ความคิดเห็นทั้งหมด : 16

ทำไม พชท.ถึงไม่อยากเป็นอาจารย์ที่ มอ. ต่อกันล่ะเนี่ย!!!


   ทำไม พชท.ถึงไม่อยากเป็นอาจารย์ที่ มอ. ต่อกันล่ะเนี่ย!!!
มันก็น่าแปลกที่ทำไมหลายๆภาควิชาใน มอ.ที่เปิดรับสมัครตำแหน่ง staff กันเยอะแยะ แต่ทำไม พชท.ที่เก่งๆกันหลายคนถึงไม่อยากทำงานที่มอ. ต่อ แสดงว่ามันต้องมีอะไรภายในที่คนภายนอกไม่รู้กันแน่ๆเลย มักพบว่าเป็นลักษณะที่"คนในอยากจะออก และคนนอกไม่อยากจะเข้า" ถ้าเป็นอย่างนี้ก็แย่ละสิ อีกหน่อย มอ.ก็แย่ละสิว่ามั๊ย สงสัยว่าต้องมีการพิจารณาในระดับภายในกันเองแล้วละว่าทำไมไม่มีคนเอาน่ะ จริงมั๊ย???

Posted by : noon , E-mail : (noondarin@yahoo.com) ,
Date : 2005-12-29 , Time : 20:55:49 , From IP : 203.188.41.249

ความคิดเห็นที่ : 1


   คงไม่เฉพาะที่มอ.หรอก ตอนนี้รร.แพทย์ที่กทม.ก็เริ่มขาดอาจารย์ ส่วนหนึ่งเพราะงานหนัก ค่าตอบแทนน้อย เมื่อเทียบกับเอกชน ปรากฎการณ์สมองไหลก็เกิดขึ้น ถ้าไม่มีความอดทนและความรักที่จะเป็นอาจารย์มากพอ คงจะอยู่ได้ไม่นาน อีกอย่างสถานการณ์ทางใต้ยังไม่สงบ ถ้าไม่ใช่คนแถวนี้ ก็คงไม่อยากมาอยู่

Posted by : อ.มอ. , Date : 2005-12-30 , Time : 03:45:23 , From IP : 172.29.7.80

ความคิดเห็นที่ : 2


   ในทางกลับกัน ควรขอบคุณ ยกย่อง และเป็นกำลังใจให้ อาจารย์ ที่ยังอยู่สอนลูกศิษย์ โดยไม่สมองไหล ด้วยครับ

Posted by : สมองไม่ไหล , Date : 2005-12-30 , Time : 08:35:43 , From IP : 172.29.3.101

ความคิดเห็นที่ : 3


   คงมีหลายปัจจัยที่เป็นจุดเสียเปรียบทำให้คนเก่งๆ ไม่อยากอยู่ เเต่ถ้าเป็นอาจารย์ที่นี่ก็มีข้อได้เปรียบในหลายๆ จุดเพียงเเต่จะเอามาเป็นจุดได้เปรียบได้หรือไม่ เงินทองถึงเป็นสิ่งจำเป็นก็ตาม แต่ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็อย่าลืมคำว่า "อาจารย์โรงเรียนเเพทย์" ซึ่งคำๆ นี้มากกว่าที่จะเป็นแค่ คนถ่ายทอดสอนศิษย์ให้เป็นคนดี มีความรู้ความสามารถ เเต่ยังมีหลายหน้าที่ต้องคำนึง ไม่ว่าจะเป็นการสร้างองค์ความรู้ หรือเเม้กระทั่งความเป็นเเพทย์ที่ต้องทำงานบริการรักษาผู้ป่วย

Posted by : สังเกตุการณ์ , E-mail : (0) ,
Date : 2005-12-30 , Time : 10:46:39 , From IP : 172.29.7.167

ความคิดเห็นที่ : 4


   การที่คนจะเลือกอยู่หรือไม่อยู่ที่ใดที่หนึ่งนั้น คงจะมีสาเหตุแตกต่างมากมาย การวิ้เคราะห์อย่างเป็น objectively อาจจะยากพอๆกับการทำ subjective assessment

