ความคิดเห็นทั้งหมด : 8

ทาสแท้ทักษิน


   ฝ่ายค้านขวางรัฐออกกฎกระทรวงเปิดทางโล่งทุนนอกทำธุรกิจบริการ 20 สาขาเอาเปรียบคนไทย จี้รัฐถอนวาระออกจาก ครม.ด่วนก่อนธุรกิจในประเทศเจ๊งยับ “เกียรติ สิทธีอมร” แฉวาระซ่อนเร้น “ทักษิณ” เปิดเสรีสารพัด แต่กลับยกเว้นไม่ยอมให้ใครมาทำธุรกิจโทรคมนาคมแข่ง พบพิรุธทำเอฟทีเอเปิดทางให้ออสเตรเลียทำธุรกิจเหมืองแร่แลกกับการให้บางบริษัทเข้าไปรุกธุรกิจโทรคมนาคมได้ไม่จำกัดขอบเขต


วันนี้ (17 ต.ค.) นายเกียรติ สิทธีอมร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และคณะทำงานด้านเศรษฐกิจของพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่รัฐบาลจะเสนอร่างกฎกระทรวงพาณิชย์ กำหนดธุรกิจบริการที่ไม่ต้องขอใบอนุญาต หรือหนังสือรับรองในการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวเข้า ครม.ในวันที่ 18 ต.ค.นี้ว่า พรรคขอให้รัฐบาลถอนวาระการนำกฎกระทรวงดังกล่าวจากที่ประชุม ครม.จนกว่าจะมีการศึกษาและมีการชี้แจงกับประชาชนว่าประเทศไทยจะได้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์อย่างไรบ้าง เนื่องจากภาวการณ์เศรษฐกิจมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก

ส.ส.ฝ่ายค้านผู้นี้ซึ่งเคยเป็นผู้บริหารหอการค้านานาชาติยังเห็นว่า ที่ผ่านมาไทยมีการทำข้อตกลงเปิดเขตการค้าเสรี หรือเอฟทีเอกับหลายประเทศ และมีการลงทุนเข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้น ต้องนำเงื่อนไขการเจรจาเอฟทีเอทั้งหมดมาเป็นปัจจัยสำคัญในการศึกษา และรัฐบาลต้องชี้แจงด้วยว่าเหตุใดต้องเปิดเสรีธุรกิจทั้ง 20 สาขา ในขณะที่ธุรกิจดังกล่าวมีกฎหมายเฉพาะรองรับอยู่แล้ว จึงควรมาดูว่ากฎหมายเฉพาะในบางสาขาสามารถดูแลได้อย่างเข้มงวดหรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลบอกว่าจะแก้ไขกฎหมายให้เข้มงวดมากขึ้น และว่าฝ่ายค้านเคยเสนอกฎหมายให้ควบคุมธุรกิจค้าปลีกของต่างชาติ แต่รัฐบาลนิ่งเฉยไม่ทำอะไร ซึ่งเป็นเรื่องน่าแปลกใจที่แนะนำแล้วไม่ดำเนินการ แต่วันนี้ดูเหมือนเร่งออกกฎกระทรวงดังกล่าว

นายเกียรติ กล่าวว่า การให้ต่างประเทศทำธุรกิจสถาบันการเงินจะทำให้ได้เปรียบประเทศไทยอย่างมาก ซึ่งรัฐบาลจะต้องให้การสนับสนุนและพัฒนาทักษะของสถาบันการเงินของไทยให้สามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ โดยเฉพาะธุรกิจประกันภัยที่ตนมีความเป็นห่วง หากจู่ๆ จะเปิดประตูให้ต่างชาติเข้ามาทันทีจะเกิดผลกระทบและอันตรายมาก รวมถึงการให้ต่างชาติมาบริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ซึ่งจะต้องมีการทบทวนว่าให้เข้ามาบริหารมากน้อยแค่ไหน และการให้สินเชื่อธุรกิจหลักทรัพย์ ซึ่งหลายประเทศเกิดวิกฤตกรณีเฮดจ์ฟันด์ (กองทุนประกันความเสี่ยง) ที่รัฐบาลควรนำมาเป็นกรณีศึกษา เพราะมีการปล่อยกู้ได้ 100 กว่าเท่าของต้นทุนเพื่อใช้ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ดังนั้น กฎกระทรวงดังกล่าวควรมีการทบทวนจนกว่าจะมีกรอบกติกาใหม่มาควบคุมมากกว่านี้

