ความคิดเห็นทั้งหมด : 7

JOKE


   อาบัง

1. รู้มั้ยว่าทำไม อาบัง (ขอใช้ชื่อนี้แล้วกัน)

ถึงพาเพื่อนแห่กันไปดูหนังทีละ 18 คน...

ก็เพราะโรงเขาประกาศไว้ว่า ต่ำกว่า 18 ห้ามเข้า น่ะสิ !!)

2 . อาบังไปร้านขายทีวี ถามคนขายว่า " ไม่ทราบว่าที่นี่มีทีวีสีขายรึเปล่า"

คนขายตอบว่ามี อาบังเลยบอกว่า "งั้นเอาสีเขียวมาเครื่องนึง"

3. อาบังเข้าไปเดินดูของในร้านจีฉ่อย

เห็นกระติกน้ำทำจากโลหะอันหนึ่งวางอยู่

อาบังถามอาอึ้มว่า "อึ้ม ไอ้ที่วอบแวบสีเงินๆ นั่นอะไร"

อึ้มตอบว่า

"กระติกน้ำไง"

"แล้วมันทำอะไรได้มั่ง"

"ก็ใส่ของร้อนก็ร้อนนาน ใส่ของเย็นก็เย็นนาน"

อาบังเห็นว่าน่าสนใจเลยตกลงซื้อมาอันนึง

วันรุ่งขึ้นอาบังก็เอากระติกน้ำที่พิ่งซื้อมาไปที่ทำงาน

ตั้งอวดบนโต๊ะอย่างภาคภูมิ

หัวหน้าอาบังเห็นเข้าเลยถามขึ้น "อะไรนั่นน่ะอาบัง"

"กระติกน้ำครับ"

"แล้วมันมีอะไรพิเศษรึ"

"ก็ใส่ของร้อนก็เก็บความร้อนได้ หรือใส่ของเย็นก็เก็บความเย็นได้"

หัวหน้าเลยถามว่า "แล้วใส่อะไรมาล่ะ"

อาบังยืดก่อนจะตอบว่า "กาแฟร้อน 2 แก้ว กับไอติม 1 ถ้วยครับ"

4. ทุกครั้งหลังถ่ายเอกสารเสร็จ

อาบังจะเอาฉบับก๊อปปี้มาตรวจทานเทียบกับต้นฉบับ

เพื่อเช็คดูว่ามีคำไหนสะกดผิดรึเปล่า

5. อาบังจะยิ้มทุกครั้งที่ฟ้าผ่า เพราะนึกว่ามีคนกำลังถ่ายรูปเขาอยู่

6. รู้ป่าวว่าทำไมอาบังถึงกดโทรศัพท์เบอร์ฉุกเฉิน(911)ไม่ได้ ก็เพราะเขาหาเบอร์ 11 (สิบเอ็ด) บนแป้นไม่เจอน่ะสิ

7. อาบังเพิ่งซื้อคอมพิวเตอร์มาใหม่เครื่องหนึ่ง

เล่นไปซักพักก็เจอปัญหา อาบังเลยลองกดที่ HELP บนแป้น F1

ผ่านไปพักใหญ่ อาบังหงุดหงิดมาก เลยโทรไปต่อว่าร้านที่เขาซื้อคอมมา

"ผมกด F1 ตามที่เครื่องบอก เวลาที่มีปัญหา แล้วก็รออยู่เป็นชั่วโมง ยังไม่เห็นมีใครมาช่วยเลย"

8. อาบังไปหาหมอในสภาพหูบวมแดงน่ากลัว หมอถามว่าไปโดนอะไรมา อาบังตอบว่า

" ผมกำลังรีดผ้าอยู่ แล้วโทรศัพท์ก็ดังขึ้น แต่แทนที่จะหยิบโทรศัพท์มาพูด ผมดันเผลอเอาเตารีดขึ้นมาแนบหูน่ะสิ"

"โอ้ว เดียร์" หมออุทานเป็นภาษาฝรั่งด้วยความเวทนา

"แล้วหูอีกข้างทำไมถึงแดงเหมือนกันล่ะ" หมอถามต่อ "ก็ไอ้บ้านั่นเสือ_ โทรกลับมาอีกรอบอ่ะดิหมอ"

9. หลังจากใช้ความพยายามต่อจิ๊กซอว์อยู่นาน

ในที่สุดอาบังก็ต่อเสร็จ เขาเอาไปอวดเพื่อนด้วยความภูมิใจ

"เป็นไง เนี่ยฉันใช้เวลาต่อแค่ 5 เดือนเองนะโว้ย"

เพื่อนอาบังงงที่เขากล้าอวด

" 5 เดือนเหรอ ! แถวบ้านฉันเรียกว่าโคตรนานเลยนะนั่น"

"แกนี่ไม่รู้อะไร" อาบังไม่ยอมลดละ

"ดูที่กล่องนี่ เห็นมั้ย มันบอกว่า ‘ สำหรับ 4 - 7 ปี ‘ แต่ฉันใช้เวลาแค่ 5 เดือนเอง "


Posted by : หรอ , Date : 2006-03-13 , Time : 14:00:49 , From IP : 172.28.5.110

เขาตอบว่า ตอนอยู่ที่บ้านเดิม >เคยเป็นพนักงานขาย ผู้จัดการจึงรับเข้าทำงาน >"ยูมาเริ่มงานพรุ่งนี้เลยนะ หลังจากปิดร้าน >ไอจะลงมาตรวจ ว่ายูทำอะไรไปบ้าง แต่ ขอแนะนำอะไรหน่อยนะ >อย่างถ้าลูกค้ามาซื้อยาสีฟัน นายก็น่าจะแนะนำให้เขาซื้อแปรงสีฟัน >และครีมโกนหนวดไปด้วย อะไรประมาณนี้นะ เข้าใจไม๊?" >"ชัวร์ อีนี้ ฉานเข้าใจครับ" > >การทำงานวันแรกแม้จะยากแต่แขกบ้าคนนี้ก็ผ่านมันมาได้ > >หลังจากปิดร้านผู้จัดการก็มาดู >"เป็นไง ได้ลูกค้ากี่รายวันนี้?" >"อีนี้ รายเดียวขอรับ" >ผู้จัดการร้องลั่น "หา !!!!! รายเดียวเองเหรอ? >รู้ไม๊ว่า ทั่วไปเค้า ขายกันได้เฉลี่ยวันละ20หรือ 30 รายเชียวนะ....... >...แล้ว ยูขายได้เงินมาเท่าใหร่ฟะ " ผู้จัดการเริ่มออกอาการไม่พอใจขนาดหนัก > >แขกตอบว่า "201,237 ดอลล่าร์ครับ" >ผู้จัดการตกใจ "หา? 201,237ดอลล่าร์ เหรอ? >"ท่าน" ขายอะไรให้เค้าไปน่ะ?" (สรรพนามเริ่มเปลี่ยนทันที) >"ทีแรกก็เบ็ดตกปลาขนาดเล็ก >แล้วก็เบ็ดขนาดกลาง >แล้วก็เบ็ดขนาดใหญ่ >แล้วก็คันเบ็ดรุ่นใหม่ >จากนั้นพอ ฉาน ถามเขาว่าจะไปตกปลาที่ไหน เขาตอบว่าจะไปที่ชายฝั่ง >ฉานเลยเสนอว่า เขาน่าจะมีเรือสักลำ เราเลยลงไปดูที่แผนกเรือ >แล้วก็ขายเรือ Chris เครื่องยนต์คู่ให้เขา >แล้วเขาก็บอกว่า สงสัยรถ Honda Civic ของเขาคงจะลากเรือลำนี้ไม่ไหว >ฉานเลยพาเขาลงไป ที่แผนกรถยนต์แล้วก็ขาย TOYOTA LAND CRUISER 4X4 >ให้เขาไปได้อีกคันครับ" >ผู้จัดการถามว่า >"หมายความว่ามีชายคนนึงมาที่นี่เพื่อที่จะซื้อขอเบ็ดอันเดียว >แต่ท่านขายเรือกับรถกระบะให้เค้าได้งั้นเหรอ?" >แขกบ้าก็ตอบว่า "โอ้ โนๆๆๆ อีนี้เปล่าครับ เปล่า >เขาแค่มาซื้อโกเต็กซ์ให้เมีย แต่อีนี้ฉาน เลยบอกเขาว่า >"ถ้างั้นไหนๆสุดสัปดาห์นี้ ยังไงนายก็ไม่ได้xxกะเมียแน่ๆ >ดังนั้น อีนี้ อย่าช้า ไปตกปลาดีกว่ามั้ง!! " />
ความคิดเห็นที่ : 1


