นักท่องเที่ยวแห่ชมเทศกาลโคมไฟ สวนกระแสไฟใต้
ถือว่าพลิกความคาดหมายสำหรับ "เทศกาลโคมไฟนานาชาติ สีสันแห่งเมืองใต้" ที่จัดขึ้นที่สวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จังหวัดสงขลา ร่วมกับและบริษัท บีอีซี เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เพราะงานนี้ได้รับกระแสตอบรับอย่างดีจากประชาชนชาวสงขลามาเดินเที่ยวชมแสงสีกันอย่างหนาตา
ด้วยความคาดหวังเรียกนักท่องเที่ยวกลับคืนสู่เมือง อีกครั้ง เพื่อสยบข่าวความรุนแรงที่เริ่มมาลุกลามในย่านนี้ ซึ่งก็รวมถึงจังหวัดใกล้เคียงด้วย เหล่าเจ้าภาพจึงช่วยกันประโคมข่าวกันอย่างคึกคัก จนดึงนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียข้ามแดนมาชื่นชมแสงสีของโคมไฟกันอย่างล้มหลาม ทำเอาพื้นที่แสดงงานกว่าสองไร่เล็กไปถนัดใจ
"ได้รับกระแสตอบรับดีมาก เพราะวันแรกมีคนเข้าชมเกือบ 5 หมื่น ส่วนวันที่สอง ซึ่งเป็นวันลอยกระทงมีเกือบ 7 หมื่น ผมเชื่อว่างานนี้เป็นอะไรที่เขารอคอย แต่ก็ไม่ได้มากทุวักน พอวันหลังๆ ก็แค่หมื่นกว่าๆ เท่านั้น ส่วนใหญ่จะเยอะเฉพาะคืนวันศุกร์ แต่แค่นี้ถือว่าพอใจมากแล้ว" รักษิต รักการดี ผู้จัดการฝ่ายคอนเสิร์ตและกิจกรรมเสริมของบีอีซี กล่าว
และเนื่องจากปีนี้ครบ 30 ปี ของการจัดเทศกาลโคมไฟดังกล่าว กอปรกับครบ 30 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีน กับ ประเทศไทย ทำให้ ททท.สั่งทำชุดโคมที่สื่อถึงวัฒนธรรมและวรรณคดีไทยเป็นพิเศษ ประกอบด้วยชุดหนังตะลุง อาทิ นายเท่งและไข่นุ้ย เป็นตัวชูโรง ชุดมวยไทย และชุดสุดยอดวรรณคดีไทย คือ พระอภัยมณี โดยได้นำตัวละครเอกของวรรณคดีเรื่องนี้ ได้แก่ พระอภัยมณี นางเงือก ผีเสื้อสมุทร สินสมุทร ชีเปลือย และเด็ดสุดคือม้านิลมังกร มาเปิดตัวเป็นครั้งแรก
ทั้งนี้ ผู้จัดการคนเดิม กล่าวเพิ่มเติมว่า งบประมาณการจัดงานทั้งหมดเกิน 60 ล้านบาท เพราะมีทั้งค่าใช้จ่ายในการนำเข้า สื่อโฆษณา ทีมงาน แค่เฉพาะโคมไฟที่จำลองตัวละครในวรรณคดีพระอภัยมณี ซึ่งเป็นส่วนที่ทำขึ้นใหม่ ก็ใช้งบประมาณเกือบ 2 ล้านบาทแล้ว
"ส่วนนี้เป็นส่วนที่ช่างฝีมือไทยประกอบขึ้นเอง โดยเราเชิญช่างจีนที่ต้องเข้ามาประกอบโคมไฟชุดอื่นอยู่แล้วเป็นผู้ช่วยสอน ก็เป็นโอกาสดี ทำให้เกิดการเรียนรู้ตรงนี้ไปด้วย เพราะเราไม่เคยทำมาก่อน โดยเรานำหัวหน้าทีมช่างฝีมือไทยไปดูงานต้นแบบถึงสิงคโปร์ ใช้เวลาเพียง 2 เดือนเท่านั้น แต่ต้องทำถึง 12-13 ตัว นับว่าใช้เวลาน้อยมาก
เรียกว่าได้โคมไฟชุดพิเศษนี้เป็นแม่เหล็กอย่างดีในการเอาใจคนพื้นที่ไปในตัว ประกอบกับเทศกาลนี้ไม่ได้มีการจำหน่ายบัตรเข้าชม จึงทำให้พิธีเปิดเทศกาลวันแรกมีประชาชนแห่มาคอยเข้าชมงานเป็นจำนวนมาก ทำให้ฝ่ายผู้จัดงานวางกำลังการรักษาความปลอดภัยค่อนข้างเข้มงวด โดยทีมงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ภายในพื้นที่มีการควบคุมจำนวนผู้เข้าชม ด้วยการรับบัตรเข้าชมฟรีบริเวณหน้างาน 1 ท่านต่อบัตร 1 ใบ ซึ่งก่อนหน้านี้ตั้งเป้าไว้ 2 หมื่นใบต่อวัน แต่แค่ 2 วันแรกของการเข้าชมก็เกินเป้าที่ตั้งไว้เสียแล้ว
"เราออกบัตรเพื่อเป็นการเช็คคนเข้าเท่านั้น และบัตรก็ไม่ได้หายาก พอมีบัตรก็มาเข้าแถวเข้างานได้ ซึ่งจะทำให้ตรวจสอบได้ง่ายขึ้น คือเราเป็นคนร้องขอเรื่องการตรวจบัตรเอง ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมามีข่าวลือความไม่สงบเกิดขึ้นเยอะ นี่ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดความสบายใจทั้งสองฝ่าย ทั้งเราและหาดใหญ่"
นอกเหนือจากความตระการของแสงไฟในแต่ละโซนที่มีตำนานบอกเล่าความเป็นมาอย่างวิจิตรสวยงามแล้ว ไม่ว่าจะเป็นโซนประตูแห่งปักษา โซนซาฟารี ออเคสตรา โซนโลกของสัตว์ปีก โซนหมู่นางฟ้าแห่งราตรีกาล โซนมังกรแห่งสายน้ำ และโซนไดโนเสาร์ รวมตุ๊กตาโคมกว่า 1,200 ตัวแล้ว ภายในงานยังมีการออกร้านต่างๆ ศูนย์อาหารประจำภาค และจำหน่ายสินค้าท้องถิ่นอีกด้วย
นับว่าเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสร้างสีสัน และสร้างรายได้ให้คนในพื้นในช่วงเวลาสั้นๆ ได้เป็นอย่างดี ซึ่งงานเทศกาลจะมีไปจนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ แต่อย่างไรก็ตาม การติดตามสถานการณ์ความไม่สงบก็ยังเป็นเรื่องที่ไว้ใจไม่ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ละเลยไม่ได้สำหรับคนในพื้นที่ที่ต้องระวังกันเป็นพิเศษเช่นกัน
Posted by : Cruz , Date : 2005-11-28 , Time : 12:26:59 , From IP : 172.29.4.98
|