นายเกียรติ กล่าวว่า ที่ผ่านมาการทำข้อตกลงเอฟทีเอกับหลายประเทศ เช่น ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกานั้น สังคมแทบไม่รู้ว่ามีการเจรจาในหัวข้ออะไรบ้าง ทั้งที่ควรมีการเปิดเผยเนื้อหาให้สาธารณชนทราบก่อนการลงนาม อย่างกรณีออสเตรเลียที่มีการเปิดเสรีธุรกิจเหมืองแร่ ทั้งที่อยู่ในประเภทบัญชี 2 ที่ ครม.มีอำนาจอนุมัติ แต่พอเปิดเอฟทีเอทำให้ออสเตรเลียสามารถเข้ามาดำเนินการได้โดยไม่มีเงื่อนไข โดยไม่ต้องผ่านมติ ครม.อีกต่อไป

“เรื่องนี้เหมือนเป็นการเอาเหมืองแร่ไปแลกกับธุรกิจโทรคมนาคม โดยมีการเปิดช่องให้ธุรกิจโทรคมนาคมของไทยเข้าไปทำได้โดยไม่มีข้อจำกัด และมีชื่อบริษัทอย่างชัดเจนด้วย ซึ่งบรรยากาศดังกล่าวรัฐบาลต้องอธิบายให้ชัดเจนว่าเกี่ยวข้องกับเอฟทีเอที่เกี่ยวข้องกับบางประเทศหรือไม่ เพราะมีนักลงทุนต่างชาติหลายคนตั้งคำถามว่าทำไมไม่เปิดธุรกิจโทรคมนาคมในประเทศไทยเสียที มีแต่ไทยไปเปิดในประเทศอื่น หรือกลัวว่าจะกระทบต่อผู้เกี่ยวข้องหลายคนในรัฐบาลหรือไม่ หากแน่จริงรัฐบาลควรเปิดเสรีธุรกิจนี้เพราะเรามีความพร้อมอยู่แล้ว” ส.ส.ฝ่ายค้านผู้นี้ตั้งข้องสังเกต

คณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่หลายคนเป็นห่วงกรณีเอฟทีเอกับสหรัฐฯ ที่จนถึงขณะนี้ยังไม่เปิดเผยการเจรจากับสหรัฐฯ โดยเฉพาะเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา และเท่าที่ทราบบางเงื่อนไขสหรัฐฯ เสนอมาสูงกว่าเงื่อนไขขององค์การการค้าโลก หรือ WTO ดังนั้น การเสนอกฎกระทรวงดังกล่าวในช่วงนี้รัฐบาลต้องทบทวน เพราะเคยเกิดกรณีตัวอย่างในประเทศเม็กซิโกที่ทำนาฟตา (การเปิดเขตการค้าเสรีแอตแลนติกเหนือ) กับสหรัฐฯ จากเดิมที่เม็กซิโกมีธนาคารพาณิชย์อยู่ 100 กว่าแห่งในเวลาเพียง 10 ปีเหลือเพียง 10 กว่าแห่ง

“ผมไม่ทราบว่าผลประโยชน์เรื่องดาวเทียมกับการเสนอชื่อคุณสุรเกียรติ์ เสถียรไทย เป็นเลขาฯยูเอ็นจะเกี่ยวข้องกับการออกกฎกระทรวงดังกล่าวหรือไม่ แต่การที่รัฐบาลอึมครึมทำให้คนคิดอย่างนั้นได้ ซึ่งผมไม่อยากกล่าวหาเพราะผมก็รักชาติไม่ต่างกับคนในรัฐบาล แต่การกระทำของรัฐบาลไม่เหมือนการรักชาติเลย จึงอยากให้รัฐบาลชี้แจงให้ชัดเจน เพราะหากรัฐบาลยังดึงดันนำเข้า ครม. ผมเชื่อว่าคนหลายกลุ่มในประเทศจะแสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรง เนื่องจากรัฐบาลเคยดำเนินการในหลายเรื่องเอาอำนาจของฝ่ายบริหารไปให้ต่างชาติโดยที่ประชาชนไม่ได้รับรู้” นายเกียรติ กล่าว

