ความคิดเห็นทั้งหมด : 2

ทุกสิ่งรอบตัวเรา ต่างก็มีความหมายในตัวของมัน


   ทุกสิ่งรอบตัวเรา ต่างก็มีความหมายในตัวของมัน....มีที่มา....และแน่นอน...ต้องมีที่ไป

เธอเคยเห็นรถวิ่งบนท้องถนนไหม
แน่นอน...เคยเห็นซิ
แล้วเธอคิดว่าที่รถมันวิ่งได้นั้นต้องมีคนขับไหม
แน่นอน...ไม่มีคนขับมันจะวิ่งได้เหรอ

ทีนี้เธอลองแหงนหน้ามองขึ้นไปบนฟ้ากว้างนั่นซิ........

เธอเคยเห็นพระจันทร์ และดวงดาวเหล่านั้นมันโคจรตามวงจรของมันไหม....
อือ...ก็เคยมองพระจันทร์อยู่บ่อย ๆ มันก็สวยดีนะ เวลาพระจันทร์มันเต็มดวงในแต่ละครั้งในรอบวงโคจรของมันนะ
แล้วเธอคิดว่าที่พระจันทร์ และดวงดาวนับล้านดวงเหล่านั้นมันโคจรตามวงโคจรของมันอย่างถูกต้องแม่นยำนั้น มันเป็นความบังเอิญที่หลาย ๆ คนที่ไม่รู้จะบอกยังไงเลยยกให้กับคำว่า "ธรรมชาติ" หรือว่ามันเกิดจาก "ผู้มีอำนาจ" ผู้ใดผู้หนึ่งมาจัดระบบมัน และทำให้ทุก ๆ สิ่งในจักรวาลแห่งนี้เป็นไปตามวงโคจรของมัน อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย

ไม่ซิ...ในจักรวาลแห่งนี้มีดวงดาวและสิ่งต่าง ๆ เป็นล้านล้านอย่าง มันจะบังเอิญได้ไงกัน.

นั่นซินะ...มันจะบังเอิญได้ไงกัน ถ้าไม่ใช่เกิดจากความประสงค์ที่จะให้มันเกิดขึ้นอย่างนั้นจาก "ผู้ที่สร้าง" มันมา.....มันก็คงไม่ต่างอะไรกับที่เราเห็นรถที่วิ่งอยู่ตามท้องถนน....แน่นอนเราเชื่อว่ารถเหล่านั้นต้องมีผู้สร้างมันมา และที่สร้างมาก็ต้องมีจุดประสงค์ของเขา ฉันใดก็ฉันนั้น.

ที่ฉันมีชีวิต และฉันมีความหวังอยู่ถึงทุกวันนี้ ฉันก็เชื่อว่า "ต้องมีผู้ที่สร้างฉันมา"....สร้างให้ฉันมีตัวตน และมีความคิด...สร้างฉันขึ้นมาด้วยความมหัศจรรย์ยิ่งกว่าสิ่งใด ๆ ที่ฉันเคยพบ....

เธอลองคิดดูซิว่ามันน่ามหัศจรรย์หรือเปล่าที่ครั้งหนึ่ง เมื่อหลายปีที่ผ่านมา มีตัวอะไรก็ไม่รู้ ตัวเล็ก ๆ ตัวหนึ่ง...ซึ่งหลายคนเรียกมันว่า "สเปิร์ม"...ได้ไปผสมกับก้อน ๆ หนึ่ง...ซึ่งหลายคนตั้งชื่อให้มันว่า "ไข่"...และเมื่อนั้นแหละความมหัศจรรย์ที่กำลังเริ่มขึ้น...แต่ไม่หรอก...ที่จริงมันก็น่ามหัศจรรย์ตั้งแต่ ทำไม "เจ้าตัวเล็ก" มันถึงรีบวิ่งไปหา "ไข่"โดยไม่รีรอ ทั้ง ๆ ที่ทั้งคู่ต่างไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ไม่เคยนัดแนะกันมาก่อนว่า "เธอรออยู่นี่นะ วันหนึ่งเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ฉันจะมาหาเธอ...ฉันสัญญา"

