ความคิดเห็นทั้งหมด : 7

เรื่องของนางแก้ว


    "นางแก้ว" เล่าประสบการณ์กึ่งจริงกึ่งฝันน่าขนหัวลุก

ประมาณปี 2523 ดิฉันเรียนจบวิทยาลัยครูแห่งหนึ่งแถวกิ่งเพชร บ้านดิฉันอยู่ใกล้สำนักงานเขตยานนาวา การเดินทางไปทำงานทั้งขาไป-กลับ จึงจำเป็นต้องเดินทางผ่านวัดช่องนนทรีอยู่เป็นประจำ ในระยะนั้น ปัญหาเกี่ยวกับยาเสพติดกำลังระบาดอย่างหนักค่ะ คือ ผงขาว, สารระเหย(ทินเนอร์) ซึ่งอย่างหลังนี้นับเป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่นของชุมชนวัดดังกล่าว เป็นสารเสพติดที่หาซื้อได้ง่ายมาก แถมราคาถูกอีกต่างหาก

ดิฉันจะไปขึ้นรถเมล์ทางด้านหลังวัดเพื่อไปทำงาน โดยบริเวณนี้มีป้ายรถเมล์ ใกล้ๆ กันมีร้านขายข้าวแกงอยู่ร้านหนึ่ง ปัจจุบันก็ยังขายข้าวแกงอยู่เหมือนเดิมค่ะ

ที่นั่น ดิฉันได้พบเห็นเด็กชายคนหนึ่งอายุประมาณ 18 ปี ขอสมมติว่า ชื่อ "บอย" นะคะ การแต่งตัว รูปร่างหน้าตา ใครๆ เห็นก็รู้ได้ทันทีว่าเด็กคนนี้ติดสารระเหยอย่างรุนแรงทีเดียว สภาพร่างกายเหมือนเด็กอายุ 13-14 ปี รูปร่างผอมเกร็ง ดวงตาแห้งแล้งไร้ชีวิตชีวา ผิวหนังตามร่างกายต่างๆ ตกสะเก็ด แห้งเหมือนหนังงูไม่มีผิด

ดิฉันเห็นสภาพแล้วให้นึกสงสาร เวทนาเป็นอย่างมาก

เมื่อดิฉันเดินผ่านบอย แกก็ยกมือไหว้ขอเงินจากดิฉัน ดิฉันจึงถามบอยว่า ขอเงินเอาไปทำอะไร? บอยบอกว่าหิวข้าว จะเอาเงินไปซื้อข้าวกิน(ช่วงเช้า) ดิฉันจึงบอกว่า ถ้าบอยหิวข้าวจริงๆ ละก็พี่จะพาบอยไปทานข้าวแกงแถวป้ายรถเมล์ บอยก็ต้องจำยอมมานั่งทานข้าว โดยมีดิฉันนั่งดูแลการกินข้าวของบอยจนแกกินเสร็จเรียบร้อย

เหตุการณ์เป็นอยู่เช่นนี้ร่วม 2 เดือน (ในเวลา 08.00 น.-08.30 น.) จนต่อมาดิฉันเปลี่ยนงานใหม่ ได้ย้ายไปทำงานที่โคราชค่ะ ในปี 2526

คืนหนึ่ง ดิฉันก็ฝันเห็นวัดช่องนนทรี บริเวณด้านหลังต้นโพธิ์ใหญ่มีประมาณ 4 ต้น นอกนั้นเป็นป่าผสมเรือนของชาวบ้านที่มาเช่าที่วัดเป็นรายปีอาศัยอยู่

ปัจจุบันนี้ บริเวณที่ดิฉันฝันถึงอยู่ด้านซ้ายของพระอุโบสถใหม่ของวัดช่องนนทรี...ในความฝันนั้นดิฉันได้สัมผัสจิตโดยการได้ยินเสียงหวีด แหลม เล็ก ยาว โหยหวนคล้ายๆ เสียงของนกหวีด แต่เสียงนี้แปลกประหลาดยิ่งนัก คือมีความผิดปกติแฝงความน่ากลัว แสนสยดสยองปะปนอยู่ในน้ำเสียงด้วย

