ความคิดเห็นทั้งหมด : 6

topic : ระยะเปลี่ยนผ่าน (Transitional period)


   ระยะนี้เห็นหลายกระทู้มีความคิดเห็นในเรื่อง medical education ตั้งแต่ SDL PBL ไปจนถึง commed immersion และ evidence base
หลายความเห็นออกสู่สายตาคนภายนอก
เรื่องบางเรื่องแม้จะเป็นคำบ่น ตำหนิ วิจารณ์ แรงไปบ้างแต่ก็มีอะไรแฝงอยู่หลายอย่าง
ไม่ทราบว่า 7 ปีแห่ง PBL พอจะยังเรียกว่าเป็น ระยะเปลี่ยนผ่าน หรือระยะทดลองหรือเปล่า หรือนีคือความลงตัวแล้ว ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องธรรมดา พบเห็นทุกรุ่น หรือเป็นสิ่งที่เราควรไตร่ตรอง
บางทีจัดกิจกรรมระดมความเห็น นศพ แพทย์จบใหม่ extern จากระบบนี้สักวัน เพื่อคุยปัญหาคาใจ หมดข้อสงสัย และเพิ่มความมั่นใจก็น่าจะดี
เป็นกิจกรรมวันพุธบ่าย ทั้ง clinic+preclinic
เพราะเราลงเรือลำเดียวกัน


Posted by : อ้อ , Date : 2005-10-27 , Time : 02:30:57 , From IP : 172.29.4.211

ความคิดเห็นที่ : 1


   เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ ขอบคุณ คุณอ้อมากๆนะครับ

Posted by : mumoo , Date : 2005-10-27 , Time : 11:16:10 , From IP : 172.29.4.135

ความคิดเห็นที่ : 2


   เห็นด้วยอย่างยิ่ง ครับ

Posted by : สมพร , E-mail : (sompon@hotmail.com) ,
Date : 2005-10-27 , Time : 19:34:14 , From IP : 192.168.60.147


ความคิดเห็นที่ : 3


   เห็นด้วยเหมือนกันคะ



Posted by : precilnic , Date : 2005-10-28 , Time : 06:36:20 , From IP : 203.113.76.10

ความคิดเห็นที่ : 4


   PBL รุ่นหนึ่งตอนนี้เป็นแพทย์ใช้ทุนปี 1 (จบ intern แล้ว) ฉะนั้น product ของเราในปัจจุบันมีอยู 2 รุ่นครับ

"จุดแข็ง" ที่สำคญที่สุดของระบบ PBL คือ life-long learning และประโยชน์พ่วงอื่นๆคือความสามารถในการวิเคราะห์ ใช้เหตุผล และการทำงานเป็นทีม ผมเห็นด้วยว่าคงจะต้องใช้เวลาสักพักหนึ่งจึงจะทราบว่าเกิดสิ่งที่เราว่าหรือไม่



Posted by : Phoenix , Date : 2005-10-28 , Time : 11:27:59 , From IP : 172.29.3.163

แล้วถามใหม่ ... โอ้แม่เจ้าน้องเปิดไม่เป็นครับ ถือไม่รู้ว่าต้องใช้ " คำสำคัญ" เปิดจาก index ท้ายเล่มก่อน แล้วหาเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง หมอ มอ. รุ่นเดิม ที่ทำงานเยอะประสพการณืแยะเนี่ย ทำอะไรที่ว่า " PBLจังเลย " ได้ดีมานานแล้วแต่ถูกระบบ " ทำลาย " คุณสมบัตินี้ไปโดยการตัด นศพ. ออกจากสารบบการราว-การทำงาน-การเรียนรู้ซะ ! พวกเราลองมองรอบตัวดูก็ได้ว่าไอ้การอ่านหนังสือ โดยเจอ case ที่สนใจแล้วไปอ่าน ไปถามอาจรย์ เพื่อนที่เรียนต่อ เนี่ยเราทำกัน "เยอะ" กว่าเด็กพวกนี้ด้วยซ้ำ ส่วนไอ้ประเภทตอนบ่ายไปนอน ก่อน + หลังสอบไม่ราว ไม่ดูคนไข้ ก็อบปี้ case ไปส่งรายงาน เนี่ยมีเยอะแบบนี้หรือไม่ .. ผมคิดว่าระบบเดิม ( lecture ตามที่สมควร ร่วมกับ clinical correlate โดยอาจรย์ที่ " เก่ง " จริงๆ ) และการราวน์ผู้ป่วยแบบรับผิดชอบคนไข้กับพี่ๆ พชท.จริง ๆ ไม่ได้เสียหายและน่าจะดีหว่านี้ครับ จาก พชท.ที่มีประสพการณ์ตรงกับ extern ที่รพ.จังหวัด + Extern ERมอ. + นศพ. บน ward คร่อม 2 ระบบ ( post เฉยๆ โดยทราบดีอย่แล้วว่ามันจะหายไปในสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลง ) " />
ความคิดเห็นที่ : 5


