ความคิดเห็นทั้งหมด : 58

ท่านคิออย่างไรกับ KFC ในดรงพยาบาลสงขลานครินทร์


   .

Posted by : อยากรู้ , E-mail : (dodo@yaahoo.com) ,
Date : 2005-11-10 , Time : 12:22:27 , From IP : 172.29.3.159


ความคิดเห็นที่ : 1


   ที่กำลังทำอยู่หรือเปล่าทราบมาว่าเป็นร้านอะไร โดนัสนะไม่แน่ใจแต่ไม่ใช่ KFC

Posted by : เท่าที่ทราบ , Date : 2005-11-10 , Time : 12:42:57 , From IP : 172.29.2.229

ความคิดเห็นที่ : 2


   เป็นโดนัทค่ะ

Posted by : เท่าที่รู้ , Date : 2005-11-10 , Time : 12:47:27 , From IP : 172.29.3.137

ความคิดเห็นที่ : 3


   ก็ลองเข้ามาก่อนครับ ได้ชิมแล้วจะรู้ว่าอยู่ได้หรือไม่ได้ต่อไป เพราะที่ผ่านมาก็อยู่ไม่ค่อยได้นาน จริงไหม ?


Posted by : เด็กแนว , Date : 2005-11-10 , Time : 13:08:36 , From IP : 172.29.1.149

ความคิดเห็นที่ : 4


   คณะมีแนวคิด จัดให้มีการจำหน่ายอาหารประเภทสุขภาพอย่างไรบ้างค่ะ

Posted by : คนไทย , Date : 2005-11-10 , Time : 13:48:54 , From IP : 172.29.3.205

ความคิดเห็นที่ : 5


   ทำไมต้องเดินตามหลังอเมริกา

Posted by : ยูริ , Date : 2005-11-10 , Time : 16:29:01 , From IP : 172.29.7.180

ความคิดเห็นที่ : 6


   ไม่น่าให้ขายอาหารอย่างนี้ในโรงพยาบาลนะครับ ไม่ดีต่อสุขภาพเลย

Posted by : เฟริน เดอร์เบอร์โรว , Date : 2005-11-10 , Time : 16:47:56 , From IP : 172.29.4.253

ความคิดเห็นที่ : 7


   เห็นบอกว่ามีทั้ง KFC และ โดนัท ครับ ที่กำลังสร้างอยุ่ป็น โดนัท แล้ว KFC นั้นอยู่ที่จอดรถแถวนั้น

Posted by : moon-monkey , Date : 2005-11-10 , Time : 17:07:37 , From IP : 172.29.1.101

ความคิดเห็นที่ : 8


   - จุดยืนของโรงพยาบาลต่อพฤติกรรมสุขภาพของเจ้าหน้าที่ รพ ญาติ ผู้ป่วย คืออะไรครับ เรากำลังเดินไปสู่แนวทาง รพ ส่งเสริมสุขภาพมิใช่หรือ เหมาะสมแล้วหรือครับ ที่เราจะเปิดร้าน junk food แบบนี้ใน รพ.
- การยินยอมให้เปิด มันชี้ชัดอยู่แล้ว ว่านโยบาล รพ มันห่วย เห็นแก่เงิน ค่าเช่าที่มากกว่าหลักการที่ควรยึดถือ
- ผมจะ advice คนไข้ advice เด็กๆ ยังไงว่าอย่ากิน อาหารพวกนี้นะ ไขมันสูง กากน้อย ส่งเสริมให้เกิดไขมันสูง ทำให้อ้วน ในเมื่อ รพ นี้มันเปิดร้านแบบนี้ล่ออยู่ OPD นี้เอง
- แทนที่จะเปิดร้านแบบนี้ร้านเดียว แบ่งได้สาม สี่ร้าน เปิดร้านอาหารสุขภาพดีมั้ยครับ อาหารพื้นเมืองส่งเสริมอาชีพในท้องถิ่นดีมั้ยครับ เปิดประมูลอย่างโปร่งใสดีมั้ยครับ เอาร้านขนมจีน ร้านข้าวแกงราคาถูก มาลงดีมั้ยครับ ถามว่าตอนนี้เรามีร้านขายตามสั่งกี่ร้านกันครับ พอมั้ย หรือถ้าไม่มีร้าน พื้นที่ตรงนั้นเอาโต๊ะ เก้าอี้มาวางมันจะดีกว่ามั้ยครับ ตอนนี้ที่มันกว้างขวางพอแล้วหรือ
ตอนเที่ยงๆนี่ นักเรียน มอ วิทยานุสรณ์ ก็มากินที่เราด้วย ต่อไปเขาก็จะมีเด็กเพิ่มมาอีก เปิดร้านแบบนี้ท่านก็รู้เด็กๆพวกนี้เขาก็ต้องมากกิน แทนที่จะกินข้าว กินกับ ได้สารอาหารครบห้าหมู มากินแต่เนื้อกับแป้ง

ผมว่าทบทวนเถอะครับ


Posted by : หมอ รพ.เดียวกัน , Date : 2005-11-11 , Time : 00:32:58 , From IP : 172.29.7.208

ความคิดเห็นที่ : 9


   ก็ต้องอย่ารับประทานครับ

Posted by : เด็กจุดจุด , Date : 2005-11-11 , Time : 00:39:18 , From IP : 172.29.4.42

ความคิดเห็นที่ : 10


   เห็นสมควรให้คณะทบทวนให้ดีอีกครั้งครับ ไมสนับสนุนด้วยอย่างยิ่งครับ

Posted by : ผ่านมา , Date : 2005-11-11 , Time : 01:14:12 , From IP : 172.29.4.71

ความคิดเห็นที่ : 11


   เห็นด้วย ในรพ.ไม่ควรมีอาหารที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ ควรสะอาดและราคาไม่นักเพราะค่าครองชีพเริ่มสูงอีกแล้ว


Posted by : ok , Date : 2005-11-11 , Time : 01:52:11 , From IP : 172.29.7.198

ความคิดเห็นที่ : 12


   คงคิดได้แต่ว่าอยากได้ค่าเช่าร้านมั่ง ไม่คิดถึงผลดีผลเสียด้านอื่น ต่อ บุคคล ต่อโรงพยาบาล ต่อภาพลักษณ์ขององค์กร เบื่อมาก

Posted by : .. , Date : 2005-11-11 , Time : 08:01:44 , From IP : 172.29.2.123

ความคิดเห็นที่ : 13


   Health Promotion: Process that enabling people to control over and to improve their health according to their context.
Ottawa Charter

3 methods (recommended by World Health Organization)
1. Enabling ทำให้กระบวนการสร้างเสริมสุขภาพวิธีต่างๆนั้น "สามารถทำได้"
2. Advocating ทำให้การมีสุขภาพที่ดี คุณภาพชีวิตที่ดี นั้นเป็นสิ่งที่ "ต้องทำ ควรทำ หรือ น่าทำ"
3. Mediating ทำให้กระบวนการสร้างเสริมสุขภาพนั้นไม่มี conflict of interest กับวิธีการทำงาน ดำเนินชีวิต หรือวัตถุประสงค์ ทำให้ "ทำได้ไม่ยาก" โดยการประสานผลประโยชน์ของประชาชนทุกฝ่าย ประสาน expertise ของทุกฝ่าย

ก็น่าสนใจว่าถ้าสถาบันจะประกาศวิสัยทัศน์พันธกิจว่าจะเป็น health promoting hospital หรือ health promoting organization/medical school นั้น สถาบันนั้นๆควรจะมีอะไร หรือทำอะไรบ้าง ภาระการชี้นำสังคมจะตกอยู่ในการแสดงออกอย่างไรจึงจะมีประสิทธิภาพ หรือไม่เป็นการเพิ่มอุปสรรค

หรือเป็นการทำให้วิสัยทัศน์ข้อนี้ "ท้าทาย" ยิ่งขึ้น



Posted by : Phoenix , Date : 2005-11-11 , Time : 08:07:25 , From IP : 172.29.3.211

ความคิดเห็นที่ : 14


   น่าจะมีการรับสมัครผู้เป็นคณะกรรมการห้องอาหารใหม่นะ ซึ่งน่าจะได้คนที่มีแนวคิดที่ดีกว่าที่เป็นอยู่มาบริหารห้องอาหารแทน

ปัญหาเดิมๆ หรือที่ดูเหมือนจะรุนแรงขึ้น อาจจะคลี่คลายลงได้

คงต้องเปลี่ยนคณะกรรมการฯ จึงจะสามารถแก้ไขปัญหาได้ เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก มันอยู่ที่วิสัยทัศน์ของกรรมการที่ดูแลห้องอาหารมากกว่า


Posted by : ปัญหาห้องอาหารอีกแล้ว , Date : 2005-11-11 , Time : 09:34:22 , From IP : 172.29.1.251

