ความคิดเห็นทั้งหมด : 5

จาก www.pantip.com "ทำไมแค่จุฬาธรรมศาสตร์นัดเตะบอลกัน สื่อถึงต้องอัดโปรโมทมากมายขนาดนี้?"


   ทำไมสื่อถึงให้ความสำคัญมาก อัดโปรโมท ลงข่าวกันแบบสุดๆ ยิ่งสปอร์ตออกสื่อกันสุดๆ มาหมดทั้งสื่อทีวี วิทยุ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร อัดโปรโมทกันแทบทุกวัน

เรียกว่ามีข่าวออกมาตลอด ตั้งแต่การคัดเลือกนักบอล การคัดเลือกเชียร์ลีดเดอร์ กิจกรรมยามว่างของเชียร์ลีดเดอร์ รายงานการแข่งทุกฝีก้าว แม้แต่เปิดตัวเสื้อเชียร์บอล ก็ยังเป็นข่าว มีข่าวการเปิดตัวเสื้อเชียร์อย่างใหญ่โต (โอ้แม่เจ้า)

อ่านต่อใน http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A4025015/A4025015.html



Posted by : สมพร , E-mail : (sompon@hotmail.com) ,
Date : 2006-01-15 , Time : 18:44:14 , From IP : 192.168.60.147


ความคิดเห็นที่ : 1


   แต่ผมชอบความเห็นอันนี้มากเลยครับ

อันนี้ copy มาน่ะครับจาก www.pantip.com

[[[[[[[[[อันนี้ขอตอบแบบมีอคติค่ะ อาจจะมีคนไม่พอใจ

เราเองไม่ได้เป็นนิสิต-นักศึกษาของสองมหาลัยนี้ แต่เข้ามาอ่าน เพราะว่าก็อยากเห็นว่าจะมีใครมาเขียนต่อว่าหรือเปล่า

เราเคยไปหาเพื่อนที่เรียนอยู่ค่ะ ของสองมหาวิทยาลัยนี้ ไปนั่งรอเพื่อน สิ่งที่เราได้รับคือ เราเคยเจอสายตาของนักศึกษาที่มองมาที่เราอย่างดูถูกดูแคลน คือมองหัวจรดเท้าน่ะค่ะ มองเหมือนตัวประหลาดมาทำไรใน ม.เค้า เพื่อนของเพื่อนเรา ยังคุยกับเราแบบมีหางเสียงเจือความดูถูกเลยค่ะ เราก็ไม่ใช่คนแต่งตัวดีนัก อาจจะดู ปอน ปอน ไปนิด แต่เราก็ไม่คิดว่าจะโดนมอง หรือพูดจาด้วยแบบนี้เลย

รุ่นน้องเราเรียนอยู่วิศวะ ม.เกษตร เกิดอยากเอ็นทรานซ์ใหม่ขึ้นมา ก็ไปเอ็นท์ติด รัฐศาสตร์ จุฬาค่ะ แล้วท้ายที่สุดก็ไม่เรียน กลับไปเรียนที่เดิม โทรมาบอกเราว่า ข้างหน้าก็หลุยส์ วิคตอง ข้างหลังก็ แทค ฮอยเออร์ ผมคงอยู่สังคมแบบนี้ไม่ได้ ผมไม่มีปัญญาขนาดนั้น ครอบครัวรุ่นน้องเรามีกิจการทำเพชรใหญ่โต ยังยอมเลยค่ะ

ไม่แปลกหรอกค่ะ ที่คนบางส่วนจะมีอคติ คนเหล่านั้นอาจจะเจอประสบการณ์ที่ไม่ดีแบบเราก็ได้ คนดี ๆ ในสองมหาลัยนี้ ก็คงจะมีเป็นส่วนมากแหล่ะค่ะ เพียงแต่เราโชคไม่ดีที่เจอคนส่วนน้อยนั้น

เราเองก็เรียนใน ม.ที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงเหมือนกัน เป็นที่ยอมรับในสังคม เราไปไหนเราสามารถพูดได้เต็มปากและภูมิใจกับม.ที่เราจบมาเช่นกัน แต่เรายังไม่เจอใครอคติกับม.เรา แบบที่คุณ ๆ รู้สึกเลยค่ะ บางทีการที่คุณว่าคนนั้นคนนี้ เพราะว่าเอ็นท์ไม่ติดหรือเปล่า เลยอิจฉา เราว่าคุณลองหันมามองดีกว่า ว่า คนที่เค้าอคติ เพราะอะไร มันต้องมีอะไรสิ คนเค้าถึงคิดกันแบบนั้น ลองมองดูรอบ ๆ แล้วลองปรับดู บางที อคติที่ว่า อาจจะหายไปก็ได้ค่ะ

