ความคิดเห็นทั้งหมด : 6

เมื่อเราไม่มี “ทักษิณ”


   เปิดหน้าหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ รายงานข่าวทางสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง ก็เห็นแต่ข่าวของฝ่ายที่สนับสนุนและฝ่ายที่ต่อต้านการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของคุณทักษิณ


ฝ่ายต่อต้านนายกฯ ส่วนใหญ่จะเป็นผู้มีการศึกษา โดยเฉพาะอาจารย์มหาวิทยาลัย และกลุ่มองค์กรเอกชน (เอ็นจีโอ) ก็ระดมสมอง ระดมความคิดหาเหตุผลต่าง ๆ นา ๆ ว่าคุณทักษิณขาดความชอบธรรมในการบริหารประเทศอย่างไร รวมทั้งเรียกร้องให้คุณทักษิณแสดงความเสียสละโดยลาออกจากตำแหน่งเพื่อลดกระแสความแตกแยกของประชาขน และความสงบสุขของบ้านเมือง

ส่วนฝ่ายสนับสนุนนายกฯ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้ใช้แรงงาน ชาวไร่ชาวนา กลุ่มมอเตอร์ไซค์รับจ้าง และข้าราชการ กำนันผู้ใหญ่บ้าน ตลอดจนพ่อค้า-นักธุรกิจ ก็ออกมาเรียกร้อง มอบดอกไม้ให้กำลังใจกับคุณทักษิณ เพื่อให้บริหารประเทศต่อไป

โดยอ้างว่าเศรษฐกิจของไทยกำลังพัฒนาไปได้ดีภายใต้การนำของรัฐบาลชุดปัจจุบัน

ผู้เขียนได้อ่านและได้ฟังความเห็นของทั้งสองฝ่าย จึงอยากจินตนาการว่าหากวันนี้เราไม่มี “ทักษิณ” สังคมไทยจะเป็นอย่างไร

1.คนไทยทั่วประเทศจะไม่ได้ฟังรายการ “นายกฯทักษิณพบประชาชน” ในทุกเช้าวันเสาร์ หลาย ๆ คนคงจะเหงาหู โดยเฉพาะพวก “ขาประจำ” ทั้งหลายจะไม่มีใครพูดให้คอยจับผิด หลายคนคงสบายหู ไม่ต้องทนฟังเสียงประชาสัมพันธ์นโยบายรัฐบาล อภิมหาโครงการต่าง ๆ ซึ่งใช้เงินหมื่นล้าน - แสนล้าน-ล้านล้านบาท

เราจะไม่ได้ยินคำสบถ คำผรุสวาทต่าง ๆ ที่คุณทักษิณมักใช้บริภาษฝ่ายตรงข้าม เราจะไม่ได้ยินการพูดภาษาไทยปนอังกฤษ เช่น เวิร์คช็อป, โรดแมพ, เอสเอ็มอี, เอฟทีเอ, เมกะโปรเจ็คท์ ฯลฯ ซึ่งเป็นตัวอย่างของการใช้ภาษาไทยที่ไม่ถูกต้อง

2.แทนที่จะต้องเสียเวลาเดินทาง เสียเวลาเตรียมข้อมูลเพื่อกล่าวปราศรัย ผู้เป็นแกนนำขับไล่นายกฯ จะสามารถกลับไปประกอบอาชีพของตนตามปกติ เช่น คุณสนธิก็คงจะกลับไปแต่งหนังสือและบริหารบริษัทเครือผู้จัดการ คุณจำลองก็คงจะกลับไปสอนหนังสือในโรงเรียนผู้นำ อธิการบดี-คณบดีรวมทั้งอาจารย์มหาวิทยาลัยในสถาบันศึกษาร้อยแห่งก็จะมีเวลาไปศึกษาค้นคว้าและวิจัยเพื่อที่จะใช้สั่งสอนลูกศิษย์ของตนต่อไป

3.นอกจากแกนนำการชุมนุม ยังมีบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องเช่น ตำรวจก็จะไม่ต้องเสียเวลามาเฝ้าม็อบและมีเวลาให้กับครอบครัวหรือพักผ่อน เพื่อเพิ่มอ็อกซิเจนในสมอง หรือเอาเวลาไปจับโจรผู้ร้าย

ผู้คนที่มาชุมนุมก็จะไม่ต้องอดตาหลับขับตานอนเพื่อชุมนุมในตอนเย็นถึงหัวค่ำและต้องกลับไปทำงานในเช้าวันรุ่งขึ้นและกลับมาชุมนุมอีกครั้งหลังจากเลิกงาน นักข่าวก็จะได้ใช้เวลาในการทำข่าวอื่น ๆ ที่ประชาชนให้ความสนใจได้

