มีหลายสไตล์ของหนัลสยองขวัญ ถ้าจากที่คุณ Aqua ยกตัวอย่างมาจะครอบคลุมสอง fields ใหญ่ๆคือ Thriller และ Horror film ซึ่งแตกต่างกันเล็กน้อย (จริงๆไม่น้อยเท่าไหร่ แฟนหนัง thriller บางคน look down หนัง horror ก็มี)
Thriller ได้แก่ Fugitive, Hannibal, Silent of the Lamb, Fast and Furious (action-thriller), Panic Room, หรือแม้กระทั่ง James Bond บางครั้งก็มี thriller plot (แต่คนชอบคิดว่าเป็น action films มากกว่า เพราะความที่รู้แน่ว่าพระเอกชนะแน่นอนเลยสูญเสียความเป็น thriller)
Horrorfilms ได้แก่ Night of the Living DEADS, Zombies, Friday the 13th, Nightmare of the Elm"s street, Texas Chain-saw Massacre, Evil Dead, The Exorcist
หนัง Thriller นั้นเน้น imagine ของคนดูที่ต้องช่วนตนเองให้สนุก ยิ่งมี imagination สีสัน ยิ่งดี ยิ่งตื่นเต้น พวกที่ขาด imagination จะไม่สามารถรับรสชาติหนัง thriller ได้เลย (หากมิกลัวว่าจะเป็น sexism บางคนก็จะยกตัวอย่างพวกผู้หญิงส่วนใหญ่เป็นต้น) ประเภทดูไป เขย่าแขนคนข้างๆไปถามว่าตะกี้มันหมายความว่ายังไงๆ เดี๋ยวจะเป็นยังงัย ไอ้ผู้ร้ายที่ถูกเตะตกเหวไปมันตายจริงรึเปล่า ก็อีกพวกนึง บางคนอธิบายว่าศูนย์ LOGIC ของผู้หญิงนั้น serious เวลาไม่ควรจะ serious อันนี้ผมร่ำๆจะเห็นด้วยอยู่เหมือนกัน เพราะผู้หญิงที่แวดล้อมตัวผมมักจะถามทำนองนี้ได้ทั้ง thriller film และ Comedy film นี่เธอๆๆ ตะกี้ทั้งโรงเขาหัวเราะอะไรน่ะ นี่เธอๆๆทำไมเจสันถูกทุบถุกรถทับไฟคลอกแล้วไม่เป้นอะไรเลย เป้นไปไม่ได้หรอก ฯลฯ หนัง Thriller นั้นต้อง spontaneous fun ครับ ฉะนั้นอธิบายให้คนที่ไม่ชอบไม่มีทางทำได้ เพราะศูนย์ spontaneous มันไม่เปิดซะอย่างก้เสร็จ James Bond ขาดความ unpredictable ซึ่งเป็น essence ของหนังประเภทนี้ไป ผู้กำกับหลายคนพยาบามทำให้คนดูเดาแทนว่า Bond"s girl จะตายไม่ตาย หรือใครจะถูก Bond งาบบ้าง แต่ก็ไม่ thriller ซักเท่าไหร่อยู่ดี
หนัง Horror ที่ classic จะใช้ mechanism เดียวกับ thriller ซึ่งหาดูได้จากหนัง Alfred Hitchcock เช่น The Birds, Psycho, Vertigo เป็นต้น แต่หลังๆมาถึงยุค Romero นำเอาหนัง "แหวะ" มากระทุ้ง stomach คนดูและประสบความสำเร็จมี core fans จำนวนมากที่ชอบ ก็จะมีทั้ง violence, nerve wracking จะมี ฉาก "Hopeless scenes" จำนวนมาก ตัวเอกจะไม่เป็น heroes หรือ heroines แต่จะมี classic stupidity หรือ known handicap เช่น ตาบอด หูหนวก ขาเป๋ สมองช้า ฯลฯ อะไรก้ได้ที่ทำให้ดู vulnerable และ hopeless มากเท่าไหร่ยิ่งดี ทให้ element of "ลุ้น" รุนแรงมากขึ้นเท่านั้น บางคนแถมต้องอุ้มลูก (เช่น Shining ภาพยนต์จากหนังสือของ Stephen King แสดงโดย Jack Nicholson) อุ้มคนเจ็บ หรือมีเชลยผู้ร้ายที่พร้อมจะแว้งกัด หรือคนรักที่กำลังจะกลายเป็นผีอยู่มะรอมมะร่อเมื่อไหร่ก็ได้ (guarantee ว่าได้เป็นผีแน่นอนเกือบ 99.99%)
ทั้งสองแบบสามารถเพาะ tolerance ได้ เพราะ element of surprise ไม่มีอีกต่อไป ซึ่งเปนที่มาของหนังชุด scream ที่กลุ่มตัวเอกเป็นนักดูหนังสยองขวัญรู้มุขทั้งหมดที่หนังมี และสามารถเดาได้ว่าตอนไหนที่ฉาก "สะดุ้ง" น่าจะเป็น ดูมากๆก็เลี่ยนครับ เดาได้หมด หนัง thriller ยังเหลือ plot ได้บ้างแต่ Horror films นี่จะกำจัดวงคนดูน้อยลงเรื่อยๆ ยากแก่การขยาย เพราะแฟนจะถูก desensitize ไปรุ่นเก่าๆ ขาเก๋าก็จะเลิกดู หลอกได้แต่รุ่นใหม่ young blood
Posted by : Phoenix , Date : 2003-06-04 , Time : 23:41:24 , From IP : 172.29.3.217
|