ความคิดเห็นทั้งหมด : 11

Debate XXVII: ขอให้ถือประโยชน์ส่วนตัวเป็นที่สอง ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง


   ผมเชื่อว่าหลักปรัชญานี้ เป็นหลักปรัชญาของวิชาชีพแพทย์ที่สมบูรณ์ที่สุด เลยอย่างจะลองมาวิเคราะห์สังเคราะห์ดูว่ามีอะไรๆแฝงอยู่ในคำพูดที่ดูเหมือนเริ่มต้นแลสิ้นสุดสมบูรณ์ในตัวเองอันนี้บ้าง

สมเด็จพระราชบิดามิได้สอนให้เราทุ่มเทแรงงานเพื่อประโยชน์ของผู้ป่วยเท่านั้น แต่อันดับรองลงมาก็คือการ "ดูแลตนเอง" ผมว่าประเด็นนี้มีความหมายที่แฝงไว้ที่สำคัญเช่นกัน

แพทย์จะต้องดูแลเห็นแก่ประโยชน์ของตนเองเป็นอันดับสอง ผมแปลความว่าแพทย์มี "หน้าที่" ที่จะต้องเป็นคนดี มีจริยธรรม มีความรับผิดชอบ จึงจะ "เป็นประโยชน์ส่วนตัว" นอกเหนือจากนี้ แพทย์จะต้องขวนขวายหาความรู้ให้ทันสมัย มีประสิทธิภาพอยู่ตลอดเวลา จะละเลยไม่พัฒนาตนเองนั้นไม่ได้ มีความสำคัญเป็นอันดับสองทีเดียว

แนวความคิดนี้เข้ากันได้กับพุทธศาสนาสายมหายาน ที่พทธมามกะจะต้องทำ "ปวารณาตนเจริญรอยพระโพธิสัตว์" (Bodhisattava Vow) นั่นคืออุทิศตนเพื่อนำสัตว์โลกให้พ้นทุกข์ ถือเป็นหน้าที่โดยชอบ และเหนืออื่นใด ทั้งนี้ก้ต้องบำเพ็ญตนพัฒนาให้เกิด Moral Excellence ขึ้นมาก่อน (ประโยชน์แห่งตน) แต่เพื่อเป้าหมายที่สูงกว่าคือเพื่อสัตว์โลก (ประโยชน์แห่งเพื่อนมนุษย์)



Posted by : Phoenix , Date : 2003-06-06 , Time : 23:39:40 , From IP : 172.29.3.207

ความคิดเห็นที่ : 1


   อือ.....ผมอ่านแล้วผมยังคิดไม่ออกเลยว่าจะเขียนอะไรดี...:D....:D....รอดูก่อนแล้วกันครับ....เรื่องจริยธรรมนี่ความรู้น้อยครับ(ส่วนตัวแล้วมีไม่มากพอครับ...:D...)....



Posted by : Death , Date : 2003-06-06 , Time : 23:55:41 , From IP : 172.29.3.218

ความคิดเห็นที่ : 2


   จริยธรรมไม่เกี่ยวกับความรู้ครับคุณ Death เกี่ยวกับ "เหตุผล" และ "คุณค่าของสังคม" ซึ่งไม่ว่าการศึกษาหรือความรู้ระดับไหนก็ล้วนมีทั้งสิ้น

ข้อสำคัญคือเราทุกคนควรจะรู้ว่ามันสำคัญครับ ควรจะรู้ว่าสำคัญที่จะเป็นคนดี สำคัญที่เรา "ยอมรับ" ว่านี้นั้นไม่ได้สมบูรณืจึงต้องคอยปรับปรุงตนเอง สำคัญขนาดที่การยอมรับว่าไม่ใคร่นึกถึงเรื่องนี้ไม่ใช่ข้ออ้างว่าจะไม่นึกถึงหรือละทิ้งเรื่องนี้ไป