ความคิดเห็นที่ : 15


   คณบดีอยู่ไหนกรุณาผ่านมาดูบ้าง เอาพื้นที่ค้าขายจนไม่มีทางเดินแล้ว.KFCแน่มาก

Posted by : + , E-mail : (-) ,
Date : 2005-11-11 , Time : 12:14:12 , From IP : 172.29.3.197


ความคิดเห็นที่ : 16


   เห็นใจท่านผู้บริหารครับ คนนั้นบอกว่าดี คนนี้บอกว่าไม่ได้ เป็นกำลังใจให้ครับ

Posted by : เด็กแนว , Date : 2005-11-11 , Time : 12:42:07 , From IP : 172.29.7.214

ความคิดเห็นที่ : 17


    อาหารแบบเร่งด่วน เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คนเราเจ็บไข้ได้ป่วยแน่นอน

นักโภชนาการคงไม่แนะนำให้บริโภค

โต๊ะนั่งกินข้าวก็มีไม่เพียงพอ น่าจะแก้ตรงนี้ให้ได้ก่อนนะครับ


Posted by : ไม่สมควร , Date : 2005-11-11 , Time : 20:38:49 , From IP : 172.29.7.190

ความคิดเห็นที่ : 18


   ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ
จริงอยู่ที่การรับประทานอาหารนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละคนว่าจะเลือกอะไร
แต่ถ้ามีการเอื้ออำนวยอย่างนี้ ก็ถือว่าเป็นการสนับสนุนทางอ้อมอย่างหนึ่ง
แล้วที่เราแนะนำไม่ให้ผู้ป่วยกินอาหารประเภทนี้ แต่ทางโรงพยาบาลเห็นด้วยกับการให้ตั้งร้านอาหารประเภทนี้ขึ้นเอง ดูเหมือนจะขัดแย้งกันนะคะ


ป.ล. ที่ Lotus ก็มีแล้วนะคะ ถ้าอยากกินจริงๆก็เดินไป Lotus ก็ได้ (อย่างน้อยก็ช่วยเผาผลาญพลังงานได้ส่วนหนึ่ง)


Posted by : นศพ. , Date : 2005-11-12 , Time : 14:18:31 , From IP : 172.29.4.94

ความคิดเห็นที่ : 19


   เบื่อจริงๆๆๆๆพวกที่ดีแต่ปาก ใครอยากกินก็ซื้อกิน ถึงมันไม่ดีต่อสุขภาพ แต่ไม่ได้กินทุกวัน สะดวกดีไม่ต้องไปไกล ผมยอมรับนะครับว่าเป็นอาหารไม่มีประโยชน์

Posted by : ............................. , Date : 2005-11-12 , Time : 15:05:26 , From IP : 172.29.4.99

ความคิดเห็นที่ : 20


   เลือกกินเอาครับ

Posted by : เด็กแนว , Date : 2005-11-13 , Time : 10:27:34 , From IP : 172.29.1.165

ความคิดเห็นที่ : 21


   คงมีคำถามให้แก่ผู้บริหารว่า อาหารประเภทไก่ทอด french fries soda เป็นอาหารที่เหมาะกับสังคมปัจจุบันหรือไม่ เหมาะกับผู้ป่วย เหมาะกับเยาวชน หรือไม่ และต้องมาพิจารณาว่า ในฐานะ "ผู้ชี้นำสังคม" ควรหรือไม่ควรว่าจะยอมรับอาหารประเภทนี้เข้ามาให้บริการในโรงพยาบาล หรือว่า "ปากว่า ตาขยิบ"

Posted by : รัตนา , Date : 2005-11-13 , Time : 18:26:22 , From IP : 172.29.7.32

ความคิดเห็นที่ : 22


   โรงพยาบาลเรากำลังเข้าสู่การเป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ จริงหรือ ทำไมเอาอาหาร fast food มาลงละ มันดีต่อสุขภาพหรือมันดีต่อการลงทุนคะ

Posted by : oea , E-mail : (oea@hotmail .com) ,
Date : 2005-11-13 , Time : 18:46:08 , From IP : 172.29.3.173


ความคิดเห็นที่ : 23


   โรงพยาบาลเรากำลังเข้าสู่การเป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ จริงหรือ ทำไมเอาอาหาร fast food มาลงละ มันดีต่อสุขภาพหรือมันดีต่อการลงทุนคะ

Posted by : oea , E-mail : (oea@hotmail .com) ,
Date : 2005-11-13 , Time : 18:46:20 , From IP : 172.29.3.173


ความคิดเห็นที่ : 24


   โรงพยาบาลเรากำลังเข้าสู่การเป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ จริงหรือ ทำไมเอาอาหาร fast food มาลงละ มันดีต่อสุขภาพหรือมันดีต่อการลงทุนคะ

Posted by : oea , E-mail : (oea@hotmail .com) ,
Date : 2005-11-13 , Time : 18:46:41 , From IP : 172.29.3.173


ความคิดเห็นที่ : 25


   กรณีนี้ถือว่าเป็น "Conflict of interest" มั้ยคะ....อยากรู้

Posted by : Lucifer , Date : 2005-11-13 , Time : 20:28:48 , From IP : 172.29.4.247

ความคิดเห็นที่ : 26


   พอดีมี term ที่น่าสนใจขึ้นมา ขออนุญาต butt in

Conflict of Interest
The situation that the secondary principle/motivation (seems) taken precedence over the primary principle/motivation

"สถานการณ์ที่เหตุจูงใจรอง หรือหลักการที่สำคัญน้อยกว่า ถูกพิจารณา (หรือเสมือนว่า) และนำมาใช้ก่อนหลักการที่สำคัญที่สุดของสถานภาพหน้าที่"

ก็ต้องมีการให้คำจำกัดความก่อนว่า "สถาพภาพหน้าที่" ของคนๆนั้นที่เรากำลังพูดถึงคืออะไร และอะไรเป็น primary objective หรือ primary principle เช่น นักวิจัยก็จะมี "ความรู้" เป็นหลักสูงสุด ประโยชน์มีหรือไม่มีเป็นสาเหตุรอง นักวิจัยก็อาจจะทุ่มเทศึกษาอะไรบางอย่างที่คนอื่นๆอาจจะมองไม่เห็นประโยชน์เลยก็ได้ เช่น นักทฤษฎีคณิตศาสตร์บางท่านอาจจะทุ่มเทเวลา 40-50 ปี เพื่อ solve สมการของ isaac newton ที่ค้างไว้ และก็ไม่ได้คิดจะนำไปใช้อะไร ส่วนของแพทย์นั้น น่าจะเป็น ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์ เป็น primary objective หรือ primary principle เท่าที่มีการอภิปรายกันมากมาย

ทีนี้ลอง "สร้างสถานการณ์" conflict of interest ดู ของนักวิจัยก็เช่น ถ้ามีสองทฤษฎีให้เลือกทำ อันหนึ่งน่าสนใจมากเพราะเป็นความรู้ระดับสูงของสาขาวิชานั้นๆ ที่มีคนศึกษานับหลายชั่วอายุคน อันหนึ่งเป็นสมการที่ simple รอผู้ชำนาญมาขัดเกลาสักนิดก็อาจจะแก้ได้ นักวิจัยที่ glory คือการ solve puzzle ที่ลึกซึ้ง "ควร" จะแก้อันแรก แต่กลับเลือกอันที่สองเพราะ "มีคนจ้าง" ให้ทำ เงินที่จ้างก็กลายเป็น secondary motivation แต่ถูกนำมาใช้ว่าสำคัญกว่า knowledge ที่ profound ลึกซึ้งกว่า

หรือแพทย์เลือกวิธีรักษาพยาบาลซึ่งอาจจะมีหลากหลายวิธี ได้ผลคล้ายๆกัน ไม่ต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ แต่การรักษาแบบหนึ่งหมอจะได้ kick back จากบริษัทยา จากบริษัทเครื่องมือแพทย์มากกว่า ทำให้ตัดสินใจเลือกใช้วิธีนี้มากกว่าทั้งๆที่ผลลัพธ์นั้น comparable ไม่ได้แตกต่างกัน ทำให้ผป.ต้องเสียเงินมากขึ้นเพื่อตัวหมอเอง อันนี้ก็เป็น conflict of interest

สองตัวอย่างนั้นค่อนข้าง "จ๋า" หรือ "ชัดเจน" แต่ใน scenario จริงส่วนใหญ่จะเป็นแค่ seemingly หรือ "น่าสงสัย" เท่านั้น ไม่ได้โจ๋งครึ่มขัดแย้งชัดเจน เช่น การนำเสนอผลงานวิชาการ สิ่งประดิษฐ์ ที่มี sponsor โดยบริษัทเอกชน งานประชุมวิชาการที่มีการ promotion ยาบางตัวโดยเฉพาะ

ย้อนกลับมาที่ original questionของคุณ Lucifer ก็แนะนำ (เอาดื้อๆ) ว่าลองวิเคราะห์ดูเอาเองก็แล้วกันครับว่า "สถานภาพ" ของ รพ.ใน "ประเด็นนี้ อะไรเป็น primary objective/motivation/principle และการ "ตัดสินใจ" นั้นมี compatability มากน้อยแค่ไหนกับ primary principle ก็น่าจะได้คำตอบ