   >ชายอินเดียคนหนึ่งย้ายไปอยู่ที่มอนทรีล
>เขาไปสมัครงานที่ห้างใหญ่แห่งหนึ่ง
>ผู้จัดการถามเขาว่า
>"คุณเคยมีประสบการณ์ด้านการขายมาบ้างไม๊?"
>เขาตอบว่า ตอนอยู่ที่บ้านเดิม
>เคยเป็นพนักงานขาย ผู้จัดการจึงรับเข้าทำงาน
>"ยูมาเริ่มงานพรุ่งนี้เลยนะ หลังจากปิดร้าน
>ไอจะลงมาตรวจ ว่ายูทำอะไรไปบ้าง แต่ ขอแนะนำอะไรหน่อยนะ
>อย่างถ้าลูกค้ามาซื้อยาสีฟัน นายก็น่าจะแนะนำให้เขาซื้อแปรงสีฟัน
>และครีมโกนหนวดไปด้วย อะไรประมาณนี้นะ เข้าใจไม๊?"
>"ชัวร์ อีนี้ ฉานเข้าใจครับ"
>
>การทำงานวันแรกแม้จะยากแต่แขกบ้าคนนี้ก็ผ่านมันมาได้
>
>หลังจากปิดร้านผู้จัดการก็มาดู
>"เป็นไง ได้ลูกค้ากี่รายวันนี้?"
>"อีนี้ รายเดียวขอรับ"
>ผู้จัดการร้องลั่น "หา !!!!! รายเดียวเองเหรอ?
>รู้ไม๊ว่า ทั่วไปเค้า ขายกันได้เฉลี่ยวันละ20หรือ 30 รายเชียวนะ.......
>...แล้ว ยูขายได้เงินมาเท่าใหร่ฟะ " ผู้จัดการเริ่มออกอาการไม่พอใจขนาดหนัก
>
>แขกตอบว่า "201,237 ดอลล่าร์ครับ"
>ผู้จัดการตกใจ "หา? 201,237ดอลล่าร์ เหรอ?
>"ท่าน" ขายอะไรให้เค้าไปน่ะ?" (สรรพนามเริ่มเปลี่ยนทันที)
>"ทีแรกก็เบ็ดตกปลาขนาดเล็ก
>แล้วก็เบ็ดขนาดกลาง
>แล้วก็เบ็ดขนาดใหญ่
>แล้วก็คันเบ็ดรุ่นใหม่
>จากนั้นพอ ฉาน ถามเขาว่าจะไปตกปลาที่ไหน เขาตอบว่าจะไปที่ชายฝั่ง
>ฉานเลยเสนอว่า เขาน่าจะมีเรือสักลำ เราเลยลงไปดูที่แผนกเรือ
>แล้วก็ขายเรือ Chris เครื่องยนต์คู่ให้เขา
>แล้วเขาก็บอกว่า สงสัยรถ Honda Civic ของเขาคงจะลากเรือลำนี้ไม่ไหว
>ฉานเลยพาเขาลงไป ที่แผนกรถยนต์แล้วก็ขาย TOYOTA LAND CRUISER 4X4
>ให้เขาไปได้อีกคันครับ"
>ผู้จัดการถามว่า
>"หมายความว่ามีชายคนนึงมาที่นี่เพื่อที่จะซื้อขอเบ็ดอันเดียว
>แต่ท่านขายเรือกับรถกระบะให้เค้าได้งั้นเหรอ?"
>แขกบ้าก็ตอบว่า "โอ้ โนๆๆๆ อีนี้เปล่าครับ เปล่า
>เขาแค่มาซื้อโกเต็กซ์ให้เมีย แต่อีนี้ฉาน เลยบอกเขาว่า

>"ถ้างั้นไหนๆสุดสัปดาห์นี้ ยังไงนายก็ไม่ได้xxกะเมียแน่ๆ
>ดังนั้น อีนี้ อย่าช้า ไปตกปลาดีกว่ามั้ง!!


Posted by : หรอ , Date : 2006-03-13 , Time : 14:01:37 , From IP : 172.28.5.110

> >>ได้ผลแฮะ...ได้ผลดีเกินคาด ทุกคนหันมามอง > > >>ตั้งใจฟังหูผึ่งว่าพระจะพูดอะไรต่อ....ได้โอกาส..พระเลยปล่อยไม้เด็ดเลย > > >>สวัสดีน้องหญิงผู้มีวาสนาสูง..ผู้ขายของเก่ากินโดยไม่ต้องลงทุน > > >>เมื่อน้องหญิงอยู่ที่บ้าน....คนทั่วไปจะเรียกน้องหญิงอย่างยกย่องว่า.. > > >>กุลสตรี...ยกย่องว่าเป็น เพศแม่ > > >>แต่พอน้องหญิงมาอยู่ในสถานที่อย่างนี้ > > >>ความเป็นกุลสตรีความสูงส่งของเพศแม่มันถูกทำลายไป > > >>เขาเรียกน้องหญิงว่า...อีตัว....(อันนี้เซ็นเซอร์หรือเปล่าอ่ะ) >>>>>เวลาเขาจะหาความสุขจากเรือนร่างเธอ..เขามารับเธอไป..เขาไม่ได้พูดให้ เกียรติเธ อเลย... > > >>แทนที่เขาจะบอกว่า..มาเชิญเธอไป..เขากลับใช้คำว่า..หิ้วไป > > >>ใช้คำว่า..หิ้ว...เห็นเราเหมือนเป็ดเหมือนไก่..ไม่ให้เกียรติเราเลย... >>>> เราน่าจะกลับไปอยู่บ้าน...ใช้ชีวิตทำมาหากินเหมือนเดิม..ถึงแม้จะไม่ร่ำรวยแต่ >>>> เราก็อยู่อย่างมีเกียร ติ... > > >>ทุกคนนั่งนิ่ง..ทำตาแดงๆ >>>>>เป็นโอกาสดีของพระแล้วที่จะดึงเธอมาเป็นพวก..จึงสนทนาสอบถามเพื่อผ่อนคลายบรรยากาศ > > >>น้องหญิงหลายคนสักตุ๊กแกไว้ที่ต้นแขน..สักทำไมหรือ.. > > >>อ๋อ..เวลาผู้ชายมาใช้บริการ..จะได้จับผู้ชายให้ติด...เพราะตุ๊กแกขามันเหนียวเกาะแน่น..แกะไม่ หลุด > > >>โอ..หลักการดี..อาตมาเลยแกล้งหยอกไปว่า... > > >>ตุ๊กแกมันเกาะแต่ผู้ชายอย่างเดียวหรือ...มันเกาะเอาซุปเปอร์โกโนเรียมาด้วยหรือเปล่า...... > > >>ทุกคนเงียบกริบ รอยยิ้มเริ่มหายไป...บรรยากาศชักไม่น่าลงทุนแล้ว.... > > >>อาตมาเลยถามต่อ.... > > >>อ้าว..แล้วบางคนที่สักขอกับเคียวไว้ที่ต้นแขนล่ะ....มีความหมายว่าอย่างไร > > >>ก็เอาไว้เกี่ยวสตางค์จากกระเป๋าคนมาเที่ยวไง....... > > >>เออ..คนเรานี่มันโง่ดี..ถ้าสักขอกับเคียวแล้วมันเกี่ยวสตางค์ได้จริง...คนไทยทั้งประเทศไม่ต้องมัว > > > >เหนื่อยไปทำมาหากินหรอก...สักขอกับเคียวไห้เต็มตัวก็รวยแล้ว ล้างแค้น... > > >>มือปืนเมืองเพชร...เมาแอ๋เข้ามาหาพระมันชูปืนขึ้น..แล้วเดินเป๋เข้ามา > > >>หลวงพี่ก็เลยโดดหลบเข้าข้างเสา เพราะพระก็เสียวเป็นเหมือนกัน... > > >>มันบอกว่า..หลวงพี่ต้องเป็นพยานให้ผมด้วย... > > >>ไอ้แคล้วมันฆ่าพ่อผมตาย..ผมขอสาบานต่อหน้าพระว่า..ผมจะต้องล้างแค้นให้พ่อผมให้ได้...ถ้าผมฆ่า > > ไอ้แคล้วไม่ได้..ชีวิตนี้นอนตาไม่หลับ > > >>หลวงพี่โผล่ออกมาจากเสา..แล้วบอกว่า..สาธุ..ขออนุโมทนาบุญกับโยมด้วยที่คิดจะล้างแค้น > > >>คนทั้งศาลาหันมามองหน้าพระเป็นตาเดียว... > > > >โธ่...ก็มันถือปืนส่ายอยู่อย่างนั้นจะให้พระทำยังไง...น่าจะเห็นใจพระบ้างนะ.. > > >>อาตมาก็พูดกับมือปืนต่อว่า.... > > >>ล้าง..หมายถึง..ทำให้สะอาด > > >>การล้างแค้นเป็นเรื่องดี > > >>เรามีความแค้น...แสดงว่า..ความแค้นมันมาเปื้อนจิตใจเรา.. > >>>การล้างแค้น...คือล้างที่จิตใจของเราให้สะอาด..ให้ความแค้นมันหมดไปจากใจเรา.. > >>>การไปยิงเขาตายอีก...เป็นการเพิ่มความแค้น....ลูกหลานเขาก็ตามจะมายิงมาฆ่าเรา > อีก..วนเวียนอย่างนี้ไม่จบสิ้น > > >>การล้างแค้น..จึงเป็นการอโหสิกรรม..หมดเวรหมดกรรม > > >>อาตมาจึงขออนุโมทนาบุญกับโยมด้วย... > > >>พูดเสร็จพระก็หลบไปยืนบังเสาไว้ พระไม่กลัวมันหรอก..แต่พระไม่ประมาท ใส่บาตรวันเกิด > > >>เหล้ากินเข้าไปแล้วก็ขาดสติ...มีเรื่องเล่าว่า > > >>วันเกิดของผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง > >>>กลางคืนเลี้ยงฉลองร่ำสุรากันเต็มที่..เมาแประ..รุ่งเช้าอยากใส่บาตรทำบุญเอาฤกษ์ > > >>ขณะตักข้าวจะใส่บาตร ด้วยความเมาทำข้าวหก > > >>หมาก็วิ่งกรูกันเข้ามาแย่งกันกินข้าว > > >>กัดกันเจี๊ยวจ้าวพันแข้งพันขาจนเดินไม่ได้.. > > >>ด้วยความโมโห..เงื้อเท้าเตะหมาเต็มแรง...หมามันก็หลบทัน > > >>แต่พระหลบไม่ทัน > > >>โดนหน้าแข้งเต็มๆ ทั้งๆที่ไม่ได้ร่วมแย่งข้าวด้วยสักหน่อย > > >>ขณะใส่บาตร..รู้สึกว่ากับข้าวที่เตรียมไว้ ไม่พอดีกับพระ > > >>แกตะโกนเรียกหลานลั่นเลย.... > > >>"อีหนู เอาปลาทูมาอีกสององค์ วันนี้พระมาสี่ตัว..." > > >>เหล้ามันทำให้คนกิน..ไม่เป็นผู้เป็นคน..พูดผิด..คิดผิด ทำผิด > > >>แล้วยังจะกินมันอยู่อีกหรือ........ เทศน์รอบดึก > > >>มีอยู่รายการหนึ่ง เขาจัดงานหารายได้เข้ามัสยิด... > > >>นิมนต์พระพยอมมาช่วยเทศน์ดึงคนให้หน่อย..เพราะช่วงที่กำลังดังนี้ > > >>เทศน์ทีมีคนฟังเป็นหมื่น..พอประกาศชื่อพระพยอมคนสนใจมาก > > >>เขาจัดโปรมแกรมให้พระพูดตอนดึก 5 ทุ่ม > > >>พระก็อยากพูดเร็วๆ พูดเสร็จจะได้รีบกลับ... > > >>เขาบอกว่า..ไม่ได้..ถ้าท่านกลับ..คนก็กลับกันหมด.. > > >>หอยทอด โรตี..ไก่ย่าง..ยังขายไม่หมดเลย.. > > >>เดี๋ยวท่านรอให้ขาย หอยทอด โรตี ไก่ย่างหมดก่อน..ค่อยขึ้นเทศน์ > > >>กรรมของพระ...ไม่ควรดังเลยเรา.... "คุณพระช่วย" > > >> >>พวกเราชอบอ้อนวอน..ชอบบนบานศาลกล่าวกันจนเคย....โดยเฉพาะผู้หญิงขอให้พระช่วยจนติดปาก > > >>เกิดมีอะไรขึ้น..หรือตกใจอะไร..จะต้องร้องว่า > > >>"คุณพระช่วย"..ทุกครั้ง... > > >>วันหนึ่ง..อาซิ้มนั่งขายของอยู่ในร้าน...หน้าร้านมีคนมาทำความสะอาดท่อ..แล้วเปิดฝาท่อทิ้งไว้ > > >>ผู้หญิงคนหนึ่งเดินตกท่อ..แล้วตะโกนว่า "ว้ายคุณพระช่วย" > > >>อาซิ้มหัวเราะตัวงอ..แล้วเดินออกมาหาหญิงผู้เคราะห์ร้าย > > >>พระช่วยลื้อไม่ล่ายหรอก..เพราะเมื่อเช้านี้พระก็ตกเหมือนกัน........" />
ความคิดเห็นที่ : 2