สถาบันหรือองค์กรมี "วัฒนธรรม" องค์กร อยู่ ตรงนี้อาจจะเป็นประเด็นแรกๆ compatibility จะมีผลต่อ "คุณภาพชีวิต" ของสมาชิกได้เยอะ การ "เข้ากันได้" นี้ไม่ได้หมายถึงการ match ระหว่างดีกรีความดีเลว แต่เป็นเรื่องของศรศิลป์ที่กินกัน หรือคู่บุพเพสันนิวาส คู่แล้วก็คงไม่แคล้วกัน แต่คนที่ไม่ใช่คู่กันมันก็คงจะแค่นั้น

"เก่ง" นั้น ไม่ได้การันตีว่า "เหมาะ" กับที่ทุกที่ มันมีเรื่องความชอบ ค่าตอบแทน ที่อยู่อาศัย ความปลอดภัย การทำงานกับทีมที่มีอยู่ supporting system เช่นครอบครัว อาหารการกิน โรงเรียนของลูก ฯลฯ



Posted by : Phoenix , Date : 2005-12-30 , Time : 11:23:18 , From IP : 172.29.3.114

ความคิดเห็นที่ : 5


   สิ่งที่อยากเห็นในคณะนี้คือ ความภาคภูมิใจในสถาบันเเละพร้อมที่จะกลับมาช่วยในฐานะศิษฐ์เก่า หรือจะมาเป็นอาจารย์ที่ดี ไม่ใช่จบเเล้วไปอยู่ที่อื่นเเล้วก็ลืมหมดว่าที่นี่ก็ได้สร้างคน

Posted by : ออ , E-mail : (อ) ,
Date : 2005-12-30 , Time : 11:53:00 , From IP : 172.29.1.161

ความคิดเห็นที่ : 6


   ขอคิดด้วยคนนะครับ ผมอยู่ที่ มอ. และอยู่อย่างพอเพียง เงินเดือนที่ได้รับก็อยู่อย่างสบายครับ แต่คิดว่า แพทย์รุ่นใหม่จะเป็นคน generation ใหม่ ซึ่งมีแนวคิดและการดำรงชีพเปลี่ยนไปตามกระแส มุ่งสู่ตนเองมากขึ้น ไม่ได้โทษเขา แต่เพราะสังคมเปลี่ยนไป จึงทำให้พวกเรามักลืมปรัชญาของพระราชบิดา อยากให้ระลึกถึงพระราชดำรัสของในหลวงและพระราชบิดา แล้วเราจะเป็นคนที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม และเราจะมีความสุขอย่างมากด้วย

Posted by : อาจารย์คนหนึ่ง , Date : 2005-12-30 , Time : 11:55:26 , From IP : 172.29.3.119

ความคิดเห็นที่ : 7


   ขอออกความเห็นด้วยคนนะครับ สำหรับผมกลับมองว่าการเป็น ครู อาจารย์ ที่ดีเป็นอะไรที่ไม่ง่ายนะครับ ไม่ใช่แค่เรียนจบ สอบบอร์ดหรือสูงกว่านั้นแล้วจะเป็นครูที่ดีได้ สิ่งที่จะทำให้เราเป็นครูที่ดีได้ คงต้องประกอบด้วยหลายๆอย่าง เช่น ความตั้งใจ เวลาให้นศพ. ความรู้ ความสามารถ เช่น การสอนอย่างไรให้ นศพ. รู้เรื่อง ซึ่งจะถูกจำกัดด้วยเวลาของงานอื่นๆ เช่น การเป็นแพทย์(ตรวจ OPD, Round ward, Surgery แทบเป็นงานหลักอยู่แล้ว) และนักวิจัย ผมกลับมองว่าหากคิดจะเป็นครู อาจารย์ซึ่งเป็นแบบอย่างแล้วนั้น ควรจะเป็นครู อาจารย์ที่ดี หากเป็นไม่ดีก็อย่าเป็นเลย อีกอย่างสถาบันเราเองก็มีการ Training เรื่อยๆ ซึ่งคนที่มีความสามารถและสามารถทำหน้าที่ตรงนี้ได้ดีกว่าเรามีอีกเยอะ เราก็ไม่ควรไปรับตำแหน่งนั้น แล้วทำให้คนเหล่านั้นในรุ่นต่อๆ ไป ไม่มีตำแหน่ง จริงไหมครับ
บางครั้งการที่เรารู้ตัวว่าทำได้ไม่ดี ก็ไม่ควรฝืนทำไป เพราะผลไม่ได้เกิดกับตัวเองเพียงอย่างเดียว แต่มันมีผลกระทบต่อคนอื่นๆ ด้วยครับ
สำหรับผมเรื่องเงินได้เป็นปัจจัยสำคัญเลยครับ แต่เพราะรู้ว่าทำได้ไม่ดีตามที่เราคิด เลยไม่คิดจะเป็นครับ
ปล. นี้เป็นความคิดผมจริงๆ ที่ไม่คิดจะเป็นอาจารย์ หากกระทบใคร หรือไม่เหมือนใคร ก็ขออภัยด้วยครับ

