ก็เรียนตารางสูตรคูณกันไปแล้ว การคูณยิ่งเป็นสิ่งที่ง่ายเข้าไปใหญ่" > เธอยิ้ม ^_^ อีกครั้ง ทุ่มเทแรงใจให้เด็ก ๆ ซึ่งพยายามอย่างมาก > เพื่อเข้าใจแนวคิดใหม่ ๆ เธอหวังว่ารอยยิ้มจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้พวกเขา > > "วันนี้เราจะเริ่มเรียนเรื่องการหารกัน พวกหนู ๆ ต้องสนุกกับมันแน่ ๆ > เพราะพวกหนูรู้คำตอบบางอย่างอยู่แล้ว" ครูหยุดพูดชั่วขณะ > ดีใจกับปฏิกิริยามีส่วนร่วมของเด็กแล้วถามว่า.. > "ไหนใครบอกครูได้บ้างว่า ค รึ่ ง ห นึ่ ง ข อ ง แ ป ด คื อ เ ท่ า ไ ห ร่" > > ทันใดนั้นในห้องเรียนเต็มไปด้วยคลื่นของมือที่ยกขึ้น > "ครึ่งหนึ่งของแปดเท่ากับสี่" พวกเขาตะโกนอย่าตื่นเต้น > ครูพยักหน้า กวาดสายตาไปทั่วห้อง แล้วสังเกตเห็นว่า > เด็กชายตัวสูงผิวซีดที่นั่งอยู่หลังห้องดูอึดอัดใจ > > ในปีการศึกษานั้น เด้กชายคนนี้เข้าเรียนในโรงเรียน > หลังจากที่เด็กคนอื่น ๆ สนิทกันหมดแล้ว สัญชาตญาณบอกเธอว่า > เด็กคนนี้เป็นเด็กฉลาด ความขี้อายและความหมกหมุ่นอยู่ในโลกของตัวเอง > ทำให้ใคร ๆ ยากที่จะเข้าถึงเด็กน้อย ตอนนี้ครูสังเกตเห็นว่า > เด็กชายกำลังงุนงงกับคำตอบของเพื่อนในห้อง > ครูไม่พูดอะไรเพราะไม่ต้องการทำให้เขาอึดอัดมากขึ้นกว่าเดิม > "ผมไม่เข้าใจฮะ" เด็กชายพูดแบบแทบจะพึมพำกับตัวเอง > "ทำ ไ ม ค รึ่ ง ห นึ่ ง ข อ ง แ ป ด ถึ ง เ ท่ า กั บ สี่ ล่ ะ" > > เด็กหญิงที่นั่งอยู่แถวหน้าหัวเราะคิกคัก ครูขมวดคิ้วใส่ให้เธอเงียบ > เด็กชายผิวขาวซีดตัวโย่งยืนสลับเท้าไปมา ก้มหน้างุดมองมือของตน > "ขอผมทำอะไรบางอย่างให้ครูดูได้ไหมฮะ" เด็กชายถามอาย ๆ > "ได้สิจ๊ะ" ครูตอบ เขาเดินช้า ๆ มาหาครูโดยไม่รอถ้อยคำกระตุ้นใด ๆ อีก > และมายืนอยู่ต่อหน้าทุกคนในห้องเรียน > > หัวใจของครูรู้สึกหนักหน่วง แม้ประสบการณ์ที่สั่งสมมาจะสอนให้เธอรู้ว่า > เด็กต่าง ๆ ต้องการเรียนรู้ด้วยวิธีของตัวเอง > แต่ครั้งนี้เธอเป็นห่วงเด็กชายผู้ไร้เพื่อนเหลือเกิน เธอมองอย่างห่วงใย > พอเขาเดินไปถึงกระดานดำแล้วถือชอล์กไว้ในมือเพื่อเขียนเลขแปดตัวใหญ่ > เขายืนนิ่งอยู่นานก่อนจะปิดวงกลมส่วนบนของเลขแปดไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง > แล้วก้าวถอยหลังเพื่อให้เพื่อนในชั้นได้เห็น > "ดูสิ" เขาพูดอย่างอาย ๆ "ค รึ่ ง ห นึ่ ง ข อ ง แ ป ด คื อ ศู น ย์" > เด็กชายก้าวเท้าเข้าไปใกล้ตัวเลขบนกระดานดำ > ยกสองมือปิดครึ่งด้านซ้ายของตัวเลขนั้น แล้วอธิบายว่า > "ทีนี้ ค รึ่ ง ห นึ่ ง ข อ ง แ ป ด เ ท่ า กั บ ส า ม" > > น้ำตาแห่งความเข้าใจเอ่อล้นดวงตาของครู เธอยืนเคียงข้างเด็กชาย > วางมือลงบนบ่าเขาอย่างอ่อนโยน เพื่อหมุนตัวเขาให้หันมามองเธอ > และเพื่อน ๆ ในห้องได้ถนัด "หนูช่างมีความคิดที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ" > ความชื่นชมชัดเจนอยู่ในน้ำเสียงของเธอ > "ครูสอนมานาน แต่ไม่มีนักเรียนคนไหนมองเห็นความเป็นไปได้แบบนี้มาก่อน > ครูแทบจะรอเล่าสิ่งที่หนูช่วยให้พวกเราค้นพบในวันนี้ > ให้พ่อแม่ของหนูและครูคนอื่นฟังไม่ไหวแล้ว" ไหล่ผอมบางของเด็กชายเหยียดตรง > ขึ้น > ในวินาทีที่เขาได้ยินเสียงงึมงำเห็นด้วยจากเพื่อนร่วมห้อง > > "ตอนนี้ครูขอทำอะไรให้หนูดูนะ" ครูหุบนิ้วโป้งของทั้งสองมือไว้ > แล้วยื่นสองมือนั้นให้เด็กชายดู "ครูชูกี่นิ้ว" > "ครูชูแปดนิ้ว มือละสี่นิ้ว" เด็กชายตอบ > "บอกครูซิว่า ถ้าครูเอาออกไปครึ่งหนึ่งจะเหลือเท่าไร" > เธอถามพร้อมกับเอามือขวาไปไว้ข้างหลัง > > ^__^ รอยยิ้มฉายขึ้นบนใบหน้าของเด็กชายผู้ไม่มีเพื่อน > "เหลือสี่นิ้ว ผมเข้าใจแล้วฮะ" เขาพูด พอใจในสิ่งที่ตนได้เรียนรู้ > "ค รึ่ ง ห นึ่ ง ข อ ง แ ป ด ก็ เ ป็ น สี่ ไ ด้ เ ห มื อ น กั น" > > > ...คิดดูสิ ชีวิตเราจะเปลี่ยนไปมากขนาดไหน > ถ้าเรามองโลกผ่านสายตาแห่งความเป็นไปได้.. > > จากหนังสือแปล เล่มเดิม "เล็กน้อยอย่างที่เห็น แต่เป็นโลกทั้งใบ" สนพ. วิตา > (How you see anything is how you see everything) > " />...ค รึ่ ง ห นึ่ ง ข อ ง แ ป ด...

