เปิดเสรีทางการเงิน FIBF โดยไม่มีมาตรการใดๆมารองรับแม้แต่บรรทัดเดียว กู้มาโกงกันเองจนเกิดหนี้เสียถึง 80 %
22. เอางบประมาณแผ่นดินไปจ่ายหนี้ต่างชาติและไปอุ้มสถาบันการเงินทุกแห่ง หนี้เก่าไม่ทันใช้หนี้ใหม่กู้อีกแล้ว บริหารกันอย่างนี้กู้กับขาย ฝีมือกันอย่างนี้ คนผิดไม่มีเพราะคนผิดเป็นพรรคพวกและญาติตนเอง
23. เอาเงินภาษีราษฎรขึ้นเครื่องบินไปแย่งตำแหน่ง ผอ. WTO เสียค่าใช้จ่ายหลายร้อยล้านบาทเพียงเพื่อได้กินเงินเดือนละ 13 ล้านบาท งานของตนเองในหน้าที่นายพาณิชย์กลับไม่ทำ ไม่ค้าไม่ขาย ขายไม่เป็น ค้าไม่ออก เป็นทำไมก็ไม่รู้ รมว.พาณิชย์ สินค้าเกษตรราคาตกต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทยในขณะที่จีนและใต้หวันไม่ได้เป็นแม้สมาชีก WTO ยังค้าขายได้สบายฝีมือจริงต่างกับการสร้างภาพ
24. มาแก้ปัญหาที่รัฐบาลเก่าทำไว้ ยางกิโลละ 35 บาทก็แก้ให้เป็นกิโลละ 15 บาท มันสำปะหลังกิโลละเกือบ 2 บาทก็แก้เป็นกิโลละ 50 สตางค์ ข้าวเปลือกเกวียนละเกือบหมื่นบาท ก็แก้เป็นเกวียนละสามพันแปด
25. ถ้าเป็นต่างพรรคอะไรที่ตกต่ำก็บอกว่าเพราะปัจจัยภายใน ถ้าพรรคตนตกต่ำก็บอกว่าเป็นเพราะปัจจัยภายนอก (ดีเข้าตัวชั่วเข้าเพื่อนได้ทุกเรื่อง)
26. ส.จ.นครศรี ฯญาติ รมว.ช่วยมหาดไทยเป็นที่ปรึกษาด้วย อยู่ในรถค้ายาบ้าแต่ไม่โดนจับโดนจับแต่คนขับรถ (เหมือนนายทหาร,คนขับรถ ค้าซีดีเถื่อนเลย)
27. จอมปฎิวัติเล่นการเมืองเป็บเดียวรวยล้นฟ้าโดยไม่มีที่มาที่ไป ดื่มไวน์ขวดละหลายหมื่น จอมอุปถัมภ์แจกจ่ายเลี้ยงแหลกสื่อมวลชนไทย และแจกงานสัมปทานแลกกับบ้าน สข.
28. ใช้หลักฐานปลอมอภิปรายเรื่องสัญชาติบิดาคุณบรรหารแล้วนำมาร่วมรัฐบาลเฉย เด็กๆงงกันหมด
29. ปล่อยให้เลือกตั้งปากน้ำโกงหน้าด้านๆทำกุญแจมาสเตอร์คีย์เถื่อนโกงยกหีบ
30. ไปยืนถ่ายรูปกับโซรอสคนทำร้ายเอเซียและประเทศตน ยืนถ่ายรูปกับคลินตันพอกลับไทยเขาก็ยึดค่ามัดจำ F18 แถมไม่ได้ช่วยเหลือไทยแม้แต่บาทเดียวล่าสุดไปญี่ปุ่นก็ขายผลผลิตการเกษตรไม่ได้สักผลแล้วโม้ว่าเป็นนายกฯอินเตอร์
31. ขึ้นค่าทางด่วนเกินเพดาน เอาใจนักลงทุน โชคดีจับได้ไล่ทันเสียก่อน
32. ตัวการให้คุณสืบ ทำอัตวินิบาตกรรม โดยไล่กลับไปห้วยขาแข้ง หาว่า “เสือก” เพราะที่คุณสืบมารายงานคนโค่นป่าเป็นคนในค่ายนักการเมืองขายชาติมืออาชีพ
33. บ้าน 3 หลังที่ข้าราชการกังฉิน รพช.เอาที่ป่าริมเขื่อนเอาเงินชาวบ้านสร้างถนน คฤหาสน์ สอพลอเอาใจให้เจ้านายจอมขายตำแหน่ง ต่อมาได้เลื่อนซีชั้นตำแหน่งสูงขึ้นไปอีก
34. ส.จ.คนสนิท มท.1 รับเงินราชายาเสพติดเยอรมันพาเข้าหานายรับช่วยเหลือ
35. รมว.กัญชาออกนอก (คงจำกันได้สมัยที่คนหน้าห้องส่งออกนอก แต่นายหัวไม่ผิด)
36. ส.ส.กรุงเทพฯประธานที่ปรึกษากฎหมาย มท. 1 ทำหนังสือรับรองโวล์ฟกัง ราชายาเสพติดให้เป็นคนดีคนบริสุทธิ์
37. เซ็งลี้ พื้นที่เขาดินให้นายทุนต่างชาติทำโรงแรมดูช้างขี้
