ความคิดเห็นทั้งหมด : 8

อยากผ่านมีนกะเค้าบ้าง


   หวัดดีค่ะ ตอนนี้หนูเรียนอยู่ปีสองค่ะ มีปัญหาในการเรียนอยากขอคำปรึกษาค่ะ
ก่อนอื่นหนูเป็น CS/AS ค่ะได้ประมาณ 10 คะแนนทั้งสองค่ะ
คือว่าตั้งแต่เรียนมายังไม่เคยผ่านมีนเลยซักครั้ง แถมยังเกือบตก 2 SD อีก ดีหน่อยก้อจะตกประมาณ 1 SD กว่า ๆ อ่ะค่ะ
แต่ก้อไม่ได้ท้อแท้อะไร พยายามปรับวิธีการอ่านหนังสือมาหลาย ๆ ครั้ง และที่สำคัญคิดว่าตัวเองทุ่มเทค่อนข้างเต็มที่ค่ะ ตอนนี้กิจกรรมของคณะก็แทบจะไม่ได้ทำเลย วันหนึ่ง ๆ ก็อ่านหนังสือแล้วก้อนอนพักผ่อน เวลาทั้งหมดก้อทุ่มให้กับการเรียน แต่พอคะแนนออกมาก้อค่อนข้างหมดกำลังใจ
ถึงตอนนี้รู้สึกว่าตัวเองเต็มที่แล้ว และก็ไม่รู้จะปรับยังไงอีก อยากผ่านมีนกะเค้าบ้าง อยากมีเวลาทำกิจกรรมอื่น ๆ เหมือนเพื่อน ๆ รู้สึกเหมือนว่าชีวิตช่วงวัยนี้มันควรจะเก็บเกี่ยวประสบการณ์อื่น ๆ บ้างนอกจากการเรียน
พี่ ๆ มีเทคนิคอะไรจะแนะนำสำหรับ Cs As บ้างมั้ยค่ะ

คุยกะเพื่อนเวลาเศร้า เพื่อนก้อบอกว่าต้องทำใจนะ สมองเราไม่เท่ากับของคนอื่นเค้า คะแนนที่สอบเข้ามาก้ออยู่ท้าย ๆ ของคณะ หนูจะต้องเป็นท้าย ๆ ตลอดไปงั้นหรือคะ
จะรอคำตอบนะคะ
ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ


Posted by : เด็กปีสอง , E-mail : (lek353@hotmail.com) ,
Date : 2005-09-26 , Time : 21:01:05 , From IP : 172.29.4.54


ความคิดเห็นที่ : 1


   พี่ว่าASจะเติบโตได้มาก คิดได้เก่งและแตกฉานถ้าเขาได้sharingความคิดกับคนอื่น จนตัวเองคิดว่าคำตอบที่ได้นั้นมันมีเหตุผลเพียงพอ เขาก็จะนำสิ่งนั้นมาตกตระกอนความคิดแล้วคิดมันจนทะลุมีคำตอบให้กับตนเอง แบบที่กว้างขึ้นกว่าที่คิดคนเดียว
ทีนี้พี่ไม่แน่ใจว่าน้องได้แลกเปลี่ยนกับคนอื่นหรือไม่ หรือคิดหาคำตอบในการอ่านเรื่องราวต่างๆแบบlogicอยู่เพียงคนเดียว
พี่อาจเดาว่าความเป็นcsของน้องอาจทำให้น้องไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่หรือเปล่าที่จะไปคุยหรืออ่านหนังสือร่วมกับคนอื่น เพราะมันทำให้รู้สึกว่าcontrolเนื้อหาการอ่านให้อยู่ในกรอบเวลาของน้องไม่ได้
ยังงัยน้องคุยกับพี่ต่อนะ เพราะเบื้องต้นนี้เป็นแค่การเดา ตั้งสมมุติฐานบนข้อมูลที่จำกัด และคงต้องขอข้อมูลเพิ่มจากน้องหน่ะค่ะ ว่าที่ผ่านมาอ่านหนังสืออย่างไรแล้วblockอะไรที่น้องสอบได้คะแนนที่มากที่สุด และน้อยที่สุด เพื่อมาวิเคาระห์หาความถนัดและการปรับตัวอีกทีหน่ะ