เสียงหวีดแหลมนี้เข้าไปในโสตประสาทสัมผัสที่ 5 คือ มีอาการขนหัวลุก...ขนหัวลุกซ่าไปทั้งตัว น้ำเสียงแสบหวีดเข้าไปในรูหูของดิฉัน...ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังได้ยินเสียงนี้ดังอยู่ตลอดเวลา

ถ้าท่านผู้อ่านได้ดูละครเรื่อง "เปรตวัดสุทัศน์" ไตเติ้ลของเรื่องนี้มีเสียงดนตรีประกอบเสียงหวีดของเปรต ยังฟังธรรมก้นว่าเสียงที่ดิฉันได้ยินกับหูอีกค่ะ

ดิฉันสงสัยผสมใคร่อยากรู้ (เป็นคนไม่กลัวผี) จึงมองหาที่มาของเสียงแปลกประหลาด ดิฉันมองขึ้นไปเหนือยอดมะพร้าว ดิฉันได้เห็นภาพเปรตตนหนึ่งมีรูปกายสูงอย่างมาก ประหลาดเท่าตึก 10 ชั้น สภาพร่างกายไม่ได้สวมเสื้อผ้าแต่อย่างใดเลย

จิตของดิฉันขณะนั้นอยากรู้ว่า เปรตตนนี้คือใคร จึงตั้งจิตอธิษฐานสำรวมกายใจ เป็นสิ่งที่แปลกประหลาดยิ่งนัก หรือจะพูดว่าปาฏิหาริย์มีจริงก็ได้ค่ะ

เมื่อดิฉันเพ่งมองอย่างพิจารณา ภาพเปรตนั้นก็คือเด็กชายที่ติดสารระเหยทินเนอร์นั่นเอง...ดวงตามีแต่ความแห้งแล้ง ว่างเปล่า แฝงความวิงวอนอยู่ในที สภาพแขนขายาวเก้งก้าง เรียกว่าหนังหุ้มกระดูก ผิวดำ เกรียมไหม้ แห้งกรัง ปากนั้นเล็กเท่ารูเข็ม...สภาพเช่นนี้เหมือนดังพระสงฆ์ท่านเทศน์จริงๆ ค่ะ

ในช่วงที่มองเห็นเปรตบอยอย่างชัดเจนนั้น เหมือนดิฉันมีดวงตาที่แสนวิเศษ หรือมีกล้องส่องทางไกลได้ส่องที่สภาพรูปร่างหน้าตาของเปรตบอยได้ชัดเจนแจ่มแจ๋วอย่างไม่น่าจะเป็นไปได้ ปกติดิฉันสายตาสั้นประมาณ 500-600 แถมเอียงซ้ายอีกด้วยค่ะ

ดิฉันจึงตั้งจิตอธิษฐานว่า...จะทำบุญตักบาตร กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลไปให้ ภาพเปรตบอยนั้นจึงค่อยๆ เลือนหายไป

ดิฉันตกใจตื่นขึ้นมา ดูนาฬิกาเป็นเวลา 05.00 น. ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้น ดิฉันได้ฝันแปลกประหลาดเป็นครั้งแรกในชีวิต จนกระทั่งทุกวันนี้ก็ไม่เคยฝันเช่นนี้อีกเลย