   คำเทศน์พระพยอม

ของแปลก

> > >>แท๊กซี่บางคน อาตมานั่งไปด้วยแล้วรำคาญ มันขี้โมโห หงุดหงิดทั้งวัน

> > >>วันนั้นนั่งจากหมอชิต ไปโรงพยาบาลศิริราช มันด่าคนไปตลอดทาง

> > >>ไอ้คนนั้นขับไม่ดี

> > >>ไอ้คนนี้เฮงซวยขับช้า ไอ้บ้านี่ตัดหน้า

> > >>ไอ้เปรตนี้หยุดไม่เปิดไฟเลี้ยว

> > >>มันพูดแต่ว่าแปลกจริง.....แปลกจริง......

> > >>แปลกจริงทางม้าลายมีไม่ข้าม...แปลกจริง

> > >>เวลาจะเลี้ยวทำไมไม่เปิดไฟเลี้ยว..แปลกจริง ที่ห้ามจอดดันทะลึ่งจอด

> > >>อาตมาทนรำคาญไม่ไหว ใกล้ถึงศิริราชแล้ว อาตมาถามว่า

> > >>คุณขับรถมากี่ปีแล้ว...หลายปีแล้วครับ

> > >>ปีหนึ่งๆมีคนมายั่วทำให้โกรธอย่างนี้บ่อยไหมครับ.......

> > >>บ่อยครับ..วันหนึ่งหลายสิบครั้ง...

> > >>อาตมาก็เลยบอกว่า มันมีบ่อยๆวันละหลายสิบครั้ง....มันจะแปลกยังไง

> > >>ของแปลกมันต้องนานๆเกิดครั้งหนึ่ง

> > >>วันนี้เกิดบ่อยๆยังตวาดอยู่ได้ว่าแปลกจริง...แปลกจริง..อยู่นั่นแหละ

> > >>มันน่าจะบอกว่า เออ....ธรรมดาจริง..บ่อยจริงมากกว่า


เทศน์ช้าไปหน่อย


> > >>วันก่อนอาตมาไปเทศน์ในคุก.....

> > >>อาตมาบอกว่า..พวกเราที่มาติดอยู่ในคุกเนี่ย...เราไม่ได้ติดคนเดียวนะ..เราเอา

พ่อเอาแม่มาติดด้วย

> > >>พ่อแม่ต้องลำบากตรากตรำ หาเงินมาซื้อข้าวปลาอาหาร

> > >>ข้าวของเครื่องใช้และค่ารถค่าเดินทางที่จะมาเยี่ยมเราทุกอาทิตย์...

> > >>และเรายังทำร้ายจิตใจท่านให้ต้องทุกข์ทรมานตลอดเวลาจนกว่าเราจะพ้นโทษ

> > >>นักโทษคนหนึ่งมันสำนึกบาป ร้องไห้โฮ อย่างไม่อายใคร

> > >>ท่านทำไมเพิ่งจะมาเทศน์ตอนนี้

> > >>ทำไมท่านไม่เทศน์ก่อนที่ผมจะทำชั่ว ไอ้พวกนี้..เวลามันทำชั่ว

> > >>ทำอะไรไม่ดี มันโยนให้พระหมด อาตมาเทศน์มาตั้งนานแล้ว

> > >>โยมไปมุดหัวอยู่ที่ไหน ไม่มาฟังเอง.....



คิดก่อนจึงทำ

> > >>การขยันให้ทาน...ตถาคตไม่สรรเสริญ...แต่ตถาคตสรรเสริญ..คนที่คิดใคร่ครวญ

> > >>ดีแล้วจึงให้..

> > >>เพราะเมื่อใคร่ครวญแล้ว จะไม่มีใครเดือดร้อนจากการให้...

> > >>ที่สุพรรณบุรี...มีอยู่ช่วงหนึ่ง

> > >>พระพุทธรูปในวัดหายเป็นจำนวนมาก..หลายวัด...

>>>>เสี่ยเจ้าของโรงสี..อดรนทนไม่ได้บอก..หลวงพ่อครับ..ขโมยมันรบกวนพระเหลือเกิน. ..ผมสงสาร

> > > > ท่าน....ผมขอถวายปืนให้ท่านกระบอกหนึ่ง

> > >>มันโง่จริงๆ

> > >>ไม่รู้เลยว่าอะไรควรถวายอะไรไม่ควรถวาย....ตัวมันน่ะไม่เดือดร้อน

> > >>แต่พระน่ะ..ติดคุก

พระไม่เข้าใจ

> >>วันก่อนเทศน์ให้เด็กอนุบาลฟัง....100

>>กว่าคนตัวนิดเดียว...แต่พอฟังรู้เรื่องแล้ว..อาตมาบรรยายธรรม..พร้อมมีภาพสไลด์ประกอบ...

> > >>เราสอนว่า..คนเราจะประสบความสำเร็จ..มันต้องตั้งใจจริง..ทำอะไรก็ต้องทำจริงๆ..ตั้งใจให้แน่วแน่....

> > >>เหมือนคนตำน้ำพริก..ตาจ้องดูที่ครก ตำจริงๆ

> > > .ไม่ใช่ตำเป๊กเดียว..แล้วเอามากิน..ต้องตำบ่อยๆ..หลายๆครั้ง...น้ำพริกถึงจะอร่ อย..

> > >>คนเราทำอะไรให้สำเร็จ..มันต้องทำบ่อยๆ

> > >>ทันใดนั้น เหตุการณ์เหลือเชื่อก็เกิดขึ้น.....

> > >>เด็กผู้ชายตัวเล็ก ห้าขวบ..มันลุกขึ้นยืน..แล้วพูดว่า

>>>>พระ..พระ..พระรู้ไหม...ว่าเด็กก็ชอบดูพระพูดบ่อยๆ..แต่พระอย่าพูดธรรมะเยอะนัก ซิ.....เด็กมัน

> > เซ็งระเบิดเลย....

