ความคิดเห็นทั้งหมด : 29

สามัญชน ที่ทำบุญในวัดพระแก้วมรกต


   

Posted by : ไม่เจียมตัว , Date : 2005-11-05 , Time : 14:36:06 , From IP : 172.29.7.235

ความคิดเห็นที่ : 1


   แล้วทำไมง่ะ

Posted by : งง , Date : 2005-11-05 , Time : 15:27:40 , From IP : 172.29.4.130

ความคิดเห็นที่ : 2


   ก็บริเวณตรงนั้นเป็นที่นั่งของพระเจ้าอยู่หัวไง แม้แต่สมเด็จพระโอรสาฯก็ยังไม่เคยไปนั่งตรงนั้น ตลอดระยะเวลาสองร้อยปีที่ผ่านมาก็มีคนภายนอกคนนี้ล่ะที่กล้าไปนั่ง

Posted by : อือ , Date : 2005-11-05 , Time : 15:57:59 , From IP : 61.19.183.162

ความคิดเห็นที่ : 3


   ใส่รองเท้าด้วยครับ ผู้นำที่โอหังและไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง

Posted by : เชี่ยม , Date : 2005-11-05 , Time : 18:24:34 , From IP : 172.29.7.71

ความคิดเห็นที่ : 4


   เก้าอี้ โต๊ะ เป็นแบบธรรมดา เจ้าพนักงานก็ใส่รองเท้าว่ะ

Posted by : ผ่านมา , Date : 2005-11-05 , Time : 20:24:23 , From IP : 61.7.143.250

ความคิดเห็นที่ : 5


    หนังสือพระราชอำนาจ-แฉ
ทำบุญประเทศ-วัดพระแก้ว
"ทักษิณ" มิบังควรปฏิบัติ!
เผยเป็นวัดเฉพาะ "กษัตริย์"
27 August 2005 10:48
จำนวนผู้อ่าน 2700 คน
“ประมวล” สุดปลื้มปิติ หลังรับทราบ “ในหลวง” โปรดหนังสือ “พระราชอำนาจ” เพิ่มบท “ท้ายเล่ม” ขึ้นใหม่ในการตีพิมพ์ครั้งที่สอง แฉหลายเหตุการณ์เป็นการกระทำที่ไม่บังควร ถือเป็นการละเมิดพระราชอำนาจโดยไม่รู้ตัว ยกเหตุการณ์ “ทำบุญประเทศ” ที่วัดพระแก้ว โดยพระมหากษัตริย์มิได้ทรงเป็นองค์ประธาน จึงเป็นสิ่งมิบังควรปฏิบัติ เผยเบื้องหลัง “ทักษิณ” นั่งเป็นประธานงาน “ศาสนสัมพันธ์สมานฉันท์แห่งชาติ” เมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้หนังสือ “พระราชอำนาจ” ที่เขียนโดยนายประมวล รุจนเสรี ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย ซึ่งได้ตีพิมพ์เป็นครั้งที่สอง ได้รับความสนใจเป็นอันมากจากประชาชนคนไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้มีกระแสพระราชดำรัสกับนายปีย์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานกลุ่มแปซิฟิคฯว่า “ทรงพระอักษรพระราชอำนาจ ซึ่งนายประมวล รุจนเสรี เขียนแล้ว ทรงโปรดเพราะเขียนได้ดี เขียนได้ถูกต้อง”

“...เราอ่านแล้ว เราชอบมาก เขียนได้ดี เขียนได้ถูกต้อง” และทรงชี้พระหัตถ์ไปที่พระอุระของพระองค์ แล้วรับสั่งว่า “ให้ไปบอกเขาว่า เราชอบมาก”

ซึ่งหลังจากนายปีย์ได้อัญเชิญกระแสพระราชดำรัสดังกล่าวมาแจ้งต่อนายประมวล สร้างความปลื้มปิติให้กับนาประมวลเป็นอันมาก ถึงขั้นนายประมวลได้อัญเชิญกระแสพระราชดำรัสดังกล่าวมาลงไว้ในบท “อาเศียรวาท” ซึ่งเป็นบทที่เพิ่มขึ้นใหม่ในการตีพิมพ์ครั้งที่ 2 ที่ได้เปิดตัวอย่างเป็นการไปเมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้แล้ว ยังมีการเพิ่มบท “ท้ายเล่ม” ขึ้นมาอีก โดยเป็นการเพิ่มเติมรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับ “นิติราชประเพณี” ที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์ ซึ่งมีนิติราชประเพณีหนึ่งที่น่าสนใจ และก่อนหน้านี้เคยมีการวิพากษ์วิจารณ์กันมาแล้ว ถึง “ความเหมาะสม-ความไม่เหมาะสม” ของผู้นำประเทศคนหนึ่งที่ไปทำบุญประเทศ ณ วัดพระแก้ว อันเป็นวัดที่ถือกันว่า เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของประเทศ โดยในใจความตอนหนึ่งของหนังสือ “พระราชอำนาจ” ฉบับพิมพ์ครั้งที่สอง มีรายละเอียดดังนี้คือ

“นิติราชประเพณีอีกประการหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาซึ่งแสดงความสัมพันธ์ระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์กับพระพุทธศาสนาก็คือ การสร้างพระบรมมหาราชวังคู่กับวัดพระแก้ว ลองตรวจหลักฐานทางประวัติศาสตร์จากโบราณสถานต่าง ๆ จะปรากฏว่า ในเขตพระบรมมหาราชวังทุกแห่งจะมีร่องรอยของการสร้างวัดพระแก้วอยู่ติดกับที่ประทับของพระมหากษัตริย์เพื่อจะได้ทรงปฏิบัติศาสนกิจต่าง ๆ ได้สะดวกแยกออกมาจากประชาชน ส่วนประชาชนทั่วไปหรือข้าราชการต่าง ๆ ที่ต้องปฏิบัติศาสนกิจของตนเองก็จะต้องไปปฏิบัติ ณ วัดอื่น เว้นแต่จะร่วมพิธีกับพระมหากษัตริย์ กรณีการใช้วัดพระแก้วเพื่อทำบุญให้บ้านเมืองโดยพระมหากษัตริย์มิได้ทรงเป็นองค์ประธานจึงเป็นสิ่งมิบังควรปฏิบัติ”