และก็มีผู้(ที่อยาก)รู้หลายคนพยายามอธิบายว่า "ที่สเปิร์มมันวิ่งไปหาไข่ได้ก็เพราะมีสารบางอย่างที่ไข่หลั่งออกมา เพื่อเรียกให้สเปิร์มไปหา"...และนี่ก็เป็นอีกความมหัศจรรย์หนึ่งที่น่าคิดว่าทำไม ทั้ง ๆ ไข่ไม่เคยรู้จักเจ้าสเปิร์มมาก่อน อีกทั้งยังอยู่ในคนละคน เหมือนอยู่ไกลกันคนละโลก...แต่ไข่ก็สร้างสารที่ช่วยเรียกเจ้าสเปิร์มเข้าไปหา ยังกับว่ารู้จักกันมาแต่ครั้งเก่าก่อน...

แล้วเธอคิดว่ามันน่ามหัศจรรย์ไหม ที่อยู่ ๆ หลังจากที่ไข่ กับเจ้าสเปิร์มผสมกันแล้ว...จากลักษณะของมันที่เกิดจากส่วนประกอบที่เรียกว่า "เซลล์" ไม่กี่อัน...แต่เมื่อเวลาผ่านไป จนมาถึงวันนี้...กลับกลายมาเป็น "เซลล์" ต่าง ๆ อย่างมากมายที่เมื่อมันมาประกอบกันแล้วกลายเป็น "ผิวหนัง" ...กลายเป็น "เส้นขน" ...กลายเป็น "กระดูก"...และอีกหลาย ๆ อย่าง และในสิ่งย่อยหลาย ๆ อย่างเหล่านี้เธอเคยสังเกตุเห็นความมหัศจรรย์ถึงหน้าที่และพัฒนาการของมันหรือเปล่า...เอาเป็นว่าฉันจะลองถามเธอก็แล้วกันว่าทำไม "เส้นผม" กับ "ขนคิ้ว" ทั้ง ๆ ที่มันเป็น "ขนเหมือนกัน...แต่การยาวของมันไม่เหมือนกัน...เธอลองไม่ต้องตัดเส้นผมดูซิ มันก็จะยาวต่อไปเรื่อย ๆ...แล้วเธอลองโกนขนคิ้วดูซิ มันจะยาวมาแค่ขนาดหนึ่ง...แล้วมันก็หยุดยาวอย่างอัฒโนมัติ ตามโปรแกรมที่มันถูกตั้งไว้...ทำไมมันเป็นอย่างนี้ละ...นั่นซิ ฉันก็ไม่รู้...เธอช่วยบอกฉันหน่อยได้ไหม...

เอะ หรือสิ่งเหล่านี้มันเป็น "ความบังเอิญ" ...
ไม่ซิ ต้องพูดว่ามันเป็น "ธรรมชาติ"...

อืม.... มันก็ง่ายดีนะ...เวลาเราไม่เข้าใจอะไร ก็บอกไปว่า "มันเป็นสิ่งที่ธรรมชาติให้มาอย่างนี้อยู่แล้ว...จะไปสงสัยอะไรมาก"...

นั่นซินะ....จะไปสงสัยอะไรมาก...สำหรับฉันนะเหรอ นอกจากฉันเชื่อว่า "ทุกอย่างต่างก็มีความหมายในตัวของมัน....มีที่มา....และต้องมีที่ไป" แล้ว...ฉันยังเชื่อว่า "ความหมาย"..."ที่มา"..."ที่ไป"...เหล่านั้นต้องมี "ผู้สร้าง" มันมา และ สิ่งถูกสร้างทุกอย่างต่างก็ถูกสร้างอย่างมี "วัตถุประสงค์"...

และเมื่อรวมเป็น "มนุษย์" ทั้งตัว อย่างเช่นตัวฉันในวันนี้...ฉันก็เชื่อว่า...