4.คนไทยจะได้รับข่าวสารรอบด้านมากขึ้น จากเดิมที่สื่อมวลชนโดยเฉพาะสถานีโทรทัศน์และวิทยุแทบทุกช่องนำเสนอข่าวด้านบวกของรัฐบาลเท่านั้น หนังสือพิมพ์หัวสีหลายฉบับก็เสนอข่าวที่เป็นการประชาสัมพันธ์โครงการของรัฐบาล ต่อไปเราก็คงจะได้รับชมรังฟังข่าวของฝ่ายค้านและฝ่ายต่อต้านรัฐบาลมากยิ่งขึ้น

5.ไฟใต้ที่ลุกโชนอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมาอาจลดความรุนแรงลง เพราะไม่มีคำพูดยั่วยุของผู้นำรัฐบาลว่า “โจรกระจอก” บ้าง “หมาเห่าไม่กัด” บ้าง รวมทั้งการใช้ความรุนแรงจัดการกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบดังกรณีมัสยิดกรือเซะ ที่มีผู้เสียชีวิตมากมาย เมื่อไม่มีคุณทักษิณ ความรุนแรงก็น่าจะลดลง

6.ข้อดีที่จะขาดเสียไม่ได้เลยก็คือ พ่อแม่ผู้ปกครอง ก็จะได้ตัวอย่างเอาไว้สอนลูกหลานของตนว่า “ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว” ผู้บริหารบ้านเมืองแม้จะได้รับคะแนนเสียงเลือกตั้งจากประชาชนอย่างล้นหลาม ก็หาได้รอดพ้นกฎแห่งกรรมไม่ หากประพฤติผิดจริยธรรมและคุณธรรม คะแนนเสียง 19 ล้านก็ไม่สามารถช่วยเหลือได้

อย่างไรก็ดี เหรียญย่อมมีสองด้าน เมื่อมีด้านบวกก็มีด้านลบ ตัวอย่างต่อไปนี้เป็นผลกระทบที่ผู้เขียนพอจะคิดได้และอยากนำเสนอปัญหารวมทั้งข้อชี้แนะ สำหรับรัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามาบริหารประเทศ

1.โครงการเอื้ออาทร หลาย ๆ โครงการอาจถูกระงับหรือปรับเปลี่ยน เช่น โครงการเอสเอ็มแอล โครงการธนาคารประชาชน โครงการโคล้านตัว โครงการพักหนี้เกษตรกร โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ฯลฯ ซึ่งนักวิชาการหลายท่านชี้ให้เห็นว่าเป็นโครงการประชานิยม (Populism) และไม่เป็นผลดีในระยะยาวต่อเศรษฐกิจไทย เกษตรกรและคนยากจนที่ได้รับเงินดังกล่าวอาจไม่ทราบว่าตนเองมีภาระที่จะต้องจ่ายคืนเงินเหล่านี้ โดยกลับคิดว่าเป็นเงินที่รัฐบาลหรือนายกฯ ให้ฟรี

ดังนั้น รัฐบาลจึงควรชี้แจง ให้การศึกษาและให้ความรู้แก่ประชาชนในเรื่องดังกล่าว รวมทั้งหาทางบรรเทาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการเรียกคืนหนี้สินดังกล่าวจากประชาชน

2.อภิมหาโครงการ (Mega projects) ซึ่งต้องใช้เงินจำนวนมากกว่า 1,000,000 ล้านบาท คงจะต้องถูกชะลอออกไป แทนที่จะเร่งรีบก่อสร้างโครงการเหล่านี้ให้เสร็จในระยะเวลาสั้นโดยไม่ศึกษาผลกระทบต่าง ๆ อย่างรอบด้านทั้งเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม รัฐบาลใหม่ควรจะให้สถาบันอุดมศึกษาที่มีอยู่และสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการต่าง ๆ เหล่านี้ รวมทั้งการทำประชาพิจารณ์เพื่อขอความเห็นจากประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบจากโครงการเหล่านี้ก่อนที่จะตัดสินใจดำเนินการก่อสร้างต่อไป

