ความคิดเห็นทั้งหมด : 40

ข้อสอบ Compre..........


   กระผมเป็นนักศึกษาแพทย์ปี 3
เนื่องด้วยว่าต้องสอบ NT ก็เตรียมตัวโดยการอ่านหนังสือทั่ว ๆ ไป จะจำอะไรก็เลือกจำแต่ที่เป็น concept หรืออะไร ๆ ที่ค่อนข้างจะ common (โรค,ยา) ก็ได้ข่าวมาว่าข้อสอบน่าจะออกมาเหมือนกระโดดมาจาก text book ไม่น่าจะจุกจิกอะไร
แต่พอมาลองทำข้อสอบ compre ก็เริ่มหวั่นใจ ว่าถ้าไม่ท่อง lecture ไปบรรทัดต่อบรรทัด คงจะทำไม่ได้ ข้อสอบหลาย ๆ ข้อถามอะไรที่ไม่ใช่ประเด็น (อยากทราบว่าไหนเดี๋ยวบอกให้) ถามจุกจิกไร้สาระ บางข้อเปิดหนังสือหาคำตอบยังไม่มี (สงสัยต้องดู lecture ถึงจะทราบ)
เลยอยากเสนอให้ทางคณะออกข้อสอบที่มีมาตรฐานหน่อย ใช้ความคิดมาก ๆ ความจำลดลงสักนิด (ยิ่งในสิ่งที่ไม่ควรจำไม่มียิ่งดี) เผยเป็นแนวทางในข้อสอบ NT ที่จะต้องสอบต่อไป
ขอขอบคุณที่รับฟังความคิดเห็น


Posted by : DogTor , Date : 2006-03-05 , Time : 16:02:14 , From IP : 172.29.4.254

ความคิดเห็นที่ : 1


   ระบบกำจัดคนอ่านแต่text และพวกไม่อ่านเลคเชอร์ชนิดไม่ท่องครับ
แต่บางข้อออกมาดีนะครับ

ปล มันก็กระโดดจาก text อะแหละแบบว่ามีอยู่3บรรทัดจากพันหน้าอุบติการณ์สุดต่ำน่ะ ปีหน้าคงต้องบอกน้องๆว่าอ่านแต่กรอบเล็กๆพอ


Posted by : greenish head , Date : 2006-03-05 , Time : 20:34:35 , From IP : 172.29.4.69

ความคิดเห็นที่ : 2


   ไม่ออกอุบัติการณ์ของสงขลาก็ดีแล้วครับ

Posted by : kronous , Date : 2006-03-06 , Time : 08:29:20 , From IP : 172.29.4.254

ความคิดเห็นที่ : 3


   ได้ข่าวว่าผ่านหมดทั้งชั้นปีนี่ โชคดีด้วยทุกๆคน
ถึงแม้ข้อสอบบางข้อจะงี่เง่าไปบ้างแต่ช่างเถอะนะ ไม่มีข้อสอบที่ไหนดีหมดหรอก


Posted by : แอบรักDogTor , Date : 2006-03-08 , Time : 12:54:23 , From IP : 172.29.4.81

ความคิดเห็นที่ : 4


   เอาน่า....บางข้อก็ถูกใจบางคน อาจจะไม่ถูกใจอีกหลายคนบ้างก็ช่างเถอะ
ป.ล. นู๋ไม่ตกก็ดีแล้ว


Posted by : Cruz , Date : 2006-03-08 , Time : 22:24:44 , From IP : 172.29.4.215

ความคิดเห็นที่ : 5


   ผมว่าถ้าอยากพัฒนาเด็กอีกกว่านี้ เลิกระบบแลคเชอร์ดีมะครับ
เบื่อที่ต้องแพ้นักบอลขเมร เพราะไปแข่งในประเทศขเมร หมดกำลังใจ เป็นอย่างมาก เฮ่อๆ ข้อสอบตัวเน้น ตัวเน้นๆๆๆๆ ได้หมอตัวเน้นไปทำงาน คนไข้ไทยจะถูก diagว่าเป็นแต่โรคตัวเน้น ง่ายเลย นิ่มเลย งานนี้ หลักการเหตุผลอย่าสนนะครับ อย่าสน ไม่สำคัญ ขอตัวเน้น.....เจริญ จริงๆ


Posted by : cabin_crew , Date : 2006-03-17 , Time : 01:52:34 , From IP : 172.29.4.69

ความคิดเห็นที่ : 6


   มีเลคเชอร์อะดีแล้ว บ้าเรอะให้เรียนเองหมด
คิดแบบนี้ไงถึงได้มีคณะแพทย์ผุดขึ้นยังกะดอกเห็ด
ไม่รู้หรอกนะว่ารู้โรคเน้นๆมันไม่ดีตรงไหนเหรอ?
สุดท้ายแล้ว ก้อรักษาได้แต่โรคเน้นๆนั่นแหละ
พอเป็นโรคอะไรไม่เน้นก้อส่งต่อทั้งนั้นใช่ไหม?


Posted by : kronous , Date : 2006-03-18 , Time : 22:54:37 , From IP : 172.29.4.163

ความคิดเห็นที่ : 7


   แล้วน้องคิดว่าเป็นเช่นไรล่ะครับ?



Posted by : Phoenix , Date : 2006-03-19 , Time : 01:05:18 , From IP : 58.147.119.161

ความคิดเห็นที่ : 8


   อาจารย์ครับผมแค่ไม่อยากเป็นหมอตัวเน้น
รู้แต่โรคตัวเน้น
ไม่อยากรักษาเป็นแค่ dm ht อยากคิดต่อยอดเป็น....
อย่างน้อยตอนผมเรียนจบไปเวลาเขียนใบ refer จากนราธิวาส ส่งมาให้อาจารย์(ในกรณีที่เป็นโรคที่เกินความสามารถของแพทย์เพิ่งจบ)ผมจะได้ส่งผล lab ที่ควรจะส่ง หรือพูดง่ายๆคือเขียนใบrefer แบบที่อาจารย์อ่านแล้ว.....เออ มันใช้ได้เว้ย ลูกศิษย์ฉัน.....ผมไม่อยากโดนอาจารย์ด่าอะครับว่ามันจบไปได้ไงหว่า......เขียนใน refer เหมือน ไม่ใช่หมอเขียน อะครับ........แค่อยากให้แนวทางหมอตัวเน้นลดลงบ้าง ผมอาจจะเห็นแก่ตัวนะครับท่พยายามรักษาเผ่าพันธุ์หมอตัวไม่เน้นเอาไว้ บังเอิญอาจารย์ตอนอนุบาลเคยบอกว่า ถึง1+1 ก็ต้องเขียนแสดงวิธีทำไม่ใช่รู้แล้วมักง่ายไม่เขียนตอบ เพราะถ้าโตขึ้นแกมักง่าย คนที่ด่าแกจะน้อยลงแล้วแกจะเสียนิสัย เรื่องนิสัยมันแก้ยาก แกน่าจะยอมเสียเวลาดีกว่าเสียนิสัย


Posted by : cabin_crew , Date : 2006-03-20 , Time : 17:28:01 , From IP : 172.29.4.69

ความคิดเห็นที่ : 9


   
มีเลคเชอร์อะดีแล้ว บ้าเรอะให้เรียนเองหมด
คิดแบบนี้ไงถึงได้มีคณะแพทย์ผุดขึ้นยังกะดอกเห็ด


ยังไงหรอครับคณะแพทย์ดอกเห็ดเนี่ยมันแนวคิด นายทักสิน ไม่เกี่ยวกัน....