จริยธรรมไม่ใช่เรื่องทฤษฎีอะไรที่น่ากลัว ผมไม่แน่ใจว่าคุณ Death เข้าชั่วโมงอภิปรายจริยธรรมที่ภาคฯจัดให้วันพฤหัสทุกสองเดือนรึเปล่า แต่ละครั้งเป็นกาถอภิปรายโดยยึดถือเหตุผลเป็นสำคัญ เท่าที่ผ่านมาก้เห็นพูดกันออกมาได้ ไม่ต้อง quote textbook มาตอบ ที่น่ากลัวกว่าก็คือการที่บอกว่าเรื่องนี้ไม่มีความรู้ผมขอตัวไม่มีความเห็นใดๆทั้งสิ้นว่าผมคิดว่าอะไรถูกอะไรผิด พอๆกับพูดว่าผมไม่ใคร่รู้เรื่องกฏหมายจราจรขอตัวออกไปจากห้องที่เขากำลังสอนกฏจราจรดีกว่า อะไรทำนองนั้น

อะไรก็ได้ครับที่คุณ Death คิดว่ายังมีความหมายคุณค่าต่อสังคม ที่คุณ Death อยากจะให้ลูกหลานของคุณ Death โตมาในสังคมที่มีคุณค่าหรือนับถือคุณค่านั้นๆ



Posted by : Phoenix , Date : 2003-06-07 , Time : 02:11:23 , From IP : 172.29.3.207

ความคิดเห็นที่ : 3


    ผมคิดว่าทุกสิ่งที่คนเรากระทำขึ้นมาเนี่ย เป็นการกระทำเพื่อตัวเองทั้งสิ้น เพียงเเต่ว่าวัตถุประสงค์ของการทำนั้นเพื่ออะไร ตัวอย่างเช่น พยายามเอาใจผู้หญิงคนหนึ่งเพราะต้องการให้เขารักเรา เป็นต้น แม้แต่การพยายามดูแลคนไข้ ดูเผินๆเหมือนเราไม่ได้อะไร แต่ที่จริงแล้วเราได้ความสุขใจ ความภูมิใจกลับมา อาจมองไม่เห็นแต่ก็พอที่จะทำให้เราตั้งใจทำงานต่อไป การกระทำเพื่อตัวเองโดยทำให้ผู้อื่นหลุดพ้นจากสิ่งที่เป็นทุกข์ ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่ควรกระทำครับ

Posted by : megumi , Date : 2003-06-07 , Time : 04:32:31 , From IP : 172.29.3.202

ความคิดเห็นที่ : 4


   คงต้องยอมตายในหน้าที่ถึงจะพอใจ

Posted by : ลี้คิมฮวง , Date : 2003-06-07 , Time : 05:04:50 , From IP : 172.29.3.123

ความคิดเห็นที่ : 5


   เคยเห็ยศัลยแพทย์ทำงานหนักๆมาบ้างเหมือนกันครับแต่ไม่ยักมีใครตาย แต่ถ้ายอมตายไปก็ไม่ได้ประโยชน์ส่วนตัวไปเหมือนกันก็จะเป็นการขัดกับหลักปรัชญา จริงๆเรามีทางสายกลางที่สามารถยังกิจทั้งสองประการได้โดยไม่มีใครตาย มีแต่คนรอด ส่วนใครเป็นคนพอใจนั้น ไม่ใช่บุคคลที่สองหรือสามอย่างแน่นอน คุณลี้คิมฮวงมีความเห็นว่าถ้าทำสำเร็จสองกิจที่ว่า ใครจะเป็นคนพอใจครับ?



Posted by : Phoenix , Date : 2003-06-07 , Time : 11:24:04 , From IP : 172.29.3.223

ความคิดเห็นที่ : 6


   ชั่วโมงจริยธรรมนั่น....ถ้าผมจำไม่ผิดผมเข้าทุกครั้งครับ.....ยกเว้นครั้งล่าสุด....เพราะงานประจำไม่เสร็จครับ.....ได้โทรไปรายงานที่ภาคก่อนแล้วครับพร้อมกับหัวหน้าอีก 2 ท่านที่ไม่ได้เข้าด้วย..เนื่องจากต้องอยู่ทำงานประจำด้วยกัน.:D...:D

