ความคิดเห็นทั้งหมด : 35

Copy มาลองอ่านดู "คนที่จะไปชุมนุม วันที่ 9 ธันวา คุณคิดดีแล้วหรือ ?"


   ลองอ่านดูน่ะ ลองใช้วิจารณาณด้วย อย่าด่าผมน่ะ ผม copy มาอีกที

"คนที่จะไปชุมนุม วันที่ 9 ธันวา คุณคิดดีแล้วหรือ ?
ก่อนอื่นผมคงต้องออกตัวก่อนเลยว่า คงต้องมีหลายคนที่คิดว่าผมรับจ้างโพสท์ แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะว่าผมก็คิดอย่างนั้นกับคุณเหมือนกัน
แต่ผมตั้งใจว่าจะโพสท์ข้อความนี้ทุกเวปที่เขาอนุญาตให้โพสท์ เพราะแค่มีคนเข้าใจวัตถุประสงค์ที่ผมโพส มากขึ้นผมก็พอใจแล้ว
และถ้าคุณเป็นคนหนึ่งซึ่งกำลัง ตัดสินใจว่าจะไปชุมนุมกันวันที่ 9 ธันวาคม ก่อนคุณจะตัดสินใจว่าผมโพสท์เพื่ออะไรขอร้องให้อ่านให้จบ แล้วตัดสินใจอีกครั้งหนึ่ง
ผมจะพยายามโพสท์ให้เป็นกลางที่สุด แต่ก็ต้องพยายามให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการโพสท์ของผมด้วยเช่นกัน

คำถามที่ผมอยากจะถามก็คือ จะไปชุมนุมกันเพื่ออะไร ล้ม นายกคนปัจจุบันกันเหรอ ผมสงสัยว่ารัฐบาลชุดนี้ บริหารประเทศผิดพลาดขนาดนั้นเลยเหรอ
แล้วถ้าใช่ คุณจะให้ใครเป็นนายก พรรคประชาธิ... หรือ พรรคชาติ... หรือ พรรคใหม่ที่ตั้งโดยสน... ก่อนจะตัดสินใจว่าจะล้มเพื่ออะไร เราลองมาดูกันก่อนว่า
รัฐบาล และนายก บริหารผิดพลาดขนาดไหน
1. เรื่องทำบุญประเทศ คงไม่มีอะไรจะพูดมาก เพราะสำนักพระราชวังก็ออกหนังสือมายืนยันว่าถูกต้องทุกอย่าง หากเราไม่เชื่อหน่วยงานที่ใกล้ชิดในหลวงที่สุด
แล้วเราจะไปเชื่อใครได้อีก

2. เรื่องเครื่องบิน C-130 ผมว่าการเอาของหลวงมาใช้ มันมีในทุกๆหน่วยงานราชการ และทุกรัฐบาล ผมไม่ได้พูดว่าผิดหรือไม่ผิด แค่พูดว่าเรื่องนี้ คุณจะเปลี่ยนนายก
กี่คนก็จะมีเรื่องแบบนี้ อาจจะเป็นนายก หรือ รัฐมนตรี หรือ สส ทำแบบนี้ ผมว่าเรารู้อยู่แก่ใจว่า มันมีมาทุกรัฐบาล เรื่องเอาของหลวงมาใช้

3. เรื่อง CTX ผมคงไม่เถียงให้เหนื่อย เพราะตอบตรงๆว่าไม่รู้ ดูๆตามข้อมูลก็เป็นไปตามหลักการรับเหมา สมมุติคุณฟันธงว่าโกง และผมคล้อยตามก็แล้วกัน
แต่ก็อย่างที่เราๆคิดกัน ไม่มีรัฐบาลไหนไม่โกง ผมรู้สึกว่าถ้าจะโกง CTX ในราคาหลักพันล้าน แล้วทำให้โครงการสนามบิน
ที่ตอนแรกราคา 6 หมื่นล้าน ลดลงมาเหลือ 3 หมื่นล้าน เป็นผม ผมยอม เพราะสนามบินนี้พยายามสร้างมาหลายสิบ ปี และ ราคามีแต่สูงขึ้น โกงแล้วเราจ่ายเงินเพื่อสร้างมันถูกลง
ก็ช่างเหอะ

4. เรื่องขายหุ้น กฟผ ผมไม่รู้ว่าจะเป็นการขายชาติหรือเปล่า ทั้งๆที่ขายเพียงแค่ 25 % แต่เอาเป็นว่าเรามาคิดแบบเดียวกันว่าขายชาติก็ได้ แต่รู้ไหมว่าเดิมที
เราต้องขาย 100% เพราะกฏหมายขายชาติในยุค IMF ซึ่งทำในยุดของรัฐบาลพรรค ประชาธิ... ผมไม่รู้ว่าพรรคไหนขายชาติมากกว่ากัน คุณว่าไงหล่ะ

5. ปิดกั้นสื่อ ผมไม่รู้ว่าปิดกั้นสื่อภาษาอะไร ถึงยังด่านายก ออกดาวเทียม ออกหนังสือพิมพ์ ออกทีวี ออกวิทยุ ออกทุกเวป ถ้าอย่างนี้ยังเรียกปิดกั้นสื่อ ผมก็ไม่มีอะไรจะเถียงละ

6. ผมเชื่อว่ามีอีกหลายๆเรื่อง ที่คุณอาจคิดว่ารัฐบาลบริหารไม่ดี เช่น เรื่อง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้, หวัดนก,น้ำมันแพงและอื่นๆ
ผมคงไม่เถียงหรอก เพียงแต่จะถามว่า แล้วจะมีทำอะไรได้ดีกว่านี้หรือไง ถ้าเทียบความผิดพลาดในการบริหาร ที่รัฐบาลชุดนี้มี ผมก็เห็นว่ารัฐบาลชุดอื่นๆก็มี
แต่ไม่เห็นจะมีใครออกมาพยายามล้มล้างขนาดนี้เลย ถ้าเทียบผลงานแล้วผมยังรู้สึกว่าผลงานมีมากกว่าด้วยซ้ำไป เช่น
- โครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค แม้ว่าหลายคนอาจจะคิดว่าไม่ได้ผล 100% สมมุติว่าได้ผลแค่ 30% ผมว่ามันก็ทำให้คนไทยหลาย 10 ล้านคนได้ประโยชน์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนจน
มันก็ยังดีกว่าที่เอาเงินภาษีของเราเป็นแสนล้าน ไปอุ้มคนรวย ถ้าใครจำได้ยุค IMF เราต้องขายบริษัทต่างๆให้ต่างชาติ สมมุติบริษัทนั้นเป็นหนี้ 100 ล้าน
มันซื้อราคา 20 ล้าน แล้วมันก็เอามาขายกลับให้คนไทย ในราคาที่แพงขึ้น 40-50 ล้าน บริษัทต่างชาติได้กำไร เจ้าของบริษัทเป็นหนี้น้อยลง คนรับกรรมคือคนไทยที่เสียภาษี
แล้วถ้าจำกันได้ ว่าตอนนั้นเป็นรัฐบาลพรรคอะไร ใช่ครับ ประชาธิ...
-เรื่องยาเสพติด แม้จะยังไม่หมดไป แต่ก็น้อยลงกว่ารัฐบาลอื่นๆเยอะ หาซื้อยากขึ้น สำหรับผมเรื่องนี้ก็พอให้บริหารประเทศได้แล้ว เพราะเรื่องนี้ใกล้ตัวใกล้ลูกหลานที่สุด
- เรื่องซุกหุ้น คนรวยที่ไหนก็ทำครับ ทั่วโลกอ่ะครับ อันนี้เจตนาครับ แต่คนรวยเขาทำทุกคนครับ

ผมบอกตามตรงว่าผมรู้สึกว่าสน.. ไม่ใช่คนดี ผมไม่ได้บอกว่าเขาเป็นคนไม่ดี เพียงแต่เป็นคนธรรมดาทั่วไปที่ไม่ได้ดีมาก มีดีไม่ดีปะปนกันเหมือนคนธรรม
แต่เป็นเรื่องน่าแปลกที่มีคนเชื่อมากมายขนาดนี้ ทั้งๆที่(ฟังดีๆนะครับ) วิธีการหรือข้อมูลที่สน.. นำเสนอนั้น ไม่แตกต่างจากสิ่งที่ฝ่ายค้านทำกันในสภาเลย
ไม่ว่าจะเป็นวิธีการพูดหรือการเอาหลักฐานมาแสดง ถ้าเป็นในสภาเราคงไม่เชื่อมากขนาดนี้ แต่ทำไมพอเป็นสน... กลับมีคนเชื่อมากขนาดนี้ ทั้งๆที่หลักฐานบางอย่าง
ก็พิสูจน์ไม่ได้ ไม่ต่างจากวิธีการ สส ฝ่ายค้านทำกัน เพียงแต่ไม่สามารถทำในสภาได้ตามรัฐธรรมนูญ (ได้โปรดอย่าว่ารัฐธรรมนูญ เพราะฉบับนี้ ถ้าเรายังจำกันได้
ร่างโดยมีอานันท์ อุทัย และคนอื่นๆ เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว และคนที่พยายามผลักดันให้ผ่านก็พวกเรานี้แหละ ตอนนั้นเราโพกและผูกผ้าเขียวกันทั่วประเทศ
เพื่อผลักดันให้ผ่าน โดยที่หลายคนก็ไม่รู้รายละเอียดเท่าไหร่) ฉะนั้นถ้าทำแบบสน... เป็นคนดี สส ผ่ายค้านก็เป็นคนดีหมดทุกคนแหละครับ

ถ้าพูดมาถึงตรงนี้แล้ว คุณก็ยังอยู่ฝั่งตรงข้ามนายกอยู่ดี ก็คงไม่มีปัญหาอะไร เพราะวัตถุประสงค์หลักของผมไม่ใช่ทำให้คุณเปลี่ยนใจ แต่ประเด็นที่ผมอย่างจะบอกก็คือ
นายกไม่ได้บริหารจนสถานการณ์เลวร้ายขนาดที่เราจะต้องมาสร้างความวุ่นวายขนาดนี้ในประเทศไทย ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน ตลาดหุ้น ราคาสินค้า
ไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่เรีบกว่าวิกฤต และบอกได้ว่าดีกว่า รัฐบาล 2 ชุดที่แล้วที่ทำเอาไว้ด้วยซ้ำไป แล้วคุณจะพยายามไปชุมนุมกันเพื่อล้มล้างนายก แล้วใครคือคำตอบที่ดีกว่า
คนที่เป็นอยู่ปัจจุบันเหรอครับ ลองคิดดูดีๆนะครับ ไม่ใช่เอาตามกระแส คิดดีๆว่านายกคนไหนทำงานมากกว่ากัน ถ้าไม่เอาคนนี้ จะมีใครทำงานมากกว่านี้หรือเปล่า

และแม้คุณจะมีคำตอบว่า ฉันมีคนที่ดีกว่านี้ หรือว่า ฉันไม่ต้องการคนนี้ ผมก็ยังขอร้องคุณว่า อย่าไปชุมนุมกันเลยครับวันที่ 9 ธันวา เพราะเหตุผลที่สำคัญที่สุดก็คือ
คุณลองนึกดูนะครับว่า คนหลายแสนคน มารวมอยู่ที่เดียวกัน จะยากแก่การควบคุมแค่ไหน จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามีมือที่ 3 ที่ไม่หวังดี จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามีเสียงปืนปริศนาดังขึ้น
ผู้คนคงวิ่งหนีกันชุลมุน จินตนาการออกไหมครับว่าจะมีคนตายกี่คน...
จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามีผู้ไม่หวังดี ตะโกนออกมาว่าโดนตำรวจทุบ(ทั้งๆที่ไม่ได้ทำอะไร) จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามีการโยนระเบิดเข้าไปในฝูงชน จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามีคนโยนระเบิดขวดเข้าไป
ผมเข้าใจครับว่า หลายๆคนไปด้วยใจที่บริสุทธิ์ รวมถึงคุณจะคิดว่าสน... บริสุทธิ์ก็ไม่มีปัญหา แต่ในสถานการณ์ที่คนมากขนาดนั้น และไม่มีใครควบคุมเพราะต่างคนต่างมา
และเมื่ออารมณ์ถูกปลุกขึ้นถึงจุดหนึ่ง แค่ประกายไฟเล็กๆที่คนไม่หวังดีจุดขึ้นมา ก็ทำให้เกิดเรื่องใหญ่โตขึ้นมาได้แล้ว

ผมไม่อยากให้เหตุการณ์แบบเดือนตุลา หรือ พฤษภา เกิดขึ้นอีกทั้งๆที่ประเทศไทยก็ไม่ได้วิกฤตอะไรขนาดนั้น ถ้าคุณต้องการแสดงพลังกันจริงๆ สน.. ก็จบมาจากเมืองนอก
ก็น่าจะหาทางอื่นที่ดีกว่านี้ในการแสดงพลัง อย่าแสดงพลังในรูปแบบที่อาจทำให้เกิด โศกนาฏกรรมเลยครับ อย่าไปเลยครับวันที่ 9 ธค


Posted by : สมพร , E-mail : (sompon@hotmail.com) ,
Date : 2005-11-28 , Time : 18:23:54 , From IP : 192.168.60.147