Posted by : Araidee , Date : 2005-12-30 , Time : 13:03:15 , From IP : 172.29.1.134

ความคิดเห็นที่ : 8


   แต่หลายๆครั้งที่ พชทเก่งมากๆทำงานก็ดีเป็นที่รักของน้องและเพื่อนร่วมงานสมัครเป็นอาจารย์ที่ มอ แต่ที่ เราไม่รับเอง พอไปสมัครที่รร แพทย์ในกทม ก็รับทันทีจนตอนนี้ก็ได้ไปเรียนต่อเมืองนอกก้าวหน้าทางวิชาการหลายๆคนแล้ว ขณะที่young staff ที่นี้ไม่สามารถไปเรียนต่อได้เพราะไม่มีคนทำงาน ถ้าจะเรียนก็มีนโยบายให้ต่อเฉพาะทางที่นี้หรือไม่ก็ต้องมีคนมาแทนก่อน คงเป็นเหตผลหนึ่งตน.อาจารย์ไม่มีแรงดึงดูดพอ

Posted by : o , Date : 2005-12-31 , Time : 00:35:38 , From IP : 203.113.71.165

ความคิดเห็นที่ : 9


   กระผมขอแสดงความเคารพและชื่นชม อาจารย์แพทย์ทุกท่านด้วยความจริงใจ

Posted by : Top Secret , E-mail : (..............................) ,
Date : 2005-12-31 , Time : 20:10:29 , From IP : 203.188.57.92

ความคิดเห็นที่ : 10


   คนที่ดูแลผู้ป่วยดี มีความสามารถอาจจะเป็นแพทย์ที่ดีได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นครูที่ดีได้ ขณะที่คนที่เป็นครูที่ดี ก็อาจจะไม่ได้เก่งมากที่เดียวนัก ในขณะที่จุดมุ่งหมายของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนดีพร้อมทุกอย่าง แต่ไม่พร้อมที่จะเป็นเพราะยังไม่อยากเป็น ขณะที่บางคนอยากเป็นแต่ไม่พร้อม มันมีหลายปัจจัยที่เกี่ยงข้องดังนั้นอย่างด่วนสรุปว่าทำไม่จึงไม่มีใครอยากเป็นครูแพทย์ที่นี่ แต่ละคนมีเหตุผลในตัว ทั้งปัจจัยภายในตัวเอง สิ่งแวดล้อม แต่สิ่งที่ทุกคนทำได้เหมือนกันคือตั้งมั่นทำความดี

Posted by : ครูแพทย์คนหนึ่ง , Date : 2006-01-01 , Time : 18:45:52 , From IP : 172.29.7.198

จริง พชท. อยากเป็นอาจารย์อย่างออกหน้าออกตา แต่ภาคไม่รับ -> จริง แต่น้อยมาก อาจารย์ส่วนมาก 99.99 % ของ มอ. ก็สามารถไม่ต่างจากกทม. ไอ้ที่ไม่ได้เป็นอย่างยิ่งก็มีแบบเดียวกับที่กทม. -> จริงแท้ ปัญหาข้างต้น ไม่ได้มากจนมีนัยสำคัญในความเห็นผม " />
ความคิดเห็นที่ : 11


