ดิฉันตอบกลับไปว่า "ขอบคุณค่ะ!?" >เขาทำหน้างงๆ แต่ไหนๆดิฉันก็ไม่ได้เสียท่าพวกนั้นไปก็เลยไม่บอกเขาดีกว่า >ช่วงที่ดิฉันอาบน้ำ >ดิฉันสังเกตรอยครีมสีขาวอมชมพูบางๆที่ข้อแขนซ้าย ค่อนข้างลื่น >เช็ดล้างออกไม่ยาก >ลองนึกภาพดูนะคะ ถ้าแฟนไม่ได้ไปด้วยเรื่องจะกลายเป็นอย่างนี้ >ผู้ชายคนดังกล่าวอาศัยยาปลุกsexและกดประสาทให้มึนงง >พาไปในที่ที่สะดวกของเขาและถึงดิฉันไม่เต็มใจ ร่างกายไม่ได้ตอบสนองต่อฉัน >แต่ไปตอบสนองเขาแทน >ไม่แน่เขาอาจบันทึกภาพเอาไว้แบล็คเมย์ก็ได้ ถ้าแจ้งกับตำรวจ >พอตรวจสถานที่กลายเป็นโรงแรม ไม่พบการต่อสู้ตรวจร่างกาย >ไม่พบร่องรอยการทำร้ายและข่มขืน มีแต่ร่องรอยการร่วมเพศธรรมดา >ไม่มีคราบอสุจิ(สวมถุง) ไม่พบสารเสพติด >และอาจจะไม่รู้จักหรือไม่พบสารดังกล่าวในร่างกายดิฉันก็ได้ ลองคิดดูสิคะ >แจ้งความเอาผิดผู้อื่น >อาจกลับกลายเป็นแจ้งความประจานตัวเองขึ้นมาก็ได้ แฟนไม่เชื่อเลยอาจเลิกกันไป >ถ้ามีใครโดนเข้าไปจริงๆ >ก็ขอให้ทำใจให้ว่างหรือคิดเรื่องยากๆเครียดๆ และตั้งสติให้มั่น สูดหายใจแรงๆ >ก้าวขายาวๆ เหยียบใครก็ช่าง >ดิฉันไม่อยากให้มีใครเป็นเหยื่อ ขอให้ช่วยกัน Forward >มากๆทั้งชายทั้งหญิงนะคะ ส่งแค่คนสองคนก็ได้บุญมากแล้วค่ะ" />ภัยสังคม

