ใครจะรับผิดชอบ คมชัดลึก
พบหมวกทหารใกล้ร้านน้ำชาเหตุฆ่า2ทหาร
ชาวบ้านตันหยงลิมอยังเครียดไม่กล้าเก็บเต็นท์ที่ตั้งขวางสะพานเข้าหมู่บ้านหวั่นถูกมองเป็นผู้ก่อม็อบ ตร.เข้าตรวจหลักฐานพร้อมสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องพบปมใหม่ ชาวบ้านเก็บหมวกทหารได้ หลังถล่มร้านน้ำชาทำให้เชื่อว่าคนมีสีเป็นคนร้าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่หมู่ 7 บ้านตันหยงลิมอ ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 23 กันยายน ยังเงียบเหงา หลังจากที่เมื่อ 2 วันก่อน หมู่บ้านแห่งนี้ เต็มไปด้วยความวุ่นวาย จากเหตุการณ์ยิงถล่มร้านน้ำชา จนมีชาวมุสลิมในหมู่บ้านเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 4 คน และนำไปสู่การจับทหารนาวิกโยธินอีก 2 นาย เป็นตัวประกัน ก่อนถูกลอบสังหารอย่างโหดเหี้ยม
ร้านน้ำชาภายในหมู่บ้าน ซึ่งเป็นจุดที่คนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวน ใช้อาวุธปืนอาก้ากราดยิงจนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตนั้น จนถึงขณะนี้ร้านยังคงปิดตาย เนื่องจากเจ้าของร้านคือ นายกูเซ็ง ตานีรู ต้องไปเฝ้าอาการบุตรชายและหลานชายที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์
อย่างไรก็ดี บรรยากาศภายในหมู่บ้านดูคึกคักขึ้นกว่า 2 วันที่ผ่านมา เนื่องจากเริ่มมีชาวบ้านออกมาเดินพูดคุยทักทายกัน บ้านหลายหลังที่เคยปิดประตูเงียบ ก็เริ่มมีคนกลับมาพักอาศัยอยู่ตามปกติแล้ว ส่วนเต็นท์ที่ตั้งขวางสะพานข้ามคลองไอ้แดง บริเวณทางเข้าหมู่บ้านเคยเป็นที่ชุมนุมของผู้หญิง และเด็กมุสลิมนับร้อยคนนั้น จนถึงขณะนี้ เต็นท์ดังกล่าวยังคงตั้งอยู่ตรงจุดเดิม เพียงแต่เลื่อนชิดขอบสะพานด้านหนึ่ง เพื่อเปิดทางให้รถยนต์ผ่านเข้า-ออกอีกด้านหนึ่งได้เท่านั้น
จากการสอบถามชายชาวตันหยงลิมอรายหนึ่ง ถึงเจ้าของเต็นท์หลังดังกล่าวได้ความว่า เต็นท์หลังนี้เป็นของมัสยิดบ้านตันหยงลิมอ แต่ช่วงหลังเกิดเหตุล้อมจับทหารเป็นตัวประกัน มีคนนำเต็นท์ไปกางขวางทางเข้าหมู่บ้าน ซึ่งจนถึงขณะนี้ ก็ยังไม่ทราบเหมือนกันว่า ใครเป็นผู้นำเต็นท์ไปตั้ง
แต่จะไปเก็บเต็นท์กลับมาก็ไม่กล้า เพราะกลัวจะถูกกล่าวหาว่าเป็นคนเอาเต็นท์ไปตั้งหรือเปล่า หรือเจ้าหน้าที่อาจจะมองว่าเป็นการทำลายหลักฐานก็ได้ ชายผู้นี้ ระบุ
ต่อมาในช่วงสาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ซึ่งรับผิดชอบท้องที่เกิดเหตุ ได้นำกำลังหลายสิบนาย เข้าไปค้นหาหลักฐานเพิ่มเติมในหมู่บ้าน และมีได้สอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมบางส่วนด้วย