    ผมว่าอยู่ที่เราเป็นส่วนใหญ่ อาจารย์ก็ดี อาจทำให้เด็กร้ายพอจะเป็นผู้เป็นคน แต่ถ้าเด็กมันคิดจะดี เนี่ย ไม่ต้องมีอาจารย์ก็ดีเพราะระบบเป็น problem base and self directed learn ครับ ระบบการทำงานการบริหารในแต่ละภาคเป็น individual
การบริหารภาควิชา บริหารคนที่มีความรู้ความสามารถและ ego เป็นเรื่องยาก และบางทีก็ไม่เหมาะที่คนภายนอกจะวิจารณ์แบบครึ่งๆกลาง ๆ ยังไง เราก็ตั้งคณะมา 30 +ปีแล้ว
ผมเองจบ พบ. มอ. มาใช้ทุนภาคกลาง มีคนชมและชอบถามว่าจบที่ไหน ตอบได้อย่างมั่นใจว่าสงขลาครับ พอกลับไปเรียนต่อ 3 ปีก็ไม่ได้ขยัน/เก่งมากมาย ( ไม่เก่งนั่นแหละ) แต่การที่ผ่านงาน med มอ. ได้แล้ว ( ยังมีคนน้อย ดูคนไข้กันอ้วก ได้เป็น chief ward ตั้งแต่ขึ้น dent 2 ได้ 4 เดือน ... คนไข้หลายท่านก็ไม่ยอมให้ผมได้ช่วยเหลือ อาทิตย์แรกพี่ท่านหนีกลับบ้านเก่าไป 4 caseใน 6 วัน
น้องมันถาม "พี่ๆ ป้าเป็นอะไรอ่ะ ... กรูก็ม่ายรุ จิงๆ ว่ะ " )
รุ่นผมสอบบอร์ดผ่านรอบเดียวทั้ง ปี 2 / 3 ( รุ่นผมผ่านทุกคน ) โดยไม่ต้องมีใครมาปล่อยข้อสอบรั่ว ( บางที่ในกทม. มันปล่อยโพยปลอมครับพี่น้อง ชั่วมาก ขอบอก แต่ก็อ่านตามโพยที่ปล่อยบ้างอ่ะนะ)
มีอาจารย์หลายๆ ท่าน ( ผมเองขอบคุณ อ. ธาดา อ.พรรณทิพย์ อ.รัตนา อ.พรชัย อ.สุวรรณา อ.วิไววรรณ อ.ธีระ อ.ศิวศักดิ์ และหลายๆ ท่านแบบว่า แทบทุกท่านในภาคทั้ง อาวุโสและ young staff - ไม่กล้าเขียน O - d and New staff อิอิ ) ได้ช่วย comment การ approach long case ( อาจารย์หลายท่านเสียสละเวลาแต่พวกเราทำวิจัยเสร็จกันช้าเลย self test approach ได้ไม่กี่รอบ ) รู้สึกภูมิใจที่จบ training ที่นี่
ตอนนี้ผมทำงานเอกชนแถวภาคกลาง มีคนใช้ประจำพอสมควร หลายคนชอบ ถามว่าเป็นคนที่ไหน พอผมบบอกว่าอยู่แถวนี้ก็ชอบถามต่อว่าจบ จุฬา / รามา / ศิริราช ใช่ไหม.... ผมภูมิใจมากที่จะตอบว่า จบหมอจากสงขลาครับ
สรุป : พชท.บางคนน่าเป็นอาจารย์ต่อ แต่ไม่ได้เป็น -> จริง
พชท. อยากเป็นอาจารย์อย่างออกหน้าออกตา แต่ภาคไม่รับ -> จริง แต่น้อยมาก
อาจารย์ส่วนมาก 99.99 % ของ มอ. ก็สามารถไม่ต่างจากกทม. ไอ้ที่ไม่ได้เป็นอย่างยิ่งก็มีแบบเดียวกับที่กทม. -> จริงแท้
ปัญหาข้างต้น ไม่ได้มากจนมีนัยสำคัญในความเห็นผม



Posted by : หมอ มอ. , Date : 2006-01-02 , Time : 00:22:09 , From IP : 203.188.52.68