นายประมวล รุจนเสรี กล่าวว่า เหตุที่เขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาก็เพราะเห็นว่าปัจจุบันนี้ผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับพระราชอำนาจ โดยเฉพาะนักการเมือง ทั้งรัฐบาล ส.ส. และ ส.ว.นั้น มักจะทำอะไรล่วงเกินพระราชอำนาจตลอดเวลา และนักกฎหมายมหาชนก็มักจะมองพระราชอำนาจแต่เรื่องลายลักษณ์อักษร มองข้ามนิติราชประเพณี และหลงลืมประวัติศาสตร์ของชาติ เลยทำให้เกิดการล่วงละเมิดพระราชอำนาจโดยไม่รู้ตัว

นายประมวล กล่าวด้วยว่า ไม่เพียงแต่นักการเมืองและนักกฎหมายเท่านั้น แต่ประชาชนคนไทยทั่วไปก็ควรจะได้อ่านหนังสือเล่มนี้ เพราะหากเข้าใจเรื่องพระราชอำนาจอย่างถูกต้องแล้ว จะทราบว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไม่ได้อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญอย่างที่มีการอ้างกันในชั้นหลังๆ แต่ทรงเป็นองค์อธิปัตย์อยู่เหนือรัฐธรรม

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในหนังสือ “พระราชอำนาจ” ฉบับพิมพ์ครั้งที่สอง ยังระบุถึงนิติราชประเพณีที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาที่คนไทยและฝ่ายราชการผู้เกี่ยวข้องต้องตระหนักว่า พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่พระมหากษัตริย์ทรงนำเข้าสู่ประเทศไทยมาแต่อดีต (ที่มีหลักฐานชัดเจนก็สมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช) และพระมหากษัตริย์ทรงเป็นเอกอัครศาสนูปถัมภกพระพุทธศาสนา อันเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของพระมหากษัตริย์มาจนปัจจุบัน

ในหนังสือระบุว่า พระมหากษัตริย์เป็นผู้ทรงสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชมาตั้งแต่กรุงสุโขทัยเป็นราชธานีซึ่งมีพระสังฆราชถึง 3 องค์ คือ พระสังฆราชคณะคามวาสีฝ่ายซ้าย พระสังฆราชคณะอรัญวาสี และ พระสังฆราชคณะคามวาสีฝ่ายขวา

ต่อมาสมัยอยุธยามีการปรับปรุงให้เจ้าคณะคามวาสีฝ่ายซ้าย-ขวาและอรัญวาสีต่างอยู่ภายใต้พระสังฆราชองค์เดียวกันและพระสังฆราชก็ทรงได้รับการสถาปนาจากพระมหากษัตริย์ ต่อมาสมัยกรุงรัตนโกสินทร์รัชกาลที่ 1-4 พระมหากษัตริย์ก็ยังทรงสถาปนาพระสังฆราชอยู่ แต่แบ่งซอยเจ้าคณะออกเป็นเจ้าคณะเหนือ เจ้าคณะกลาง เจ้าคณะใต้ และเจ้าคณะอรัญวาสี

ในสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2445 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ ทรงตราพระราชบัญญัติลักษณะปกครองคณะสงฆ์ ร.ศ.121 ขึ้นให้สอดรับกับการปกครองของบ้านเมือง พระมหากษัตริย์ในฐานะองค์เอกอัครศาสนูปถัมภกได้ทรงปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชด้วย โดยให้มีมหาเถรสมาคม-เจ้าคณะมณฑล-เจ้าคณะเมือง-เจ้าคณะแขวง-เจ้าอาวาสเป็นหน่วยปกครองลดหลั่นลงมาตามลำดับ

การที่พระมหากษัตริย์ทรงปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชเช่นนี้ พระสงฆ์จึงใช้สรรพนามแทนพระองค์ว่า "สมเด็จพระบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า" ประกอบกับวัดทุกวัดที่ถูกต้องตามกฎหมายจะต้องได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เท่ากับว่าพระมหากษัตริย์ทรงเป็นสมภารเจ้าอาวาสวัดทุกวัดโดยพฤตินัย แม้ทางนิตินัยทุกวันนี้วัดจะเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายมีเจ้าอาวาสเป็นสมภารโดยตรง แต่ "พระราชสมภารเจ้า" ก็ยังดำรงความเป็นสมภารเจ้าอาวาสวัดทุกวัดตามนิติราชประเพณี

ในสมัยรัชกาลที่ 8 มีการปรับปรุงกฎหมายคณะสงฆ์ใหม่ แต่พระมหากษัตริย์ก็ยังทรงเป็นผู้สถาปนาพระสังฆราชเหมือนเดิม

พ.ศ. 2535 มีการแก้กฎหมายบังคับให้ทรงสถาปนาสมเด็จพระราชาคณะผู้มีอาวุโสสูงสุดขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราช แต่ก็ยังมิได้มีการใช้กฎหมายในส่วนนี้เลย และมีบทบัญญัติให้นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราชกรณีที่มิอาจทรงปฏิบัติหน้าที่ได้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีได้ลงนามแต่งตั้งพระราชาคณะรูปหนึ่งเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช จนสังคมพากันตำหนิติเตียนว่าไม่สมควรที่ฆราวาสในระดับนายกรัฐมนตรีจะดำเนินการเช่นนั้น ในที่สุดต้องออกพระราชกำหนดมาแก้ไขให้มหาเถรสมาคมเป็นผู้ประชุมกำหนดให้พระราชาคณะองค์หนึ่งหรือหลายองค์ทำหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช

วิธีการเช่นนี้ได้ผิดจากนิติราชประเพณีที่กำหนดให้พระมหากษัตริย์ในฐานะองค์เอกอัครศาสนูปถัมภกและในฐานะทรงเป็นพระราชสมภารเจ้าเป็นผู้ทรงสถาปนา ก็ชอบที่จะถวายพระราชอำนาจนี้คืนโดยแก้กฎหมายเสียใหม่ ถ้าปล่อยปละละเลยละล้าละลังไม่กล้าตัดสินใจก็จะเกิดสังฆาเภทเป็นอนันตริยกรรมที่หนักของรัฐบาล

