เรื่องเศร้าที่เกิดจากหมอ
สลดทารกเชียงใหม่อุแว้ออกมาแขนกุด พ่อแม่ร้องร.พ.แม่และเด็ก โดยก่อนหน้านี้ไปตรวจอัลตราซาวด์ที่ร.พ. 2 แห่ง แพทย์ระบุเด็กพิการไม่สมประกอบ แต่พอไปอัลตราซาวด์ที่ร.พ.แม่และเด็กแพทย์กลับบอกว่าปกติทุกอย่าง สุดท้ายคลอดลูกชายออกมาพิการแขนกุดทั้งสองข้างพ่อแม่ถึงกับช็อก สงสัยก่อนหน้านี้หมอตรวจไม่ละเอียด เพราะเห็นเอาแต่คุยโทรศัพท์ระหว่างตรวจ จึงไม่พบความผิดปกติ ด้านหมอโต้ระยะเวลาตั้งครรภ์ที่ตรวจยังตรวจแขนไม่ได้ เห็นส่วนอื่นสมบูรณ์จึงบอกว่าปกติ
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 1 มี.ค. นายเบญจพงษ์ โค้วตระกูล อายุ 32 ปี และนางสุดารักษ์ โค้วตระกูล อายุ 28 ปี สองสามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 31/2 ถ.เวียงพิงค์ ต.ช้างคลาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เข้าร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวเพื่อขอความเป็นธรรมกรณีบุตรพิการจากความบกพร่องของแพทย์ผู้ตรวจครรภ์ โดยนำลูกน้อยทารกแรกเกิดเพศชายอายุ 4 วันที่แขนพิการทั้ง 2 ข้างมาด้วย
นางสุดารักษ์ ผู้เป็นแม่ได้เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตนตั้งครรภ์ลูกคนนี้ จนอายุครรภ์ 3 เดือน พบว่ามีเลือดไหลออกมาจากช่องคลอด 10 ครั้ง จึงเกิดความสงสัยว่าผิดปกติแน่ และไปตรวจอัลตราซาวด์ที่ศูนย์คอมพิวเตอร์ร.พ.เชียงใหม่ราม 2 เมื่อวันที่ 19 ก.พ.48 แพทย์ที่ร.พ.เชียงใหม่รามแจ้งว่าลูกในครรภ์ไม่สมบูรณ์ และทำหนังสือส่งตัวมาตรวจที่ ร.พ.แม่และเด็กเชียงใหม่ แต่วันที่นัดเป็นวันหยุด ตนจึงได้ไปตรวจที่ร.พ.รวมแพทย์ ซึ่งแพทย์ร.พ.รวมแพทย์ ก็แจ้งว่าเด็กในครรภ์ไม่สมบูรณ์ หากครบกำหนดทารกคลอดออกมาก็จะพิการไม่สมประกอบ ถ้าต้องการจะเอาเด็กออกก็ต้องไปให้ร.พ.แม่และเด็กทำหนังสือยืนยันมา จากนั้นร.พ.รวมแพทย์จะเอาเด็กออกให้
นางสุดารักษ์กล่าวว่า หลังได้รับคำแนะนำตนเดินทางมาร.พ.แม่และเด็กอีกครั้ง เพื่อให้แพทย์อัลตราซาวด์อย่างละเอียดว่าเด็กสมบูรณ์หรือไม่ เมื่อวันที่ 4 ต.ค.48 แพทย์ตรวจพบว่าตั้งครรภ์ได้ 20 สัปดาห์ แต่หลังจากอัลตราซาวด์ แพทย์กลับยืนยันว่าเด็กในท้องสมบูรณ์แข็งแรง จึงสบายใจขึ้นและไปตรวจตามที่ร.พ.นัดครบทุกครั้งจนอายุครรภ์ได้ 25 สัปดาห์ เมื่อวันที่ 11 พ.ย.48 ก็ไปตรวจตามนัด และให้แพทย์อัลตราซาวด์ ตั้งใจจะถามและให้หมอตรวจอย่างละเอียด แต่เมื่อเข้าไปหมอกำลังพูดคุยโทรศัพท์มือถืออยู่ โดยพูดกับโทรศัพท์ว่า "รอแป๊บเดียวเดี๋ยวก็เสร็จจะรีบออกไป" ในการตรวจหมอตรวจเร็วมากไม่ถึง 2 นาทีและบอกว่าเด็กสมบูรณ์เพศชายครบ 32 ประการ ก่อนยื่นฟิล์มผลอัลตราซาวด์ให้ดู จากนั้นก็รีบเดินออกไปทันที ตนต้องเช็ดยาทาหน้าท้องเอง เมื่อมาดูฟิล์มกับสามีก็เห็นมืดไปหมด ดูไม่ออกว่าเป็นอย่างไร