ความคิดเห็นทั้งหมด : 1

ภัยสังคม


   >เหตุการณ์ที่ 1
>ภรรยาผมจะมีนิสัยเมื่อขึ้นรถแล้วต้องกดเซนทรัลล๊อค
>ทั้งก่อนสตาร์ทเครื่องและก่อนดับเครื่อง
>มีรถเก๋งคันหนึ่งสีเงิน มีคนสองคนเดินลงมาจากรถ
>แล้วก็เดินมาที่รถของเราอย่างสุภาพ
>ขณะที่ภรรยาผมกำลังเล่นกับลูกอยู่เพลินๆ ก็ได้ยินเสียงตึ๊กจากข้างหลัง
>ภรรยาผมก็ตกใจรู้สึกตัวว่ามีคนพยายามเปิดประตูหลังของรถเรา แต่เพราะรถล๊อค
>พวกเขาก็เดินกลับไปขึ้นรถเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
>ตอนที่ภรรยาผมเล่าเรื่องนี้ให้ผมฟัง
>ผมคิดว่าเหลือเชื่อจริง ๆ กลางวันแสก ๆ แท้ๆ ถ้าหากบังเอิญรถไม่ได้ล๊อค
>ผมไม่กล้าคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น อยากจะให้ทุกคนมีนิสัยขึ้นรถต้องล๊อครถ
>พวกผู้ร้ายมักจะลงมือจากเบาะหลัง เพราะจะควบคุมสถานการณ์ได้ง่าย
>เหตุการณ์ที่ 2
>หลังจากจ่ายเงินค่าจอดรถ เลี้ยวออกจากโรงพยาบาลก็จอดติดไฟแดง ขณะนั้น
>(ยังไม่ถึง 3 นาที
>ระบบล๊อคอัตโนมัติคงยังไม่ทำงาน) ชายหนุ่มสองคนก็เข้ามานั่งที่เบาะหลังของรถ
>โชคดีที่พ่อแม่ของผมไหวตัวเร็วมาก รีบถอดเข็มขัดนิรภัย
>ดับเครื่องดึงกุญแจออกแล้วออกมายืนนอกรถโดยเร็ว
>คนทั้งสองคนนั้นก็ยังนั่งอยู่ในรถหน้าตาเฉย
>จนกระทั่งคุณแม่ของผมตะโกนใส่พวกเขาว่า
>พวกเรายังมีเพื่อนฝูงอยู่ในโรงพยาบาลอีกเยอะ
>จะให้เรียกพวกเขาลงมาคุยกับพวกแกไหม ?
>พวกเขาจึงออกมาจากรถแล้วบอกว่าขอโทษขึ้นผิดคัน
>(นี่มันปล้นกันชัด ๆ) แล้วรถคันข้างหลัง (มีคนอยู่ในรถสองคน)
>ก็ขับมารับพวกเขาจากไป ... น่ากลัวที่สุด
>เหตุการณ์ที่ 3
>ตอนจอดติดไฟแดง รถของผมอยู่ห่างจากทางแยกประมาณคันที่สามหรือสี่ สักครู่หนึ่ง
>จู่ ๆ
>ก็มีมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งจอดอยู่ท้ายรถผม บนรถมีชายหนุ่มอายุประมาณ 20 กว่า ๆ
>สองคน
>แล้วที่น่าสงสัยก็คือ พวกเขาพยายามมองเข้ามาในรถของผม
>ผมจึงจ้องพวกเขาอยู่ครู่หนึ่ง
>พอไฟเขียว ก็ออกรถพร้อมมัน ผมบังเอิญได้ยินหนึ่งในนั้นพูดขึ้นว่า
>รถมันล๊อคหมด
>แล้วก็ขับเลยไป
>เหตุการณ์ที่ 4 อันตรายใกล้ๆตัว
>ขอบอกก่อนนะคะ....ว่าผู้ส่งต่อไม่ได้ไปเจอกับตัวเอง แต่ก็น่าเป็นห่วงมาก
>ถ้าเกิดเรื่องทำนองนี้กับคนที่เรารู้จักคะ.....
>รู้ไว้เพื่อเป็นประโยชน์ ก็ดีค่ะ...!!!
>โปรดระวังภัยสังคมและแจ้งต่อคนที่ท่านรู้จักด้วยระวัง...
>ดิฉันเคยมีประสบการณ์ที่คิดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนหญิงทั้งหลายนะคะเรื่องมั
>นมีอยู่ว่า
>หลังจากที่ได้ทำงานเหน็ดเหนื่อยตลอดสัปดาห์
>วันนั้นดิฉันจึงไปออกเดทกับแฟนไปเที่ยวที่โรงหนังชื่อดังแห่งหนึ่ง
>ใจกลางกรุงเทพฯ ก็เป็นสถานที่ที่ผู้คนพลุกพล่านอยู่ตลอด
>แต่ใครจะคิดว่ามีเหตุการณ์แบบนี้ได้
>ช่วงใกล้จะออกจากตัวตึกของโรงหนัง ดิฉันไปห้องน้ำกับแฟนบริเวณที่จอดรถ
>ซึ่งต้องเดินแยกกัน ห้องน้ำมีห้องน้อยไปหน่อย ขาออก ก็เลยออกไม่พร้อมกัน
>แฟนดิฉันจึงไปเล่นเกมตู้ที่อยู่ไม่ห่างมากนัก
>ถ้าดิฉันออกมาก็จะเห็นเลยในวันนั้น
>ดิฉันเองก็ไม่ได้แต่งตัวเปรี้ยวเลยเป็นกางเกงขายาวรัดทรงธรรมดา
