ความคิดเห็นทั้งหมด : 8

กรณีน้องเซน รมว.สธ.กับแพทยสภา


   “พินิจ” ทุบโต๊ะใส่ “แพทยสภา” กรณี "น้องเซน" ลั่นทำถูกที่ขอโทษ

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 29 ธันวาคม 2548 19:34 น.


แพทยสภา ขอเข้าพบ “พินิจ” เพื่อหารือกรณีมีการฟ้องร้องแพทย์ทั้งทางอาญาและทางแพ่ง ผลการหารือเป็นไปอย่างตึงเครียด ถึงกับทุบโต๊ะเมื่อ รมว.สธ.ยกกรณี "น้องเซน" เป็นตัวอย่าง ไม่มีแพทย์คนใดฟันธงว่าการให้คนไข้มีไข้สูง 41 องศากลับบ้านเหมาะสมหรือไม่ โชคดีที่ "หมอประเวศ วะสี" ช่วยไกล่เกลี่ย

วันนี้ (29 ธ.ค.) ศ.นพ.สมศักดิ์ โล่เลขา นายกแพทยสภา นำคณะกรรมการแพทยสภา เข้าพบ นายพินิจ จารุสมบัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อหารือประเด็นการการฟ้องร้องแพทย์ในคดีอาญาและทางแพ่งรวมทั้งกรณีที่ นายพินิจ ขอโทษครอบครัวของ “น้องเซน” เด็กชายวัย 1 ปี 9 เดือนที่เสียชีวิตเพราะเป็นไข้สูง 42 องศาเซลเซียสไปพบแพทย์ 2 ครั้ง แต่ทางโรงพยาบาลสมุทรปราการไม่รับไว้รักษา จนเด็กช็อก ผู้ปกครองนำไปรักษาในโรงพยาบาลเอกชนและน้องเซนเสียชีวิตในเวลาต่อมา ได้ส่งผลต่อขวัญและกำลังใจของแพทย์กว่า 30,000 คนทั่วประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพินิจ เปิดการหารือด้วยการนำกรณีของน้องเซนถามคณะกรรมการแพทยสภา ว่า การที่เด็กอายุ 1 ปี 9 เดือน เป็นไข้สูง 41 องศาเซลเซียส เมื่อมาพบแพทย์ครั้งที่ 2 นั้น สมควรรับไว้ในโรงพยาบาลหรือไม่ ซึ่งกรรมการแพทยสภาไม่มีใครตอบแบบฟันธง ต่างเห็นว่า ต้องดูเป็นราย ๆ ไป เพราะพยาธิสภาพโรคเป็นเรื่องซับซ้อน หากรับเด็กที่ไข้สูงไว้ในโรงพยาบาลทุกคนเตียงคงไม่พอรองรับคนป่วย

นายพินิจ ถามความเห็นฝ่ายข้าราชการ สธ.เช่น พญ.สุรภี เรืองสุวรรณ ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ระบุว่า จะให้คำแนะนำให้เช็ดตัว ให้ยาลดไข้ หลังเช็ดตัวถ้าเด็กสดใสก็ให้กลับบ้าน ถ้าอาการผิดปกติให้กลับมาหาแพทย์อีกครั้ง กรณีบ้านไกลอาจรับไว้ถ้าเด็กอาการน่าเป็นห่วง และ นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รักษาการปลัด สธ.ก็ไม่ได้ฟันธงว่าต้องรับไว้ในโรงพยาบาลหรือให้กลับบ้านเพื่อดูอาการ จึงสอบถามที่ปรึกษาแพทย์ส่วนตัวมีประสบการณ์เป็นแพทย์อยู่ที่สหรัฐอเมริกามาก่อน แพทย์รายนี้ ระบุว่า ที่สหรัฐอเมริกาหากเด็กมีอาการไข้สูง จะรับไว้ดูอาการในห้องฉุกเฉิน 3-4 ชั่วโมง ถ้าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงก็ให้กลับไปดูอาการที่บ้าน อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมยังมีการแสดงความเห็นอย่างหลากหลาย จนนายพินิจ ทุบโต๊ะ