ความคิดเห็นที่ : 1


   ตัวผมเองนะครับ ไม่ชอบทักษิณ อันนี้บอกตรงๆเลย แต่ก้อไม่ชอบสนธิเช่นกัน แต่ยังดีกว่าทักษิณ
1 เรื่องทำบุญประเทศเนี่ย สำนักพระราชวังออกมาบอกว่าถูกหรือมีคนอื่นมาบอกว่าเขาบอกว่าถูกกันครับ และมันสมควรหรือที่นัดเวลาในหลวงกระชั้นขนาดนั้น แล้วยังเขียนบอกว่าให้นายกเข้าร่วม แต่ดันไปเป็นประธานซะเอง และเชื้อพระวงศ์หรือองคมนตรีก็ไม่มีมาสักคน สมควรไหม?
2 C130นั้น เอาไปใช้งานราชการก้อพอไหวครับ แต่ใช้เรื่องส่วนตัวนี่สิ แล้วการที่รัฐบาลอื่นก้อทำเนี่ยแสดงว่าทำถูกเหรอ ผมว่ามันผิดมาตลอดต่างหากแต่คราวนี้มันโจ่งแจ้ง
3 ส่วนCTXเนี่ยผมก้อเหมือนคุณครับ ไม่รู้เช่นกัน ไม่ขอบอกว่าโกง เรื่องสนามบินนั่นด้วย ส่วนเรื่องที่ไปเปิดสนามบินโดยไม่มีเชื้อพระวงศ์ไปเปิดด้วยเนี่ย ก็ปัญหาครับ
4 หุ้น กฟผ เนี่ยขายชาติเลยครับ ให้ต่างชาติมาถือหุ้นเกิน50%เนี่ย ก้ออันตรายแล้วครับ มันจะเป็นทุนนิยมเกินไปไหมครับ จะให้ก็ได้ครับ แต่อยากให้เปิดโอกาศให้คนในชาติก่อน(อันนี้อาจต้องใช้เวลามาก)
5 ปิดกั้นสื่อ ผมว่าปิดบ้างเปิดบ้างครับ แต่ไม่สมควรปิดเพี่ยงเพื่อรักษาเสถียรภาพของรัฐบาล อยากให้ประชาชนได้รับข่าวสารแล้วไปคิดกันเอาเอง ส่วนด่าออกเวบเนี่ยบางเวบโดนปิดครับ เวบผจก ก้อกำลังโดนปิด ออกหนังสือพิมพ์ กี่สำนักกันครับ คนไปชุมนุมเป็นหมื่นเป็นแสน มีฉบับไหนออกกันมั่งครับ ออกทีวีเนี่ย ช่องไหนหรือ 3 5 7 9 11 iTVเหรอครับ ไม่มั้งครับ ออกนิดเดียวอย่างแรงเลย ออกดาวเทียมเนี่ย คงได้ข่าวนะครับบางจังหวัดโดนระงับสัญญาณ บางมหาลัยก็โดนครับ
6 เรื่องอื่นๆที่คุณกล่าวมา ผมว่าถ้าใครเคยอ่านหนังสือพิมพ์ ดูข่าวนะครับ คงรู้ว่าเคยมีคนแนะนำแล้วโดนด่าไปแล้วครับ เช่นหวัดนก ที่ฆ่าล้างประเทศเหลือแต่ของCP เคยมีนักวิชาการออกมาบอกครับว่าควรทำอย่างไร แต่นักธุรกิจจะรู้เรื่องเหรอครับ เป็นต้น
ส่วนที่คุณกล่าวว่ารัฐบาลพรรคประชาธิ...ทำให้เกิดยุค IMF เนี่ย ผมว่าพรรคนี้เข้ามารับเคราะห์จากรัฐบาลก่อนหน้ามากกว่านะครับ และเรื่องซุกหุ้นเนี่ยครับ ไม่ว่าจะจนหรือรวยเนี่ย ยังไงมันก็ไม่สมควรไม่ใช่เหรอ แม้ว่าคนอื่นจะทำ แล้วมันถูกหรือครับ เป็นผู้นำแล้วไปทำเรื่องชั่วๆอย่างงี้สมควรหรือครับ?

แต่ถึงอย่างไร เรื่องยาเสพติดเนี่ย ผมขอยกนิ้วให้ครับ ผมว่านายกทำได้ดี
เรื่อง30บาทเนี่ย ถ้าไม่ติดกับว่า ทำโดยไม่คิดหน้าคิดหลังให้ดีก่อนเนี่ยจะเป็นอีกอย่างที่นับถือเลยครับ

ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ถ้าผมกล่าวอะไรก็ตามผิดไป


Posted by : หัวเขียว , Date : 2005-11-28 , Time : 19:26:23 , From IP : 172.29.4.220

ความคิดเห็นที่ : 2


   อีกอย่างครับ
ผมเห็นด้วยกับคุณสมพรนะครับ ที่ไม่ควรไปชุมนุมครับ
เกิดปัญหาขึ้นใครจะรับผิดชอบล่ะครับ สนธิหรือครับ เขาบอกปาวๆว่าเป็นพลังบริสุทธิ์ มาด้วยความเต็มใจ ไม่ได้จัดจ้าง ฉะนั้น อาจต้องเจ็บตัวเปล่าๆครับ
อยากดูก็รอVCDเถอะครับ ปลอดภัยกว่าเยอะ
ขอขอบคุณคุณสมพรที่ออกมาเตือนครับ


Posted by : หัวเขียว , Date : 2005-11-28 , Time : 19:29:30 , From IP : 172.29.4.220

ความคิดเห็นที่ : 3


   วินิจพิจารณญาน และ bidirectional information indeed

"ที่มา" ของบทสรุปแต่ละขั้นแต่ละตอนน่าสนใจพอๆกับกระบวนการตรรกะที่ใช้ครับ



Posted by : Phoenix , Date : 2005-11-28 , Time : 20:13:25 , From IP : 58.147.6.49

ความคิดเห็นที่ : 4


   1. เรื่องทำบุญประเทศ คงไม่มีอะไรจะพูดมาก เพราะสำนักพระราชวังก็ออกหนังสือมายืนยันว่าถูกต้องทุกอย่าง หากเราไม่เชื่อหน่วยงานที่ใกล้ชิดในหลวงที่สุด
แล้วเราจะไปเชื่อใครได้อีก
2.คำถามคือควรหรือไม่ควร? ไม่มีใครตอบ
แต่ก็อย่างที่เราๆคิดกัน ไม่มีรัฐบาลไหนไม่โกง ----->แล้วเราจะปฏิรูปการเมืองเพื่ออะไร? เพื่อเปลี่ยนคนมาโกง?
3.เราต้องขาย 100% เพราะกฏหมายขายชาติในยุค IMF ซึ่งทำในยุดของรัฐบาลพรรค ประชาธิ... ผมไม่รู้ว่าพรรคไหนขายชาติมากกว่ากัน คุณว่าไงหล่ะ ----->ใครเป็นคนลงนามกับไอเอมเอฟ? ไม่ใช่พล.อ.ชวลิตหรอครับ ตอนนั้น คุณทักษิณเป็นอะไร?แล้วคุณทนงเป็นอะไร ?
4.ปิดกั้นสื่อ ผมไม่รู้ว่าปิดกั้นสื่อภาษาอะไร -----> ยังไม่รู้หรอครับว่าปิดกั้นยังไง? ของแบบนี้มันไม่มีหลักฐานจะจะหรอกครับ มันใช้วิชามาร อำนาจมืด โลกนี้มันไม่ใช่มีแต่สีขาวนะครับ
5.เรื่องขายหุ้น กฟผ ผมไม่รู้ว่าจะเป็นการขายชาติหรือเปล่า ทั้งๆที่ขายเพียงแค่ 25 %----->ปตท.ตอนแรกรัฐบาลก็บอกว่า30% ตอนนี้เหลือกี่เปอร์เซนไปดูหลักฐานที่ตลท.ได้ครับ แล้วมันแปลว่าอะไรครับ? รัฐบาลโกหกหรือเปล่า? ต่อไปคุณก็เชื่อเค้าไปสิครับ โดนเค้าหลอกอีก ยังไม่รู้ตัวอีก


Posted by : กทม , Date : 2005-11-28 , Time : 21:21:05 , From IP : 172.29.4.86

ความคิดเห็นที่ : 5


   สนธิ....เป็นกระจกอีกบาน

ในหลายๆบานของประเทศไทย

เขาไม่ใช่คนประเภทรูดปื๊ดๆ

แล้วไปสงบอยู่ในซอง


Posted by : อินทรีย์ , Date : 2005-11-28 , Time : 21:26:40 , From IP : 172.29.7.28

ความคิดเห็นที่ : 6


   ขอเพิ่มเติมหน่อยนะครับ
เรื่องส่วนตัวนิกนึง
จำกรณีพานทองแท้โกงข้อสอบได้กันรึเปล่าครับ ตอนนี้เค้าเรียนจบแล้วนะครับสถาบันนั้นแหละครับ
เรื่องข้อสอบเอนทร้าน เนื่องจากคนในครอบครัวผมรู้จักกับคุณวรเดชเลยรู้เรื่องมาว่าเป็นการทำผิดพลาดที่สุดในชีวิตของท่าน และนิด้าก็ไม่จ้างเป็นอาจารย์อีกต่อไป
เรื่องนโยบายปราบปรามยาเสพติดนี่ยกนิ้วให้เลยครับ
แต่เรื่องการศึกษานี่อย่าให้พูดเลย เรื่องมันยาว นักเรียนที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยปีน้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึนมากมายเพราะว่าต้องไปสอบที่นู่นทีนี่หลายที่เพราะแต่ละสถาบันก็จะรับตรงมากขึ้น ไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนระบบเพื่ออะไร ???


Posted by : กทม , Date : 2005-11-28 , Time : 21:31:49 , From IP : 172.29.4.86

ความคิดเห็นที่ : 7


   ดูตรงนี้ซิ
http://webboard.mthai.com/5/2005-11-28/170677.html
ดุเดือด


Posted by : center , Date : 2005-11-28 , Time : 22:31:26 , From IP : 172.29.1.97

ความคิดเห็นที่ : 8


   ใครจะทำอะไรข้าได้
-ทหารก็อยู่ในมือญาติข้า
-ตำรวจก็อยู่ในมือพวกข้า
-สภาก็อยู่ในมือพรรคข้า
-สว.ที่ว่าเป็นกลางก็สั่งได้เกินร้อย
-ปปช ข้าก็เตรียมคนไว้แล้ว
-จารุวรรณ จะออกมาแฉเรื่องการใช้งบหลวงอีลุ่ยฉุยแฉกเหรอเป็นไงยังหาห้องทำงานยังไม่เจอเลยเงินเดือนข้าก็ไม่จ่าย
-คดีทุจริตซีทีเอ็กซ์ ข้าไม่สั่งมีใครทำอะไรได้ไหม
-คดีทุจริตกล้ายาง เป็นไงข้าไม่สั่งมีใครทำอะไรได้ไหม
-คดีทุจริตลำใย รายงานมาข้าไม่สั่งมีใครทำอะไรได้ไหม
-คดีทุจริตคลองด่าน ถ้ามาร่วมรัฐบาลแล้วปลอดภัย
-คดีทุจริตเรียกรับเงินของคุณเยาวเรศ ข้าไม่พูดเลย ข้าไม่สั่งมีอะไรไหม
-ปปง ก็คนของข้าสั่งได้
-ตลาดหุ้นก็อยู่ในมือข้าจะบีบก็ตายจะคายก็รอด
-กฟผกำลังจะตามปตท กำไรล้นฟ้า ประชารับกรรม
-ข้าและลูกหลานญาติข้าเป็นเจ้าของ มหาวิทยาลัย โรงพยาบาล โฆษณา ทีวี ประกันภัย สนามกอล์ฟ ลิสซิ่ง เรียลเอสเตส การบิน โทรศัพท์ อินเตอร์เนต( ต่อไปเอ็งจะหายใจต้องไปเติมเงินนะถึงจะมีสิทธิ์หายใจต่ออายุได้)
-ข้าใช้เงินหลวงโปรยยาหอมหาเสียงได้ทุกหย่อมหญ้า
-จังหวัดไม่เลือกสส พรรคข้า ก็ไม่เจริญตลอดชาติต่อคิวท้ายๆ
-ใครพูดด่าข้าก็ปิดรายการมัน ก็ให้ลิ่วล้อไปตรวจบัญชีว่าเสียภาษีครบไหม ส่งคนติดตาม
-ตัวเล็กๆแค่ชิปปิ้งกล้าออกมาแฉว่าข้าเลี่ยงภาษีก็ไปเป็นสุขเป็นสุขแล้ว
-โจรกระจอกภาคใต้ ข้ารู้คนบงการหมดแล้ว
-ปุระชัย จะมาแข็งข้อทำตรงไปตรงมา เป็นอย่างไร
-ไอทีวี ทีได้ประโยชน์เรื่องภาษี ข้าเงียบใครจะทำไม
-คดีทนายสมชาย ก็อยู่ห้องแช่แข็งใครจะทำไม
-ข้าจะใช้เงินหลวงซื้อเครื่องบินประจำตำแหน่งใครจะทำไม
-ข้าไปต่างประเทศ เอาลูกไปด้วยใช้เงินหลวงใครจะทำไม
-ข้าไปเป็นประธานทำพิธีในวัดพระแก้วเลย มีอะไรไหม
-ข้าเมตตาหลวงตามหาบัว มีอะไรไหม
-ข้าไม่แก้ไขเรื่องสมเด็จพระสังฆราชมีอะไรไหม
-ข้าเอาธรณีสงฆ์มาทำสนามกอล์ฟ มีอะไรไหม
-เรื่องข้อสอบรั่ว คนที่เอาข้อสอบมาดู ก็ได้ดีไปแล้วมีอะไรไหม
-ข้าไม่ให้กทมทำรถไฟฟ้าฝั่งธนบุรี มีอะไรไหม
-ข้าจะสร้างนครสุวรรณภูมิ กินมะพร้าวทั้งลูก มีอะไรไหม
-เอ็งนะเป็นใครมาบังอาจสั่งสอนข้า ข้าจบด็อกเตอร์ มีเงินติดอันดับโลก ข้ามี19ล้านเสียง 375สส สว ทหาร ตำรวจ ปปช ปปง
สนงตรวจเงินแผ่นดิน ทุกกระทรวงทบวงกรม คนของข้าหมด ทำอะไรข้าได้ โดย : 56 วันที่ :2005-11-24 10:37:35

