ความคิดเห็นทั้งหมด : 11

ระบบการเรียนคณะแพทย์


   ทำไมคณะแพทย์ที่ ม.อ. ระบบการเรียนยังไม่เข้าที่เข้าทางหรือ ถึงได้มีกระทู้ถาม เปลี่ยน เสริม เพิ่ม และไม่พอใจในหลักสูตร กันอยู่บ่อยๆๆ จริงๆคณะก็ตั้งมานาน มีชื่อเสียง บัณฑิตก็เยอะ ความสามารถก้ประจักษ์ สู่ชุมชน มีอะไรต้องเปลี่ยนกันบ่อยๆๆหรือไงครับ

Posted by : ทศธน , E-mail : (t1235t@yahoo.com) ,
Date : 2005-12-04 , Time : 17:40:18 , From IP : 192.168.57.206


ความคิดเห็นที่ : 1


   คิดว่าเป็นจริง

Posted by : P.P.W. , Date : 2005-12-04 , Time : 19:27:12 , From IP : 203.113.61.196

ความคิดเห็นที่ : 2


   คิดว่าเป็นจริง

Posted by : P.P.W. , Date : 2005-12-04 , Time : 19:27:56 , From IP : 203.113.61.196

ความคิดเห็นที่ : 3


   ที่ว่า "เปลี่ยนหลักสูตร" จริงๆคงจะประมาณ 10+ ปีมาแล้วตอน shift เป็นระบบ PBL ที่เหลือเป็น minor adjustment และมีอยู่ค่อนข้างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง สาเหตุอาจจะมีได้หลายอย่าง ที่แน่ๆคือแพทย์นั้นเป็นชีพที่ผลิตออกไปรับใช้สังคม ถ้าสังคมมันเปลี่ยน specfication ของแพทย์ที่จะออกไปทำงานคงจะต้องมีการปรับไม่มากก็น้อย

ส่วนเรื่องของการมีข้อเสนอแนะ หรือปัญหาต่างๆนั้น ผมคิดว่ามีอยู่ในทุกระบบและทุกสถาบัน Ox-Bridge เองก็มี major restructure ใหม่เมื่อสามสี่ปีมานี้ แม้จะไม่มีใครสงสัยว่าเขาด้อยลงรึเปล่า (จากจำนวน Nobel Prize laureates ที่เขาผลิต) แต่ "การเปลี่ยนแปลง" นั้นคือนิยามส่วนหนึ่งของ "การศึกษา" ครับ เมือ่ไหร่ก็ตามมีการศึกษา แสดงว่ามีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ไม่ทาง quality ก็ quantity ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเลย แปลว่าไม่มีการศึกษาเกิดขึ้น

และก็คงเป็นสาเหตุที่มาของ 5-star doctor ของ WHO ที่บอกว่าแพทย์ควรจะมีคุณสมบัติ self-directing and long-life learning ability เพราะที่รู้ๆ เรียนๆผ่านมานั้น มันจะทันสมัยอยู่ได้ไม่นาน เพราะความรู้ การศึกามันต่อยอดตัวมันเองตลอดเวลาภายนอก ถ้าเราไม่เตรียมตัวตนเองในการเปลี่ยนแปลงก็เสมือนกับการถอยหลังสัมพัทธ์



Posted by : Phoenix , Date : 2005-12-04 , Time : 22:53:27 , From IP : ppp-203.118.113.107.

ความคิดเห็นที่ : 4


   เรียนคุณ Phoenix ที่นับถือ
ผมคิดว่าคุณควรแยกประเด็นของการเปลี่ยนแปลงระหว่าง priciples of teaching and learning กับ ตัวองค์ความรู้ (knowledge)ที่ต้องการจะถ่ายทอด อย่างหลังนี้มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แต่อย่างแรกนะของต่างประเทศเขานานๆจึงจะเปลี่ยนต้องมีความรู้อะไรใหม่ๆจริงๆเกี่ยวกับเรื่องนี้ (ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นทางด้านพฤติกรรม) จึงจะเปลี่ยน เวลาเขาจะเปลี่ยนก็จะมีลองทำเป็นกลุ่มเล็กๆ เรียกว่า pilot study หรือ project เพื่อศึกษาถึงผลกระทบ ข้อดีข้อเสีย เสียก่อน


Posted by : ????? , Date : 2005-12-05 , Time : 10:40:31 , From IP : 172.29.1.231

ความคิดเห็นที่ : 5


   "ต่างประเทศ" นั้นมีความหมายว่าอย่างไรล่ะครับ?