“เด็กไข้สูง อาเจียน มือเย็น เท้าเย็น ความเห็นส่วนตัวเห็นว่าผิด ถ้าใครบอกว่าการที่ผมบอกแบบนี้แล้วผิด ผมพร้อมรับผิดชอบ ไม่อยู่ในตำแหน่งก็ได้ ผมยืนยัน เด็กปากน้ำ ถือว่าแพทย์ทำไม่ถูก ถ้าคิดว่า ผมทำไม่ถูก ผมพร้อมรับผิดชอบ” นายพินิจ กล่าวและว่า ช่วงที่ตนออกรายการถึงลูกถึงคนทางโมเดิร์นไนน์ ทีวี ประชาชนส่งเอสเอ็มเอสความเห็นกับการที่ตนขอโทษถึงร้อยละกว่า 90 กรณีน้องเซน ไปทำโพลพิสูจน์ก็ได้

ด้าน ศ.นพ.ประเวศ วะสี ซึ่งมาร่วมประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญร่าง พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติและเข้าสังเกตการณ์หารือครั้งนี้ด้วย กล่าวในระหว่างที่บรรยากาศกำลังคุกรุ่น ว่า เคยมีเหตุการณ์ที่คนจังหวัดนครปฐมนับพันคนเดินขบวนขับไล่แพทย์ภายหลังคนไข้ถูกงูกัดเข้ารับการรักษาแล้วเสียชีวิต ทีมแพทย์เตรียมแถลงการณ์ว่าได้รักษาดีที่สุดแล้วจึงให้คำแนะนำว่าไม่ควรออกแถลงการณ์แบบนั้น จึงปรับเป็นแถลงการณ์เสียใจแทนคนนครปฐมที่จะสูญเสียแพทย์ดี ๆ ไปเพราะถูกขับไล่ เพราะแพทย์ได้ทำเต็มที่แล้ว เสียใจต่อเหตุการณ์ที่มีคนตาย เหตุการณ์จึงสงบ การที่ รมว.สธ.ประกาศยอมรับผิดถือว่า เหมาะสม ส่วนแพทย์ผิดหรือถูกให้แพทยสภาพิจารณา ตนเห็นว่า เป็นการดีที่ทางแพทยสภากับ สธ.คุยกัน อยากให้ทำงานร่วมกัน เพราะระบบสุขภาพมีความซับซ้อนมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจาก ศ.นพ.ประเวศ ไกล่เกลี่ยแล้วบรรยากาศค่อนข้างดีขึ้น คณะกรรมการแพทยสภาข้อร้อง สธ.อย่าสร้างความคาดหวังให้ประชาชนสูง เพราะการรักษาพยาบาลบางโรคก็รักษาได้ บางโรคก็รักษาไม่ได้ แต่วิชาชีพแพทย์ทำเต็มที่ ผลการหารือระหว่างแพทยสภากับ รมว.สธ.เห็นตรงกันที่จะเปิดเวทีอภิปรายเรื่องการฟ้องร้องแพทย์ การแก้ปัญหาขาดแคลนแพทย์ โดยจะถ่ายทอดสดให้ประชาชนรับฟังด้วย

นพ.อำนาจ กุสลานันท์ กรรมการแพทยสภา กล่าวว่า กรณีน้องเซน จะให้แพทย์ฟันธงคงลำบาก เพราะยังไม่ได้ตรวจสอบ แต่รัฐมนตรีได้ฟันธงว่าแพทย์ผิด อย่างรวดเร็ว มีผลกระทบต่อวิชาชีพแพทย์ ดังนั้น หากการตรวจสอบยังไม่สิ้นสุด ขอรัฐมนตรีอย่าเพิ่งฟันธง