Posted by : Phoenix , Date : 2005-11-13 , Time : 23:51:00 , From IP : 172.29.7.28

ความคิดเห็นที่ : 27


   คืองี้...................we are what we eat เพื่อ natural selectionไง

Posted by : i will go pataya , Date : 2005-11-13 , Time : 23:58:08 , From IP : 172.29.4.192

ความคิดเห็นที่ : 28


   How s that? precisely



Posted by : Phoenix , Date : 2005-11-14 , Time : 00:03:58 , From IP : 172.29.7.28

ความคิดเห็นที่ : 29


   กินโดนัทก็เป็นน้องโดนัท อิๆ กินไก่เป็นไก่พรรณนิพา(กุหลาบแดงเก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าดอก) กินปูปลาร้าก็เป็นซาวอีซ้าน อย่าเครียดคับๆ กินเพื่อความสุข สนุกเพื่อวันนี้เผื่อพรุ่งนี้......ไม่มีโดนัท ขำๆนะคร้าบบบบ

Posted by : i will go pataya , Date : 2005-11-14 , Time : 20:35:38 , From IP : 172.29.4.142

ความคิดเห็นที่ : 30


   อยากกินข้าวยำ ชาวบ้านทำ แบบขำขำ กินแล้วคงจ้ำม่ำ น่าขำขำ ดูเขาทำ ข้าวยำน่ากิน กระจายเงินสู่รากหญ้า รักษา และพัฒนาวิถีไทย

Posted by : mumoo , Date : 2005-11-14 , Time : 20:45:16 , From IP : 172.29.4.135

ความคิดเห็นที่ : 31


    สร้างจนทางเดินแคบไปถนัดตา ปล่อยไว้โล่งๆ ให้อากาศถ่ายเทก็ดีอยู่แล้วนะครับ
ยาลดความดัน ต้องขายดีแน่นอนเลย


Posted by : เพิ่มเติม , Date : 2005-11-14 , Time : 23:20:33 , From IP : 172.29.7.145

ความคิดเห็นที่ : 32


   ไม่เห็นน่าจะเป็นปัญหาเลยนะครับ เพราะเดี่ยวนี้สื่อก็มีมากขึ้น ประชาชนเค้ารู้ดีแหละ ว่าอาหารอะไรดีอะไรไม่ดี อยู่ที่ตัวเองมากกว่า....ชอบตีตนไปก่อนไข้

Posted by : เบื่อ...มนุษย์เจ้าปัญหา , Date : 2005-11-15 , Time : 08:32:38 , From IP : 172.29.7.227

ความคิดเห็นที่ : 33


   ผมสงสัยว่าประเด็นไม่ได้อยู่ที่ "คนอื่นหรือสื่อ" ได้ทำอะไรไปบ้างสำหรับสังคมในเรื่องนี้ ผมคิดว่าหลายๆคนกำลังอภิปรายว่า แล้ว "เรา" (รพ.สงขลานครินทร์) จะ (หรือควร) ทำอะไรได้บ้างในการสร้างเสริมสุขภาพ ทำอะไรได้บ้างให้แก่สังคม? ประชาชนทีทราบและเข้าใจ health promotion คืออะไรนั้น เราก็คงจะวางใจแหละครับ ทีนี้จะมีบางคนหลงเหลืออยู่ไม่ที่เข้าใจว่า health promotion ที่ "สังคม" มีนั้น มันหมายถึงรวมทั้งช่วยเหลือคนที่ยัง "ไม่รู้" ด้วย




Posted by : Phoenix , Date : 2005-11-15 , Time : 08:45:28 , From IP : 172.29.3.218

ความคิดเห็นที่ : 34


   อยากกินเคเอฟซีอยู่บ่อยแต่ขี้เกียจไปโลตัส มาเปิดใกล้ๆก็ดีแต่ของราคาถูกหน่อยนะฮะ

Posted by : KFC lover , Date : 2005-11-15 , Time : 15:30:49 , From IP : 172.29.4.179

ความคิดเห็นที่ : 35


   สงสัยต่อค่ะว่า ถ้า... สมมตินะคะสมมติ.... ถ้าเปลี่ยนจากร้าน KFC เป็น Starbuck, Black canyon หรือ บ้านใร่กาแฟ สถานการณ์จะเปลี่ยนจาก conflict of interest เป็น win-win situation มั้ยคะ



Posted by : Lucifer , Date : 2005-11-15 , Time : 21:22:27 , From IP : 172.29.4.122

ความคิดเห็นที่ : 36


   ไม่แน่นอนครับ รพ.รัฐบาล สร้างด้วยภาษีประชาชน ภาระหน้าที่หลักคือการให้บริการสุขภาพแก่ประชาชน นอกจากนี้เรายังเป็น รร แพทย์ สร้างแบบอย่างที่ดี แต่นักศึกษา ที่จะจบเป็นหมอไปพัฒนาชุมชน คนไข้เราส่วนใหญ่ก็เป็นคนจน อยู่หวอดสามัญ ถามว่า KFC, Starbuck, Black canyon บ้านไร่กาแฟ เป็นอาหารหลักที่ชาวบ้านเขากินกันหรือไม่

และเราควรส่งเสริมหรือไม่
ถ้า.... มอ เป็น รพ เอกชน กรุงเทพหาดใหญ่ ราชยินดี จะเปิด starbuck หรือโรงหนังฉาย starwar ก็ไม่มีใครว่า แต่นี่ รพ สร้างด้วยภาษีประชาชนนะครับ เงินรายได้จากสำนักงานฉลากกินแบ่ง งบประมาณควรนำมาซึ่งผลประโยชน์สูงสุดของประชาชน ไม่ใช่มาเอื้อประโยชน์ในร้านเอกชน โดยเฉพาะร้าน junk food แบบนี้ ควรทำอะไรที่ทำเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่ การแบ่งร้านเป็นร้านย่อยๆ ทำให้คนอื่นมีรายได้ตั้งหลายคน แทนที่จะเอาเงินไปเข้ากระเป๋า starbuck

เราแบ่งพื้นที่ไว้ให้คนจนบ้างดีมั้ยครับ


Posted by : รวยนักรึไงกัน , Date : 2005-11-15 , Time : 22:19:13 , From IP : 172.29.7.212

ความคิดเห็นที่ : 37


   เคยดูโฆษณา Black label มั้ย
ผมจะทำเพื่อคนอื่นบ้างนะ..... (แต่อย่ากินเหล้ามันเลย แพง)

.
.
.
.
อีกคำถาม
ไอ้ที่เรียนมาใน commed
Health promotion ที่เรียนตอนปี 4 นะครับ
เรียนไปทำเชี่ยอะไร (ขอโทษที่ไม่สุภาพ แต่เพื่อให้สื่ออารมณ์ให้เห็น)

สอนมาทำไม

ถ้าเปิด KFC ใน รพ. นี้ ขอยุบ block health promotion ด้วยนะครับ ขอร้อง


Posted by : เรือที่ไม่มีหางเสือ ไม่ถึงฝั่ง , Date : 2005-11-15 , Time : 22:25:11 , From IP : 172.29.7.212

ความคิดเห็นที่ : 38


   แต่เริ่มเดิมที ที่ตรงนั้นเป็นที่ว่างค่ะ เป็นที่ๆคนเดินผ่านไปผ่านมา ไม่ได้ใช้ทำประโยชน์อะไร เรื่องมันเริ่มที่ว่า ...มีคนคิดที่จะหาประโยชน์จากที่ว่างๆ ตรงนั้น...

ประโยชน์เพื่อใคร...ตอนนี้เข้าใจว่า...เพื่อองค์กร...คือ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์
ประโยชน์อย่างไร...ก็คือ...รายได้

"รพ.รัฐบาล สร้างด้วยภาษีประชาชน ภาระหน้าที่หลักคือการให้บริการสุขภาพแก่ประชาชน"
ก็ไม่โต้แย้งแต่อย่างใดค่ะ แต่มีคำถามใหม่ว่าตอนนี้รัฐบาลจัดการกับภาษีของประชาชนอย่างไร เอาไปทำอะไรบ้าง คืนกลับมารับใช้ประชาชนเท่าไร ที่...ต้อง!!...ตอบให้ได้คือ นโยบายสาธารณสุขตอนนี้มันจะสนับสนุนความอยู่รอดของโรงพยาบาลรัฐโดยรัฐได้หรือไม่ เท่าที่ประสบการณ์น้อยนิดพึงจะได้ยิน สรุปเรื่องราวได้ว่า ผู้บริหารโรงพยาบาลของรัฐหลายแห่งเคยหรือกำลังหืดขึ้นคอกับรายรับที่ไม่เพียงพอต่อรายจ่าย เคยได้ยินบ้างมั้ยคะว่า ตอนนี้รัฐบาลเป็นหนี้โรงพยาบาลสงขลานครินทร์เท่าไร มีแนวโน้มจะได้คืนหรือไม่ หรือต้องทำใจแทงเป็นหนี้สูญ เป็นหนี้เงินจมที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เพราะถ้ารัฐจะจ่ายคืน เดาว่า จะไม่คิดดอกเบี้ยทบคืนมาแน่ๆ)