ผมไม่แน่ใจว่าโรคไม่เน้นจะส่งต่อหมดเลยดีหรอครับบังเอิญ

วันนึงผมอยู่ระเเงะ มี pt severe จากภาวะที่ผมเองไม่รู้เพราะบังเอิญไม่เคยอ่าน.....ผมเลย tx โดยการให้ นำเกลือนอนแช่ไว้เพราะช่องทางการ refer ไม่มี (ถนนถูกโจรใต้วางระเบิดผมเลยดอง pt ไว้จนdeath ) ..................


ว้ากรรมของแกนะ pt บังเอิญชั้น จบ พบ.เอกตัวเน้น.........แต่...เอ่อ.... ที่จริงอาจารย์ชั้นเก่งนะ อยู่ มอ.....แต่ refer ไม่ได้ .... ขอโทษนะ......

ประเทศชาติรอเรานะครับ อย่าทำให้เค้าผิดหวัง

.................ขออภัยในบางลีลา.............

นายก สมาพันธ์ anti หมอตัวเน้น


Posted by : cabin_crew , Date : 2006-03-21 , Time : 00:51:05 , From IP : 172.29.4.69

ความคิดเห็นที่ : 10


   บางทีเริ่มจากการเพาะความสามารถในการ appreciate รากที่มาของตนเองได้ก็ช่วย

บางทีถ้าวางใจว่าเกณฑ์มาตรฐานแพทยสภาที่ร่างมาโดยคณบดีมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ ร่างมาโดยองค์กรอนามัยโลก มันอาจจะมีอะไรที่น่าสนใจแฝงอยู่ น่าศึกษาก็ช่วย

บางทีถ้าเราเองไม่ได้รู้ปรัชญาแพทย์ทั้งหมด แต่กำลังศึกษาว่าเรามาเรียนเพื่อใคร เพื่อตนเอง หรือเพื่อเพื่อนมนุษย์ อาจจะมีใครสักคนเคยเขียนเรื่องทำนองนี้ไว้ที่ไหนบ้าง น่าค้นคว้าศึกษา ก็ช่วย

การมีความรู้พื้นฐานอะไรบ้าง กับความสามารถในการคิดต่อยอด ไม่ได้เป็นของขัดแย้งกันก็เป็นไปได้ ผอ. รพ.ภูกระดึง เพื่อนเตรียมอุดมของผมเอง ท่านตอนนี้มีชื่อเสียงเป็นที่เคารพนับถือ เพราะท่านทำอะไรที่ "เน้นที่ชาวบ้าน" ธรรมดาๆ ชาวบ้านธรรมดาเหล่านั้นก็ดูจะรักท่านมากดีอยู่ เพราะท่านเป็นหมอธรรมดาๆ ไม่ซับซ้อน แต่เข้าใจง่าย ไว้ใจได้

ส่วน ego ของหมอว่าอยากจะเก่งมากขึ้นเรื่อยๆนั้นก็ดีครับ เป็นความเจริญก้าวหน้าของเราเอง

บางทีเมื่ออาจารย์เห็นใบ refer ที่ไม่ชัดเจน อาจารย์อาจจะไม่ได้ "ด่า" ลูกศิษย์ แต่อาจจะนึกเสียใจที่ไม่ได้สอนให้ดีก็ได้ ลูกศิษย์เดาความคิดอาจารย์ได้หลากหลาย ตรงนี้ก็จะส่อถึงความสัมพันธ์ในความเป้นครู-ลูกศิษย์ได้เหมือนกัน



Posted by : Phoenix , Date : 2006-03-21 , Time : 01:15:57 , From IP : 58.147.26.69

ความคิดเห็นที่ : 11


   แล้วความมักง่ายทางการเรียนละครับ เราจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร

เสมือนนศพ.ที่ไม่ได้เข้าป่า แต่ดักตีหัวนายพรานเพื่อเอาเนื้อไปกิน....วิธีนี้มันก็ได้อยู่หรอกนะครับ แต่ถ้าวันนึงนายพรานตาย นศพ.คนนั้น.....เฮ่อๆ สงสารคนไทย


Posted by : cabin_crew , Date : 2006-03-21 , Time : 12:07:37 , From IP : 172.29.4.239

ความคิดเห็นที่ : 12


   ตัวอย่างที่ยกมา ผมไม่คิดว่ามันเกี่ยวกับแค่ความมักง่ายแค่นั้นกระมังครับ

นศพ.ที่ไม่ได้เข้าป่า ก็อาจจะขอเนื้อเพื่อนบ้าง ซื้อเอาบ้าง ก็ได้ แต่การดักตีหัวนายพรานมันมีอะไรที่มากไปกว่านั้น ตั้งแต่การรับรู้ หรือการคิดว่าการตีหัวนายพรานเป็น acceptable activity ไปจนถึงการสำรวจตรวจสอบว่าหลังทำนั้นรู้สึก guilt รู้สึก remorse บ้างไหม ถ้าไม่รู้สึกอะไรเลย หรือรู้ว่าผิดจึงปกปิด หรือรู้ว่าผิดแต่ไม่คิดว่าจำเป็นต้องปกปิด เอามาโอ้อวด สองสามความคิดความรู้สึกอย่างหลังนี้น่ากลัว

น่าจะเอามาอบรมใหม่นานๆ



Posted by : Phoenix , Date : 2006-03-21 , Time : 16:38:12 , From IP : 172.29.3.175