ความคิดเห็นทั้งหมด : 4

...ค รึ่ ง ห นึ่ ง ข อ ง แ ป ด...


   ได้ forward mail มาจากเพื่อนครับ อยากให้ทุกคนได้อ่าน


> ครูชั้นประถมศึกษาปีที่สอง ผู้แต่งตัวด้วยเสื้อสีสันสดใสยืนพิงกระดานดำ
> เธอมองไปที่นักเรียนทุกคนในห้อง เหน็บปอยผมสีดอกเลาไว้หลังหูแล้วยิ้ม ^__^
> สำหรับเธอแล้ว การสอนเป็นสิ่งแปลกใหม่ที่ต้องใช้หัวใจสัมผัส
> เธอไม่เคยสิ้นความพิศวงกับความอยากรู้อยากเห็นของเด็ก ๆ
> และเธอทึ่งกับความตื่นเต้นของพวกเขาเมื่อได้เรียนรู้สิ่งแปลกใหม่
>
> "พวกหนูบวกลบเลขได้ดีแล้ว" ครูพูดให้กำลังใจ "แล้วตอนนี้พวกหนูๆ
> ก็เรียนตารางสูตรคูณกันไปแล้ว การคูณยิ่งเป็นสิ่งที่ง่ายเข้าไปใหญ่"
> เธอยิ้ม ^_^ อีกครั้ง ทุ่มเทแรงใจให้เด็ก ๆ ซึ่งพยายามอย่างมาก
> เพื่อเข้าใจแนวคิดใหม่ ๆ เธอหวังว่ารอยยิ้มจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้พวกเขา
>
> "วันนี้เราจะเริ่มเรียนเรื่องการหารกัน พวกหนู ๆ ต้องสนุกกับมันแน่ ๆ
> เพราะพวกหนูรู้คำตอบบางอย่างอยู่แล้ว" ครูหยุดพูดชั่วขณะ
> ดีใจกับปฏิกิริยามีส่วนร่วมของเด็กแล้วถามว่า..
> "ไหนใครบอกครูได้บ้างว่า ค รึ่ ง ห นึ่ ง ข อ ง แ ป ด คื อ เ ท่ า ไ ห ร่"
>
> ทันใดนั้นในห้องเรียนเต็มไปด้วยคลื่นของมือที่ยกขึ้น
> "ครึ่งหนึ่งของแปดเท่ากับสี่" พวกเขาตะโกนอย่าตื่นเต้น
> ครูพยักหน้า กวาดสายตาไปทั่วห้อง แล้วสังเกตเห็นว่า
> เด็กชายตัวสูงผิวซีดที่นั่งอยู่หลังห้องดูอึดอัดใจ
>
> ในปีการศึกษานั้น เด้กชายคนนี้เข้าเรียนในโรงเรียน
> หลังจากที่เด็กคนอื่น ๆ สนิทกันหมดแล้ว สัญชาตญาณบอกเธอว่า
> เด็กคนนี้เป็นเด็กฉลาด ความขี้อายและความหมกหมุ่นอยู่ในโลกของตัวเอง
> ทำให้ใคร ๆ ยากที่จะเข้าถึงเด็กน้อย ตอนนี้ครูสังเกตเห็นว่า
> เด็กชายกำลังงุนงงกับคำตอบของเพื่อนในห้อง
> ครูไม่พูดอะไรเพราะไม่ต้องการทำให้เขาอึดอัดมากขึ้นกว่าเดิม
> "ผมไม่เข้าใจฮะ" เด็กชายพูดแบบแทบจะพึมพำกับตัวเอง
> "ทำ ไ ม ค รึ่ ง ห นึ่ ง ข อ ง แ ป ด ถึ ง เ ท่ า กั บ สี่ ล่ ะ"
>
> เด็กหญิงที่นั่งอยู่แถวหน้าหัวเราะคิกคัก ครูขมวดคิ้วใส่ให้เธอเงียบ
> เด็กชายผิวขาวซีดตัวโย่งยืนสลับเท้าไปมา ก้มหน้างุดมองมือของตน
> "ขอผมทำอะไรบางอย่างให้ครูดูได้ไหมฮะ" เด็กชายถามอาย ๆ
