ความคิดเห็นทั้งหมด : 36

งานราตรีสีเขียวที่ผ่านมา


   อยากทราบว่า อาจารย์ พี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆมีความเห็นว่ายังไงคะ ส่วนตัวรู้สึกว่าคนในห้องทองจัทร์น้อยจัง ที่ว่างพียบเลย ละคร และ โชว์ สนุกดีนะคะ ปี1อลังการงานสร้างมาก

Posted by : ^_^ , Date : 2003-06-30 , Time : 17:15:11 , From IP : 172.29.2.100

ความคิดเห็นที่ : 1


   ช่วยเอารูปมาลงให้ดูด้วยซิคะ

Posted by : อยากเห็น , Date : 2003-06-30 , Time : 18:59:11 , From IP : 203.113.76.10

ความคิดเห็นที่ : 2


   ปีนี้การแสดงน่าสนใจน่ะ ยิ่งมีอาจารย์มาแจมด้วยแล้ว ตื่นตาตื่นใจมากขึ้น
น่าเสียดายน่ะ คนน้อยไปหน่อย ประชาสัมพันธ์น้อยไปหรือรูปแบบงานไม่น่าสนใจ
หรือเวลาไม่เอื้อน่ะ.....เหอะ+++++ แต่ปีนี้ที่เห็นได้ชัดคือ อาหารไม่work เลยอ่ะ
โดนตัดงบเหรอ?


Posted by : someone , Date : 2003-06-30 , Time : 19:20:29 , From IP : netturbo2.cscoms.com

ความคิดเห็นที่ : 3


   อาหารไม่ใช่แค่ไม่ work นะ แย่มากกกกกกกกๆๆๆๆๆเลยแหละ ทั้งไม่พอแบบสุดๆ ชุลมุนด้วย โต๊ะก็ฝุ่นหนาเตอะ อาจารย์ที่ให้เกียรติมาก็นั่งมองแก้วน้ำเปล่าบนโต๊ะตาปริบๆ ทำได้ไงเนี่ย น่าเกลียดจริงๆ

Posted by : บ่นๆ , Date : 2003-06-30 , Time : 21:01:39 , From IP : 172.29.2.165

ความคิดเห็นที่ : 4


   ก่อนอื่น สิ่งที่ผมจะโพสต่อไปนี้ เป็นเพียงความคิดของคนๆหนึ่ง ที่มีต่อการจัดงานในครั้งนี้ ผมต้องขอโทษหากบางคำ บางประโยค เป็นคำพูดที่รุนแรงเกินไปสำหรับผู้จัดงาน แต่ผมคิดว่าเป็นการดีหากมีการติเกิดขึ้น เผื่อจะได้เกิดการพัฒนาการจัดการให้ดีขึ้นบ้างในปีต่อๆไป

1. เริ่องอาหาร ไม่คิดว่า การจัดการอาหารจะแย่ลงขนาดนี้ ผมคิดว่านี่คงเป็นวิธีการแก้ปัญหาของผู้จัดเรื่องอาหารไม่เท่าเทียมกันในแต่ละสายรหัส อาหารบางอย่างน้อยเกินไป เลยเลือกอาหารเป็นอาหารจานเดียว ผมคิดว่าอาหารจานเดียวไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอะไรเลย หากไม่มีการจัดการทีระบบการจัดแบ่งอาหาร เท่าที่สังเกตุ น้องปี 3 ที่มาช่วยแบ่งอาหารไม่สามารถจัดการกับฝูงชนมากๆได้เลย ผลปรากฏว่า ทุกคนแย่งกันหยิบอาหาร ราวกับว่า จะไม่ได้รับประทาน ใครมาก่อน ก็โกยไปก่อน ตักไก่ ตักปลาไปทีละมากๆ สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือ คนที่มาหลังไม่ได้อาหาร โดยเฉพาะบางสายที่มีอาจารย์ที่ปรึกษามาด้วย นักศึกษาแย่งไม่ทัน ไม่ได้กิน ว่าไปอย่าง แต่อาจารย์ที่อุตส่าห์มา แทนที่จะแบ่งอาหารส่วนหนึ่งไว้ให้อาจารย์ก่อนกลับต้องให้อาจารย์นั่งโต๊ะเปล่า ผมว่ากระไรอยู่นะ

ตอนผมอยู่ปี 1 การจัดงานไม่ใช่แบบนี้ อาหารที่สั่งมาเป็น บุฟเฟ่ต์ ทุกคนที่มาต่างมีจานเป็นของตัวเอง และ ตักแบ่งอาหารไปเฉพาะที่ตนเองอิ่มเท่านั้น หากไม่อิ่มจึงค่อยตักใหม่ ซึ่งทำให้อาหารเพียงพอต่อคนจำนวน 500-600 คน ปัญหาที่สำคัญ คือ มีเพียงบางกลุ่มไม่ทราบมารยาทของการรับประทานอาหารแบบนี้ ที่ตักกับข้าวปริมาณมากมารับประทานกันเองในหมู่เพื่อนฝูง คนที่มาหลังก็ไม่ได้รับประทาน โดยเฉพาะอาหารยอดนิยม เช่น ไก่ทอด พออาหารที่ตักไปแล้วเหลือรับประทานกันไม่หมด ทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่า การทำเช่นนั้นน่าเกลียด ไม่มีมารยาทในการรับประทานอาหารแบบ บุฟเฟ่ต์ เลย แต่หากว่ามีการจัดการระบบที่เข้มงวดกว่านี้ เช่น มีการลงทะเบียนจาน คือ 1 คนได้ 1 จานเท่านั้น ปัญหานี้อาจไม่เกิดขึ้นก็ได้