ความคิดเห็นที่ : 13


   เรียนจบขนาดนี้แล้ว ผมไม่เชื่อหรอกว่ามีหมอที่จบได้โดยไม่เข้าใจเลยน่ะ (เอาแต่จำ หรือเน้น) หรือไม่สามารถรับมืออะไรที่ไม่เน้น อย่างที่ยกตัวอย่าง ว่าเจอโรคอะไรไม่รู้ ผมว่าอย่างน้อย โรงพยาบาลไหนๆ ก็มีโทรศัพท์โทรขอconsultก็ได้ (ถ้าบังเอิญเสาโทรศัพท์ไม่ได้ถูกวางระเบิด) หรือไม่แล้ว อย่างน้อย การประคับประคองอาการควรจะเป็นสิ่งที่หมอทำได้ทุกคนไม่เว้นแม้แต่หมอตัวเน้น หรือหมอที่จำๆแล้วอ้างว่าเข้าใจ และถ้าเป็นโรคที่ทำให้อาการsevere ขนาดนั้นน่ะ แน่นอนว่าต้องเป็นโรคที่เน้น และหมอตัวเน้นต้องรู้ การทำความเข้าใจอาจจะไม่ทันก็ได้
***ทุกอย่างมีข้อดีและข้อยกเว้นในตัวมัน อยู่ที่คุณจะมองเห็นมันหรือเปล่า***
***เปิดใจให้กว้างขึ้นอีกนิด ชีวิตดีขึ้นแยะ***


Posted by : kronous , Date : 2006-03-21 , Time : 18:08:50 , From IP : 172.29.4.254

ความคิดเห็นที่ : 14


   หรือหมอที่จำๆแล้วอ้างว่าเข้าใจ และถ้าเป็นโรคที่ทำให้อาการsevere ขนาดนั้นน่ะ แน่นอนว่าต้องเป็นโรคที่เน้น และหมอตัวเน้นต้องรู้ การทำความเข้าใจอาจจะไม่ทันก็ได้



งั้นแน่ใจหรอครับว่าคุณรู้จริง ผมไม่แน่ใจบังเอิญคะแนนสอบไม่ดีแต่ผมไม่เคยอ้างเลยแม้แต่คำเดียวว่าเก่ง.....ผมไม่เคยบอกใครว่าเฮ้ยมันอย่างนี้เว๊ย....ผมไมคิดว่าผมรู้จริง...แต่ที่ผมมั่นใจคือผมมีความพยายามที่จะรู้ให้จริงอย่างสุดความสามารถของผม...และผมไม่บังอาจเทียบชั้นคุณ.....ขอโทษนะครับถ้าคิดว่าเป็นเครื่อง f-18...ก็ขอสาธุแต่ซักวันนำมันต้องหมด..ผมจะเอาเครื่องใบพัดสอย...ถึงต้องสอยด้วยปืนพกก็เถอะ......

กล้ามั๊ย...ถามคนไทย 60ล้าน ว่าจะเอาแบบไหน เราเรียนด้วยภาษีคนไทยถามผู้รับบริการกันมั๊ย ถ้าเค้าเอาแบบคุณผมจะทิ้งความคิดผม

.....ขอโทษที่ต้องก้าวร้าวกับผู้ turn pro

อีกอย่างอาจารย์ครับผมขออภัยที่ไม่กล่าวให้รอบคอบผม ไม่ได้ตั้งใจ บอกว่า.....จะตีหัวนายพราน..บังเอิญผมชอบออกไปล่าเนื้อแม้ว่าสุดท้ายต้องกลับมากินมาม่าปลากระป๋อง.....ผมหมายถึง นศพ.บางคนที่ชอบทำไรมักง่ายอะครับเราจะแก้ยังไงดีครับ เพราะปัจจุบันนี้ มีวงจรโพย ชีทพี่ระบาดไปทั่ว....


Posted by : cabin_crew , Date : 2006-03-21 , Time : 20:14:38 , From IP : 172.29.4.133

ความคิดเห็นที่ : 15


   ผมไม่เคยพูดเลยสักคำว่ารู้จริง และไม่เคยกล่าวหาใครด้วย ถ้าคุณใครจะคิดมากไปแล้วสบายใจหรือจะเสียใจอันนั้นเรื่องของคุณ ผมไม่สนสักนิด
ผมไม่รู้หรอกว่าคุณได้คะแนนสอบNTเท่าไหร่ แต่อ่านดูแล้ว คุณคงไม่พอใจกับคะแนนของตัวเองแหงๆ เพราะคิดว่าตัวเองได้คะแนนน้อย อาจน้อยกว่าพวกหมอตัวเน้น ซึ่งคิดว่า พวกนั้นคงจะจำๆไป เจออาการนี้ ตอบโรคนี้ ประมาณนั้น ทั้งๆที่ คิดว่าตัวเองอ่านเยอะ
ผมเองก็อ่านเยอะ ทั้งอ่าน ทั้งทำข้อสอบ พยายามที่สุดเหมือนกัน ไม่ใช่คุณคนเดียวหรอก เพราะผมไม่ใช่คนเก่งเลิศเลออะไร แต่ถ้าอ่านมากจริง คุณก็ต้องจับจุดได้บ้าง โรคนี้เจออย่างงี้ อาการอย่างงี้ ตรวจพบนั่นพบนี้ มันเหมือนจะเป็นสูตรลัดหรือตัวเน้นที่คุณอ้าง แต่อยากให้รู้ว่า กว่าที่มันจะมาเป็นตัวเน้นอะไรอย่างงี้น่ะ มันไม่ใช่แค่ไม่กี่วิ แต่มันต้องเจอซ้ำๆหลายๆครั้งถึงจะได้มา ไม่ใช่ง่ายๆเหมือนที่คุณคิดหรือความคิดคุณ
และผมกล้าให้ถาม ถ้าอยากให้ถามคนไทย60ล้านน่ะ ถามเองสิ เอาเลย แต่ถ้าทำไม่ได้อย่าแหลงดีกว่านะ มันเหมือนพูดแบบขอไปที ให้ผ่านๆไป แต่ถึงจะได้คำตอบมาอย่างไรก็ตาม แม้ว่าทั้ง60ล้านจะยอมรับแบบคุณ ผมพร้อมยอมรับมัน และผมจะรักษาผู้ป่วยที่มาหาผมอย่างเต็มที่ผมรู้แค่นั้น
และไอ้เรื่องเครื่องบินF-18 วันนึงน้ำมันหมดน่ะ เห็นด้วยนะแต่ มันไม่ได้สร้างมาใช้ครั้งเดียวทิ้ง มันเติมน้ำมันได้รู้หรือเปล่า? คุณอาจจะต้องนั่งทำความเข้าใจเสียก่อนนะว่าเติมแล้วอะไรยังไง แต่หมอตัวเน้นอย่างผมจะบอกว่า เติมได้ แค่นี้พอ ส่วนจะออกเทนอะไรเท่าไหร่ มันไหลไปทางไหน มันทำอะไร หรืออะไรก็ตาม ผมไม่รู้เพราะไม่สนด้านนี้แต่น้ำมันหมดเติมได้ครับ ส่วนคุณจะเอาอะไรมาสอยน่ะ เรื่องของคุณเช่นกัน ถ้าผมขับผมจะขับให้ดีที่สุด ไม่ให้สอยง่ายๆแหงมๆ
เรื่องโพยน่ะผมไม่เห็นด้วยเช่นกัน แต่เรื่องชีทพี่เนี่ยทำไมเหรอครับ? มันไม่ดีตรงไหน? หาความรู้จากหลายๆแหล่งผิดตรงไหน? ทำไมต้องปิดกั้นแหล่งความรู้ตัวเองด้วย? หรือว่าแบบนี้เองที่คนไทย60ล้านต้องการตามความคิดของคุณ?


