จุดแข็งของ "ระบบ PBL" ที่ประสบความสำเร็จตาม "หลักการ PBL" คือ life-long learning จริงๆครับ
ดูจากตัวอย่างที่สำเร็จ "ตามหลักการที่ว่า" ที่คุณอดีตพชท.มอ.ว่ามาเองก็ได้ครับ
พวกเราลองมองรอบตัวดูก็ได้ว่าไอ้การอ่านหนังสือ โดยเจอ case ที่สนใจแล้วไปอ่าน ไปถามอาจรย์ เพื่อนที่เรียนต่อ เนี่ยเราทำกัน "เยอะ" กว่าเด็กพวกนี้ด้วยซ้ำ
ส่วนไอ้ประเภทตอนบ่ายไปนอน ก่อน + หลังสอบไม่ราว ไม่ดูคนไข้ ก็อบปี้ case ไปส่งรายงาน เนี่ยมีเยอะแบบนี้หรือไม่
ผมคิดว่าตรงนี้น่าจะเป็น "บทสรุปร่วม" กันว่าถ้าใครทำอย่างนี้ก็น่าจะดี ส่วนใครที่ทำอย่างย่อหน้าต่อมา คือตอนบ่ายไปนอน ก่อน+หลังสอบไม่ราวน์ ไม่ดูคนไข้นั้น ผมคิดว่า ไม่ว่าระบบไหน นักศึกษาคนนี้ก็ไม่น่าจะทำได้ดี
ทีนี้เรากำลังพูดถึง "ระบบ" หรือว่าพูดถึงความสำเร็จของคน ตรงนี้ต้องแยกกันให้ดี ถ้าสมมติตอนที่เรียน ให้เจอ case มีแหล่งค้น มีอาจารย์ที่ปรึกษา มีหนังสือ มีห้องสมุด มีสอนวิธีค้น แต่ปรากฏว่ามีคนที่ค้นไม่เป็น เปิด index ไม่ถูก คงจะสรุปไม่ได้ว่าถ้าไม่ได้สอนค้น สอนวิเคราะห์เลยนั้น นักศึกษาคนเดียวกันนี้น่าจะทำได้ดีกว่า น่าจะค้นได้ถูกต้อง น่าจะรู้ index ใช่หรือไม่?
คุณอดีตพชท.มอ. อาจจะไม่ทราบว่าปัจจุบันนี้การราวน์ ward การทำงานร่วมกันเป็นทีมนั้น เป็นแก่นของการเรียนรู้ในระบบ PBL แต่ถึงในอดีตผมก็ไม่แน่ใจนะครับว่ามีการ "ตัด นศพ.ออกจากระบบการดูคนไข้" อย่างที่ว่ามาจริงหรือไม่อย่างไร ถ้าหมายถึงการที่มี นศพ.บางคนอ้างว่าเดินไปราวน์กับอาจารย์ท่านอื่น แต่จริงๆไปนอน ไม่ทำงาน นั่นคงจะเป็นอีกเรื่อง มากกว่าจะเป็นระบบ เพราะคนที่คอยจะ exploit ระบบนั้น มีอยู่ในทุกระบบแหละครับ คนที่เรียนแบบเน้น lecture เน้นการสอบความรู้ ก็อาจจะให้ความสำคัญคลินิก หรือภาคปฏิบัติได้น้อยไม่ยิ่งหย่อนไปสักเท่าไร
การเรียนรู้โดย context หรือโดยบริบทจริงนั้น "ช่วย" ด้านการเรียนแน่นอน อย่างที่คุณ พชท. ว่ามา ถามว่าระบบใดที่จะเอื้ออำนวยมากกว่ากัน ถ้ามีเวลา 24 ชม. เท่ากัน? การสอน lecture โดยอาจารย์เป็นส่วนใหญ่ หรือการเรียนรู้จากปัญหาของคนไข้บน ward หรือเป็น case study? ที่จริงเรื่องนี้ก็คงจะมีคนสงสัยคล้ายๆกันว่าระหว่างสองระบบ (teacher-centered, textbook-based กับ student-centred, problem-based) แบบไหนจะดี ก็มีการวิจัยมาจริงบๆ (เพราะถ้าใช้ personal experience เรามักจะจดจำความประทับใจที่ไม่ดี มากกว่า case ที่ใช้ได้ ทำให้แปลผลโดยอคติ)
อย่างน้อยผมเชื่อว่า ณ ขณะนี้ extern หรือ นศพ.คนที่ว่าภายใต้การดูแลของคุณ พชท. จะได้ถูกแนะนำสั่งสอนเพิ่มเติมว่า เรียนโดยใช้ "คนไข้เป็นฐาน" ที่ถูกต้อง ควรจะทำอย่างไร การค้นคว้าหาความรู้อย่างต่อเนื่อง หรือ life-long learning ควรจะค้นอย่างไร คงไม่ได้เน้นให้แกอ่าน lecture อ่านสมุดโน้ตต่อ แต่เน้นมาช่วยงานบน ward ก็เป็นที่น่ายินดีครับ
Posted by : Phoenix , Date : 2005-10-30 , Time : 20:38:12 , From IP : 58.147.23.8
|