....ฉันคงไม่ถูกสร้างมาเพื่อแค่ให้ลืมตามาดูโลก...
....แล้วแค่ให้เติบโตขึ้นมาเพื่อรู้จักกับผู้คนมากมาย...
....แล้วแค่ให้ปฏิสัมพันธ์กับผู้คนเหล่านั้น...
....แล้วแค่ให้มีชีวิตอยู่เพียงหกสิบกว่าปีแล้วก็หายไปจากโลกใบนี้...


มนุษย์โลกแต่ละรุ่น ๆ ที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป...มีความหมายอยู่แค่นี้เองนะหรือ...

ถ้าอย่างนั้น ฉันคิดว่าไม่น่าจะต้องเกิดมาเลย...แค่เป็น "เจ้าสเปิร์ม" น้อยก็คงเพียงพอ...มันก็คงไม่ต่างอะไรกันเลยนี่...

....อย่างน้อยเจ้าสเปิร์มก็ได้รู้จักกับเพื่อน ๆ สเปิร์มมากมายหลายร้อยล้านตัว มากกว่าตอนเป็นมนุษย์เสียอีก...
....อย่างน้อยเจ้าสเปิร์มก็ได้ปฏิสัมพันธ์กับ "ไข่" เพื่อนใหม่ของมัน และเป็นเพื่อนที่จริงใจยอมให้เข้าไปในร่างตน เห็นใหม จริงใจกว่าตอนรู้จักกับมุษย์ซะอีก...
....อย่างน้อยเจ้าสเปิร์มและไข่ ก็มีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนชีวิตไปเรื่อย ๆ ในรอบวัน รอบเดือน มีตั้งหลายชีวิต มากกว่าตอนเป็นมนุษย์เสียอีก....


แล้วมนุษย์ละ...มีค่าอยู่แค่นี้เองหรือ...

แน่นอนไม่ใช่...เพราะผู้ที่ทรงสร้างมนุษย์มานั้นได้ทรงให้ "ความคิดและสติปัญญา" อันมีค่ามาด้วย...ทำให้มนุษย์นั้นมีสิทธิ์ที่จะคิด และตัดสินใจ ว่าสิ่งใหนจริง...สิ่งใหนเท็จ...สิ่งใหนไม่ขัดกับสติปัญญา...สิ่งใหนไม่เข้ากับสติปัญญา...

และในเมื่อเธอเชื่อว่า "รถ" นั้นต้องมี "คนสร้าง"...และมี "คนขับ"...แน่นอน...สติปัญญาเธอก็จะบอกว่า "ทุกสิ่งในจักรวาล" นั้นก็ต้องมี "ผู้สร้าง"...และมี "ผู้ควบคุม"

หากวันหนึ่ง...มีคนนำ "รถ" มาให้เธอฟรี ๆ หนึ่งคัน...แน่นอน...เธอก็ต้องขอบคุณเขา และอาจจะตอบแทนเขาด้วยสิ่งของบางอย่าง

แล้วที่ทุกวันนี้...ที่มีผู้นำ "ชีวิต" มาให้คุณได้มีอยู่ทุกวันซึ่งค่ากว่ารถเป็นใหน ๆ นั้น...แล้วสติปัญญาของเธอ ไม่นึกขอบคุณผู้ให้บ้างเลยเหรอ...

แล้วทีนี้เธอรู้หรือยังละ...ว่าหน้าที่หลักของเธอที่อยู่บนโลกใบนี้คืออะไร...

และที่สำคัญ...

สิ่งนั้นมันจะทำให้เธอแตกต่างจากสิ่งถูกสร้างอื่น ๆ ...แม้กระทั่ง...

...."เจ้าตัวน้อย"...







Posted by : แสดงความคิดเห็น , Date : 2006-01-24 , Time : 12:11:52 , From IP : 172.29.4.119

ความคิดเห็นที่ : 1


   อัลฮัมดุลิ้ลละฮ์


Posted by : ยูริ , Date : 2006-01-24 , Time : 13:10:01 , From IP : 172.29.7.156

ความคิดเห็นที่ : 2


   ดีจังครับ

Posted by : ไม่บอกนะ , Date : 2006-02-02 , Time : 20:01:16 , From IP : 172.29.4.237

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.003 seconds. <<<<<