Posted by : kronous , Date : 2006-03-21 , Time : 22:09:45 , From IP : 172.29.4.163

ความคิดเห็นที่ : 16


   
.........ไม่ใช่ง่ายๆเหมือนที่คุณคิดหรือความคิดคุณ .........

งั้นช่วยแสดงความคิดที่ไม่ง่ายมาสิครับ ผมมั่นใจเหลือเกินว่าคุณทำได้

ผมจะรอ...


Posted by : cabin_crew , Date : 2006-03-21 , Time : 23:08:21 , From IP : 172.29.4.42

ความคิดเห็นที่ : 17


   อีกเรื่อง ขอบคุณจากใจจริง ที่คุณไม่สนับสนุนโพย เรื่องชีทพี่อันนี้ผมยอมรับว่า individual ตามแต่ใจละกัน

อยากฝากประชาสัมพันธ์ไปยังทุกๆคนนะครับ

ประเทศไทยใสสะอาดปราศจากคอรัปชั่น

ขอบคุณครับ


Posted by : cabin_crew , Date : 2006-03-21 , Time : 23:20:43 , From IP : 172.29.4.42

ความคิดเห็นที่ : 18


   สงสัยผมจะแก่เกินไป จึงไม่ค่อยเข้าใจนิยามหรือคำจำกัดความของศัพท์ที่ใช้กันอยู่ อะไรคือ "หมอเน้น"? อะไรคือหมอไม่เน้น?

ขออนุญาตเอา frame กลางเป็น reference นะครับคือเกณฑ์มาตรฐานแพทยสภา

แพทย์ที่พึงประสงค์นั้นควรให้การบริการการรักษาแก่ผู้ป่วยได้ มีความรู้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นโรคที่สำคัญ พบบ่อยในชุมชน หรือ "อย่างน้อยที่สุด" ต้องให้การดูแลรักษาประคับประคองและส่งต่อไปให้ผู้เชี่ยวชาญจำเพาะทางได้ในโรคบางกลุ่มได้อย่างทันท่วงที

จะทำอย่างนั้นได้ จะต้องมีทั้งความจำ ความสามารถในการวิเคราะห์ การใช้วิจารณญาณ ความเชี่ยวชาญในการซักประวัติ ตรวจร่างกาย ส่งตรวจเพิ่มเติมเบื้องต้น เป็นอย่างดี ทั้ง cognitive psychomotor และ attitude ต้องครบหมด ได้อย่างนี้จึงจะเป็นไปตาม "เกณฑ์มาตรฐาน" ของแพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป

ส่วนหมอเน้น หรือหมอไม่เน้นนั้น คืออะไร? มีที่มาอย่างไร?

การสอบแต่ละอย่างก็จะตรวจสอบพิสัยต่างๆของการเรียนรู้ที่ว่า ยิ่งขึ้นคลินิกจะมีส่วนที่ต้องเกี่ยวขอ้งกับการปฏิบัติกับผู้ป่วยจริงมากขึ้น ยิ่งจบไปแล้วยิ่งต้องมีการพัฒนา social skill, communication skill มากขึ้นไปอีก ชีวิตแพทย์ไม่ได้สิ้นสุดการเรียนรู้เฉพาะตอบ NT หรือ comprehensive พวกน้องกำลังจะรับผิดชอบชีวิตคนในอนาคต คนๆนั้นอาจจะเป็นพ่อแม่ของเพื่อนน้องเอง อาจจะเป็นญาติพี่น้องของน้องเอง หรือแม้กระทั้งอาจจะเป็นพ่อแม่ครูบาอาจารย์ของน้องเอง ไอ้ความรับผิดชอบตื่นเต้นแค่สอบ NT นั้นมันแทบจะเทียบกันไม่ได้เลย ไอ้ "คะแนน" ทั้งหลายแหล่ที่เป้น cross sectional assessment นั้นจะไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิงถ้าเราเอามาบูชาผิดๆ แทนที่จะนำไปใช้ในการพัฒนาตนเอง หาจุดบกพร่องของตนเอง

คนที่คิดว่าฉลาด ลอกคำตอบ หาวิธีโกงต่างๆนานาให้ได้คะแนนสูงๆโดนไมได้มีความสามารถแท้จริงนั้น กำลังวางยาพิษตนเองในระยะยาว เราก็ไม่รู้ว่ายาพินี้จะไปออกฤทธิ์ตอนไหน อย่าลืมว่าจบมาแล้วพวกเราแต่ละคนก็จะมีญาติพี่น้องมาฝากฝังแน่ๆ บางคนเริ่มมีญาติมาปรึกษาตั้งแต่ยังเป็น นศพ. ซะด้วยซ้ำ

ภาวนาอย่าให้ยาพิษมาออกตอนที่เรากำลังรักษาคนที่เรารักห่วงใยที่สุดก็แล้วกัน สำนึกเสียใจตอนนั้น ก็อาจจะช่วยอะไรไม่ได้แล้ว



Posted by : Phoenix , Date : 2006-03-21 , Time : 23:24:38 , From IP : dynamic-203-107-196-

ความคิดเห็นที่ : 19


   งั้นรบกวนอาจารย์วิจารย์ด้วยครับว่าผมควรทำไงดีเพราะผมเริ่มสับสนว่าตกลงผู้ใหญ่คิดว่า นศพ.ที่ดีควรเป็นแบบไหนครับ
บางทีประสบการชีวิตผมอาจจะน้อยเกินไปที่จะตัดสินใจเลือกแนวทางการเรียนที่ผู้ใหญ่และสังคมต้องการครับ


Posted by : cabin_crew , Date : 2006-03-22 , Time : 00:02:22 , From IP : 172.29.4.42