3.ข้าราชการการเมือง และข้าราชการประจำบางท่าน ซึ่งได้รับอำนาจ-วาสนาจากการที่ตนเองใช้ตำแหน่งหน้าที่ทางราชการของตน ทั้งโดยชอบและโดยมิชอบ ในการสนับสนุนให้เกิดระบอบทักษิณตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะเนติบริกร หรือนักกฎหมายที่ใช้ช่องโหว่ของกฎหมายเป็นเครื่องมือในการฟอกสีดำให้เป็นสีขาว ทำความชั่วให้เป็นความดี และหัวหน้าหน่วยราชการที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ปล่อยให้มีการหลีกเลี่ยงภาษีอากร มีการปั่นหุ้น มีการใช้ข้อมูลภายในเพื่อประโยชน์ในการซื้อขายหุ้น บุคคลเหล่านี้ก็คงจะต้องถูก “เช็คบิล” ต่อไป

4.พ่อค้า และนักธุรกิจที่ได้รับประโยชน์จากนโยบายและโครงการของรัฐบาล และให้การสนับสนุนทั้งโดยเปิดเผยและไม่เปิดเผย ก็คงจะได้รับผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของตนไม่มากก็น้อย จากการที่อภิมหาโครงการบางโครงการต้องหยุดชะงัก บางโครงการต้องชะลอออกไป หรือบางโครงการต้องถูกยกเลิก ผู้เขียนเห็นว่า การดำเนินโครงการภาครัฐควรเป็นไปอย่างโปร่งใส มีการแข่งขันอย่างเป็นธรรม เป็นประโยชน์กับประเทศโดยรวม ไม่ใช่เป็นประโยชน์เฉพาะกลุ่มบุคคลที่ใกล้ชิดรัฐบาลเท่านั้น

5..ทรัพย์สินที่ได้มาโดยมิชอบของนักการเมืองและข้าราชการระดับสูง อาจต้องถูกยึดให้ตกเป็นของแผ่นดิน หลังการสิ้นสุดจากอำนาจปกครองบ้านเมือง

นักการเมืองและข้าราชการหลายคนร่ำรวยผิดปกติ นักการเมืองบางคนใช้วิธีแก้กฎหมายโดยมิชอบเพื่อยกเว้นภาษีให้ธุรกิจของตน นักการเมืองบางคนใช้วิธีแทรกแซงการทำงานของอนุญาโตตุลาการเพื่อยกเว้นค่าสัมปทานให้ธุรกิจของตน ครอบครัวนักการเมืองบางคนซื้อที่ดินจำนวนมากบริเวณรอบสนามบินแห่งใหม่ เพื่อรองรับโครงการพัฒนาของรัฐบาลที่จะเกิดขึ้น ฯลฯ เหล่านี้จะต้องมีการดำเนินการสอบสวนและยึดทรัพย์ที่ได้มาโดยมิชอบให้ตกเป็นของแผ่นดินต่อไป

6.สถาบันการเงินของรัฐหลายแห่ง เช่น ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรฯ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้า (Exim Bank) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารกรุงไทย ฯลฯ ที่ปล่อยเงินกู้ให้กับโครงการเอื้ออาทรของรัฐบาล อาจประสบกับหนี้เสียจำนวนมหาศาล รัฐบาลอาจต้องใช้งบประมาณแผ่นดินจำนวนมากเพื่อชดเชยผลขาดทุนให้กับสถาบันการเงินเหล่านี้ ผู้เขียนเห็นว่า อาจมีความจำเป็นที่จะต้องตั้งคณะกรรมการเพื่อสอบสวนการกระทำความผิดของอดีตผู้บริหารสถาบันการเงินเหล่านี้ ว่ามีการวิเคราะห์ความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้อย่างถูกต้องหรือไม่ อย่างไร

7.ข้อตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) ที่กำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับหลายประเทศก็คงจะต้องถูกเลื่อนออกไป โดยเฉพาะที่เป็นปัญหามีผู้คัดค้านมากมาย คือ ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา นักกฎหมายหลายท่านระบุว่าตามกฎหมาย ข้อตกลงดังกล่าวควรได้รับการเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งน่าจะทำให้ข้อตกลงดังกล่าวได้รับการพิจารณาโดยรอบคอบจากตัวแทนของปวงชนชาวไทย แทนที่จะพิจารณาโดยคณะผู้แทนเพียงไม่กี่คนที่แต่งตั้งขึ้นโดยคณะรัฐมนตรี

8.องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ที่ปัจจุบันยังเป็นคำถามอยู่ว่าเป็นอิสระจริงหรือ ไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมการการเลือกตั้ง ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) เป็นต้น ผู้เขียนเห็นว่าน่าจะได้มีการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ขององค์กรเหล่านี้ว่าได้มีการใช้ดุลพินิจ การตัดสินโดยใช้ข้อกฎหมายที่ถูกต้องหรือไม่ อย่างไร หากตรวจสอบพบว่ามีการให้สินบน เพื่อให้ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ก็สมควรที่จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