> > >>พระเอารูปให้ดูเยอะๆหน่อย


โสเภณีที่รัก

> > >>วันหนึ่งมีคนมานิมนต์ให้ไปเทศน์ให้โสเภณีฟัง

> > >>ตั้งแต่บวชมา..เพิ่งจะเจอครั้งนี้แหละ...มันเทศน์ยากพิลึก

> > >>พอไปถึงทุกคนมองพระเหมือนตัวประหลาด ...เข้ามาทำไมวะเนี่ย

> > >>พอนั่งปุ๊บ..มองไปรอบๆ..ไม่มีใครสนใจสักคน....

> > >>คิดในใจว่า..จะเอาสูตรไหนมาเทศน์สู้กับมันดีวะเนี่ย .....

> > >>ทำใจดีสู้เสือ..เริ่มต้นคำแรกว่า....

> > >>"สวัสดีน้องหญิงผู้มีวาสนาสูง.."....

> > >>ได้ผลแฮะ...ได้ผลดีเกินคาด ทุกคนหันมามอง

> > >>ตั้งใจฟังหูผึ่งว่าพระจะพูดอะไรต่อ....ได้โอกาส..พระเลยปล่อยไม้เด็ดเลย

> > >>สวัสดีน้องหญิงผู้มีวาสนาสูง..ผู้ขายของเก่ากินโดยไม่ต้องลงทุน

> > >>เมื่อน้องหญิงอยู่ที่บ้าน....คนทั่วไปจะเรียกน้องหญิงอย่างยกย่องว่า..

> > >>กุลสตรี...ยกย่องว่าเป็น เพศแม่

> > >>แต่พอน้องหญิงมาอยู่ในสถานที่อย่างนี้

> > >>ความเป็นกุลสตรีความสูงส่งของเพศแม่มันถูกทำลายไป

> > >>เขาเรียกน้องหญิงว่า...อีตัว....(อันนี้เซ็นเซอร์หรือเปล่าอ่ะ)

>>>>>เวลาเขาจะหาความสุขจากเรือนร่างเธอ..เขามารับเธอไป..เขาไม่ได้พูดให้
เกียรติเธ อเลย...

> > >>แทนที่เขาจะบอกว่า..มาเชิญเธอไป..เขากลับใช้คำว่า..หิ้วไป

> > >>ใช้คำว่า..หิ้ว...เห็นเราเหมือนเป็ดเหมือนไก่..ไม่ให้เกียรติเราเลย...

>>>> เราน่าจะกลับไปอยู่บ้าน...ใช้ชีวิตทำมาหากินเหมือนเดิม..ถึงแม้จะไม่ร่ำรวยแต่

>>>> เราก็อยู่อย่างมีเกียร ติ...

> > >>ทุกคนนั่งนิ่ง..ทำตาแดงๆ

>>>>>เป็นโอกาสดีของพระแล้วที่จะดึงเธอมาเป็นพวก..จึงสนทนาสอบถามเพื่อผ่อนคลายบรรยากาศ

> > >>น้องหญิงหลายคนสักตุ๊กแกไว้ที่ต้นแขน..สักทำไมหรือ..

> > >>อ๋อ..เวลาผู้ชายมาใช้บริการ..จะได้จับผู้ชายให้ติด...เพราะตุ๊กแกขามันเหนียวเกาะแน่น..แกะไม่ หลุด

> > >>โอ..หลักการดี..อาตมาเลยแกล้งหยอกไปว่า...

> > >>ตุ๊กแกมันเกาะแต่ผู้ชายอย่างเดียวหรือ...มันเกาะเอาซุปเปอร์โกโนเรียมาด้วยหรือเปล่า......

> > >>ทุกคนเงียบกริบ รอยยิ้มเริ่มหายไป...บรรยากาศชักไม่น่าลงทุนแล้ว....

> > >>อาตมาเลยถามต่อ....

> > >>อ้าว..แล้วบางคนที่สักขอกับเคียวไว้ที่ต้นแขนล่ะ....มีความหมายว่าอย่างไร

> > >>ก็เอาไว้เกี่ยวสตางค์จากกระเป๋าคนมาเที่ยวไง.......

> > >>เออ..คนเรานี่มันโง่ดี..ถ้าสักขอกับเคียวแล้วมันเกี่ยวสตางค์ได้จริง...คนไทยทั้งประเทศไม่ต้องมัว

> > > >เหนื่อยไปทำมาหากินหรอก...สักขอกับเคียวไห้เต็มตัวก็รวยแล้ว



ล้างแค้น...

> > >>มือปืนเมืองเพชร...เมาแอ๋เข้ามาหาพระมันชูปืนขึ้น..แล้วเดินเป๋เข้ามา

> > >>หลวงพี่ก็เลยโดดหลบเข้าข้างเสา เพราะพระก็เสียวเป็นเหมือนกัน...

> > >>มันบอกว่า..หลวงพี่ต้องเป็นพยานให้ผมด้วย...

> > >>ไอ้แคล้วมันฆ่าพ่อผมตาย..ผมขอสาบานต่อหน้าพระว่า..ผมจะต้องล้างแค้นให้พ่อผมให้ได้...ถ้าผมฆ่า

> > ไอ้แคล้วไม่ได้..ชีวิตนี้นอนตาไม่หลับ

> > >>หลวงพี่โผล่ออกมาจากเสา..แล้วบอกว่า..สาธุ..ขออนุโมทนาบุญกับโยมด้วยที่คิดจะล้างแค้น

> > >>คนทั้งศาลาหันมามองหน้าพระเป็นตาเดียว...

> > > >โธ่...ก็มันถือปืนส่ายอยู่อย่างนั้นจะให้พระทำยังไง...น่าจะเห็นใจพระบ้างนะ..

> > >>อาตมาก็พูดกับมือปืนต่อว่า....

> > >>ล้าง..หมายถึง..ทำให้สะอาด

> > >>การล้างแค้นเป็นเรื่องดี

> > >>เรามีความแค้น...แสดงว่า..ความแค้นมันมาเปื้อนจิตใจเรา..

> >>>การล้างแค้น...คือล้างที่จิตใจของเราให้สะอาด..ให้ความแค้นมันหมดไปจากใจเรา..

> >>>การไปยิงเขาตายอีก...เป็นการเพิ่มความแค้น....ลูกหลานเขาก็ตามจะมายิงมาฆ่าเรา

> อีก..วนเวียนอย่างนี้ไม่จบสิ้น

> > >>การล้างแค้น..จึงเป็นการอโหสิกรรม..หมดเวรหมดกรรม

> > >>อาตมาจึงขออนุโมทนาบุญกับโยมด้วย...

> > >>พูดเสร็จพระก็หลบไปยืนบังเสาไว้ พระไม่กลัวมันหรอก..แต่พระไม่ประมาท



ใส่บาตรวันเกิด

> > >>เหล้ากินเข้าไปแล้วก็ขาดสติ...มีเรื่องเล่าว่า

> > >>วันเกิดของผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง

> >>>กลางคืนเลี้ยงฉลองร่ำสุรากันเต็มที่..เมาแประ..รุ่งเช้าอยากใส่บาตรทำบุญเอาฤกษ์

> > >>ขณะตักข้าวจะใส่บาตร ด้วยความเมาทำข้าวหก

> > >>หมาก็วิ่งกรูกันเข้ามาแย่งกันกินข้าว

> > >>กัดกันเจี๊ยวจ้าวพันแข้งพันขาจนเดินไม่ได้..

> > >>ด้วยความโมโห..เงื้อเท้าเตะหมาเต็มแรง...หมามันก็หลบทัน

> > >>แต่พระหลบไม่ทัน

> > >>โดนหน้าแข้งเต็มๆ ทั้งๆที่ไม่ได้ร่วมแย่งข้าวด้วยสักหน่อย

> > >>ขณะใส่บาตร..รู้สึกว่ากับข้าวที่เตรียมไว้ ไม่พอดีกับพระ

> > >>แกตะโกนเรียกหลานลั่นเลย....

> > >>"อีหนู เอาปลาทูมาอีกสององค์ วันนี้พระมาสี่ตัว..."

> > >>เหล้ามันทำให้คนกิน..ไม่เป็นผู้เป็นคน..พูดผิด..คิดผิด ทำผิด

> > >>แล้วยังจะกินมันอยู่อีกหรือ........

เทศน์รอบดึก

> > >>มีอยู่รายการหนึ่ง เขาจัดงานหารายได้เข้ามัสยิด...

> > >>นิมนต์พระพยอมมาช่วยเทศน์ดึงคนให้หน่อย..เพราะช่วงที่กำลังดังนี้

> > >>เทศน์ทีมีคนฟังเป็นหมื่น..พอประกาศชื่อพระพยอมคนสนใจมาก

> > >>เขาจัดโปรมแกรมให้พระพูดตอนดึก 5 ทุ่ม

> > >>พระก็อยากพูดเร็วๆ พูดเสร็จจะได้รีบกลับ...

> > >>เขาบอกว่า..ไม่ได้..ถ้าท่านกลับ..คนก็กลับกันหมด..

> > >>หอยทอด โรตี..ไก่ย่าง..ยังขายไม่หมดเลย..