"คนไข้เราส่วนใหญ่ก็เป็นคนจน อยู่หวอดสามัญ "
คนส่วนใหญ่ในประเทศนี้ก็เป็นคนจนค่ะ คนที่จะพึ่งพาโรงพยาบาลของรัฐ ส่วนใหญ่ก็เป็นคนจนเช่นกัน หรือไม่ก็เป็นคนที่ไม่จนแต่หมดเงินไปกับโรงพยาบาลเอกชนจนในที่สุดก็เป็นคนจน ต้องมานอนในward สามัญในโรงพยาบาลของรัฐต่อเพราะไม่มีเงิน แล้วโรงพยาบาลจะขูดเลือดกับปูเหล่านี้ได้สักเท่าไรคะ
ถ้าโรงพยาบาลรัฐอยู่ไม่ได้เพราะรัฐไม่ค่อยจะอุปถัมภ์แถมค้ำจุนตัวเองไม่ค่อยจะได้อีก คนที่จะซวยก็คงจะเป็นคนจนที่คุณพูดถึงนั่นแหละค่ะ

win-win situation ที่กล่าวไว้ หมายถึง โรงพยาบาลจะมีรายได้ โดยไม่ขัดกับวิสัยทัศน์พันธกิจว่าจะเป็น health promoting hospital หรือ health promoting organization/medical school

ทำไมไม่ควรเป็น KFC
เพราะอาหารในร้านนี้มันเป็นขยะ มันไม่ Healthy ที่จะกินเข้าไป แต่ก็จะมีคนกิน ทำให้วิสัยทัศน์พันธกิจ ในการ Promote สภาวะ control over ดูเป็นเรื่องปากว่า ตาขยิบไป

ถ้าเป็น KFC แล้วดีอย่างไร
ดีที่ franchise ชนิดนี้น่ารีด...เงิน...มากกว่าเลือดปู...แน่ๆ ถ้าองค์กรสามารถ promote จิตสำนึกประเภท control over ได้ตามพันธกิจ หรือ พันธะ หน้าที่ ที่ยังไงก็จะทำให้สำเร็จอยู่แล้ว ผลก็คือ คนที่นี่ไม่กินขยะ แต่ KFC ยังต้อง !!! ..จ่าย.. เท่าเดิม ใครจะสน ถ้า KFC จะเจ๊ง อย่างมากก็แค่รื้อครัว เปิดพื้นที่ประมูลใหม่

แต่ไม่จำเป็นต้อง...KFC
ที่เสนอ Starbuck, Black canyon, บ้านไร่กาแฟ ทั้งที่ไม่ใช่เป็นอาหารหลักที่ชาวบ้านเขากินกัน
ลองสังเกตลักษณะร่วมของทั้ง 3 ร้านนี้ดูสักหน่อย
จะเห็นว่ามันเป็น ...ร้านกาแฟ...ประเภทที่กาแฟดี แพง แต่สามารถนั่งหายใจทิ้งในร้านได้นานๆ ร้านประเภทนี้ไม่ได้ต้องการ...จำนวน...ลูกค้า ชนิดล้นท้นออกมายืนนอกร้านเพราะค่าเสียเวลาของโต๊ะ เก้าอี้, air condition, magazine มันรวมอยู่ในค่ากาแฟ ค่าอาหารอยู่แล้ว ดังนั้น target จึงไม่ใช่ชาวบ้านจนๆ ถ้าอ่าน board มาสักระยะ น่าจะเคยเห็นว่ามี..คอกาแฟ..ประจำบางกลุ่มที่เป็นเดือดเป็นร้อนกับการหายไปของร้านกาแฟที่เคยมีอยู่เดิม ก็เลย offer ทั้ง 3 ร้านนี้ให้พิจารณาเนื่องจากเห็นว่ามี.. ตลาด.. ที่ชัดเจน ถึงจะไม่มีประโยชน์นอกจากกินแล้วไม่ง่วง ก็ไม่ junk เหมือนกับ KFC สภาวะ control over น่าจะไม่ถูกคุกคามนักเพราะแต่ไหนแต่ไรมามันก็เคยมีร้านกาแฟอยู่ตรงนั้น ไม่เคยเห็นได้ยินใครบ่นอะไรกับ...ร้านกาแฟ... อีกอย่างที่สำคัญก็คือ ส่วนที่ดีของทั้ง 3 นี้มันก็ดี...เหมือนที่ KFC ดี...

คือพยายามจะเสนอว่า พื้นที่บางส่วน อาจจะมีวัตถุประสงค์การใช้เพื่อ รักษาพื้นอีกส่วน ที่เราต่างก็คิดว่าสำคัญกว่า ค่ะ ไม่ได้เอาเปรียบ แก่งแย่ง กับอะไรที่เป็นอยู่เดิม

ถ้าคุณคิดว่าการเรียนของ block Health promotion มีประโยชน์เพียงแค่ใช้พิจารณา การมีหรือไม่มี KFC ในโรงพยาบาล ควรหาเวลาทบทวนดูสักหน่อยว่าตอนเรียน..ทำเชี่ย..อะไรของคุณอยู่ ถึงได้เก็บประโยชน์เอา มาใช้ได้เพียงแค่นี้









Posted by : Lucifer , Date : 2005-11-16 , Time : 00:11:10 , From IP : 172.29.4.122

ความคิดเห็นที่ : 39


   OOPS... บ้าน "ใร่" กาแฟ ค่ะ
เจ้าของกิจการตั้งใจใช้ "ใ" เห็นว่าเอาเคล็ดอะไรสักอย่างจำไม่ได้แล้ว


Posted by : Lucifer , Date : 2005-11-16 , Time : 00:23:33 , From IP : 172.29.4.122

ความคิดเห็นที่ : 40


   สาระ คือ คุณกำลังจะบอกว่า รพ.ของเรารับเอา KFC มาตั้งใน รพ. เพื่อเอารายได้ มาอุดค่าใช้จ่ายที่รัฐบาลเป็นหนี้อยู่ใช่มั้ยครับ

คุณพูดเหมือนรู้ตัวเลขนั้น ช่วยบอกหน่อยได้มั้ยครับว่าตััวเลข รายได้ที่ รพ.จะได้รับจาก KCF เท่าไหร่ เสียพื้นที่เท่าไหร่ และถ้าเอาพื้นที่นั้นมาเปิดให้ร้านอื่นเช่า (อาจจะได้มากกว่าหนึ่งร้าน) รพ. จะได้รายได้เท่าไหร่ (นี่คุยเรื่องเงิน อย่างเดียวเลยนะ ฮะๆ ...... )

มันช่วยลดภาระได้จริงๆ เหรอครับ หรือเป็นข้ออ้างข้างๆคู เอาสีข้างเข้าถู ภาระรายจ่ายของ รพ. ต่อผู้ป่วยบางคนนั้น admit หนึ่งคืน มากกว่าค่าเช่าที่ KFC ทั้งเดือนการหารายได้ทางนี้ ไม่ใช่คำตอบ แน่นอนครับ อย่ามาอ้าง

และก็ใช่ว่าถ้าไม่มี KFC คุณจะต้องเพิ่มรายจ่ายให้คนไข้ (รีดเลือดปูอย่าคุณว่า ก็แถอีกเหมือนกัน)

การกำเนิดของ KFC ใน รพ. บอกถึงความล้มเหลวของแนวคิด Health promotion ครับ เพราะมันไม่ได้แทรกเข้าสู่หัวสมองของคนที่มีอำนาจตัดสินใจเรื่องนี้เลย แหม ไม่ต้องให้อธิบายมากนะ ผมว่ามัน common sense

ประโยคสุดท้ายของคุณ ผมก็อยากถามกลับไปเหมือนเดิมนะครับ (กลับไปอ่านด้วยล่ะ)


Posted by : เรือที่ไม่มีหางเสือ ไม่ถึงฝั่ง , Date : 2005-11-16 , Time : 00:52:42 , From IP : 172.29.7.60

ความคิดเห็นที่ : 41


   น่าสนใจครับในการอภิปรายนี้

Health promotion (อีกที)
The process that enabling people to increase control over and to improve their health according to their context