9.ผู้ที่จะได้รับผลกระทบอีกรายหนึ่งที่จะลืมเสียมิได้ก็คือ กลุ่ม Temasek ของรัฐบาลสิงคโปร์ ที่อาจจะต้องเสียเงินฟรี แต่ไม่ได้หุ้นของชินคอร์ปฯ ทั้งนี้เนื่องจากการโอนหุ้นของกิจการซึ่งรับสัมปทานจากรัฐ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ สัญญาณดาวเทียม สัญญาณโทรทัศน์ ล้วนแต่กระทบกับความมั่นคงของประเทศไทยทั้งสิ้น จึงอาจทำให้การซื้อขายดังกล่าวตกเป็นโมฆะ ซึ่งรัฐบาลใหม่ควรจะได้มีการตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบความถูกต้องดังกล่าวต่อไป เรื่องนี้เข้าทำนอง “คบคนพาล พาลพาไปหาผิด” โดยแท้

คำพังเพยของฝรั่งที่ว่า All good things must come to an end ซึ่งแปลเป็นไทยได้ว่า ไม่มีงานเลี้ยงใดที่ไม่เลิกรา ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา คุณทักษิณกับพวกได้รับผลประโยชน์อันไม่ควรได้จากการบริหารบ้านเมือง

ถึงเวลาหรือยัง ที่คุณทักษิณกับพวกจะหยุดการกระทำที่อาจทำให้ประเทศไทยประสบกับความหายนะเช่นที่เกิดขึ้นแล้วในประเทศฟิลิปปินส์และอาร์เจนตินา ผู้เขียนได้แต่อาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์จงดลบันดาลให้วันที่เราไม่มีทักษิณ มาถึงโดยเร็ว


Posted by : somepeople , Date : 2006-04-02 , Time : 02:36:23 , From IP : 172.29.4.95

ความคิดเห็นที่ : 1


   เห็นด้วย

Posted by : คน , Date : 2006-04-02 , Time : 04:30:08 , From IP : 172.29.1.124

ความคิดเห็นที่ : 2


    ท่านเป็นคนดีนะ
-ใจบูญ แจกเงินชาวบ้าน นายกคนอื่นเคยทำมั๊ย ?
-ท่านเก่งภาษาอังกฤษนะ ???
-ท่านโกงบ้างนิดหน่อย แต่ก็ทำงานนะ.. ???

เจอ 3 ข้อแรก ผมก็สงสารประชาชนคนไทย
ทำไมหลอกง่ายจัง...ไม่คาดคิดมาก่อนว่ามุขง่าย ๆ แค่นี้ก็หลอกได้แล้วหรือ ?


Posted by : เฮ้ย... , Date : 2006-04-02 , Time : 08:18:51 , From IP : 172.29.1.212

ความคิดเห็นที่ : 3


   ถ้าไม่มีทักษิณประเทศไทยคงไม่ยุ่งอย่างนี้ และคนคงไม่ไปประทวงให้เวลาทำมาหากินกัน และคนใต้ก็อยู่อย่างสันติสุขมากขึ้น ไม่ฆ่ากันเหมือนทุกวันนี้ อย่างที่คนใต้บอกไว้ว่าภาคใต้ปลอดทักษิณ ดีมาก ๆ เลย ถ้าไม่มีทักษิณในประเทศไทย


Posted by : คนใต้ , Date : 2006-04-03 , Time : 13:05:28 , From IP : 172.29.3.143

ความคิดเห็นที่ : 4


   ถ้าไม่มีสนธิ ก็ไม่มีการประท้วง
ถ้ามันยังได้จัดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ก็จะไม่มีการประท้วง
ถ้ามันปรับโครงสร้างหนี้จาก 6000 ล้านเหลือ 500 ล้านได้ ก็จะไม่มีการประท้วง
ถ้ามันไม่มีเสียผลประโยชน์ มันจะไม่ประท้วง
คิดดูบ้าง พวกที่ฉลาดทั้งหลาย


Posted by : เรา , Date : 2006-04-05 , Time : 18:07:11 , From IP : 172.29.1.136

ความคิดเห็นที่ : 5


   เมื่อเราไม่มี “ทักษิณ”
แผ่นดินก็จะสูงขึ้น


Posted by : ยิกทักษิณ , Date : 2006-04-06 , Time : 19:50:30 , From IP : 172.29.7.47