ส่วนเรื่องจริยธรรมนั่น.....ดังที่ผมพูดไปแล้ว......ที่ว่ามีไม่มากพอ....ก็คือผมเป็นคนไม่ค่อยมีจริยธรรมมากเท่าไรนัก(มั้ง).....ผมเห็นด้วยกับที่คุณ megumi พูดนะครับ...:D.....ความภูมิใจของผมก็คงอยู่ที่การได้ทำงานที่ผมรักแค่นั้นหละครับ...:D...:D.....ถ้าถามว่าอะไรที่ผมคิดว่ามีคุณค่า.....และจะสอนลูกหลานของผม(ยังไม่มีนะครับ.....:D...:D...).....ผมคงสอนให้พวกเขาศรัทธาในตัวเอง..ช่วยเหลือผู้อื่นเท่าที่กำลังของตนจะทำได้.....และอย่าดูถูกผู้อื่นและตนเอง.....แค่นั้นมั้งครับ.....ประสบการณ์ชีวิตของผมคงไม่ดีเด่พอจะสอนใครได้.....ผมบอกได้แต่ว่าจะไม่ยอมให้ลูกหลานของผมต้องมาอยู่ในสังคมที่ผมเห็นและผ่านมาแน่นอน....ผมไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสังคม....หรือเปลี่ยนใจของสิ่งที่เรียกว่า"คน"ได้......ได้แต่ดูแลให้พวกเขาไม่ต้องเห็นสิ่งที่"คน"กระทำกับ"คน"อย่างอยุติธรรมเท่านั้น.....คนดีเนี่ย...จะอยู่ในสังคมอย่างเป็นสุขได้ถ้าไม่มีคนเลวเท่านั้นหละครับ.....จริยธรรมน่าจะมีความหวังตรงจุดนี้....เรากำจัดคนเลวไม่ได้.....ได้แต่หวังว่าสิ่งที่จะสอนคนรุ่นหลัง....ให้มีแต่คนดีเท่านั้น......คงจะทำให้สังคมน่าอยู่ขึ้น.......ท่าทางผมจะไม่ค่อยเหมาะกับชั่วโมงจรยธรรมเลยนิ..:D...:D...:D



Posted by : Death , Date : 2003-06-08 , Time : 01:19:53 , From IP : 172.29.3.218

ความคิดเห็นที่ : 7


   คุณ Death ตั้งใจที่จะไม่ให้ลูกหลานอยู่ในสังคมที่ไม่มีจริยธรรมได้อย่างไรล่ะครับ?

การมองตนเองให้ลึกซึ้งนั้นเป็นเรื่องที่พึงกระทำ แต่ต้องมองอย่างซื่อตรงที่สุด เพราะสิ่งที่เรากำลังแปลผลนั้นมีคนรู้อยู่คนเดียวคือตัวเรา ไม่ต้องเล่นการมงการเมื่องอะไรอีกต่อไป และถ้าพิจารณาแล้วตัวเรายังไม่สมบูรณ์ก็ถึงเวลาที่จะกำหนดทิศทางของตัวเราเองใหม่ (หรือไม่?)

ถึงแม้เราอาจจะเปลี่ยนสังคมไม่ได้ แต่เรา "อยู่ และเป็นส่วนหนึ่ง" ของสังคมรึเปล่า? ถ้าเราคิดว่าสังคมที่เป็นอยู่ไม่ดี เราควรจะทำอะไรที่แตกต่างออกไปหรือไม่? หรือจะยังคงไม่ดีตามสังคม? แล้วลูกหลานเราที่คุณ Death เป็นห่วงก็คงจะต้องเติบโตมาในสิ่งแวดล้อมเดิมอยู่ดี หากประสบการณืชีวิตคุณ Death ยังมีไม่พอที่จะสอนใครแล้ว คุณ Death plan จะทำยังไงครับ? จะเสริมสร้างจริยธรรมขึ้น หรือจะอยู่แบบเดิมๆไปอีกเรื่อยๆ? แล้วพอมีลูกจะเอาอะไรไปสอนเขาล่ะครับถ้าไม่สั่งสมตั้งแต่เนิ่นๆ?

อย่างน้อยที่สุดเราสามารุสร้างสังคมขนาดย่อมได้ในครัวเรือนเราเองครับ ลูกมีเวลาที่จะเติบโตและเรียนรู้จากเราเท่านั้นหลายปีอยู่ สังคมที่เราแสดงบทบาทเป็นพ่อแม่นั้นเราได้ monopoly บทนั้นอีกหลายปี นั่นคือความหมายที่ว่าพ่อแม่เป็นครูคนแรก และจริยธรรมนั้นเริ่มได้ตั้งแต่พูดกับลูกนั่นเลยทีเดียว แต่ถ้าจะรอจนมีลูกก่อนค่อยหัดสอนหัดมีจริยธรรมนั้น มันคงไม่ work ล่ะครับ มันไม่ธรรมชาติ มันเป็นการเสแสร้งทำ