ส่วนเรื่องอาหารของอาจารย์ การจัดแบบนี้ไม่เคยมีปัญหา เพราะมีการแบ่งอาหารส่วนหนึ่งไว้ให้อาจารย์รับประทาน แถมยังจัดแต่งอย่างสวยงามอีกต่างหาก ซึ่งทำให้งานดูไม่น่าเกลียด อยากให้ลองคิดดูอีกทีถึงการจัดงานในปีหน้านะครับ

2. เรื่องการจัดงาน งานบนเวทีค่อนข้างดี แต่เรื่องการจัดการเกี่ยวกับเกม ทำไมยุ่งเหยิง ตั้งแต่ปี 1 ผมไม่เคยเห็นการจัด บิงโก ยุ่งเหยิงขนาดนี้ ทำไมปีนี้ของรางวัลค่อนข้างน้อย ทำไมไม่มีคนมาขายบิงโก ทำไมจัดแค่รอบเดียว ทำไม ทำไม ทำไม ปัญหาพวกนี้วิ่งวนในหัวผม ผมรู้สึกว่า การจัดงานปีนี้หวงเวลามากๆ ทุกอย่างต้องตรงเวลา ทำให้งานมันรึบๆ แทนที่จะได้นั่งอย่างมีความสุข กลับเจองานที่เร่ง speed จนงงไปหมด หรือค่ายอาสา ไมต้องการเงินทุนแล้วเหรอครับ ถึงจัดงานอะไรแบบลวกๆ นั่นทำให้ผมเสียความรู้สึกมาก แต่ก็ดีเหมือนกัน เพราะ เงินก็ไม่รั่วไหลออกจากกระเป๋าตังค์ของผมเลย ทั้งๆที่ทุกปีต้องเสียอย่างน้อย 100 บาท กับการซื้อไบเกม ทั้งเล่นเอง ทั้งซื้อให้น้องปี 1 แต่ปีนี้เสียแค่ 20 บาท^_^

3. ผมคิดว่าการจัดงานครั้งนี้ ขาดการเตรียมงาน ในระยะยาว โดยสังเกตจากการทำงานที่ไม่มีระบบการจัดการ ทั้ง อาหาร การจัดงาน แถมนอกจากนี้ ยังไม่มีการประเมินผลเสียอีก หรือพวกคุณไม่ต้องการ feed back ของการจัดงาน ไม่อยากทราบปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อให้งานนี้พัฒนาให้ดีขึ้นเหรอครับ

สุดท้าย ผมอยากบอกว่า สิ่งเดียวที่ทำให้ผมประทับใจในการจัดงานครั้งนี้ คือ วีดีทัศน์ ของ อาจารย์ ที่ทำให้เราเห็นว่า ไม่ใช่เฉพาะ นศพ. หรอกที่กล้าแสดงกล้าทำเช่นนี้ ก่อนหน้านี้ก็มีอาจารย์เคยทำมาแล้วเช่นกัน ได้ซึมซาบความอบอุ่นของอาจารย์ ได้ชื่นชมความคิดสร้างสรร ที่อาจารย์แต่ละท่านได้เคยแสดง ได้เห็นอารมณ์ขันของอาจารย์ สิ่งนี้ทำให้ผมประทับใจอย่างสุดๆ

หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ปีหน้างานนี้จะมีการพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ ฝากน้องๆไว้ด้วยแล้วกันนะครับ ขอบคุณครับ


Posted by : โบทซึมุ , Date : 2003-06-30 , Time : 22:58:59 , From IP : 172.29.2.165

ความคิดเห็นที่ : 5


   เห็นด้วยกะท่านพี่โบ่นะคับ ทั้งเรื่องอาหาร งานบนทองจัน การขายบิงโก

ประทับใจการแสดงของอ.เหมือนกันค่ะ ทำให้รู้สึกดีจัง.. อบอุ่นยังไงก็ไม่รู้อะ...

บิงโกก็เหมือนพี่โบ่อีกแหละ... ทำไมขายเร็ว ออกเลขเร็วจังเลย
จริงๆยังไม่เห็นเลยว่าใครเป็นคนขาย... งงแฮะ..
แต่ก็ดี... ไม่ต้องเสียตังค์.. อิอิ.. ชอบมากๆเรื่องนี้