นพ.ฐาปนวงศ์ ตั้งอุไรวรรณ กรรมการแพทยสภา กล่าวว่า การที่เจ้ากระทรวงอยู่เคียงข้างประชาชนถือว่าถูกต้อง ส่วนแพทยสภาเป็นองค์กรอิสระดูแลการประกอบวิชาชีพของแพทย์ ไม่ใช่ตำรวจ วัตถุประสงค์ที่ขอเข้าพบวันนี้ คือ ผลพวงจากการที่รัฐมนตรี กล่าวขอโทษครอบครัวคนไข้และฟันธงลงโทษแพทย์กระทบต่อขวัญและกำลังใจแพทย์กว่า 30,000 คน ที่ตั้งใจรักษาดูแลคนไข้ ซึ่งแพทย์ที่บกพร่องมีแค่ร้อยละ 0.01 ตั้งแต่ตั้งแพทยสภามามีการเพิกถอนใบประกอบวิชาชีพแค่ 2 คนเท่านั้น หากจะให้ความเห็นอะไรเกี่ยวกับแพทย์ให้คำนึงถึงจิตใจของแพทย์ด้วย

วันเดียวกัน นพ.ศุภชัย คุณารัตนพฤกษ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า กรณีเด็กชายอายุ 1 เดือน เสียชีวิตเมื่อวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา ภายหลังรับการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน นั้น ผลการตรวจชิ้นเนื้อภายหลังการผ่าพิสูจน์ศพว่า สาเหตุการเสียชีวิตไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี เด็กอาจตายโดยไม่ทราบสาเหตุ เพราะในด้านวิชาการ อธิบดีกรมการแพทย์ได้เคยให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนแล้วว่า เด็กวัย 1 เดือน ถึง 1 ปี พบการเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุได้ถึงร้อยละ 40 โดยกลุ่มนี้ แพทย์ตรวจหาสาเหตุการตายไม่พบถึงครึ่งต่อครึ่ง

ส่วนผลข้างเคียงจากวัคซีนตับอักเสบบี พบได้ 1 ราย ใน 600,000 ราย ที่ได้รับวัคซีน ซึ่งถือว่าน้อยมาก ขณะนี้คลินิก นายแพทย์บุญส่ง ย่านมีนบุรี ได้เปิดให้บริการแล้ว ซึ่งตั้งแต่เกิดเหตุ ผลการตรวจสอบพบว่าคลินิกได้มาตรฐาน ระบบการจัดเก็บวัคซีนได้มาตรฐาน ไม่มีอะไรน่าสงสัย สำหรับวัคซีนที่ สธ. ฉีดให้เด็กก่อนวัยเรียน อายุ 0-4 ปี มี 10 โรค คือ วัณโรค คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก ตับอักเสบบี โปลิโอ หัด คางทูม หัดเยอรมัน และไข้สมองอักเสบเจอี






Posted by : อ.มอ. , Date : 2005-12-30 , Time : 03:39:15 , From IP : 172.29.7.80

ความคิดเห็นที่ : 1


   ดูเหมือนกัน
-เห็นด้วยที่เจ้ากระทรวงอยู่เคียงข้างประชาชนถือว่าถูกต้องที่สุด
-เห็นด้วยคงมีแพทย์ที่บกพร่องอยู่บ้างในโลกนี้ จะมากหรือน้อยกว่ารัฐมนตรีที่บกพร่องหรือเปล่าอันนี้ก็ไม่ทราบ
****แต่ท่านเจ้ากระทรวงใช้อารมณ์ในการให้สัมภาษณ์อย่างมาก
ฟังดูเหมือนว่าหมอจะผิด แต่อย่างไรก็ตามถ้ายังไม่มีการตรวจสอบ ก็ไม่หน้าจะฟันธงอย่างนี้
---ใช่หน้าที่?
---ถูกขั้นตอนหรือเปล่า
---เป็นแบบอย่างที่ดีหรือเปล่า
****การที่คนเราจะดูเด่นกว่าคนอื่นมี 2 วิธี
1.ปรับปรุงตัวเองให้โดดเด่นกว่าคนอื่น
2.เหยียบคนอื่น หรือใช้คนอื่นเป็นเครื่องมือนำทางสู่ความโดดเด่น


Posted by : ดูเหมือนกัน , Date : 2005-12-30 , Time : 08:42:08 , From IP : 172.29.1.243