> "ได้สิจ๊ะ" ครูตอบ เขาเดินช้า ๆ มาหาครูโดยไม่รอถ้อยคำกระตุ้นใด ๆ อีก
> และมายืนอยู่ต่อหน้าทุกคนในห้องเรียน
>
> หัวใจของครูรู้สึกหนักหน่วง แม้ประสบการณ์ที่สั่งสมมาจะสอนให้เธอรู้ว่า
> เด็กต่าง ๆ ต้องการเรียนรู้ด้วยวิธีของตัวเอง
> แต่ครั้งนี้เธอเป็นห่วงเด็กชายผู้ไร้เพื่อนเหลือเกิน เธอมองอย่างห่วงใย
> พอเขาเดินไปถึงกระดานดำแล้วถือชอล์กไว้ในมือเพื่อเขียนเลขแปดตัวใหญ่
> เขายืนนิ่งอยู่นานก่อนจะปิดวงกลมส่วนบนของเลขแปดไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง
> แล้วก้าวถอยหลังเพื่อให้เพื่อนในชั้นได้เห็น
> "ดูสิ" เขาพูดอย่างอาย ๆ "ค รึ่ ง ห นึ่ ง ข อ ง แ ป ด คื อ ศู น ย์"
> เด็กชายก้าวเท้าเข้าไปใกล้ตัวเลขบนกระดานดำ
> ยกสองมือปิดครึ่งด้านซ้ายของตัวเลขนั้น แล้วอธิบายว่า
> "ทีนี้ ค รึ่ ง ห นึ่ ง ข อ ง แ ป ด เ ท่ า กั บ ส า ม"
>
> น้ำตาแห่งความเข้าใจเอ่อล้นดวงตาของครู เธอยืนเคียงข้างเด็กชาย
> วางมือลงบนบ่าเขาอย่างอ่อนโยน เพื่อหมุนตัวเขาให้หันมามองเธอ
> และเพื่อน ๆ ในห้องได้ถนัด "หนูช่างมีความคิดที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ"
> ความชื่นชมชัดเจนอยู่ในน้ำเสียงของเธอ
> "ครูสอนมานาน แต่ไม่มีนักเรียนคนไหนมองเห็นความเป็นไปได้แบบนี้มาก่อน
> ครูแทบจะรอเล่าสิ่งที่หนูช่วยให้พวกเราค้นพบในวันนี้
> ให้พ่อแม่ของหนูและครูคนอื่นฟังไม่ไหวแล้ว" ไหล่ผอมบางของเด็กชายเหยียดตรง
> ขึ้น
> ในวินาทีที่เขาได้ยินเสียงงึมงำเห็นด้วยจากเพื่อนร่วมห้อง
>
> "ตอนนี้ครูขอทำอะไรให้หนูดูนะ" ครูหุบนิ้วโป้งของทั้งสองมือไว้
> แล้วยื่นสองมือนั้นให้เด็กชายดู "ครูชูกี่นิ้ว"
> "ครูชูแปดนิ้ว มือละสี่นิ้ว" เด็กชายตอบ
> "บอกครูซิว่า ถ้าครูเอาออกไปครึ่งหนึ่งจะเหลือเท่าไร"
> เธอถามพร้อมกับเอามือขวาไปไว้ข้างหลัง
>
> ^__^ รอยยิ้มฉายขึ้นบนใบหน้าของเด็กชายผู้ไม่มีเพื่อน
> "เหลือสี่นิ้ว ผมเข้าใจแล้วฮะ" เขาพูด พอใจในสิ่งที่ตนได้เรียนรู้
> "ค รึ่ ง ห นึ่ ง ข อ ง แ ป ด ก็ เ ป็ น สี่ ไ ด้ เ ห มื อ น กั น"
>
>
> ...คิดดูสิ ชีวิตเราจะเปลี่ยนไปมากขนาดไหน
> ถ้าเรามองโลกผ่านสายตาแห่งความเป็นไปได้..
>
> จากหนังสือแปล เล่มเดิม "เล็กน้อยอย่างที่เห็น แต่เป็นโลกทั้งใบ" สนพ. วิตา
> (How you see anything is how you see everything)
>