ความคิดเห็นที่ : 20


   ผมพร้อมจะปรับปรุงตามแนวทางที่สังคมและประเทศต้องการเพราะผมจะเป็นข้าราชการ

Posted by : cabin_crew , Date : 2006-03-22 , Time : 00:06:33 , From IP : 172.29.4.42

ความคิดเห็นที่ : 21


   แสดงความคิดเห็นเรื่องอะไรล่ะ? ถ้าเรื่องวิธีการเรียนหรือวิธีการทำข้อสอบอะไรนั่นน่ะ ผมเองก็คิดง่ายๆเหมือนกัน แต่ละคนย่อมมีวิธีหรือหนทางของตัวเองอยู่แล้ว ผมก็ให้เขาทำตามที่เขาถนัดเพราะนั่นมันคงเหมาะกับเขามากกว่า อย่างมากผมก็คงได้แค่แนะนำบ้าง แต่ผมคงไม่ไปบอกหรอกว่า หมอตัวเน้นมันไม่ดี ชาติไม่ต้องการ 60ล้านไม่ต้องการ เขาต้องการแบบนี้ อนุรักษ์หมอตัวไม่เน้นแบบผมไว้(ยังกะสัตว์สงวนแน่ะ)
ขอวกกลับมาเรื่องที่คุณไม่เห็นด้วยกับระบบเลคเชอร์ได้ไหม? ทำไมคุณถึงอยากให้ยกเลิกระบบเลคเชอร์หรือ?
ผมอยากแสดงความคิดเห็น ผมอยากจะเปรียบเหมือนที่คำโบราณเรื่องให้ปลากับสอนจับปลาน่ะ การให้ปลาก็เหมือนให้โพยไปแบบตรงๆ การสอนจับปลาก็เหมือนการเลคเชอร์นี่แหละ แต่ผมว่าวิธีการยกเลิกระบบเลคเชอร์เพื่อให้พัฒนาเด็กเนี่ย มันเหมือนกับไปทิ้งไว้สักที่หนึ่ง แม่น้ำอยู่ทางไหนก็ไม่รู้ จับยังไงก็ไม่รู้ มีปลาให้จับรึเปล่าก็ไม่รู้ ถ้าบังเอิญดันทำได้ขึ้นมา มีปลากิน มันก็คงจะพัฒนาแหละ อาจจะนานกว่าจะรู้ กว่าจะเป็น แต่คงมีคนจำนวนไม่น้อยที่จะเลิกกินปลาไปเลย เพราะอาจจะหลงทาง อาจจะจับไม่เป็น อาจจะตกน้ำตาย หรืออะไรก็แล้วแต่ ดังนั้นการที่มีผู้รู้มาสอน ผมจึงไม่คิดว่าจะเสียหายตรงไหน ตราบใดที่ผู้รู้นั้นไม่สักแต่เอาปลามาให้กินให้อิ่มไปวันๆ

อาจารย์ครับ ตามที่อาจารย์ถามว่าหมอตัวเน้นคืออะไร ไม่เน้นคืออะไร ผมเข้าใจว่ายังงี้ครับ
หมอตัวเน้น เป็นประมาณว่าจำแต่หลักๆของโรค สั้นๆ สมมติเช่น เจอ Pt มาตรวจพบ midsystolic click ก็จะตอบว่า mitral prolapse น่ะครับ สั้นๆ แต่อาจจะอธิบายไม่ได้ว่าทำไมต้องพบด้วย
แต่หมอตัวไม่เน้น ผมคิดเอาเองครับว่า คงจะประมาณว่า อ่านจะกระทั่งอธิบาย pathophysio ของอาการได้มั้งครับ มันเจออย่างงี้เพราะมันอย่างงั้น มันเลยส่งผลต่อตรงนี้ๆๆๆ
ซึ่งแบบไหนก็แล้วแต่ ผมก็คิดว่ามันดีคนละแบบกัน


Posted by : kronous , Date : 2006-03-22 , Time : 06:09:44 , From IP : 172.29.4.163

ความคิดเห็นที่ : 22


   วันนี้อากาศดีครับแนะนำให้เอาถุงเท้าไปตากแดด

Posted by : cabin_crew , Date : 2006-03-22 , Time : 10:08:22 , From IP : 172.29.4.42

ความคิดเห็นที่ : 23


   อ้อ...โทดทีลืมอ่าน.... คืองี้ครับ ถามว่าเราควรสงวนพันธุ์หมอกิน sheet ไว้รึเปล่า แลคเชอร์ถ้ามีก็ดีแต่ถ้าออกข้อสอบแบบที่คำต่อคำตรงๆเนี่ย เหมาสมไม๊ครับ

Posted by : cabin_crew , Date : 2006-03-22 , Time : 10:11:03 , From IP : 172.29.4.42

ความคิดเห็นที่ : 24


   ถ้ากินsheetแล้วรักษาคนได้ ทำให้เขามีความสุข อันนั้นก็ดี เพราะอาจารย์ที่มาสอนส่วนใหญ่คงไม่เอาอะไรที่ผิดๆหรือไม่สมควรมาสอนหรอก แต่โดยส่วนตัวแล้วผมไม่ชอบหรอก ที่ออกข้อสอบแบบถามเป็นบรรทัดน่ะ แต่บางที่มันเลี่ยงไม่ได้ อยู่ในระบบก็ต้องทำตามระบบ แหกได้บ้างพองาม

Posted by : kronous , Date : 2006-03-22 , Time : 10:22:38 , From IP : 172.29.4.163

ความคิดเห็นที่ : 25


   รู้สึกมั๊ยว่า compre ออกตาม lacture

Posted by : cabin_crew , Date : 2006-03-22 , Time : 10:22:48 , From IP : 172.29.4.42

ความคิดเห็นที่ : 26


   เราน่าจะเริ่มจากที่น้องเข้ามาเรียนแพทย์นี่ น้องมีภาพของแพทย์ไว้ในใจอย่างไรบ้างก่อนดีไหมครับ บางทีเราอาจจะค่อยๆซ้อนภาพของหลายๆมุมมองให้สอดคล้องกัน อาจจะดีกว่าการพยายามทำอะไรเพียงแค่ "ตาม" ใครบอก

ตามนิยามของหมอตัวเน้นที่ว่านั้น ไม่ว่าหลักสูตรไหนก็ไม่ได้ต้องการแบบนั้นครับ general practitioner ก็ยังคงต้องสามารถคิดวิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูลได้ คตุณลักษณะเบื้องต้นของแพทย์ทั่วไปข้อหนึ่งก็คือความสามารรถและเจตคติในการเรียนรู้ต่อเนื่องไปตลอดชีวิต

