ความคิดเห็นทั้งหมด : 0
CONCLUSION พ่อ "น้องครีม" ลุย รอผลชันสูตร ฟ้องหมอ-รพ. พ่อ "น้องครีม" เดินหน้าเอาเรื่องหมอที่ผ่าไขสันหลังลูกสาวจนถึงที่สุด ชี้ตำรวจยังไม่รับแจ้งความเพราะต้องรอผลการชันสูตรจากสถานบันนิติเวชอีก 2 สัปดาห์ ด้าน ผอ.โรงพยาบาลรามคำแหง ปิดปากเงียบ ยันขอตรวจสอบตามขั้นตอน ขณะที่ผู้กำกับ สน.หัวหมาก แนะไปร้องแพทยสภา ความคืบหน้ากรณีนายพูลสวัสดิ์ พิฑูรธรรม เจ้าของอู่รถยนต์ย่านลาดพร้าว ร้องเรียนกับ "คม ชัด ลึก" ว่าแพทย์โรงพยาบาลรามคำแหง ได้เจาะไขสันหลัง ด.ญ.พัณณิตา พิฑูรธรรม หรือน้องครีม อายุ 4 เดือน บุตรสาว จนเสียชีวิต ทั้งที่ก่อนเข้ารับการรักษาน้องครีมมีอาการเพียงแค่ซึม อาเจียน ไม่ยอมกินนมเท่านั้น อีกทั้งตอนแรกแพทย์แจ้งให้ทราบเพียงว่าจะเจาะเลือดเท่านั้น ขณะที่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามคำแหงชี้แจงว่าน้องครีมเสียชีวิตเนื่องจากติด เชื้อในเลือด พร้อมทั้งแนะนำให้นำศพไปตรวจพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้ว ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 มีนาคม นายพูลสวัสดิ์ออกมาระบุว่าจะแจ้งความดำเนินคดีกับหมอที่เกี่ยวข้องทั้งหมด หลังจากได้รับผลการชันสูตรศพลูกสาว จากสถาบันนิติเวช ซึ่งต้องรออีกประมาณ 2 สัปดาห์ นายพูลสวัสดิ์ กล่าวว่า หลังจากเกิดเรื่องก็ยังไม่ได้รับการติดต่อจากโรงพยาบาล ตนได้เข้าไปแจ้งความกับ สน.หัวหมาก แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับเรื่องและลงบันทึกประจำวันใว้ โดยบอกว่ายังไม่สามารถรับแจ้งความได้ เพราะต้องรอผลการตรวจพิสูจน์จากสถาบันนิติเวชก่อน ซึ่งถ้าพบว่าเป็นความผิดของโรงพยาบาลจริงตนจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด "ผมจะฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นหมอที่เจาะไขสัน ลูกสาวผม รวมทั้งหมออีก 3 คนที่เข้ามาช่วยกันผ่าขา ผู้บริหารโรงพยาบาลรามคำแหง ก็ต้องออกมารับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพื่อเป็นเยี่ยงอย่างจากการกระทำที่ผิดพลาดจนทำให้ลูกสาวผมต้องมาเสียชีวิตล ง" นายพูลสวัสดิ์ กล่าว นายพินิจ จารุสมบัติ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (คคบ.) มีมติให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ดำเนิน คดีแพ่งแก่นายแพทย์ไพศาล เฮงสวัสดิ์ ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น น.พ.กวีวัธน์ เพื่อบังคับให้ชดใช้ค่าเสียหายให้นางรวีวรรณ เสตะรัต เป็นเงิน 12.6 ล้านบาท กรณีเข้ารับการทำศัลยกรรมจากสถานบริการไบโอคลินิค โดย น.พ.กวีวัธน์ อ้างว่ามีเทคนิคสมัยใหม่แต่ได้ทำให้ใบหน้านางรวีวรรณเสียโฉม แม้จะผ่าตัดแก้ไขเกือบ 20 ครั้ง แต่ไม่ดีขึ้น ประกอบกับสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่ง แห่งประเทศไทย เคยมีหนังสือแจ้งให้ น.พ.กวีวัธน์ทราบถึงการฉีดสารด้วยวิธีไบโอเทคนิคว่า ยังไม่มีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์และยังไม่ผ่านองค์การอาหารและยา ดังนั้น จึงขอเตือนสุภาพสตรีที่รักสวยรักงาม ให้ระวังการทำศัลยกรรมด้วย ผจก.หนุ่มวิ่งโร่ขึ้นโรงพัก แจ้งความดำเนินคดี หมอทำคลอดเมีย จนตายคาเตียงผู้ป่วย ในโรงพยาบาลครั้งนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 พ.ค. นายอกนิษฐ เต็มไพโรจน์ อายุ 34 ปี ตำแหน่ง ผจก.ฝ่ายวางแผนการตลาด บริษัท พี.ซี.ที.ที. จำกัด อยู่บ้านเลขที่ 39/13 หมู่ 1 ต.รังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.สุรเดช กระจ่าง สารวัตรเวร สภ.ต.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ระบุว่าให้ติดตามตัว พ.ท.น.พ.ยรรยง อิ่มสุวรรณ สูตินรีแพทย์ รพ.เอกปทุม มาสอบสวนดำเนินคดีข้อหากระทำ โดยประมาทเป็นเหตุให้ภรรยาถึงแก่ชีวิต เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา ภายในห้องคลอดของ รพ.ดังกล่าว ทั้งนี้ นายอกนิษฐกล่าวถึงรายละเอียดว่า แต่งงานกับนางไพจิต เมืองตุ้ม วัย 36 ปี มาหลายปีแล้ว โดยภรรยาเปิดธุรกิจร้านมินิมาร์ทและร้านขายกาแฟอยู่ภายในหมู่บ้าน มีบุตรด้วยกัน 1 คน ต่อมานางไพจิตตั้งครรภ์บุตรคนที่ 2 มีกำหนดคลอดปลายเดือน พ.ค.นี้ โดยระหว่างตั้งครรภ์ลูกคนที่ 1 และคนที่ 2 ก็ฝากครรภ์ไว้กับ พ.ท.น.พ.ยรรยง จนกระทั่งเมื่อช่วงเย็นวันที่ 21 พ.ค. นางไพจิตเกิดเจ็บท้องจะคลอด จึงรีบพาส่ง รพ.เอกปทุม ซึ่งตนได้บันทึกภาพวีดิโอเอาไว้ตลอด ตั้งแต่ช่วงที่พยาบาลเข็นเตียงเข้าห้องคลอด ซึ่งภรรยายังพูดโทรศัพท์คุยกับญาติด้วยท่าทีที่เป็นปกติ จากนั้น พ.ท.น.พ.ยรรยงก็เข้าไปทำคลอดให้ จนกระทั่งภรรยาได้คลอดลูกสาวออกมาเมื่อเวลา 19.40 น. มีน้ำหนัก 2,100 กรัม หลังจากนั้นก็เห็นภรรยานอนแน่นิ่งไม่ไหวติง โดยมีเลือดทะลักออกมาทางแผลผ่าตัดหน้าท้องเป็นจำนวนมาก ทางเจ้าหน้าที่ในห้องคลอดได้เชิญตนออกนอกห้องคลอดทันที โดยไม่ยอมแจ้งถึงสาเหตุให้ทราบ นายอกนิษฐกล่าวต่อไปว่า จนกระทั่งเวลา 01.00 น.คืนวันที่ 22 พ.ค. ก็ได้รับแจ้งว่าภรรยาเสียชีวิตแล้วจากอาการตกเลือดหลังคลอด ด้วยความสงสัยจึงสอบถามกับ พ.ท.น.พ.ยรรยง ก็ได้รับคำตอบเพียงว่ารกเกาะแน่นมากทำให้ภรรยาเสียเลือดจนเสียชีวิต แต่เพื่อความแน่ใจจึงส่งศพภรรยาไปผ่าพิสูจน์ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จ.ปทุมธานี มี น.พ.สุรณรงค์ ศรีสุวรรณ นายแพทย์ 6 เป็นผู้ผ่าพิสูจน์ศพ ระบุว่าภรรยาเสียชีวิตเพราะเสียเลือดไปจำนวนมาก จากสภาพรกเกาะต่ำและรกเกาะแน่นกับมดลูก ทำให้ตนเกิดความสงสัยในขั้นตอนการทำคลอดว่าทางแพทย์ไม่มีการเตรียมพร้อม หรือช่วยเหลือผู้ป่วยอย่างเต็มที่ จึงมาแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับแพทย์ผู้ทำคลอดและผู้เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ จะทำเรื่องร้องเรียนไปถึงแพทยสภาเพื่อให้ตรวจสอบขั้นตอนการช่วยเหลือภรรยาต่ อไปด้วย ทาง พ.ต.ท.สุรเดชจึงรับแจ้งความไว้ก่อนจะเชิญ พ.ท.น.พ.ยรรยงมาสอบสวนต่อไป ต่อมาเวลา 17.30 น. วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามรายละเอียดกับทาง พ.ท.น.พ.ยรรยง แพทย์เจ้าของไข้ และเป็นผู้ทำคลอดให้แก่นางไพจิต โดย พ.ท.น.พ.ยรรยงกล่าวว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่เป็นเรื่องสุดวิสัยจริงๆ สภาพการตั้งครรภ์ของนางไพจิตมีความผิดปกติเรื่องตำแหน่งรกที่เกาะต่ำมาก ทั้งยังเกาะบริเวณด้านบนของผนังมดลูกตรงช่วงหน้าท้อง ซึ่งในคนปกติจะอยู่ข้างใดข้างหนึ่งของมดลูกซึ่งเป็นส่วนที่ผนังมดลูก มีความหนามากกว่าผนังมดลูกช่วงหน้าท้อง ทำให้รกเกาะติดกับผนังมดลูกค่อนข้างลึก ในการผ่าตัดหลังนำเด็กออกจากโพรงมดลูกแล้ว ในรายของคนปกติรกจะหลุดลอกออกมาเอง แต่ในรายของนางไพจิตรกไม่ยอมหลุดลอกออกมาเป็นอุปสรรคในการหดรัดตัวของมดลูก ทำให้ตกเลือดเป็นจำนวนมาก ได้พยายามให้เลือดช่วยถึง 15 ยูนิต แต่ไม่เป็นผล เกิดสภาวะช็อกและเสียชีวิตในที่สุด Posted by : TEA COOL , E-mail : (.) , Date : 2006-01-05 , Time : 23:21:39 , From IP : 172.29.7.188 |