   "จุดแข็ง" ที่สำคญที่สุดของระบบ PBL คือ life-long learning
- แน่ใจหรือว่าเป็น "จุดแข็ง" เพราะจากที่เคยราวกับ นศพ.
เคยมีคำถามที่หนังสือ(ชีทภาควิชา) ก็พิมพ์แล้ว สอนรอบสองแล้วเลยเอาหนังสือใส่มือ - > แล้วถามใหม่
... โอ้แม่เจ้าน้องเปิดไม่เป็นครับ ถือไม่รู้ว่าต้องใช้ " คำสำคัญ" เปิดจาก index ท้ายเล่มก่อน แล้วหาเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
หมอ มอ. รุ่นเดิม ที่ทำงานเยอะประสพการณืแยะเนี่ย ทำอะไรที่ว่า " PBLจังเลย " ได้ดีมานานแล้วแต่ถูกระบบ " ทำลาย " คุณสมบัตินี้ไปโดยการตัด นศพ. ออกจากสารบบการราว-การทำงาน-การเรียนรู้ซะ !
พวกเราลองมองรอบตัวดูก็ได้ว่าไอ้การอ่านหนังสือ โดยเจอ case ที่สนใจแล้วไปอ่าน ไปถามอาจรย์ เพื่อนที่เรียนต่อ เนี่ยเราทำกัน "เยอะ" กว่าเด็กพวกนี้ด้วยซ้ำ
ส่วนไอ้ประเภทตอนบ่ายไปนอน ก่อน + หลังสอบไม่ราว ไม่ดูคนไข้ ก็อบปี้ case ไปส่งรายงาน เนี่ยมีเยอะแบบนี้หรือไม่
.. ผมคิดว่าระบบเดิม ( lecture ตามที่สมควร ร่วมกับ clinical correlate โดยอาจรย์ที่ " เก่ง " จริงๆ ) และการราวน์ผู้ป่วยแบบรับผิดชอบคนไข้กับพี่ๆ พชท.จริง ๆ ไม่ได้เสียหายและน่าจะดีหว่านี้ครับ
จาก พชท.ที่มีประสพการณ์ตรงกับ extern ที่รพ.จังหวัด + Extern ERมอ. + นศพ. บน ward คร่อม 2 ระบบ ( post เฉยๆ โดยทราบดีอย่แล้วว่ามันจะหายไปในสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลง )



Posted by : อดีตพชท. มอ. , Date : 2005-10-30 , Time : 19:36:38 , From IP : 203.188.52.167

ความคิดเห็นที่ : 6


   จุดแข็งของ "ระบบ PBL" ที่ประสบความสำเร็จตาม "หลักการ PBL" คือ life-long learning จริงๆครับ

ดูจากตัวอย่างที่สำเร็จ "ตามหลักการที่ว่า" ที่คุณอดีตพชท.มอ.ว่ามาเองก็ได้ครับ
พวกเราลองมองรอบตัวดูก็ได้ว่าไอ้การอ่านหนังสือ โดยเจอ case ที่สนใจแล้วไปอ่าน ไปถามอาจรย์ เพื่อนที่เรียนต่อ เนี่ยเราทำกัน "เยอะ" กว่าเด็กพวกนี้ด้วยซ้ำ
ส่วนไอ้ประเภทตอนบ่ายไปนอน ก่อน + หลังสอบไม่ราว ไม่ดูคนไข้ ก็อบปี้ case ไปส่งรายงาน เนี่ยมีเยอะแบบนี้หรือไม่