ผมไม่เห็นด้วยที่ว่าคนดีจะมีความสุขได้ต่อเมื่อไม่มีคนเลวเท่านั้น เพราะคุณ Death กำลังจะบอกว่าไม่มีใครในโลกนี้เคยมีความสุขเลย เพราะคนเลวนั้นอยู่คู่โลกมาแต่ต้น ความสุขของคนดีนั้นสามารถมีได้หลายวิธี และไม่ได้ขึ้นอยู่กับมีหรือไม่มีคนเลวด้วย จริยธรรมนั้นไม่มีความหวังอะไรทั้งสิ้น แต่คนในสังคมนั้นๆต่างหากที่มีหรือไม่มีความหวัง จริยธรรมเป็นแค่กฏ แค่คุณค่า แค่หลักการ ซึ่งจะไม่มีความหมายแต่อย่างใดเลย ตราบเท่าที่ "คน" ไม่คิดว่ามันสำคัญ เป็นสิ่งที่ "ต้องสร้างสะสม" หรือ "สามารถเพิกเฉยละเลย" ได้ ดูเป็นของขบขันหรือของเท่ห์ที่จะพูดจะบอกว่าฉันไม่มี ฉันไม่ต้องการจะมี ฉันไม่จำเป็นต้องรู้ว่ามันคืออะไร



Posted by : Phoenix , Date : 2003-06-08 , Time : 02:16:55 , From IP : 172.29.3.204

ความคิดเห็นที่ : 8


   ง่าอาจารย์ครับ....
พระราชดำรัสผิดอ่ะครับ...
มันต้องเป็น...
ขอให้ถือประโยชน์ส่วนตัวเป็นที่สอง
ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง


Posted by : StiTcH , Date : 2003-06-08 , Time : 15:20:16 , From IP : 172.29.2.147

ความคิดเห็นที่ : 9


   โทษครับเมื่อกี้ลืมแก้...T-T
ขอให้ถือประโยชน์ส่วนตนเป็นที่สอง
ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง


Posted by : StiTcH , Date : 2003-06-08 , Time : 15:22:10 , From IP : 172.29.2.147

ความคิดเห็นที่ : 10


   ใช่ๆ วันประชุมเชียร์พวกเราพูด "ส่วนตัว" โดนด่าเลย


Posted by : Mashimaro , Date : 2003-06-08 , Time : 20:06:51 , From IP : 203.113.76.73

ความคิดเห็นที่ : 11


   
“ ขอให้ถือประโยชน์ส่วนตน เป็นที่สอง
ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์ เป็นกิจที่หนึ่ง
ลาภ ทรัพย์ และเกียรติยศ จะตกแก่ท่านเอง
ถ้าท่านทรงธรรมแห่งอาชีพ ไว้ให้บริสุทธิ์ ”


“ ความสำเร็จของการศึกษาที่แท้จริง
ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการมีความรู้มาก
แต่ขึ้นอยู่กับการนำเอาความรู้นั้นมาประยุกต์ใช้
ให้เกิดประโยชน์แก่สังคมได้มากเพียงไร ”


" ฉันไม่ต้องการให้พวกเธอเป็นเพียงหมอเท่านั้น
แต่ฉันต้องการให้พวกเธอมีความเป็นมนุษย์ด้วย "


ที่มา : สารสนเทศสมาคมศิษย์เก่าบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล ฉ.๖ ปี ๒๕๔๔


OK เลยถือโอกาสคัดมาทั้งหมดเลย อันแรกผม copy มาจากหน้าแรกสุดของ Home page คณะแพทย์ อ่านดูได้ใจความก็คัดมาเลย ไม่ได้ตรวจเช็คอักษร

ยินดีที่ได้ยินว่ารุ่นพี่จริงจังตามตัวอักษรสมเด็จพระราชบิดาขนดนี้นะครับ ขอให้จริงจังจริงๆตลอดไป และรวมทั้งการปฏิบัติตัว เอ๊ย ตน ด้วย



Posted by : Phoenix , Date : 2003-06-08 , Time : 22:59:09 , From IP : 172.29.3.223

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.008 seconds. <<<<<