38. เอาเงินบริจาคช่วยชาติ(ตลกจริงๆ)ฝากที่ไหนยอดเท่าใดแจ้งด้วย
39. เพิ่มรายการปัญญาอ่อนเกมส์โชว์มอมเมาเยาวชนแล้วไปถอดรายการดีๆ “หนูจุก”ออกเพราะไปสอนคำว่า “ไม่ขอโทษ”
40. กลั่นแกล้งข้าราชการดีๆที่เปิดเผยข้อมูลโกงชาติของนักการเมืองเช่นเพื่อนนายกฯกินยาแพงแล้วย้าย ผอ.ข่าวสารข้อมูล
41. ชอบร้องให้เสียงดังให้สื่อมวลชนได้ยิน แต่ทำสิ่งที่ตรงข้าม อ.ป๋วยสอนทุกเรื่อง เป็นนักเลือกตั้ง ”ดีเน่า” มือถือสากปากถือศีล
42. ชอบขึ้นเงินเดือน 2 ขั้นให้ข้าราชการใกล้ชิดที่สอพลอนายมากกว่ารับใช้ประชาชน
43. เจ้าพ่อคมนาคม ชอบโปรเจคท์โครงการยักษ์ถุงเงินหาเงินเข้าพรรคและตนเอง
44. กล่องดวงใจ หาเมียให้นาย
45. ยกป่าสวยที่ลาดชันทั้งอ่าวกะมาลาให้พวกเศรษฐีภูเก็ตทั้งเกาะ พรรคพวกตน
46. เล่นการเมืองเพื่อปกป้องโรงเหล้า ได้เมียรสนิยมเดียวกันชอบดูดปากให้ชาวบ้านและลูกๆ (เมียเก่า)ดู
47. ส.ส.จ่า พัวพันรับจ้างสังหารแม้คนพรรคเดียวกันก็ทำ
48. ถมคลองวงศ์หนองเตย ที่ จ.ตรัง คลองสาธารณะประโยชน์ ให้เป็นดินที่ตนเอง
49. ถมป่าชายเลนกระบี่ให้เป็นโรงแรม 5 ดาว
50. บุกรุกเทือกเขาบรรทัด
51. ไม่สนใจเรื่องปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ เช่นเรื่องเรือปั่นไฟจับปลาตะตักห่วงโซ่อาหารหมดทะเล
52. ส.ส.หนุนหวยออนไลน์ ถ้ายกเลิกคุณพ่ออเมริกาจะปรับไทยนาทีละ 2 แสน 8 หมื่นล้านบาทไทยจะเสียหายมากพอๆกับถ้าไม่ผ่านกฎหมายขายชาติ 11 ฉบับ ที่เปิดโอกาสให้ต่างชาติครอบครองซื้อที่ดินและเช่าประเทศไทยได้ได้ 100 ปี
53. คนขับรถ มท. 1 (โครตรวย) ชกหน้าคนขับรถแท็กซี่ (คนจน)นายเข้าข้างอีกแล้วครับท่าน
54. ผลาญงบเงินกู้มิยาซาว่าจ้างถางหญ้าริมคูน้ำ แรงงานจริง 30 คนแรงงานชื่อผี 26 คน อาทิตย์เดียวหญ้าขึ้นเต็มเหมือนเดิมแล้ว (วิสัยทัศน์ควายหลังบ้านท่านยังสูงกว่า ดร.จบนอกชายชาติตั้งเยอะ)
55. บรรดาเมียและโดยเฉพาะลูกๆรัฐมนตรียังเรียนอยู่แต่คุณพ่อแสนซื่อสัตย์แจ้งทรัพย์ให้รวยเกือบร้อยล้านหลายคน
56. ให้คนงานสวนไฟแนนซ์ ของพวกตนเองโดยไม่มีหลักทรัพย์ จนบริษัทเจ๊ง กองทุนฟื้นฟูก็รีบเอาเงินชาวบ้านอุ้มเป็นพันเป็นหมื่นล้านบาทไม่ผิด แถมให้เป็นรัฐมนตรีเป็นเลขาเสียอีก เอาโจรมาเฝ้าตู้เซฟประเทศ แล้วประเทศชาติจะไปเหลืออะไรกัน
57. ขนไม้เถื่อนสร้างบ้าน สข.
58. จอมคอรับชั่นฟอกเงินโดยแจ้งเท็จเงินกู้ 45 ล้าน ซ่อน 5 พันล้านซ่อนได้แต่ 45 ล้านซ่อนไม่มิด “จรเข้เกยน้ำตื้น”
59. เมียซื้อเสียง กกต.จับได้ไม่ประกาศเป็น สว.เสียเลย
60. ให้คนไปตะโกนใส่ร้าย ท่านปรีดี ในโรงหนัง
61. ทำลายระบบพรรคไป “ซื้อ” งูเห่ามาจากพรรคอื่นติดนิสัยไปเอาอดีตหัวหน้า “กินสังคม” กรรมลงโทษจนเป็นโรคร้ายมาแพร่เชื้อต่อ
62.เอาเงินหลวงยาบัวบริจาคไปรวมกับบัญชีกองทุนฟื้นฟูอุ้มโจรเสื้อนอก
63.เงินกู้ 45 ล้านของสนั่น
คนใต้เป็นคนไทย และ รัก ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ หรือ ประชาธิปัตย์ มากกว่า