ผลงานท่านนายก
1 แก้ พรบ. สรรพสามิตโทรคมนาคม ได้ 8,000 ล้าน เข้าบริษัทตัวเอง
2 ลดสัมปทานไอทีวี ก็ได้ 20,000 ล้าน เข้าบริษัทตัวเอง
3 ตั้ง ชัยสิทธิ์ ชินวัตร เป็น ผบ.ทบ. ก็ได้พี่ชายตนเองคุมทหาร
4 ตั้ง เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ เป็น ผบ.ตร. ก็ได้พี่เขยตนเองคุมตํารวจ
5 จัดตั้งสายการบินต้นทุนตํ่าระหว่างชินคอร์ปกับบริษัทมาเลเซีย โดยใช้ช่องโหว่ในกฏหมายเข่นฆ่าธุรกิจการบินของไทย ไม่สนว่าเงินจะไหลออกนอกประเทศ ขอให้เข้ากระเป๋าตัวเองเป็นพอ
6 กล่าวคําพูดท้าทายพวกก่อการร้ายในภาคใต้ว่าเป็นแค่โจรกระจอกอย่าไปใส่ใจ ทําให้เกิดความรุนแรงคนตายมากมาย และยังหลุดปากด่าทหารว่าสมควรตาย
7 ปิดข่าวเรื่องไข้หวัดนกทําให้ชาวบ้านที่ไม่ทราบต้องตาย แล้วยังไปแสดงการกินไก่ไปหัวเราะไปเพื่อ ซีพี.นายทุนพรรคเท่านั้น
8 ทําให้เกิดการฆ่าตัดตอนประชาชนผู้บริสุทธิ์ กว่า 2,000 คนจากการปราบยาบ้า อืม…นี่ถือเป็นผลงานที่ดีก้อแล้วกันนะ เรื่องปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจังเนี่ย แต่ตอนนี้ก้อชักเป็นไฟไหม้ฟางซะแล้วสิ…ราคาคุยเหมือนเดิม
9 ประชาชนเสียรู้ทักษิณ เรียนฟรี 12 ปี นโยบายรัฐที่เปิดช่องให้โรงเรียนนำค่าใช้จ่ายอย่างอื่นมาเพิ่มแทนค่าเทอมนั่นแหละสุดท้ายก็ไม่ได้เรียนฟรีอยู่ดี เป็นความล้มเหลวที่เห็นได้ชัดเจนของการปฏิรูปการศึกษาไทย ประชาชนจะถูกหลอกอีก 4 ปีเป็นความจริงที่สุดเลย นี่คือการโกหกที่ยิ่งใหญ่ ที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาในโลกนี้ ซึ่งหาดูไม่ได้ที่ไหนนอกจากประเทศไทยที่กฎหมายบอกว่าเรียนฟรี แต่ความจริงมีใครบ้างที่เรียนฟรี ถามผู้ปกครองทุกคนดูได้เลย
10 ชั่วเวลาแค่ปีเศษรัฐบาลชุดนี้ก็ทำให้สถานการณ์ภาคใต้ที่ร่มเย็นเป็นสุขมานานหลายสิบปี กลับร้อนระอุกลายเป็นแดนมิคสัญญี เพราะคำพูดโจรกระจอก
11 เช่าน่านฟ้า เช่าผืนแผ่นดินไทย ราคาเช่าช่างถูกจังมีอะไรแอบแฝงรึเปล่าตนเองน่าจะรู้ดี ไหนบอกว่าแผ่นดินไทยจะไม่ให้หายแม้แต่ตารางนิ้วเดียวไง ใช้อำนาจจนเลยเถิดไม่เห็นด้วยคิดไงท่าน นายก ที่ให้เช่า 15 ปี แถมมีเปลียนสัญญาได้ ทุกๆ 5 ปี เหมือนทำ ธุรกิจเลยอ่า ขอเชิญชาวไทยเรียกร้องอธิปไตยชาติไทยกลับมาด้วยขอให้มี สส. สว. ที่ยังพอมีความเป็นไทย ทีมิใช่มีความเป็น ทรท. ช่วยกันคัดค้านล่ารายชื่อด้วยครับผมว่ามันเกี่ยวกันหมดแหละครับ ตั้งแต่ AIS (มือถือ) ไทยคม1 ไทยคม2 IPstar ชินคอร์ป ธนาคาร ธุรกิจการเมืองอยู่ในมือสิงคโปร์ทั้งหมดแล้วครับชัดเจน มีผลประโยชน์ทับซ้อนแหง๋ไม่งั้นไม่งุบงิบกันทำหรอก
12 เอาเงินประชาชน 4,000 ล้านให้พม่ากู้จะได้คืนหรือไม่ยังไม่แน่ แต่ที่แน่ๆ บริษัททักษิณได้งานใหญ่มาทำ เอาเงินใส่กระเป๋าสบายเลย ชัดเจนแบบนี้ ท่านยังหน้าโง่ ตาบอด ยังว่าทักษิณเป็นเทวดาอยู่เหรอ
13 ทักษิณด่าว่าคนอื่นเขาโง่กันหมด ตามไม่ทันตน
14 เป็นนายกได้ เพราะศาล รธน. มีมติฉิวเฉียด ( เงินเข้ามาเกี่ยวอีกครั้ง ) คดีซุกหุ้นไง รอดมาหวุดหวิด
15 ทักษิณ สั่ง กกต. เด็กผมเอง สั่งอะไรไม่เคยขัดผมเพิ่งเซ็นอนุมัติงบให้ทางกกต.ที่ขอมาไปวันก่อนจะกล้าขัดใจผมได้งัย
16 ทักษิณ สั่ง รมต. กลางวง ครม. บีบลดค่าเช่าพื้นที่ย่านสยามสแควร์ เปิดทางลูก-หลานเปิด สตูดิโอ – ร้านกาแฟทำมาค้าคล่อง อ้างค่าเช่าแพงเกินจริง
17 บริษัท.ของลูกท่านได้เงินกู้ 5 พันล้านจากไอซีทีฟรีดอกเบี้ยไม่กำหนดเวลาชำระคืนอีกต่างหาก แถมได้รับการเว้นภาษีจากบีโอไออีก ทำสวนสนุกได้รับการเว้นภาษีจะบ้าตาย ได้รับสัมปาทานสื่อโฆษณาที่รถไฟใต้ดินโดยที่ไม่ได้รับการเปิดประมูลเพื่อแข่งขันกับบ.อื่น คนไทยทั้งหลายอ่านดู แล้วคิดตามนะว่าจริงไหม
18 เรื่องกำจัดความยากจนด้วยการสนับสนุนให้คนเป็นหนี้น่ะเหรอ….ใช่สิ ประเทศไทยจะไม่มีคนจนแล้ว จะมีแต่คนเป็นหนี้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอดแทน
19 ผลงานชิ้นโบว์แดงก้อแปรรูป ปตท. กับ กฟฝ. ไง กำลังจะได้เห็นผลงานกันชัด ๆ เร็ว ๆ นี้แล้วด้วย ค่าไฟกำลังจะขึ้น ชาวบ้านเดือดร้อนกันถ้วนหน้า ราคาน้ำมันโลกพุ่งสูงขึ้น ปตท. ได้กำไร 8,000 ล้านบาท แทนที่เงินนั้นจะเป็นเงินของประเทศ ก้อกลับไปเข้ากระเป๋าของพวกผู้ถือหุ้น ซึ่งส่วนใหญ่ก้อคือพวกพ้องมันนั่นแหละ
*** ช่วยกันเผยแพร่นะ เพื่อนมีกี่คนส่งเมล์ไปให้ครบ ก่อนที่บ้านเมืองเราจะไม่เหลืออะไร ***
เพราะพรรคพวกนายกหนีไปต่างประเทศ ประเทศไทยจะเหมือนเขมร ลาว มีแต่คนจน เป็น
หนี้ต่างชาติ
ถึงเวลาแล้วที่พวกเราควรรวมพลังก่อนที่ประเทศจะไม่เหลืออะไรให้ลูกหลาน เหลน โหลน


Posted by : ตุ๋น นึ่ง ต้ม , Date : 2005-11-28 , Time : 23:14:30 , From IP : 172.29.4.74

ความคิดเห็นที่ : 9


   รวมพลังน่ะใช่
แต่ควรหาวิธีอื่นที่ดีกว่า ไปรวมกันเป็นแสนๆ บึ้มเดียว ตายหลักพันเลยนะครับ
เป็นห่วงประชาชนที่รักประเทศครับ
ทำไมไม่มีการหาอาสาสมัครล่ารายชื่อนะ?


Posted by : หัวเขียว , Date : 2005-11-29 , Time : 02:36:49 , From IP : 172.29.4.220

ความคิดเห็นที่ : 10


   เห็นด้วยครับ

Posted by : เด็กแนว , Date : 2005-11-29 , Time : 08:34:39 , From IP : 172.29.1.165

ความคิดเห็นที่ : 11


    ผู้มีอำนาจ ไร้ซึ่งจิตสำนึก...
บวกประชาชน.. ไร้ซึ่งสมองแยกแยะ...

จบ.


Posted by : Fan Fan , Date : 2005-11-29 , Time : 08:58:39 , From IP : 172.29.1.212

ความคิดเห็นที่ : 12


   เยี่ยม !!!!! นาน ๆ จะมีคนอย่างคุณสมพรกล้าออกมาพูด ลักษณะนี้ มีหลักการมีเหตุมีผล ไม่ใช่หลับหูหลับตาพูดอย่างหลาย ๆ คน หรือไปลอกมาจากเวบผู้จัดการถ้าวิเคราะห์อย่างเป็นกลาง จะเห็นสัจจธรรมหลายอย่าง......

Posted by : ลายมังกร , Date : 2005-11-29 , Time : 09:06:38 , From IP : 172.29.3.171

ความคิดเห็นที่ : 13


   ถึง ผู้ใช้นามคนไทย และหลายๆ ท่านที่มีความิดแนวนี้

ต่อคำถามที่ว่า ---> คนที่จะไปชุมนุม วันที่ 9 ธันวา คุณคิดดีแล้วหรือ ?

---ตอบว่าคิดดีแล้ว โดยหลักการคิดได้ยึดเอาผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลักในการคิด

ต่อคำถามที่ว่า ---->คำถามที่ผมอยากจะถามก็คือ จะไปชุมนุมกันเพื่ออะไร ล้ม นายกคนปัจจุบันกันเหรอ

----ขอตอบว่า เพื่อให้รัฐบาลรวมถึงนายกและนักการเมืองรู้ว่าต่อไปนี้จะมาโกงกินหรือมาเห็นประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้องเหนือกว่าผลประโยชน์ของชาติบ้านเมืองไม่ได้อีกต่อไปแล้วเพราะประชาชนจะคอยตรวจสอบไม่ยอมให้พวกท่านมาทำลายประเทศชาติบ้านเมืองอีกต่อไป เราไม่ยอม

ต่อคำถามที่ว่า --->ผมสงสัยว่ารัฐบาลชุดนี้ บริหารประเทศผิดพลาดขนาดนั้นเลยเหรอ

----ตอบว่าใช่ผิดพลาดมาก มากเกินกว่าที่คนที่มีสมองคิดได้ไม่ลึกซึ้งไม่ซับซ้อน หรือฉลาดไม่พอ ยากที่จะมองออก ยากที่จะเข้าใจความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้า แต่เมื่อความเสียหายปรากฎรัฐบาลนี้อาจจะไม่อยู่แล้ว แต่อาจเป็นรัฐบาลชุดใหม่เข้ามา และคนที่มองไม่เห็นปัญหาที่รัฐบาลชุดนี้สร้างไว้ก็จะไปโทษเอารัฐบาลชุดที่จะเข้ามาต่อจากรัฐบาลชุดนี้

ต่อคำถามที่ว่า ---->แล้วถ้าใช่ คุณจะให้ใครเป็นนายก พรรคประชาธิ... หรือ พรรคชาติ... หรือ พรรคใหม่ที่ตั้งโดยสน...

----คนที่ตั้งคำถามประเภทนี้ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่มีทัศนวิสัยในการมองแคบ หรือใจแคบ เป็นคนที่ยึดติดกับรูปลักษณ์ภายนอกมากเกินไป ฯลฯ -- ตอบว่า แล้วแต่ว่าจะเป็นใคร ประเทศไทยไม่สิ้นคนดี ใครจะมาเป็นก็ไม่เป็นไรแต่ขอให้ทำเพื่อชาติบ้านเมือง โดยมีประชาชนเป็นคนคอยตรวจสอบ ย้ำว่าโดยมีประชาชนเป็นคนตรวจสอบ ถ้าคุณเห็นว่าไม่มีใครพอจะเป็นนายกนอกจากทักษิณคนเดียว ผมไม่อยากแนะนำให้คุณย้ายสำมะโนครัวพร้อมโอนสัญชาติ ออกไปจากประเทศนี้โดยเร็ว อย่างน้อยเวลาฝนตกน้ำจะได้ถ่วมน้อยลง

ต่อคำกล่าวที่ว่า ---> ก่อนจะตัดสินใจว่าจะล้มเพื่ออะไร เราลองมาดูกันก่อนว่า
รัฐบาล และนายก บริหารผิดพลาดขนาดไหน

--->1. เรื่องทำบุญประเทศ คงไม่มีอะไรจะพูดมาก เพราะสำนักพระราชวังก็ออกหนังสือมายืนยันว่าถูกต้องทุกอย่าง หากเราไม่เชื่อหน่วยงานที่ใกล้ชิดในหลวงที่สุด
แล้วเราจะไปเชื่อใครได้อีก

---ใช่ครับ จะไปเชื่อใครนอกจากคนที่คุณอยากจะเชื่อ ผมอยากให้คุณไปศึกษาหาข้อมูลให้มากก่อนจะตัดสินใจอะไร เอาละเมื่อคุณเชื่อตานั้นผมขอถามว่าเหมาะหรือไม่เหมาะ ถามว่าอะไรสำคัญกว่าอะไร หากไม่ทันงานเลื่อนได้หรือไม่จะเป็นจะตายหรืออย่างไร สมมติเรื่องแบบชาวบ้านซึ่งไม่สามารถนำมาเทียบกับเรื่องที่ว่าได้แต่เพื่อเป็นการให้ฉุกให้คนที่สมองไม่ค่อยได้เปลี่ยนเซลได้คิดว่าถ้าลูกสาวคุณอายุ17 (ยังไม่บรรลุนิติภาวะ การแต่งงานจะต้องได้รับการยินยอมจากผู้ปกครองโดยชอบธรรม)คบกับผู้ชายคนหนึ่งอยู่ดีๆก็จะแต่งงานแต่คุณดันไปทำงานอยู่ที่ต่างจังหวัดลูกคุณกำหนดวันเรียบร้อยแต่คุณก็ยังไม่กลับมาก็เลยส่ง Fax(โทรสาร) ไปตอนเย็น บอกว่าพ่อพรุ่งนี้หนูแต่งงานค่ะพ่อเซ็นยินยอมให้หนูด้วยนะคะ คุณคงดีใจนะครับ ไปคิดดูครับเหมาะหรือไม่เหมาะ ควหรือไม่ควร