ที่ผมเขียนตอบไปนั้นไม่น่าต่างจาก "นานๆเปลียนที" ที่ว่าไหมครับ ในช่วงระยะเวลา 10+ กว่าปีมานี้เองที่มหาวิทยาลัยต่างๆของประเทศไทยเริ่มมีการ "ปรับเปลี่ยน" ระบบ self directed learning และ student-centred จากกระบวนทัศน์เดิมคือ passive learning และ teacher-centred ณ ขณะนี้สิ่งที่มีผลกระทบต่อ "สัดส่วน" ที่เหมาะสมของแต่ละสาขาวิชา ได้แก่ resources และลักษณะของวิชานั้นๆ กระบวนการเปลี่ยนที่ว่านี้ต้องเป็นไปแบบปฏิรูป ไม่ใช่ปฏิวัติ เพราะฉะนั้นที่ใช้เวลานานนับสิบปีไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

ยิ่งสาขาวิชาสังคมศาสตร์นั้น ต้องสามารถ "ยืดหยุ่น" ได้ สมมติเช่น ปรัชญาเป้าหมายความสำเร็จของวิชาชีพแพทย์คือ quality of life ของประชาชน ทีนี้ถ้า quality of life ของประชาชนมันแปรเปลี่ยนตามสภาวะของสังคม เป้าหมายของแพทย์ก็จะไม่ใช่เป้าหมายที่นิ่ง เป็นเป้าหมายเคลื่อนที่ ถ้าแพทย์ fix idea ว่า "อะไร" คือสิ่งที่ถูกต้องเปลี่ยนแปลงไม่ได้มากเกินไป ไม่ได้ "เผื่อ" กระแสการเปลี่ยนแปลง ตรงนี้จะมีผลกระทบต่อ principle of autonomy ของผู้ป่วยอย่างมากได้



Posted by : Phoenix , Date : 2005-12-05 , Time : 12:05:26 , From IP : ppp-203.118.120.60.r

ความคิดเห็นที่ : 6


   เรียน คุณ Phoenix ที่นับถือ
ผมคิดว่าผมเข้าใจนะครับ ว่าคุณเป็น MD + surgeon + immunologist ไม่ใช่ educator แต่ principle ก็ยังต้องยึดถืออยู่นะครับ และถ้าอ่านดูดีๆผมก็ไม่ได้ค้านเรื่องการเปลี่ยนแปลงนะครับ ที่จริงแล้วผมไม่ได้กล่าวถึงกรณีการเปลี่ยนแปลงของคณะแพทยศาสตร์ มอ.ด้วย ผมเพียงแต่แสดงความคิดเห็นโดยทั่วๆไปที่อาจจะแตกต่างจากที่คุณนำเสนอเท่านั้นเอง หรือว่าอะไรที่ไม่ไปด้วยกับสิ่งที่คุณนำเสนอมันจะต้องไม่ถูกต้องเสมอไป
อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงที่จะเป็นไปในทางบวกควรอยู่บนพื้นฐานของ principle และ input data ที่ถูกต้อง การเปลี่ยนแปลงของ environments ทั้งทางด้าน socio-economics, politics, science ต่างๆเหล่านี้มีผลกระทบที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อระบบการศึกษาได้ทั้งสิ้น
ผมไม่ได้มีเจตนาไม่ดีกับคุณเพียงแต่อยากคุยด้วยเท่านั้นเอง


Posted by : ????? , Date : 2005-12-05 , Time : 13:37:56 , From IP : 172.29.1.231

ความคิดเห็นที่ : 7


   จะว่าไปแล้วระบบการเรียนของมอ.เข้าที่เข้าทางมานานแล้ว แม้แต่ผลการประเมินจะว่าไปแล้วก็อยู่ในเกณฑ์ดี การที่มีคนมาแสดงความคิดเห็นต่างๆนาๆ น่าจะเป็นความคิดเห็นที่หลากหลายและทุกคนสามารถแสดงออกได้ และผมคิดว่าทางคณะก็ยอมรับในความคิดเห็น แต่ขอให้เป็นความคิดเห็นในเชิงสร้างสรรค์ และขอให้เป็นทางการ เพราะเรามีเวทีให้แสดงความคิดเห็นในการประเมินหลักสูตรอยู่แล้ว และจะว่าไปคณะแพทย์มอ.ก็มีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพการณ์ ตลอดมา การฟังความคิดเห็นในกระดานข่าว อาจเป็นส่วนหนึ่ง(ส่วนน้อย?) ซึ่งไม่สามารถจะแสดงว่าเป็นความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่และจำเป็นต้องถูกเสมอไป