Cognitive domain นั้นมีหลายระดับ และแต่ละระดับต่างก็มีที่ใช้ทั้งสิ้นตามความเหมาะสมครับ ระดับแรกสุดคือ memory หรือ recall นั้น ฟังคำ "แรกสุด" ดูต่ำ ดูไม่ดี แต่ก็จำเป็นและสำคัญมาก เพราะอะไรที่อยู่ในความทรงจำนี้เราจะนำมาใช้ได้เร็วที่สุด เปรียบกับ computer ก็เหมือนกับ data ใน memorychip ที่เราจะ access ได้เร็วกว่าของใน hard drive เป็นร้อยพันเท่า และเร็วกว่าของใน media เช่น CD หรือ thumbdrive เป็นหมื่นเป็นแสนเท่า ยิ่งถ้าต้องใช้ CPU ในการคำนวณยิ่งต้องช้าไปเรื่อยๆ ในบางสถานการณ์ เช่น emergency นั้น เราอยากจะใช้ข้อมูลที่จำเป็นให้เร็วที่สุด

แต่ในบางสถานการณ์ที่ข้อมูลซับซ้อน ก็ต้องใช้เวลา อาจจะใช้เวลาในการคำนวณ เช่น จะสั่ง TPN ให้เด็ก 12 ปี หรือสั่ง IV fluid ให้คนไข้หลังผ่าตัด ตรงนี้ถ้าลืมอะไรไปบ้าง แต่ทราบว่าจะเปิด จะค้นที่ไหน และข้อสำคัญคือรู้ว่าจะต้องใช้อะไรบ้าง และคำนวณเป็น คิดเป็น ก้ยังสามารถทำได้อยู่ ฉะนั้น memory, interpretation, analysis, synthesis นั้นถึงแม้จะซับซ้อนต่างกัน แต่ก็มีความสำคัญในต่างกรรม ต่างวาระ

แต่ถ้ามีแต่จำอย่างเดียว วิเคราะห์ไม่เป็น หรือวิเคราะห์เป็นอย่างเดียวแต่ไม่มีอะไรเป็นต้นทุนไว้เลย มันก็คงจะมีจุดบกพร่อง อย่างแรกคือไม่มีใครสามารถจำอะไรได้หมดทุกอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน medicine อย่างหลังก็คือถ้าเราต้องเปิดค้นหา reference ก่อนทุกครั้งที่จะวิเคราะห์ได้ คนไข้มาฉุกเฉินก็คงจะเสียหายมาก เพราะเราจะทำอะไรไม่เป็นเลย ฉะนั้นแบบใดแบบหนึ่งนั้นไม่ดีแน่ๆ ต้องมีทั้งสองแบบ

อาชีพแพทย์จึงต้องทุ่มเทมากพอสมควรจึงจะสามารถ "เริ่ม" เป็นแพทย์ที่ดี ที่พึงประสงค์ได้ เจตคติจึงสำคัญเพระจะเป็นตัวตั้ง "ฉันทา" หรือความพึงพอใจที่จะทุ่มเท ถ้าคิดจะไม่ทุ่มเทจริงๆจังๆในการฝึกฝนแล้ว รู้ตัวอย่างนี้รีบๆลาออกไปเรียนอย่างอื่นจะมีความสุขต่อตนเองและคนรอบข้าง แต่ถ้ารู้ตัวล่วงหน้าว่าอะไรรออยู่ อะไรเป็นสิ่งที่ควรจะทำ ควรจะรีบสะสม เราก็มาร่วมสังฆกรรมกัน มาศึกษาผุ้ป่วยด้วยกัน เรียนเป็นทีม ทำงานเป็นทีม อย่าไปมัวกัดกัน หรือถกเถียงอะไรที่มันไร้สาระมากเกินไป เอาแต่พอ relax พอหย่อนใจ



Posted by : Phoenix , Date : 2006-03-22 , Time : 10:31:43 , From IP : 203-118-113-26.stati

ความคิดเห็นที่ : 27


   คือนอกจากเราจะคิดเพื่อวันนี้พรุ่งนี้.....ประเทศชาติและความเป็นไปของชาติ เราควรคิดถึงหรือไม่ครับ....มีรุ่นน้องมาถามผมว่าอ่านแค่ในชีทก็พอใช่มั๊ยพี่..ผมอึ้ง...แล้ว....ก็ตอบไปว่าตามใจแกสิ..... u r what u do....

เออ รักษาคนได้ยังไงก็เอาแนวทางไหนก็เอาขอให้รักษาคนได้ตกลงคุณจะคิดยังงี้จริงๆใช้มั๊ยครับ....?


Posted by : cabin_crew , Date : 2006-03-22 , Time : 10:35:33 , From IP : 172.29.4.42

ความคิดเห็นที่ : 28


   ขอบคุณที่ให้แนวคิดครับอาจารย์......

Posted by : cabin_crew , Date : 2006-03-22 , Time : 10:38:27 , From IP : 172.29.4.42

ความคิดเห็นที่ : 29


   แล้วทำไมน้องถามแล้วไม่แนะนำไปดีๆ?
ถ้าไม่พอก็บอกว่าไม่พอ ไม่ดีก็บอกไม่ดี พี่ว่าอย่างนั้นดีกว่านะ แนะนำไปสิ ทำไมต้องอึ้งด้วย
เห็นคุณอ้างเพื่อชาติเพื่ออะไรนักหนา แต่ทำแค่ให้คำแนะน้องสักนิดยังทำไม่ได้ คุณจะทำอะไรเพื่อชาติได้หรือ? เพื่อคนๆเดียวยังอึ้งเลย
สมมตินะ คุณขอความคิดเห็นอาจารย์ พออาจารย์อ่านแล้วอึ้ง บอกว่า ตามใจแกสิ คุณจะรู้สึกอย่างไร?
ส่วนแนวทางรักษาน่ะ จะเป็นยังตอนนี้ไม่ชัวร์ ไม่อยากตอบให้มากความ


Posted by : kronous , Date : 2006-03-22 , Time : 11:18:08 , From IP : 172.29.4.163

ความคิดเห็นที่ : 30


   ทำไม่ได้อย่าพูดไปครับ

Posted by : kronous , Date : 2006-03-22 , Time : 11:20:27 , From IP : 172.29.4.163

ความคิดเห็นที่ : 31


   มีข้อปฏิบัติหรือหลักการที่สำคัญอยู่อย่างหนึ่งที่ผมว่าน่าสนใจที่เราจะนำมาฝึกบ่อยๆ นั่นคือ Principle of Autoยังรวมเป็nomy ในหลักจริยศาสตร์