แฉเบื้องหลัง “ทักษิณ”นั่งประธาน
จัดงานทำบุญประเทศที่วัดพระแก้ว

สำหรับการจัดทำพิธีทำบุญประเทศ มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า “งานศาสนสัมพันธ์สมานฉันท์แห่งชาติ” มีขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 เม.ย. 2548 ที่ผ่านมา ณ โบสถ์วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้วมรกต โดยมีแม่งานใหญ่ที่เป็นผู้จัดคือ ศูนย์คุณธรรม ที่อยู่ภายใต้การดูแลของ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ศ.ระพี สาคริก เคยออกมากล่าวติติงการกระทำดังกล่าวแล้วครั้งหนึ่ง โดยครั้งนั้นศ.ระพี ได้เขียนจดหมายถึงนายสนธิ ลิ้มทองกุล นักหนังสือพิมพ์ชื่อดังจากหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ และตีพิมพ์ลงใน “ผู้จัดการออนไลน์” เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 2548 ที่ผ่านมา พร้อมระบุชัดในตอนหนึ่งว่า โบสถ์วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ก็เป็นสถานที่ซึ่งพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์เท่านั้นที่จะเข้าไปทำพิธีได้ คนธรรมดาเข้าไปทำอะไรระวังเหาจะขึ้นหัว

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เนื้อหาของจดหมายตอนหนึ่ง ศ.ระพี ระบุชัดว่า นายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นประธานประกอบพิธีศาสนาในโบสถ์วัดพระแก้ว แถมยังแต่งตัวแบบลำลอง นั่งบนพรมสีแดง มีเจ้าหน้าที่เข้าไปก้มศีรษะมอบเครื่องกรวดน้ำให้ พร้อมย้ำว่า “ผมไม่เคยเห็นภาพอย่างนี้มาก่อนในชีวิต”

สำหรับ...จดหมายจากศ.ระพี สาคริก มีรายละเอียดดังนี้คือ

เรียน คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ที่เคารพ

ผมติดตามรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ แทบทุกวันศุกร์ ยกเว้นการเดินทางไปทำงานในพื้นที่

เพราะรายการที่คุณทำร่วมกับคุณสโรชา พรอุดมศักดิ์ มีเนื้อหาสาระที่ให้ประโยชน์ ทั้งในด้านเป็นข่าว และเป็นแง่คิดที่เกี่ยวกับวัฒนธรรมของสังคม

เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 6 พฤษภาคม ที่ผ่านมา คุณหยิบยกเอาประเด็นคณะรัฐมนตรีจะจัดประชุมสัญจร ที่ปราสาทหินเขาพนมรุ้ง ซึ่งเมื่อ 60 ปีกว่ายังเป็นป่า ผมเคยไปเดินเกวียนอยู่ที่นั่น

ประเด็นสำคัญ คุณได้อธิบายชี้แจงว่า ปราสาทพนมรุ้งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับกษัตริย์ประกอบพิธี ซึ่งเป็นของสูงทางวัฒนธรรม แม้แต่ที่โบสถ์วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ก็เป็นสถานที่ซึ่งพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์เท่านั้นที่จะเข้าไปทำพิธีได้

ถ้าคนแต่ก่อนเขาพูดก็คงพูดว่า -- คนธรรมดาเข้าไปทำอะไรระวังเหาจะขึ้นหัว

คุณสนธิบอกว่า ลูกน้องคิดทำให้เจ้านาย เพื่อยกย่อง ถ้าเราไม่ลืมสัจธรรมสิ่งหนึ่งซึ่งมีผู้พูดครั้งแล้วครั้งเล่าว่า "ลูกน้องมักทำให้ผู้ใหญ่เสียหาย" ถ้าผู้ใหญ่ลืมตัว ขณะนี้เป็นกันมากจริง ๆ ครับ

เมื่อคุณหยิบยกเอาข้อความที่ว่า เช่น ในโบสถ์วัดพระแก้วมรกต "เรื่องนี้เกิดขึ้นแล้วครับ" คุณสนธิก็คงจะมีอยู่ในใจแล้วก็ได้

เมื่อช่วงสงกรานต์ ผมชมข่าวทางโทรทัศน์ กล้องจับองค์พระแก้วมรกต กับจับที่คุณทักษิณ แยกกันเป็นทีละตอน ผมก็สงสัยแล้วว่าอาจเป็นที่เดียวกัน แต่ผมก็ไม่เชื่อสายตาว่าจะมีการอาจเอื้อมขนาดนั้น เพราะคนนี้ได้รับคัดเลือกมาจากประชาชนทั่วประเทศควรจะเป็นคนรู้จักเจียมตน

แต่วันรุ่งขึ้น ผมเห็นภาพสีเต็มหน้าหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจและภาพสีในหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ว่า นายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นประธานประกอบพิธีศาสนาในโบสถ์วัดพระแก้ว แถมยังแต่งตัวแบบลำลอง นั่งบนพรมสีแดง มีเจ้าหน้าที่เข้าไปก้มศีรษะมอบเครื่องกรวดน้ำให้

ผมไม่เคยเห็นภาพอย่างนี้มาก่อนในชีวิต

เห็นแต่องค์พระมหากษัตริย์หรือพระราชวงศ์แต่งฉลององค์ด้วยเครื่องราชอิสริยยศเท่านั้น

หลายคนเอาภาพนี้มาให้ดูกัน และคิดกันเอาเอง ทำให้ผมนึกในใจว่า ขณะนี้บ้านเมืองเกิดอาเพศขึ้นมาแล้วหรือ ?