ความคิดเห็นที่ : 6


   ถ้าไม่มีการค้นหาข้อมูลอย่างตั้งใจจริงๆแล้วตัดสินคนด้วยคำบอกเล่าแผ่นดินจะทรุดตัวลงอีกกี่เท่า
คำถามของ จขกท เล่นเอาผมต้องค้นให้ชั่วโมงกว่า เพราะผมเขียนสดในแต่ละครั้ง และก็ไม่เคยเก็บข้อมูลที่เขียนด้วย ตอบในเอ็มไทย และในเวปนี้สองครั้งแล้ว หาไม่เจอเหมือนกัน แต่ช่างเถอะ สมองผมยังอยู่ ใช้เมื่อไรก็ได้ แต่จะไม่ค้นเรื่องอาร์เยนติน่าเป็นครั้งที่สามและสี่แล้ว แต่คุณถามโดยเอาความรู้ ความสุจริตใจ ไม่ใช่ตั้งคำถามกวนๆ มาแบบนี้ ผมจะถ่ายทอดของจริงให้ฟัง แต่บอกก่อนนะสไตล์ผมหลายคนไม่ชอบ ถากถาง มีหยาบผสม ด่าแขวะชาวบ้าน ถ้าไม่ชอบสไตล์นี้ก็ไม่ต้องถามครับ ผมเขียนแบบนี้ แบบฉบับของผมเอง อ่านได้ความรู้และเอามันส์ยิ่งกว่ากินถั่ว
คุณนิติภูมิเขาไม่ใช่นักเศรษฐศาสตร์แกเรียนแบบจับฉ่ายในยุคที่รัสเซียให้ทุนนักเรียนไทยที่สมองไม่ดีไปเรียน เพราะคุณนิติภูมิเอง ประวัติเขาก็ไม่ใช่คนเรียนเก่งอะไร เข้าเตรียมทหารอายุ 19 ก็เลิกพูดแล้ว เอนทรานซ์ก็ไม่ผ่าน เรื่องชั่วๆ ของแก ผมเคยนำมาเปิดเผยสองครั้ง แรกๆ ก็ไม่กล้าพูดเพราะจะกลายเป็นความอิจฉา แต่เมื่อเขาประกาศตัวจะล้มรัฐบาลแน่ชัด อยากเป็นนักการเมืองสกปรกหักหลังชาวลบ้าน ตอนหลังผมเลยแฉแกเยอะ คนด่าผมมาตลอด แต่เวลาจะอ่านนิติภูมิ ตอนนี้ มีคนตั้งคำถามภูมิรู้แกแล้ว หลายคนก็ตื่นจากความฝันแล้วว่า ไม่เท่าไรเลย ดอกเตอร์นิติภูมิ
นิติภูมิพยายามโกหกว่า แปรรูปแล้วอาร์เยนติน่าสิ้นชาติ จริงหรือ ผมก็ลงทุนไปค้น นี่เป็นนิสัยผมที่ชอบจับผิดคนเพราะมีนิสัยนักกฎหมายทนายความเก่าแล้วก็มีเพื่อนต่างชาติเยอะ โดยเฉพาะตามสถานทูตเพราะเข้ากับคนง่าย ตรงไปตรงมา ผมก็เลยทราบว่า นิติภูมิโกหกหลอกคนทั้งบ้านเมือง เอาใจม็อบเพื่อหวังว่า สมัยหน้าข้าจะได้เป็นรัฐมนตรีบ้าง
อาร์เยนติน่ามีประชากร 40 ล้านคน ไทย 65 ล้านหกแสน เราดูเบื้องต้นเวลานี้ของอาร์เยนกับไทยก่อนนะครับ ข้อมูลนี้ ค้นที่ไหนก็มีหะ เขาเรียก demographic หรือ country profile เอา ศก ตอนนี้ก่อน จะๆ เลยนะ รายได้ต่อหัวของอาร์เยนคำนวณตาม ppp หรือ purchasing power parity ไปค้นเองคืออะไร เดี๋ยวนี้ใช้มากกว่า GNP per capita ด้วย ผมไม่มีเวลามาอธิบาย อาร์เยน 13000 ดอลลาร์ ขณะที่อำนาจซื้อของไทย 8300 ดอลลาร์เท่านั้น แสดงว่าเอาคนมาหารรายได้และดูอำนาจการซื้อของคน อาร์เยนสูงกว่าไทยค่อนข้างมากนะ
แค่หลักเบื้องต้น นิติภูมิก็เป๋แล้วครับ พูดสั้นๆ ง่ายๆ คือ คนอาร์เยนรวยกว่าคนไทย พอได้ตรงนี้ เราไปดูต่อว่า จริงไหม ดูข้าวของความเจริญเขากับไทยต่อไป คนอาร์เยนอายุเฉลี่ย 75 ปี คนไทย 71.9 ปี นี่ก็มีนัยว่าสาธารณสุขเขาก้ดีกว่าเรานะ แต่เอาเหอะ บ้านเราอากาศร้อน บางคนอาจเถียงว่า คนไทยจึงอาจจะอายุสั้นกว่า เหมือนเนื้อใส่ตัวเย็นกับอยู่ที่ร้อนๆ เนื้อในตู้เย็นก็เน่าช้ากว่า เอาผ่านไป โทรศัพท์บ้าน อาร์เยนมี 8 ล้านเลขหมาย ไทยมี 7 ล้านครับ เขาก็มากกว่าเรา ทั้งที่คนเขาน้อยกว่าเรานะ มือถือ อาร์เยนมีใช้กันเกร่อ 65 ล้านเครื่อง ไทย 27 ล้านเครื่อง คงไม่ต้องอธิบายแล้วนะ การศึกษา คนเมืองเราอ่านออกเขียนได้ร้อยละ 92.6 อาร์เยน 97
ทั้งหมดในภาคแรกจะเห็นว่า อาร์เยนไม่ได้ด้อยกว่าเราตามที่นิติภูมิโกหกนะครับ นี่บทแรกสั้นๆ ก่อน ท่านตุลาการที่เคารพของเวปไทยจัสติ๊ด