ด้าน น.พ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ ส.ว.อุบลราชธานี ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ วุฒิสภา กล่าวถึงเรื่องเดียวกันว่า เป็นเรื่องที่ร้ายแรงมากและจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งกรรมาธิการของวุฒิสภาได้เร่งหารือถึงเรื่องดังกล่าวแล้ว

ส.ว.อุบลราชธานี กล่าวว่า ร่างกฎกระทรวงที่จะเสนอพบว่าจะอนุญาตให้คนต่างด้าวสามารถประกอบธุรกิจในบัญชี 3 ของ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 ซึ่งเป็นหนึ่งในกฎหมายที่ถูกระบุว่าเป็นกฎหมายขายชาติ 11 ฉบับ ที่ให้คนต่างด้าวสามารถมายึดครองกิจการของคนไทยได้ 20 รายการ เช่น การธนาคาร การประกันชีวิต และการประกันภัย การค้าหลักทรัพย์ เป็นต้น ซึ่งเป็นอาชีพที่เราต้องรักษาไว้

“ควรที่จะมีการยกเลิกกฎหมายฉบับนี้ เพราะเท่าที่ผมจำได้ พรรคไทยรักไทยเคยหาเสียงในการเลือกตั้งว่าจะยกเลิกกฎหมายฉบับนี้ แต่ตอนนี้ผมไม่เข้าใจว่าทำไมถึงรัฐบาลพรรคไทยรักไทยยังต้องมีการต่อยอดกฎหมายฉบับนี้อีก หรือเป็นเพราะการต่อยอดของกฎหมายฉบับนี้ คือ ต้องการให้มีการเชื่อมโยงถึงเรื่องเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) และการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ซึ่งเท่ากับว่าเป็นการเปิดกว้างให้กลุ่มทุนข้ามชาติมายึดครองเศรษฐกิจของประเทศ อยากให้ประชาชนให้จับตาดูการออกกฎหมายฉบับดังกล่าว นอกจากนี้ ผมไม่แน่ใจว่าการที่นายกฯเดินทางไปต่างประเทศบ่อยครั้งในช่วงนี้ที่เพื่อเรียกร้องให้ต่างชาติมาลงทุนจะเป็นการเปิดโอกาสให้ต่างชาติเข้ามายึดครองกิจการของคนไทยด้วยหรือไม่” น.พ.นิรันดร์ กล่าว


Posted by : บิน , Date : 2005-10-17 , Time : 22:42:58 , From IP : 172.29.7.207

ความคิดเห็นที่ : 1


   หัวข้อน่าจะเขียนเป็น "ธาตุแท้" ไหมครับ



Posted by : Phoenix , Date : 2005-10-18 , Time : 00:49:01 , From IP : 58.147.70.119

ความคิดเห็นที่ : 2


   น่าจะ..ค่ะ

เฮ้อ....เหลี่ยมจัด....จริงๆ
(ไม่ได้พูดถึง...ใบหน้า....ใคร...นะคะ)

ก็ว่ากันออกบ่อยว่าเค้าไม่ดี....ก็ไม่ค่อยเห็นว่าจะมีอะไรดีขึ้น
ยังมีเหลี่ยมมาให้แฉเรื่อยๆ เลยว่าจะชวนทำอย่างอื่นเช่น เชียร์ฝ่ายค้านทำแต้ม..เอ้อ..ค้านเป็นเรื่องเป็นราวมีน้ำหนักเป็นข่าวให้ประชาชนชื่นใจมั่งว่ายังทำงานอยู่
ดีมั้ยคะ ...เผื่อเวลาอีกฝ่ายจะซื้อจะขายอะไร....จะได้ยั้งๆมือบ้าง