อย่างที่โบราณกล่าวความตอนหนึ่งไว้ว่า “กระเบื้องจะเฟื่องฟูลอย น้ำเต้าน้อยจะถอยจม” ผมดูแล้วใจหดหู่มากครับ

ที่คุณสนธิกล่าวสาปแช่งไว้ตอนใกล้จะปิดรายการ ผมว่ามันยังน้อยไป

คุณสนธิพูดเรื่อง เจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตรฯ หากจำได้ เมื่อไม่กี่ปีมานี้มีเรื่อง "ผักสวนครัว รั้วกินได้" มีหนังสือพิมพ์ผู้จัดการมาขอสัมภาษณ์ความคิดเห็นจากผม ผมพูดไว้ตอนหนึ่งว่า

"ถ้าเอาเรื่องจริง ๆ อาจไม่มีคุกจะใส่พอ"

คนในเกษตร โกรธผมมาก ถึงกับกล่าวว่า "เกิดในเกษตร แท้ ๆ พูดยังงี้ได้ยังไง ?" ผมไม่อยากโต้เถียง เพราะถือว่าพูดด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่ในใจก็อดคิดไม่ได้ว่า "ถ้าไม่รักกันจริง ก็ไม่พูดตรง ๆ"

แต่การที่มีคนกลุ่มหนึ่งพูดว่า เกิดในเกษตรแท้ ๆ พูดได้ยังไง ? มันสะท้อนให้เห็นความรู้สึกของคนในเกษตรส่วนมาก ถือพวกมาตั้งแต่อยู่ในระบบการจัดการศึกษาแล้ว ยิ่งมาโดนนักการเมืองสมัยนี้ด้วย ยิ่งช้ำหนัก

ผมเคยตอบคำถามโทรทัศน์หน้าอนุสาวรีย์สามบูรพาจารย์ ที่เขาถามว่า อาจารย์รักเกษตรหรือเปล่า ?

ผมตอบ รักสิครับเพราะเป็นของพื้นฐานแผ่นดินไทย แต่ผมไม่ใช่พวกเกษตร ?

ใครจะคิดได้ไม่ได้ก็แล้วแต่ครับ แต่มันเป็นมานานแล้ว จึงทำให้ปัญญามืดบอด ไม่ยังงั้นชีวิตเกษตรกรจะดีกว่านี้มาก

ด้วยความเคารพอย่างสูง

ระพี สาคริก


Posted by : Copy มาให้อ่านกันครับ , Date : 2005-11-06 , Time : 01:57:33 , From IP : 172.29.7.247

ความคิดเห็นที่ : 6


   คนรักชาติอย่างเราทนแทบไม่ได้กับหลายเหตการณ์ที่ คนๆนี้ทำ เกินไปแล้ว แต่คนก็ยังเห็นแก่อำนาจเงินล้นฟ้าของเค้า หารู้ไม่อีกหน่อยจะอยู่จะกินก็ต้องซ้ำทุกอย่างจากเครือข่ายของไอคนนี้หมด คอยดูสิ ตอนนี้แค่เติมน้ำมันปตท กะค่าไฟฟ้าก็แย่แล้ว อีกหน่อยก็ต้องฝากเงินกับธนาคารทักษิณ ต้องจ่ายค่าน้ำกับบริษัททักษิณ เมื่อไหร่ผู้คนจะตาแจ้งกันสักที หันมารักแผ่นดินแทนความสบายชั่วครู่ยาม ไม่สงสารลูกหลายภายหน้าบ้างหรือไง ใครที่เลือกๆอยู่หนะเปิดตาเปิดใจบ้าง แต่ไม่ได้หมายความว่าเลือกใครแล้วจะดีกว่านะพิจารณากันเองเอง แต่เอาที่มันโกงน้อยกว่านี้หนะ ช่วยประเทศชาติ แผ่นดินที่อาศัย กันหน่อย ถ้าไม่เห็นแก่ใครก็เห็นแก่ตัวเองแล้วกัน
เวรกรรมอาจตามไม่ทัน แบบทันทีทันใดก็จริง แต่คงไม่เกินชาตินี้หรอกใครทำอะไรไว้ รวยล้นฟ้าแต่ต้องระแวดระวังตลอดเวลาว่ามีใครจ้องแทงข้างหลัง จ้องเปิดโปง จ้องทำลายมั๊ยไม่มีความสุขหรอก
ขอให้ประเทศไทยสงบสุข


Posted by : 111 , Date : 2005-11-06 , Time : 06:01:38 , From IP : 172.29.7.45

ความคิดเห็นที่ : 7


   คนใหญ่ๆก็ไปเยอะนะครับ ก่อนหน้า ที่นายกจะเข้าไปทำบุญที่วัดพระแก้วไม่มีผู้ทักทักท้วง หรือยังไงกัน ว่าสมควร หรือไม่สำควร ถ้านายกไปทำคนเดียวว่าไปอย่าง

Posted by : เด็กแนว , Date : 2005-11-06 , Time : 08:42:52 , From IP : 172.29.1.165

ความคิดเห็นที่ : 8


   มี "คนใหญ่" ไปเยอะทำให้เรื่องอะไรก็ตามมันถูกต้องได้หรือครับ?



Posted by : Phoenix , Date : 2005-11-06 , Time : 09:28:23 , From IP : 58.147.23.156

ความคิดเห็นที่ : 9


   อย่างน้อยก็น่าจะมีสักคนที่เป็น คนใหญ่คนโต ที่พอจะบอกนายกได้ ไม่ใช่เห็นดีเห็นงามไปหมด จนงานเสร็จแล้วสื่อค่อยมาเผยทีหลัง เหมือน วัวหายแล้วล้อมคอก ผมไม่ได้คิดอะไรหรอกครับ เพราะหลังๆมีกระทู้ เกี่ยวกับนายกเยอะไปหน่อย เลยรู้สึกว่านายกคนนี้ไม่สมควรเป็นนายก ?

Posted by : เด็กแนว , Date : 2005-11-06 , Time : 12:36:45 , From IP : 172.29.7.184

ความคิดเห็นที่ : 10


   คงไม่เกี่ยวกับว่ามีคนใหญ่คนโตกี่คนคิดว่าเขา "สามารถเตือน" ท่านนายกได้ มันน่าจะขึ้นอยู่กับว่าท่านนายก "คิดว่า" มีใครที่ใหญ่โตกว่าท่านพอที่จะเตือนท่านได้หรือไม่มากกว่าไหมครับ



Posted by : Phoenix , Date : 2005-11-06 , Time : 13:36:22 , From IP : 58.147.23.156

ความคิดเห็นที่ : 11


   แล้วจะมีคนดีศรีอยุธยา คนนั้นไหมครับ ?