--->2. เรื่องเครื่องบิน C-130 ผมว่าการเอาของหลวงมาใช้ มันมีในทุกๆหน่วยงานราชการ และทุกรัฐบาล ผมไม่ได้พูดว่าผิดหรือไม่ผิด แค่พูดว่าเรื่องนี้ คุณจะเปลี่ยนนายก
กี่คนก็จะมีเรื่องแบบนี้ อาจจะเป็นนายก หรือ รัฐมนตรี หรือ สส ทำแบบนี้ ผมว่าเรารู้อยู่แก่ใจว่า มันมีมาทุกรัฐบาล เรื่องเอาของหลวงมาใช้

----ใช่ครับอย่างที่คุณว่า แต่มันไม่ได้ขนาดนี้ และนี่จะเป็นจุดเริ่มที่ว่าต่อไปนี้คุณจะทำอะไรเราประชาชนจะคอยเฝ้ามองตลอดเวลา เพราะที่เขาทำอย่างนี้กันได้เพราะที่ผ่านมาประชาชนอย่างคุณได้ละเลยไม่สนใจว่านักการเมืองจะโกงกินสักนิดสักหน่อยก็ไม่เป็นไรขอให้ทำงานกันบ้างก็พอซึ่งมันเป็นจุดเริ่มของการสร้างระบบการเมืองคอรัปชั่น ผมเองไม่โทษนักการเมืองที่โกงกินแต่ผมโทษประชาชนที่ปล่อยให้นักการเมืองโกงกิน

--->3. เรื่อง CTX ผมคงไม่เถียงให้เหนื่อย เพราะตอบตรงๆว่าไม่รู้ ดูๆตามข้อมูลก็เป็นไปตามหลักการรับเหมา สมมุติคุณฟันธงว่าโกง และผมคล้อยตามก็แล้วกัน
แต่ก็อย่างที่เราๆคิดกัน ไม่มีรัฐบาลไหนไม่โกง ผมรู้สึกว่าถ้าจะโกง CTX ในราคาหลักพันล้าน แล้วทำให้โครงการสนามบิน
ที่ตอนแรกราคา 6 หมื่นล้าน ลดลงมาเหลือ 3 หมื่นล้าน เป็นผม ผมยอม เพราะสนามบินนี้พยายามสร้างมาหลายสิบ ปี และ ราคามีแต่สูงขึ้น โกงแล้วเราจ่ายเงินเพื่อสร้างมันถูกลง
ก็ช่างเหอะ

---ครับในเมื่อคุณไม่รู้ยิ่งคุณพิมพ์ออกมาก็ยิ่งแสดงว่าไม่รู้จริงๆ งั้นไปหาความรู้ซะว่าที่ราคาลดลงได้เพราะอะไร ผมถามว่าถ้าคุณจะทำถนนหน้าบ้านคุณโดยมีผู้รับเหมา 2 รายมาเสนอข้อมูลดังนั้ คนที่ 1 ประเมินมา 2 แสนบาทใช้เหล็กขนาดมาตรฐาน หิน ปูน ทราย อย่างดี คนที่ 2 ประเมิน 1 แสน บาท แต่ใช้ลวดขนาดใหญ่(เหล็กเส้นที่เล็กที่สุด) หิน ปูน ทราย แบบไม่ได้มาตรฐาน ถามว่าคุณจะเลือกให้คนไหนทำ คงจะเป็นคนที่สอง เพราะว่าราคาถูกดีใช่มั้ยครับ ปรับลดมาจากคนแรกได้ตั้งเท่าตัว
--ที่ตอนแรกราคา 6 หมื่นล้าน ลดลงมาเหลือ 3 หมื่นล้าน เป็นคุณ คุณยอมแต่เป็นผม ผมไม่ยอม เพราะสนามบินนี้พยายามสร้างมาหลายสิบ ปี และ มันต้องอยู๋ได้หลายสิบปีเช่นกัน แต่นี่คุณคอยดูแล้วกัน จะอยู่ได้กี่ปี ลองคิดเล่นๆนะครับ Runway(ทางวิ่งขึ้นลงของเครื่องบิน) ส่วนที่รับแรงเยอะที่สุดคือส่วน Touchdown zone(ส่วนที่ล้อเครื่องบินแตะพื้นในตอนลงสนาม ที่เห็นเป็นรอยล้อเครื่องบินสีดำๆ บน Runway นั่นเหละ) ไปหาข้อมูลดูนะครับเครื่องบินแต่ละรุ่น น้ำหนักเท่าไหร่(กี่พันตัน) เฉพาะเครื่องเปล่าก็ได้ เวลาลงสนามเครื่องจะพยุงตัวลงมาทำมุมชันประมาณ 45 องศา เมื่อถึงความสูงระดับหนึ่งใกล้ถึงพื้นจะมีการเชิดหัวขึ้นเพื่อให้เครื่องค่อยๆ ตกถึงพื้นโดยกระแทกพื้นเบาที่สุด แต่กระนั้น แรงที่กระแทกลงไปก็มหาศาลพอควร แล้วแรงต่างๆที่กระทำต่อ จุด Touchdown ที่ตามมาอีก เพราะฉะนั้นสนามบินไม่ได้สร้างเอาแบบถนนนะครับ ขนาดถนนรถบรรทุกเบากว่าเครื่องบินตั้งเยอะยังพังได้ก็ลองไปคิดดูรายละเอียดก็ไปศึกษาเอา

--->4. เรื่องขายหุ้น กฟผ ผมไม่รู้ว่าจะเป็นการขายชาติหรือเปล่า ทั้งๆที่ขายเพียงแค่ 25 % แต่เอาเป็นว่าเรามาคิดแบบเดียวกันว่าขายชาติก็ได้ แต่รู้ไหมว่าเดิมที
เราต้องขาย 100% เพราะกฏหมายขายชาติในยุค IMF ซึ่งทำในยุดของรัฐบาลพรรค ประชาธิ... ผมไม่รู้ว่าพรรคไหนขายชาติมากกว่ากัน คุณว่าไงหล่ะ

---ตอบ เอาล่ะ 25 % ตอนแรก ปตท ก็ ประมาณนี้แหละ แต่ตอนนี้คุณรู้มั้ย 48 % เป็นของตัวไหนก็ไม่รู้ ก็อย่างที่ผมบอกไปที่ว่ารัฐบาลหนึ่งทำให้ประเทศเกิดปัญหาแต่มันไม่ได้เกิดทันทีในรัฐบาลชุดนั้น แต่รัฐบาลชุดที่เข้ามาแก้ก็ดันไปแก้ไขในทำนองขายสมบัติชาติ ก็เช่นครอบครัวที่หมดตัวพยายามเอาทุกอย่างมาขายเพื่อรักษาบ้านเอาไว้แต่ดันจะไปขายของที่ควรอยู่กับบ้าน ส่วนรัฐบาลชุดไหนขายชาติมากกว่ากันผมฟันธงว่าชุดนี้ มากกว่าและแนบเนียนกว่าจนคนที่มีปัญญาน้อยนิดจับไม่ได้ไล่ไม่ทันก็แล้วกัน

--->5. ปิดกั้นสื่อ ผมไม่รู้ว่าปิดกั้นสื่อภาษาอะไร ถึงยังด่านายก ออกดาวเทียม ออกหนังสือพิมพ์ ออกทีวี ออกวิทยุ ออกทุกเวป ถ้าอย่างนี้ยังเรียกปิดกั้นสื่อ ผมก็ไม่มีอะไรจะเถียงละ

----ตอบ ไปศึกษาดูนะครับว่าใช้ดาวเทียมดวงไหน ของประเทศอะไร ในการออกอากาศ คุณติดตามข่าวความจริงบ้างหรือเปล่าพอทีเถอะครับหนังน้ำเน่า ดารา ฯลฯ เลิกไปบ้ามันเสียทีเถอะครับ เห็นไหมมันทำให้สมองคุณฝ่อไปหมดแล้ว ไปหาความจริงมาใส่สมองมั่งเถอะตื่นเสียทีคุณ ไปดูว่ารัฐพยายามที่จะปิดกันขนาดไหน กระทรวงทั้งที่เกี่ยวข้องและไม่เกี่ยวข้องพยายามกันขนาดไหน ออกมาจากโลกมายามั่งเถอะ ออกมาจากกะลาที่เขาเอามาครอบคุณไว้บ้าง
ถึงวันนี้เมื่อเรามองถึงความความคิดของคนไม่ว่าจะเป็นคนใหญ่คนโตในรัฐบาลหรือ ประชาชนบางคนที่คาดว่าน่าจะมีความรู้พอสมควรที่พอจะใช้งาน คอมพิวเตอร์ อินเตอร์เน็ทได้ เข้ามาตั้งกระทู้ เข้ามาแสดงความคิดเห็น ก็ทำให้ประจักษ์ได้ว่า ระบบการศึกษาไทย ควรที่จะปรับปรุงเสียที ควรที่จะรื้อทั้งระบบเสียที สร้างคนรุ่นใหม่ที่คิดเป็น แทนที่จะสร้างคนที่คิดได้เสียที (คงแยกความแตกต่างออกนะครับระหว่างคำว่าคิดได้ กับคำว่าคิดเป็น)

--->6. ผมเชื่อว่ามีอีกหลายๆเรื่อง ที่คุณอาจคิดว่ารัฐบาลบริหารไม่ดี เช่น เรื่อง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้, หวัดนก,น้ำมันแพงและอื่นๆ
ผมคงไม่เถียงหรอก เพียงแต่จะถามว่า แล้วจะมีทำอะไรได้ดีกว่านี้หรือไง ถ้าเทียบความผิดพลาดในการบริหาร ที่รัฐบาลชุดนี้มี ผมก็เห็นว่ารัฐบาลชุดอื่นๆก็มี
แต่ไม่เห็นจะมีใครออกมาพยายามล้มล้างขนาดนี้เลย ถ้าเทียบผลงานแล้วผมยังรู้สึกว่าผลงานมีมากกว่าด้วยซ้ำไป เช่น
- โครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค แม้ว่าหลายคนอาจจะคิดว่าไม่ได้ผล 100% สมมุติว่าได้ผลแค่ 30% ผมว่ามันก็ทำให้คนไทยหลาย 10 ล้านคนได้ประโยชน์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนจน
มันก็ยังดีกว่าที่เอาเงินภาษีของเราเป็นแสนล้าน ไปอุ้มคนรวย ถ้าใครจำได้ยุค IMF เราต้องขายบริษัทต่างๆให้ต่างชาติ สมมุติบริษัทนั้นเป็นหนี้ 100 ล้าน
มันซื้อราคา 20 ล้าน แล้วมันก็เอามาขายกลับให้คนไทย ในราคาที่แพงขึ้น 40-50 ล้าน บริษัทต่างชาติได้กำไร เจ้าของบริษัทเป็นหนี้น้อยลง คนรับกรรมคือคนไทยที่เสียภาษี
แล้วถ้าจำกันได้ ว่าตอนนั้นเป็นรัฐบาลพรรคอะไร ใช่ครับ ประชาธิ...
-เรื่องยาเสพติด แม้จะยังไม่หมดไป แต่ก็น้อยลงกว่ารัฐบาลอื่นๆเยอะ หาซื้อยากขึ้น สำหรับผมเรื่องนี้ก็พอให้บริหารประเทศได้แล้ว เพราะเรื่องนี้ใกล้ตัวใกล้ลูกหลานที่สุด
- เรื่องซุกหุ้น คนรวยที่ไหนก็ทำครับ ทั่วโลกอ่ะครับ อันนี้เจตนาครับ แต่คนรวยเขาทำทุกคนครับ

------ตอบ ไม่ได้ล้มล้าง แต่ต้องการการเปลี่ยนแปลง เราให้โอกาศรัฐบาลที่จะให้ช่วยกันแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประโยชน์แก่ประชาชนโดยรวมมากกว่าเอื้อนักการเมือง ฯลฯ แต่รัฐไม่ยอม มัวหลงไหลในอำนาจและ 19 ล้านเสียงที่ซื้อมาบ้าง หลงไหลคำโฆษณาชวนเชื่อมาบ้าง
------โครงการ 30 บาท ก็แล้วแต่คุณจะคิดครับถ้าคุณคิดว่าแขนคุณที่มันเริ่มเน่าเลือดก็ไหลไม่หยุดอุดเท่าไหร่มันก็ยังไหล ควรอยู่กับคุณต่อไป แทนที่จะตัดมันทิ้งเพื่อรักษาร่างกายเอาไว้แล้วค่อยใส่แขนเทียมเอา ก้แล้วแต่ความคิดคุณครับ
------เรื่องยาเสพติด ไม่น้อยหรอกครับถ้าคุณดูดีๆ มิหนำซ้ำเยอะกว่าด้วยซ้ำ แต่มันมาในรูปแบบที่คุณไม่รู้มากกว่า
------เรื่องซุกหุ้น ช่างที่อื่นเขาซิ ที่นี่ประเทศไทย ทำไมต้องทำตามคนอื่น ลูกสาวคนอื่นหนีตามสามี คงต้องให้ลูกสาวคุณหนีตามสามีด้วยงั้นหรือ

ต่อคำกล่าวที่ว่า --->ผมบอกตามตรงว่าผมรู้สึกว่าสน.. ไม่ใช่คนดี ...ฯลฯ

-----ตอบ คุณก็แค่ใช้ความรู้สึกมาตัดสินคน คุณลองใช้ธรรมะ ใช้เหตุผลตัดสินดูซิครับ หรือว่าคนอย่างคุณไม่มีธรรมมะ เลยต้องใช้ความรู้สึกตัดสินคน แน่นอนไม่มีใครดี 100 % เช่นกันไม่มีใครไม่ดี 100% แต่เราต้องมองว่าใครทำให้ประเทศเสียหายมากกว่ากัน วันนี้สนธิ ทำให้ประชาชนหนี้ถ่วมหัวเหรอ วันนี้สนธิทำให้สังคมเสื่อมทรามเหรอ วันนี้สนธิทำให้นายทุนต่างชาติมากอบโกยผลประโยชน์ในประเทศเราเหรอ ฯลฯ ไม่เลย แค่ออกมาถามรัฐบาล ว่าที่ทำอย่างนี้ถูกแล้วหรือ ที่ทำอย่างนั้นควรแล้วหรือ เช่นกัน มีคนมาบอกคุณว่าไอ้คนงานคุณที่รับเข้ามาน่ะมันขโมยของคุณเอาไปขายนะ คุณควรที่จะมาทำร้ายคนมาบอกหรือ ผมถามแค่นี้ ไม่อยากพูดเยอะยังไงถ้าเซลสมองคุณผลัดเอาเซลดีออกเอาเซลร้ายไว้ก็ไร้ประโยชน์ที่ผมจะพูดจะอะธิบายอะไรต่อไป
ผมไม่ได้หลงไหลอะไรคุณสนธิเพียงแต่ผมฟังแล้ววิเคราะห์ รอรัฐบาลอธิบายแล้วผมก็ฟังแล้วก็วิเคราะห์ จึงตัดสินใจว่าอะไรจริงอะไรไม่จริง แต่ถ้ามาอธิบายแบบข้างๆ คูๆ ถูๆ ไถๆ เหมือนมาอธิบายให้เด็กตัวเล็กๆ ฟัง ก็ยากที่ผมจะเชื่อ ผมมีสมอง และสมองผมก็เปลี่ยนเอาเซลดีไว้เซลร้ายทิ้งไป