ขอโทษอีกครั้ง แต่อย่างที่กล่าวไว้แต่ต้นว่า ดิฉันขอเขียนแบบมีอคติค่ะ]]]]]]

ดีใจที่ ม.สงขลานครินทร์ ไม่เป็นอย่างนี้ ถึงปัจจุบันจะเปลี่ยนไปมากก็ตาม


Posted by : สมพร , E-mail : (sompon@hotmail.com) ,
Date : 2006-01-15 , Time : 18:48:34 , From IP : 192.168.60.147


ความคิดเห็นที่ : 2


   Stereotyping และ generalization ไม่เคยช่วยในการวิเคราะห์อะไรเท่าไหร่หรอกครับ

เอแค่บอกว่านักศึกษาธรรมศาสตร์และจุฬาฯ เหมือนกันนี่ ผมว่าออกจะใช้จินตนาการน้อยเกินไปนิดหน่อย ชื่อเต็มของธรรมศาสตร์สมัยหนึ่งคือ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการเมือง ค่านิยม หรือการแสดงออกของนักศึกษาเป็นอย่างไร คงไม่ใช่อย่างที่ข้างบนพรรณนากันมา

ไม่ได้แปลว่าประสบการณ์ที่รับรู้และถ่ายทอดขึ้นมานั้นจริงหรือไม่จริง แต่มันเกี่ยวอะไรกับนักศึกษานิสิตคนอื่นที่ไม่ได้แสดงอากัปกิริยาอย่างนั้น ทำไมเขาจึงถูกปรับเป็นคนที่ทำอย่างเดียวกันตั้งหลายพันคนอยู่นะครับ

"ทำไมถึงได้ฮือฮาใหญ่โต?"

ศิษย์เก่าทั้งสองมหาวิทยาลัยที่มีประวัติศาสตร์ในวงการศึกษาประเทศไทยมานับร้อยปี ขณะนี้มีตำแหน่งหน้าที่การงานอยู่ที่ไหนบ้าง ประสบความสำเร็จอยู่ที่ไหนบ้าง ถ้าสัก 10% ของคนที่ประสบความสำเร็จของทั้งสองมหาวิทยาลัยอยากจะร่วมมือกันทำกิจกรรมสักอย่าง มันควรจะออกมาในแบบไหน? เป็นเรื่องดีหรือไม่ดีที่ศิษย์เก่าที่ประสบความสำเร็จในอาชีพการงานของตนเอง จะแสดงอะไรต่อสถาบันเก่าสักครั้งประจำปี

และศิษย์เก่าสถาบันอื่นเมือ่เห็นอย่างนี้ควรจะรู้สึกอย่างไร จึงจะเรียกว่าเป็นบัณฑิตที่มีจิตใจสูง มีการศึกษาอย่างดี?



Posted by : Phoenix , Date : 2006-01-15 , Time : 22:13:59 , From IP : 58.147.118.205

ความคิดเห็นที่ : 3


   อยากให้คุณ Phoenix ไปตอบในพันทิพครับ
ผมก็คิดเช่นนั้นครับ
จริงๆ พวกที่สำเร็จในกิจการทางสื่อ ก็เป็นปัจจัยในการ โหมโรง อยู่เหมือนกัน
เรียกว่า ศิษย์เก่า ที่ยิ่งใหญ่ และมีอำนาจในระดับ national นั้น อยู่ในแทบทุกวงการ

แต่ที่ผมตั้งข้อสังเกตขยับไปอีกหน่อย คือ การสืบทอดความยิ่งใหญ่ให้กับรุ่นน้อง ครับ


Posted by : คุนิมุตซึ , Date : 2006-01-16 , Time : 03:58:40 , From IP : 172.29.7.106

ความคิดเห็นที่ : 4


   ผมเห็นด้วยกับคุณคุนิมุตซึ โดยเฉพาะในประเด็นเรื่องการ "สืบทอด"