ต่อมา ดิฉันได้เล่าเรื่องนี้ให้คุณแม่ฟัง ท่านบอกว่า "บอย" เมื่อยังมีชีวิตอยู่ในโลกมนุษย์ มิได้ประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในศีลในธรรม หรือสร้างกุศลผลบุญแต่อย่างใดเลย เมื่อตายไปจึงได้รับผลกรรม เกิดในอบายภูมิ คือ "นรกชั้นอเวจี" ที่อยู่ต่ำสุดของนรกทุกๆ ขุม ยกเว้น "มหาอเวจีนรก" เท่านั้น บอยไม่มีใครทำบุญกรวดน้ำไปให้ จึงมาปรากฏกายให้ดิฉันมีจิตเมตตาสงสาร ทำบุญอุทิศส่วนกุศล ที่สำคัญ ดิฉันจะสวดมนต์ก่อนนอนทุกๆ วันค่ะ พร้อมกับแผ่เมตตากับสรรพสัตว์ต่างๆ

ก่อนที่ครอบครัวของดิฉันจะมาซื้อที่ดินพร้อมปลูกบ้านในปี 2522 ญาติผู้หนึ่งได้เช่าที่วัดช่องนนทรีรายปี โดยปลูกบ้านอยู่ตรงข้ามประตูวัดช่องนนทรี (ประตูใหม่)

ท่านได้เล่าว่า ประวัติวัดช่องนนทรีนี้ขึ้นชื่อลือชาว่าผีดุมากๆ รองจากวัดดอน-ยานนาวาเท่านั้นค่ะ


Posted by : นางแก้ว , Date : 2003-07-17 , Time : 01:19:02 , From IP : 202.57.175.8

ความคิดเห็นที่ : 1


   ไปหาภาพมาจากไหนเนี่ย สยดสยองจัง


Posted by : จัณฑาล , Date : 2003-07-17 , Time : 17:13:28 , From IP : 172.29.2.129

ความคิดเห็นที่ : 2


   ดูเปรตวัดสุทัศน์มากไปรึเปล่า คนที่แค่ติดยแต่ยังไม่ได้ทำความลำบากให้ใครถือว่าเป็นบาปด้วยเหรอ

Posted by : เกี๊ยวซ่า , Date : 2003-07-17 , Time : 17:26:06 , From IP : 172.29.2.235

ความคิดเห็นที่ : 3


   อะไรคือ "บาป" ล่ะครับ? ฆ่าคนหรือทำให้คนสมองเสื่อมบาปหรือไม่? ต่อให้คนๆนั้นเป็นตนเองก็เถอะ?



Posted by : Phoenix , Date : 2003-07-17 , Time : 19:51:21 , From IP : 172.29.3.207

ความคิดเห็นที่ : 4


   คุณ Phoenix ครับ
บาปที่เกิด คงไม่ใช่ว่าเป็นการทำไม่ดีต่อคนอื่น แต่คงเป็นการทำสิ่งที่ไม่ได้ต่อตนเอง และผลจากสิ่งที่ทำก็เกิด (ไม่นับเรื่องเปรตนะครับ)


Posted by : ArLim , Date : 2003-07-17 , Time : 20:10:38 , From IP : netturbo5.cscoms.com

ความคิดเห็นที่ : 5


   วิบากเกิดจากการกระทำโดยตั้งใจ ตามนิยามและ concept ไม่ได้มีข้อยกเว้นว่าทำกับตนเองแล้วจะไม่เป็นไร อันนี้จะต่างจากหลักกฏหมายที่ผู้ใหญ่สามารถจะ abuse ร่างกายตนเองได้ ตราบเท่าที่ไม่เดือดร้อนผู้อื่น (ฆ่าตัวตายก็ผิดกฏหมายนะ ผมว่า คดีอาญานี่รัฐเป็นเจ้าทุกข์)



Posted by : Phoenix , Date : 2003-07-17 , Time : 20:54:58 , From IP : 172.29.3.207

ความคิดเห็นที่ : 6


   อืม ครับ


Posted by : ArLim , Date : 2003-07-18 , Time : 03:10:49 , From IP : netturbo5.cscoms.com

ความคิดเห็นที่ : 7


   รูปสยองดีครับ ชอบๆ อิ อิ :-)

Posted by : ลิงน้อยก้นแดง , Date : 2003-07-21 , Time : 16:42:07 , From IP : 172.29.2.83

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.01 seconds. <<<<<