จากคุณ : นายคนไทยในต่างประเทศ - [21 มี.ค.49 01:52]
ความคิดเห็นที่ 2 :
บทที่สอง คุณโชคดีชะมัดที่ผมมาใส่ใจปัญหาคุณ เอาวิชาการแท้ๆ มาถกเลย แต่ผมไม่มีหน้าหนังสือพิมพ์เขียนเท่านั้นแหละครับ เพราะเกือบค่อนชีวิตอยู่ในต่างประเทศ ดวงผมมันต้องไปดี ได้เงินจากต่างแดน

อาร์เยน ล้มละลายมาหลายครั้ง ครั้งสุดท้ายเข้าไอเอ็มเอฟ มค 2002 เพราะหนี้ท่วมตัว หนี้ที่รัฐบาลก่อทั้งน้าน แล้วหนี้มาจากไหนล่ะ จากการลงทุนในรัฐวิสาหกิจ ไง ค้ำหนี้ต่างประเทศ กู้มาลงทุนโดยตรง พอเป็นหนี้มากๆ ออกพันธบัตร ถึงเวลาจ่ายรัฐไม่มีเงินจ่าย ติดเงินเดือนข้าราชการ คนก็แห่ถอนเงินซีครับ ซื้อดอลล่าร์แทนเงินเปโซที่มีค่าเปลี่ยนแปลงรายวัน ลดลงๆ ที่สุด รัฐหมดเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ใครเขาก็ไม่อยากค้าขายกับคุณ เพราะอาร์เยนไม่มีเงินสกุลแข็ง พวกดอลลาร์ เยน มาร์ก จ่าย ก็แบบเดียวกับไทยในปี 1997 เขาเข้า IMF เพื่อขอเงินกู้เพื่อมาสำรองเงินตราระหว่างประเทศ จะเข้า IMF อาร์เยนก็ถูกกำหนดว่า ต้องทำนั่นนี่ อย่างนึง คือ แปรรูปวิสาหกิจ เพราะรัฐไม่อาจเข้ามาลงทุนในไฟฟ้า ประปา ไปรษณีย์ต่อไปแล้ว ให้เอกชนดำเนินการแทนรัฐบาลอาร์เยนก็ถูกเสือนอนกินในวิสาหกิจด่าว่า ขายชาติแบบเดียวกับทักษิณโดนเลย