> > >>เดี๋ยวท่านรอให้ขาย หอยทอด โรตี ไก่ย่างหมดก่อน..ค่อยขึ้นเทศน์

> > >>กรรมของพระ...ไม่ควรดังเลยเรา....


"คุณพระช่วย"
> > >>

>>พวกเราชอบอ้อนวอน..ชอบบนบานศาลกล่าวกันจนเคย....โดยเฉพาะผู้หญิงขอให้พระช่วยจนติดปาก

> > >>เกิดมีอะไรขึ้น..หรือตกใจอะไร..จะต้องร้องว่า

> > >>"คุณพระช่วย"..ทุกครั้ง...

> > >>วันหนึ่ง..อาซิ้มนั่งขายของอยู่ในร้าน...หน้าร้านมีคนมาทำความสะอาดท่อ..แล้วเปิดฝาท่อทิ้งไว้

> > >>ผู้หญิงคนหนึ่งเดินตกท่อ..แล้วตะโกนว่า "ว้ายคุณพระช่วย"

> > >>อาซิ้มหัวเราะตัวงอ..แล้วเดินออกมาหาหญิงผู้เคราะห์ร้าย

> > >>พระช่วยลื้อไม่ล่ายหรอก..เพราะเมื่อเช้านี้พระก็ตกเหมือนกัน........


Posted by : หรอ , Date : 2006-03-13 , Time : 14:02:11 , From IP : 172.28.5.110

> >>ได้ผลแฮะ...ได้ผลดีเกินคาด ทุกคนหันมามอง > > >>ตั้งใจฟังหูผึ่งว่าพระจะพูดอะไรต่อ....ได้โอกาส..พระเลยปล่อยไม้เด็ดเลย > > >>สวัสดีน้องหญิงผู้มีวาสนาสูง..ผู้ขายของเก่ากินโดยไม่ต้องลงทุน > > >>เมื่อน้องหญิงอยู่ที่บ้าน....คนทั่วไปจะเรียกน้องหญิงอย่างยกย่องว่า.. > > >>กุลสตรี...ยกย่องว่าเป็น เพศแม่ > > >>แต่พอน้องหญิงมาอยู่ในสถานที่อย่างนี้ > > >>ความเป็นกุลสตรีความสูงส่งของเพศแม่มันถูกทำลายไป > > >>เขาเรียกน้องหญิงว่า...อีตัว....(อันนี้เซ็นเซอร์หรือเปล่าอ่ะ) >>>>>เวลาเขาจะหาความสุขจากเรือนร่างเธอ..เขามารับเธอไป..เขาไม่ได้พูดให้ เกียรติเธ อเลย... > > >>แทนที่เขาจะบอกว่า..มาเชิญเธอไป..เขากลับใช้คำว่า..หิ้วไป > > >>ใช้คำว่า..หิ้ว...เห็นเราเหมือนเป็ดเหมือนไก่..ไม่ให้เกียรติเราเลย... >>>> เราน่าจะกลับไปอยู่บ้าน...ใช้ชีวิตทำมาหากินเหมือนเดิม..ถึงแม้จะไม่ร่ำรวยแต่ >>>> เราก็อยู่อย่างมีเกียร ติ... > > >>ทุกคนนั่งนิ่ง..ทำตาแดงๆ >>>>>เป็นโอกาสดีของพระแล้วที่จะดึงเธอมาเป็นพวก..จึงสนทนาสอบถามเพื่อผ่อนคลายบรรยากาศ > > >>น้องหญิงหลายคนสักตุ๊กแกไว้ที่ต้นแขน..สักทำไมหรือ.. > > >>อ๋อ..เวลาผู้ชายมาใช้บริการ..จะได้จับผู้ชายให้ติด...เพราะตุ๊กแกขามันเหนียวเกาะแน่น..แกะไม่ หลุด > > >>โอ..หลักการดี..อาตมาเลยแกล้งหยอกไปว่า... > > >>ตุ๊กแกมันเกาะแต่ผู้ชายอย่างเดียวหรือ...มันเกาะเอาซุปเปอร์โกโนเรียมาด้วยหรือเปล่า...... > > >>ทุกคนเงียบกริบ รอยยิ้มเริ่มหายไป...บรรยากาศชักไม่น่าลงทุนแล้ว.... > > >>อาตมาเลยถามต่อ.... > > >>อ้าว..แล้วบางคนที่สักขอกับเคียวไว้ที่ต้นแขนล่ะ....มีความหมายว่าอย่างไร > > >>ก็เอาไว้เกี่ยวสตางค์จากกระเป๋าคนมาเที่ยวไง....... > > >>เออ..คนเรานี่มันโง่ดี..ถ้าสักขอกับเคียวแล้วมันเกี่ยวสตางค์ได้จริง...คนไทยทั้งประเทศไม่ต้องมัว > > > >เหนื่อยไปทำมาหากินหรอก...สักขอกับเคียวไห้เต็มตัวก็รวยแล้ว ล้างแค้น... > > >>มือปืนเมืองเพชร...เมาแอ๋เข้ามาหาพระมันชูปืนขึ้น..แล้วเดินเป๋เข้ามา > > >>หลวงพี่ก็เลยโดดหลบเข้าข้างเสา เพราะพระก็เสียวเป็นเหมือนกัน... > > >>มันบอกว่า..หลวงพี่ต้องเป็นพยานให้ผมด้วย... > > >>ไอ้แคล้วมันฆ่าพ่อผมตาย..ผมขอสาบานต่อหน้าพระว่า..ผมจะต้องล้างแค้นให้พ่อผมให้ได้...ถ้าผมฆ่า > > ไอ้แคล้วไม่ได้..ชีวิตนี้นอนตาไม่หลับ > > >>หลวงพี่โผล่ออกมาจากเสา..แล้วบอกว่า..สาธุ..ขออนุโมทนาบุญกับโยมด้วยที่คิดจะล้างแค้น > > >>คนทั้งศาลาหันมามองหน้าพระเป็นตาเดียว... > > > >โธ่...ก็มันถือปืนส่ายอยู่อย่างนั้นจะให้พระทำยังไง...น่าจะเห็นใจพระบ้างนะ.. > > >>อาตมาก็พูดกับมือปืนต่อว่า.... > > >>ล้าง..หมายถึง..ทำให้สะอาด > > >>การล้างแค้นเป็นเรื่องดี > > >>เรามีความแค้น...แสดงว่า..ความแค้นมันมาเปื้อนจิตใจเรา.. > >>>การล้างแค้น...คือล้างที่จิตใจของเราให้สะอาด..ให้ความแค้นมันหมดไปจากใจเรา.. > >>>การไปยิงเขาตายอีก...เป็นการเพิ่มความแค้น....ลูกหลานเขาก็ตามจะมายิงมาฆ่าเรา > อีก..วนเวียนอย่างนี้ไม่จบสิ้น > > >>การล้างแค้น..จึงเป็นการอโหสิกรรม..หมดเวรหมดกรรม > > >>อาตมาจึงขออนุโมทนาบุญกับโยมด้วย... > > >>พูดเสร็จพระก็หลบไปยืนบังเสาไว้ พระไม่กลัวมันหรอก..แต่พระไม่ประมาท ใส่บาตรวันเกิด > > >>เหล้ากินเข้าไปแล้วก็ขาดสติ...มีเรื่องเล่าว่า > > >>วันเกิดของผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง > >>>กลางคืนเลี้ยงฉลองร่ำสุรากันเต็มที่..เมาแประ..รุ่งเช้าอยากใส่บาตรทำบุญเอาฤกษ์ > > >>ขณะตักข้าวจะใส่บาตร ด้วยความเมาทำข้าวหก > > >>หมาก็วิ่งกรูกันเข้ามาแย่งกันกินข้าว > > >>กัดกันเจี๊ยวจ้าวพันแข้งพันขาจนเดินไม่ได้.. > > >>ด้วยความโมโห..เงื้อเท้าเตะหมาเต็มแรง...หมามันก็หลบทัน > > >>แต่พระหลบไม่ทัน > > >>โดนหน้าแข้งเต็มๆ ทั้งๆที่ไม่ได้ร่วมแย่งข้าวด้วยสักหน่อย > > >>ขณะใส่บาตร..รู้สึกว่ากับข้าวที่เตรียมไว้ ไม่พอดีกับพระ > > >>แกตะโกนเรียกหลานลั่นเลย.... > > >>"อีหนู เอาปลาทูมาอีกสององค์ วันนี้พระมาสี่ตัว..." > > >>เหล้ามันทำให้คนกิน..ไม่เป็นผู้เป็นคน..พูดผิด..คิดผิด ทำผิด > > >>แล้วยังจะกินมันอยู่อีกหรือ........ เทศน์รอบดึก > > >>มีอยู่รายการหนึ่ง เขาจัดงานหารายได้เข้ามัสยิด... > > >>นิมนต์พระพยอมมาช่วยเทศน์ดึงคนให้หน่อย..เพราะช่วงที่กำลังดังนี้ > > >>เทศน์ทีมีคนฟังเป็นหมื่น..พอประกาศชื่อพระพยอมคนสนใจมาก > > >>เขาจัดโปรมแกรมให้พระพูดตอนดึก 5 ทุ่ม > > >>พระก็อยากพูดเร็วๆ พูดเสร็จจะได้รีบกลับ... > > >>เขาบอกว่า..ไม่ได้..ถ้าท่านกลับ..คนก็กลับกันหมด.. > > >>หอยทอด โรตี..ไก่ย่าง..ยังขายไม่หมดเลย.. > > >>เดี๋ยวท่านรอให้ขาย หอยทอด โรตี ไก่ย่างหมดก่อน..ค่อยขึ้นเทศน์ > > >>กรรมของพระ...ไม่ควรดังเลยเรา.... "คุณพระช่วย" > > >> >>พวกเราชอบอ้อนวอน..ชอบบนบานศาลกล่าวกันจนเคย....โดยเฉพาะผู้หญิงขอให้พระช่วยจนติดปาก > > >>เกิดมีอะไรขึ้น..หรือตกใจอะไร..จะต้องร้องว่า > > >>"คุณพระช่วย"..ทุกครั้ง... > > >>วันหนึ่ง..อาซิ้มนั่งขายของอยู่ในร้าน...หน้าร้านมีคนมาทำความสะอาดท่อ..แล้วเปิดฝาท่อทิ้งไว้ > > >>ผู้หญิงคนหนึ่งเดินตกท่อ..แล้วตะโกนว่า "ว้ายคุณพระช่วย" > > >>อาซิ้มหัวเราะตัวงอ..แล้วเดินออกมาหาหญิงผู้เคราะห์ร้าย > > >>พระช่วยลื้อไม่ล่ายหรอก..เพราะเมื่อเช้านี้พระก็ตกเหมือนกัน........" />
ความคิดเห็นที่ : 3