ตำรวจ สภ.อ.ระแงะ นายหนึ่ง เปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีการออกหมายจับใคร ในคดีสังหาร 2 นาวิกโยธิน รวมทั้งคดีคนร้ายไม่ทราบกลุ่ม กราดยิงร้านน้ำชาในหมู่บ้านตันหยงลิมอด้วย ส่วนข่าวที่ออกมาว่า มีการจับกุมตัวไปสอบปากคำแล้ว 10 คน บ้าง 4 คนบ้างนั้น ไม่เป็นความจริง คาดว่า จะเป็นการปล่อยข่าวจากฝ่ายตรงข้าม เพื่อให้เกิดความสับสน
วันเดียวกันนี้ ผู้สื่อข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับ นายลาเต๊ะ การิม ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 7 บ้านตันหยงลิมอ ถึงเหตุการณ์ล้อมจับทหารนาวิกโยธิน 2 นาย โดยระหว่างการพูดคุย มีชาวบ้านในหมู่บ้านทั้งหญิงและชาย เดินมาล้อมวงฟังนับสิบคน
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า เหตุใดชาวบ้านจึงเชื่อว่า ทหารนาวิกโยธินทั้ง 2 นาย เป็นคนร้ายที่กราดยิงร้านน้ำชา ซึ่ง นายลาเต๊ะ ปฏิเสธว่า เขาไม่ทราบ เพราะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์
จากนั้น นายลาเต๊ะ ได้หันไปถามชาวบ้านเป็นภาษามลายูท้องถิ่น ปรากฏว่า ชาวบ้านได้พากันตอบคำถามด้วยเสียงเซ็งแซ่ ก่อนที่ นายลาเต๊ะ จะแปลเป็นภาษาไทยให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า หลังเกิดเหตุ คนร้ายที่กราดยิงร้านน้ำชาทำหมวกทหารตกไว้ใกล้กับที่เกิดเหตุ 1 ใบ ซึ่งมีชาวบ้านเก็บได้ จึงเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของทหาร
ต่อมาเมื่อตำรวจเข้ามาตรวจที่เกิดเหตุ ปรากฏว่า มีรถเก๋งของทหารตามเข้ามาอีก 1 คัน ซึ่งจังหวะนั้น เป็นช่วงที่โต๊ะกอเต็บประจำมัสยิด ได้เคาะกลอง เพื่อแจ้งให้ชาวบ้านทราบว่า เกิดเหตุร้ายขึ้นในหมู่บ้านแล้ว คือการยิงถล่มร้านน้ำชา ทำให้ชาวบ้านออกมาดูเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก แต่ฝ่ายเจ้าหน้าที่ไม่เข้าใจพฤติกรรมของชาวบ้าน และกลัวจะเกิดอันตราย จึงถอยรถออกไป เหลือเพียงรถยนต์ของทหาร ซึ่งเครื่องเสียพอดี เป็นเหตุให้ชาวบ้านกลุ่มหนึ่งซึ่งเก็บหมวกของทหารได้ เชื่อว่า ทหาร 2 นายนี้เป็นคนร้าย จึงเกิดการล้อมจับกันขึ้น
นายลาเต๊ะ กล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุ ชาวบ้านในหมู่บ้านได้ช่วยกันตรวจสอบหมวกใบดังกล่าว พบว่า เป็นหมวกของทหารบก ไม่ใช่ของทหารเรือ จึงเชื่อว่า นาวิกโยธินทั้ง 2 นายไม่ใช่คนร้าย แต่ช่วงนั้นเหตุการณ์เริ่มบานปลาย โดยมีคนนอกหมู่บ้านเข้ามาสมทบเป็นจำนวนนับพันคน จนสุดท้ายคุมสถานการณ์ไม่อยู่ จึงเกิดเหตุอันน่าเศร้าสลดขึ้น
Posted by : bfy , Date : 2005-09-23 , Time : 19:43:34 , From IP : 172.29.4.49
|