ปลุกระดมสุดๆอะ -_-lll ทำใจเชื่อดีมั้ยเนี่ย Posted by : OneInDaUniverse , Date : 2005-11-18 , Time : 17:00:22 , From IP : 172.29.4.194 |
ตายเสียใด้ ก็ดี บ้านเมือง จะใด้สงบสุข Posted by : กลาง , Date : 2005-11-21 , Time : 09:23:43 , From IP : 172.29.1.146 |
กราบเรียน ท่านประธาน ที่ เคารพ ดิฉัน วนิดา แซ่ก๊วย เรียน นิติศาสตร์จุฬาลงกรณ์ ภาคบัณฑิต รุ่น 3 มีความคิดเห็น เกี่ยวกับ เรื่อง ข้อขัดแย้ง ระหว่าง ท่านนายก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กับคุณ สนธิ ลิ้มทองกุล อาจมีจุดเริ่มมาจากเรื่องส่วนตัว อาจมีจุดเริ่มมาจากการขาดผลประโยชน์ส่วนตัว แต่เรื่องส่วนตัวมิอาจสร้างเป็นประเด็นร้อนในทางการเมืองขึ้นได้ จึงผูกให้เข้ากับ สถานการณ์ เพื่อให้คุณ สนธิ ลิ้มทองกุล หยิบยกขึ้นมากล่าวตั้งแต่ยังจัดรายการ "เมืองไทยรายสัปดาห์" ทางช่อง 9 จึงมิได้นำเรื่องส่วนตัวมาเพราะ ถ้าเป็น เรื่อง ตัว คุณสนธิจะไม่ได้ แรง สนับสนุน มากขนาดแต่ พยายามโยงให้สัมพันธ์อยู่กับบทบาทของรัฐบาล เรื่องต่อหลาย เรื่อง พยายาม สร้างประเด็น และ จุดสนใจ โดย ให้ เสื้อเหลือง ให้ ตรงคนไทยที่จะใส่เพื่อ วันพระ ราชสมภพ ของ พระเจ้าอยู่หัว เพื่อ ให้ เกิดการสับสน ว่า มีประชาชน มาสนับสนุนมาก และ ผูกให้ เข้ากับประเด็น ร้อนของ การโอนถ่าย ครู ซึ่งไม่เกี่ยวกันเลยสักนิด 1. โจมตี บทบาทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร 2. โจมตีอันเกี่ยวกับตำแหน่งและหน้าที่ของสมเด็จพระสังฆราช (ซึ่งเรื่อง คนที่ ใกล้ชิด หรือ ผู้พิทักษ์ของ สมเด็จพระสังฆราช ย่อม รู้ว่า กำลัง อะไร จึง เหมาะสม และ สมควรแก่ สถานการณ์ นั้นๆ ฉะนั้น คน นอกหรือประชาชน ธรรมดาไม่มีสิทธิ์ ทราบเลยว่า ควรจะอย่างไรจึงเหมาะ สม เรื่องนี้ให้เป็น ไปตาม ครรลองครองธรรมจึงจะเหมาะสมกาลเวลา) 3. โจมตีเกี่ยวกับการทำบุญประเทศไทย ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (ซึ่งเป็น ที่ประชาชน ส่วนใหญ่ไม่ทราบ ว่า ถ้าพระเจ้าอยู่หัว ไม่ทรงอนุญาต จะไปปฏิบัติ เช่นนั้น ไม่ได้ เรื่องนี้ คุณสนธิรู้ดีแต่ก็หยิบยกเพื่อให้ประชาชน ผู้ไม่รู้ ให้หลงผิด) 4. เป็นบทบาทของรัฐบาล ของพรรคไทยรักไทย ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อันเกี่ยวกับองค์กรอิสระ (ปัญหานี้ จริง ๆต้อง ให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง มา ประชุมกันเอง อีกครั้งว่า ควร ไปทางทิศทางไหนจึงจะเหมาะ กับผู้เดือดร้อนจริงๆ และถูกกับวัตถุประสงค์และความต้องการตามหลักประชาธิปไตย) 5. โจมตีรัฐบาล ของพรรคไทยรักไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อันเกี่ยวกับกรณีทุจริตคอร์รัปชั่น ( เป็นหน้าที่ ของ หลายองค์กรของรัฐที่มีหน้าที่อยู่แล้ว ในการ ตรวจสอบ มิใช่เรื่องของ คุณสนธิ เพราะมีระบุใน รัฐธรรมนูญว่า เมื่อ มี คณะรัฐบาล ก็จะมี ฝ่ายตรวจสอบคณะรัฐบาล เป็นไปตามหลักของ หลักตั้งพรรค นักการเมืองว่าใครเป็น ฝ่าย บริหาร ก็มีหน้าที่ บริหารประเทศให้ พัฒนา และ ฝ่าย ค้านมีหน้าที่ ตรวจสอบ การทำงาน ผ่านนิติบัญญัติ โดย ให้ รัฐสภา เป็น พิจารณา อยู่เป็นวาระ ๆ เรื่อง นี้ไม่น่า ก้าวก่าย หน้าที่กันอยู่แล้ว 6. เป็นบทบาทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และเครือข่ายทางธุรกิจ ( ในเรื่องธุรกิจส่วนตัวของท่านนายก ก็หน่วยงานที่ตรวจสอบ และ ถ้า ธุรกิจส่วนตัวของ ใคร ถ้าได้มาโดยสุจริต ก็เป็นสิ่ง ชอบธรรมอยู่แล้วไม่ควรก้าวล่วงมากขนาดนี้) 7. โจมตี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัว ตลอดจนญาติพี่น้อง เกี่ยวกับธุรกิจและการเคลื่อนไหวทางสังคม (เรื่องก็เป็นเรื่องสิทธิส่วนบุคคลถ้ามาก้าวก่ายกันมากขนาดนี้ คนที่ดีๆ ใครจะบริหารประเทศให้เจริญ สู้เอาแรงมาพัฒนา ธุรกิจของตัวเองไม่ดีกว่าหรือ) 8. การเปิดโปง โจมตี สถานะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยตรง ( ถ้าเปิดในสิ่งที่เป็นจริง ไม่ถือว่า ละเมิด แต่การ เปิดโปง โจมตีในเรื่องไม่เป็นจริง ถือว่า ละเมิดและเมินประมาท เป็น ทั้งอาญาและ แพ่งได้ค่ะ 9. ปลุกระดม ประชาชน ให้หลงผิด ในเรื่อง ของ พระ ราชอำนาจ ของ พระเจ้าอยู่หัว ให้คืน พระ องค์ (ไม่รู้ว่า คุณสนธิ อ่าน รัฐธรรมนูญ คนละฉบับกับที่ ร่างหรืออย่างไรหรือ ว่า ไม่เคยอ่าน กฎหมายรัฐธรรมนูญเลย ถึงได้ เรียกร้อง คือพระราชอำนาจ ของพระเจ้าอยู่หัว เพราะในสิ่งในที่ รัฐธรรมนูญตรา ไว้ในกฎหมาย รัฐธรรมนูญ มาตรา 2 ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น ประมุข และมาตรา 3 อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย พระมหา กษัตริย์ผู้ ทรง เป็นประมุขทรงใช้อำนาจนั้นทางรัฐสภา คณะรัฐมนตรี และศาล ตามบทบัญญัติ แห่งรัฐธรรมนูญนี้ ดังนั้น ไม่จำเป็น ต้อง เรียกร้อง ให้คืนพระราชอำนาจของ พระองค์ ซึ่ง พระเจ้าอยู่หัวมีอยู่ เพราะเป็น สิทธิของ พระองค์ ที่จะทรง พระราชอำนาจ เมื่อไรก็ได้และ แถมยังสวมเสื้อเหลือง "เราสู้เพื่อในหลวง" ทำให้ประชาชนหลงผิดไปด้วย) จากนี้จึงทำให้บทบาทและการเคลื่อนไหวของ นายสนธิ ลิ้มทองกุล โดยเฉพาะนับแต่เริ่มรายการ "เมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร" เมื่อเดือนกันยายน 2548 