Posted by : aries , Date : 2005-09-27 , Time : 06:53:17 , From IP : 172.29.7.105

ความคิดเห็นที่ : 2


   learning style เป็นเพียงองค์ประกอบบหนึ่งเท่านั้น มีอีกหลายปัจจัยที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียน และเมื่อเราค้นพบว่าวิธีหนึ่งไม่ได้ผล ก็น่าจะคุ้มที่จะเปลี่ยนวิธี หาหนทางอื่น

ทบทวนว่าในอดีตเรา "ชอบ" วิชาอะไรมากที่สุด นั่นหนึ่งอย่าง และสองก็คือวิชาอะไรที่เรา "ทำคะแนนได้ดีที่สุด" สองวิชานี้อาจจะไม่ใช่วิชาเดียวกันก็ได้ แต่ทั้งสองเป็น "จุดแข็ง" ในการเรียนของเรา พอหาเจอแล้วก็มาดูซิว่า เอ... เราทำได้ยังไงหว่า หรือเราชอบมันตรงไหน ถ้าใช้ตรงนี้มาช่วย บางทีเราสามารถหา style ที่เป็นเราได้ตรงขึ้น

ถ้าเราชอบ lecture ชอบวิชาท่อง แต่ยังทำคะแนนได้ไม่ดีก้ไม่ได้แปลว่า style ผิด อาจจะเป็นหลายสาเหตุ ได้แก่ ท่องในเรื่องที่ไม่ตรงกับข้อสอบ (อาจจะเป็นเพราะไม่เข้าใจ learning objective ของวิชานั้น) ไม่มี lecture ที่สำคัญ ไม่มีสมาธิ สุขภาพ ความเครียด ฯลฯ

ลองวิเคราะหฺดูแล้วมาคุยกับพี่ใหม่ ได้ผลอย่างไรมาเล่ากันให้ฟังด้วยนะครับ



Posted by : Aquarius , Date : 2005-09-27 , Time : 08:25:13 , From IP : 203.156.152.106

ความคิดเห็นที่ : 3


   ขอบคุณค่ะ สำหรับคำแนะนำ
ที่ตรงมาก ๆ เลยก้อคือจะต้อง control เวลาให้ได้ จึงรู้สึกอึดอัดเวลาที่ disscuss กับเพื่อน ๆ โดยเฉพาะเวลาเพื่อนพูดนอกประเด็น เลยชอบอ่านหนังสือคนเดียวมากกว่าค่ะ
และคิดว่าจุดอ่อนของตัวเอง ต้องเป็นอะไรที่มองเห็นภาพชัดเจน และจะจำรายละเอียดไม่ค่อยได้ เวลาทำข้อสอบก็จะตอบที่ละเอียดไม่ได้
เวลาอ่านหนังสือ ถ้าสามารถทำให้มันเชื่อมโยงสัมพันธ์กันได้ ก็จะจำได้ดีค่ะ
แต่ปัญหาก็คือหนูไม่ได้รู้ลึกรู้จริง จึงไม่สามารถเชื่อมโยงได้มากนัก



Posted by : เด็กปีสอง , E-mail : (lek353@hotmail.com) ,
Date : 2005-09-27 , Time : 19:25:53 , From IP : 172.29.4.72


ความคิดเห็นที่ : 4


   ส่วนคะแนน block immune ไม่ดีค่ะ และรู้สึกไม่ชอบมาก ๆ ต้องท่องจำเยอะ โดยที่ไม่มีเหตุผลสนับสนุน ท่องจำชื่อต่าง ๆ โดยไม่มีหลัก ท่องแล้วก็จะลืมอย่างง่ายมาก ที่เหลือ 2 block คือ intro, respiratory ได้เท่ากันค่ะ

เท่าที่นึกออกก็จะประมาณนี้อ่ะค่ะ
ก็เป็นข้อมูลให้พี่ ๆ ช่วยแนะนำเพิ่มเติมละกันนะคะ
ขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะ


Posted by : เด็กปีสอง , E-mail : (lek353@hotmail.com) ,
Date : 2005-09-27 , Time : 19:39:50 , From IP : 172.29.4.72