ผมคิดว่าตรงนี้น่าจะเป็น "บทสรุปร่วม" กันว่าถ้าใครทำอย่างนี้ก็น่าจะดี ส่วนใครที่ทำอย่างย่อหน้าต่อมา คือตอนบ่ายไปนอน ก่อน+หลังสอบไม่ราวน์ ไม่ดูคนไข้นั้น ผมคิดว่า ไม่ว่าระบบไหน นักศึกษาคนนี้ก็ไม่น่าจะทำได้ดี

ทีนี้เรากำลังพูดถึง "ระบบ" หรือว่าพูดถึงความสำเร็จของคน ตรงนี้ต้องแยกกันให้ดี ถ้าสมมติตอนที่เรียน ให้เจอ case มีแหล่งค้น มีอาจารย์ที่ปรึกษา มีหนังสือ มีห้องสมุด มีสอนวิธีค้น แต่ปรากฏว่ามีคนที่ค้นไม่เป็น เปิด index ไม่ถูก คงจะสรุปไม่ได้ว่าถ้าไม่ได้สอนค้น สอนวิเคราะห์เลยนั้น นักศึกษาคนเดียวกันนี้น่าจะทำได้ดีกว่า น่าจะค้นได้ถูกต้อง น่าจะรู้ index ใช่หรือไม่?

คุณอดีตพชท.มอ. อาจจะไม่ทราบว่าปัจจุบันนี้การราวน์ ward การทำงานร่วมกันเป็นทีมนั้น เป็นแก่นของการเรียนรู้ในระบบ PBL แต่ถึงในอดีตผมก็ไม่แน่ใจนะครับว่ามีการ "ตัด นศพ.ออกจากระบบการดูคนไข้" อย่างที่ว่ามาจริงหรือไม่อย่างไร ถ้าหมายถึงการที่มี นศพ.บางคนอ้างว่าเดินไปราวน์กับอาจารย์ท่านอื่น แต่จริงๆไปนอน ไม่ทำงาน นั่นคงจะเป็นอีกเรื่อง มากกว่าจะเป็นระบบ เพราะคนที่คอยจะ exploit ระบบนั้น มีอยู่ในทุกระบบแหละครับ คนที่เรียนแบบเน้น lecture เน้นการสอบความรู้ ก็อาจจะให้ความสำคัญคลินิก หรือภาคปฏิบัติได้น้อยไม่ยิ่งหย่อนไปสักเท่าไร

การเรียนรู้โดย context หรือโดยบริบทจริงนั้น "ช่วย" ด้านการเรียนแน่นอน อย่างที่คุณ พชท. ว่ามา ถามว่าระบบใดที่จะเอื้ออำนวยมากกว่ากัน ถ้ามีเวลา 24 ชม. เท่ากัน? การสอน lecture โดยอาจารย์เป็นส่วนใหญ่ หรือการเรียนรู้จากปัญหาของคนไข้บน ward หรือเป็น case study? ที่จริงเรื่องนี้ก็คงจะมีคนสงสัยคล้ายๆกันว่าระหว่างสองระบบ (teacher-centered, textbook-based กับ student-centred, problem-based) แบบไหนจะดี ก็มีการวิจัยมาจริงบๆ (เพราะถ้าใช้ personal experience เรามักจะจดจำความประทับใจที่ไม่ดี มากกว่า case ที่ใช้ได้ ทำให้แปลผลโดยอคติ)

อย่างน้อยผมเชื่อว่า ณ ขณะนี้ extern หรือ นศพ.คนที่ว่าภายใต้การดูแลของคุณ พชท. จะได้ถูกแนะนำสั่งสอนเพิ่มเติมว่า เรียนโดยใช้ "คนไข้เป็นฐาน" ที่ถูกต้อง ควรจะทำอย่างไร การค้นคว้าหาความรู้อย่างต่อเนื่อง หรือ life-long learning ควรจะค้นอย่างไร คงไม่ได้เน้นให้แกอ่าน lecture อ่านสมุดโน้ตต่อ แต่เน้นมาช่วยงานบน ward ก็เป็นที่น่ายินดีครับ



Posted by : Phoenix , Date : 2005-10-30 , Time : 20:38:12 , From IP : 58.147.23.8

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.004 seconds. <<<<<