แต่เรื่องอาหารเนี่ย จริงๆเปลี่ยนมาเป็นแบบนี้3ปีแล้วมั้ง
ก็ดีนะ ได้นั่งกินกับสายรหัส ชอบนะ ^_^
แต่เรื่องความมั่วในการจัดการเรื่องอาหารเนี่ย ไม่น่าเชื่อว่า3ปียังมีปัญหาอยู่นะ
มันน่าจะดีขึ้นทุกปีนี่นา ปีนี้อาหารไม่พอ จานก็ไม่พอ ช้อนหมด เฮ้อ
สายเราเก้าอี้หายด้วย.. ต้องไปขอสายอื่นมา 0_O
หลายสายพากันไปกินข้างนอก อีกหลายสายอ.ไม่ได้กิน... ไม่workนะแบบนี้น่ะ
เข้าใจว่าคงกะว่าคนมาไม่เท่าไหร่ล่ะสิ
จริงๆการจัดงานแบบนี้ เหลือดีกว่าขาดนะ น่าจะจัดเผื่อไว้
โดยเฉพาะจาน ช้อน ไม่น่าจะคำนวนยากนี่นา

งานบนทองจันคนน้อยจริงๆนั่นแหละ ทุกปีที่นั่งจะค่อนข้างเต็ม ต้องยืนบ้าง นั่งแถวๆทางเดินบ้าง...
ปีนี้ที่ว่างเพียบเลย.. หายไปไหนกันนะ

ขอโทษน้องๆที่จัดงานนะคะ ถ้าทำให้รู้สึกเหมือนว่าจัดงานได้ไม่ดี...
จริงๆมันก็okนะ.. แต่มีบางจุดน่าจะทำได้ดีกว่านี้แค่นั้นเอง

สู้ต่อไปน้องๆ ยังมีงานอื่นให้จัดอีกนี่นา^_^


Posted by : ตัวกมๆผมยุ่งๆ , Date : 2003-07-01 , Time : 13:34:35 , From IP : 172.29.2.166

ความคิดเห็นที่ : 6


   เห็นที่โพสต์มานี้ก็รู้สึกไม่ดีเลยที่การจัดการเป็นแบบนี้ อีกด้านก็ดีใจจังที่ไม่ได้ไปร่วมงาน ก็ไม่ต้องเซ็งกับเหตูการณืเหล่านี้ เคยเสนอความคิดเห็นมาหลายปีแล้ว
เกี่ยวกับการจัดงานรูปแบบนี้ ลองเปลี่ยนวิธีสักทีเถอะ คิดมาเลยว่าต่อสายระหัสมีกี่คนไ้ด้เงินค่าอาหารเท่าไรแล้วให้แต่ละสายจัดหามาเอง สายไหนอยากทานอะไร
งบประมาณไม่พอเดี๋ยวท่านอาจารย์ก็คงจะช่วยจัดการเติมให้ ส่วนกลางก็เพียงแค่จัดการน้ำดื่ม และขนมอีกหน่อยก็ได้ งานที่ส่วนกลางที่ทำไม่ไหวบริการไม่ครบถ้วนก็จะหมดไป


Posted by : คนโชคดี , Date : 2003-07-01 , Time : 14:01:29 , From IP : 172.29.3.131

ความคิดเห็นที่ : 7


   คิดว่าถ้าอาหารไม่พออย่างนี้ ทำเป็นน้ำชากาแฟเหมือนตอนที่คณะเราสัมมนากันจะดีกว่าไหม
คือให้หากินเองแล้วค่อยมาเจอกันอะไรประมาณนี้
ส่วนเรื่องการแสดงสนุกดี ประทับใจมาก


Posted by : เกี๊ยวซ่า , Date : 2003-07-01 , Time : 15:39:19 , From IP : 172.29.2.163

ความคิดเห็นที่ : 8


   หิวข้าวจัง

Posted by : Jua+ , Date : 2003-07-01 , Time : 15:56:07 , From IP : 172.29.2.95

ความคิดเห็นที่ : 9


   ผมยอมรับทุกความคิดเห็นน่ะครับ และผมจะไม่โทษอะไรทั้งนั้นในฐานะประธานโครงการ ผมจะนำคำ comment ค่างๆ ไปปรับกับงานต่อๆ ไปน่ะคับ ขอบคุณสำหรับคำติชมน่ะครับ

Posted by : SMC , Date : 2003-07-01 , Time : 19:43:35 , From IP : 172.29.2.109

ความคิดเห็นที่ : 10


   เอาภาพมาให้ดูหน่อยสิ
เบื่อมากๆๆๆๆๆๆๆ
อยากขึ้นwardเร็วๆครับ
รู้สึกว่าตอนนี้ตัวเองไร้คุณค่ามากเลยครับ
อยากกลับไปเร็วๆจังเลย


Posted by : คนที่อยู่ selective , Date : 2003-07-01 , Time : 21:29:08 , From IP : 203.113.71.196

ความคิดเห็นที่ : 11


   การไปselectiveไม่ได้มีคุณค่าน้อยกว่าการเรียนบนwardนะคะน้อง

Posted by : ตัวกม , Date : 2003-07-01 , Time : 22:34:30 , From IP : 172.29.2.164

ความคิดเห็นที่ : 12


   งานนี้ข้อบกพร่องเยอะมากกกกกกกกกกกกกกกกกก ยกเว้นการแสดงบนเวทีทุกชุดทำได้ดี โดยเฉพาะการแสดงของอาจารย์