การสร้างเสริมสุขภาพนั้นเน้นที่ "ทั่วถึง" และตาม "บริบท" ประชาชนทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกันในการได้รับ "การันตี" มาตรฐานการดูแลสุขภาพเบื้องต้น ทั้งคนรวย "และคนจน" ไม่มีอภิสิทธิ์เหนือคนอื่น ว่าก่อน ว่าหลัง การที่มี discrimination แบ่งชั้นนั้นเป็นได้ทั้งสองทิศทาง เช่น กฏหมายว่าด้วยการต่อต้านห้ามการปลุกระดมความเกลียดชังระหว่างต่างชาติ ศาสนา ความเชื่อ sexual orientation (ประเทศอังกฤษ และอเมริกา) นั้น เป็นทั้งสองทิศทาง การห้าม discriminate คนผิวดำ ก็ไม่ได้แปลว่าถ้าสมัครงานกฏหมายจะบังคับให้ต้องรับคนผิวดำมากเป็นพิเศษ แต่แปลว่าทั้งคนผิวขาวและคนผิวดำจะถูกพิจารณาด้วย "เกณฑ์" ที่เหมาะสมต่องานนั้นๆเหมือนกัน ในทำนองเดียวกันระบบประกันสุขภาพนั้น ไม่ได้แปลว่าให้ priority แก่คนจนก่อน คนชั้นกลางช้าหน่อย คนรวยหลังสุด แต่แปลว่าประกันสุขภาพมาตรฐานเบื้องต้นในเงื่อนไขสากลคือ "คุณเป็นประชาชนชาวไทย"

Principle of Justice นั้น กล่าวถึงระบบที่คนจะถูกดูแลตาม "สิทธิ" เบื้องต้นของความเป็น citizen ครับ โดยไม่ได้ตาม acquired criteria ว่าถ้าคุณ registered เป็นคนจน คนรวย คนชั้นกลาง แล้ว รัฐจะ discriminate การดูแล ที่จริงการทำอย่างนั้นจะเป็นการแบ่ง class คนทันที ว่านี่คนจน นี่คนรวย เพียงแต่กลับขั้วว่าใครก่อนหลัง แต่ขอเพียงมีการ discriminate มันก็เป็น discrimination อยู่ดี ไม่ว่าจะเป็นขั้วไหน

โรงพยาบาลของรัฐสามารถเปิดได้ทั้งห้องพิเศษ และห้องสามัญ ความต่างของทั้งสองระบบเป็นแค่ physical building เช่น ห้องใหญ่ เป็นส่วนตัว มีแอร์ แต่ในเนื้องาน "บุคคล และคุณภาพ" ต้องเหมือนกัน ถาดใส่เมล็ดยาอาจจะต่างกัน แต่ criteria ตาม guideline การรักษาเหมือนกัน ทุกคนได้รับการดูแลแบบ holistic เหมือนกัน การไม่ได้ดูแลผู้ป่วยห้องพิเศษที่แตกต่างนั้น หมายถึงเราไม่ควรดูแลผู้ป่วยห้องสามัญให้แตกต่างด้วย ตรงนี้คือประเด็นของจรรยาบรรณวิชาชีพ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าโรงพยาบาลที่เปิดห้องพิเศษเป็นโรงพยาบาลที่กีดกันคนจนแต่อย่างได้ แต่เป็นการให้บริการ "ตามบริบท" ที่แตกต่างของผู้ป่วย

ผลกระทบของการมี KFC ใน รพ.นั้น น่าจะอยู่ที่ image มากกว่า อยู่ที่ fiduciary relationship (ความสัมพันธ์ที่มีรากฐานมาจากความไว้ใจ) ว่าเราจะทำงานในการแนะนำการสร้างเสริมสุขภาพยากง่ายอย่างไร ส่วนในเรื่องรูปธรรมของการบริการนั้น ผมเชื่อ (และมีหลักฐานชัดเจน) ว่ามันมีทั้งคนที่อยากจะใช้บริการและสามารถ afford ได้ และคนที่อยากแต่ไม่สามารถ afford ได้ และคนที่ไม่อยากใช้บริการทั้งๆที่ afford ได้ และคนที่ไม่อยากและไม่สามารถ afford ได้ มันก็เข้าระบบบริการทั่วไป เป็น social preferences เหมือนๆกันหมดทุกที่ ตรงนี้คือความหมายของ according to context หรือ "ตามบริบท" ประเด็นที่ว่ามีคนอยากรับประทาน KFC ใน รพ.หรือไม่ ประเด็นที่ว่ามีคนอยากทานกาแฟแก้วละ 90 บาท หรือไม่ นั้น ไม่ได้ทำให้ รพ.นี่ หรือไหนๆกลายเป็น รพ. discriminate against คนบางกลุ่ม ตราบใดที่มันมีการกระจาย service ในระดับต่างๆได้อย่างทั่วถึง ตรงกันข้ามถ้า รพ. จงใจประกาศว่าเราจะบริการเฉพาะผู้ที่มีรายได้น้อยเท่านั้น ก็เป็น discrimination พอๆกับการประกาศว่าเราจะบริการเฉพาะผู้ที่มีรายได้เยอะเหมือนกัน

PS: อยากให้มีการอภิปราย แสดงความเห็นในเรื่องนี้ต่อไปอีกนะครับ ผมว่าประเด็น health promotion และ principle of justice นี้สำคัญมาก น่าจะมีการแลกเปลี่ยนความเห็นที่แตกต่างกันได้ อย่างสร้างสรรค์นะครับ



Posted by : Phoenix , Date : 2005-11-16 , Time : 08:54:38 , From IP : 172.29.3.111

ความคิดเห็นที่ : 42


   อ่านแล้วบางวรรคตอนอาจจะสื่อผิดได้ ขอแก้

ผลกระทบของการมี KFC ใน รพ.นั้น น่าจะอยู่ที่ image มากกว่า และอยู่ที่ fiduciary relationship (ความสัมพันธ์ที่มีรากฐานมาจากความไว้ใจ)ว่าเราจะทำงานในการแนะนำการสร้างเสริมสุขภาพยากง่ายอย่างไร มากกว่าในรูปธรรมว่าใครได้กิน ไม่ได้กินอะไร แบบไหน ราคาเท่าไหร



Posted by : Phoenix , Date : 2005-11-16 , Time : 08:58:40 , From IP : 172.29.3.111

ความคิดเห็นที่ : 43


   คุณ Lucifer คุณจะตอบว่าไง??

Posted by : กินไก่ระวังหวัดนก , Date : 2005-11-16 , Time : 18:12:58 , From IP : 172.29.7.39

ความคิดเห็นที่ : 44


   เร่งจริง.... คนเดียวกันหรือเปล่าคะ ถ้าใช่ก็ขอ Identity ที่มันคงที่อย่างน้อยก็ชั่วเวลาออกความเห็นในกระทู้ได้มั้ยคะ จะได้ตอบให้ตรงคน ตรงความเป็นคนๆไป
อีกอย่าง ถ้าคิด ก็จะต้องใช้เวลาอยู่สักหน่อย แต่ถ้าสักแต่ว่าอยากจะพิมพ์อะไรลงมา ไม่ได้คิด ก็จะเร็วได้อย่างใจค่ะ

"สาระ คือ คุณกำลังจะบอกว่า รพ.ของเรารับเอา KFC มาตั้งใน รพ. เพื่อเอารายได้ มาอุดค่าใช้จ่ายที่รัฐบาลเป็นหนี้อยู่ใช่มั้ยครับ "

ตอบว่า...ใช่ค่ะ แต่ไม่ทั้งหมด
สาระที่ต้องการจะสื่อ คือ รพ.ของเราต้องมีรายได้มาเพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายที่เกินกว่ารายรับ ขึ้นต้นด้วยเรื่อง การเปลี่ยนพื้นที่ว่างให้เป็นรายได้ พื้นที่ตรงนั้น ไม่ว่าจะเปิดเป็นร้านอะไร ..คิดว่า.. ก็จะไม่ก่อให้เกิดรายได้จำนวนที่สามารถชดเชยส่วนต่างรายรับได้ทั้งหมด ถ้าคิดอย่างเดียวกันนี้เฉพาะ ค่าเช่าจากร้านอาหารทั้งโรงอาหารก็คงไม่พอ เฉพาะกำไรจาก NKC ก็ไม่พอ เฉพาะ service charge จากห้องพิเศษก็ไม่พอ เฉพาะจากอะไรก็ไม่น่าพอ ถ้าทำอะไรอย่างเดียวพอ ก็ดีสิคะ ไม่ต้องเหนื่อยทำอะไรหลายอย่าง เพราะอย่างนี้ก็เลยต้องทำอะไรหลายอย่าง รวมๆกันแล้ว ก็พอได้มีไว้ใช้ เช่น ใช้พื้นที่ว่างๆ ทำรายได้กิ๊กก๊อกเผื่อไว้ได้ "ช่วย" จ่ายเป็นค่าลิฟท์บรรเทาความเดือดร้อนของคนช่างเมื่อย เหนื่อยแรงเดินขึ้นบันได ทีละ 2-3 ชั้น

original question คือ กรณีนี้ถือเป็น conflict of interest หรือไม่ หลังใคร่ครวญข้อความที่ อ. phoenix ได้กรุณาฝากไว้ให้ได้คิด แล้ว ก็สะท้อนออกมาด้วยเจตนาจะเสนอทาง "แก้" ปัญหา ว่าจะสามารถลงเอยเป็น win-win situation ได้หรือไม่ คือ โรงพยาบาลสามารถมีรายได้ โดยไม่โดยไม่ขัดกับวิสัยทัศน์พันธกิจว่าจะเป็น health promoting hospital หรือ health promoting organization/medical school โดยได้อภิปรายว่า
1. ทำไมไม่ควรเป็น KFC
2. ถ้าเป็น KFC แล้วดีอย่างไร
และ " แต่ไม่จำเป็นต้อง...KFC "
ทั้งหมดที่สะท้อนออกไปนั้นจึงไม่ได้ตั้งใจสื่อว่า

" รพ.ของเรารับเอา KFC มาตั้งใน รพ. เพื่อเอารายได้ มาอุดค่าใช้จ่ายที่รัฐบาลเป็นหนี้อยู่ " แต่ข้อความเดียวกันนี้คือสิ่งที่ถูกสะท้อนโดยคุณเรือที่ไม่มีหางเสือ ไม่ถึงฝั่ง ค่ะ ...