Principle of Autonomy นอกจากอยู่ในหลักจริยศาสตร์แล้ว ในที่ประชุม Medical Professionalism ที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ระหว่าง ABIM (American Board of Internal Medicine) ACP (American College of Physician) และ European Foundation of Internal Medicine ก็ยังรวมอยู่ใน 3 Principles หลักคือ Primary of Welfare of the Patient, Principle of Autonomy และ Principle of Social Justice

Principle of Autonomy คือสิทธิที่ปัจเจกบุคคลพึงมีในการเลือกวิธีการดำรงชีวิต ตราบใดที่ไม่ได้ไปล่วงละเมิดสิทธิผู้อื่น เป็นหลักการขั้นพื้นฐานที่คนเราจะอยู่ร่วมกันได้ และเป็นสาเหตุสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของการเกิดสงครามเมื่อหลักการข้อนี้ถูกล่วงละเมิด

การจะเป็นแพทย์ที่ดีนั้น เราพึงทราบว่าคนแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน สิ่งที่เราคิดว่าดีที่สุดสำหรับเรา อาจจะไม่ใช่สำหรับคนอื่น เป้าหมายของเราคือคุณภาพชีวิตของ "คนอื่น" ฉะนั้นบางทีนอกเหนือจากโรค จากพยาธิอะไรที่เราพอจะรู้มากกว่า แต่มิติอื่นๆของผป.นั้น บางทีเราก็ไม่ได้ทราบ เราจึงต้องไม่เป็นคนที่มี judgemental attitude ที่ชอบไปตัดสินคนนู้นคนนี้ว่าดี ว่าเลว ว่าโง่ ว่าไม่ถูกต้อง ยุคสมัยนี้เป็นยุคที่คนชอบ "ฟันธง" ก็คืออุดมด้วย judgemental attitude ผลก็คือคนที่ต่างจากเรานั้นเลวหมด ตัวเรากับคนที่คิดเหมือนเราเท่านั้นที่ดี บางคนเป็นเอามากถึงขนาดคิดว่าผป. หรือญาตินั้นการศึกษาต่ำ ไม่เข้าใจชีวิต ไม่รู้เรื่องว่าอะไรเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ลองคิดดูว่าหมอจบใหม่อายุ 24-25 ปีกำลังจะออกไปบอกคุณลุง คุณป้า พระครู เจ้าอาวาสอายุ 60-70 ปี ว่าใช้ชีวิตอย่างไรจึงจะมีคุณภาพชีวิต ลองไตร่ตรองดูว่าตัวเราเองนั้น "เข้าใจ" ชีวิตมากน้อยแค่ไหนจากประสบการณ์ไม่กี่ปีที่มี มีหมอจำนวนมากเข้าใจว่า IQ นั้นจะทำให้ตนเองรู้และเข้าใจไปหมดทุกอย่าง มีประสบการณ์ชีวิตมายังไม่ถึง 30 ปี ก็ "รู้หมด" แล้วว่าทุกข์คืออะไร ยุติธรรมมีอะไรบ้าง บางคนพลอยไม่เห็นแม้แต่เงาหัวของบุพการี เพราะคิดว่าเฉย ไม่ทันสมัย ไป degrade ประสบการณ์ที่มากกว่าตนเองหลายสิบปีว่าใช้ไม่ได้

judgemental attitude เป็นอุปสรรคสำคัญในการเรียนรู้ชีวิต และความเข้าใจชีวิตนี้เป็นวิชาที่สำคัญมากที่สุดวิชาหนึ่งของแพทย์ ไม่ใช่ชีวิตที่เป็นชีววิทยานะครับ แต่เป็นชีวิตแบบองค์รวม เป็นสังคมศาสตร์ เป็นพฤติกรรมศาสตร์ เป็นสุนทรียศาสตร์ ไอ้ที่เราเรียนชีววิทยามามากมายนั้น ไม่ได้ช่วยให้เราเข้าใจเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ลูก ไม่ได้ทำให้เราเกิดมีเมตตา กรุณา คนได้ ไม่ได้ทำให้เราเกิด altruism attitude ขึ้นมาได้

ลองถอยมาสักสองสามก้าว เวลาเรารู้ว่าอารมณ์มันพลุ่งพล่าน สงบจิตใจ ใช้ อตฺตานํ อุปมํ กเร เอาใจเขามาใส่ใจเรา พยายามเข้าใจในบริบทความคิดของเพื่อน บางทีแม้แต่ตัวเราเองอาจจะเริ่ม "เข้าใจ" ในที่มาของความคิดที่แตกต่าง ถึงแม้เราไม่เห็นด้วย แต่ก็เข้าใจว่าทำไมเขาคิดเช่นนั้น ความรู้สึกต่อต้าน ทะเลาะกัน เกลียดชังกันมันจะลดลง



Posted by : Phoenix , Date : 2006-03-22 , Time : 12:23:33 , From IP : ppp-58.11.70.78.revi

ความคิดเห็นที่ : 32


   แล้วทำไมน้องถามแล้วไม่แนะนำไปดีๆ?

ถ้าไม่พอก็บอกว่าไม่พอ ไม่ดีก็บอกไม่ดี พี่ว่าอย่างนั้นดีกว่านะ แนะนำไปสิ ทำไมต้องอึ้งด้วย

เห็นคุณอ้างเพื่อชาติเพื่ออะไรนักหนา แต่ทำแค่ให้คำแนะน้องสักนิดยังทำไม่ได้ คุณจะทำอะไรเพื่อชาติได้หรือ?

เพื่อคนๆเดียวยังอึ้งเลย

สมมตินะ คุณขอความคิดเห็นอาจารย์ พออาจารย์อ่านแล้วอึ้ง บอกว่า ตามใจแกสิ คุณจะรู้สึกอย่างไร?

