"ทักษิณ"รวยกว่า"บิล เกตส์"
โดย ประสงค์ วิสุทธิ์
กลับมาเรื่องที่กำลัง "ทอล์ค ออฟ เดอะทาวน์"คือการขายหุ้นบริษัทชิน คอร์ปอเรชั่น หรือชินคอร์ป จำนวน1,487.7 ล้านหุ้น มูลค่ากว่า 73,300 ล้านบาท
ของครอบครัวชินวัตร-ดามาพงศ์ให้แก่กองทุนเทมาเส็กของสิงคโปร์
ซึ่งมากที่สุดในประวัติศาสตร์ตลาดหุ้นไทย
ผมมีข้อมูลชุดหนึ่งซึ่งผมไม่รับรองความเป็นวิชาการดังนั้น นักวิชาการไม่ว่าด้านไหนๆ ไม่ต้องมาโต้แย้งใดๆเพียงแต่ต้องการนำเสนอให้ขบคิดเล่นๆ
เมื่อปลายปี 2548วารสารการเงินการธนาคารรายข้อมูลเศรษฐีหุ้นไทย
ซึ่งจากข้อมูลดังกล่าวพบว่า ครอบครัวชินวัตร-ดามาพงศ์ถือครองหุ้น (หลายบริษัทไม่เฉพาะชินคอร์ป) รวมกันประมาณ49,781 ล้านบาท ยังไม่รวมหุ้นชินคอร์ปในส่วนที่บริษัท Ample Rich Investments Ltd. ถืออยู่ 329.2 ล้านหุ้น
ถ้ารวมแล้วมีมูลค่าประมาณ 63,000 ล้านบาท
แต่ปรากฏว่า การขายหุ้นครั้งนี้ครอบครัวชินวัตร-ดามาพงศ์ได้เงินสดๆ มาถึง 73,300 ล้านบาท มากกว่ามูลค่าหุ้น(ที่เป็นเพียงตัวเลข) เมื่อปลายปี 2548 ถึง 10,300ล้านบาท
แม้จะเป็นเงินจำนวนมหาศาลแต่ก็ไม่มีทางเป็นไปได้ที่ครอบครัวพ.ต.ท.ทักษิณจะรวยกว่าบิล เกตส์ เจ้าพ่อไมโครซอฟท์อัครมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลก
ครับ ถ้าคิดเทียบกันตัวต่อตัว
พ.ต.ท.ทักษิณแม้จะร่ำรวยชนิดที่เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ไม่เคยเห็นหรือแม้แต่ตายไปแล้วอีกสิบชาติก็ไม่มีวันพบแต่ก็ไม่มีทางติดฝุ่นเจ้าพ่อไมโครซอฟท์
แต่ถ้าเปรียบเทียบโดยเอาปัจจัยทางเศรษฐกิจของแต่ละประเทศอย่างง่ายๆ
และที่มาแห่งความร่ำรวยมาประกอบแล้ว ผมยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณรวยกว่าบิล เกตส์แน่
ปัจจัยที่ว่านี้คือ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพีที่พ.ต.ท.ทักษิณยึดเป็นสรณะในการบริหารประเทศนั่นแหละ
บิล เกตส์ ทรัพย์สินอยู่ประมาณ 51,000 ล้านดอลลาร์หรือประมาณ 2.04 ล้านล้านบาท (ปี 2005)ขณะที่จีดีพีสหรัฐอเมริกาปี 2004 เท่ากับ 11.6 ล้านล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 464 ล้านล้านบาท
เมื่อเทียบทรัพย์สินของบิล เกตส์กับจีดีพีสหรัฐแล้วจะมีสัดส่วนเพียง 0.43%
ขณะที่ครอบครัว พ.ต.ท.ทักษิณมีเงินสดๆ ในมือ 73,300 ล้านบาท (ยังไม่รวมสินทรัพย์ในบริษัทธุรกิจอื่น เช่น เอสซี แอสเสท,โรงพยาบาลต่างๆ และที่ดินจำนวนมหาศาล) ขณะจีดีพีของประเทศไทยประมาณ 7 ล้านล้านบาท
เมื่อเทียบทรัพย์สินของครอบครัว พ.ต.ท.ทักษิณกับจีดีพีของสหรัฐแล้ว มีสัดส่วนกว่า 1%
ดังนั้น ครอบครัว พ.ต.ท.ทักษิณจึงรวยกว่าบิล เกตส์ กว่า 2 เท่าตัว
ปัจจัยต่อมาคือ ที่มาแห่งความมั่งคั่งของบิล เกตส์
คือทรัพย์สินทางปัญญาหรือซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ที่ขายได้ทั่วโลก
จึงกล่าวได้ว่า ความร่ำรวยของบิล เกตส์ มาจากการดูดเงินจากคนทั่วทั้งโลก
ขณะที่ครอบครัว พ.ต.ท.ทักษิณร่ำรวยจากธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่
ซึ่งเป็นสัมปทานที่ได้จากรัฐซึ่งขายได้ขอบเขตจำกัดเฉพาะประเทศไทย
(ส่วนชินแซทเทลไลท์อาจมีลูกค้าในต่างประเทศบ้างแต่เป็นส่วนน้อย)
ครอบครัวพ.ต.ท.ทักษิณจึงดูดความร่ำรวยจากคนไทยทุกชนชั้นโดยเฉพาะจากรากหญ้าที่รัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณเอาเงินของรัฐไปแจกจ่ายในรูปแบบต่างๆ เช่น
กองทุนหมู่บ้าน เป็นต้น
อาจมีผู้คนถามว่า ที่มาของความร่ำรวยมีความหมายอะไร บางครั้งที่มาและวิธีการที่ได้มาของความร่ำรวยอาจสะท้อน "จิตเดิมแท้" ได้เป็นอย่างดี
ไปดูเส้นทางของเงินที่ผันลงชนบทรากหญ้าให้ดีๆว่าสุดท้ายไหลไปรวมอยู่ที่ไหน?
ไปดูเงินที่ลงเมกกะโปรเจคต่างๆ
ให้ดีว่าสุดท้ายไหลไปรวมไหลไปกองอยู่ที่ไหน?
ถ้าอยู่ครบเทอมหรือต่ออีกสมัย คงเหลือเศษๆกระเด็นให้พวกตัวฮังเลเยอะเลยกระมัง.......จึงออกโรงปกป้องข่มขู่ฝ่ายตรงข้ามและปรามอดีตพลพรรคเดียวกันได้อย่างอัปลักษณ์เป็นที่สุด....
Posted by : รักประเทศไทย , Date : 2006-01-28 , Time : 23:31:17 , From IP : 172.29.7.141
|