ส่วน "การกำเนิดของ KFC ใน รพ. บอกถึงความล้มเหลวของแนวคิด Health promotion ครับ เพราะมันไม่ได้แทรกเข้าสู่หัวสมองของคนที่มีอำนาจตัดสินใจเรื่องนี้เลย แหม ไม่ต้องให้อธิบายมากนะ ผมว่ามัน common sense"

ดิฉันเองไม่คิดว่าจะตีความถึงเพียงนั้น วันนี้ ท่านผู้มีอำนาจตัดสินใจเรื่องนี้ ได้กล่าวว่า " เราไปติดอยู่กับภาพเก่าๆ เมนูที่ healthy ก็มี มีข้าว มีผัก" สุดท้ายท่านก็ว่า ท่านไม่เห็นว่ามันจะต่างจากข้าวขาหมู ข้าวมันไก่ทอด ที่มีขายกัน กินกันเป็นวัฒนธรรมปกติในบ้านเรา ที่ตรงไหน ดิฉันเองก็อับปัญญาจะบอกว่าเป็นความล้มเหลวของแนวคิด Health promotion หรือไม่ อย่างไร ประการสำคัญหนึ่งโทษไว้ก่อนว่า...เป็นเพราะยังไม่ได้เรียน ก็เลยจะขอความกรุณาผู้เรียนแล้ว และสามารถประมวลผลจนเป็น common sense ได้ ให้ความกระจ่างหน่อย ได้มั้ยคะ ว่า เป็นความล้มเหลวอย่างไร ถ้าเพียงแต่บอกได้ว่า ควรมีหรือไม่ แต่ให้ความสัมพันธ์ระหว่าง แนวคิด กับ ความเห็น เหตุผลส่วนตัวไม่ได้ ก็ออกจะน่าผิดหวังอยู่สักหน่อย สำหรับผู้ที่...เรียน...แล้ว อีกอย่างเพื่อประโยชน์ที่คนโง่ บ้า (เนื่องจากด่วนเดาไปหน่อย) ไม่มีความรู้จึงอับปัญญา อย่างดิฉันจะได้ยุติการแถข้างๆคู จนเป็นเหตุให้คุณ?????เดือดร้อนรำคาญใจเสียที











Posted by : Lucifer , Date : 2005-11-16 , Time : 21:34:02 , From IP : 172.29.4.68

ความคิดเห็นที่ : 45


   .... วันนี้ ท่านผู้มีอำนาจตัดสินใจเรื่องนี้ ได้กล่าวว่า " เราไปติดอยู่กับภาพเก่าๆ เมนูที่ healthy ก็มี มีข้าว มีผัก" สุดท้ายท่านก็ว่า ท่านไม่เห็นว่ามันจะต่างจากข้าวขาหมู ข้าวมันไก่ทอด ที่มีขายกัน กินกันเป็นวัฒนธรรมปกติในบ้านเรา ที่ตรงไหน ดิฉันเองก็อับปัญญาจะบอกว่าเป็นความล้มเหลวของแนวคิด Health promotion หรือไม่ อย่างไร

เช่นนั้นเราก็อย่าพูดกันต่อเลยครับ ทั้งในเรื่อง health promotion หรือนโยบาย รพ. หรือเรื่องความต้องการของคนส่วนใหญ่ใน รพ. ในเมื่อ ท่านผู้มีอำนาจตัดสินใจ คิดว่า KFC ไม่ต่างจาก ข้าวขาหมูหรืออาหารอื่นๆ

กลายเป็นเหมือนว่าเรากำลังต่อต้านข้าวมันไก่ทอดนี่เอง มิน่าถึงไม่มีใครสนใจ


Posted by : เรือที่ไม่มีหางเสือ ไม่ถึงฝั่ง , Date : 2005-11-18 , Time : 12:22:34 , From IP : 172.29.1.151

ความคิดเห็นที่ : 46


   ดิฉัน กำลังสนใจอยู่ค่ะ ว่า คุณเรือที่ไม่มีหางเสือ ไม่ถึงฝั่ง จะอภิปรายว่า "เป็นความล้มเหลวของแนวคิด Health promotion หรือไม่ อย่างไร"

อาจารย์ Phoenix ก็อยากให้มีการอภิปราย แสดงความเห็นในเรื่อง health promotion และ principle of justice ต่อไป

ติดอยู่ว่าดิฉันยังไม่ได้เรียน อาจจะติดๆขัดๆ เรื่องความรู้อยู่สักหน่อย อยากจะอภิปรายต่อค่ะ แต่ไม่ถนัดจะอภิปรายเรื่องที่ไม่ค่อยรู้สักเท่าไร
ก็เลยขอความกรุณาคุณ เรือที่ไม่มีหางเสือ ไม่ถึงฝั่ง อธิบาย...สามัญสำนึกที่ได้มาจากการเรียนแล้ว... สักหน่อย เราน่าจะแลกเปลี่ยนความเห็นที่แตกต่างกันได้ อย่างสร้างสรรค์ต่อไป


Posted by : Lucifer , Date : 2005-11-18 , Time : 12:42:47 , From IP : 172.29.2.118

ความคิดเห็นที่ : 47


   ตกลงเขายังสร้างมั้ยครับ

Posted by : สงสัย , Date : 2005-11-19 , Time : 21:13:34 , From IP : 172.29.7.41

ความคิดเห็นที่ : 48


   ผมไม่แน่ใจว่าตามทันหรือไม่ในประเด็นท้ายๆของการแลกเปลี่ยนนี้ "ดูเหมือน" คุณ Lucifer จะใช้วิธีอภิปราย scenario "What if" แล้วงอกต่อไปว่าถ้าเป็นยังงี้ๆ แปลว่ายั้งงั้นๆ แต่รู้สึกว่าจะมีการเข้าใจไปว่าพวก scenario What If นี่กลายเป็นความคิดจริงๆของผู้บริหาร หรือเป็นเหตุผลจริงๆของทั้งหมด ซึ่งถ้าเป็นอย่างนี้คงจะพากันเข้าสู่ Cuckoo land แท้จริง (หรือเลยไป Dodo land!!)

ประเด็นเรื่อง KSC หรือเรื่องร้านอาหารใน รพ. อาจจะถกกันได้สอง theme อันหนึ่งเป็นเรื่องของ scientific facts ว่าอาหารดี/ไม่ดี นั้นประกอบด้วยธาตุอะไร วันละเท่าไหร่ อีกอันเป็นเรื่องเกี่ยวกับประสิทธิภาพในการรณรงค์อาหารสุขภาพ ซึ่งไม่เชิงเกี่ยวกับ actual facts ว่าอะไรอยู่ในจานไหนเท่าไหร่นัก

health promotion นั้นเราพูดถึง 5 กระบวนทัศน์คือ ทำได้ ต้องทำ ควรทำ น่าทำ แล้วก็ ทำง่าย ให้เข้าไปสู้สมองของ target จนเขาเกิด empowerment ว่าจะทำ เท่าที่ทำได้ พวกแพทย์ไม่มีปัญหา (เท่าไหร่) ในการที่จะบอกว่าอะไรต้องทำ หรือควรทำ แต่เรามีปัญหาในการ "ขาย idea" ให้มัน น่าทำ ทำแล้ว cool ทำแล้วจ๊าบ มากกว่า ซึ่งในวารสารศาสตร์ หรือนิเทศนศาสตร์นั้น การโฆษณาไม่ได้ใช้แค่ "ข้อมูลทางเหตผล" อย่างเดียว ตรงกันข้ามจะมี element ที่จับ "อารมณ์" และ "คววามรู้สึก" มากกว่า


Posted by : Phoenix , Date : 2005-11-19 , Time : 23:07:33 , From IP : 172.29.7.181

ความคิดเห็นที่ : 49


   ผมไม่แน่ใจว่าตามทันหรือไม่ในประเด็นท้ายๆของการแลกเปลี่ยนนี้ "ดูเหมือน" คุณ Lucifer จะใช้วิธีอภิปราย scenario "What if" แล้วงอกต่อไปว่าถ้าเป็นยังงี้ๆ แปลว่ายั้งงั้นๆ แต่รู้สึกว่าจะมีการเข้าใจไปว่าพวก scenario What If นี่กลายเป็นความคิดจริงๆของผู้บริหาร หรือเป็นเหตุผลจริงๆของทั้งหมด ซึ่งถ้าเป็นอย่างนี้คงจะพากันเข้าสู่ Cuckoo land แท้จริง (หรือเลยไป Dodo land!!)