ส่วนแนวทางรักษาน่ะ จะเป็นยังตอนนี้ไม่ชัวร์ ไม่อยากตอบให้มากความ

Posted by kronous() 2006-03-22 , 11:18:08 , 172.29.4.163



Posted by : cabin_crew , Date : 2006-03-22 , Time : 12:55:01 , From IP : 172.29.4.42

ความคิดเห็นที่ : 33


    ทำไม่ได้อย่าพูดไปครับ

Posted by kronous() 2006-03-22 , 11:20:27 , 172.29.4.163



Posted by : cabin_crew , Date : 2006-03-22 , Time : 12:55:36 , From IP : 172.29.4.42

ความคิดเห็นที่ : 34


   "Learning without thought is labor lost" (ลอกเค้ามา)
การสอบ NT ที่ผ่านมายอมรับเหมือนกันว่าหลาย ๆ อย่าง ผมจำมันเข้าไปในหัว(ความจำระยะสั้น) โดยไม่คิดถึงที่มาของมัน โอเคครับตอนสอบจำได้เลยทำได้.....แต่ตอนนี้หละ ถ้าไม่ maintain ไว้คงจะหายไปหมด (ซึ่งไม่มีเวลาไป maintain + ขี้เกียจ)
ความจำที่จำได้นาน คือการจำที่มีเหตุมีผล รู้ลึกรู้จริง หรือใช้บ่อย ๆ (สังเกตเอาจาก specialist)
ผมว่าเลือกใช้ให้เหมาะสมแล้วกัน

ส่วนถ้าน้องถามว่าอ่านแต่ในsheet พอไหม? ถ้าสำหรับสอบในแต่ละ block แล้วพออย่างแน่นอน ท่องไปเลยทุกตัว ออกตามsheet ตาม lecture ตามอาจารย์พูดเป๊ะ ๆ (เหมือนที่ผมเคยบ่นไปแล้วตอนอยู่ปี 2 กระทู้อันล่าง ๆ หน่อยของหัวข้อนี้แหละ) แต่ถ้าอ่าน sheet แค่ผ่านตา แล้วหาตำราอื่นมาอ่านจะตกไหม อันนี้ก็รับประกันว่าไม่ตกหรอก แต่ได้ เกรด A ยากหน่อย
จึงอยากบอกว่าใครใคร่เรียนเช่นใด ก็ให้ตามใจผู้นั้นไปเถิด ผมคงเป็นคงโชคดีที่ไม่ฝักใฝ่ในเกรดหรือคะแนนของคณะเท่าไร ได้เท่าไรเอาเท่านั้น ใครอยากลอกอยากอ่านโพย อยากดู lecture lecture ละ 5 รอบ อยากดูโพยพี่ อยากทำอะไรทำไปเถอะ ก็ตามสำนวนนั้นแหละ "you are what you eat" ความรู้ที่ได้มาก็เหมือน ๆ กัน จบเป็นหมอก็เหมือน ๆ กันนั้นแหละครับ

สิ่งที่ผมห่วงที่สุดตอนนี้คือ"ความเป็นหมอที่ดี" ผมว่าเป็นอะไรที่ยากมาก ๆ แม้แต่ผมเองนักกินอุดมการณ์ยังไม่มั่นใจว่าจะเป็น"หมอที่ดี"ได้หรือไม่ หมอเก่ง ๆ เก่งไปใครชอบก็ช่าง แต่ผมให้ความนับถือกับหมอที่ดีมากกว่า ผมไม่ทราบนิยามหมอที่ดีหรอก แต่ถ้าผมเจอผมคงรู้สึกถึงความเป็นหมอที่ดีได้

"but learning without love can not get above" (แต่งเอง)
แต่ถ้าไม่รักในสิ่งที่เรียนแล้ว
คงไม่แคล้วไม่ก้าวหน้าไปในสิ่งนั้น
ไม่ใช่แค่รักในแค่ที่เรียนที่สำคัญ
ผูกพันกัน"สัมพันธ์เพื่อน"ไม่เสื่อมคลาย

เฮ้ย !! เลิกทะเลาะกันได้แล้ว


Posted by : DogTor , Date : 2006-03-22 , Time : 14:09:43 , From IP : 172.29.4.133

ความคิดเห็นที่ : 35


   วันนี้อากาศดีเหงื่อ ออกตรงคอนิดหน่อย อยากกินสเลอปี้มากๆ หรือลูกหยีปัตตานีที่กวนกะนำตาลหวานๆอ่ะครับใครไปแถวนั้นฝากซื้อสองถุง

Posted by : cabin_crew , Date : 2006-03-22 , Time : 14:17:15 , From IP : 172.29.4.85

ความคิดเห็นที่ : 36


   เห็นด้วยกับ dortor เป็นอย่างยิ่ง หมอที่ดีไม่จำเป็นต้องเก่ง แต่ขอให้เข้าใจความต้องการของคนที่มารักษาดีกว่า นึกถึงใจเขาใจเรา ไม่มีคนไข้ของคุณคนไหนที่จะมาถามว่าหมอมีความรู้แค่ไหนเหรอ อย่างน้อยเค้ามาหาเราเพราะเค้าคิดแล้วว่า ถึงเรารักษาเค้าไม่หายแต่ เราก็สามารถมีวิธีอื่นที่จะช่วยเค้าได้ อย่างน้อยเพื่อนแหละ ที่จะคอยช่วยเราได้ คนราไม่ได้อยู่คนเดียวในโลกนะ

Posted by : Eukanuba , Date : 2006-03-22 , Time : 14:41:46 , From IP : 172.29.4.190

ความคิดเห็นที่ : 37


   lipton ice tea อีกมุมดีๆของบินหลา หากดได้ตามตู้แช่

Posted by : cabin_crew , Date : 2006-03-22 , Time : 14:50:44 , From IP : 172.29.4.85

ความคิดเห็นที่ : 38


   เงียบจัง.....โอ้สงสัยมาป่าช้าแหงๆ ไม่มีคนเลย

Posted by : cabin_crew , Date : 2006-03-23 , Time : 12:07:33 , From IP : 172.29.4.32

ความคิดเห็นที่ : 39


   คุณ cabin_crew ที่รัก
ไม่ต้องตกใจ ผมเป็นเพื่อนคุณนี่แหละ
ผมคิดว่านศพ.ทั้งหมด ไม่ได้ถูกcategorize เป็นแค่ 2 กลุ่มอย่างที่คุณเข้าใจนะครับ
น่าจะเป็นอย่างที่อ.นกว่าไว้มากกว่านะครับ
ตัวเน้นก้อมีบ้าง
พบได้ทุกคืนที่ห้องคอมมอนข้างห้องคุณ cabin
ไม่รู้สิ แต่ผมมีทั้งสองอย่างผสมกัน ไม่ได้ซ้ายโต่งเหมือนฮิตเลอร์ รึว่าขวาสุดๆเหมือนอเมริกา
แต่พองามแบบทางสายกลางในพุทธศาสนา
ผมว่าดีนะ คุณน่าจะลองใช้



Posted by : I am me , Date : 2006-03-31 , Time : 01:25:23 , From IP : 172.29.4.167

ความคิดเห็นที่ : 40


   ผมอยากทำเหมือนกันพอดีด้านผมมีคนน้อยกว่าผมจึงต้องรักษาแนวผมไว้ครับ
และอีกอย่างผมไม่ได้นับถือพุทธ...ในทางปฏิบัติ เพราะผมเป็น NRP


Posted by : cabin_crew , Date : 2006-04-14 , Time : 13:17:56 , From IP : 172.29.4.75

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.016 seconds. <<<<<