Posted by : Lucifer , Date : 2005-10-18 , Time : 07:02:22 , From IP : 172.29.4.250

ความคิดเห็นที่ : 3


   ทักษิณทำขนาดนี้ ล่ารายชื่อประชาชนทั้งประเทศ 50000 ชื่อ ทำไม่ได้เชียวหรือ ฝ่ายค้านทำหน้าที่เจ้าภาพหน่อยสิ

Posted by : ยูริ , Date : 2005-10-18 , Time : 14:45:48 , From IP : 172.29.7.253

ความคิดเห็นที่ : 4


   ตั้งใจให้เป็น ทาส ครับ เนื่องจากถ้าปล่อยให้กฏกระทรวงนี้บังคับใช้จริงๆ คนไทยคงเป็นทาสมันจริงๆแน่

Posted by : เชี่ยมมม , Date : 2005-10-18 , Time : 19:07:10 , From IP : 172.29.7.109

ความคิดเห็นที่ : 5


   ฝ่ายค้านหรือครัย ทำได้ด่า และด่าอย่างเดียว ให้ทำเป็นอะไรที่เป็นรูปธรรม เลิกคิดได้ ถึงได้เป็นฝ่ายค้านอมตะไง...

Posted by : Nick , Date : 2005-10-19 , Time : 11:11:57 , From IP : 172.29.3.171

ความคิดเห็นที่ : 6


   ด่าได้ก็ยังดีค่ะ ดีกว่าไม่ทำอะไรเลยตั้งท่ารอเสียบอย่างเดียวจะได้มีพลอยกับท่านบ้าง ท่านรับประทานก็หุบปากไว้รอท่านเหลือได้พลอยรับประทานบ้าง ประชาชนจะลำบาก จะให้ดีต้องด่าดังๆ อย่างหลวงตามหาบัว(เอ..ท่านสอนต่างหากนะ ทำไมใครไปเข้าใจว่าท่านด่าล่ะ) อย่างคุณสนธิ เผื่อจะเหลือยางบ้างว่าคนอื่นเค้าก็รู้เท่า ด่าเงียบๆ ด่าอยู่คนเดียวจะไม่ค่อยดีค่ะ น่ากลัวจะถูกสอย...ร่วง ต้องเชียร์ฝ่ายค้านทำงาน สนับสนุนให้ด่าแทนประชาชน เพราะเลือกไปก็หวังจะให้ค้านบ้าง เช่น วาระอย่างข้างบนนั่น หรือเรื่องขายน้ำขายไฟ ยิ่งต้องด่าให้ดัง และค้านอมตะ



Posted by : Lucifer , Date : 2005-10-20 , Time : 04:33:47 , From IP : 172.29.4.250

ความคิดเห็นที่ : 7


   เล่นให้เป็นฝ่ายค้านอมตะ คุณอถิสิทธิ์คงไม่แฮปปี้แน่ มีหวังอดอยากปากแห้งอมตะแน่ ของแบบนี้รู้ ๆ กันอยู่ ได้เรื่องเสียบ มีจังหวะเสียบได้เสียบเป็นใครก็ต้องเสียบเอาไว้ก่อน อยู่อดอยากให้โง่เรอะ...ตอนนั้นประชาชนจะว่าไงก็ค่อยว่ากัน มีข้อให้อ้างเยอะ เดี๋ยวจะว่าถนัดแต่ด่าเป็นอย่างเดียว...55555555


Posted by : v.i.p. , Date : 2005-10-20 , Time : 11:13:49 , From IP : 172.29.3.171

ความคิดเห็นที่ : 8


   ผมเห็นด้วยกับกระทูนี้นะ
รัฐบาลนี้แย่จริงๆ ประชาชนส่วนใหญ่ก็รู้ทันมันแล้วไอนี้มันเหลียมจัดจริงๆๆๆๆ


Posted by : keng , E-mail : (nut_p@hotmail.com) ,
Date : 2005-10-30 , Time : 15:53:53 , From IP : ppp-203.118.123.13.r


ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.005 seconds. <<<<<