ความคิดเห็นทั้งหมด : 1

แก้ รธน.หลังเลือกตั้ง...?????


   วันนี้(27 ก.พ.)พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคไทยรักไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ปฏิเสธการลงสัตยาบันแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 313 เพื่อการปฏิรูปการเมืองตามข้อเสนอของพรรคร่วมฝ่ายค้าน แต่เสนอให้พรรคร่วมฝ่ายค้านทำสัญญาประชาคมแก้ไขรัฐธรรมนูญระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง จากนั้นค่อยมาพิจารณาจัดตั้งคนกลางยกร่างแก้ไขภายหลัง
ในการแถลงที่พรรคไทยรักไทยเมื่อเวลาประมาณ 16.10 น.พ.ต.ท.ทักษิณ ยังปฏิเสธข้อเสนอของพรรคฝ่ายค้านที่ให้ 4 พรรค(พรรคไทยรักไทย ประชาธิปัตย์ ชาติไทยและพรรคมหาชน) ร่วมหารือในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเห็นว่าควรเปิดทางให้ทุกพรรคการเมืองเข้าร่วม และพรรคไทยรักไทยสนับสนุนให้มีการปฏิรูปทางการเมืองและปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญมาตลอด

สำหรับรายละเอียดคำแถลงของหัวหน้าพรรคไทยรักไทยในเรื่องดังกล่าวมีดังนี้

พี่น้องประชาชนที่เคารพรัก ผมในฐานะนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ได้รับหนังสือฉบับลงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2549 จากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคมหาชน ฉบับหนึ่ง และจากหัวหน้าพรรคชาติไทย อีกฉบับหนึ่งแล้ว ด้วยความขอบพระคุณที่ยังประสงค์จะเห็นการคลี่คลายสถานการณ์ไปในทางที่ดีอย่างรวดเร็ว พรรคไทยรักไทยได้ประชุมคณะกรรมการบริหารแล้ว มีความเห็นต่อข้อเสนอของพรรคการเมืองทั้ง 3 พรรค ดังนี้

ข้อที่ 1 พรรคไทยรักไทยยินดีที่จะดำเนินการให้มีการประชุมหัวหน้าพรรคการเมืองต่างๆ แต่โดยที่ปัญหาที่จะหารือเป็นเรื่องอนาคตของชาติ และขณะนี้ต้องถือว่าทุกพรรคการเมืองไม่มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอยู่เลย จึงควรให้โอกาสทุกพรรคการเมืองที่จดทะเบียนจัดตั้งแล้ว เข้ามามีส่วนร่วมในการหารือด้วย เพื่อไม่ให้การปฏิรูปการเมืองถูกจำกัดให้เป็นเรื่องของพรรคการเมืองเพียง 4 พรรคเท่านั้น

ข้อที่ 2 พรรคไทยรักไทยขอยืนยันว่า ได้สนับสนุนการปฏิรูปการเมืองมาโดยตลอด ทั้งได้ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญฉบับแรกที่มาจากการปฏิรูป โดยการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างกว้างขวาง โดยเคร่งครัด พรรคได้ศึกษาถึงข้อบกพร่องและปัญหาอันเกิดจากรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน และแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเนื้อหาสาระ และกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งพรรคไทยรักไทยจะได้นำเสนอเรื่องนี้ต่อประชาชนอย่างเป็นระบบในการเลือกตั้งครั้งนี้

ข้อที่ 3 ในเรื่องกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 313 ที่พรรคประชาธิปัตย์ พรรคมหาชน และพรรคชาติไทย เสนอให้มีบุคคลหรือคณะบุคคลที่เป็นกลาง เป็นผู้ดำเนินการยกร่างรัฐธรรมนูญนั้น พรรคไทยรักไทยเห็นด้วยในหลักการ แต่ข้อเสนอของพรรคประชาธิปัตย์และพรรคมหาชน กับพรรคชาติไทย ยังแตกต่างกันในรายละเอียด ในส่วนพรรคไทยรักไทยนั้น เห็นด้วยกับการให้มีคณะบุคคลจำนวนหนึ่ง ประกอบกันขึ้นเป็นคณะผู้ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งอาจเป็นสภาร่างรัฐธรรมนูญอย่างเมื่อครั้ง พ.ศ. 2539 หรือจะมาจากการเลือกกันเองของบุคคลที่เสนอชื่อมาจากหลากหลายสาขาอาชีพทั่วประเทศ และมีจำนวนมากกว่าที่ต้องการหลายเท่าก็ได้ แนวทางนี้ ผู้ที่เคยเห็นระบบสมัชชาแห่งชาติ และสภาสนามม้า มาแล้วอาจพอจำได้ แต่ต้องดัดแปลงให้เข้ากับยุคสมัย และแก้ไขข้อบกพร่องบางส่วนเสียใหม่ แต่เมื่อยกร่างเสร็จแล้ว ควรมีการเชื่อมโยงกับประชาชนด้วยการขอประชามติ โดยเฉพาะในประเด็นที่ยังมีความขัดแย้ง ไม่มีข้อยุติ