   คำเทศน์พระพยอม

ของแปลก

> > >>แท๊กซี่บางคน อาตมานั่งไปด้วยแล้วรำคาญ มันขี้โมโห หงุดหงิดทั้งวัน

> > >>วันนั้นนั่งจากหมอชิต ไปโรงพยาบาลศิริราช มันด่าคนไปตลอดทาง

> > >>ไอ้คนนั้นขับไม่ดี

> > >>ไอ้คนนี้เฮงซวยขับช้า ไอ้บ้านี่ตัดหน้า

> > >>ไอ้เปรตนี้หยุดไม่เปิดไฟเลี้ยว

> > >>มันพูดแต่ว่าแปลกจริง.....แปลกจริง......

> > >>แปลกจริงทางม้าลายมีไม่ข้าม...แปลกจริง

> > >>เวลาจะเลี้ยวทำไมไม่เปิดไฟเลี้ยว..แปลกจริง ที่ห้ามจอดดันทะลึ่งจอด

> > >>อาตมาทนรำคาญไม่ไหว ใกล้ถึงศิริราชแล้ว อาตมาถามว่า

> > >>คุณขับรถมากี่ปีแล้ว...หลายปีแล้วครับ

> > >>ปีหนึ่งๆมีคนมายั่วทำให้โกรธอย่างนี้บ่อยไหมครับ.......

> > >>บ่อยครับ..วันหนึ่งหลายสิบครั้ง...

> > >>อาตมาก็เลยบอกว่า มันมีบ่อยๆวันละหลายสิบครั้ง....มันจะแปลกยังไง

> > >>ของแปลกมันต้องนานๆเกิดครั้งหนึ่ง

> > >>วันนี้เกิดบ่อยๆยังตวาดอยู่ได้ว่าแปลกจริง...แปลกจริง..อยู่นั่นแหละ

> > >>มันน่าจะบอกว่า เออ....ธรรมดาจริง..บ่อยจริงมากกว่า


เทศน์ช้าไปหน่อย


> > >>วันก่อนอาตมาไปเทศน์ในคุก.....

> > >>อาตมาบอกว่า..พวกเราที่มาติดอยู่ในคุกเนี่ย...เราไม่ได้ติดคนเดียวนะ..เราเอา

พ่อเอาแม่มาติดด้วย

> > >>พ่อแม่ต้องลำบากตรากตรำ หาเงินมาซื้อข้าวปลาอาหาร

> > >>ข้าวของเครื่องใช้และค่ารถค่าเดินทางที่จะมาเยี่ยมเราทุกอาทิตย์...

> > >>และเรายังทำร้ายจิตใจท่านให้ต้องทุกข์ทรมานตลอดเวลาจนกว่าเราจะพ้นโทษ

> > >>นักโทษคนหนึ่งมันสำนึกบาป ร้องไห้โฮ อย่างไม่อายใคร

> > >>ท่านทำไมเพิ่งจะมาเทศน์ตอนนี้

> > >>ทำไมท่านไม่เทศน์ก่อนที่ผมจะทำชั่ว ไอ้พวกนี้..เวลามันทำชั่ว

> > >>ทำอะไรไม่ดี มันโยนให้พระหมด อาตมาเทศน์มาตั้งนานแล้ว

> > >>โยมไปมุดหัวอยู่ที่ไหน ไม่มาฟังเอง.....



คิดก่อนจึงทำ

> > >>การขยันให้ทาน...ตถาคตไม่สรรเสริญ...แต่ตถาคตสรรเสริญ..คนที่คิดใคร่ครวญ

> > >>ดีแล้วจึงให้..

> > >>เพราะเมื่อใคร่ครวญแล้ว จะไม่มีใครเดือดร้อนจากการให้...

> > >>ที่สุพรรณบุรี...มีอยู่ช่วงหนึ่ง

> > >>พระพุทธรูปในวัดหายเป็นจำนวนมาก..หลายวัด...

>>>>เสี่ยเจ้าของโรงสี..อดรนทนไม่ได้บอก..หลวงพ่อครับ..ขโมยมันรบกวนพระเหลือเกิน. ..ผมสงสาร

> > > > ท่าน....ผมขอถวายปืนให้ท่านกระบอกหนึ่ง

> > >>มันโง่จริงๆ

> > >>ไม่รู้เลยว่าอะไรควรถวายอะไรไม่ควรถวาย....ตัวมันน่ะไม่เดือดร้อน

> > >>แต่พระน่ะ..ติดคุก

พระไม่เข้าใจ

> >>วันก่อนเทศน์ให้เด็กอนุบาลฟัง....100

>>กว่าคนตัวนิดเดียว...แต่พอฟังรู้เรื่องแล้ว..อาตมาบรรยายธรรม..พร้อมมีภาพสไลด์ประกอบ...

> > >>เราสอนว่า..คนเราจะประสบความสำเร็จ..มันต้องตั้งใจจริง..ทำอะไรก็ต้องทำจริงๆ..ตั้งใจให้แน่วแน่....

> > >>เหมือนคนตำน้ำพริก..ตาจ้องดูที่ครก ตำจริงๆ

> > > .ไม่ใช่ตำเป๊กเดียว..แล้วเอามากิน..ต้องตำบ่อยๆ..หลายๆครั้ง...น้ำพริกถึงจะอร่ อย..

> > >>คนเราทำอะไรให้สำเร็จ..มันต้องทำบ่อยๆ

> > >>ทันใดนั้น เหตุการณ์เหลือเชื่อก็เกิดขึ้น.....

> > >>เด็กผู้ชายตัวเล็ก ห้าขวบ..มันลุกขึ้นยืน..แล้วพูดว่า

>>>>พระ..พระ..พระรู้ไหม...ว่าเด็กก็ชอบดูพระพูดบ่อยๆ..แต่พระอย่าพูดธรรมะเยอะนัก ซิ.....เด็กมัน

> > เซ็งระเบิดเลย....

> > >>พระเอารูปให้ดูเยอะๆหน่อย


โสเภณีที่รัก

> > >>วันหนึ่งมีคนมานิมนต์ให้ไปเทศน์ให้โสเภณีฟัง

> > >>ตั้งแต่บวชมา..เพิ่งจะเจอครั้งนี้แหละ...มันเทศน์ยากพิลึก

> > >>พอไปถึงทุกคนมองพระเหมือนตัวประหลาด ...เข้ามาทำไมวะเนี่ย

> > >>พอนั่งปุ๊บ..มองไปรอบๆ..ไม่มีใครสนใจสักคน....

> > >>คิดในใจว่า..จะเอาสูตรไหนมาเทศน์สู้กับมันดีวะเนี่ย .....

> > >>ทำใจดีสู้เสือ..เริ่มต้นคำแรกว่า....

> > >>"สวัสดีน้องหญิงผู้มีวาสนาสูง.."....

> > >>ได้ผลแฮะ...ได้ผลดีเกินคาด ทุกคนหันมามอง

> > >>ตั้งใจฟังหูผึ่งว่าพระจะพูดอะไรต่อ....ได้โอกาส..พระเลยปล่อยไม้เด็ดเลย

> > >>สวัสดีน้องหญิงผู้มีวาสนาสูง..ผู้ขายของเก่ากินโดยไม่ต้องลงทุน

> > >>เมื่อน้องหญิงอยู่ที่บ้าน....คนทั่วไปจะเรียกน้องหญิงอย่างยกย่องว่า..

> > >>กุลสตรี...ยกย่องว่าเป็น เพศแม่

> > >>แต่พอน้องหญิงมาอยู่ในสถานที่อย่างนี้

> > >>ความเป็นกุลสตรีความสูงส่งของเพศแม่มันถูกทำลายไป

> > >>เขาเรียกน้องหญิงว่า...อีตัว....(อันนี้เซ็นเซอร์หรือเปล่าอ่ะ)

>>>>>เวลาเขาจะหาความสุขจากเรือนร่างเธอ..เขามารับเธอไป..เขาไม่ได้พูดให้
เกียรติเธ อเลย...