Posted by : เด็กแนว , Date : 2005-11-06 , Time : 13:58:20 , From IP : 172.29.1.165

ความคิดเห็นที่ : 12


   คิดว่าบางครั้งคนเราก็ต้องมีการเรียนรู้ ท่านนายกทักษิณก็กำลังเรียนรู้และได้รับบทเรียน ประชาชนคนไทยก็กำลังเรียนรู้และกำลังได้รับบทเรียนเช่นกันแต่บทเรียนของประชาชนคือการต้องสูญเสียแต่บทเรียนของนายกทักษิณคือกำไร

Posted by : นกน้อย , Date : 2005-11-06 , Time : 18:39:29 , From IP : ppp-210.86.142.199.r

ความคิดเห็นที่ : 13


   คิดว่าบางครั้งคนเราก็ต้องมีการเรียนรู้ ท่านนายกทักษิณก็กำลังเรียนรู้และได้รับบทเรียน ประชาชนคนไทยก็กำลังเรียนรู้และกำลังได้รับบทเรียนเช่นกันแต่บทเรียนของประชาชนคือการต้องสูญเสียแต่บทเรียนของนายกทักษิณคือกำไร

Posted by : นกน้อย , E-mail : (-) ,
Date : 2005-11-06 , Time : 18:39:59 , From IP : ppp-210.86.142.199.r


ความคิดเห็นที่ : 14


   คุณเด็กแนวครับ

ที่ผมว่าไปนั้น คำสำคัญไมได้อยู่ที่ "ใคร" แต่อยู่ที่ท่านทักษิณ "คิด" หรือไม่ ว่าชีวิตนี้จะ"ฟัง" คำเตือนอะไรหรือไม่ โดยธรรมชาติอล้ว คำเตือนมันจะมาขัดแย้
กับสิ่งที่คนๆนั้นคิดหรือทำ ทว่าบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมบริบทเท่าที่ผ่านมา ดูเหมือน "ท่าน" จะไม่ค่อยแสดงออกมาว่ามีสักกี่คนที่ท่านจะยอมเปลี่ยนพฤติกรรมหรือความคิดให้



Posted by : Phoenix , Date : 2005-11-06 , Time : 21:15:25 , From IP : 58.147.23.156

ความคิดเห็นที่ : 15


   เห็นด้วยกบอาจารย์นกไฟสองหัวครับ
เคยอ่านบทความเกี่ยวกับทักษิณมาเยอะครับ
เคยเห็นคนเตือนมันได้ไหมครับ องค์ประมุขของชาติเอง"มัน"ยังไม่สนใจเลยครับ
คงมีแต่คนหนุนหลังแบบ จอร์จ w. spp. เม่านั้นแหละครับที่คงเตือนได้
ยิ่งช่วงนี้มีกระแสเรื่องงบประมาณเห็นได้ชัดว่า ทำตามใจสุดๆ ใครตามข้าอยู่ใครขวางข้าตาย ประมาณนี้
พอแค่นี้ดีกว่า กับมันตัวนี้ ผมไม่อยากของขึ้น
สมัยอย่าเลือกมันเลยนะ อยากเลือกพรรคมันเลยนะ


Posted by : อัตโต้ย , Date : 2005-11-07 , Time : 08:20:27 , From IP : 172.29.4.130

ความคิดเห็นที่ : 16


   อีกมุมหนึ่งของนายก
เป็นนายกรัฐมนตรีที่เอาใจใส่คนยากคนจนหรือชนชั้นรากหญ้า ซึ่งเป็นชนชั้นที่มีมากที่สุดของประเทศ ( ทั้ง ๆ ที่เขาเป็นคนที่แทบจะรวยที่สุดของประเทศ ) ไม่ว่ามันจะถูกตราหน้าว่าทำไปเพื่อการหาเสียง หรือเป็นประชานิยมห่าเหวอะไรก็ตามที

ขอเพียงในชาตินี้ชนชั้นที่ไม่มีโอกาสจะได้มีบ้านเป็นของตัวเองแบบคนกวาดขยะข้างถนน คนขายข้าวแกงข้างทาง หรือตาสีตาสาชาวไร่ชาวนาที่จนซ้ำซากอยู่ตลอดชาติ ได้มีโอกาสที่จะฝันถึงบ้านเอื้ออาทร ถึงแม้ว่ามันจะหมายถึงการต้องไปแข่งขันและวัดดวงกับคนอีกเป็นแสนเป็นล้านก็ตามที แต่อย่างน้อยมีโอกาสไม่มากก็ยังดีกว่าไม่มีโอกาสเป็นไหน ๆ

ชื่นชมตรงที่เขากล้าปราบปรามยาเสพย์ติดอย่างถึงลุกถึงคน จนประชากรไทยที่กลายเป็นขี้ยาไปแล้วค่อนประเทศ ได้กลับมามีชีวิตใหม่ฟื้นคืนมาเป็นผู้เป็นคนกับเขาอีกครั้ง แม้จะถูกกระหน่ำโจมตีจากพวกค้ายาที่เสียผลประโยชน์มากมายขนาดไหนก็ตาม

พักหนี้เกษตรกร กองทุนหมู่บ้าน สามสิบบาทรักษาทุกโรค สิ่งเหล่านี้แม้ว่าจะมีข้อครหาจากพวกที่ไม่ชอบทำแต่ระยำชอบติมันค่อนแคะว่าจะเป็นการล้างผลาญงบประมาณของประเทศอย่างไรก็ตาม แต่เจ็ดแปดหมื่นล้านที่ชาวบ้านทุกคนได้ใช้ประโยชน์ถึงจะไม่ได้คืนมา มันก็ยังดีกว่าการที่รัฐบาลประชาธิปัตย์เอาเงินของชาติเป็นหลาย ๆ แสนล้านไปโอบอุ้มพวกล้มบนฟูกในยุคฟองสบู่แตกเพียงไม่กี่สิบคนเป็นไหน ๆ ( เพราะนั่นก็ไม่ได้คืนเหมือนกัน )

และอีกมากมายหลาย ๆ อย่างที่ผู้ชายคนนี้ ทำดีให้กับชาติให้กับแผ่นดินและประชาชนคนไทยทั้งประเทศ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะรักจะหลงเขาจนลืมหูลืมตาไม่ขึ้น อะไรที่เขาทำต้องเห็นดีเห็นงามไปหมด