ข้อที่ 4 พรรคไทยรักไทยขอเรียกร้องให้ทุกพรรคการเมือง นำเสนอจุดยืนและแนวทางของตนในการปฏิรูปการเมือง ไม่ว่าจะเป็นข้อเสนอในการแก้ไขในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือข้อเสนออื่นใดต่อประชาชนในการเลือกตั้งครั้งนี้ อย่างเป็นระบบ และเป็นรูปธรรม เพื่อให้เป็นสัญญาประชาคมว่า หากพรรคการเมืองของตนได้รับเลือกตั้งแล้ว จะปฏิบัติตามสัญญาประชาคมดังกล่าว และในระหว่างนี้ ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยึดมั่นในครรลองประชาธิปไตยโดยเคร่งครัดเพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง หลังจากนี้เราจะขอเชิญหัวหน้าพรรคการเมืองทุกพรรค บวกกันไม่เกิน 3 คน ของแต่ละพรรคบวกไม่เกิน 3 ไปพบกันที่ห้อง 309 อาคารวุฒิสภา เวลา 18.00 น. เพื่อที่จะได้พูดคุยกันว่าเราควรจะ เราเห็นด้วยกันไหม เห็นร่วมกันไหมว่าจะมีการปฏิรูปการเมือง เราเห็นด้วยกันใช่ไหมว่าเราจะมีคนกลาง แต่ส่วนวิธีการจะเป็นอย่างไรนั้นเป็นรายละเอียดที่จะต้องมาทำร่วมกันหลังการเลือกตั้ง แต่ขอให้ทุกคนไปบอกกับประชาชนเสียว่าจุดยืนของแต่ละพรรคจะเอาตรงนี้ แล้วรายละเอียดมาคุยกันหลังจากที่เข้าสภาแล้ว เราคงมีการแก้รัฐธรรมนูญเพื่อให้นำไปสู่การตั้งคนกลางได้ จะตั้งคนกลางแบบไหนนั้นจะไปคุยกัน ตกลงกันตอนเข้าสู่สภาแล้ว อันนั้นจะเป็นหลักกว้าง
( นสพ.ผู้จัดการ)




Posted by : สหายหุบเขาฝนโปรยไพร , Date : 2006-02-27 , Time : 18:43:07 , From IP : 172.29.1.146

ความคิดเห็นที่ : 1


    มาดูมาตรา 313 ดีกว่า คือ อะไร

หมวด ๑๒
การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ


มาตรา ๓๑๓ การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญจะกระทำได้ก็แต่โดยหลักเกณฑ์และ
วิธีการ ดังต่อไปนี้

(๑) ญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมต้องมาจากคณะรัฐมนตรี หรือจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
มีจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร
หรือจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภามีจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของ
จำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะเสนอหรือร่วม
เสนอญัตติดังกล่าวได้เมื่อพรรคการเมืองที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนั้นสังกัดมีมติให้เสนอได้

ญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่มีผลเป็นการเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบ
ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเปลี่ยนแปลงรูปของรัฐ จะเสนอมิได้

(๒) ญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมต้องเสนอเป็นร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมและให้รัฐสภา
พิจารณาเป็นสามวาระ

(๓) การออกเสียงลงคะแนนในวาระที่หนึ่งขั้นรับหลักการ ให้ใช้วิธีเรียกชื่อและลง
คะแนนโดยเปิดเผย และต้องมีคะแนนเสียงเห็นชอบด้วยในการแก้ไขเพิ่มเติมนั้น ไม่น้อยกว่า
กึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา

(๔) การออกเสียงลงคะแนนในวาระที่สองขั้นพิจารณาเรียงลำดับมาตรา ให้ถือเอา
เสียงข้างมากเป็นประมาณ

(๕) เมื่อการพิจารณาวาระที่สองเสร็จสิ้นแล้ว ให้รอไว้สิบห้าวัน เมื่อพ้นกำหนดนี้แล้ว
ให้รัฐสภาพิจารณาในวาระที่สามต่อไป

(๖) การออกเสียงลงคะแนนในวาระที่สามขั้นสุดท้าย ให้ใช้วิธีเรียกชื่อและลงคะแนน
โดยเปิดเผย และต้องมีคะแนนเสียงเห็นชอบด้วยในการที่จะให้ออกใช้เป็นรัฐธรรมนูญมาก
กว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา

(๗) เมื่อการลงมติได้เป็นไปตามที่กล่าวแล้ว ให้นำร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมขึ้น
ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย และให้นำบทบัญญัติมาตรา ๙๓ และมาตรา ๙๔ มาใช้บังคับ
โดยอนุโลม


( http://www.parliament.go.th/con40/sec-12.htm)


Posted by : .. , Date : 2006-02-27 , Time : 18:45:45 , From IP : 172.29.1.146

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.003 seconds. <<<<<