Posted by : """ , Date : 2003-07-01 , Time : 22:49:27 , From IP : 172.29.2.114

ความคิดเห็นที่ : 13


   1. อาหารไม่พอ เซ็งมาก ....
ไม่ได้กินข้าวทั้งสาย
ต้องพาน้องไปเลี้ยงข้าวข้างนอก
2.เกมบิงโก
งง เกิดอะไรขึ้น
ของรางวัลน้อยมาก
มองจากข้างบนแทบไม่เห็นของราวัล
กระดาษเกมบิงโกก็ขายน้อย
เราอยากเล่น แต่ไม่มีใครมาขาย
ก็เลยไม่ได้เล่น
ทั้งๆที่ทุกปีจะซื้อทีละ หลายๆใบ

ได้ยินมาว่าปี 3 ใกล้สอบ neuro เลยไม่มีเวลาเตรียมงาน
คิดว่านี่ไม่ใช่เหตุผล
เพราะรุ่นปี 3 ที่ผ่านๆมา
ใกล้สอบ neuroเหมือนกัน
ก็ทำมาได้ดีตลอด
แม้ทุกๆปีกับข้าวจะไม่พอเติม
แต่ก็ได้กินกันทุกสาย
เข้าใจว่าคนที่รับผิดชอบงาน
คงไม่อยากให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น
ที่ติ มาในครั้งนี้
ก็เพื่อให้ปรับปรุงในครั้งต่อไป
ไม่อยากให้เป็นอย่างนี้อีก
รักและห่วงใย



Posted by : นศพ. , Date : 2003-07-02 , Time : 01:12:11 , From IP : 202.183.161.93

ความคิดเห็นที่ : 14


   แหะๆ มาแจม มาแจม

ไม่ได้กินเหมือนกันอ่ะ ต้องพาน้องออกไปเลี้ยงข้างนอก เฮ้อ ...
ดีนะที่ยังพอมีตังติดตัวอยู่บ้างวันนั้น ไม่งั้นแย่เลย
แถมกลับมาไม่ทันดู VDO รุ่นอาจารย์อีก เสียดายมากกกกกกกกก...
ฮือ...

เรื่องการจัดการก็ไม่อยากติน้องให้เสียกำลังใจหรอกนะคะ
พี่ก็เข้าใจว่าเรากำลังใกล้สอบ แล้วก็อาจจะไม่คุ้นเคยกับการ handle งานเหล่านี้เอง
ไม่รู้ว่าควรทำอะไรยังงัยบ้าง
ยังงัยก็อยากเสนอแนะว่า ถ้าเราไม่รู้ ว่าจะจัดการยังงัย (ก็ไม่เคยจัดมาก่อนใช่มั้ย)
เจียดเวลาซักนิดซักหน่อย ถามรุ่นพี่ดูซิคะ ถามได้ตั้งแต่พี่ปี 4-6 เลย นัดเวลาพี่เค้าหน่อย
ถามเค้าว่าจัดการงานยังงัยบ้าง ตรงไหนที่ต้องมี ตรงไหนที่ต้องเตรียมเป็นพิเศษ (พี่พูดรวมงานบายศรีไปด้วยเลยนะ) และที่สำคัญ เราจะได้รู้ด้วยว่า รุ่นพี่เค้ามีปัญหาอะไรบ้าง ที่รุ่นเราต้องระวัง ไม่ทำให้มันเกิดขึ้น หรือเกิดขึ้นน้อยที่สุด ดีมั้ยคะ ก็หวังว่า งานต่อๆไปที่น้องๆมีโอกาสจัด จะได้ขึ้นเป็นกระทู้อีก แต่ในด้านชื่นชมนะคะ พี่เป็นกำลังใจให้

ส่วนน้องที่อยู่ selective คะ
การอยู่ selective ไม่ได้ทำให้เราไร้คุณค่าเลยค่ะ พี่เองก็ออก selective ก่อน
เป็นกองแรกเหมือนกัน เราอาจจะไม่มีความรู้ด้าน clinic มาก ไม่มีความมั่นใจในการตรวจรักษาคนไข้ (ต่อให้เรียน block pre-post op กะ adult-elderly แล้วก็เหอะ ออกไปก็ใช่จะ diag & รักษาได้นะจ๊ะ) แต่เราสามารถใช้ช่วงเวลานี้เป็นเวลาทองในการเก็บเกี่ยวความรู้ ถึงโรคที่พบบ่อยในชุมชน (พอเข้ามาในมอ.แล้วเราไม่ค่อยเจอโรคพวกนี้หรอกจริงมั้ย เพราะเราเป็น tertiary care) แล้วก็ได้ฝึกหัตถการ ที่มีให้ทำเยอะแยะที่โน่น แต่ไม่เยอะที่นี่ (มอ.) ได้ฝึก communication กับคนไข้ <-- เรื่องนี้ก็สำคัญนะจ๊ะ ฝึกช่วยพี่หมอที่รพ.เขียนใบสั่งยาก็ได้ มีอะไรให้เราได้ฝึกฝนและเก็บเกี่ยวตั้งหลายอย่างจ้ะ ถ้าเราใฝ่รู้ กระตือรือล้นที่จะช่วยเหลืองานที่รพ.ที่ออก selective เราก็จะเป็นคนที่มีคุณค่าแน่นอนจ้ะ ไม่ได้น้อยกว่าการอยู่ ward ที่นี่เลยจ้ะ