Posted by ฅนผ่านฟ้า(thaiwoman) 2006-04-07 , 22:14:35 , ppp-124.120.147.212.


Posted by : ผลงาน ปชป , Date : 2006-04-08 , Time : 15:47:53 , From IP : p357-adslbkkct1.C.cs

ความคิดเห็นที่ : 17


   มีข่าวว่า สนธิให้คนไปทุบนักศึกษา ที่มายืนแจกใบปลิว "หยุดทะเลาะเพื่อพ่อ" แล้วไล่ออกไปจากบริเวณที่จัดการประชุม

ผมเป็นนักศ฿กษาที่ กทม ได้ยินข่าวนี้แล้วรู้สึกเสียใจมาก ตอนแรกผมก็อยู่ข้างสนธิ เกลียดทักษิณมาก แต่ตอนนี้ เหตุการณ์เป็นอย่างนี้ ผมก็เลยเตือนเพื่อนๆ ที่เรียนอยู่ กทม ว่าอย่าไปประชุมกับใครที่ไหน เพราะมันอันตราย

สนธิเขาต้องการให้คนมาประท้วงกันเยอะๆ เกลียดทักษิณกันเยอะๆ เพราะ เขาจะได้ขายจานดาวเทียม ASTV กับเสื้อ เราสู้เพื่อในหลวง เพราะจากการคำนวนแล้ว เหล่านี้สร้างรายได้ให้กับสนธิอย่างมาก

ตอนนี้ผมไม่เข้าข้างไม่รักไม่เกลียดใครแล้ว
ผมรักตัวเอง และเกลียดระบอบการปกครองที่เป็นอยู่ต่างหาก

การปกครองแบบทุนนิยมที่ คนจนสามารถขายลูกสาวตัวเองได้ ในขณะที่คนรวยสามารถซื้อลูกสาวคนอื่นได้ ทำให้ใครๆ ก็แสวงหาเงินทองไม่ว่ามันจะได้มาด้วยความสุจริตหรือไม่

การลงทุนทางการเมืองในประเทศไทยเรานี้ ให้ผลอย่างมหาศาส เข้ามาลงทุนครั้งเดียวก็เก็บเกี่ยวกำไรไปอย่างแน่นอน 4 ปีเต็ม จึงไม่แปลกใจที่ นักธุรกิจ หลายคนต่างหันเข้ามาเล่นการเมือง หาผลประโยชน์จากผู้อื่นเช่นนี้


Posted by : หมี , Date : 2006-04-18 , Time : 20:54:06 , From IP : 203-144-193-188.stat

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.012 seconds. <<<<<