Posted by : เด็กแนว , Date : 2005-11-07 , Time : 10:28:04 , From IP : 172.29.1.149

ความคิดเห็นที่ : 17


   บางอย่างมันเป็น "หน้าที่" ของ นายกฯที่ต้องทำ ก็ไม่น่าจะเรียกว่า "ทำดี..จนน่ายกย่อง"

เหมือนอย่าง พบของคนอื่นตกอยู่ ก็เป็น" หน้าที่" ของ "พลเมือง(ดี)" ที่จะ "ต้อง" เก็บไปคืนเจ้าของ ... เราก็น่าจะเห็นเป็นเรื่อง"ปกติ" มิใช่น่าเรื่องต้องป่าวประกาศ .. ใช่หรือไม่

แต่ตอนนี้เรากำลังโหยหา "คนดี" "ความดี" แม้แต่เข้าทำ "หน้าที่ ที่ควรทำ" เรากลับต้องประกาศ ยกย่องให้เป็นตัวอย่าง ... มันอะไรกันนี่


Posted by : ทำหน้าที่ขั้นพื้นฐาน แต่มายกย่ , Date : 2005-11-07 , Time : 12:25:19 , From IP : 172.29.3.244

ความคิดเห็นที่ : 18


   ศ.นพ.ประเวศ วะสี เคยพูดไว้ว่าวัฒนธรรมตะวันตกเน้นที่ "แสวงหาความสุข" ขณะที่ทางตะวันออกเน้นที่ "แสวงหาความพ้นทุกข์" ซึ่งต่างกันเยอะเหมือนกัน โดยเฉพาะ "การแสวงหาเพื่อได้...." นั้น มีโอกาสที่เราจะ addict ในสิ่งที่ได้ และเสียใจเมื่อ "สูญเสีย" ของที่การันตีว่าไม่เที่ยงแท้แน่นอน

ถ้าเรามองว่ามีคนสัญญาว่าจะ "ให้" อะไรเรามากๆ จนบางทีลืมพิจารณาว่าอะไรที่เรา "สูญเสีย" เป็นการแลกเปลี่ยน ก็อาจจะเกิด false sense of happiness ขึ้นมา เกิดความพึงพอใจในสถานะนั้นๆ บางครั้งแม้แต่ "ยังไม่ได้" สิ่งนั้นที่สัญญาว่าจะให้ แต่เริ่มมีการสูญเสียไปเรียบร้อยแล้ว คนเราก็ยังอุตส่าห์มีความสามารถสร้าง perception ว่ารออีกหน่อยมันน่าจะดีขึ้นตามนั้น เพราะทั่วๆไปคนเราอยู่ด้วย "ความหวัง" ก็เยอะใช่ไหมครับ เช่น การซื้อลอตเตอรี การเล่นการพนัน การส่ง mail order ของ reader digest ฯลฯ

อีกประการที่อาจจะไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้มากนัก เวลาที่อภิปรายแบบสร้างสรรค์นั้น บางคนอาจจะถือว่าการใช้ภาษาหยาบคาย กักขฬะ นั้นเป็น "bad form" ที่ต้องการจะ aggravate ให้ใช้ emotion มากกว่าการสื่อด้วยตรรกะและเหตุผล ถ้าเป็นเพราะปกติใช้ภาษาอย่างนั้นสื่ออยู่แล้วในสังคมใกล้ชิดของตนเองก็ไปอย่าง แต่ถ้าไม่ใช่ และ "จงใจ" หยาบใส่กัน ตรงนี้มันจะเกิดมาจาก communication skill ของแต่ละคนได้ว่าจะสื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพแค่ไหน

ผมคิดว่าอุปมา อุปมัย หรือสาธกโวหาร พรรณนาโวหาร มันก็ยังมี grade ของมันอยู่ว่าขนาดไหนจะลงไปเป็น bad taste ได้




Posted by : Phoenix , Date : 2005-11-07 , Time : 15:21:55 , From IP : 172.29.3.235