Posted by : .. , E-mail : (AvaRi) ,
Date : 2003-07-02 , Time : 13:55:31 , From IP : 172.29.2.142


ความคิดเห็นที่ : 15


   แถมยังมีเวลา......ด้วยนะ สำคัญมั่กๆ

Posted by : 55 , Date : 2003-07-02 , Time : 17:00:47 , From IP : 172.29.2.155

ความคิดเห็นที่ : 16


   ห่วยมาก เท่าที่เคยร่วมงานมา

ยกเว้นเรื่องบนเวที


Posted by : ..... , Date : 2003-07-02 , Time : 19:45:58 , From IP : 172.29.2.239

ความคิดเห็นที่ : 17


   ขอให้น้องที่รับงานนี้ที่เป็นประธานโครงการ พิจารณาตนเอง และอย่ารับงานอื่นอีกเลยค่ะ


Posted by : yui , Date : 2003-07-03 , Time : 11:01:59 , From IP : 172.29.3.183

ความคิดเห็นที่ : 18


   ทำไม yui commentแรงจัง ความผิดพลาดไม่ได้เกิดจากคนคนเดียวนะคะ การที่บอกว่าอย่ารับงานอื่นอีกเลยรู้สึกไม่ดีกับคำนี้จริง ๆ ผิดพลาดเราแก้ไขกันได้นะคะ ควรcomment ในทางสร้างสรรค์นะคะ

Posted by : ...i_i... , Date : 2003-07-03 , Time : 19:03:54 , From IP : 172.29.2.169

ความคิดเห็นที่ : 19


   ผมเชื่อว่าคนที่ "อาสาสมัคร" มาทำงานนั้น มี credit ที่จะรับงานชิ้นต่อไปมากกว่าคนอื่นที่ไม่เคยทำงานอย่างแน่นอน

อีกหน่อยเราโตขึ้น ไปสมัครงาน จะเห็นว่าคำถามๆหนึ่งที่อยู่ในใบสมัครหรือตอนสัมภาษณ์คือคุณเคยทำงานด้านไหนมาบ้าง เขาไม่ค่อยถามหรอกครับว่างานที่เคยทำครั้งแรกในชีวิตตอนต้นๆนี้สำเร็จแค่ไหน แต่แค่คำถามเดียวนี้ก็พอได้ profile ของผู้สมัครแล้วว่า "ชอบ" ทำงานมากน้อยแค่ไหน เราคงจะเคยได้ยินที่ว่า "คนที่ไม่เคยทำผิดนั้น ก็คือคนที่ไม่เคยทำงาน" ความสำคัญของประสบการณ์ก็คือการเรียนรู้ ประสบการณ์เป็นสิ่งมีค่าและซื้อหาไม่ได้ แม้แต่คนที่เป็น customer และมีหน้าที่วิจารณ์การบริการหรือสินค้านั้น ก็ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถทำได้ดีกว่าคนอื่น ยกตัวอย่างง่ายๆคนที่ขับรถทุกวันนี้สามารถวิจารณืหรืออกความเห็นว่ารถที่ขับดีไม่ดีอย่างไร น่าจะเป็นอย่างโน้นอย่างดี แต่จะมีซักกี่เปอร์เซนต์ที่จะรู้ปัญหาการผลิตรถยนต์และข้อจำกัดต่างๆในการผลิต

งานระดับมหาวิทยาลัยโดยนักศึกษานั้นต้องการ constructive criticism ครับ ไม่ใช่การถล่มด่ากันหลังงานเลิก เป็นช่วงเวลาการใช้ชีวิตที่มีความหมายมากสำหรับผู้ที่อาสาทำงานชิ้นนี้และชิ้นไหนก็ตาม ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรก็ตาม แต่คนที่จะได้ประโยชน์จากประสบการณืชิ้นนี้มากที่สุดก็คือคนจัดนั่นเอง



Posted by : Phoenix , Date : 2003-07-03 , Time : 19:49:06 , From IP : 172.29.3.219

ความคิดเห็นที่ : 20


   ผมว่าการที่มีคนเข้ามา comment มากๆในกระทู้นี้ก็เป็นประโยชน์มากเนอะครับ

หัวหน้าที่จัดงานนี้เตรียมรับงานต่อไปได้เลยครับ เพราะว่าจะดีขึ้นอย่างทันตาเห็นทีเดียวสำหรับงานหน้าน่ะครับ


Posted by : เหอๆๆ , Date : 2003-07-03 , Time : 20:29:27 , From IP : 172.29.2.157

ความคิดเห็นที่ : 21


   การที่เราทำผิดครั้งหนึ่งไม่ใช่ว่าจะไม่สามารถทำสิ่งเดิมได้อีก เพียงแต่ว่าเราควรเอาความผิดพลาดนั้นมาแก้ไข
ยังไงก็ขอขอบคุณทุกคนที่เสียสละมาทำงานนี้ให้กับคณะ ดีกว่าไม่ทำอะไรเลยแล้วก็มาวาคนอื่น


Posted by : ปัวโรต์ , Date : 2003-07-04 , Time : 13:36:06 , From IP : 172.29.2.94