> > >>แทนที่เขาจะบอกว่า..มาเชิญเธอไป..เขากลับใช้คำว่า..หิ้วไป

> > >>ใช้คำว่า..หิ้ว...เห็นเราเหมือนเป็ดเหมือนไก่..ไม่ให้เกียรติเราเลย...

>>>> เราน่าจะกลับไปอยู่บ้าน...ใช้ชีวิตทำมาหากินเหมือนเดิม..ถึงแม้จะไม่ร่ำรวยแต่

>>>> เราก็อยู่อย่างมีเกียร ติ...

> > >>ทุกคนนั่งนิ่ง..ทำตาแดงๆ

>>>>>เป็นโอกาสดีของพระแล้วที่จะดึงเธอมาเป็นพวก..จึงสนทนาสอบถามเพื่อผ่อนคลายบรรยากาศ

> > >>น้องหญิงหลายคนสักตุ๊กแกไว้ที่ต้นแขน..สักทำไมหรือ..

> > >>อ๋อ..เวลาผู้ชายมาใช้บริการ..จะได้จับผู้ชายให้ติด...เพราะตุ๊กแกขามันเหนียวเกาะแน่น..แกะไม่ หลุด

> > >>โอ..หลักการดี..อาตมาเลยแกล้งหยอกไปว่า...

> > >>ตุ๊กแกมันเกาะแต่ผู้ชายอย่างเดียวหรือ...มันเกาะเอาซุปเปอร์โกโนเรียมาด้วยหรือเปล่า......

> > >>ทุกคนเงียบกริบ รอยยิ้มเริ่มหายไป...บรรยากาศชักไม่น่าลงทุนแล้ว....

> > >>อาตมาเลยถามต่อ....

> > >>อ้าว..แล้วบางคนที่สักขอกับเคียวไว้ที่ต้นแขนล่ะ....มีความหมายว่าอย่างไร

> > >>ก็เอาไว้เกี่ยวสตางค์จากกระเป๋าคนมาเที่ยวไง.......

> > >>เออ..คนเรานี่มันโง่ดี..ถ้าสักขอกับเคียวแล้วมันเกี่ยวสตางค์ได้จริง...คนไทยทั้งประเทศไม่ต้องมัว

> > > >เหนื่อยไปทำมาหากินหรอก...สักขอกับเคียวไห้เต็มตัวก็รวยแล้ว



ล้างแค้น...

> > >>มือปืนเมืองเพชร...เมาแอ๋เข้ามาหาพระมันชูปืนขึ้น..แล้วเดินเป๋เข้ามา

> > >>หลวงพี่ก็เลยโดดหลบเข้าข้างเสา เพราะพระก็เสียวเป็นเหมือนกัน...

> > >>มันบอกว่า..หลวงพี่ต้องเป็นพยานให้ผมด้วย...

> > >>ไอ้แคล้วมันฆ่าพ่อผมตาย..ผมขอสาบานต่อหน้าพระว่า..ผมจะต้องล้างแค้นให้พ่อผมให้ได้...ถ้าผมฆ่า

> > ไอ้แคล้วไม่ได้..ชีวิตนี้นอนตาไม่หลับ

> > >>หลวงพี่โผล่ออกมาจากเสา..แล้วบอกว่า..สาธุ..ขออนุโมทนาบุญกับโยมด้วยที่คิดจะล้างแค้น

> > >>คนทั้งศาลาหันมามองหน้าพระเป็นตาเดียว...

> > > >โธ่...ก็มันถือปืนส่ายอยู่อย่างนั้นจะให้พระทำยังไง...น่าจะเห็นใจพระบ้างนะ..

> > >>อาตมาก็พูดกับมือปืนต่อว่า....

> > >>ล้าง..หมายถึง..ทำให้สะอาด

> > >>การล้างแค้นเป็นเรื่องดี

> > >>เรามีความแค้น...แสดงว่า..ความแค้นมันมาเปื้อนจิตใจเรา..

> >>>การล้างแค้น...คือล้างที่จิตใจของเราให้สะอาด..ให้ความแค้นมันหมดไปจากใจเรา..

> >>>การไปยิงเขาตายอีก...เป็นการเพิ่มความแค้น....ลูกหลานเขาก็ตามจะมายิงมาฆ่าเรา

> อีก..วนเวียนอย่างนี้ไม่จบสิ้น

> > >>การล้างแค้น..จึงเป็นการอโหสิกรรม..หมดเวรหมดกรรม

> > >>อาตมาจึงขออนุโมทนาบุญกับโยมด้วย...

> > >>พูดเสร็จพระก็หลบไปยืนบังเสาไว้ พระไม่กลัวมันหรอก..แต่พระไม่ประมาท



ใส่บาตรวันเกิด

> > >>เหล้ากินเข้าไปแล้วก็ขาดสติ...มีเรื่องเล่าว่า

> > >>วันเกิดของผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง

> >>>กลางคืนเลี้ยงฉลองร่ำสุรากันเต็มที่..เมาแประ..รุ่งเช้าอยากใส่บาตรทำบุญเอาฤกษ์

> > >>ขณะตักข้าวจะใส่บาตร ด้วยความเมาทำข้าวหก

> > >>หมาก็วิ่งกรูกันเข้ามาแย่งกันกินข้าว

> > >>กัดกันเจี๊ยวจ้าวพันแข้งพันขาจนเดินไม่ได้..

> > >>ด้วยความโมโห..เงื้อเท้าเตะหมาเต็มแรง...หมามันก็หลบทัน

> > >>แต่พระหลบไม่ทัน

> > >>โดนหน้าแข้งเต็มๆ ทั้งๆที่ไม่ได้ร่วมแย่งข้าวด้วยสักหน่อย

> > >>ขณะใส่บาตร..รู้สึกว่ากับข้าวที่เตรียมไว้ ไม่พอดีกับพระ

> > >>แกตะโกนเรียกหลานลั่นเลย....

> > >>"อีหนู เอาปลาทูมาอีกสององค์ วันนี้พระมาสี่ตัว..."

> > >>เหล้ามันทำให้คนกิน..ไม่เป็นผู้เป็นคน..พูดผิด..คิดผิด ทำผิด

> > >>แล้วยังจะกินมันอยู่อีกหรือ........

เทศน์รอบดึก

> > >>มีอยู่รายการหนึ่ง เขาจัดงานหารายได้เข้ามัสยิด...

> > >>นิมนต์พระพยอมมาช่วยเทศน์ดึงคนให้หน่อย..เพราะช่วงที่กำลังดังนี้

> > >>เทศน์ทีมีคนฟังเป็นหมื่น..พอประกาศชื่อพระพยอมคนสนใจมาก

> > >>เขาจัดโปรมแกรมให้พระพูดตอนดึก 5 ทุ่ม

> > >>พระก็อยากพูดเร็วๆ พูดเสร็จจะได้รีบกลับ...

> > >>เขาบอกว่า..ไม่ได้..ถ้าท่านกลับ..คนก็กลับกันหมด..

> > >>หอยทอด โรตี..ไก่ย่าง..ยังขายไม่หมดเลย..

> > >>เดี๋ยวท่านรอให้ขาย หอยทอด โรตี ไก่ย่างหมดก่อน..ค่อยขึ้นเทศน์

> > >>กรรมของพระ...ไม่ควรดังเลยเรา....


"คุณพระช่วย"
> > >>

>>พวกเราชอบอ้อนวอน..ชอบบนบานศาลกล่าวกันจนเคย....โดยเฉพาะผู้หญิงขอให้พระช่วยจนติดปาก

> > >>เกิดมีอะไรขึ้น..หรือตกใจอะไร..จะต้องร้องว่า

> > >>"คุณพระช่วย"..ทุกครั้ง...

> > >>วันหนึ่ง..อาซิ้มนั่งขายของอยู่ในร้าน...หน้าร้านมีคนมาทำความสะอาดท่อ..แล้วเปิดฝาท่อทิ้งไว้

> > >>ผู้หญิงคนหนึ่งเดินตกท่อ..แล้วตะโกนว่า "ว้ายคุณพระช่วย"

> > >>อาซิ้มหัวเราะตัวงอ..แล้วเดินออกมาหาหญิงผู้เคราะห์ร้าย

> > >>พระช่วยลื้อไม่ล่ายหรอก..เพราะเมื่อเช้านี้พระก็ตกเหมือนกัน........