ความคิดเห็นที่ : 19


   คุณเด็กแนว ผมว่าคุณเป็นหนึ่งในตัวอย่างของคนที่โดนมอมเมาแล้วละครับ เป็นหนึ่งในคนที่มองความเป็นไปแบบฉาบฉวย
พรุ่งนี้ให้คุณไปซื้อหนังสือพิมพ์หนึ่งเล่มมาอ่าน ห้ามเป็นไทยรัฐ เดลินิวส์ ข่าวสด
แล้วอ่านคอลัมภ์วิเคราะห์การเมืองซะ ไม่ต้องเป็นผู้จัดการรายวันครับ เพราะนั่นจะทำให้คุณรู้สึกอคติต่อหนังสือพิมพ์นี้ทันที (ถ้าคุณยังมัวเมาหน้าเหลี่ยมถึงเพียงนี้อยู่) ผมแนะนำไทยโพส์ มติชนรายสัปดาห์ เนชั่น สยามสัปดาห์วิจารณ์ เป็นต้น อ่านในประเด็นเหล่านี้ ซึ่งเป็นที่วิพากษ์ในสังคมครับ
1.หลวงตามหาบัว ออกมาเปรียบหน้าเหลี่ยมเป็นพระเทวทัตเพราะอะไร นายทองก้อนคือใคร กำลังล่ารายชื่อประชาชนทำไม เกี่ยวอะไรกับนายวิศณุ เครืองาม
2. หาว่าตอนนี้พรรคฝ่ายค้านมี สส กี่คน (อาจจะดูถูกไปสักหน่อย บางทีคุณอาจจะตอบได้) แล้วทำไมการแข่งขันที่ จ.พิจิตร หน้าเหลี่ยม ถึงต้องไปสร้างภาพ(อีกแล้ว) นอนกุฎิวัด ตอบคำถามว่าหนึ่งคะแนนที่พิจิตรสำคัญอย่างไร ... และเกี่ยวอะไรกับ สส. ตุ่น (สส หนึ่งในสองคน ของพรรคมหาชน)
3. ช่วยตอบผมหน่อยได้มั้ยครับ ว่าทำไมอย่างน้อยสามรัฐมนตรี ของไทยรักไทย ต้องออกมาคัดค้านการก่อสร้างเส้นทางรถไฟฟ้าส่วนขยายไปฝั่งธนบุรี ที่ผู้ว่าอภิรักษ์ สนองความต้องการคนกรุง ทั้งๆที่โครงการผ่านความเห็นชอบการก่อสร้างเรียบร้อยแล้วในสมัยนายสมัครเป็นผู้ว่า กทม. และรัฐบาลเองนั่นแหละที่เตะถ่วงโครงการนี้ไม่ยอมอนุมัติเงินเสียที จน กทม ต้องขอออกเองทั้งหมด
4. ตอบหน่อยเถอะครับว่าในโลกนี้มีกี่ประเทศที่นายก มีเครื่องบินประจำตำแหน่ง ผมเองก็มิทราบ แต่ท่านควรจะรู้ว่ามันมีความจำเป็นมากกว่ารถไฟฟ้ายังไง
5. ช่วยตอบหน่อยเถอะครับ ว่าท่านต้องการนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย หรือนายกของประชาชนไทยรักไทย นายกที่จะพัฒนาจังหวัดที่เลือกไทยรักไทยก่อนจังหวัดอื่นๆ (ท่านน่าจะคิดผิดที่เป็นทาสไทยรักไทย แต่อาศัยในสงขลา)
ุ6. ช้าไปไหมครับ ถ้าจะให้ท่านกลับไปอ่านเรื่อง CTX
ึ7. สงสัยมั้ยครับทำไมเมืองไทยรายสัปดาห์ (รู้จักรายการนี้มั้ยครับ) โดนปลดจากผัง อสมท ส่วนรายการของสมัครกับดุสิต ยังอยู่ได้ทั้งๆที่เป็นรายการประเภทเดียวกัน
8. ไปดูนะครับว่า การเปิดเขตการค้าเสรีกับออสเตรเลียนั้น ประเทศไทยจะได้เปรียบในการลงทุนธุรกิจอะไร โทรคมนาคมใช่หรือไม่ ส่วนเกษตรกรอย่าหวังเลยครับ เปิดเมื่อไหร่สินค้าเกษตรจากออสเตรเลียน่าจะทะลักมาตีราคาในไทย
9. ไปดูนะครับ ว่าหุ้น ปตท หลังแปรรูปปั๊บโดนขายหมดหลังตลาดเปิดกี่นาที และหุ้นส่วนใหญ่อยู่ในมือใคร นามสกุลอะไร
10. ไปย้อนดูการให้สัมภาษณ์ของนายกทักษินในกรณีภาคใต้แต่ละครั้ง แล้วถามตัวเองว่ามันมีส่วนในการสร้างเสริมสันติภาพอย่างไรบ้าง ถ้ามิใช้ัจะทำให้เกิดการยั่วยุมากขึ้น
11. ไปอ่านดูนะครับ ว่าวันนี้นายกจะสร้างเมืองใหม่ที่ไหนอีก นอกจากนครนายก และสุวรรณภูมิ (นโยบายรายวันชัดๆ)
12. 30 บาทรักษาทุกโรคนะ ไปดูนะครับว่าหน้าเหลี่ยมและครอบครัว มีหุ้นใน รพ เอกชนอะไรบ้าง
13. ดาวเทียมของชินคอร์ปที่เพิ่งยิงขึ้นฟ้าน่ะ ได้รับการยกเว้นภาษีกี่หมื่นล้าน เพราะอะไร
14. รู้จักผู้ว่า สตง มั้ยครับ สงสัยมั้ยว่าทำไมคุณหญิงจารุวรรณ ถึงไม่มาทำงาน แกขี้เกียจเหรอ (หึหึหึ)
15. ไปอ่านหนังสือพระราชอำนาจ นะครับ เขียนโดนนายประมวล สมาชิกพรรคไทยรักไทยนั่นแหละ
16. ตอนนี้ท่านเสียภาษีหรือยังครับ ถ้าเสียแล้วรู้สึกอย่างไรครับ ที่คนรวยล้นฟ้า โกงชาติโดยการซุกหุ้นให้คนขับรถ (เรื่องเก่า แต่มันอดไม่ได้ครับ)
มีอีกเยอะ ว่างๆเราน่าจะได้คุยกันบ้างนะ (คุณดื่มเบียร์มั้ย หึหึหึ)


Posted by : ไม่ใช้ประชาธิปัตย์ แต่เป็นคนไท , Date : 2005-11-07 , Time : 21:29:14 , From IP : 172.29.7.252

ความคิดเห็นที่ : 20


   ขอบคุณครับคุณ ไม่ใช้ประชาธิปัตย์ แต่เป็นคนไท ที่แนะนำ

Posted by : เด็กแนว , Date : 2005-11-08 , Time : 08:29:44 , From IP : 172.29.1.165

ความคิดเห็นที่ : 21


   ดื่มครับนิดหน่อย

Posted by : เด็กแนว , Date : 2005-11-08 , Time : 08:34:51 , From IP : 172.29.1.165

ความคิดเห็นที่ : 22


   รอคอยเวลาที่ปัญญาชนลุกขึ้นสู้ เสียดายที่ genration ใหม่อยู่ในยุค beuty and the sex สู้เพื่อในหลวง คนอย่างมัน อหังการ มมังการ สมควรตาย ไม่มีแผ่นดินฝัง

Posted by : ninja , Date : 2005-11-08 , Time : 15:13:52 , From IP : 203.156.45.159

ความคิดเห็นที่ : 23


   รู้มั๊ย..
ทำไมถึงทำให้ ปกส เบิกค่ารักษา ได้มากขึ้น เช่น
-เมียมาคลอดเบิกได้ ไม่อั้น
-ลูกมีปัญหา ก็เบิก ปกส (ทำไมไม่ 30บาท)
-เมียน้อย (แค่เซ็นต์รับรอง) ก็เบิกได้
-ทำฟันไม่อั้น
ฯลฯ
......เพราะ ปกส เงินเหลือเยอะจนธนาคาร ไม่รับฝาก
......แต่ 30 บาทจะเจ๊ง


Posted by : นี่ก็ผลงาน , Date : 2005-11-08 , Time : 16:58:12 , From IP : 172.29.3.244