ความคิดเห็นที่ : 22


   ไปงานนี้เหมือนกัน คิดว่ารูปแบบการจัดเลี้ยงของแต่ละปีก็เปลี่ยนไปทุกปี ปีนี้ผู้จัดคงตกลงเลือกวิธีนี้ ให้เหตุผลแก่ตัวเองว่าเพราะคงมีประสบการณ์น้อย ขอให้รับจัดงานอีกหลายๆครั้งนะ และควรเตรียมงานแต่เนิ่นๆเพื่อจะได้มีการปรึกษาหารือรุ่นพี่และอาจารย์ ยังอยากให้กำลังใจผู้จัดเพราะยังไงก็เป็นผู้ทำให้งานนี้เกิดขึ้นมาได้

Posted by : Vaitong , Date : 2003-07-04 , Time : 13:44:36 , From IP : 172.29.3.131

ความคิดเห็นที่ : 23


   ปัญหาที่เกิดขึ้น สาเหตุหนึ่งคงเนื่องมากการมีทีมงานที่ช่วยเหลือน้อยไปหน่อย ได้ยินน้องปี 3 บ่นมาว่าไม่ค่อยมีเพื่อนมาช่วยงาน อือมมม ทำไงดีล่ะ นศพ.หลายคนก็ช่วยเหลืองานดี ชอบทำกิจกรรม แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ไม่ค่อยสนใจ น่าจะมีวิธีทำให้พวกเขาเหล่านั้นหันมาสนใจทำกิจกรรมากกว่านี้นะ งานอื่นๆจะไม่มีปัญหา

Posted by : เด๋อ , Date : 2003-07-04 , Time : 14:25:57 , From IP : 172.29.2.94

ความคิดเห็นที่ : 24


   ผมว่าปี 3 ปีนี้ออกจะ work ในการทำงานนะครับ

แต่ปํญหาที่พบในงานนี่ก็สุดจะทนเหมือนกัน
ไม่ทราบว่าก่อนที่น้องจะจัดงานได้มีการพูดคุยกันถึงปัญหาของปีก่อนๆกันหรือไม่ ทั้งๆที่ก็ได้ผ่านกันมา 2 ครั้งแล้ว(สำหรับปี 3) แต่เหมือนไม่ได้เรียนรู้จากปัญหาเอาเลย

เมื่อสองปีก่อนและปีที่แล้ว จำได้ว่า โอเปิลต้องไปเก็บและจัดการกับกองเศษอาหาร ขยะ จานชาม อยู่เ้พียงคนเดียว(แม้ผมจะช่วย แต่ก็ไม่ได้เต็มใจ)ทั้งที่ไม่ใช่หน้าที่ของตัวเอง ก็ได้บอกไปทั้งสองปีแล้วว่า ทำไมเราไม่เรียนรู้ปัญหากันเลย การสรุปโครงการแต่ละครั้งไม่ได้ใส่ปัญหาลงไปหรอกเหรอ และทำไมถึงไม่อ่านและเรียนรู้ที่จะแก้กัน

การจัดอาหารปีที่แล้ว ตักเตรียมให้ทุกโต๊ะ แต่ปีนี้ไฉนถึงย้อนยุคกลับไปเหมือนไม่เคยจัดงานมาก่อน ไม่เข้าใจ

เรื่องของเกมและการควบคุมเวลาอย่างเข้มงวด ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเป็นอย่างนี้

ปีหน้า น้อง med 30 ก็แก้ไขแล้วกัน ส่วนงานครั้งนี้ก็เป็นบทเรียนไปให้ทุกคนที่ได้ทำ


Posted by : ArLim , Date : 2003-07-06 , Time : 04:05:38 , From IP : maliwan.psu.ac.th

ความคิดเห็นที่ : 25


   เป็นไปได้หรือเปล่า หากผมอยากได้รับคำอธิบายจากน้องๆปี3 ในเรื่องนี้ ผมรู้สึกเหมือนเป็นกระทู้ที่มีด้านเดียว คิดว่าอาจไม่ก่อประโยชน์ ทั้งคนติ และคนทำงาน

ช่วยเข้ามาอธิบายหน่อยสิครับ มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ พวกเราจะได้ช่วยกันหาทางแก้ไข เพราะ ยังมีเวลาอีกหลายเดือนกว่าจะจบปีการศึกษานี้ น้องๆคงมีโอกาสได้ทำงานอีกแน่

ที่สำคัญ ผมหายโกรธแล้วล่ะ จะอธิบายยังไงก็ว่ามาเลยครับ แล้วเรามาแก้ปัญหาร่วมกัน


Posted by : โบทซึมุ , Date : 2003-07-06 , Time : 12:49:04 , From IP : 172.29.2.124

ความคิดเห็นที่ : 26


   ไปๆมาๆกระทู้นี้ก็จะเป็นการบอกกลายๆว่าน้องปี 3 ไม่มีเวลา่น่ะครับ

Posted by : เหอๆๆ , Date : 2003-07-06 , Time : 14:34:28 , From IP : 172.29.2.138

ความคิดเห็นที่ : 27


   คุณเหอๆๆ หมายความว่า ไม่มีแม้แต่เวลามาตอบกระทู้เหรอครับ อืมม น่าคิดนะ


Posted by : โบทซึมุ , Date : 2003-07-06 , Time : 19:31:44 , From IP : 172.29.2.169

ความคิดเห็นที่ : 28


   แม่งพวก...ที่ไม่ช่วยทำงานแล้วมาบ่น คนทำงานเขาเสียสละเวลามาทำ แล้วพวก...ยัง...มาด่าเขาอีก ...แน่จริงทำเองซิ....