ความคิดเห็นที่ : 12


   ลองนึกให้ดีนะครับ ว่า มอ.มีอะไรดีกว่าโรงเรียนแพทย์ อื่นๆในกรุงเทพ บ้าง เท่าที่ผมนึกได้และอยากแสดงความเห็นมีดังนี้ครับ
1. เป็นโรงเรียนแพทย์เก่าแก่ที่สุดของภาคใต้
2. มีทรัพยากรบุคคลและระบบการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ
3. ขนาดองค์กรไม่ใหญ่จนเทอะทะ
4. มีวัฒนธรรมแบบมองคนที่ผลงานและให้โอกาสคนมีความสามารถ
5. รายได้ดีที่สุดในโรงเรียนแพทย์ด้วยกัน
6. ไม่ต้องตื่นตี 5 ไปทำงานและวิ่งรอกคอยรับ job ตั้งแต่ 14.00 น.
7. ไม่ต้องเสียค่าเช่าบ้าน
8. มีสวัสดิการที่ดี
9. มีแหล่งข้อมูลทำงานวิจัย คือ ประชากรในภาคใต้ โดยไม่ต้องแบ่งกับโรงเรียนแพทย์ไหนๆในประเทศ

อันนี้คือเท่าที่นึกออกครับ

Posted by : หมอ , Date : 2006-01-02 , Time : 18:22:35 , From IP : 203.155.206.110

ความคิดเห็นที่ : 13


   กำลังจะบอกว่า ด้วยลักษณะของ ม.อ. เองนั้น มีศักยภาพที่จะเป็นโรงเรียนแพทย์ชั้นนำของประเทศอยู่แล้ว

แต่อาจเพราะ ม.อ.ไม่จำเป็นต้องแข่งกับใคร (เพราะที่เป็นอยู่ก็มีความสุขดีอยู่แล้วระดับหนึ่ง)

จึงทำให้ โอกาสที่จะสร้างความสามารถในการแข่งขันลดลง เราเลยสร้างผลงานระดับประเทศหรือในเวทีโลกได้น้อยกว่าที่ควรจะเป็น (ผมว่า เรา unique และ มีทุกอย่างพร้อม ขาดเพียง discipline ที่จะ achieve goals ที่เราตั้งใว้ เท่านั้นเองครับ.... ต้องขอโทษที่เขียนภาษาอังกฤษ แต่ไม่ต้องการให้ความหมายเปลี่ยนครับ)

กำลังจะบอกต่อว่า เมื่อเวลานั้นมาถึง (วันที่เราทำตามที่ตั้งใจไว้ได้) บรรยากาศการทำงานใน ม.อ. จะสดใส และจะมีแต่คนอยากเป็นผู้ร่วมงานกับโรงเรียนแพทย์แห่งนี้อีกนับไม่ถ้วนครับ

Posted by : หมอ , Date : 2006-01-02 , Time : 19:47:14 , From IP : 203.155.206.110

ความคิดเห็นที่ : 14


   ???

Posted by : ? , E-mail : (?) ,
Date : 2006-01-02 , Time : 19:49:53 , From IP : 172.29.7.127

ความคิดเห็นที่ : 15


   คำถามโดนใจมากๆ


คำตอบข้างล่างก็โดนใจ
แต่หลายๆครั้งที่ พชทเก่งมากๆทำงานก็ดีเป็นที่รักของน้องและเพื่อนร่วมงานสมัครเป็นอาจารย์ที่ มอ แต่ที่ เราไม่รับเอง พอไปสมัครที่รร แพทย์ในกทม ก็รับทันทีจนตอนนี้ก็ได้ไปเรียนต่อเมืองนอกก้าวหน้าทางวิชาการหลายๆคนแล้ว ขณะที่young staff ที่นี้ไม่สามารถไปเรียนต่อได้เพราะไม่มีคนทำงาน ถ้าจะเรียนก็มีนโยบายให้ต่อเฉพาะทางที่นี้หรือไม่ก็ต้องมีคนมาแทนก่อน คงเป็นเหตผลหนึ่งตน.อาจารย์ไม่มีแรงดึงดูดพอ

Posted by o() 2005-12-31 , 00:35:38 , 203.113.71.165

ขอไม่ comment เพิ่มนะ
แต่เสียดายเหมือนกัน เรากับเพื่อนก็อยากอยู่ที่ มอ ต่อ แต่ ............. มันไม่ไหว
ทั้งงาน สิ่งแวดล้อม และสำคัญมากๆ คือวิสัยทัศน์ ของผู้ใหญ่
พูดไม่ออก

Posted by : vecchia , Date : 2006-01-07 , Time : 00:59:11 , From IP : tot-91-48.pacific.ne

ความคิดเห็นที่ : 16


   ........

Posted by : .... , Date : 2006-01-07 , Time : 13:01:07 , From IP : 61.19.24.122

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.007 seconds. <<<<<