Posted by : หรอ , Date : 2006-03-13 , Time : 14:03:44 , From IP : 172.28.5.110

ความคิดเห็นที่ : 4


   >##สิ่งที่เรียนรู้เมื่ออายุปูนนี้ของ อุดม แต้พานิช ##
>
>
>
>* มนุษย์ต้องการสิ่งที่ตนเองไม่มี
>* แฟนของคนอื่นมักจะสวยกว่าแฟนของตัวเอง
>* เวลาที่เราวิ่งมารับโทรศัพท์จากที่ไกลๆ เมื่อถึงโทรศัพท์ เสียงมันมักจะหยุด
>เราจะช้าไป 1 จังหวะเสมอ
>* ถ้าแอบรักใครอย่าฝากใครไปบอก บอกด้วยตัวเองจะดีกว่า
>* เวลาสั่งอาหารไว้นานแล้วยังไม่ได้สักทีให้พูดว่าไม่เอาจะ ได้เร็ว
>* ถ้าเรียกเก็บเงินแล้วไม่มีใครมาเก็บเสียที ให้ลุกขึ้นทำท่า จะกลับทั้งโต๊ะ
>จะมีพนักงานพุ่งมาทันที
>* ปลูกต้นลั่นทมไว้หน้าบ้านไม่เกี่ยวอะไรกับความทุกข์ระทมของตัวเราเลย
>* ระวังคนขายโรตี ที่เพิ่งเดินออกมาจากป่าละเมาะ, พุ่งไม้, ซอกตึก,
>อย่าตัดสินใจซื้อจนกว่าเขาจะล้างมือ
>* ไม่มีสัจจะในร้านตัดเสื้อ
>* ระวังคน ที่แสดงออกว่าเป็นคนดีมากๆ
>* อย่าซื้อทุเรียนมาปอกเอง
>* หนังสือดีคือหนังสือที่เราชอบอ่าน, หนังดีคือหนังที่เราชอบดู
>* อยากให้คนอื่นรู้เรื่องที่เรานินทามากๆ อย่าลืมย้ำบ่อยๆ ว่าอย่าบอกใครนะ
>* อย่าทิ้งกระดาษชำระไว้ในชามก๋วยเตี๋ยว คนล้างจะเสียความรู้สึก
>* เรียกยามว่าซีเคียวรีตี้ การ์ด ยามจะตั้งใจโบกรถ
>* อย่าซื้ออะไรที่ต้องเอามาซ่อมต่อ
>* รถในเมืองไทยพวงมาลัยอยู่ทางขวา แต่ฝาน้ำมันไม่อยู่ขวาเสมอไป
>* ไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อนไม่ต้องเอายาสีฟันไปก็ได้ ยังไงเพื่อนต้องมี
>* อย่าเข้าใกล้หมาตอนกินข้าว
>* ตลาด อตก. มาจากคำว่า เอเวอรี่ติง เกินราคา
>* เวลาดูหนังโรง ควรจำว่ากระปุกน้ำอยู่ด้านไหน
>* ตัดผมวันพุธได้ ไม่บาป
>* คนไม่กินเนื้อไม่ได้แปลว่าเป็นคนดีเสมอไป
>* เวลาบ้วนน้ำยาลิสเตอรีน ออกจากปากให้หลับตาด้วย
>* ปูอัด มันทำจากปลา
>* กระเพาะปลามันทำมาจากหนังหมู
>* กินก๋วยเตี๋ยวจากตะเกียบไม้อร่อยกว่า
>* อย่าไปจ่ายตลาดเวลาหิว เราจะซื้อมาเยอะเกินจำเป็นเสมอ
>* ในโลกนี้จะชอบมีคนมาทักอยู่ 2 ประเภทเท่านั้น ประเภทแรก อ้วนขึ้นนะ
>กับประเภทที่ 2ผอมลงนะ ไม่มีใครเข้ามาทักว่าปกติดีนี่ไปทำอะไรมา
>* คนที่เอาหมวกตำรวจ หรือชุดตำรวจแขวนไว้หลังรถมิใช่เพราะบ้านเขาไม่มีตู้
>เขาไม่ได้ลืม เค้าแค่กลัวคนไม่รู้ว่าเขาทำอาชีพอะไร
>* คนที่มีรถทะเบียนเลขเดียวเรียงติดกันหลายๆตัว เป็นคนธรรมดาเหมือนกับเรา
>* คนที่มีความรู้มากๆ เขามักจะใช้ความรู้ขังจินตนาการ
>* ฟู่ฟ่าเดี๋ยวก็วาย เรียบง่ายอยู่ได้นาน
>* จงอย่าอิจฉาคนอื่น แต่จงใช้ชีวิตให้คนอื่นอิจฉา
>* เวลาที่เปิดหนังสือให้เพื่อนดูหน้าที่ตัวเองพูดถึง มักจะหาไม่เจอ
>* ขนมและน้ำในโรงหนัง จะแพงกว่าข้างนอก
>* ห้องน้ำผู้หญิง ผู้ชายเข้าไปดูเป็นพวกโรคจิต,
>ห้องน้ำผู้ชายผู้หญิงเข้ามาดูเป็นแม่บ้าน.


Posted by : หรอ , Date : 2006-03-13 , Time : 14:04:02 , From IP : 172.28.5.110

ความคิดเห็นที่ : 5


   ลุงเทิ้ม แกเป็นผู้ใหญ่บ้านโคกอีแต๊ว แกเลี้ยงนกแก้วไว้ตัวนึง มันเป็นนกที่ฉลาดมาก

รู้ภาษาคน ทำอะไรได้หลายอย่าง แต่มันมีนิสัยเสียอยู่อย่างหนึ่ง ก็คือมันชอบไล่ปี้เป็ด

มันไล่ปี้จนเป็ดแตกตื่นทุกวัน จนวันนึงลุงเทิ้มแกทนไม่ไหว จึงต้องการสั่งสอนมันโดย จับมันมาโกนหัว

แล้วบอกกับมันว่า "ที่ข้าโกนหัวแก ก็เพราะแกมีนิสัยที่ไม่ดี ชอบไล่ ปี้เป็ด เจ้าจึงต้องโดนโกนหัวแบบนี้"

มาวันหนึ่ง บ้านลุงเทิ้มแกจัดงานทำบุญบ้าน มีชาวบ้านมาร่วมงานมากมาย

ลุงเทิ้มแกจึงให้เจ้านกแก้วไปคอยเกาะที่กระไดบ้านคอยต้อนรับแขกที่มางาน โดยบอกกับมันว่า

ลุงเทิ้ม "ถ้าเป็นผู้หญิง ผมยาวให้เข้าทางซ้าย ถ้าเป็นผู้ชายผมสั้นให้เข้าทางขวา"

เจ้านกแก้วได้ฟังมันก็ท่องจำจนขึ้นใจ คอยบอกแขกผู้มางาน

เจ้านกแก้ว "ผู้หญิงผมยาวขึ้นทางซ้าย ผู้ชายผมสั้นขึ้นทางขวา"

มันตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ จนพระที่ลุงเทิ้มแกนิมนต์ไว้ได้เดินทางมาถึง เจ้านกแก้วก็แปลกใจ

เพราะพระที่มาแต่งตัวไม่เหมือนใคร และผมก็ไม่เหมือนใคร แต่ด้วยความฉลาดที่มันจำได้

มันจึงตะโกนพูดว่า เจ้านกแก้ว "ผู้หญิงผมยาวขึ้นทางซ้ายยยยยย ผู้ชายผมสั้นขึ้นทางขวา

เอ้า ! ไอ้พวกหัวโล้น ปี้เป็ดมาทางนี้"


Posted by : หรอ , Date : 2006-03-13 , Time : 14:04:37 , From IP : 172.28.5.110

ความคิดเห็นที่ : 6


   สงสัยว่าแฟนมีชู้


เรื่องมีอยู่ว่าดิฉันเอามือถือตัวเก่งโทรไปหาแฟนตอนประมาณ 2 ทุ่มของวันที่

25ที่ผ่านค่ะ

เพื่อหวังว่าจะได้ยินเสียงของเขาให้ชื่นใจตามประสาคนรักกัน

แต่มันกลับไม่เป็นอย่างที่ดิฉันหวัง

เมื่อโทรไปแล้วมีผู้หญิงที่ไหนไม่ทราบมารับแทนผู้ชายคนที่ฉันคิดจะฝากชีวิตทั้งชีวิตไว้กับเขา

ดิฉันตกใจมาก

พยายามเก็บความรู้สึกอย่างที่สุดที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะพึงกระทำได้ในเวลานั้น

ดิฉันไม่พูดอะไรทั้งนั้น เพราะมันจุกค่ะ มันจุกอยู่ที่ท้อง

หัวใจดิฉันเต้นแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

แต่มือและเท้ากลับเย็นชา ไม่มีเรี่ยวแรงใดๆ ทั้งสิ้น มันพูดไม่ออกเลย

น้ำตาดิฉันไหลพล่า

เวลานั้นถึงแม้มันจะสั้นแต่มันแทบทำให้ใจของผู้หญิงอย่างดิฉันสลายไปเลยทีเดียว

ตัวดิฉันทรุดลงไปนอนกับพื้น พร้อมมือที่ยังกำโทรศัพท์แน่นไว้ข้างหู

โดยเสียงของผู้หญิงคนนั้นที่ยังคงพูดอย่างไม่แคร์ความรู้สึกดิฉันเลยแม้แต่น้อยด้วยประโยคที่ว่า


ขอโทษคะไม่สามารถติดต่อเลขหมายปลายทางได้ขณะนี้


Posted by : หรอ , Date : 2006-03-13 , Time : 14:06:08 , From IP : 172.28.5.110

ความคิดเห็นที่ : 7


   ปัดโธ่

Posted by : kronous , Date : 2006-03-21 , Time : 17:45:03 , From IP : 172.29.4.254

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.01 seconds. <<<<<