ประเด็นเรื่อง KSC หรือเรื่องร้านอาหารใน รพ. อาจจะถกกันได้สอง theme อันหนึ่งเป็นเรื่องของ scientific facts ว่าอาหารดี/ไม่ดี นั้นประกอบด้วยธาตุอะไร วันละเท่าไหร่ อีกอันเป็นเรื่องเกี่ยวกับประสิทธิภาพในการรณรงค์อาหารสุขภาพ ซึ่งไม่เชิงเกี่ยวกับ actual facts ว่าอะไรอยู่ในจานไหนเท่าไหร่นัก

health promotion นั้นเราพูดถึง 5 กระบวนทัศน์คือ ทำได้ ต้องทำ ควรทำ น่าทำ แล้วก็ ทำง่าย ให้เข้าไปสู้สมองของ target จนเขาเกิด empowerment ว่าจะทำ เท่าที่ทำได้ พวกแพทย์ไม่มีปัญหา (เท่าไหร่) ในการที่จะบอกว่าอะไรต้องทำ หรือควรทำ แต่เรามีปัญหาในการ "ขาย idea" ให้มัน น่าทำ ทำแล้ว cool ทำแล้วจ๊าบ มากกว่า ซึ่งในวารสารศาสตร์ หรือนิเทศนศาสตร์นั้น การโฆษณาไม่ได้ใช้แค่ "ข้อมูลทางเหตผล" อย่างเดียว ตรงกันข้ามจะมี element ที่จับ "อารมณ์" และ "คววามรู้สึก" มากกว่า ตรรกะ เหตุผล ดูจากมีการใช้นางแบบ นายแบบ บริบทที่บอกเป็นนัยว่าใช้สินค้านี้แล้วคุณจะดูแท่ห์ สวยงาม หล่อลากดิน ขนาดไหน เสริมความมั่นใจได้ดีแค่ไหน

ดังนั้นเรื่องที่เราอภิปรายกันนี้ ไม่เกี่ยวกับ scientific data ว่าอาหารร้านไหนเป็นยังไง แต่เป็นว่า อะไรเป็น "BRAND" ของอะไร อะไรเป็น "สัญญลักษณ์ ของอาหารแบบไหน เรื่อง brand เรื่องสัญญลักษณ์ เรื่อง reputation หรือชื่อเสีย(ง) นั้นไม่ใช้ logic ครับ อาจจะมาจาก logic ก่อน แต่มันไปจับ short cut ของการ interprete ในสมองเร็วกว่าด้วยความคุ้นเคย เช่น ถามว่าร้าน junk food มีอะไรบ้าง คนทั่วๆไปก็จะเริ่ม list รายชื่อร้านออกมาได้ ส่วนใหญ่ไม่ทราบหรอกครับ ไอ้รายละเอียดว่าจานละกี่ calories หรือมีสารอาหารกี่หมู่หมวด อะไรบ้าง แต่มันเป็น brand จริงๆ




Posted by : Phoenix , Date : 2005-11-19 , Time : 23:16:13 , From IP : 172.29.7.181

ความคิดเห็นที่ : 50


   แปลว่า ถ้า มอ. เปิิด KFC คนทั่วๆไป ก็จะพูดว่า มอ. เปิดร้าน junk food ใน รพ.

ใช่มั้ยครับ

สำหรับผมอยากกลับเข้ามาในเรื่องเดิม คือ ผมคิดว่า KFC ไม่ควรเปิดใน รพ.
เพราะ
1. ในเรื่องรายได้ ผมยังนึกภาพไม่ออกจริงๆว่าเราได้รายได้จาก KFC มากกว่าร้านข้าวทั่วไปจริงๆหรือ ผมคิดว่าการจัดพื้นที่ให้เช่าที่ใน รพ. ยึดขนาดพื้นที่(ตารางเมตร) เป็นเกณฑ์หรือไม่ ตัวอย่าง พื้นที่เท่ากันควรจ่ายราคาเท่ากัน (ร้านแต่เตี้ยมหัวมุม มีพื้นที่สองด้านไม่รู้จ่ายแพงกว่าหรือไม่) ถ้าเป็นเช่นนี้ผมคิดว่าร้าน KFC ก็ไม่น่าต้องจ่ายแพงกว่าร้านอื่นๆ ถ้าร้านจะแยกมาแบบร้าน coffee เก่า ก็น่าจะจ่ายเท่าๆกันกับร้านกาแฟ หรือเขาใช้วิธีประมูลแล้ว KFC ให้ราคาแพงกว่า อย่างไงก็ตามผมยังยึดติดว่า KFC น่าจะใช้พื้นที่มากกว่าร้านข้าวแกง block เล็กๆ ซึ่งก็ทำให้คิดต่อไปว่าพื้นที่ KFC น่าจะทำร้านข้าวได้หลายร้านและรายได้จากหลายร้านนั้นไม่น่าจะต่างกันรายได้จาก KFC มาก ตราบเท่าที่ข้อมูลจริงๆ ไม่เปิดเผย ผมก็ยังเชื่อว่า การที่ รพ ได้รายได้ จากการเปิดให้ KFC มาเช่าที่นั้น ไม่ได้มากกว่าร้านอื่นๆ (ถ้าท่านจะทำแล้วให้ร้านอื่นมาขาย)
2. เรื่องราคา ราคาไก่ KFC แพงกว่าไก่ทอดธรรมดามาก ในแง่สารอาหารไม่น่าจะต่างกันมาก (ผมคิดว่าเราต้องมองคุณค่าด้านสารอาหารเพราะเราคือ รพ. ไม่ใช่ห้างสรรพสินค้า ผมคิดว่ามันน่าจะเป็น Norm อย่างนึงในการคิด หรือบริหารสิ่งใดของคนในวงการแพทย์ที่ต้องต้องคิดถึงเรื่ืองสุขภาพและประโยชน์
ต่อร่างกายมากกว่าวงการอื่นๆ) ดังนั้นทำไมเขาต้องเอาให้ร้านที่ขายของแพงมาขาย ในเมื่อวันได้คุณค่าทางโภชนาการไม่ต่างกัน (อาจจะได้ไขมันอิ่มตัวมากกว่า)
3. ลูกค้า ถ้าผมจะเปิด KFC ใน รพ. ผมจะเปิดเพราะที่นี่มีหมอและเจ้าหน้าที่หลายๆคนที่ชอบกิน KFC ที่นี่มีนักเรียนมัธยม และ นศพ ที่พร้อมจะกิน KFC เป็นอาหารมื้อเที่ยงแทนข้าว ดังนั้นน่าจะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ลูกค้าเยอะแน่นอน แต่ในเมื่อเราไม่ใช่คนลงทุน ไม่ใช่เจ้าของ ทำไมเขาต้องทำให้ KFC มันหากินง่ายขึ้นขนาดนั้น ทำไมเราต้องให้เด็กๆพวกนั้นเขามากิน KCF ต่างข้าว (ข้อที่แล้วก็ทราบแล้วว่าแพง) ในเมื่อถ้าเขาอยากกินจริงๆ ก็ใช่ว่ามันจะหายากมาก เดินข้ามไปโลตัสก็ได้กินแล้ว
4. ภาพลักษณ์ขององค์กร ตามที่ อ.นกไฟว่า คือ KFC เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของ junk food ซึ่งเรายอมให้องค์กรเราเป็นองค์กรที่มีร้าน junk food ใน รพ. แล้วกระนั้นหรือ
5. ด้านเศรษฐกิจ KFC เป็นร้านธุรกิจต่างชาติ ขนเงินคนไทยออกนอกประเทศ แม้ไม่ต่อต้านแบบหัวชนฝา แต่ผมไม่คิดว่าเราจะต้องสนับสนุนการเปิดสาขาของมัน
แค่นี้เราก็ขายข้าว ขายยาง ขายทรัพยากรธรรมชาติ มาแลกกับเทคโนโลยี และ brandname ต่างๆัพอแล้วนะครับ โปรดอย่ามองข้ามเรื่องเล็กๆแบบนี้เลยครับ เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว ผมยังเชื่อว่าจริง