Posted by : ระเบียงความรู้ , Date : 2005-12-05 , Time : 15:09:16 , From IP : 172.29.7.60

ความคิดเห็นที่ : 8


   อืม... ผมมีข้อจำกัดอยู่ที่สามารถวิจารณ์ได้แค่ระบบของ มอ. เท่านั้น เพราะข้อมูลว่าที่อื่นเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยนนั้นคงจะยาก และ farfetched ไปที่จะล้ำเส้นไปวิจารณ์

ถ้าที่ผมเขียนไปแสดงว่าผมรู้สึกว่าคุณมีเจตนาไม่ดีต่อผมก็ขออภัยด้วย และขอชี้แงว่าผมอภิปรายไปโดยมิได้ใช้อารมณ์แต่อย่างใด มีแต่ความยินดรที่จะแลกเปลี่ยนครับ

ในฐานะแค่ "ครู" คนหนึ่ง นอกเหนือจากสิ่งต่างๆที่ช่วยกรุณา list มานั้น ผมคิดว่าคงไม่เสียหายมากหากครูคนนึงจะนับตนเองเป็น educator สมัครเล่น เพราะไหนๆก็อยู่ในงานที่จะต้องสอนคนอื่น education science นั้นผมว่าน่าสนใจและได้ฉวยโอกาสอ่านเพิ่มเติมนิดหน่อย น่าจะพอแลกเปลี่ยนกับคุณ ????? ได้บ้าง

เท่าที่เราได้แลกเปลี่ยนมาสองครั้ง ผมยังมองไม่เห็น "ความต่าง" กันของเราได้ชัดเจนเท่าไหร่ ผมบอกว่าการเปลี่ยนแปลงของแพทยศาสตรศึกษาจำเป็นต้องเปลี่ยนตามวิถีแห่งสังคม ของคุณ ????? กล่าวว่า อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงที่จะเป็นไปในทางบวกควรอยู่บนพื้นฐานของ principle และ input data ที่ถูกต้อง การเปลี่ยนแปลงของ environments ทั้งทางด้าน socio-economics, politics, science ต่างๆ ผมก็ว่ามันสอดคล้งกันดีอยู่นะครับ หรือว่าผมได้มองอะไรข้ามไป

Prnciple of learning & teaching นั้นไมได้เปลี่ยนในแง่ปรัชญา (ในมุมมองของคนที่ไม่ได้รู้เรื่องมากของ education science อย่างที่ว่าแหละครับ) แต่ process ที่ได้มาซึ่งวัตถุประสงค์ปลายของ education คือ cHANGE นั้น "มีการศึกษา" เกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของ andragpgy หรือ adult learning science ว่าด้วยประโยชน์สูงสุดจากการเรียนที่เป็น self-motivated, objective-oriented โดยคนที่ทราบว่าตนเองกำลังทำอะไรอยู่ (assuming ว่านี่คือส่วนหนึ่งของนิยามของ "adult") ผมคิดว่า มอ. ได้ adopt concept นี้มาใช้ผ่านการไตร่ตรองและอภิปรายกันมากมายพอสมควรในช่วงเกือบยี่สิบปีที่ผ่านมา เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งวใหญ่ครั้งเดียวที่ผมคิดว่า เราอาจจะใช้คำว่า "เปลี่ยนหลักสูตร" ได้ ที่เหลือก็อย่างที่เราทั้งคู่มีความเห็นตรงกันว่า target ในด้าน contents นั้นมันก็แค่ปรับแต่งให้เหมาะกับบริบทเท่านั้น ตรงนี้ผมว่าไม่น่าเรียกเป็นเปลี่ยนหลักสูตร

ในฐานะไม่ใช่ educator ก็ยินดีจะเรียนรู้จากคุณ ????? ต่อครับ เรือ่งแลกเปลี่ยนความเห็นนั้น ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ healthy และการันตีว่าผมไม่ได้รู้จักคุณพอที่จะคิดว่าทำไมคุณจะประสงค์ร้ายอะไรกับผมเลย