Posted by : เพื่อนประธานโครงการ , Date : 2003-07-06 , Time : 21:26:39 , From IP : 172.29.2.142

ความคิดเห็นที่ : 29


   ต่างคนต่างความคิดนะคะ เราคงห้ามไม่ได้ แต่ก็เอาข้อผิดพลาดมาปรับปรุงแก้ไขได้นี่ แต่ประธานโครงการไม่ควรจะใช้อารมณ์และแสดงคำพูดที่หยาบคายนะคะ เรื่องผ่านมาแล้ว คนเขาก็แค่อยากจะแสดงความคิดเห็นเท่านั้นเอง อีกอย่างการที่โครงการไม่เป็นไปอย่างที่คิดก็ไม่ได้ผิดที่ใตรคนใดคนหนึ่งหรอกค่ะ


Posted by : """" , Date : 2003-07-07 , Time : 14:03:19 , From IP : 172.29.2.103

ความคิดเห็นที่ : 30


   ผมเพื่อนประธาน ไม่ใช่ประธาน ผมผิดผมยอมรับที่ใช้คำพูดหยาบคาย ทำไมจึงคิดว่าเป็นเขา

Posted by : เพื่อนประธานโครงการ , Date : 2003-07-07 , Time : 22:09:16 , From IP : 172.29.2.94

ความคิดเห็นที่ : 31


   ที่ผมมาแสดงความคิดเห็นเพื่อเพื่อนของคุณน่ะแหละ ความจริงจะเงียบซะก็ได้(พวกคุณจะได้คิดว่างานมันเลอเลิศซะจน...) แต่ผมที่แสดงความเห็นอยู่เนี่ย ก็อยากจะทราบปัญหา อยากให้พวกเรามาช่วยกันระดมสติปัญญา ศึกษาจากปัญหาที่เกิดขึ้น เหมือนอย่างที่เราเรียนๆกันอยู่ทุกวันนี้ (Problem Base Learning ไม่ได้ใช้เฉพาะการเรียนแพทย์ แต่หมายถึงการใช้ชีวิตประจำวันด้วยนะครับ) งานครั้งต่อไปจะได้พัฒนาขึ้น อย่างน้อยน้องๆที่มาทำโครงการปีหน้าจะได้มีแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว ผมชื่นชมในตัวประธานโครงการที่ยอมรับผิดจากโพสข้างบนเป็นอย่างมาก แต่การขอโทษ ไม่ได้ช่วยให้อะไรๆดีขึ้น ถ้าเราไม่นำความผิดมาเป็นบทเรียน จะรอให้เกิดซ้ำสองหรือไงครับ หรือคิดว่า พ้นเคราะห์แล้วก็ไม่ต้องคิดอะไรกันอีก




Posted by : โบทซึมุ , Date : 2003-07-07 , Time : 22:54:04 , From IP : 172.29.2.92

ความคิดเห็นที่ : 32


   Strongly recommend everyone to go back and read the topic "Constructive Criticism" again

มีใครสงสัยไหมครับว่าทำไม most common reaction เวลาพวกเราทำอะไรผิดแล้วคนอื่นท้วงติงคือ....โกรธตอบ!!!

จริงๆแล้วคือ defence mechanism ธรรมดา ที่คนทั่วๆไปที่ยังมี conscience อยู่คือรู้ทั้งรู้ว่าตนเองทำพลาดทำผิด แต่ไม่ชอบให้มีคนยกเรื่องนั้นขึ้นมาพูด เราต้องแก้ไข attitude อันนี้ให้หมดไปครับ วันก่อนมีคนพูดออกมาว่า ที่ท้วงมานั้นเป็น "คนดีเกินไป"!!!ก็มี เถรตรงเกินไป เคารพกฏกติกาเกินไป ฯลฯ อีกหน่อยในที่สุดก็อาจจะถึงขั้น "เป็นคนเกินไป" ถ้าเราไม่ช่วยกันปรับกันทำอะไรบางอย่าง

ทั้งนี้ทั้งนั้น Tone ของเสียงตำหนิติเตียนนั้นก็สำคัญมาก ไม่ใช่พอเป็นฝ่ายตำหนิก็ร่ายยาวออกมา ใส่สำบัดสำนวนเต็มที่ keep in mind ไว้ตลอดเวลาว่าเราต้องการ Contructive Criticism หรือ "ติเพื่อก่อ" ยิ่งเขียนลงเป็นตัวหนังสือ ยิ่งต้องระวังเพราะคนอ่านไม่เห็นกิริยาท่าทางภาษากาย และมีแน้วโน้มจะแปลผลเข้มข้นเกินจริงทำให้มองข้ามประเด็นที่เป็นประโยชน์ได้โดยง่าย