ความคิดเห็นที่ : 2


   ประการแรก "ทุกคน" อยู่ข้างประชาชนทั้งสิ้น การพูดว่าเป็นเจ้ากระทรวงต้องอยู่ข้างประชาชนนั้น ฟังดูเหมือนคนอื่นๆไม่ได้อยู่ข้างประชาชน เป็นการ "อิง" อำนาจหลัก (คือประชาชน) เป็น backup ไอ้ที่ทุบโต๊ะ หรือ judgement ที่ข้ามขั้นตอน

ประการสอง กระบวนการยุติธรรม ต้องถูกนำมาใช้ก่อนที่จะ "ตราหน้า" ใครว่าผิด ตรงนี้เป็นมาตรฐานของอารยประเทศทั่วโลก ขนาดยิงกันตาย ยังต้องสอบสวนเลยว่าป้องกันตัวหรือไม่ เป็นบ้าหรือเปล่า ก่อนจะ "ตัดสิน" ฉะนั้นนี่คือความสำคัญว่าทำไม "สถาบันหลัก" ที่พระมหากษัตริย์ทรงใช้พระราชอำนาจผ่านสถาบันต่างๆ คือการบริหารผ่านทางสภาผู้แทน การออกกฏหมายผ่านทางวุฒิสภา และความยุติธรรมผ่านทางตุลาการ

ประการที่สาม ถึงแม้ว่าผลสอบสวนทีหลังพบว่าแพทย์มีข้อบกพร่องจริง แต่การ "ฟันธง" โดยไม่มีการสอบสวน ไม่มีการ backup โดย guideline ของประเทศ ใช้ emotion ใช้ poll ตามหลังว่าถูกหรือไม่ นี่เป็นวิธีคิดที่ผิด และส่งเสริมการใช้อารมณ์เป็นหลักในการตัดสิน ซึ่งอันตราย และทำให้ขวิญกำลังใจ รวมทั้งความยุติธรรมบิดเบี้ยวไปได้



Posted by : Phoenix , Date : 2005-12-30 , Time : 09:51:18 , From IP : 172.29.3.114

ความคิดเห็นที่ : 3


   นักการเมือง/การฑูต อยู่คนละขั้วกับหมอ
และทั้งหมดก็คนละขั้วกับนักสังคม

ไม่มีคนไหนถูกผิด ในองค์ประกอบนั้นๆ

แต่นักการเมืองใช้อำนาจบาทใหญ่ นั้น เลวแน่นอน


Posted by : หมอกระจั้ว , Date : 2005-12-30 , Time : 10:30:56 , From IP : 172.29.3.149

ความคิดเห็นที่ : 4


   ขอให้พวกเราสามัคคีกันไว้
และอย่าใช้อารมณ์ในการตอบโต้นักการเมือง
เพราะมันจะเข้าทางเขา
ใช้หลักวิชาการ สติ และการหักล้างที่เป็นเหตุเป็นผล
บทสรุปสุดท้ายจะสะท้อนออกมาเองว่า
ใครทำอะไรไม่เหมาะสม
อย่าง สามคห.ข้างบนนี้ เป็นลักษณะที่ดีในการแสดงความเห็นครับ
ขอชื่นชมครับ


Posted by : สายธาร , Date : 2005-12-31 , Time : 11:22:14 , From IP : pool-isdn-106.microt