Posted by : Phoenix , Date : 2005-12-05 , Time : 17:56:40 , From IP : 58.147.55.250

ความคิดเห็นที่ : 9


   operating system ไม่ว่าจะเป็น Windows หรือ Mac OS ก็มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด มาถึงปัจจุบัน ก็มี XP ที่อายุค่อนข้างยืน ทุกเดือนก็ยังมีอะไรที่เสริมเติมแต่อยู่ตลอด

ถามว่า Windows มันไม่เข้าที่เข้าทางหรือเปล่า ตอนมันเป็น 3.1 ตอนมันเป็น 98 มาเป็น Me จนเป็น XP ตัวต่อไป ก็มีให้ลองใช้แล้ว

ขอยืนยันว่า การเปลี่ยนแปลง ไม่ได้หมายถึงความไม่เข้าที่เข้าทาง ในแง่ที่ต้องมาบ่นกันเสียทีเดียว

เปลี่ยนทีมันก็เหนื่อยหน่อย ต้องปรับกันหมด software บางตัวก็ต้องพลอย upgrade ด้วย

เห็นใจครับ


Posted by : บางคนที่เข้าใจว่าอย่างนั้น , Date : 2005-12-05 , Time : 21:58:39 , From IP : 172.29.7.177

ความคิดเห็นที่ : 10


   "การเปลี่ยนแปลง" นั้นเป็นสัจธรรมอย่างหนึ่งที่ค่อนข้าง "ชัวร์" เพราะฉะนั้นการพยายามจะไม่เปลี่ยนนี่คงจะไม่บังเกิดผล ก่อให้เกิดทุกข์ได้ เราน่าจะทุ่มเทพลังงานในการดูแลว่าถ้าจะเปลี่ยน เปลี่ยนอย่างไรจะดี

อีกประการหนึ่ง การแสดงความเห็นบนกระดานกระทู้แบบเปิดนี้ ผมว่าจุดแข็งคือ "ความหลากหลาย" ของความคิด เรานำเอาความคิดมาตีแผ่บนโต๊ะ ให้เหตุผลประกอบว่าที่มาที่ไปเป็นอย่างไร ผู้เสพย์ความคิดรอบๆก็ใช้วิจารณญาณขบเคี้ยว กลืน ย่อย ดูดซึมตามกำลัง ตามความชอบ ไม่น่าจะเป็นการประกาศว่าใครถูก ผิด ดี เลว อย่างไร ไม่ใช่เรื่องแปลกที่กระดานสส่วนใหญ่จะไม่ใช่การเออออ ห่อหมก เห็นด้วย เพราะแบบนั้นมักจะสั้น จบเร็ว แต่กระดานที่มีความคิดหลากหลาย แตกฉานออกไปอย่างหญ้าแพรก จะนำมาซึ่งความหลากหลาย แตกกิ่งก้านสาขาได้มากกว่า

ดังนั้น ถูก หรือ ผิด เราไม่ต้องมาตัดสินกันตรงนี้ เราผลัดกันปีน soap box คนบะห้านาที สิบนาที แลกเปลี่ยนกัน น่าจะสนุกดี และได้ความรู้ด้วย

ขออนุญาตยก motto เก่าที่เคยยกประจำมาอีกครั้งหนึ่ง เพราะรู้สึกมีสมาชิก generation ใหม่เพิ่มขึ้นเยอะตอนนี้

Be Mature, Be Positive, and Be Civilized



Posted by : Phoenix , Date : 2005-12-06 , Time : 02:13:43 , From IP : 58.147.54.124

ความคิดเห็นที่ : 11


   ผมว่ามีดีนะที่มันยังเปลี่ยนแปลง เพราะแสดงว่าเรากระตือรือร้นที่จะทำให้มันดีที่สุด ผมมันไม่เปลี่ยนแปลงเลยแสดงว่าเราไม่ได้พยายามปรับปรุงสิ่งต่างๆให้ดีขึ้น
สมัยก่อนเรานั่งรถเทียมเกวียน สมัยนี้เรานั่งรถยนต์หรูๆ ถ้าเราพยายามเปลี่ยนแปลงให้มันดียิ่งขึ้น อนาคตเราอาจจะได้นั่งยานต์อวกาศก็ได้นะครับ


Posted by : Yorestinowa , Date : 2005-12-08 , Time : 15:00:27 , From IP : 172.29.4.245

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.006 seconds. <<<<<