ความคิดเห็นที่ : 24


   มันเป็นความจริงหรือเรื่องเล่าต่อๆกันมาครับ คุณ Posted by นี่ก็ผลงาน() 2005-11-08 , 16:58:12 , 172.29.3.244



Posted by : เด็กแนว , Date : 2005-11-09 , Time : 09:00:22 , From IP : 172.29.1.146

ความคิดเห็นที่ : 25


   มีคนที่ได้ชื่อว่าเป็นคนใต้ สงขลานั่งอยู่ด้วย คนนี้ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ ความสบาย และเป็นคนที่รู้อะไรควรไม่ควร แต่ในรัฐบาลนี้เขาทำอะไรหลายอย่างที่อัปยศอย่างมาก (การแต่งตั้งรักษาการณ์สังฆราช) รวมทั้งนั่งในงานนี้โดยไม่ห้ามปราม นายก ความวิบัติจะเกิดขึ้นกับตัวอย่างแน่นอน

Posted by : กก , Date : 2005-11-09 , Time : 12:49:53 , From IP : 172.29.2.243

ความคิดเห็นที่ : 26


   คนๆนั้นคือใคร ครับ
สักวันนึง ถ้าจับได้ว่าทักษินทุจริต จริงๆ เราจะยึดทรัพย์มันได้มั้ยครับ
ในอดีต ผมไม่แน่ใจว่า เราเคยยึดทรัพย์ คณะ รสช ได้หรือเปล่า


Posted by : เชี่ยม เกลียดพวกขายชาติ , Date : 2005-11-10 , Time : 13:10:49 , From IP : 172.29.1.151

ความคิดเห็นที่ : 27


   คิดถึงคำว่า ประหาร เจ็ดชั่วโคตร จริงๆ

Posted by : มักใหญ่ใฝ่สุง ไม่ตายดีแน่ , Date : 2005-11-10 , Time : 13:11:49 , From IP : 172.29.1.151

ความคิดเห็นที่ : 28


   ความคิดเห็นที่ 2

เวลานี้ ก็ได้มีการชี้แจงแล้วเกี่ยวกับเรื่องภาพในวัดพระแก้ว โดยนายแก้วขวัญ วัชโรทัย-สำนักราชวังโดยยัน "ทักษิณ" ไม่ผิด พิธี วัดพระแก้ว รวมทั้ง ที่นี่

....สืบเนื่องจากมีเหตุการณ์ความไม่สงบ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รัฐบาลจึงได้มีความคิดจัดงานสมานฉันท์ ด้วยการจัดพิธีร่วมกันสวดมนต์อภิบาลรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และประชาชนคนไทย โดยคณะกรรมการชุดดังกล่าวมีตนเป็นประธานและมีสำนักราชเลขาธิการสำนักพระราชวัง ร่วมอยู่ด้วยซึ่งครั้งนั้นที่ประชุมได้มีมติให้มีการสวดมนต์ที่สวนอัมพร แต่มีผู้ใหญ่ในคณะกรรมการ เห็นว่าศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติการที่จะสวดมนต์ร่วมกับศาสนาอื่นอาจจะไม่เหมาะ เพราะจะต้องมีพิธีเจริญพระพุทธมนต์ด้วย จึงได้เสนอให้ใช้พระอุโบสถ ภายในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม

“ทางคณะกรรมการจึงได้ทำหนังสือกราบบังคมทูลขอพระบรมราชานุญาต 3 ข้อ คือข้อ 1 ขอใช้พระอุโบสถเพื่อทำการบำเพ็ญกุศล เจริญพุทธมนต์ ข้อ 2 ขอพระบรมราชานุญาต ถ่ายทอดสดทางช่อง 11 เพราะเห็นเป็นพิธีสำคัญ ข้อ 3 เนื่องจากมีคนต่างศาสนาเป็นจำนวนมากที่ร่วมพิธี แต่ไม่ประสงค์จะเข้าไปในพิธี จึงขอพระบรมราชานุญาต เปิดใช้ปราสาทพระเทพบิดร เพราะคนต่างศาสนาสามารถเข้าได้ ในที่สุด ได้มีหนังสือจากสำนักราชเลขาธิการตอบอนุญาตทั้ง 3 ข้อ ถ้าไม่มีพระบรมราชานุญาตใครจะเปิดปราสาทพระเทพบิดรได้ แต่เป็นที่ตกลงของสำนักพระราชวังก็สามารถดำเนินการได้ รัฐบาลไม่มีอำนาจที่จะไปจัดงานเอง เพราะเป็นเรื่องของฟ้าสูง แผ่นดินต่ำ จึงได้ขอประทานอนุญาต”

ในเรื่องการท้วงติง ในการจัดที่นั่งให้กับนายกรัฐมนตรี ว่าไปนั่ง ในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม ขอชี้แจงว่า ทางสำนักราชวังเป็นผู้จัด ให้ทั้งหมด รวมถึงพิธีกรวดน้ำ ทางเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังก็เป็นคนจัดให้ นอกจากนี้ในเรื่องของเครื่องแต่งกายที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า เมื่อเข้าไปในพระบรมมหาราชวังจะต้องแต่งชุดปกติขาว แต่คณะกรรมการเห็นว่าในงานนี้ร่วมกับประชาชนด้วย เกรงว่าจะเป็นการแปลกแยกออกจากประชาชนจึงไม่จำเป็นต้องแต่งชุดปกติขาว....

จากคุณ : DoUbLeChEeSeBuRgEr - [ 10 พ.ย. 48 15:11:37 ]

http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y3869157/Y3869157.html


Posted by : nonfire , Date : 2005-11-10 , Time : 20:09:46 , From IP : 172.29.4.114

ความคิดเห็นที่ : 29


   ขอบคุณครับ คุณ จากคุณ : DoUbLeChEeSeBuRgEr - [ 10 พ.ย. 48 15:11:37 ]
http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y3869157/Y3869157.html
Posted by nonfire() 2005-11-10 , 20:09:46 , 172.29.4.114




Posted by : เด็กแนว , Date : 2005-11-11 , Time : 12:44:33 , From IP : 172.29.7.214

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.012 seconds. <<<<<