ผมไม่อยาก discuss เรื่อง health promotion นะครับ แม้จะโดนคุณ lucifer ต้อน เพราะผม คิดว่าเรื่องนี้มันรู้กันโดย common sense จริงๆ ผมจำศัพท์เท่ห์ๆไม่ได้หรอกนะครับ เพียงแต่พอจะเข้าหัวบ้างว่า การส่งเสริมสุขภาพให้ร่างกายแข็งแรงนั้น เ็ป็นสิ่งที่จำเป็นมากกว่าการซ่อมซึ่งเป็นการตั้งรับ ถ้าเราไม่มีนโยบายในการสร้างสุขภาพแล้ว เราก็จะซ่อมอย่างเหน็ดเหนื่อยและไม่มีมันหมด เพราะไม่ได้แก้ที่สาเหตุ แนวโน้มโรคหัวใจตีบตัน ความดันสูง เบาหวาน CVA มันสูงขึ้นและคนตายจากโรคเหล่านี้มากขึ้น ซึ่งมันเกิดจากการใช้ชีวิตประจำวัน การกินอาหาร การออกกำลังกาย การไม่สูบบุหรี่ การไม่ดื่มเหล้า สารเสพติด ......
สิ่งเหล่านี้มันรู้กันทั่วไปอยู่แล้ว เราจึงบอกคนไข้ dyslipidemia ว่ายายไม่ควรทานอาหารมัน อาหารหวาน ทานผักมากๆ ลดเนื้อสัตว์

และก็คงต้องบอกยายต่อว่าไปอย่ากิน KCF และข้าวขาหมูเลย เพราะทำให้ไขมันในเลือดยายสูงขึ้น ดังนั้นถ้าข้าวแกงที่ รพ. หมด หรือไม่มีที่นั่งยายไปหาร้านข้าวที่โลตัสกินเถอะครับ

....คนที่ไร้อุดมการณ์เหมือนเรือที่ไร้หางเสือ


Posted by : เรือน้อยครับ , Date : 2005-11-20 , Time : 01:37:07 , From IP : 172.29.7.72

ความคิดเห็นที่ : 51


   อ.นกไฟครับ Cuckoo land Dodo land คือะไรครับ (ผมไม่ทราบจริงๆครับ) มันมาจากภาพยนตร์หรืออุปมาอะไรหรือเปล่า (แอบนอกเรื่องนิดนึง)

Posted by : เรือน้อย , Date : 2005-11-20 , Time : 01:46:18 , From IP : 172.29.7.72

ความคิดเห็นที่ : 52


   ผมคิดว่าเรื่องการสร้างเสริมสุขภาพ (health promotion) เป็นสิ่งที่แพทย์ปัจจุบัน (และอนาคต) จำเป็นต้องรู้ เข้าใจ และมีเจตคติที่ดีใน concept นี้ครับ การที่มีศัพท์จำเพาะเกิดขึ้นนั้น ผมไม่อยากให้ first reaction ของพวกเราคือการ dismiss ว่ามันเป็นความยุ่งยาก มันเพื่อความเท่ห์ มันเพื่อฝรั่ง มันเพื่ออะไรต่อมิอะไรที่ไม่มีนัยสำคัญ แต่ส่วนหนึ่งหมายความว่าเรื่องนี้มีคนศึกษาลงรายละเอียด เกิดองค์ความรู้ จัดระเบียบข้อมูลจนเกิดเป็นทฤษฎี เป็นหลักการ จึงมีการ "ให้คำจำกัดความ" ขึ้นเพื่อที่ในอนาคตเราจะได้ "สื่อ" อย่างเป็นสากล พูดคำนี้ปุ๊บ หมอทั่วโลกเข้าใจตรงกันว่าหมายถึงอะไร ครอบคลุมอะไร ทำอย่างไร และสำคัญอย่างไรทันที ปัญหาในปัจจุบันก็คือมีคนใช้ common sense และแปลคำเหล่านี้เพียงผิวเผิน หรือเดาว่ามันคืออะไร ซึ่งจะมีผลกระทบต่อพฤติกรรม และเจตคติออกมาอย่างชัดเจนทีเดียว

WHO มี website ที่เป็น Health Promotion Glossary สำหรับ terminology ต่างๆ หาจาก Google ก็ได้ ผมว่าน่าสนใจที่จะทำ self searching และ SDL ทีเดียวครับ

อีกประการขณะที่เรา "วิเคราะห์" จากข้อมูลที่มี ออกมาเป็นผลกระทบในแง่ต่างๆ พอมาถึงบท "ฟันธง" เพื่อที่จะตีค่าใคร หรืออะไรก็ตาม ผมว่ามันเป็นเรื่องที่ดีที่เราจะติดเบรคไว้ซะหน่อยนึง อาชีพเราต้อง non-judgemental ครับ เรื่องราวต่างๆมันมี interactive มากมาย มี variations ของเหตุการณ์ ของบริบทที่นำมาคิด มาคำนวณ ไตร่ตรอง และเกือบทุกครั้งที่เรามี "ข้อมูล" เพิ่มเติม ขอ้สรุปของเราก็จะมีการเปลี่ยนแปลงไป เดี๋ยวนี้ผมรู้สึกมันเป็น fashion อย่างไรชอบกลที่คนชอบฟันธง ส่วนหนึ่งผมโทษว่าคนขี้เกียจแสวงหาข้อมูล มีความ ignorance ต่อความสำคัญของ "ความถูกต้องครบถ้วน" แต่ไปเน้นที่ vanity หรือความสำคัญส่วนตัวมากขึ้น มี opinion มากขึ้น สรุปมากขึ้น แต่แสวงหาองค์ประกอบสำคัญที่จะนำมาซึ่งข้อสรุปน้อยลงไปเรื่อยๆ เสี่ยงต่อการถูกชักจูง ปลุกปั่นง่าย ยิ่งใช้ข้อมูลน้อยลง นั่นแปลว่าเรากำลังใช้ "อารมณ์" มากขึ้นเรื่อยๆครับ

Cuckoo เป็นนกชนิดหนึ่ง แต่ ณ ที่นี้หมายถึง Cuckoo ที่เป็นนาฬิกาที่มีนกออกมาบอกเวลา ทำในสวิสซ์ และ Black Forest ของ Germany ที่อากาศหนาวเย็นตลอดปีตลอดชาติ มีหมอกปกคลุมเหมือนอยู่ในเมืองเทพนิยาย Cuckoo land ก็คือเสมือนคนที่อาศัยในเมืองอุดมคติ เมืองแห่งจินตนาการ เมืองแห่งเทพนิยายนั่นเอง มีข้อดี ข้อเสีย

นก Dodo เป็นนกในเทพนิยาย ซึ่งไม่มีตัวจริงครับ เคยมีสมัยหลังไดโนเสาร์โน่น สาบสูญพันธุ์ไปนานแล้ว Dodo land ก็คล้ายๆ Cuckoo land แต่ผมว่าจับต้องยากกว่าเพราะไม่เคยมี solid evidence ว่ามัน exist (ถึงแม้ว่า Discovery Channel พยายามจะ convince เราว่านก Dodo เคยเดินไปเดินมาบนโลกเรามาแล้วก็ตามที



Posted by : Phoenix , Date : 2005-11-21 , Time : 09:14:36 , From IP : 172.29.3.222

ความคิดเห็นที่ : 53


   อ้อ ร้านที่กำลังก่อสร้าง คือ mr donus นะครับ

Posted by : หุหุ , Date : 2005-11-22 , Time : 02:20:32 , From IP : 172.29.1.151

ความคิดเห็นที่ : 54


   ไม่น่าให้ตั้งขึ้น เพราะไม่ดีต่อสุขภาพของผู้บริโภค

Posted by : 1 , Date : 2005-11-22 , Time : 12:49:34 , From IP : 172.29.2.226

ความคิดเห็นที่ : 55


   เอางี้
ร้านไหนไม่ดีต่อสุขภาพ ไล่ให้หมดเลยดีไหม
ขายแต่ผักแต่หญ้า หรือเนื้อคุณภาพดีๆ
เอางั้นเลยไหม

compromiseกันหน่อย


Posted by : ทักสินทร์ ชิงหมาวัด(มาเกิด) , Date : 2005-11-23 , Time : 11:11:05 , From IP : 172.29.4.58

ความคิดเห็นที่ : 56


   ก็น่าจะดีนะ ให้นายกินก่อนเลย ดูท่าชอบกินหญ้า

Posted by : ก้ากๆ , Date : 2005-11-23 , Time : 12:59:51 , From IP : 172.29.1.151

ความคิดเห็นที่ : 57


   จริงๆนะ ผมจะคอยดูพวกรักสุขภาพว่าจะยืนรึเปล่าแค่ไก่ทอด...........คงไม่...มรนาหรอก

Posted by : bat man , Date : 2005-11-30 , Time : 01:24:43 , From IP : 172.29.4.78

ความคิดเห็นที่ : 58


   เท่าที่เห็นคนที่รับทาน...เดินเข้าออกมีแต่นักศึกษาแพทย์ ก็รู้แล้วยังกิน ห้ามตัวเองได้เปล่าว ถึงห้ามคนอื่น แด่พวกหัวหมอทั้งหลาย ไม่ชอบก็อย่าซื้อ

Posted by : เบื่อมาก , Date : 2006-02-05 , Time : 23:47:49 , From IP : 172.29.7.139

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.021 seconds. <<<<<