Posted by : Dhan , Date : 2005-10-12 , Time : 21:14:25 , From IP : 172.29.3.130

ความคิดเห็นที่ : 1


   ขอบคุณสำหรับข้อความดีๆ
อ่านแล้วประทับใจ โดยเฉพาะประโยคสุดท้าย
How you see anything is how you see everything
อยากซื้อหนังสือเล่มนี้มาอ่านจัง


Posted by : natalie , Date : 2005-10-12 , Time : 21:26:01 , From IP : 161.200.107.75

ความคิดเห็นที่ : 2


   ชอบในความเป็นครูของครูคนนี้มาก

Posted by : ครู , Date : 2005-10-13 , Time : 00:38:23 , From IP : 172.29.1.97

ความคิดเห็นที่ : 3


   ได้ เอฟซีลอน ด้วย

Posted by : กวน , Date : 2005-10-13 , Time : 01:33:18 , From IP : 172.29.4.80

ความคิดเห็นที่ : 4


   อ่านแล้วรู้สึกดีเหมือนกันค่ะ

ขออนุญาตเอาไปเผยแพร่เป็น forward mail ต่อนะคะ


Posted by : AvaRi , E-mail : (..) ,
Date : 2005-10-14 , Time : 12:28:02 , From IP : 172.29.3.236


ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.005 seconds. <<<<<