ความคิดเห็นที่ : 5


   ขอแจมด้วยคน..จิท่าน(ความคิดเห็นส่วนตัวน่ะ..)
สำหรับนักการเมือง..ที่เราๆๆท่านๆๆ..คงได้รับรู้และเห็นพฤติกรรมไม่ดีๆของเหล่าบรรดานักการเมืองนั้นๆๆ ครั้งต่อไปมีโอกาสเลือก..ก็อย่าไปเลือกเอาเข้ามาทำหน้าที่.....ทางการเมืองอีก(ให้จำไว้นานๆๆอย่าลืมมม...คนไทยชอบเป็นโรคหลงๆมๆหุหุ) ดันไปเลือกกลุ่มนี้ให้เข้ามาทำ......แยวจาบ่นไปไปทำใม..เหอๆ
สำหรับนายแพทย์,หมอ,นางพยาบาล..ก็มีพร่องอยู่บ้างในโลกเล็กๆใบนี้ที่เห็นแก่ตัว..ไม่มีจรรยา..ไม่มีเมตตา..หรือไม่มีศีลอยู่ในจิตใจ..(มีแต่น้ำเงินและธุรกิจส่วนตัวของตนเอง) ให้คนที่มีหน้าที่..ตัดสิน ช่วยกันตรวจสอบเอาจริงเอาจัง..(อย่าเห็นแก่พวกพ้อง..) แพทย์,หมอ,นางพยาบาล ที่เหลือเป็นกลุ่มใหญ่ก็สมควรจะ
ช่วยกันกลุ่มเล็กเหล่านี้ออกไปจากสังคมแพทย์,หมอ,นางพยาบาล อาช๊พนี้จาได้สูงขึ้ง..
ด้วยคความเคารพ..


Posted by : tt.com , Date : 2005-12-31 , Time : 12:22:33 , From IP : 172.29.7.218

ความคิดเห็นที่ : 6


   "เด็กไข้สูง อาเจียน มือเย็น เท้าเย็น ความเห็นส่วนตัวเห็นว่าผิด ถ้าใครบอกว่าการที่ผมบอกแบบนี้แล้วผิด ผมพร้อมรับผิดชอบ ไม่อยู่ในตำแหน่งก็ได้ ผมยืนยัน เด็กปากน้ำ ถือว่าแพทย์ทำไม่ถูก ถ้าคิดว่า ผมทำไม่ถูก ผมพร้อมรับผิดชอบ” จากคำพูดของนายนายพินิจ ถือว่าเป็นการใช้อารมณ์มาตัดสินว่าแพทย์ผิด เพื่อให้ตัวเองได้คะแนนเสียงจากประชาชน น่าเศร้าใจประเทศไทยที่มีรมต.แบบนี้(ปากพร่อยไว้ก่อน ทั้งที่ไม่มีการตรวจสอบ) แพทย์ไทยคงไม่มีใครอยากทำงานต่อไปอีกแน่

Posted by : นักศึกษาแพทย์ที่กำลังจะจบ , Date : 2005-12-31 , Time : 14:08:46 , From IP : 172.29.4.33

ความคิดเห็นที่ : 7


   การที่บุคคลอื่นที่ไม่ใช่แพทย์มีความเข้าใจและพูดอย่างที่ ท่านรัฐมนตรีนั้นไม่ถือว่าแปลก แต่การที่ระดับรัฐมนตรีพูดอย่างนี้ย่อมกระทบต่อวิชาชีพแพทย์ในวงกว้าง จึงเป็นการที่สมควรแล้ว (และน่าชื่นชม) ที่แพทยสภาได้ออกแถลงการณ์ข้อเท็จจริงทางการแพทย์ แต่ควรจะให้สังคมในวงกว้างร่วมรับรู้และรับทราบ (อย่างจริงจัง) เกี่ยวกับข้อจำกัดทางการแพทย์ในเรื่องของการวินิจฉัย การรักษา และการพยากรณ์โรค

นอกจากเป็นหน้าที่ของแพทยสภาแล้ว บุคลากรทางการแพทย์ทุกคนที่เกี่ยวข้องควรต้องให้ข้อมูลเรื่อง โรค การตรวจทางห้องปฏิบัติการ การวินิจฉัยเบื้องต้น สิ่งที่ผู้ป่วยและญาติต้องเฝ้าระวังต่อ เมื่อไหร่ต้องมาโรงพยาบาลซ้ำ และควรมี medical record ที่เพียงพอที่จะสื่อสารข้อมูลที่สำคัญได้


Posted by : Top Secret , E-mail : (..............................) ,
Date : 2005-12-31 , Time : 20:01:48 , From IP : 203.188.57.92


ความคิดเห็นที่ : 8


   อยากได้ภาพนางพยาบาลค่ะ

Posted by : kg6051 , Date : 2006-02-18 , Time : 12:02:54 , From IP : 210.246.74.184

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.005 seconds. <<<<<