นางสุดารักษ์กล่าวต่อไปว่า กระทั่งวันที่ 24 ก.พ.49 ได้คลอดบุตรชายออกมา ปรากฏว่าแขนกุดพิการทั้งสองข้าง ตนกับสามีถึงกับช็อก สามีที่เข้าไปถ่ายบันทึกวิดีโอในห้องคลอดถึงกับเป็นลม ส่วนตนก็น้ำตาไหลตลอดเวลาเมื่อเห็นสภาพลูก แพทย์ที่ทำคลอดให้ถึงกับโวยวายออกมาว่าหมอคนไหนเป็นคนตรวจอัลตราซาวด์ ตลอดระยะเวลาที่พักรักษาหลังคลอด 3 วัน ได้พยายามติดต่อกับหมอและขอให้รับผิดชอบเรื่องที่ร.พ.ผิดพลาดในการตรวจ แต่ทางร.พ.ปฏิเสธทุกอย่าง และยังบอกให้ไปร้องเรียนได้เลย ตอนนี้ตนต้องออกจากงานแล้ว เพราะต้องดูแลลูกที่พิการ จึงใคร่ขอความกรุณากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอความเป็นธรรม และให้ความช่วยเหลือบุตรชายบ้าง หากตอนที่ไปตรวจร.พ.บอกว่าลูกไม่สมบูรณ์ ก็จะขอหนังสือรับรองในการเอาเด็กออกในช่วงที่ตั้งท้อง 3 เดือนแรก เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต แต่ต้องมาเป็นเช่นนี้เพราะผลการตรวจที่ผิดพลาด
ด้านนายเบญจพงษ์ กล่าวว่า แพทย์ที่ทำคลอดลูกชาย คือ พ.ญ.ปลื้มจิต โชติกะ แต่แพทย์ที่อัลตราซาวด์เป็นคนละคนกัน ตอนนี้ลูกก็ลืมตาดูโลกแล้ว ถึงแม้จะไม่สมบูรณ์ก็จะเลี้ยงเขาให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ สงสารลูกจริงๆ ที่ต้องออกมาเป็นแบบนี้ ได้ตั้งชื่อให้ว่าด.ช.เบญจพรรดิ์ โค้วตระกูล หรือน้องฟิวส์ และอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องนี้ช่วยเหลือครอบครัวบ้าง
ต่อมาผู้สื่อข่าวติดต่อสอบถามไปยังนายแพทย์ผู้ตรวจอัลตราซาวด์นางสุดารักษ์ ได้รับการชี้แจงว่าการตรวจอัลตราซาวด์ของร.พ.แม่และเด็กเป็นการตรวจแบบ 2 มิติ คือภาพนิ่งไม่เคลื่อนไหว เป็นข้อด้อยของเทคโนโลยี หลักการตรวจเบื้องต้นต้องตรวจศีรษะ หัวใจ ว่าเต้นสม่ำเสมอไหม รอบท้อง ต้นขา ว่าเรียวได้ส่วนไหม การจะตรวจให้ทราบอย่างชัดเจนต้องหลังจาก 28 สัปดาห์หรือ 7 เดือนไปแล้ว ที่พ่อแม่เด็กบอกว่าตนตรวจแล้วบอกว่าเด็กสมบูรณ์อาจเป็นการเข้าใจผิด เพราะที่บอกคือไม่ผิดปกติ หรือเด็กปกติดีถูกต้องตามมาตรฐานการตรวจ การที่เด็กไม่สมประกอบนั้นไม่ใช่ว่าเด็กไม่สมควรจะมีชีวิตอยู่ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความผิดพลาดบวกกับเทคโนโลยีที่มีข้อจำกัดของร.พ. แต่ถึงจะทราบก่อนก็ไม่มีทางรักษาได้ เข้าใจว่าเป็นการทำร้ายจิตใจของพ่อแม่ ที่เตรียมเลี้ยงลูกที่มีอวัยวะครบ 32 ประการ แต่ขอระบุว่าได้ตรวจตามมาตรฐานตรวจครรภ์ทุกประการ ถ้าพบว่าเด็กพิการก็จะแจ้งให้ทราบทันทีตามจรรยาแพทย์
ด้านน.พ.สมพงษ์ สกุลอิสราภรณ์ ผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 10 เชียงใหม่ กล่าวว่า การตรวจดังกล่าว แพทย์ทำตามขั้นตอนทุกอย่าง แต่ที่ไม่สามารถตรวจพบว่าเด็กไม่มีแขน เนื่องจากตรวจในระยะเวลาตั้งครรภ์ประมาณ 25 สัปดาห์ ทำให้ยังไม่พบแขน ระยะเวลาที่จะสามารถตรวจดูแขนได้นั้นต้อง 28 สัปดาห์ขึ้นไป การสื่อสารระหว่างแพทย์กับผู้ตั้งครรภ์อาจไม่ตรงกัน แพทย์บอกว่าไม่พบสิ่งผิดปกติ หมายความว่าการตรวจความกว้างศีรษะ การเต้นของหัวใจ ความยาวต้นขา น้ำคร่ำ รก ทั้งหมดนี้เป็นมาตรฐาน เมื่อตรวจแล้วไม่พบสิ่งผิดปกติ จึงได้แจ้งให้กับพ่อแม่เด็กว่าปกติ ไม่ได้นับรวมถึงแขนที่ยังตรวจไม่พบ
น.พ.สมพงษ์ กล่าว
Posted by : นศ , Date : 2006-03-03 , Time : 00:30:03 , From IP : 61.7.159.134
|