-----สุดท้าย ฝากถึงพี่น้องประชาชนทั้งหลายที่อ่านมาถึงตรง นี้ วันที่ 9 มากันให้ได้นะครับมากันเยอะๆ มาให้นักการเมืองมันรู้ ว่าต่อไปนี้จะมาปล้นบ้าน มาลักเล็กขโมยน้อยของในบ้านหลังนี้ บ้านประเทศไทยของเราอีกไม่ได้ เราประชาชน จะไม่ยอมอีกต่อไป

ช่วยกันเถอะครับ 60 กว่าล้านช่วยกันควบคุม 500 อย่าให้ 500 มาควบคุม 60 กว่าล้าน

ให้รู้ถึงพลังประชาชนเจ้าของบ้านที่แท้จริง


Posted by : ลองคิดให้หลายๆด้าน , Date : 2005-11-29 , Time : 09:50:21 , From IP : 172.29.3.125

ความคิดเห็นที่ : 14


   จงใช้สติและปัญญาในการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้รับอย่าได้ตกเป็นเหยื่อของโฆษณา
จงเป็นตัวของตัวเองอย่าตกเป็นเครื่องมือของใคร


Posted by : สามัญคืนสู่สามัญ , Date : 2005-11-29 , Time : 09:59:20 , From IP : 172.29.3.171

ความคิดเห็นที่ : 15


   คุณ สมพร ยังอ่อนต่อโลกมาก แนะนำควร ออกนอกบ้านบ้างจะได้ตามทันโลก

Posted by : คนไทย , Date : 2005-11-29 , Time : 11:55:41 , From IP : 172.29.2.173

ความคิดเห็นที่ : 16


   โทษน่ะครับ คุณ "คนไทย" ที่ผม post น่ะ ผม copy มา ไม่ได้เขียนความเห็นตัวเองเลย ไปดูต้นฉบับได้ครับ อยู่ใน www.mthai.com หัวข้อ คนที่จะไปชุมนุม วันที่ 9 ธันวา คุณคิดดีแล้วหรือ"

ซึ่งผมไม่เข้าใจว่าที่คุณ "คนไทย" มาว่าผมว่า "คุณ สมพร ยังอ่อนต่อโลกมาก แนะนำควร ออกนอกบ้านบ้างจะได้ตามทันโลก" นั่นคุณหมายความว่าอย่างไร เพราะผมเองไม่ได้เขียนความเห็นคิดของตัวเอง นอกจากประโยคที่ว่า "ลองอ่านดูน่ะ ลองใช้วิจารณาณด้วย อย่าด่าผมน่ะ ผม copy มาอีกที " คุณน่าจะอ่านให้ละเอียด และใช้วิจารณญาณมากกว่านี้น่ะครับ ในการที่จะว่าใคร เพราะทุกคนก็หวังดี เอาข่าวสารมาบอกเล่ากันทั้งนั้น ไม่ได้เจตนาทำเรื่องไม่ดีเลยน่ะครับ


Posted by : สมพร , E-mail : (sompon@hotmail.com) ,
Date : 2005-11-29 , Time : 12:54:02 , From IP : 192.168.60.147


ความคิดเห็นที่ : 17


   เห็นด้วยครับว่าเรายังไม่ทราบความคิดวิเคราะห์ของคุณสมพร ที่ได้กรุณานำเอาความคิดของท่านอื่นมาเผยแพร่ออกกว้างขวางขึ้นนั้น พอจะวิเคราะห์ได้ไหมครับว่าเห็นด้วย ไม่เห็นด้วยอย่างไร



Posted by : Phoenix , Date : 2005-11-29 , Time : 13:52:02 , From IP : 172.29.3.243

ความคิดเห็นที่ : 18


   คุณสมพรพูดถูก คุณแค่ไปกอปปี้มา
เจตนาดี ผลลัพธ์ออกมาแย่มีถมไป
นี่ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่ง

อ่ะนะ ^o^


Posted by : หัวเขียว , Date : 2005-11-29 , Time : 13:56:35 , From IP : 172.29.4.220

ความคิดเห็นที่ : 19


   ผมว่าการที่จะไป copy อะไรมานั้นส่วนนีงถ้าคุณมีความคิดเห็นเป็นอย่างอื่นหรือว่า
มีแนวความคิดอะไรเสริมก็น่าจะพิมพ์ ใส่ลงไปด้วยนะครับ แต่ถ้าไม่มีอะไรเพิ่มเติม
copy มาอย่างเดียว ความหมายมันจะส่อไปในแนวว่าคุณเห็นด้วยกับสิ่งที่คุณเอามา
ลงเป็นหัวข้อกระทู้ไว้ เพราะงั้นไม่แปลกครับที่จะมีคนมาต่อว่าที่หลัง เพราะนั้นคือ การรับผิดชอบต่อความเป็นสาธารณะ ถ้ากล้าจะ Post ก็ต้องรับผิดชอบผลที่จะตาม
มาด้วยครับ


Posted by : ร่วมด้วยช่วยกัน , Date : 2005-11-29 , Time : 14:07:23 , From IP : 172.29.1.126

ความคิดเห็นที่ : 20


   ผมไม่อยากให้คิดว่าพรรคนี้ทำผิดตั้งแต่ตอนไหน หรือว่าพรรคนู้นทำผิดอย่างไร อย่าไปโบ้ยความผิดให้คนนู้นคนนี้ ประชาธิปัตย์เป็นคนทำ ชวลิตเป็นคนสั่ง เราน่าเราควรมองที่เนื้อหามากกว่าว่าสิ่งที่รัฐบาลทำเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ประชาชนเป็นหลักหรือเปล่า ที่คุณสมพรได้เล่ามาว่าไม่เห็นด้วยในหลายๆประการ แต่เป็นการไม่เห็นด้วยในความคิดเห็นส่วนตัวรึเปล่าครับ น่าจะออกมาชี้แจงเหตุผลด้วยนะครับ เพื่อความเข้าใจของคนอ่านหลายๆคน และความเห็นบางข้อที่ว่า"ใครๆก็ทำกันทั้งนั้น" ผมคิดว่าความคิดของคุณสมพรคงผิดไปรึเปล่าครับ เพราะการที่คนเราทำในสิ่งที่"ใครๆก็ทำกันทั้งนั้น"บางอย่างก็ผิดเช่นกัน ให้ผมลองยกตัวอย่างที่พอจะนึกออกก็คงเป็น "การที่คนทำความดีแล้วไม่กล้าที่จะบอกให้คนอื่นรู้ เพราะเห็นว่าคนรอบข้างมองเราเป็นตัวตลก เฮ้ยแกกล้าไปช่วยคนแก่ข้ามถนนได้ไงว่ะ ไม่อายคนข้างๆบ้างเรอะ แต่คนที่ทำความชั่วเดี๋ยวนี้ก็มีคนออกมาชื่นชมว่า โหแกกล้าว่ะที่ทำ" หลายๆคนก็คงได้เคยเห็นเหตุการณ์นี้มาบ้าง ปัจจุบันสังคมไทยเริ่มเปลี่ยนไปความคิดที่"ใครๆเค้าก็ทำกัน"กลายเป็นข้อบกพร่องทางสังคมที่กำลังขยายตัวมากขึ้น หากยังมีคนที่คิดแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ สังคมไทยก็คงเข้าสู่วิกฤติเข้าสักวันหนึ่ง
ปล.ขอโทษด้วยนะครับ อาจจะอ่านแล้วงงบ้าง


Posted by : ... , Date : 2005-11-29 , Time : 17:15:24 , From IP : 172.29.4.223

ความคิดเห็นที่ : 21


   ครับผมคราวหน้าคราวหลัง ผมจะได้ post แบบแบ่งแยกให้ชัดเจนไปเลยว่าอันไหน copy มา อันไหนความคิดของตัวเอง เพื่อจะไม่ให้พวกที่อ่านไม่ละเอียดเข้าใจผิดอีกครับ ขอบคุณทุกคนที่เข้าใจ สำหรับคนที่ไม่เข้าใจก็ไม่ว่ากันครับ ผมยังไงก็ได้อยู่แล้ว แค่อยากให้ทุกคนได้อ่านข่าว ก็แค่นั้น ขอบคุณครับ

Posted by : สมพร , E-mail : (sompon@hotmail.com) ,
Date : 2005-11-30 , Time : 10:35:47 , From IP : 192.168.58.254


ความคิดเห็นที่ : 22


   ผมเองคิดว่านายกทำผิดตั้งแต่แรกแล้วที่จำกัดสื่อ และอีกอย่างหนึ่งที่คุรสนธิพูดนั้นมีหลักฐานและมีความน่าเชื่อของข้อมูลสูง มากกว่าการออกมาแก้ตัวอย่างหน้าด้านๆของคณะรัฐมนตรี (คณะรัฐบวม ฝ้านแค้นเองก็สมควรที่จะเป็นกลางด้วยนะครับ
สำหรับบรรยากาศการรับฟังที่วิทยาลัยวันศุกร์ คณะการจัดการสิ่งแวดล้อม มอ.
มีคนมาฟังจำนวนมากและรวมถึงพี่ๆชั้นคลีนิก ก็ยังหนีมาฟังด้วยน่าชื่นชมแท้ครับ


Posted by : นศ. , Date : 2005-11-30 , Time : 11:18:50 , From IP : ip1684-33.cc.psu.ac.

ความคิดเห็นที่ : 23


   การหนีเรียนมาฟังเนี่ยนะ ...น่าชื่นชม พูดผิดหรือเปล่า ?

Posted by : Nick , Date : 2005-11-30 , Time : 14:35:54 , From IP : 172.29.3.171

ความคิดเห็นที่ : 24


   มันจะเป็นกระแส แล้วก็ผ่านไป ครับ


Posted by : เด็กแนว , Date : 2005-11-30 , Time : 17:13:05 , From IP : 172.29.7.247

ความคิดเห็นที่ : 25


   แมวเหลืองแมวขาวกัดกัน มีคนดูคนเชียร์มาก เมามันส์สะใจ มีบางคนนั่งแอบมองดูว่าจะได้ประโยชน์จากแมวตัวไหน มีบางคนแอบมองดูว่าถ้าคนเชียร์ตะลุมบอนกันแทนแมวจะได้ประโยชน์กับกลุ่มตัวเองกว่าอีก ท่านเป็นคนกลุ่มไหน
อย่าลืมว่าสนามนี้คือประเทศไทย ถ้าฝ่ายเชียร์จนไม่คิด จนเศรษฐกิจถอยกลับไปยุค IMF ถึงวันนั้นอย่าว่าแต่ กฟภ.เลย อะไรในชาติก็ต้องขายต่างชาติถูกๆอย่างอาเจนติน่า ถ้าไม่อยากเป็นก็อย่าสร้างเงื่อนไข คนที่รับกรรมคือคนส่วนใหญ่ของประเทศรวมทั้งกลุ่มเชียร์เอามันส์ ส่วนแมวและคนแอบมองเบื้องหลังย่อมไม่เสียหาย มีแต่ได้ประโยชน์ด้วยซ้ำ (คนนั้นเป็นใคร? คนไทยหรือต่างชาติ?)
คนไทยควรรู้รักสามัคคี (ตามในหลวงตรัส)
แมวดำแมวขาวไม่สำคัญขอให้จับหนูเก่งก็พอ (เติ้ง เสี่ยวผิงว่า)
คนไทยยามมีทุกข์ร่วมเสพ ยามเริ่มมีฐานะก็จะหาเรื่องทะเลาะกัน (ผมว่า)



Posted by : เหมาเจอตุง , Date : 2005-11-30 , Time : 17:27:09 , From IP : 172.29.3.217

ความคิดเห็นที่ : 26


   
• ปุจฉา! “รวย” แล้วเข้าสู่สนามการเมือง ดีกว่าพวก “จน” มาเล่นการเมือง
• คนรวย! ไม่โกง ไม่คอร์รัปชัน แต่คนจน! ตั้งหน้าตั้งตากอบโกย ...จริงหรือ ?
• กลวิธีทำให้เงินหล่นทับจากนโยบายบริหารบ้านเมืองยุคคนรวย....... เขาทำกันอย่างไร
• 2 แสนล้านบาท....ตามนโยบายของรัฐไปตกอยู่ในกระเป๋า.....ใครเอ่ย!?..........
*************
ก่อนหน้าที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะเข้ามาเป็นผู้นำบริหารบ้านเมืองนั้น ได้ประกาศและเน้นย้ำมาโดยตลอดในเรื่องของความพร้อม ทั้งในด้านกำลังสมองและฐานะเศรษฐกิจที่มั่นคงของตนเอง เพื่อเป็นจุดขายสร้างความแตกต่างให้ประชาชนเห็นว่า นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างเขา นั้น “ดีกว่า” และ “เหนือกว่า” บรรดานักการเมืองเก่า ที่ไม่ต่างจาก “นักเลือกตั้ง” อย่างชัดเจน

เพราะการเข้ามาของนักเลือกตั้ง มีเป้าหมายเพื่อหวังกอบโกยผลประโยชน์ เพื่อชดเชยในสิ่งที่ขาด แต่สำหรับนักธุรกิจที่มั่งคั่ง และเต็มไปด้วยความพร้อมที่จะทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง ไม่จำเป็นต้องกอบโกยหรือหาประโยชน์ใส่ตัวแน่นอน...!