เราควรจะเข้าใจคำว่า "สืบทอด" อีกสักนิดนึง ในที่นี้น่าจะหมายถึง "เจตนารมณ์ แรงบันดาลใจ ที่ทำให้ประสบความสำเร็จ" แต่บางที อย่างในตัวอย่างของกระทู้ถ้ายกมาวิเคราะห์ อาจจะมีบางคนเข้าใจว่า "สืบทอด" หมายถึง "ตัวความยิ่งใหญ่ และความสำเร็จ" มันก็เลยเกิดความคิดแปลกพิศดารว่าตนเองนี้ยิ่งใหญ่เหลือเกิน ประสบความสำเร็จเหลือเกินแค่ได้มาเรียน ณ ที่...นั้นๆ ที่แปลกกว่านี้อีกก็เช่น ตนเองนี้ช่างด้อยค่า ไม่มีความหมายเลยเพียงเพราะต้องมาเรียน ณ สถาบันนี้ๆนั้นๆ ทั้งสอง extreme ไมได้เกิดผลดีอะไรต่อใคร ไม่แน่ใจด้วยว่าแบบไหนจะน่าสมเพชเวทนามากกว่ากัน

Sir Isaac Newton เคยเขียนจดหมายถึงเพื่อนนักวิทยาศาสตร์คนหนึ่ง (ก็ไม่เชิงเพื่อน เพราะแกไม่ค่อยถูกกันเท่าไร) ว่า ณ จุดที่เรายืนอย่ได้ในปัจจุบันนี้นั้น มองเห็นวิสัยทัศน์กว้างไกล คิดได้ละเอียดลึกซึ้ง นั่นเป็นเพียงเพราะว่าเราฉกฉวยโอกาสได้ยืนอยู่บนบ่าของยักษ์ผู้ยิ่งใหญ่เท่านั้น ยักษ์ผู้ยิ่งใหญ่เหล่านี้คือคนที่ได้ศึกษามาก่อนเรา พยายามมาก่อนเรา บันทึก วิเคราะหฺ และสังเคราะห์อะไรต่อมิอะไรมาก่อนเรา เมื่อเราได้รับ "บุญคณ" เยี่ยงนี้ ควรจะสำนึกว่าสิ่งเหล่านี้คือมรดกแห่งความประเสริฐของมนุษย์ และเป็นสิ่งที่เราควรคิดว่าการสานต่อเจตนารมณ์และสร้างมรดกที่ยิ่งใหญ่มากขึ้นไปเรื่อยๆต่อเพื่อนมนุษย์นั้นเป็นส่วนหนึ่งของ "หน้าที่" บัณฑิตร่นหลังๆด้วย

ฉะนั้น ความยิ่งใหญ่ ที่เรากำลังพูดถึงนี้ ไม่ใช่ตัว "ความสำเร็จ" หรอกนะครับ แต่เป็นความมี "ใจสูง" (มน + อุษยะ) ที่คนธรรมดาพึงมีต่อรากเหง้า ความเป็นมาของตนเอง รู้ว่าที่เราเป็นผู้เป็นคนอยู่ทุกวันนี้ ประสบความสำเร็จได้อยู่ทุกวันนี้ พ่อแม่ครูบาอาจารย์บุพการีผู้มีพระคุณมากมายเป็นคนช่วยสนับสนุน และเราก็ต้องรับผิดชอบในการที่จะช่วยลูกหลาน ลูกศิษย์ รุ่นน้อง ให้เกิดความรู้สึกเดียวกันนี้ต่อๆไป

มนุษย์ถึงจะมีโอกาสไม่ทำลายตนเอง ทำลายล้างลูกหลาน ทำลายรากเหง้าตนเองจนสูญพันธุ์ไปในที่สุด



Posted by : Phoenix , Date : 2006-01-16 , Time : 07:40:01 , From IP : 58.147.118.205

ความคิดเห็นที่ : 5


   ข้อความแรกที่ คุณสมพร post ผมเห็นด้วยน่ะ ผมเองก็ชอบที่มันมีข่าว และอยากให้ ม.อ. เป็นอย่างนั้นด้วย

แต่ข้อความที่สอง ผมไม่อยากให้ ม.อ. เป็นแบบนั้น


Posted by : กร , E-mail : (konkontee@hotmail.com) ,
Date : 2006-01-16 , Time : 11:34:45 , From IP : 192.168.58.246


ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.004 seconds. <<<<<