นิติภูมิออกมาประกาศว่า อาร์เยนเจ๊งหนัก ชาติล้มละลายหลังแปรรูปวิสาหกิจ ผมออกมาสวนว่า อาร์เยนชนะต่างหาก ศก ดีขึ้นมากมาย
ผมพูดจากตัวเลขของธนาคารโลกนะครับ คุณจะเชื่อนิติภูมิ ก็ช่าง แต่ผมเชื่อธนาคารโลกครับ อาร์เยนใช้หนี้ IMF ได้ก่อนกำหนดสองปี เท่ากับทักษิณของไทยทำให้กับประเทศเช่นกัน ปี 2000 ศก อาร์เยน ติดลบ 0.8 เปอร์เซ็นต์ และเพิ่มหนักหนาในปี 2001 ติดลบ 10.9 เปอร์เซ็นต์ ปีล้มละลาย มากกว่าไทยในยุคนายชวนนิดนึง แต่เขาฟื้นครับในปี 2003 2004 2005 อาร์เยนติน่า มีศก โตเฉลี่ยร้อยละ 8 ต่อปี มันวิเศษไหมครับ หลังการแปรรุป รัฐพ้นจากความหายนะ มาโตอีกครั้ง โตถึงร้อยละ 8 นี่ไม่ธรรมดานะครับ ขณะที่ไทยโตราวปีละ 4-5 เปอร์เซ้นต์เท่านั้นนะหะ ธนาคารโลกประกาศความสำเร็จในการพัฒนา ศก ของอาร์เยนว่า เกิดจากการดำเนินนโยบาย ศก ที่ถูกทิศทาง ขณะที่นายนิติภูมิ ดอกเตอร์ที่ กพ ไม่รับรอง อวดเก่งกว่าธนาคารโลก พูดโง่ๆ ว่า อาร์เยนเดินผิดทาง ถามว่า ดร กำมะลอคนนี้เก่งกว่าคนทำงานธนาคารโลกเหรอ มันง่ายหรือครับที่จะทำงานในสถาบันทรงเกียรติแห่งนี้ ถามว่า คุณเชื่อใคร
แต่อาร์เยนก็มีภาพที่ต้องแก้ไขอีกมาก ผมมองในมุมกว้างนะ คนจนในอาร์เยนต่ำกว่า poverty line ที่ธนาคารโลกกำหนดมีถึงร้อยละ 38.5 ของไทยมีแค่ร้อยละ 10 จะเห็นว่าการกระจายรายได้ของอาร์เยน แย่กว่าไทย คือ คนรวยก็รวยเสียให้เข็ด จนก็จนกว่าหนังธรณีกันแสง ขณะที่ไทยคนจนก็ไม่จนมากเกินไปนักและรวยก็ไม่ทิ้งจนห่างมากๆ จะมีรวยแบบคุณทักษิณ คุณอะไรเจ้าของเบียร์ช้าง หรือนายห้างธานินทร์ ไม่กี่คนหรอกครับ หนี้สาธารณะ คือ พูดง่ายๆ ฟังง่าย หนี้ที่รัฐบาลต้องใช้ อาร์เยนมีถึง 69.7 เปอร์เซ็นต์ นี่วิบากกรรมจากการกู้หนี้มาให้ รสก พนักงานเสือนอนกินโบนัสไม่ทำงาน ขณะที่ไทย รัฐบาลไทยมีวินัยการคลังดีกว่า หนี้สาธารณะมีแค่ 35.9 เปอร์เซ็นต์
สนุกไหมครับ อ่านตามทันไหมครับ วิชาการแท้ๆ นะครับ ตัวเลขมาจากไหน จากสหรัฐ คือ CIA Factsheet ครับ มีภาคสามต่อ


จากคุณ : นายคนไทยในต่างประเทศ - [21 มี.ค.49 02:01]
ความคิดเห็นที่ 3 :
ตอนนี้ อย่าไปด่า อาร์เยนติน่าเลยครับ เขาสบายขึ้นเยอะ ฟุตบอลเขาก็เก่ง มีกองหน้าริเควลเม้ ไวมากๆ ถ้าไม่โดนอาเดรียโน กองหน้าร่างยักษ์ของเอซีมิลานจากบราซิลเบียดล่ะก้อ สุดยอดเลยครับคนนี้ เขาจะไปบอลโลกแล้ว ก็มีความสุขดี รัฐบาลเขาเก็บรายได้มากกว่ารายจ่าย ทางบัญชีเรียกงบประมาณเกินดุล มีรายได้ 42.63 ล้านเหรียญ รายจ่าย 39.98 ล้านเหรียญ จริงๆ เขาทำเป็นเปโซ แต่ผมทำเป็นเงินสกุลสหรัฐ ให้ท่านเข้าใจง่ายๆ เรียกว่า รัฐมีเงินเข้ามากกว่าเงินออก ขณะที่รัฐบาลไทยยังขาดดุลทุกที รายรับ 30.64พันล้านเหรียญ รายจ่าย 31.76 พันล้านเหรียญ ถามว่า เงินเข้ามากกว่าเงินออก หรือเงินออกจากระเป๋ามากว่าเงินเข้าดีล่ะครับ ถ้าแปรรูปมันเฮงซวย รัฐบาลอาร์เยนจะเก็บภาษีมาจากไหน จะเอาเงินเข้ามากกว่าเงินออกได้ไงตั้ง 3.2 เปอร์เซ็นต์ แต่เราก็มีดีกว่าอาร์เยนในเรื่องคนตกงาน ของไทยเราตอนนี้ตกงานร้อยละ 1.4 แต่ไม่แน่ประท้วงบ้าบอแบบสนธิ จำลอง คงได้เห็นคนตกงาน โรงงานปิดโรงงานไปอีกเยอะ แต่แน่ๆ อาร์เยน ตอนนี้ คนว่างงานร้อยละ 11.1 สูงกว่าไทยมากนะครับ