“การเมืองคือการผลัดกันเข้ามาทำให้ประเทศ ไม่ใช่มาโกงประเทศ” (20 ต.ค.2548)

“รวยแล้ว ไม่โกง”...!?
ประโยคเหล่านี้คือคำพูดของนายกฯทักษิณ ที่มักถูกถ่ายทอดผ่านสื่อมวลชนสู่สาธารณชนหลายต่อหลายครั้ง โดยที่แต่ละครั้งเจ้าของประโยคทองคาดหมายว่าจะได้รับความเชื่อมั่นจากประชาชน ต่อเมื่อคนในสังคมเริ่มตระหนักว่าประเทศไทยกำลังจะถูก “เทกโอเวอร์” จากกลุ่มทุน นักธุรกิจ จึงเกิดคำถามตามมา

“รวยแล้วไม่โกง จริงหรือ?”
บรรดา “ขาประจำ” และฝ่ายค้าน โดยเฉพาะสำหรับพรรคประชาธิปัตย์นั้น สามารถนำประโยคทองของนายกฯทักษิณ ไปใช้ขยายผลทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง และถูกจังหวะเวลาหลายต่อหลายครั้ง เนื่องจากไม่เพียงแต่ประชาธิปัตย์ทำป้ายติดทั่วจังหวัดภูเก็ต เพื่อเรียกร้องให้ประชาชน ช่วยกันตรวจสอบรัฐบาล เมื่อคราวที่นายกฯทักษิณ ยก ครม.ลงไปสัญจรเมื่อต้นปี 2546

ต่อมาประชาธิปัตย์ได้ออกพ็อกเกตบุ๊กเล่มร้อนที่ชื่อ “ใครว่า คนรวย ไม่โกง(เรื่องจริง)” โดย กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ของพรรค เพื่อตอกย้ำว่าคำพูดของนายกฯทักษิณ สวนทางกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้น เช่นเดียวกับหนังสือ “รู้ทันทักษิณ” ของ เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ส.ว.กทม.ทยอยเปิดตัวต่อมาอีกหลายซีรี่ ที่ขายดีหมดแผง เพราะหลายคนอยากรู้จักนายกฯทักษิณ ในแง่มุมที่ซับซ้อนมากขึ้นนั่นเอง...

ปรากฏการณ์ “คอร์รัปชัน” สายพันธุ์ใหม่ !
มีการตั้งข้อสังเกตว่า ข้อเท็จจริงที่นายกฯทักษิณ บอกว่า “รวยแล้วไม่โกง” อาจมีส่วนถูกอยู่บ้าง เพราะการเข้ามาบริหารประเทศในคราวแรกตั้งแต่ปี 2544 และมีประกาศต่อไปว่าจะอยู่อีก 20 ปี มีเพียงเหตุผลประการเดียวคือเพื่อเข้ามาดูแลปกป้องธุรกิจโทรคมนาคม ของกลุ่ม “ชินคอร์ป” มูลค่านับแสนล้านบาท ทั้งทางตรงและทางอ้อมผ่าน nominy ที่ถูกวางเครือข่ายไว้ในทุกส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน

การเข้ามาบริหารประเทศของนายกฯทักษิณ ในฐานะผู้นำคนที่ 23 ตั้งแต่ปี2544 เป็นต้นมา ไม่เพียงแต่จะเป็นการพลิกโฉมหน้า รูปแบบการเมืองไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ขณะเดียวกันบรรดานักรัฐศาสตร์และนักเศรษฐศาสตร์การเมืองยังพบว่ารูปแบบการ "บริหารประโยชน์"ในระดับบนได้พัฒนาวิธีการจนยากที่จะติดตามได้ทัน

"ผลประโยชน์ทับซ้อน" , "แกรนด์ ดินเนอร์ คาบิเนต" หรือ "สัมปทานประเทศ" ได้กลายเป็นคำอธิบายถึง "ภาพลักษณ์"รัฐบาลไทยรักไทย ตลอดหลายปีที่ผ่านมาในสายตาของคนชั้นกลาง

ขณะที่เสียงวิพากษ์วิจารณ์ตลอดจน เสียงเรียกร้องให้ผู้นำแก้ปัญหาการคอร์รัปชั่นให้เด็ดขาด แต่ในเวลาเดียวกันสังคมกลับพบว่าคนที่มีชื่อพัวพันกับการทุจริตในโครงการขนาดใหญ่มูลค่ามหาศาล ล้วนแล้วแต่อยู่รายล้อมตัวนายกฯทักษิณทั้งสิ้น ว่ากันว่าเม็ดเงินที่ตกไปสู่มือคนใกล้ชิดนายกฯทักษิณ นั้นมีมูลค่ากว่าสองแสนล้านบาทกระจายไปยัง ทายาทสายตรง บรรดาเครือญาติ และกลุ่มพันธมิตร

5 ปีทักษิณ "ชินคอร์ป" ได้กว่าแสนล้าน
ก่อนที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้น ได้ประกอบธุรกิจโทรคมนาคมมีมูลค่านับพันล้านอยู่ในมืออยู่แล้ว ยิ่งเมื่อสถานการณ์การเมืองแบบรัฐบาลพรรคเดียวที่มีคะแนนสูงถึง 374เสียง จนฝ่ายค้าน นักวิชาการ และกลุ่มองค์กรเคลื่อนไหวต่างๆ ไม่มีโอกาสที่จะคานอำนาจ หรือยับยั้งในการตัดสินใจของนายกฯทักษิณ ได้เลย

แม้นายกฯ จะบอกมาตลอดว่า ได้วางมือจากธุรกิจครอบครัว เพื่อมุ่งให้กับงานการเมือง ต้องการพัฒนาประเทศให้สามารถแข่งขันกับนานาประเทศได้ และจะทำให้คนจนหายจน ซึ่งล้วนแต่เป็นภารกิจที่หนัก

เมื่อมองย้อนไปที่ธุรกิจในครอบครัวก็ยิ่งเห็นการเติบโต แม้จะไม่มีคนชื่อทักษิณ ชินวัตร นั่งบริหารชินคอร์ปตามระยะเวลาที่อยู่ในฐานะนายกรัฐมนตรีเกือบ 6 ปีก็ตาม มองไปทางไหนก็เห็นแต่ธุรกิจเครือข่ายเต็มไปหมด แค่มูลค่าหุ้นของบริษัทในครอบครัวในตลาดหุ้นทั้ง 5 บริษัท 4 แสนล้านบาท ก็กินกว่า 10%ของมาร์เกตแคปของตลาดหุ้นไทยเข้าไปแล้ว

ยังไม่นับรวมบริษัทด้านการเงินและสายการบินนอกตลาดหลักทรัพย์ที่ขณะนี้กำลังแผ่กิ่งก้านสาขาไปทั่วไทย กลุ่มชินจึงเหมือนต้นไม้โตเร็วเพราะได้ปุ๋ยชั้นดี จากนโยบายรัฐบาลต่างๆ โดยที่นายกฯทักษิณ อาจจะไม่ตั้งใจหรือรู้เนื้อรู้ตัวมาก่อนหรือไม่?

ไอพีสตาร์ใช้เอฟทีเอเพิ่มรายได้ หมื่นล้าน
เริ่มมาตั้งแต่บริษัทชินแซทเทิลไลท์ที่มีดาวเทียมไอพีสตาร์เป็นตัวทำรายได้ให้กับบริษัทนั้นได้รับอานิสงฆ์จากการทำเอฟทีเอหลายครั้งที่ไทยไปร่วมทำสัญญากับเหล่าประเทศต่างๆทั้ง นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย จีน และอินเดีย จากการประมาณการของเหล่านักวิเคราะห์จากตลาดหลักทรัพย์ฯคาดว่า รายได้ของชินแซทจะก้าวกระโดดขึ้นมาทันที่ที่จีนและอินเดียเข้ามารับสัญญาณในปี 2549 คาดกันว่าอินเดียจะทำให้ชินแซทมีรายได้ เพิ่ม 5พันล้านบาท จีน 10,000 ล้านบาท

โดยก่อนที่จะมาเป็นไอพีสตาร์ที่เห็นได้ในทุกวันนี้ นายกฯ ทักษิณ ได้เข้าไปพบกับ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา George W Bush.ในปี พ.ศ 2544 จากนั้นไม่นานกลางปี 2545 บุญคลี ปลั่งศิริ ซีอีโอกลุ่มชินก็ประกาศว่าทางธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าของอเมริกา หรือ US EXIM bank ให้เงินกู้ ชินคอร์ปมาเพื่อเป็นทุนหมุนเวียนในการใช้จ่ายขยายธุรกิจ ซึ่ง IP Star ก็เป็นผลิตภัณฑ์หลักในการขยายธุรกิจของ SATTEL จำนวน 500 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 20,000 ล้านบาท และตามมาด้วยเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากเหล่านักวิชาการและนักการเมืองฝ่ายค้าน จากการที่ไทยเข้าไปเจรจาเขตการค้าเสรีกับสหรัฐอเมริกาในปลายปี 2545 ซึ่งดูเหมือนว่าไทยจะเสียเปรียบสหรัฐอเมริกาเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ การเปิดเสรีสิทธิบัตรยา เปิดเสรีประกันภัยและการเงินของคนไทยทั้งประเทศ

จากนั้นไอพีสตาร์ก็เริ่มดำเนินการแผนธุรกิจตามเส้นทาง เอฟทีเออย่างไม่มีผิดเพี้ยน นอกจากข้อสัญญาเอฟทีเอจะเอื้อประโยชน์ต่อดาวเทียมดวงนี้แล้ว EXIM bank ของไทยก็เชียร์ดาวเทียมดวงนี้อย่างออกหน้าให้กู้ (Soft loan) ให้กับพม่า 4,000 ล้านบาทโดยส่วนหนึ่งได้แบ่งให้กระทรวงการสื่อสารและไปรษณีย์ของประเทศพม่าขอกู้เงินดอกเบี้ยต่ำเพื่อไปลงทุนพัฒนาการสื่อสารและโทรคมนาคมของพม่าจากรัฐบาลไทย 3 โครงการคือ

1.โครงการพัฒนาการสื่อสารผ่านดาวเทียมระบบบรอดแบรนด์

2.โครงการถ่ายทอดสัญญาณผ่านเคเบิลใยแก้วระยะทาง 1,500 กิโลเมตร

3.โครงการพัฒนาเทคโนโลยีข่าวสารและการสื่อสาร ตามยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (ECS) เป็นมูลค่า 1,216 ล้านบาท แล้วเงินจำนวนดังกล่าวย้อนกลับมาว่าจ้าง ชิน แซทเทิลไลท์ ซึ่งชนะการประมูล นั้นทาง EXIM Bank บ้านเราก็เซ็นอนุมัติผ่านด้วยเหตุผลว่าพม่ามีศักยภาพในการใช้หนี้ได้

รวมไปถึง BOI ก็สนับสนุนระบบโทรคมนาคมอย่างเต็มที่ โดยการยกเว้นเงินได้นิติบุคคลเฉพาะราย จากต่างประเทศเป็นเวลา 3 ปี จากการส่งเสริมการลงทุนโครงการดาวเทียมไอพีสตาร์ ดวงที่ 4 จนทำทำให้รัฐสูญเสียรายได้จากเงินภาษีที่ชิน แซทเทิลไลท์ ได้รับการยกเว้น 8 ปี เป็นเงินกว่า 16,459 ล้านบาท ในแผนลงทุนดาวเทียมไทยคมดวงที่ 5 มีการเตรียมขอ ขอใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ให้ไม่ต้องจ่ายส่วนแบ่งรายได้ ให้ไม่ต้องจ่ายถึง 10% จากปัจจุบันบริษัทต้องจ่ายให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีที 15% ของรายได้

นี่จึงเป็นเหตุผลให้นักวิเคราะห์ในตลาดหุ้นต่างเชียร์ให้ซื้อ แซทเทล เพราะเห็นกำไรและการลดต้นทุนในอนาคตอยู่ตรงหน้า

เอไอเอสรับอานิสงส์ 9 พันล้าน
นอกจากโครงการดาวเทียมหมื่นล้านแล้ว บมจ.แอดวานซ์ ที่ให้บริการสัญญาณเอไอเอสของนายกฯทักษิณ กำลังเฟื่องฟู มีรายได้เหมือนกับกบก้าวกระโดด แม้จะมีคนเข้ามาแบ่งเค้กไปบ้างแต่เอไอเอสก็ยังครองแชมป์ผู้ให้บริการเครื่อข่ายมาทุกสมัย นอกจากรายได้จะโตแล้วภาครัฐก็ยังลดค่าใช้จ่ายเป็นโบนัสให้อีกด้วย

โดยทาง บมจ.แอดวานซ์ได้แก้สัญญาร่วมงานกับ บมจ.ทศท ในส่วนการจ่ายเงินชดเชยของโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบพรีเพด (วันทูคอล) จาก 25% เหลือ 20% ทำให้รัฐสูญเสียรายได้กว่า 1,600 ล้านบาท ขณะที่ยังได้รับอานิสงส์จากการลดภาษีนำเข้าโทรศํพท์มือถือจาก 10% เหลือ 0% โดยอ้างตามกฎ WTO คาดว่าจากการลดภาษีในครั้งนี้ทำให้เอไอเอสมีกำไรปี 2546 เพิ่มขึ้น 307% จาก 2,384 ล้านบาทปี 2543 เป็น 9,723 ล้านบาทปี 2546 เท่ากับเพิ่มขึ้น 7,339 ล้านบาท

ไม่ใช่แค่กฎระเบียบของระบบกิจการโทรคมนาคมในประเทศจะเอื้อประโยชน์ให้กับเอไอเอสแล้ว ยังมีการแก้ไขระเบียบราชการให้ข้าราชการซี 8-11 เบิกค่าโทรศัพท์ได้มากขึ้น จากเดิม 1 พันบาทเป็น 4 พันบาทตามขั้นบันได คาดว่าเอกชนจะมีรายได้เพิ่มประมาณ 672 ล้านบาทต่อปีซึ่งคิดจากประมาณการค่าราชการซี 8-11 จำนวน 40,000 คน

ไอทีวี ฟันห้าหมื่นล้าน
ส่วน บมจ.ไอทีวี หลังจากที่กลุ่มบริษัทชิน เข้าไปดูแล มีการเปลี่ยนแปลงภายใน เริ่มตั้งแต่ไอทีวีได้ลดค่าสัมปทานเหลือ 150 ล้านบาทต่อปี เป็นเวลา 20 ปี ทำให้รัฐเสีย