เป็นต้นมาค่อยๆ ก่อรูปขึ้นเป็นสิ่งที่เรียกว่า "ปรากฏการณ์ สนธิ ลิ้มทองกุล"ค่อยๆ ก่อรูปขึ้นเป็นเหมือนกับศูนย์กลางแห่งการวิพากษ์ เปิดโปง โจมตี ต่อรัฐบาลและต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อย่างตรงไปตรงมาด้าน 1 จึงไม่เพียงแต่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล จะได้รับการแวดล้อมจากพันธมิตรเดิมขณะเดียวกันด้าน 1 การเคลื่อนไหวของ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ได้กลายเป็นศูนย์รวมของกลุ่ม องค์กร พรรค ที่ไม่ชอบและถึงกระทั่งเกลียด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ขึ้นมาโดยพื้นฐานและก็เติบใหญ่ขยายตัวเป็นลำดับไม่เพียงแต่เมื่อเช้าวันที่ 18 พฤศจิกายน 2548 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะเดินทางไปให้กำลังใจ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ถึงสำนึกงานที่ท่าพระอาทิตย์ หากในตอนเย็น พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ยังสวมเสื้อเหลือง "เราสู้เพื่อในหลวง" เข้าร่วมรับฟังและโอบกอดร่าง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ที่อยู่ในชุดเหลืองเช่นเดียวกันอย่างอบอุ่นทั้งนี้ แทบไม่ต้องกล่าวถึงการปรากฏขึ้นแห่งเงาร่างของ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ และ นายเอกยุทธ อัญชันบุตร อย่างค่อนข้างเป็นประจำอยู่แล้วนี่คือพัฒนาการจาก "ปรากฏการณ์ สนธิ ลิ้มทองกุล" เป็น "ขบวนการสนธิ ลิ้มทองกุล" "ขบวนการ สนธิ ลิ้มทองกุล" มีเป้าหมายร่วมกันอยู่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นเป้าหมายที่ต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พ้นไปจากสายตา เป็นเป้าหมายที่พัฒนามาจากที่เคยประกาศ "น็อคเอ๊าต์ ทักษิณ" เมื่อเดือนตุลาคม 2547 วิเคราะห์ สถานการณ์ ขัดแย้ง ระหว่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กับ คุณ สนธิ Strength(จุดแข็ง) รัฐบาลมี นโยบายดี และ พัฒนาตรงกับความต้องการของ ประชาชน ส่วนใหญ่ ประชาชน ส่วนใหญ่ มีความรู้จึง หลอกยาก รัฐบาล มี ประสิทธิภาพ ในการทำงานด้านบริหารประเทศ เหมือนมืออาชีพ Weakness(จุดอ่อน) รัฐบาลทำอะไร แต่ขาดการประชาสัมพันธ์ที่ดี กับประชาชน รัฐบาลไม่ได้ทำงานเชิงรุก พอเกิดปัญหาก็มาแก้ไขสถานการณ์ ทำให้ ประชาชนคิดว่า แก้ตัว มีปัญหา ใน เรื่อง ของ ข้าราชการครู มาเป็น เงื่อนปม มาแทรกซ้อน Opportunities(โอกาส) ต้องทำงาน เชิงรุก และ รู้เขารู้เราและต้องมีประชาสัมพันธ์ ที่ดี คนที่จะเป็นผู้นำที่ดีได้ ต้องบูรณาการ ทางด้าน อารมณ์ และ ระบบ ควบคุมสติ จะแก้ปัญหาได้ แก้ปัญหา ด้วยการป้องกัน ปัญหา อย่าปล่อยปัญหา เพราะคิดว่า เรื่องเล็กแก้ได้ไม่ยาก จงสร้างสมาธิและปัญญา ในการ แก้สถานการณ์ อย่า ใช้อารมณ์แก้ไข Threat(อุปสรรค,ข้อจำกัด) ประชาชน ส่วนหนึ่ง คิดว่า เรื่องที่ คุณ สนธิพูดนั้นเป็นเรื่อง จริง ขาด ข้อมูลความจริง มาหักล้าง คุณ สนธิ เข้าถึง ประชาชน และเข้าใจ ดึง หัวใจของประชาชน ว่า ประชาชนรักใครที่สุด และ ดึงประเด็นนั้น มาเพื่อ จุดประกาย ปัญหา ให้ ลุกไหม้ เพื่อ ผลประโยชน์ของตัวเอง ได้ บรรลุถึงวัตถุประสงค์ แนวทางการแก้ปัญหา นำไปสู่ความ สำเร็จ 1. ต้อง มีฝ่ายประชาสัมพันธ์ ที่ คอยนำ เสนอ สู่ สาธารณะชน โดยผ่านทุกสื่อ ว่าตอนนี้ รัฐบาล กำลังอะไร เพื่อประชาชน 2. ต้องทำงาน เชิงรุก และ รู้เขารู้เราและต้องมีประชาสัมพันธ์ ที่ดี 3. คนที่จะเป็นผู้นำที่ดีได้ ต้องบูรณาการ ทางด้าน อารมณ์ และ ระบบ ควบคุมสติ จะแก้ปัญหาได้ สมาธิดี ปัญญาเกิด 4. แก้ปัญหา ด้วยการป้องกัน ปัญหา อย่าปล่อยปัญหา เพราะคิดว่า เรื่องเล็กแก้ได้ไม่ยาก 5. จงสร้างสมาธิให้เกิดปัญญา ในการ แก้สถานการณ์ อย่า ใช้อารมณ์แก้ไข 6. ต้องมีฝ่าย แก้ไขแก้ สถานการณ์ ที่ รวดเร็วทัน เหตุการณ์ กว่าถั่วจะสุก งาก็ไหม้ สรุปข้อคิดเห็นของ วนิดา การที่มีข้อขัดแย้งปัญหาสถานการณ์ปัจจุบันไม่สามารถฟันธงว่าใครผิด เป็น กัน ระหว่างคุณ สนธิ ลิ้มทองกุล กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นเรื่องของน้ำผึงหยดเดียว ไม่น่าเอาพระเจ้าอยู่หัว , ประเทศชาติ,หรือประชาชน ร่วมหัวจมหางด้วยเลย หากคิดกันให้ ละเอียดซักนิดน่าจะเป็น เรื่อง ขี้แพ้ชวนตี หรือ อีกนัยหนึ่ง เปรียบเสมือนเด็กที่ทะเลาะกันและ ฝ่ายแพ้ก็จะหา กลอุบายต่างๆ เพื่อ ตอบสนอง ความต้องการของตน ชนิด ที่เรียกว่า ชนะเท่านั้น ถึงยอมเลิกรา ทำทุกวิถีทาง แม้กระทั่ง หลอกประชาชน ก็ยอม แบบนี้น่ากลัว นะค่ะ อย่าทำเลยค่ะ ปัจจุบันนี้ ประชาชน มีความรู้กัน ทั่วประเทศแล้ว การกระทำของคุณสนธิเหมือน ดูถูกประชาชน คิดว่า คนไทย จูงจมูก ง่ายๆ สังคมจะดี ได้ต้องอาศัย ประชาชน ทุกคนช่วยกัน พิจารณาว่า ข่าวไหนควรเชื่อ หรือข่าวไหนต้อง แก้ไข อย่า อยู่เป็นเครื่องมือ ของ ผู้ไม่หวังดีต่อประเทศชาติ หรือเอาประเทศชาติเป็น เครื่องมือ ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน Posted by : วนิดา แซ่ก๊วย , E-mail : (wanida_buucu1@hotmail.com) , Date : 2006-01-01 , Time : 14:50:43 , From IP : gb.jb.81.133.revip.a |
ความเห็นจาก Social Network : Facebook |
|
>>>>> Page loaded: 0.003 seconds. <<<<< |