ความคิดเห็นที่ : 5


   น้องวิเคราะห์ตนเองได้ตรงดีนะค่ะ พี่เห็นด้วยว่าน้องอาจรู้ไม่ลึกและไม่กว้าง เพราะขาดการแลกเปลี่ยนกับเพื่อน การที่เรานั่งอ่านหนังสือคนเดียวไม่ว่ากี่ครั้งกี่รอบก็ตามเราก็ยังคงรู้เท่าเดิม เพราะอ่านเล่มเดิม แต่ถ้าเราshareกับเพื่อนเราจะได้เพิ่มอีกหนึ่งเล่มที่เป็นของเพื่อนเรา
น้องเป็นคนช่างคิด และคิดเก่งแบบมีเหตุผล แบบนี้หล่ะค่ะ ขึ้นคลินิกน่าจะเรียนได้ดี เพราะเรื่องของคนไข้เราต้องใช้การคิดค่ะ ว่าอาการแบบนี้น่าจะเป็นโรคอะไร พี่คิดว่าไม่ใช่ความจำทั้งหมดค่ะ
ทีนี้องจะเปลี่ยนข้อด้อยที่เราเป็นคนไม่ช่างจำ ให้วิชาที่ใช้ความจำเป็นการคิดได้อย่างไร ก็ต้องแลกเปลี่ยนกับเพื่อนอีกนั่นแหล่ะ คุยกันไปว่าทำไม..นี่ต้องชื่อแบบนี้ .... ต้องมาอยู่ตรงนี้ ต้อง....เกี่ยวข้องหรือสัมพันธ์กับชื่อนี้....เป็นต้น มันอาจทำให้น้องดูเป็นการเชื่อมโยง และพอเป็นเหตุผลให้จูงใจให้น้องยอมรับที่จะเก็บมันไว้ในลิ้นชักความทรงจำได้มั้งค๊ะ


Posted by : aries , Date : 2005-09-28 , Time : 07:19:47 , From IP : 172.29.7.217

ความคิดเห็นที่ : 6


   ผมเป็น AS เหมือนกันนะครับ ลองเสนอวิธีดู

มีหลายๆวิชาที่เบื้องต้นความรู้พื้นฐานมันดูไม่ make sense คือไม่มีที่มามีแต่ที่ไป และพวก AS ที่ชอบที่มา (มากกว่าที่ไป!!) จะเกลียดวิชาพวกนี้ แต่จริงๆแล้วทุกสิ่งทุกอย่างมันถูกออกแบบมาโดย "มีเหตุผล" ทั้งนั้นครับ ขึ้นอยูกับว่าเราพยายามมองให้ทะลุ หรือสร้าง plot ให้มันได้หรือไม่

Immunology เป็นระบบธรรมชาติที่ซับซ้อนมากที่สุดระบบหนึ่ง แต่เป็นระบบที่เชื่อมโยงด้วยเหตุและผลอย่างมากกว่าที่เราจินตนาการได้ว่าอะไรมันจะรอบคอบและซับซ้อนได้ขนาดนี้ ของพวกนี้บางทีน้องอาจจะต้องใช้ความเป็น CS เขียน mind mapping ออกมาเป็น diagram จึงจะพอเห็นความเชื่อมโยง ยิ่งถ้าน้องต้องการ "มองเห็น" ในการช่วยจำมากเท่าไหร่ แปลว่าน้อง "ถนัด" ในการใช้ concrete มากเท่านั้น แต่ทุกอย่างของน้องต้องเป็น sequential แบ่งแยกว่าตรงไหนเอาเป็น abstract ตรงไหนเอาเป็น concrete ขึ้นอยู่กับน้องเองครับ บางคนถ้า inter-relationship มันใหญ่มาก คิดเป็น abstract ชักจะมองไม่เห็น (หรือลืมความสัมพันธ์) ก็ shift เป็น concrete

ข้อสำคัญคืออย่าพยายามเปลี่ยนโน่นเปลี่ยนนี่บ่อยเกิน เพราะนั่นจะเป็นพวก random ครับ ซึ่งดูจากคะแนนที่เหลืออยู่ น้องมีความรับรู้แบบ random ไม่ค่อยดี กลุ่มเพื่อนที่น้องเข้าไปติวด้วยได้ (ในยามที่ไม่ได้ทำงานคนเดียว: characteristic ของ AS ส่วนใหญ่) ก็ต้องเป็น sequential ครับ ขืนไปฟัง AR ติวมีหวังยิ่งหงุดหงิดตีกัน แต่ผมเข้าใจว่าในชั้นปีน่าจะมีคนติวที่เป็น sequential อยู่บ้าง