รายได้ไป 17,430 บาท อีกทั้งมีการปรับเปลี่ยนสัดส่วนรายการข่าวสาร สารคดีและสาระประโยชน์เป็น 50% และมีการยกเลิกการออกอากาศรายการข่าวสารคดีและสาระประโยชน์ช่วงระยะเวลา 19.00-21.00 น. ทำให้ไอทีวีมีรายได้โฆษณาในช่วงเวลาดังกล่าวเพิ่มขึ้นขั้นต่ำ 40,000 ล้านบาท อันเนื่องมาจากการเปลี่ยนเวลา Prime time

การที่ไอทีวีได้รับรายได้เพิ่มขึ้นนั้น ย้อนกลับไปดูเหตุการณ์ไอทีวีฟ้องร้องรัฐต่อคณะอนุญาโตตุลาการขอค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจากการผิดสัญญาร่วมงานอันเนื่องมาจากรัฐปล่อยให้มีโฆษณาในUBC ในปี 2547 เป็นเหตุให้รัฐต้องชำระเงินคืนแก่บริษัท 20 ล้านบาท พร้อมจ่ายรายได้ขั้นต่ำต่อรัฐ 230 ล้านบาท อีกทั้ง สปน.คืนเงินค่าผลประโยชน์ที่ได้ชำระเมื่อ 3 ก.ค. 2546 เป็นจำนวน 570 ล้านบาท และสุดท้ายที่ทำให้รายได้ไอทีวีโตขึ้นมาอย่างก้าวกระโดดก็คือ การให้ไอทีวีสามารถออกอากาศช่วง Prime time (19.00-21.30 น.) โดยถูกจำกัดประเภทรายการ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดเรียกได้ว่ากระบวนการของรัฐเลือกที่จะให้ไอทีวีเป็นผู้ได้ประโยชน์ แม้จะมีทั้งนักวิชาการออกมาทักท้วงถึงเจตนารมณ์การจัดตั้งไอทีวี ต้องการเป็นทีวีที่มีคุณภาพและมีเนื้อหาสาระ ซึ่งถือว่าการอนุญาตให้ไม่จำกัดเวลาออกอากาศนั้นทำให้รายได้ของไอทีวีโตอย่างก้าวกระโดดจากค่าโฆษณา โดยปี 2548 บทวิเคราะห์จาก บล.กิมเอ็งคาดการณ์ว่า ไอทีวีจะมีรายได้จากค่าโฆษณาเพิ่มขึ้น 48% หรือ 608 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2547

นอกจากธุรกิจคมนาคมและการสื่อสารแล้ว กลุ่มชินกำลังกระจายธุรกิจไปยังธุรกิจด้านอื่น ทั้งธุรกิจการเงิน ธุรกิจการบิน โดยเฉพาะธุรกิจการบินโลว์คอสต์ ก็เป็นที่ฮือฮาตั้งแต่เปิดตัวในครั้งแรก ด้วยการทำโปรโมชั่นราคาด้วยสโลแกน “ใครๆ ก็บินได้”

แอร์เอเชียเบียด "การบินไทย"
หลังจากที่รัฐบาลสนับสนุนการเปิดน่านฟ้าเสรี และทำให้สายการบิน แอร์เอเชีย เกิดขึ้น ปรากฏว่า ขณะนี้แอร์เอเชียมีการขยายตัวและเตรียมเปิดเส้นทางสายการบินใหม่อย่างต่อเนื่อง คาดว่าสิ้นปี 2548 แอร์เอเชียจะมีรายได้ 2,600 ล้านบาท ล่าสุดเปิดเส้นทางบินที่ เวียดนาม กัมพูชา และคาดว่าจะเตรียมเปิดเส้นทางบินใหม่ที่ พม่า ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่ใช้บริการดาวเทียมไอพีสตาร์

การเติบโตของแอร์เอเชียนั้นดูจะเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ว่าเกิดจากการผลักดันของรัฐบาลอย่างเต็มที่ เพราะแอร์เอเชียมีเส้นทางบินไปเชียงใหม่ 120 เที่ยวบิน/เดือน ซึ่งไปทับซ้อนกับเส้นทางสำคัญที่สร้างรายได้ให้กับสายการบินไทยทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ว่า การอนุมัติงบประมาณ 2547 เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสู่จังหวัดเชียงใหม่ และขยายพื้นที่ของอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ปรับปรุงลู่วิ่ง สนามบิน ซึ่งต้องใช้งบประมาณรัฐกว่า 1,800 ล้านบาทนั้นย่อมไม่อาจปฏิเสธผลประโยชน์ที่แอร์เอเชียได้รับจากมาตรการรัฐบาลครั้งนี้หรือไม่?

สวนทางกับการบินไทย ที่ต้องเจอกับภาวะถดถอยอย่างต่อเนื่อง มีทั้งการลดจำนวนเที่ยวบินในประเทศบางเส้นทาง หรือแม้กระทั่งเลิกเส้นทางการบินไปต่างประเทศในบางสาย ยกเลิกเส้นทางบินไปกลับกรุงเทพฯ-ภูเก็ต-สิงคโปร์ จำนวน 4 เที่ยวบิน/สัปดาห์ และลดเส้นทางไปกลับกรุงเทพฯ-ภูเก็ต จำนวน 14 เที่ยวบิน และลดเส้นทางไปกลับกรุงเทพฯ-กระบี่ 7 เที่ยวบิน นอกจากนั้นยังมีการเพิ่มราคาค่าโดยสารขึ้นอีกเที่ยวบินละ 400 บาท อีกด้วย จากนโยบายลดเส้นทางการบินของการบินไทยและเพิ่มราคานั้น ส่งเสริมให้รายได้ของแอร์เอเชียเพิ่มขึ้นอย่างอัตโนมัติ เพราะประชาชนมีทางเลือกน้อยลง ซึ่งตอนนี้นอกจากสายการบินไทยแล้ว แอร์เอเชียถือว่าเที่ยวบินครอบคลุมทั้งในประเทศและต่างประเทศ

นอกจากนี้ แอร์เอเชียยังมีบริการเสริมด้านการเงินซึ่งเริ่มทำการตลาดเปิดตัวไปไม่นานนี้ อย่างบัตรเครดิตแอร์เอเชีย ได้ธนาคารดีบีเอส สิงคโปร์เข้ามาร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ โดยให้สิทธิพิเศษสำหรับผู้ถือบัตรเครดิตแอร์เอเชีย สะสมคะแนนการใช้บัตรแลกตั๋วเครื่องบินได้อย่างง่ายดาย รวมทั้งกิจการนอนแบงก์ในเครือชิน อย่างแคปปิตอลโอเค ก็มีดีบีเอส สิงคโปร์เข้ามาเป็นผู้ช่วยด้วย และดูเหมือนธุรกิจนอนแบงก์กำลังจะไปได้ดี ในปี 2548 บริษัทคาดว่าจะมีรายได้ทั้งในส่วนของสินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อเช่าซื้อ และบัตรเครดิต โดยมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 25% ของมูลค่าตลาดรวมสินเชื่อทั้งระบบ

กินรวบสถาบันการเงิน
ใช่ว่านโยบายรัฐบาลชุดนี้จะสนับสนุนระบบสื่อสารโทรคมนาคมอย่างเดียว แต่ยังเผื่อแผ่ไปยังระบบการเงินของประเทศด้วย จะพบว่ารัฐบาลชุดนี้จ้องจัดการกับสินเชื่อนอกระบบอย่างเด็ดขาด มีนโยบายแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคประชาชน โดยให้มีประชาชนเข้ามาลงทะเบียนเพื่อให้ประชาชนเหล่านั้นหันมาใช้เงินกู้ในระบบแทนที่เงินด่วนนอกระบบ คิดเป็นเม็ดเงินที่จะไหลเข้ากับเหล่าสินเชื่อในระบบทั้งหลาย คิดเป็น 692,991 ล้านบาท

ในปลายปี 2546 บริษัท แคปปิตอลโอเค ได้เกิดขึ้นมาในระบบสินเชื่อส่วนบุคคลกำลังเฟื่องฟู แม้จะเป็นน้องใหม่แต่เพราะความเชื่อมั่นในฐานลูกค้าเอไอเอสที่มีอยู่เดิม ทั้งมีผู้สนับสนุนทางการเงินคือธนาคารดีบีเอสสิงคโปร์ ตั้งเป้าทำรายได้อยู่ที่ 3,000 ล้านบาท

รวมไปถึงระบบธนาคาร กลุ่มชินก็เข้าไปมีบทบาทอยู่ช่วงหนึ่ง เพราะหุ้นที่พานทองแท้ ชินวัตรเคยเข้าไปถือหุ้น 150 ล้านหุ้น ของธนาคารทหารไทยนั้น หลังจากที่ขายหุ้นไปแล้ว พานทองแท้ได้กำไรหุ้นครึ่งหนึ่ง เพราะเข้าไปช้อนซื้อในช่วงราคา 2.60 บาท แต่หลังจากที่มีการควบรวมธนาคารทหารไทยกับ IFCT และธนาคารดีบีเอส ไทยทนุ โดยกระทรวงการคลังนำหุ้นของปตท.และการบินไทยไปวางค้ำประกันเพื่อกู้เงินธนาคารออมสินมาเพิ่มทุน10,000 ล้านบาท ทำให้มูลค่าหุ้นเพิ่มขึ้น ประมาณ 300 ล้านบาท

รวมไปถึงธุรกิจส่วนตัวของพานทองแท้ ซึ่งเป็นบริษัทโฆษณา แม้จะเป็นบริษัทน้องใหม่สดๆ แต่ก็สามารถได้งานสัมปทานโปรเจกยักษ์พื้นที่โฆษณาบริเวณอุโมงค์รถไฟฟ้าใต้ดินมูลค่า 90 ล้านบาทได้

รวยเพิ่มด้วยอสังหาริมทรัพย์
ธุรกิจอีกประเภทหนึ่งที่เศรษฐีทุกประเทศต้องเข้ามาลงทุนคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพราะที่ดินซื้อมาเก็บไว้ยิ่งนานเท่าไหร่ก็ยิ่งมีมูลค่าสูงขึ้น และยิ่งมีสายสัมพันธ์กับนโยบายรัฐย่อมง่ายราวพลิกฝ่ามือ แม้จะซื้อที่ตาบอดไว้ ไม่นานก็จะมีถนนตัดถนนเข้ามาในโครงการหมู่บ้านอย่างไม่น่าเชื่อ

เหมือนกับโครงการ บางกอก บูเลอวาร์ด หนึ่งในโครงการหมู่บ้านจัดสรรของ บริษัทเอสซี แอสเซท จำกัด (มหาชน) หนึ่งในบริษัทในเครือชิน ซึ่งโครงการอยู่บนถนนถนนรามอินทรา-วงแหวน-นวมินทร์ อยู่ดีๆ ที่ประชุม คจร. เมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2546 มีมติตัดถนนผ่านที่ดินโครงการ รัชดาภิเษก-รามอินทรา 4.5 กิโลเมตร โดยก่อสร้างเฉพาะช่วงกลาง (ยาว 3.2 ก.ม.) ที่ตัดผ่านโครงการบ้านจัดสรรมูลค่า 2,450 ล้านบาท ทำให้เพิ่มมูลค่าโครงการ บางกอกบูเลอร์วาด พุ่งขึ้นมาทันทีอย่างต่ำ 10% หรือประมาณ 240 ล้านบาท

นอกจากนี้ชื่อเสียงของ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ยังโดดเด่นในฐานะเจ้าแม่ที่ดินของไทย เพราะแม้กระทั่งที่ดินทำเลทองในตัวเมืองย่านรัชดา ตรงข้ามสถานฑูตเกาหลี เยื้องศูนย์วัฒนธรรม จำนวน 33 ไร่ ที่กองทุนฟื้นฟูจัดประมูลขึ้นมานั้น คุณหญิงก็ซื้อได้ถูกกว่าราคาตลาดกว่า 50% แม้จะมีผู้เข้าประมูลอย่างอนันต์ อัศวโภคินเจ้าพ่อวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยตัวจริง เสียงจริง เข้าเป็นคู่เทียบในการประมูลก็ตาม

แต่เมื่อย้อนไปดูความสัมพันธ์ของบริษัทคู่เทียบกับคุณหญิงพจมาน จึงไม่น่าแปลกใจ หากคุณหญิงจะชนะประมูลและสามารถทำให้รัฐขาดรายได้ไปถึง 715 ล้าน จากต้นทุนที่ดินที่ต่ำลงจากการประมูลรอบแรก 700 ล้านบาท และจากค่าธรรมเนียมการโอนที่ดินอีก 15 ล้านบาท เพราะมีการโอนที่ดินก่อนขึ้นราคาประเมินฯแบบเส้นยาแดงผ่าแปด

อนันต์ เจ้าของบริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ มีความสนิทสนมกับบุญคลี ปลั่งศิริ ตั้งแต่เรียนวิศวะ จุฬาฯ ด้วยกัน และยังเป็นนายทุนคนสำคัญในการจัดงานชุมนุมศิษย์เก่ามงฟอร์ตเมื่อกลางปีที่ผ่านมา ล่าสุดได้รับแต่งตั้งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการอิสระกำกับดูแลกิจการไฟฟ้า (Requlater) เพื่อการแปรรูป กฟผ.เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ

อย่างไรก็ดี ยังมีที่ดินที่ได้รับความสนใจอีกแปลงคือแปลงสนามกอล์ฟอัลไพน์ มูลค่ากว่า 747 ล้านบาท ซึ่งนายกฯ ทักษิณซื้อมาด้วยราคาไม่แพงในสมัยเศรษฐกิจตกสะเก็ดปี 2540 กระทั้งถูกโจมตีข้อกล่าวหาเรื่องนำที่ดินวัดธรรมามิการามมาสร้างเป็นสนามกอล์ฟ

ดังนั้น การที่นายกฯทักษิณ เข้ามาดำรงตำแหน่งทางการเมืองโดยย้ำตลอดเวลาไม่เกี่ยวข้องจากธุรกิจครอบครัว แต่ธุรกิจครอบครัวกับโตวันโตคืนนั้น เขามีเทคนิคอย่างไรและบรรดานักวิชาการในรั้วมหาวิทยาลัย น่าจะหยิบยกหรือจัดทำเป็น "ตำรา" สอนคนรุ่นใหม่ให้รู้ว่า......คนรวย! บริหารประเทศ .....แล้วใครได้ประโยชน์มากกว่ากัน!