ธนาคารโลกเขามีรายงาน ศก ของอาร์เยนติน่ายาวเหยียดเลย แต่ผมสรุปสั้นๆ เพราะเหนื่อยแล้วว่า ความสำเร็จทางศก หลังไอเอ็มเอฟของอาร์เยนมาจาก solid domestic demand การบริโภคภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น สภาพภายนอกประเทศมองอาร์เยนไว้ใจขึ้น หลังปลดแอก รสก รัฐวิสาหกิจ ลดการสร้างหนี้ลง และการส่งออกที่เพิ่มมากขึ้น
ถามว่า คุณนิติภูมิเอาอะไรมาพูดว่า รัฐบาลแปรรูป รสก แล้ว อาร์เยนพินาศ ในเยอรมัน ในอเมริกาที่ผมเคยไปอยู่มาสองประเทศเกือบแปดปี ผมก็เห็นบริษัทไฟฟ้า โทรศัพท์ ดำเนินการโดยเอกชน ไม่เคยได้ยินฝรั่งบอกว่า รัฐบาลเขาขายชาติ
แต่ประเทศไทยเราจะเอาที่ดินขายฝรั่ง แปรรูป รสก ทำความตกลงเขตการค้าเสรีที่ WTO สนับสนุน ทุกอย่างที่จะทำดีๆ แต่ผลคือ คุณจะเป็นคนแรกที่ถูกกล่าวหาว่า คุณกำลังขายชาติ
การโกหกเพื่อทำลายทุนนิยมยุคใหม่ จากกลุ่มผู้เสียประโยชน์และเสือนอนกินทั้งหลาย วันหลัง ผมจะเอากรณีอิหร่านที่ผมเคยอยู่หลายปีมาเล่าให้ฟังว่า เขาพูดแบบสนธิกำลังพูด เป้ะเลย ขายชาติ ขายประเทศ ผลเกิดอะไรกับ ศก อิหร่านที่มีทรัพยากรมากมาย แต่ประเทศกลับถูกไทยประเทศเล็กๆ ไม่มีทรัพยากรอะไรหนักหนาแซงหน้าไปได้ จนหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งของอิหร่าน ขึ้นปกเมื่อปีกลายว่า แม้แต่ไทยก็ overtake อิหร่าน ฟังดูเหมือนชมแต่คำขึ้นต้นว่า แม้แต่ไทย Even Thailand ฟังแล้วทะแม่งๆ ยังไงพิกล

วันนี้ พอเท่านี้แล้ว ผมชักเหนื่อย แต่ห้ามถามเรื่องนี้อีก ถามหลายที ไม่เก็บก็หายไป บางคน เอาเรื่อง พรก สถานการณ์ฉุกเฉิน patriot Act ของอเมริกา หรือเรื่องระบบ กต ระบบศาลในนานานประเทศมาโต้กันอีก ผมเขียนไปหมดไส้พุงแล้ว ไม่เก็บ ผมก็จำไม่ได้แล้ว ผมเลิกเถียงครับ เพราะผมค้นให้ไปหมดแล้ว โดยได้รางวัลจากคนที่ไม่ชอบขี้หน้าผมว่า โม้บ้าง มั่วบ้าง บ้าฝรั่งบ้าง ตามอัธยาศัยเถอะครับ กรรมที่ด่าคนไว้มาก พอโดนด่าบ้างก็สะอึก ถือว่า ใช้กรรมกันไป

จากคุณ : นายคนไทยในต่างประเทศ - [21 มี.ค.49 02:12]
ความคิดเห็นที่ 4 :
รายได้ของรัฐบาลอาร์เยนเป็นพันล้านเหรียญสหรัฐพิมพ์ตกครับ ขออภัย

ความจริงต้องค้นให้ลึกวิเคราะห์ให้ได้ไม่ใช่อ่านหนังสือหน้าเดียวแล้วสรุปว่าเข้าใจทั้งเล่ม


Posted by : ห่วงลูก , E-mail : (5555) ,
Date : 2006-04-08 , Time : 11:51:40 , From IP : ppp-124.120.149.155.


ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.008 seconds. <<<<<