Posted by : Aquarius , Date : 2005-09-28 , Time : 09:14:26 , From IP : 172.29.3.61

ความคิดเห็นที่ : 7


   คือว่า ผมก็เป็น นศพปี 2 ครับ เคยเจอปัญหาอย่างนี้เหมือนกันครับ แต่ว่าตอนนี้ก็แก้ไขไปได้มากแล้วครับ อยากจะเสนอประสบการณ์นิดหน่อยครับ ช่วงแรกผมก้มีปัญหากับการเรียนมากนะครับ คะแนนก็ออกมาพอผ่านไปได้ครับ แต่มาช่วงหลังเนี่ยคะแนนผมดีขึ้น เพราะว่าเรียนแบบที่ตัวเองถนัดครับ คือผมเป็นคนเบื่อง่ายนะ แล้วจะเบื่ออะไรที่ต้องท่องจำลอย ๆ มากเลยครับ ( อะไรที่เราหาเหตุผลมาไม่ได้ คือประมาณ อ่านได้ไม่ลึกดั่งใจอ่านะครับ ) เมื่อเบื่อก็จะไม่อยากอ่านหนังสือเลยครับ ( แบบเอาแต่ใจอ่าครับ )ก็ลองเปลี่ยนวิธีเรียนมาเรื่อย ๆ ครับ ตอนนี้ผมเลยรู้ว่าตัวเองชอบเรียนอะไรที่มีเหตุผลชัดเจน แบบ มาก ๆ ครับ ก้เลยแก้ด้วยการอ่านหนังสือนอกมาก ๆๆๆๆ เลยครับ เพราะว่าเฉพาะเนื้อหาในเลกเชอร์มันได้ไม่ครบหรอกครับ บางอย่างผมจะคาใจนะครับ ผมยอมเสียเวลาหาคำตอบที่ตัวเองสงสัย จากหนังสือต่าง ๆ นะ อย่างที่คุณบอกว่าชอบเรียนอะไรที่ค่อนข้างเป็นเหตุผลใช่ปะ วิธีนี้อาจจะช่วยได้นะครับ เหมือนมันจะช่วยเชื่อมโยงเนื้อหาได้หมดเลยครับ ลองอ่านหนังสือเสริมนิด ๆ หน่อย ๆ ดุไหมครับ บางครั้งเราอ่านตำราบางเล่มที่เขียนให้เราเข้าใจ (ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าคุณอ่านคู่มือที่ได้มาไม่รู้เรื่องอย่างผมก็เป็นได้) มันช่วยได้มากเลยนะครับ อีกอย่าง อย่าฝืนตัวเองมากนะครับ ถ้าเหนื่อยก็พักดีกว่านะครับ(อ่านไปไม่รู้เรื่องก็นอนดีก่านิคับ) ผมหวังว่าคุณจะผ่านไปได้นะครับ ถึงจะเหนื่อยแต่ถ้าผ่านไปได้ก็จะรู้สึกดีมากครับ เอาใจช่วยครับ
อย่าลืมให้กำลังใจตัวเองบ้างเวลาท้อ ๆ อ่าครับ ( ผมชอบพูดกะตัวเองเบา ๆ บ่อย ๆ นะครับ) ก็กำลังใจจากตัวเองเป็นสิ่งผลักดันที่ดีนะครับ ผมเอาใจช่วยนะครับ
เชื่อว่าคุณทำได้แน่ ๆ ครับ

เพื่อนปีสอง ^_^

อย่าท้อนิครับ


Posted by : เฟริน เดอร์เบอร์โรว , Date : 2005-09-29 , Time : 03:20:44 , From IP : 172.29.4.76

ความคิดเห็นที่ : 8


   ผมเป็น CR ครับ
เวลาอาจารย์มาพูดเรื่อง learning style มักจะไม่ค่อยพูดเกี่ยวกับ CR เลยน่ะครับ
ผม CRประมาณ 13-14 AR ประมาณ 10 ส่วน CS/AS น้อยมาก
อยากรู้ว่าเป็นยังไงเหรอครับ จะพัฒนาตัวเองยังไงดี


Posted by : หัวเขียว , Date : 2005-12-02 , Time : 23:24:38 , From IP : 172.29.4.220

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.006 seconds. <<<<<