***************




Posted by : acd , Date : 2005-11-30 , Time : 17:37:21 , From IP : 172.29.3.196

ความคิดเห็นที่ : 27


   เปิดหูเปิดตาดีครับ...ได้รับทราบถึงความคิดเห็นของผู้ที่บริโภคข้อมูล...เราเองก็ต้องคัดกรองข้อมูลก่อนเพื่อผลประโยชน์ที่ดีต่อตนเอง...ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นดี ๆ...จะยังคอยติดตามความเป็นไปครับ...

Posted by : ปัตตานี , Date : 2005-11-30 , Time : 22:41:15 , From IP : 203.188.51.212

ความคิดเห็นที่ : 28


   ข้างล่างเป็นข้อเขียนที่ได้รับมา ทุกข้อเขียนที่เข้ามาโพสก็เพื่อให้ทุกคนได้พิจารณาด้วยเหตุผลและแหล่งอ้างอิง เพื่อให้รู้ทันผู้บริหารประเทศนี้

ไม่ว่าวันนี้คนเป็นนายกฯชื่อทักษิณหรือชื่ออะไรก็ตาม ถ้ามีพฤติกกรมเยี่ยงว่าจริง คือโกงกินชาติมากกว่าพัฒนาชาติ เราก็คงต้องช่วยกันคัดค้านขับไล่ ถ้าเรายังอยากมีแผ่นดินอยู่ เพราะคนธรรมดาแบบประชาชนแบบเราๆท่านๆคงไม่มีทางเลือกหนีไป(ซุกหัว)ที่ไหนแน่
********************************************

(กอบปี้มาฝาก)

ทำไมนายกอยากขายไฟฟ้าจัง

บอกให้ก็ได้นายกมีบริษัทในตลาดหุ้นที่มีมูลค่าตลาดรวมกันแล้ว 3 แสน 5 หมื่นล้านบาท
คือ advance กับ shinw ไม่เชื่อไปดูที่ http://www.taladhoon.com
แล้วคลิ๊กไปที่ get ready ตามด้วย คลิ๊กที่ M-cap

ถ้าไฟฟ้าเข้าตลาดหุ้น แล้วตลาดบูม ดัชนีหุ้นขึ้นไปจาก 720 จุดซัก 20%
มูลค่าบริษัทของนายกก็จะขึ้นไปอีก 20% ประมาณว่า 20% ของ 3.5 แสนล้านก็เท่ากับ 7 หมื่นล้าน
เป็นไงไล่ออกให้หมดผู้บริหาร กฟผ อยากมาขวางทางรวยทำไม ?

นายกบอกกระจายหุ้นไฟฟ้า รัฐบาลถือเกิน 50% ถามว่าจริงหรือ
ตอบว่าจริงครับ แต่นายกพูดไม่หมด ... คือ 50% แค่ปีเดียว
รู้ได้อย่างไรครับ ก็ตอนนี้บริษัทผลิตไฟฟ้า (egcomp) รัฐบาลถือหุ้นแค่ 25% ไม่เชื่อไปดูที่

http://www.settrade.com/sims_majorShares.jsp?txtBrokerId=IPO&securityNam

แล้วที่ร้ายคือ ... ผู้ถือหุ้นอันดับสองคือไชน่าไลท์ CLP นั่นแหละต่างชาติชัดๆ
บอกผู้จัดการคนไทยห่วย ไล่กลับกฟผแล้ว

วิธีหาเงินของทักษิณ

1. ให้พานทองแท้ซื้อหุ้นทหารไทยที่ 3.50 บาท 150 ล้านหุ้นแล้วประกาศเพิ่มทุน
นายกบอกไม่มีใครซื้อ จะให้กองทุนวายุภักษ์ซื้อ ตอนนี้ราคาอยู่แถว 5 บาท ฟาดไป 225 ล้าน

2. ให้เงินไตรภพไปซื้อ iTV 150 ล้านหุ้นที่ราคา 10 บาท แล้วประกาศให้ชาวบ้านรู้ว่า นายกซื้อ iTV
ราคากระเด็นไป 30 บาท ได้ไป 3 พันล้าน ตอนนี้ iTV จะเป็นยังไงก็ช่าง เพราะจริงๆไม่ใช่จะซื้อ แต่เป็นการปั่นหุ้น

คิดดูแล้วกันเอานายทุนมาบริหารประเทศ ประชาชนเกลียดคนไฟฟ้า 27000 คน
แต่แปลกไม่มีใครอิจฉานายกบ้าง พ่อแม่ไม่ได้ร่ำรวยอะไร ไปเรียนเมืองนอกก็ทุนกรมตำรวจ
แต่พอมีความรู้ขึ้นมาก็ลาออกไปทำธุรกิจ
· ใส่นาฬิกาเรือนละ 1 ล้าน
· ซื้อรถ Ferrari คันละ 20 ล้านให้ลูก
· สร้างคฤหาสน์รับจอร์จ บุชมูลค่า 500 ล้าน
· ลูกปิดเทอมพาไป shopping ที่ห้างแฮร์รอดประเทศอังกฤษ
· ความลับสุดยอดทักษิณกำลังทำอะไรกับรัฐวิสาหกิจ ไฟฟ้าได้อภิสิทธิ์ขายไฟได้แต่เพียงผู้เดียว
· การสื่อสารแห่งประเทศไทยได้อภิสิทธิ์เชื่อมต่อสัญญาณโทรศัพท์ไปต่างประเทศแต่เพียงผู้เดียว

ทักษิณปัจจุบันที่รวยได้เพราะได้สัมปทานมือถือจากองค์การโทรศัพท์
แต่ถ้ามือถือโทรออกต่างประเทศ ค่าโทรจะได้การสื่อสาร
ทีนี้จะทำยังไงละก็แปรรูปมันให้หมด เพื่ออภิสิทธิ์ทุกอย่างจะได้ถูกยกเลิก แล้วบอกประชาชนว่าทุกอย่างต้องเปิดเสรีหมด ผู้ว่า กฟผ . บอกจะทำอาเซียนกริด

เฉลยเลยนายกไปหุ้นกับขิ่นยุ้นที่พม่า ทำมือถือแล้วต่อไปก็จะลงทุนพัฒนาแม่น้ำสาละวิน โดยสร้างเขื่อนแล้วให้ผู้ว่า กฟผ สร้างสายส่งไปรับไฟ มาขายไฟจากเขื่อนราคาถูก ชาวบ้านจะได้ใช้ไฟราคาถูกเหมือนสายการบินต้นทุนต่ำไง แต่จริงๆ การไฟฟ้าก็ทำได้ แต่ไฟฟ้าทำเงินเข้ารัฐแต่ถ้าแปรรูปซะอะไรอะไรมันก็ง่ายขึ้น

แถมอีกนิดบนเสาส่งไฟฟ้ามีเส้นใยแก้วสามารถเชื่อมโยงมือถือของนายกไปเชื่อมกับของตัวเองที่พม่าแล้วใช้ พม่าเป็น hub เชื่อมโยงไปทั่วโลกไม่ต้องจ่ายเงินให้ กสท . ไง

รวย รวย แล้วก็จะรวยต่อไป

เรื่องต่อไปนี้ insider จริง ปัจุบันผู้ว่า กฟผ . อนุมัติให้ติดตั้งใยแก้วนำแสงในสายส่งไฟฟ้าทุกเส้นเพื่อเชื่อมโยงใยแก้วให้ครอบคลุมทุกจังหวัดแล้ว
ที่ร้ายตอนนี้มีเอกชนมาเช่าใช้แล้วนะครับก็ไม่ใช่ใครครับบริษัท TA Orange

ผมถามหน่อยองค์การโทรศัพท์ไปอยู่ที่ไหน
อภิสิทธิ์ที่คุณมีถูกละเมิดคุณไปอยู่ ที่ไหนครับ

“ ไอ้หน้าเหลี่ยม ”
อ้างความรวย : รวยอยู่แล้ว ไม่โกงหรอก
อ้างเมีย : ไม่ใช่ของผม ( เงิน + หุ้น ) ของเมียผม
อ้างสื่อ : สื่อลงข่าวครึกโครม คนเลยไม่กล้ากินไก่
อ้างนโยบายรัฐ : แปลงสินทรัพย์เป็นทุน แปลงเป็นทุนพวกเราซะ

รายชื่อผู้ถือหุ้น ปตท
มากสุดซึ่งล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้องกับพรรคไทยรักไทยทั้งสิ้น
1. นายทวีฉัตร จุฬารกูร - หลานของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ( เลขาธิการพรรคไทยรักไทย )
2.2 ล้านหุ้น เอาเงินมาจากไหนเงินใครกันแน่ ซื้อแทนใครรึเปล่า )
2. นายประยุทธ มหากิจศิริ - กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 2 ล้านหุ้น
3. นายดิษฐพล ดำรงรัตน์ - ญาติ นพ . พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ สส . กทม . พรรคไทยรักไทย 1.7 ล้านหุ้น
4. นายสุธี มีนชัยนันท์ - ญาตินายวิชาญ มีนชัยนันท์สส . กทม . พรรคไทยรักไทย 3 แสนหุ้น

จริงๆแล้ว 6 อันดับแรกนั้นได้หุ้นทั้งหมด 16 ล้านหุ้น มูลค่าขณะนั้นมีมูลค่าเพียง 385 ล้านบาท แต่ 2 ปีถัดมามีมูลค่าถึง 1,377 ล้านบาทแล้ว ดูแค่นี้ก็น่าจะรู้แล้วว่าทำไม ทรท ถึงอยากนำ กฟผ . เข้าตลาดหุ้นนัก
แล้วนี่ก็คือเหตุผลที่นายกไม่กล้าเผชิญหน้ากับกลุ่มประท้วง

แบบนี้ไม่เรียกว่าขายชาติแล้วจะขายอะไรครับ
แหล่งข้อมูล : นสพ . ไทยรัฐ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2547 หน้า 19 หัวข้อ “ ทักษิณกร้าว ”

คนโง่เท่านั้นที่บอกว่า กฟผ . ขาดทุน บ้ารึเปล่า กำไรทุกปี แล้วยังจะแปรรูปทำไม
อยากให้เศรษฐีนามสกุลเดิมๆ มาเป็นเจ้าของ มาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่นักใช่ไหม ดู ! อย่าง ปตท . ซิ คนทั่วไปมีสิทธิได้ซื้อไหม

ไปดูอย่าง iTV ซิสัญญาที่เซ็นเองกับมือ ทำขาดทุนนิดหน่อย ยังไม่ยอมเลย นับประสาอะไรกับกฟผ . ของประชาชน เพื่อประชาชนแท้ๆ ถ้าเอามาขายเป็นหุ้น ( ก็รู้อยู่แล้วว่าใครจะซื้อ ) ทำแล้วขาดทุนหรือเสมอตัวมันจะยอมหรือ

ดูอย่างมือถือของแม่งสิ !!... เคยลดค่าบริการลงไหม แสนแพง โทรเกินหน่อยก็ตัด อีกหน่อยคงมีวงเงินการใช้ไฟฟ้ามาใช้เหมือนมือถือแน่
แล้วก็มีบริการเสริมมาหลอก เงินคนจนๆอีกเยอะ
ตลอดมารัฐต้องเอาเงินภาษีประชาชนไปสร้างโรงไฟฟ้า สร้างเขื่อน ลงทุนไปมากมายหลายแสนล้าน กว่าจะเป็นทุกวันนี้ จะเอามาขายกันง่ายๆเนี้ยนะ



Posted by : Love Thailand , Date : 2005-12-01 , Time : 12:54:00 , From IP : 172.29.3.138

ความคิดเห็นที่ : 29


   รอหน่อยเถอะ...อีก 3 ปีก็จะเลือกตั้งใหม่แล้วไม่ใช่เหรอ อยากได้นายกรูปหล่ออย่างอภิสิทธ์จัง (อยากได้ของใหม่) .......


Posted by : เจน , Date : 2005-12-01 , Time : 16:35:41 , From IP : 172.29.3.171

ความคิดเห็นที่ : 30


   ยังมีคนโง่ตามคารมทักษิณอีกหรือเนี่ย

Posted by : นัท , Date : 2005-12-02 , Time : 14:09:30 , From IP : 172.31.3.117

ความคิดเห็นที่ : 31


    รู้เขาหลอก แต่เต็มใจให้หลอก...
ยิ้มข้างนอก ... ช้ำใน....


ปล. ไม่อยากให้เครียสน่ะ...


Posted by : คุณ นัท...ครับ. , Date : 2005-12-02 , Time : 14:33:03 , From IP : 172.29.2.242

ความคิดเห็นที่ : 32


   คุณสมพร ออกจาห้องระวังเขาติดประตูนะครับ
โลกนี้...........มันมีอะไรที่คุณไม่รู้อีกเยอะ


Posted by : ไพ่ , E-mail : (werty_max@hotmail.com) ,
Date : 2005-12-02 , Time : 21:18:56 , From IP : 202.28.62.245


ความคิดเห็นที่ : 33


   คุณไพ่ โพสอะไรเนี่ย อ่านให้หมดนะครับ
เวลาคุณออกจากห้อง เขาจะได้ไม่ติดประตู
กระทู้นี้....ยังมีอะไรที่คุณไม่อ่านอีกเยอะ


Posted by : หัวเขียว , Date : 2005-12-02 , Time : 23:38:55 , From IP : 172.29.4.220

ความคิดเห็นที่ : 34


   ขอร้องเถอะครับช่วยอ่านกระทู้ ให้ละเอียดหน่อยครับ พวกคุณ

คนไทย()

นัท()

ไพ่(werty_max@hotmail.com)

เป็นแพทย์ น่ะ การอ่านที่ละเอียด ช่วยให้คุณรักษาคนไข้ได้ถูกต้อง แต่ถ้าพวกคุณอ่านไม่ละเอียดอย่างนี้ คนในสังคมจะเดือดร้อนน่ะครับ


Posted by : สมพร , E-mail : (sompon@hotmail.com) ,
Date : 2005-12-05 , Time : 17:28:34 , From IP : 192.168.57.199


ความคิดเห็นที่ : 35


   คุณ werty เขียนอีกกระทู้ขอทราบวิธีการวาดรูปสอบสัมภาษณ์ อาจจะยังไม่ได้เป็นแพทย์ครับ



Posted by : Phoenix , Date : 2005-12-05 , Time : 20:36:41 , From IP : 58.147.55.250

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.016 seconds. <<<<<