ในกรณีที่พึ่งผ่านมานี้ วิธีหนึ่งอาจจะเป็น summary or debrief ของคณะผู้ทำงาน list ออกมาว่าเราเรียนรู้อะไรจากงานที่พึ่งผ่านมาบ้าง ทั้งผลบวกและผลลบ สรุปออกมาเป็นความเห็นสำหรับรุ่นต่อไปที่จะต้องเจอสภาพและปัญหาคล้ายๆกัน รุ่นต่อไปที่กำลังจะต้องรับผิดชอบในปีหน้ยิ่งต้องกระตือรือร้นมาขอข้อสรุปอันนี้ไปเรียนรู้แต่เนิ่นๆ จะทำอย่างไรจึงจะแก้ปัญหา จะทำอย่างไรจึงจะหลอกอาจารย์ให้มาเต้นอย่างนั้นอีกครั้ง ชุดเก่าคงจะยาก ตัวตั้งตัวตีออกไปอยู่ราษฎร์ยินดี สองคนไปอยู่ไหนก็ไม่รู้ อีกคนก็เปลี่ยนหุ่นเปลี่ยนเชพไปสู่มิคสัญญีภพซะแล้ว (ทายซิว่าใครเป็นใคร ยังอยู่ในมอ.ออ.ก็มี) แต่เรามี young staff อีกเยอะที่ไม่ยอมแก่ง่ายๆ

จนเมื่อเราสามารถรับฟัง criticism ได้ นั่นแหละประตูไปสู่ความเป็นผู้ใหญ่ สามารถยืดอกรับผิดชอบ (ทั้งผิดและชอบ) และภาคภูมิใจพอที่จะประกาศออกมาดังๆว่านั่นแหละฉันทำเอง ฉันรับผิดชอบ ทำยังนี้ได้ก็จะขอปรบมือดังๆ และกล่าว welcome to the world of grown-up



Posted by : Phoenix , Date : 2003-07-07 , Time : 23:28:33 , From IP : 172.29.3.228

ความคิดเห็นที่ : 33


   กระทู้เราติดไฟด้วยแฮะ... ^_^
น้องคะ ที่พี่ๆเค้าcommentมา ไม่ใช่ว่าไม่เคยทำงานแล้วเอาแต่บ่น ที่เค้ามาโพสเนี่ย เค้าก็เป็นคนทำงาน ทำกิจกรรมทั้งนั้นล่ะค่ะ


Posted by : ^_^ , Date : 2003-07-08 , Time : 19:06:25 , From IP : 172.29.2.175

ความคิดเห็นที่ : 34


    ผมขออนุญาติแสดงความคิดเห็นครับ ผมคิดว่าการให้คำชี้แนะหรือติชมเป็นสิ่งที่ดีมากครับ หากเพียงเป็นเพื่อการติเพื่อก่อ มิใช่ยอเพื่อทำลาย ไม่มีใครหรอกครับที่ไม่เคยทำความผิดพลาด (ยกเว้นผู้ที่ไม่เคยทำอะไรเลย) แต่ความผิดพลาดหากเรานำมาเป็นบทเรียนเพื่อการพัฒนาต่อไป ไม่ให้เกิดขึ้นอีกในอนาคตน่าจะเป็นสิ่งที่ดีใช่มั้ยครับ ในส่วนตัวเองผมคิดว่าการทำกิจกรรมไม่สามารถบังคับให้ใครคนใดคนหนึ่งมาทำได้ หากแต่คนผู้นั้นต้องมีศักยภาพและมีความตั้งใจหรือความอยากที่จะทำงานด้วยครับ เมื่อกิจกรรมเหล่านั้นได้เกิดขึ้นแล้วเราคงอยากทำให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะสามารถทำได้แต่สิ่งต่างๆย่อมมีจุดบกพร่องอยู่บ้างครับ อย่างไรก็ดีครับผมขอชื่นชมผู้ที่อ้างตัวเองว่าเป็นประธานโครงการที่ออกมายอมรับข้อติชมทุกอย่างครับ

Posted by : free bird , Date : 2003-07-10 , Time : 14:46:18 , From IP : 172.29.1.172

ความคิดเห็นที่ : 35


   โดยรวมก็โอนะครับแม้จะมีปัญหาบ้าง แต่ผมยังให้กำลังใจในการจัดงานต่อไปครับ

Posted by : น้องปี1 , Date : 2003-07-11 , Time : 11:48:49 , From IP : 172.29.2.138

ความคิดเห็นที่ : 36


   ห่วยที่สุดเท่าที่เคยเจอ อาจจะว่าแรงไป แต่พวกน้องๆก็คงรู้ตัวดี
นี่ไม่ใช่งานครั้งแรก แต่ห่วยที่สุดเท่าที่พี่เคยเจอมาเลย
คนทำโครงการควรรู้จักหาข้อมูลของปีเก่าๆให้มากกว่านี้นะ
พี่ว่าทั้งหัวทั้งหางของรุ่นนี้คงต้องปรับตัวกันใหม่ เวทีแย่
การแสดงไม่ค่อยอยากคอมเมนท์เพราะส่วนใหญ่จะตั้งใจดี
แต่การจัดงานประสานงานสุดห่วยเลยขอบอก


Posted by : คนขวางโลก , Date : 2003-07-30 , Time : 19:33:34 , From IP : dial-4.ras-2.ska.s.c

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.036 seconds. <<<<<