>เสื้อสองชั้นคลุมไหล่แขนยาวปกติ
>จู่ๆก็มีผู้หญิงคนหนึ่ง เดินสวนตอนที่ดิฉันพ้นจากประตูห้องน้ำด้านนอกไม่มาก
>และเธอก็เบียดเข้ามาป้ายอะไรซักอย่างที่ข้อแขนซ้าย เพียงชั่วครู่
>ดิฉันก็รู้สึกร้อนวูบวาบ
>และรู้สึกสลึมสลือมึนงงอย่างรวดเร็ว สมองจินตนาการบางอย่างได้อย่างรวดเร็ว
>ผู้หญิงหลายๆคนพอจะเดาออกนะคะ ไม่ทันจะก้าวได้เท่าไหร่
>จู่ๆก็มีชายร่างสูงตัวใหญ่หน้าตาดีเข้ามายืนชิดด้านหลังเยื้องขวา
>เขามีวิธีการลวนลามที่แปลกมาก
>คือเขาใช้มือซ้ายจับนิ่งๆที่เนินสะโพกขวาด้านเอว
>และใช้มือขวาจับนิ่งๆที่ต้นขาขวา
>ต่ำกว่าเอวนิดหน่อย และก็ดันไปข้างหน้า มาแปลกที่ดิฉันแทบไม่มีแรงขัดขืน
>แต่ในใจก็ไม่เต็มใจหรอก ที่สำคัญรู้สึกมึน
>และก็ร้อนวูบวาบอย่างเต็มที่ บรรยายเปิดใจเจาะลึกขนาดนี้คงเข้าใจความหมายนะคะ
>แต่บังเอิญว่าแฟนซึ่งเล่นเกมตู้อยู่
>เล่นเสร็จได้ตุ๊กตาพอดี เขาจึงเดินมาตะโกนเรียกดิฉัน
>ผู้ชายคนนั้นนึกไม่ถึงเลยผละมือหลบไปอย่างรวดเร็ว ดิฉันเดินโซซัดโซเซ
>แฟนก็เลยประคองไปที่รถ แฟนเห็นท่าทางของดิฉันก็พอจะเดาความรู้สึกออก
>เลยไปที่บ้านที่พึ่งซื้อกันใหม่ด้วยกันแทน
>
>คืนนั้นทำให้ดิฉันเข้าใจฤทธิ์ที่แท้จริงของยาที่ถูกป้ายนะคะ
>ช่วงรุ่งเช้าเขาถึงกับสัพยอกว่า
>"เป็นครั้งแรกที่เราดูดวงอาทิตย์ขึ้นในกรุงเทพฯ ด้วยกันเลยนะเนี่ย"
>ดิฉันตอบกลับไปว่า "ขอบคุณค่ะ!?"
>เขาทำหน้างงๆ แต่ไหนๆดิฉันก็ไม่ได้เสียท่าพวกนั้นไปก็เลยไม่บอกเขาดีกว่า
>ช่วงที่ดิฉันอาบน้ำ
>ดิฉันสังเกตรอยครีมสีขาวอมชมพูบางๆที่ข้อแขนซ้าย ค่อนข้างลื่น
>เช็ดล้างออกไม่ยาก
>ลองนึกภาพดูนะคะ ถ้าแฟนไม่ได้ไปด้วยเรื่องจะกลายเป็นอย่างนี้
>ผู้ชายคนดังกล่าวอาศัยยาปลุกsexและกดประสาทให้มึนงง
>พาไปในที่ที่สะดวกของเขาและถึงดิฉันไม่เต็มใจ ร่างกายไม่ได้ตอบสนองต่อฉัน
>แต่ไปตอบสนองเขาแทน
>ไม่แน่เขาอาจบันทึกภาพเอาไว้แบล็คเมย์ก็ได้ ถ้าแจ้งกับตำรวจ
>พอตรวจสถานที่กลายเป็นโรงแรม ไม่พบการต่อสู้ตรวจร่างกาย
>ไม่พบร่องรอยการทำร้ายและข่มขืน มีแต่ร่องรอยการร่วมเพศธรรมดา
>ไม่มีคราบอสุจิ(สวมถุง) ไม่พบสารเสพติด
>และอาจจะไม่รู้จักหรือไม่พบสารดังกล่าวในร่างกายดิฉันก็ได้ ลองคิดดูสิคะ
>แจ้งความเอาผิดผู้อื่น
>อาจกลับกลายเป็นแจ้งความประจานตัวเองขึ้นมาก็ได้ แฟนไม่เชื่อเลยอาจเลิกกันไป
>ถ้ามีใครโดนเข้าไปจริงๆ
>ก็ขอให้ทำใจให้ว่างหรือคิดเรื่องยากๆเครียดๆ และตั้งสติให้มั่น สูดหายใจแรงๆ
>ก้าวขายาวๆ เหยียบใครก็ช่าง
>ดิฉันไม่อยากให้มีใครเป็นเหยื่อ ขอให้ช่วยกัน Forward
>มากๆทั้งชายทั้งหญิงนะคะ ส่งแค่คนสองคนก็ได้บุญมากแล้วค่ะ


Posted by : ธันวา , Date : 2005-12-19 , Time : 14:52:52 , From IP : 172.29.2.197

ความคิดเห็นที่ : 1


   โห...สังคมเดี๋ยวนี้มันขนาดนี้แล้วหรือเนี่ย
พยายามFwdไปมากที่สุดแล้วครับ
ปล คุณเป็นผู้ชายหรือหญิงเนี่ย


Posted by : หัวเขียว , Date : 2005-12-20 , Time : 00:41:21 , From IP : 172.29.4.72

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.003 seconds. <<<<<